นักร้อง"เอ๋-พัชรา" ผูกคอดับ สยองที่แอลเอ
เจ้าของเสียงแหบเสน่ห์ อดีตสมาชิก"ดิโอเวชั่น" กงสุลเผยตร.สหรัฐยัน ไม่ใช่อุบัติเหตุรถคว่ำ! เร่งทำเรื่องนำศพกลับ
สิ้นนักร้องสาวชื่อดัง"เอ๋-พัชรา แวงวรรณ" เจ้าของฉายา"แหบเสน่ห์" เสียชีวิตแล้วด้วยการแขวนคอตายในบ้านพักที่แอลเอ สหรัฐอเมริกา โดยตอนแรกเข้าใจว่าประสบอุบัติเหตุ ก่อนสถานกงสุลใหญ่ นครลอสแองเจลิส ยืนยันข้อมูลจากตำรวจสหรัฐ ว่าแขวนคอตายในโรงรถที่บ้านพัก ขณะที่พี่ชายขอตรวจสอบข้อมูลว่าประสบอุบัติเหตุหรือผูกคอตายกันแน่ ชี้ไม่กี่วันก่อนเพิ่งโทรศัพท์กลับมาคุยไม่มีน้ำเสียงเคร่งเครียดแต่อย่างใด แม่เผยรู้ข่าวแทบช็อกเพราะเป็นเสาหลักของครอบครัว ด้าน"เสริมเวช ช่วงยรรยง"สมาชิกวงรอยัลสไปรท์ส ก็ตกใจเพราะแม้จะไม่ค่อยได้เจอแต่โทรศัพท์ติดต่อกันตลอด เผยเป็นนักร้องสาวนิสัยดี มีสัมมาคารวะ และใจนักเลงเหมือนผู้ชาย เผยประวัติโด่งดังเมื่อราว 30 ปีก่อน ออกเทปกับวงดิโอเวชั่นถึง 5 ชุด กับค่ายนิธิทัศน์ ก่อนมาเป็นศิลปินเดี่ยวออปเทปอีก 2 ชุด เป็นที่รู้จักจากเพลง"ลืมเสียเถิด" และอีกหลายเพลง ก่อนเดินทางไปปักหลักร้องเพลงที่สหรัฐ นานกว่า 20 ปี โดยพักเพียงลำพังไม่มีครอบครัว
เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า"เอ๋"พัชรา แวงวรรณ อายุ 48 ปี อดีตนักร้องสาวชื่อดังวง "ดิโอเวชั่น" เจ้าของฉายา"แหบเสน่ห์" ที่โด่งดังเมื่อเกือบ 30 ปีก่อน รุ่นเดียวกับวงแกรนด์เอ็กซ์ และรอยัลสไปรท์ส ก่อนเดินทางไปร้องเพลงที่ประเทศสหรัฐอเมริกามานานกว่า 20 ปี เสียชีวิตแล้ว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น
นางศรีสุดา กาญจนรักษ์ วัย 72 ปี มารดาอดีตนักร้องสาว กล่าวว่าได้รับแจ้งว่าลูกสาวประสบอุบัติเหตุขณะขับรถจากนอกเมืองเพื่อไปยังแอลเอ เจ้าหน้าที่บอกว่าเก็บรักษาศพไว้เพื่อให้ญาติไปติดต่อว่าจะนำศพกลับมาฌาปนกิจที่เมืองไทยหรือที่นั่นแล้วนำกระดูกกลับมาทำบุญที่เมืองไทย
"ตอนนี้กำลังคุยกันอยู่ทั้งกับทางสถานทูตไทยถึงสาเหตุที่เสียชีวิตอย่างละเอียดและเรื่องศพ ซึ่งถ้าหากว่าการนำศพกลับมาที่เมืองไทยค่าใช้จ่ายไม่สูงมากก็อยากจะเอากลับมา แต่ถ้าสูงมากก็ไม่ไหว ซึ่งถ้าหากว่าสามารถจะเอาศพกลับมาได้ก็จะมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดสายไหม อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ทุกวันนี้เอ๋ถือว่าเป็นเสาหลักของครอบครัว ไปร้องเพลงอยู่อเมริกาเป็นเวลา 20 กว่าปีแล้ว และส่งเงินมาให้ครอบครัวใช้เดือนละ 2 หมื่นกว่าบาททุกเดือน" นางศรีสุดา กล่าว
นางศรีสุดา กล่าวอีกว่าลูกสาวจะกลับมาเมืองไทยบ้างแต่ไม่บ่อยนัก ล่าสุดน่าจะเกือบ 10 ปี เขาเป็นคนกตัญญู อยู่ตัวคนเดียวไม่มีครอบครัว ส่งเงินมาให้พ่อสร้างบ้าน หาเลี้ยงครอบครัว ใจดีกับญาติพี่น้องทุกคน ใครขาดเหลือบอกเขาจะช่วยหมด ขนาดตัวเองไม่มียังไปยืมคนอื่นมาช่วย เขาเป็นลูกสาวคนเล็กในจำนวนพี่น้อง 4 คน
ด้านนายประสิทธิพร เวทย์ประสิทธิ์ รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการเสียชีวิตของ พัชรา แวงวรรณ หรือชื่อจริงน.ส.ผดุงศรี แวงวรรณ ที่สหรัฐ ที่เข้าใจว่าประสบอุบัติเหตุนั้น ล่าสุดได้รับแจ้งจากสถานกงสุลใหญ่ นครลอสแองเจลิส ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐ แผนกชันสูตรพลิกศพ เมืองลิเวอร์ไซด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย แจ้งว่าพบศพพัชราเสียชีวิตเมื่อ วันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น โดยพบศพในลักษณะแขวนคอในโรงจอดรถที่บ้านพักซึ่งเช่าอยู่ตามลำพัง แต่การเสียชีวิตที่แท้จริงต้องรอผลการชันสูตรอย่างเป็นทางการก่อน
ส่วนการนำศพกลับประเทศไทย นายประสิทธิพรระบุว่า หากเจ้าหน้าที่สหรัฐตรวจสอบการเสียชีวิตแล้วพบว่าเป็นการเสียชีวิตโดยกรณีปกติ ก็จะใช้เวลาไม่นานในการนำศพกลับไทย ซึ่งกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ พร้อมช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องเอกสารต่างๆ โดยขณะนี้มีญาติของผู้เสียชีวิต ติดต่อประสานงานมาและปรึกษาดำเนินการในเรื่องดังกล่าวแล้ว
นายผดุงศักดิ์ แวงวรรณ พี่ชายเอ๋ พัชรา กล่าวว่าหลังทราบข่าวก็ตกใจ และเสียใจมาก ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับครอบครัวอีก เพราะพี่น้องก็เสียชีวิตทางรถยนต์ไปแล้วถึง 2 คน โดยเฉพาะคุณแม่พอท่านทราบข่าวแล้วตกใจมากถึงกับเป็นลม ทุกวันนี้เอ๋เป็นหลักของครอบครัว เป็นคนกตัญญูมาก สร้างบ้านให้พ่อแม่อยู่อย่างสุขสบายทุกวันนี้
นายผดุงศักดิ์ กล่าวอีกว่า น้องสาวตัดสินใจเดินทางไปอเมริกาตอนแรกไปเรียนภาษาอังกฤษอยู่พักหนึ่ง ทำงานด้วยร้องเพลงด้วย ล่าสุดตัดสินใจเรียนต่อด้านพยาบาลเหลือเวลาอีก 1 ปี 6 เดือน ก็จะเรียนจบแล้ว ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้กลับมาเมืองไทย แต่จะโทรศัพท์มาคุยกับแม่เดือนละ 2-3 ครั้ง หรือบางครั้งเมื่อกลับมาก็จะพาแม่ไปเที่ยวอเมริกาด้วย
นายวิเชียร อัศว์ศิวะกุล ผู้บริหารค่ายนิธิทัศน์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ต้นสังกัดเก่าของเอ๋-พัชรา กล่าวว่าหลังจากเอ๋หมดสัญญาและไปร้องเพลงที่สหรัฐกว่า 20 ปี ได้ติดต่อกันบ้างแต่ไม่บ่อยนักแค่เคยช่วยเหลือครอบครัวของเอ๋ที่เมืองไทย ส่วนเรื่องศพตอนนี้ประสานอยู่ว่า ถ้านำกลับมาเผาที่เมืองไทยจะมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ก็ยินดีจะช่วยเหลือให้นำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่เมืองไทย แม้ความจริงแล้วเขาหมดสัญญากับบริษัทไปนานแล้ว แต่ที่ผ่านมาที่ยังช่วยเหลือกันอยู่เพราะว่าเราอยู่กันมานาน
นายเสริมเวช ช่วงยรรยง หนึ่งในสมาชิกวง รอยัลสไปรท์ส กล่าวว่า รู้ข่าวเอ๋เมื่อเช้า มีพรรคพวกโทร.มาบอก ได้ฟังครั้งแรกตกใจ กับเอ๋ถือว่าสนิทกัน เพราะสมัยก่อนวงรอยัลสไปรท์สเล่นที่เดียวกันกับวงดิโอเวชั่น ซึ่งเอ๋ เป็นนักร้องนำอยู่ เล่นอยู่ที่ท็อปเปอร์คลับ ตึกนายเลิศชั้น 3 เมื่อประมาณปี 2524 เจอกันทุกวัน เอ๋เป็นคนมีสัมมาคารวะ รู้จักรุ่นพี่รุ่นน้อง โดยส่วนตัวเขาจะเป็นคนเงียบๆ เป็นคนพูดตรงๆ ใจนักเลง พอหลังจากที่เขาไปอยู่อเมริกามีคุยกันบ้างทางโทรศัพท์ก็เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เสียน้องที่เก่งในวงการไปอีกคน
ด้านก้อย พรพิมล ธรรมสาร อดีตสมาชิกวง ดิโอเวชั่น ซึ่งมาเป็นนักร้องนำต่อจากเอ๋-พัชรา ที่แยกไปทำอัลบั้มเดี่ยว กล่าวว่ารู้ข่าวก็ใจหาย เพราะว่าเป็นคนในวงการเดียวกัน และตนเข้าไปเป็นนักร้องนำต่อจากคุณเอ๋ เวลาที่ไปงานเจอกันก็คุ้นกัน เท่าที่ได้สัมผัส เอ๋จะเป็นคนลุยๆ ออกสไตล์ผู้ชายห้าวๆ เมื่อเช้าหลังจากที่ได้คุยกับพี่ๆ หลายคนที่กำลังประสานเรื่องนำศพกลับมาเมืองไทย ก้อยยังบอกพี่ๆ เขาไปเลยว่า ถ้าติดขัดเรื่องไหนอยากจะให้ประสานกับภาครัฐให้ก็ยินดี แต่เท่าที่ทราบเห็นว่าเรื่องนี้ทางสถานทูตไทย ดูแลอย่างดีอยู่แล้ว รวมไปถึงสถานที่จะตั้งศพสวดพระอภิธรรมที่วัดสายไหม ถ้ามีปัญหาสามารถจะประสานให้ได้เช่นกัน
สำหรับเอ๋ พัชรา แวงวรรณ เริ่มเข้าสู่วงการเพลงด้วยการเป็นนักร้องนำของวงดนตรีสตริงคอมโบชื่อดังช่วงยุค 80 คือ ดิโอเวชั่น ในช่วงปีพ.ศ.2524 เริ่มจากเล่นตามไนต์คลับทั่วไป กระทั่งมาโด่งดังเมื่อได้ออกเทปกับค่ายนิธิทัศน์ โดยมีเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ออกแหบๆ จนได้รับฉายา"แหบเสน่ห์" ออกเทปกับวงดิโอเวชั่น ถึง 5 ชุด ก่อนที่จะแยกมาเป็นศิลปินเดี่ยว ใช้ชื่อชุดว่า"เพียงดวงตาและรอยยิ้ม"มีเพลงเด่นหลายเพลงเช่น ลืมเสียเถิด, เพรียกหารัก, หนี้รัก , เหลือเพียงฝัน ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทางนิธิทัศน์จึงเร่งทำชุด 2 ตามออกมาในปี 2531 ชื่ออัลบั้ม"ไม่รักไม่เจ็บ" มีเพลงเด่นอย่าง ไม่รักไม่เจ็บ, หนาวลมขมรัก และสิ้นเยื่อขาดใย จนเมื่อหมดสัญญากับค่าย เอ๋-พัชราได้รับการชักชวนให้ไปร้องเพลงที่สหรัฐอเมริกา และร้องเพลงต่อเนื่องเรื่อยมากว่า 20 ปี จนกระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น
วันเดียวกันนายผดุงศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงการตายของเอ๋-พัชรา ว่าตอนนี้ยังสับสนว่าเกิดจากอุบัติเหตุหรือฆ่าตัวตาย เนื่องจากตอนแรกได้ทราบจากสถานกงสุล ว่าประสบอุบัติเหตุบนถนนนอกเมืองขณะขับรถกลับเข้าแอลเอ แต่ตอนหลังแจ้งว่าแขวนคอตาย ขอตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งก่อน แต่เมื่อวันที่ 5-6 ต.ค.ที่ผ่านมา น้องสาวเพิ่งโทรศัพท์กลับมาที่บ้านการพูดคุยก็ปกติไม่มีน้ำเสียงเคร่งเครียดใดๆ
ข่าวจาก : ข่าวสด
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNakV6TVRBMU5RPT0=§ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1pMHhNQzB4TXc9PQ==