ความคิดเห็นที่ 1 (ซ้ำ) แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 55 09:23:00 จากคุณ : โยชูวาแห่งอัสซีซี เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 09:22:35

ความคิดเห็นที่ 2 ในบทแรกฉบับหนังสือ (ซึ่งก็ประพันธ์โดยผู้กำกับหนังชื่อเดียวกัน Stephen Chbosky เมื่อปี1999) ชาร์ลีได้เขียนจดหมายแนะนำตัว กับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งสังคมฮือฮาว่าเธอ กล้า"ปฎิเสธคำขอมีเพศสัมพันธ์"กับผู้ชายที่ชวนเธอในปาร์ตี้แห่งหนึ่ง ในมุมมองของผม ผมมองว่า ชาร์ลีชื่นชมการกระทำของเธอ หรืออย่างน้อยที่สุด ก็สนเท่ห์ ที่มีใครทำตัวเป็น "คนชายขอบ/wallflower" คล้ายๆตน ชาร์ลีจึงอยากหนุนใจเธอ(และตัวเขาเอง)โดยการเขียนจดหมายแชร์ประสบการณ์ ภาพแนบ: ซูนาโกะ จากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง "หนุ่มหล่อเฟี้ยว แปลงโฉมสาว" ซึ่งใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า Wallflower เช่นเดียวกัน จากคุณ : โยชูวาแห่งอัสซีซี เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 09:23:29

ความคิดเห็นที่ 3 ดั่งที่กล่าวข้างต้น ว่าฉบับหนังสือ ถูกตีพิมพ์มีปี1999 ในเวลา12ปีที่ผ่านมา กระแสโลกก็ยังคงเป็นลักษณะเดิม เพียงแต่หมุนเร็วขึ้น หลายๆอย่างในหนังจึงถูกปรับเปลี่ยนไป (แต่ก็สบายใจได้เพราะก็ทำโดยผู้แต่งฉบับหนังสือ) แต่ก็ยังอยากแนะนำสำหรับผู้สนใจนะครับ เพราะรายละเอียดหลายๆอย่างในรูปพรรณาของหนังสือที่น่าสนใจ ถ้าเอามาใส่ในภาพยนตร์คงอืดเอื่อยน่าเบื่อแน่เลย เมื่ออ่่านแล้วเราจะเห็นรายละเอียดครับว่า เวลากว่าเป็นเดือนๆ (ซึ่งหนังกระชับจนดูเหมือนเป็นแค่ใน1สัปดาห์) คนที่เดิมปิดหูปิดตาจากสังคม อย่างชาร์ลี มีมุมมองต่อพัฒนาการของตัวเองอย่างไรบ้าง^^ จากคุณ : โยชูวาแห่งอัสซีซี เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 09:32:31

ความคิดเห็นที่ 4 เอาล่ะ มาคุยกันในข้อดีของ "ดอกไม้ริมกำแพง" ซึ่งการขอเปรียบเทียบกับ "ดอกไม้ในแจกัน"ในเรื่องนะครับ 1.แบรด การเป็นนักกีฬาโรงเรียน ที่ถูกคาดหวังสมชายชาตรี มันทำให้เขาต้องปิดซ่อนความรู้สึกจริงๆของเขาเอง (จะต่อแพทริคหรือใครก็ตาม) แพทริคเองก็ได้ระบายกับชาร์ลีว่า เขาสงสารคนที่ติ๋มซะยิ่งกว่าเขา(แบรด) แต่เขากลับช่วยอะไรไม่ได้เลย 2.แคนเดซ พี่สาวของชาร์ลี ถ้าตามหนังสือ ต้นๆ-กลางๆเรื่องเธอค่อนข้างดูถูกนะครับว่าชาร์ลีเป็น"ตัวประหลาด" แต่เธออาจจะเป็นคนประหลาดเสียเองที่คบกับผู้ชายที่ดูเหมือนไม่มีอะไรเข้ากันได้ (เห็นหลายคนพูดเรื่องที่หนังตัดช่วงที่ แคนเดซพลาดท้อง และไปทำแท้งเพราะเดเรค ปฎิเสธที่จะรับผิดชอบ ...ผมว่าทีมงานโปรดักชั่นบริษัท Mr. Mudd รวมถึงผู้แต่งเอง เห็นพ้องว่า ปัญหาสังคมประเด็นนี้ Juno ผลงานของบริษัท เมื่อปี2007 ได้ตอบโจทย์ไปเรียบร้อยแล้ว) ประเด็นที่แคนเดซปรากฎมา ก็เพื่อให้เราย้อนคิดถึง ดอกไม้ในแจกันของชาร์ลี 3.น้าเฮเลน สตรีที่ดูเหมือนสู้ทนกับความยากลำบากต่างๆนานามา แต่ก็น่าเศร้าว่า เธอเองเป็นคนที่ฝังหนามลึกไว้ในความทรงจำของชาร์ลี อันที่จริง เธอไม่ใช่ผู้กระทำฝ่ายเดียว เธอคือเหยื่อผู้ถูกกระทำจากสังคม และได้สะท้อนผลร้ายนั้นต่อ (ในหนังสือ จะเล่าอดีตสมัยที่พี่ชายของชาร์ลียังเรียน และจัดปาร์ตี้ที่บ้าน ขณะที่ชาร์ลีนอนก็มี ชายหญิงคู่หนึ่งเข้ามาจะFeaturingกัน (หงี่มากไปป่ะ ทำต่อหน้าเด็กนะ><) ชาร์ลีก็นอนดูเงียบๆด้วยความไร้เดียงสา จนบังเอิญแคนเดซเปิดประตูเข้ามาละครบ ชายหญิงคู่นั้นเลยตกใจและหยุดประกอบกิจ ) เรื่องของน้าเฮเลนก็สอนเรานะครับ ช่างน่าเศร้าหากเราเจอเรื่องราวที่เลวร้าย แต่จะดีกว่าหากเราพยายามถอนหนามขมขื่นนั้น โดยระวังไม่ให้หนามนั้นทิ่มแทงใครต่อ ขอบคุณภาพยนตร์และหนังสือเรื่องนี้จริงๆ ที่ทำให้เราไม่อาย ที่ออกมาอยู่ริมกำแพงบ้าง เป็นตัวของตัวเอง โดยที่ยังเข้าใจสังคมด้วย^^ แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 55 11:51:01 แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 55 11:32:51 จากคุณ : โยชูวาแห่งอัสซีซี เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 09:46:41

ความคิดเห็นที่ 5 รออ่านต่อนะคะ ชอบหนังอะ จากคุณ : ปุริมาน เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 11:16:24

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณ อีดีตข้อความข้างบนละ^^ จากคุณ : โยชูวาแห่งอัสซีซี เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 11:55:16

ความคิดเห็นที่ 7 หนังก็ชอบ รูปที่มาลงสวยมากกกกก ทำไมไทยไม่เอาใบปิดนี้หว่า จากคุณ : Suisen เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 20:30:29

ความคิดเห็นที่ 8 ชอบหนังครับ อยากอ่านหนังสือด้วย ไม่ทราบว่ามีแปลไทยยังครับ จากคุณ : หนึ่ง_micro เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 09:38:31

ความคิดเห็นที่ 9 อยากได้หนังสือฉบับที่กระดาษข้างในเป็นกระดาษน้ำตาลอ่า ไม่ชอบเล่มเขียวเลย กระดาษขาวเราอ่านแล้วปวดตา แต่ภาษาอังกฤษอ่านง่ายค่ะเรื่องนี้ไม่ยาก(เท่าที่เปิดๆ ดู) ใครที่อยากหัดอ่านลองดูก็ได้นะ :) จากคุณ : ตัวตลกสีเทา เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 05:30:50