Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ใครเก่งที่สุดในแปดเทพอสูรมังกรฟ้า (ตอน 5 จบ) ติดต่อทีมงาน

ASTV ผู้จัดการออนไลน์ : คอลัมน์ซีรีส์ที่รัก : ต่อพงษ์ เศวตามร์

         มาถึงชุดสุดท้ายของยอดฝีมือในจักรวาล 8 เทพอสูรมังกรฟ้ากันนะครับ ที่เหลือก็คือ มู่หยงฟู่ เอี้ยงเค้งไท้จือ โหยวตั้นจือ ติงชุนชิว 4 คนนี้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน คือมีพลังฝีมือและมียอดวิชาที่ตัวเองถนัดสูงส่งอยู่ในระดับหนึ่ง แต่ทว่ามีอุปสรรคบางอย่างทำให้ไปไม่ถึงไหน อาศัยแต่ทริกเล็กๆ หลอกขู่คนอื่นไปได้ แต่ถ้าเจอของจริงที่จับสังเกตุได้ พวกนี้ก็สู้ไม่ได้อย่างง่ายดายเหมือนกัน

        มู่หยงฟู่ (ฉบับแปลไทยใช้ชื่อเป็นแต้จิ๋วว่า ม่อย้งฮก) เจ้าของฉายาจอมยุทธใต้ ซึ่งเคียงคู่มากับเฉียวฟงเหนือ แต่ในความจริงนั้นมีระดับที่แตกต่างกันเยอะทีเดียว มู่หยงฟู่นั้นฝึกวิชามาเยอะ เพราะ เหตุที่สามารถเข้านอกออกในห้องสมุดประจำตระกูลหวังซึ่งฮูหยินหวังนั้นเป็นลูกสาวของหลี่ชิวสุ่ยซึ่งรวบรวมยอดวิชาเกือบจะทั้งแผ่นดินมารวมไว้ จนสุดท้ายได้ความรู้ในวิชาเหล่านั้นถูกส่งผ่านมาให้ลูกสาวตนเองคือหวังอี้เอี้ยน ซึ่งก็ได้แต่ความรู้ในเรื่องท่าร่างและประวัติ แต่พลังฝีมือไม่ได้ฝึกมาด้วย

        ทางทฤษฏีมู่หยงฟู่ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของฮูหยินหวัง และสามารถเข้านอกออกในห้องสมุดตระกูลหวังได้ น่าจะเรียนรู้ยอดวิชานั้นได้สำเร็จ แต่ปัญหาใหญ่ของมู่หยงฟู่ก็คือทิฐิของแกซึ่งไม่ยอมเรียนตัวหนังสือของชาวจีน แต่อ่านออกเฉพาะภาษาเซียนเป่ย(หรือในเรื่องเขียนว่าเสียงปุย) เพราะฉะนั้นอะไรที่แกฝึกได้นอกเหนือจากวิชาประจำตระกูลมู่หยง ก็ได้จากการที่หวังอี้เอี้ยนถ่ายทอดให้ แต่เพราะเจ้าหล่อนก็ไม่เป็นกำลังภายในระดับสูง ผมเดาว่าการถ่ายทอดจึงน่าจะมีปัญหา

         แต่ไม่ใช่แค่อุปสรรคทางภาษา เรื่องใหญ่ของมู่หยงฟู่ก็คือ แกเองฝึกวิชาประจำตระกูลยังไปได้ไม่ถึงไหน กลับไปหันศึกษาวิชาแขนงอื่นๆ กลายเป็นความรู้ท่วมหัวแต่ไม่ถึงจุดสุดยอดแม้แต่วิชาเดียว ซึ่งเสียงวิจารณ์นี้มาจากพ่อของแกเอง แถมลักษณะนิสัยของมู่หยงฟู่ออกจะไม่ค่อยห้าวหาญชาญศึก แม้จะเฉลียวฉลาด และพร้อมจะซ้ำคนที่กำลังเพลี่ยงพล้ำอย่างกรณีตัดสินใจที่จะซ้ำเฉียวฟงอีกแรงกรณีที่วัดเส้าหลิน หรือ หวังจะได้มวลชน 36 ถ้ำ 72 เกาะมาช่วยทำให้แกดูดายที่จะเห็นสตรีสาวๆ ของตำหนักคฤธรศักดิ์สิทธิ์โดนฆ่าและทรมาณอย่างหน้าตาเฉย หรือตอนที่ต้องสู้กับเฉียวฟงจริงๆ แกก็สู้แบบหลบๆ หวังให้เฉียวฟงกับโหยวตั้นจือสู้กันให้หมดแรงเสียก่อนแล้วค่อยซ้ำ...สิ่งเหล่านี้ พูดตามตรงว่ามันคือ พฤติกรรมของนักการเมืองที่เราเห็นได้อยู่ทั่วไปในประเทศนี้ มิใช่จอมยุทธอย่างเด็ดขาด ซึ่งก็โชคดี เพราะแผนแกแต่ละอย่างก็ไม่สมหวังเพราะฟ้าไม่เห็นด้วยแม้แต่อย่างเดียว

         สำหรับนักสู้ความห้าวหาญนั้นเป็นสิ่งสำคัญในการต่อสู้ มู่หยงฟู่นั้นจึงไปได้ไม่ถึงไหน ที่สำคัญคุณสมบัติประเภทแพ้ภัยตัวเองอีกอย่างก็คือ การที่ชนะเป็นแต่แพ้ไม่เป็น ถึงขนาดจะฆ่าตัวเองตายก็มี เพราะพ่ายแพ้ให้คนที่ตัวเองเคยหยามเหยียดอย่างต้วนอี้ว์อย่างไม่เห็นฝุ่น สิ่งเหล่านี้ทำให้แกไม่มีทางไปถึงจุดสุดยอด เพราะฉะนั้นมู่หยงฟู่ถึงสู้เฉียวฟงไม่ได้ในการประลองจริงๆ ทั้งๆ ที่เฉียวฟงฝึกอยู่ไม่กี่อย่าง(แต่ถึงจุดสุดยอดทุกอย่าง) สู้ต้วนอี้ว์ไม่ได้ถ้ารัชทายาทของต้าลี่เกิดยัวะขึ้นมา แล้วก็สู้จิวหมอจื้อไม่ได้ด้วย..

         แต่กระนั้นระดับฝีมือของเขาก็ไม่ได้อยู่ในขนาดที่ประมาทได้ อย่างน้อยในระดับอย่างโหยวตั้นจือหรือติงชุนชิวมู่หยงฟู่ก็รับมือได้แน่

        เอี้ยงเค้งไท้จือ หรือ “ต้วนเหยียนชิ่ง” หรือ พี่ใหญ่แห่งสี่ยอดคนโฉด อดีตรัชทายาทของต้าลี่ผู้ฝึกดรรชนีเอกสุริยันได้สำเร็จ แต่เกิดกบถจนกระทั่งแกต้องกลายเป็นคนพิการ กลายเป็นคนเป็นในคนตาย คนที่ไม่สามารถเอ่ยปากพูดกับใครได้จนกระทั่งต้องฝึกวิชาส่งเสียงทางท้องจนได้ขั้นสุดยอดมา เพราะ ไม่ใช่แค่ส่งเสียงทางท้อง แต่ยังทำให้คู่ต่อสู้เกิดอาการหลอนอีกด้วย พลังดรรชีเอกสุริยันของแกก็อยู่ในขั้นสุดยอดเช่นกัน เอาเป็นว่าดีกว่าคนในตระกูลต้วนทุกคนยกเว้นต้วนอี้ว์ซึ่งเป็นลูกในสายเลือดของแกที่อาจจะมีบางช่วงที่ทำได้ดีกว่าแก

         เราลองจินตนาการว่า ถ้าเผื่อต้วนเหยียนชิ่งไม่พิการและมีสองเท้าแบบปรกติ มิใช่เป็น “คนเป็นในคนตาย” แบบที่เป็นอยู่ แกจะเก่งไปได้ถึงระดับไหน...ผมคิดว่าแกคงอยู่ในระดับที่เก่งกว่านี้อีกมากๆๆๆ ทีเดียวละครับ

         สำหรับติงชุนชิวนั้นความน่ากลัวที่สุดของแกมิใช่หมัดมวย โซวแชฮ้อ นั้นบอกเองว่าติงชุนชิวยังฝึกวิชาขั้นสูงของสำนักสราญรมย์ไม่สำเร็จ วิชาเดียวที่ตาเฒ่าหมู่ดาวผู้นี้สำเร็จคือ วิชาพิษ เพราะ แกใช้พิษเพิ่มพลังในตัวเอง ใช้พิษเป็นหนึ่งในพลังชีวิต แม้แต่ใบหน้าที่อิ่มเอิบที่ดูเหมือนเซียนในรูปวาดไร้รอยเหี่ยวย่นก็เกิดจากพิษ...ถ้าสรุปก็คงบอกได้ว่า แกคงเป็นคนแรกในโลกที่เรียนรู้การใช้โบท็อกซ์!!

         เพราะพิษอยู่ในสายเลือดการใช้พิษของติงชุนชิวจึงมีหลากรูปแบบ ไร้สี ไร้กลิ่น รวมถึงเทคนิคการปล่อยพิษก็ยอดเยี่ยม เห็นจากการอบรมลูกศิษย์สำนักแชซกไฮ้ของแกก็สามารถใช้พิษได้ดีเยี่ยมกันทุกตัว แน่นอนว่าติงชุนชิวยังเก่งในการใช้สารเคมีลวงตา และการบังคับเลี้ยงหนอนพิษต่างๆ เพราะฉะนั้นในระดับที่คนหรือจอมยุทธทั่วไปเจอ...ติงชุนชิวคือพญามัจจุราชของแท้ เพราะตายโดยไม่ทราบสาเหตุ เจอการสลายพลังแบบที่ช่วยตัวเองไม่ได้ แต่ถ้าเจอระดับคนที่มีลมปราณสูงกว่าหรือท่าร่างที่เร็วกว่า เราก็จะเห็นว่าการใช้พิษของแกมีข้อจำกัด ยกตัวอย่างเช่นติงชุนชิวไม่สามารถบังคับพิษเข้าโจมตีเฉียวฟง หรือ แม้กระทั่งแพร่พิษใส่ซีจุ๊ซึ่งได้รับการถ่ายทอดพลังฝีมือจากอู๋หยาจือมา แกยังไม่สามารถส่งพิษเข้าหามู่หยงฟู่แบบเต็มเหนี่ยว...จุดอ่อนในเรื่องของวิชาหมัดมวยจึงเป็นจุดสำคัญ?แกก้าวขึ้นไปอีกระดับไม่ได้เสียที

         แต่คำถามก็คือ ในโลกยุทธจักผู้ที่มีฝีมือดีกว่าติงชุนชิวจะมีซักกี่คนกัน...ขนาดไต้ซืออาวุโสของเส้าหลิน บรรดาพลพรรคของตระกูลมู่หยงอย่างเปาปุกตั้ง หรือแม้กระทั่งท่านผู้ฉลาดโต้แย้งที่ว่าแน่ๆ ยังโดนพิษสลายพลังและพิษสามยิ้มแย้มโดยไม่รู้ตัว

         โหยวตั้นจือหรือภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นจวงจื้อเสียงและกลายเป็นประมุขพรรคกระยาจกต่อจากเฉียวฟงนั้น มีพิษไหมน้ำแข็งพันปีอยู่ในตัว พร้อมกับพลังลมปราณอันบริสุทธิ์ที่เกิดจากคัมภีร์เคลื่อนย้ายเส้นเอ็นของเส้าหลิน ตัวแกสามารถผสมผสานพลังสองอย่างให้กลายเป็นเพลงหมัดพิษน้ำแข็งที่น่ากลัวขึ้นมาได้ เจ้าตัวยังฝึกวิชาพิษจากสำนักหมู่ดาวได้มาบางส่วน แต่เรื่องใหญ่มากๆ ที่ทำให้แกพ่ายต่อเฉียวฟงก็คือ โหยวตั้นจือไม่มีพื้นฐานของการต่อสู้และท่าร่างหมัดมวยมามากพอ แถมความเฉลียวฉลาดและไหวพริบในการต่อสู้ก็ไม่มีมากพอ ความอินโนเซ้นท์ของแกก็เป็นปัญหา สิ่งเหล่านี้ทำให้พลังฝีมือของแกนั้นขู่และทำร้ายได้เฉพาะมือรองๆ แต่สำหรับคนระดับยอดนั้นโหยวตั้นจือหมดสิทธิ์ที่จะแตะ แต่เขาก็เหมือนกับติงชุนชิวแหล่ะครับว่า จะมีซักกี่คนที่จะมีพลังฝีมือเหนือกว่าเขาในโลกนี้ และสามารถหลบท่าร่างและพลังน้ำแข็งพิษที่ออกจากตัวเขาได้

         เมื่อประมวลดูแล้ว น่าจะเป็นเอกฉันท์ว่าในบรรดาจอมยุทธพวกนี้ ผู้ชนะต้องเป็นเฉียวฟงประมุขพรรคกระยาจกคนที่ 3 อย่างแน่นอน เพราะคุณสมบัติของความเป็นนักสู้ที่สมบูรณ์พร้อมทั้งพลังกาย พลังใจ พลังฝีมือทั้งหลังหมัดมวยการตั้งรับ อีกทั้งมู่หยงฟู่ โหยวตั้นจือ ติงชุนชิว และเอี้ยงเค้งไต้จือ ก็ล้วนแล้วแต่สู้แพ้เฉียวฟงมาแล้วทั้งสิ้น โดยคนคนซึ่งน่าจะสูสีที่สุดก็คือ “ซีจุ๊” ประมุขวังเจ้าคฤธรศักดิ์สิทธิ์ที่อุดมไปด้วยท่าร่างและวิชาแปลกประหลาดมากมายแถมพลังภายในอันเปี่ยมล้น ที่สำคัญซีจุ๊นั้นเข้าใจอย่างถ่องแท้เรื่องของวิทยายุทธ เพราะ พื้นฐานที่ได้จากเส้าหลิน ส่วนคนที่น่าจะสอดแทรกขึ้นมาได้ก็คือ แม่เฒ่าทาริกาเพราะความเจ้าเล่ห์ แสนกล ความโหดเหี้ยม และพลังฝีมืออันร้ายกาจของแกนั่นเอง ขณะที่ต้วนอี้ว์นั้นแม้ทุกอย่างจะสุดยอดแต่เดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่อย่างที่แม่นางหวังวิจารณ์ และเมื่อกลายเป็นฮ่องเต้ต้าลี่ในตอนท้ายเรื่องแกน่าจะไม่ได้ฝึกฝนอะไรต่ออีก

         อันดับหนึ่งตลอดกาลย่อมไม่แคล้วเฉียวฟง ที่ไม่เคยแพ้ใคร ไม่มีใครฆ่าเฉียวฟงได้ นั่นทำให้คนเดียวที่ทำสำเร็จก็คือตัวแกเอง แต่ภายหลังจากที่เฉียวฟงปลิดชีวิตตัวเอง...แถมแม่เฒ่าก็ตายไปพร้อมหลี่ชิวสุ่ยศิษย์ผู้น้อง เพราะฉะนั้นผู้ที่รั้งเป็นอันดับหนึ่งของแผ่นดินก็คือ “ซีจุ๊” แบบนอนมาอย่างแน่นอน!!
         ...
         ปล. 1 ที่สำคัญกว่านั้นในฉบับแก้ไขครั้งที่สาม กิมย้งเพิ่มไปว่า หลังจากมหายุทธที่วัดเส้าหลิน เฉียวฟงลงเขาไปพักอยู่กับซีจุ๊ช่วงเวลาหนึ่ง เขาถ่ายทอด 18 ฝ่ามือพิชิตมังกร และ ไม้เท้าตีสุนัขให้กับซีจุ๊ไว้ด้วย พร้อมกับสั่งเสียไว้ว่า ถ้าในอนาคตข้างหน้ามีประมุขพรรคคนใหม่ที่เหมาะสม ก็ขอให้ซีจุ๊ถ่ายทอดวิชาสองวิชานี้แก่ประมุขพรรคคนใหม่ด้วย นั่นเองทำให้วิชาฝีมือครบถ้วนนั้นยังอยู่กับพรรคกระยาจกอยู่ มิใช่หายไปตามประมุขเฉียว
         ปล.2 ย้ำว่าหลวงจีนกวาดลานวัดที่เส้าหลินนั้น ไม่นับนะครับ เพราะแกอยู่แต่ในวัดไม่ช่วงชิงกับใคร แม้ว่ากิมย้งจะเขียนให้ผู้อ่านมั่นใจว่า นี่คือสุดยอดแห่งวิทยายุทธที่สุดก็ตาม--จบ--

จากคุณ : เม่าน้อยสู่พญาปลวก
เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 15:25:23




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com