ความคิดเห็นที่ 1 ก็แล้วแต่ประเทศไหนสร้างไงครับไม่เห็นน่าสงสัย จากคุณ : The Silver Warrior เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 17:16:43

ความคิดเห็นที่ 2 จริงจังอะไรมากกะตัวละครในนิยายครับ จากคุณ : Mmmm เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 17:21:04

ความคิดเห็นที่ 3 แปลกตรงไหนคะ มันเป็นหนังเขียนจากความรู้ ประวัติศาสตร์ ใส่อารมณ์ความรู้สึกลงไป จากคุณ : ผ้าพันคอสีเขียว เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 17:22:44

ความคิดเห็นที่ 4 เพราะมันคือหนังครับ ต้องแบ่งเป็นฝ่ายดีกับฝ่ายร้าย จากคุณ : sungiko เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 17:31:13

ความคิดเห็นที่ 5 เราว่าเจ้าของกระทู้ถามดีนะคะ เอาจริงๆ ความเป็นประเทศไทยนี่มันยังไม่เกิดเลยนะคะ ถ้าเราหัดตั้งคำถามกับเรื่องรอบๆตัว และค้นคว้าหาความรู้ จะทราบว่า จริงๆเรื่องนี้เราก็เล่นได้หลายแง่หลายมุม เพราะจะว่าไปแล้วท่านก็เป็นบรรพบุรุษของคนไทยภาคกลางหนะค่ะ ไทยทั้งชาติก็คงไม่ใช่ ถ้ามองอย่างเป็นกลาง แล้วหามุมน่าสนใจเราว่ามีเรื่องให้ดูอย่างหลากหลายนะ จริงๆต่อให้เขียนเป็นตัวร้าย ก็เขียนมุมเท่ก็ได้ แต่ก็ไม่ได้เคยเห็นมุมเท่ของตัวละครประเทศอื่นเลย เห็นแต่ของประเทศเรา ชาติสร้างเสร็จตั้งนานแล้วค่ะ อยากเห็นอย่างอื่นบ้าง เราไม่รู้ว่าชนชาติอะไรชาตินิยมบ้าง แต่พอเราได้ยินอะไรแนวๆหลงชาติ ชาตินิยม เราเอียนทุกทีไม่ว่าจะออกมาจากปากหัวทองหัวดำ ดั้งโด่งดั้งแม่บ มันก็ถึงเวลาแล้วหละ ที่คนทั้งโลกจะให้เกียรติกันได้สักที แล้วมองประวัติศาสตร์โลกอย่างเป็นกลางๆ ถ้าอยากแข่งกันนักกันก็แข่งกันเรื่องค้าขายดีกว่า ปล คิดว่าเจ้าของกระทู้ถามน่าสนใจค่ะ ปล แต่ก็เห็นด้วยกับ คห 1 นิดนึงนะคะ ตรงที่แล้วแต่ชาติไหนสร้าง เพราะเฮคเตอร์ ถูกมองผ่านตาคนอเมริกันไงคะ ไม่ใชกรีก แล้วอีกอย่างต่อให้เป็นกรีก เขาก็มองว่าเป็นกรีกเหมือนกันหมดไม่ได้เป็นกรีกกับประเทศอื่น จากคุณ : เอาน่าคนดี๊คนดี เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 17:31:55

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณคห.5นะครับ แต่เอาเข้าจริงก็มีพระเจ้าบุเรงนองไงครับที่มีมุมเท่ อย่างที่บอกครับว่าผมแค่สงสัยในด้านของพระมหาอุปราชาเท่านั้น ว่าทำไมฝ่ายไทยถึงเขียนบทไม่ค่อยให้เกียรตินัก ไม่เหมือนพระเจ้าบุเรงนอง หรือสุรกรรมาและอะแซหวุ่นกี้ แต่ดูหนังฝรั่ง มันก็จะมีตัวละครฝ่ายข้าศึกบางตัวนะครับ ที่สร้างกี่เรื่องๆก็จะถูกเขียนบทให้เป็นคนดีเสมอ เช่น หนังสงครามโลกครั้งที่2 ที่มีอเมริกาและอังกฤษเป็นพระเอก ฝ่ายข้าศึกคือเยอรมันและญี่ปุ่น ก็จะมีรอมเมลและยามาโมโต้ เป็นตัวละครที่ถูกเขียนบทให้เป็นคนดีตลอด สงครามครูเสด ที่มีฝ่ายคริสต์เป็นพระเอก ฝ่ายมุสลิมก็จะมีซาลาดินที่ถูกเขียนบทให้เป็นคนดีตลอด สงครามเวียดนาม ที่มีอเมริกาเป็นพระเอก ฝ่ายเวียดนามเหนือก็จะมีโวเหวียนยัปที่ถูกเขียนบทให้เป็นคนดีตลอด แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 55 18:56:52 จากคุณ : Mafiya เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 17:45:39

ความคิดเห็นที่ 7 ก็เพราะพระมหาอุปราชจะต้องเป็นคุ่แข่งคู่ปรับกับพระนเรศวรไงคับจึงต้องวางให้เป็นตัวร้าย เพื่อคนดูจะได้เอาใช้ช่วยพระเอก จะเอาพระนเรศวรเป้นตัวร้ายได้ไหมก็ไม่ได้เพราะเค้าทำให้คนไทยดู แต่จะว่าไปทำบทให้ดุร้ายแบบเท่ห์ๆก็ได้ แต่เนื่องด้วยรสนิยมการเสพละครบ้านเรา ตัวร้ายเท่ห์ไปคนไทยส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคยอีก ลงท้ายก็ต้องทำบทให้เป็นตัวร้ายดาดๆไร้มิติไป เหมือนตัวร้ายในละครหรือตัวร้ายในโรงลิเกประมาณนั้น จากคุณ : tabuya เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 17:53:45

ความคิดเห็นที่ 8 เอาง่ายๆ ใครมาบุกบ้านใคร จะให้คนที่ก่อสงคราม เป็นพระเอกได้ไง จากคุณ : sakza เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 18:13:38

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่ามันสืบเนื่องมาจาก. สมัยเด็กของพระมหาอุปราชกับพระนเรศวร. ซึ่งตามพงศาวดาร ตั้งเเต่สมัยเด็กที่พระองค์ดำถึงเป็น. องค์ประกัน. เเต่ก้อเป็นที่รักของทั้งพระเจ้าบุเรงนองเเละพระมหาเถร ซึ่งในข้อนี้น่าจะเป็นที่ยืนยันว่าทำไมบทหลัก ถึงเขียนออกมาประมาณนี้คับ เเต่ตามจริงเเล้วพระองค์ก้อมีความกล้าหาญมากๆพอๆกัน. เเต่ทางไทยจะทำให้เป็นหลัก้อต้องมีเเต่งเติมบ้างคับ ตามประสาบท จากคุณ : กรรมดี เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 18:13:59

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่มีอะไรซับซ้อนครับ ไทยสร้าง ไทยต้องพระเอกสิครับ จากคุณ : krysler เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 18:18:54

ความคิดเห็นที่ 11 คห.8กับคห.10 เข้าใจที่ผมจะสื่อมั้ยครับเนี่ย ผมพูดถึงแค่บทของพระมหาอุปราชาเท่านั้นครับ ซึ่งผมว่าคห.7กับคห.9 ชี้แจงได้ตรงประเด็นที่สุดแล้วครับ และเอาเข้าจริงนะครับคห.8 หนังที่สร้างให้ฝ่ายบุกเป็นพระเอกมีเยอะแยะไป ทั้งอเล็กซานเดอร์มหาราชบุกอียิปต์,เปอร์เซียและอินเดีย อคิลลิสบุกทรอย อเมริกาบุกอิรัก กรุงศรีอยุธยาบุกตีละแวก โคคุเรียวบุกแพ็กเจ ฯลฯ รวมถึงผู้ชนะสิบทิศ ที่คนไทยสร้างให้พระเจ้าบุเรงนองเป็นพระเอกด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 55 18:31:20 แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 55 18:29:55 แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 55 18:28:52 จากคุณ : Mafiya เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 18:24:13

ความคิดเห็นที่ 12 ไกด์แนะนำว่า ถ้าคุณ จขกท ได้คำตอบแล้ว ก็จบเหอะ ใครจะตอบอะไรก็อ่านๆไป จะต่อไปเพื่ออะไร Drama เปล่าๆ จากคุณ : ไกด์ไม่เก่า (ไกด์ไม่เก่า) เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 18:34:01

ความคิดเห็นที่ 13 ทำไมเมกาสร้างหนังสงครามทำไมไม่ทำให้ต่างประเทศเป็นฝ่ายชนะประเทศตัวเองบ้างหล่ะ จากคุณ : buta_king เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 18:47:39

ความคิดเห็นที่ 14 แนะนำ คห.12 ให้แนะนำ คห.อื่นๆที่จะมาตอบครับ ไม่ใช่แนะนำ จขกท. เพราะ จขกท.เป็นเจ้าบ้านมีหน้าที่ทักทายเทคแคร์แขกผู้มาเยือนดังนั้นใครตอบอะไรมา จขกท.ก็ควรโต้กลับไปนั่นถูกแล้วครับ ประเด็นคือ คห.12 ควรจะบอกกับ คห.อื่นๆครับ ว่าถ้าจะมาตอบก็กรุณาจับใจความให้เข้าใจ หรือถ้าสงสัยอะไรในประเด็นไหนให้ถาม จขกท. ไม่ใช่ว่าเข้ามาตอบแบบซื่อๆทั้งที่ยังจับใจความอะไรไม่ถูก หรือถ้าไม่แน่ใจจริงๆก็ให้อ่านกระทู้เงียบๆแล้วออกไปหาข้าวหาปลากินซะอะไรแบบนั้น ดรามามันไม่ได้เกิดเพราะ จขกท.ตอบกลับครับ มันเกิดเพราะ คห.บาง คห.ที่ตอบแบบฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด ปล. เฮคเตอร์ไม่ได้สู้กับอะคิลลิสอย่างสมศักดิ์ศรีเท่าไหร่หรอกครับ พี่แกวิ่งหนีอะคิลลิสรอบกำแพงเมืองทรอยถึง 3 รอบแน่ะ กว่าจะโดนแทงตาย(อ้างอิงจาก อีเลียด ฉบับแปลไทย) จากคุณ : ปลาวาฬภูเขา เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 18:50:02

ความคิดเห็นที่ 15 Black Hawk Down ไงครับ คห.13 นอกจากนี้ยังสร้างอีกหลายเรื่องที่ตีแผ่ความสกปรกของสายลับและนักการเมืองอเมริกัน เช่น Green zone, Body of lies, Good shepherd, Killing field ว่าแต่ว่า พี่เฮคเตอร์ผมวิ่งหนีอุตลุตขนาดนั้นเชียวหรือครับ คห.14 T_T แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 55 19:05:08 แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 55 18:53:10 แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 55 18:52:44 จากคุณ : Mafiya เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 18:50:27

ความคิดเห็นที่ 16 ไทยเทพที่สุดในสามโลก ไทยทำไทยต้องถูก เห็นลูกน้องคนพม่าเรียน ม.ไทยดูจบแล้วมันยิ้มมุมปากรอยยิ้มมันลึกซึ้งมาก แฝงความรู้สึกไว้เต็ม ไม่รู้มันคิดอะไร จากคุณ : เขียนบนไอโฟนสามซิมทีวีชัดเวอร์ (เสี่ยปักกิ่งสะกิดตลิ่ง) เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 18:51:45

ความคิดเห็นที่ 17 คือเป็นคาแรคเตอร์ที่ถูกสร้างให้เป็นตัวโกงได้เร้าอารมณ์ที่สุดอ่ะ ถ้าไม่โกง พระเอกมันก็เหมือนกับขาดความชอบธรรมที่จะชนะอ่ะ คือคนไทยไม่ใช่ประเภทที่จะประลองกันแบบหนังจีน (บางเรื่อง) ที่พอสู้กันเสร็จแล้ว จะต้องมาพูดประมาณว่า "น่าเสียดายยิ่งนัก หากมิใช่เพราะเหตุการณ์บังคับให้พวกเราเป็นศัตรูกัน พวกเราอาจเป็นสหายที่ดีต่อกันมากที่สุด" คือหนังไทยมันไม่มีประโยคพวกนี้ไง ดังนั้นศัตรูก็ต้องโกงแหล่ะ ถ้าไม่โกงพอชนะแล้วคนดูต้องมาลุ้นอีก ว่าไม่อยากให้พระเอกฆ่า มันจะดูขาดความชอบธรรมไป จากคุณ : คนดี มีคุณธรรม ค้ำจุนโลก เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 18:54:52

ความคิดเห็นที่ 18 กล้าให้กษัตริย์เราเป็นตัวโกงมั้ยหละ หัวจะหลุดจากบ่าเอา สังคมไทยเรายอมรับไม่ได้หรอก จากคุณ : Hamy Lynn Lee เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 18:58:37

ความคิดเห็นที่ 19 คห.18 พระเจ้าเอกทัศน์ พระมหินทราธิราช พระเจ้าปราสาททอง พระเพทราชา ขุนวรวงศาธิราช โดนมาไม่รู้กี่เรื่องแล้วครับ จากคุณ : Mafiya เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 19:01:45

ความคิดเห็นที่ 20 คห 19 เรื่องอะไรบ้างครับ ในเรื่องเราเป็นตัวเอกหรือตัวโกง อยากทราบจริงๆนะไม่ดราม่า จากคุณ : เขียนบนไอโฟนสามซิมทีวีชัดเวอร์ (เสี่ยปักกิ่งสะกิดตลิ่ง) เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 19:04:59

ความคิดเห็นที่ 21 ไทยเป็นพระเอกทุกเรื่องครับ คห.20 พระเจ้าเอกทัศน์หูเบา และอ่อนแอ ดีแต่แย่งชิงอำนาจกับพระเจ้าอุทุมพร เช่นเรื่อง ขุนรองปลัดชู,พระเจ้าตากสิน,นิราศสองภพ,ฟ้าใหม่ พระมหินทราธิราชก็เจ้าอารมณ์ อิจฉาริษยาพี่ชายตนเองคือพระราเมศวร อันนี้เรื่อง นเรศวรภาคแรก,กษัตริยา,พ่อ (ส่วนเรื่องสุพรรณกัลยาจะเริ่มตอนเสียกรุงไปแล้ว แต่พระมหินทร์จะมีบทบาทแสดงความสำนึกผิดในสิ่งที่ตนทำไว้ในอดีตก่อนที่ภาพยนตร์จะเริ่ม) พระเจ้าปราสาททองก็เรื่องบุหงาตานี,ขุนศึก พระเพทราชาเรื่องพันท้ายนรสิงห์ (แต่เนื้อหาส่วนใหญ่จะอยู่ในรัชสมัยของพระเจ้าเสือ โอรสของพระเพทราชา) พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศก็มีเรื่องนายขนมต้ม ที่ฆ่าหลานตัวเองเพื่อชิงบัลลังก์ ขุนวรวงศาธิราชก็เรื่องสุริโยไท ที่สมคบกับท้าวศรีสุดาจันทร์วางยาพิษพระไชยราชาและพระยอดฟ้า แถมยังวางแผนจะปลงพระชนม์พระเฑียรราชาและพระสุริโยไทอีกด้วย ซ้ำยังกระทำการเป็นทรราชย์ กำจัดขุนนางที่ไม่เห็นด้วยกับตนเสียหมดสิ้น แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 55 17:06:58 แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 55 19:16:00 แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 55 19:12:20 จากคุณ : Mafiya เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 19:11:51

ความคิดเห็นที่ 22 หนังhollywood ผมว่า เมกัน เป็นตัวร้ายเยอะมากนะครับ เหมือนเค้าทำหนังเพื่อสะท้อนความเห็นอีกด้านของคนอเมริกัน ที่ไม่ได้คิดว่า อเมริกันถูกทุกเรื่อง  หรือชนะสงครามแล้วคิดว่าตัวเองเป็นพระเอก จากคุณ : white love เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 19:27:06

ความคิดเห็นที่ 23 ขอแย้ง คห.17 เล็กน้อยครับ ผมคิดว่าในเมื่อหนังไทยไม่มีประโยคอย่างที่คุณกล่าวมา ผมว่าเราก็ควรจะทำให้มันมีซะนั่นล่ะครับ อย่างที่รู้ว่าบทคือจุดอ่อนของการเล่าเรื่องแบบไทยทั้งละครและภาพยนตร์ ดังนั้นลักษณะการหาความชอบธรรมในการต่อสู้โดยการสร้างให้ฝ่ายหนึ่งเป็นตัวโกงซึ่งเป็นลักษณะการเล่าเรื่องแบบแบนตามแนวทางของการแสดงแบบเก่า(ลิเก หรืองิ้ว เป็นต้น) เป็นหลักฐานยืนยันถึงความ "เชย" ซึ่งทำให้ละครและภาพยนตร์บ้านเรามีพัฒนาการย่ำอยู่กับที่ ดังนั้นผมเห็นว่าเราควรจะเพิ่มบทที่ทั้งสองฝ่ายต่างเป็นคนดีและน่าเอาใจช่วยแต่ต้องมาเข่นห่ากันเองด้วยหน้าที่และความไม่เต็มใจซึ่งน่าจะส่งผลต่ออารมณ์ร่วมของผู้ชมได้มากกว่า(นึกภาพอะคิลลิสกับเฮคเตอร์ครับ ไม่ว่าใครตายผู้ชมก็เสียใจ) ส่วน จขกท.มีความรู้ในแง่ของการสร้างภาพยนตร์แนวประวัติศาสตร์ดีอยุ่แล้วไม่มีอะไรจะแลกเปลี่ยนครับ เป็นการเอามะพร้าวห้าวไปขายสวนเปล่าๆ...แต่นิดนึงเรื่องเฮคเตอร์... จริงๆแล้วต่อให้เฮคเตอร์ต่อสู้(โดยไม่วิ่งหนี) จริงๆก็แพ้ครับ เนื่องเพราะหลังจากบทเปิดตัวคือ "เพลิงพิโรธของอะคิลลิส" เราก็จะเห็นว่าอะคิลลิสไม่ต้องออกรบอีกเลยจนเกือบจบเรื่อง(อ้างอิงจาก อีเลียด) ซึ่งกำลังวังชายังไงก้ได้เปรียบเฮคเตอร์ที่นำหน้ากองทัพบุกเข้าประจัญบานด้วยตนเองมาตลอด(สงครามโทรจันกินระยะเวลา 10 ปี ลองคิดดูว่าเฮคเตอร์จะล้าขนาดไหน) แต่โฮเมอร์ก็บรรยายเฮิคเตอร์วิ่งหนีซะรันทดจริงๆครับ แนวๆว่าเมื่อออกมาประจัญหน้ากัน เฮคเตอร์ขอให้อะคิลลิสปล่อยให้ฝ่ายทรอยเอาศพของตนไปทำพิธีถ้าหากเขาตาย อะคิลลิสบอกว่าราชสีห์ไม่จำเป็นต้องเจรจากับมนุษย์ ว่าแล้วแกก็คำรามลั่นแล้ววิ่งเข้าใส่เฮคเตอร์ เฮคเตอร์ก้ตกใจครับเพราะพี่แกไม่เจรจาอะไรทั้งนั้น ก็เลยวิ่งหนีรอบกำแพงเมือง 3 รอบก่อนจะสะดุดหินโดนแทงตาย - -" จากคุณ : ปลาวาฬภูเขา เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 19:31:15

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นด้วยกับคุณปลาวาฬภูเขาอย่างยิ่งทั้งคห.14และ23เลยครับ แต่เสียดาย กิ๊ฟหมด เอาเข้าจริงนะครับ ตอนดูขุนศึก ทหารมอญที่ชื่อสมิงมะตะบัดผมยังไม่อยากให้ตายเลยครับ จากคุณ : Mafiya เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 19:41:04

ความคิดเห็นที่ 25 เคยอ่านหนังสือของพี่จิก บอกว่า คนทุกคนโดยพื้นฐาน ล้วนเกิดมาเป็นคนดีทั้งนั้น โดยยกตัวอย่างว่า เวลาดูหนัง ดูละคร มีใครเชียร์ผู้ร้ายกันบ้าง ทุกคนล้วนเชียร์ พระเอก นางเอก กันทั้งนั้น จากคุณ : กุ้ยเหลียง เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 19:59:34

ความคิดเห็นที่ 26 มันเป็นเเบบนี้ทุกเรื่อง ทุกเเนวค่ะ ตลาดไทยส่วนใหญ่ชอบดูละครที่ดีไปเลย ร้ายไปเลย ไม่ชอบเเบบมีมิติ ตัวละครสีเทา ดูได้จากละครสมัยเก่าที่ตัวร้ายก็จะต้องร้ายตบตี ฆ่าคนไปทั่ว ตัวดีก็ต้องร้องไห้ทำตัวน่าสงสารสู้เขาไม่ได้ อย่างละครสมัยเก่าหลายเรื่อง ซึ่งจะสังเกตได้ว่าเดิมทีนางอิจฉาจะเป็นเเฟน คู่หมั้นพระเอกก่อน ต่อมานางเอกก็มาทำให้พระเอกเปลี่ยนใจ โดยหาบทไม่ดีให้นางอิจฉาทำเพื่อให้เป็นคนไม่ดี เเต่ที่น่าสังเกตคือพระเอกคบมาได้ไงก่อนเจอนางเอก ถ้าไม่ดีจริงๆ ถามว่าทำไมไม่ชอบ เดาว่า1.เเบบสีเทาดูเเล้วไม่ได้อารมณ์ค่ะ ต้องตบเลย ร้องไห้เลย 2.ตัวละครสีเทาบางตัวมันมีเหตุผลที่ชวนคิด สังคมไทยขี้เกียจคิดตามค่ะว่าเพราะอะไร คนไทยส่วนใหญ่ดูละครเพื่อความบัญเทิงกัน จึงไม่ชอบละครที่ต้องให้คิดอะไร ซึ่งจะสังเกตได้ว่าละครที่ต้องคิด น้ำดีอะไรนี่ืจะเรตติ้งน้อย ถ้าไม่เพิ่มบทตบตีเข้าไป ไม่มีพระนางยอดนิยมนะคะ 3.การดูละครที่เป็นสีเทาทำให้รู้สึกว่าเราโง่ ตามตัวละครไม่ทันค่ะ ในขณะที่อารมณ์สุดโต่งเราจะรู้สึกว่าเป็นพระเจ้า รู้ทุกเรื่อง ทำให้สะใจกับเรื่องที่ให้คิด ในเเง่ละครพีเรียด ไทยเรายังมีข้อที่จำกัดอยู่กับละครเเบบนี้หลายข้อ 1.ประเทศเรายังมีพระมหากษัทย์อยู่ ซึ่งเรื่องนี้ยังถือเป็นประเด็นอ่อนไหวของสังคมไทย ดังนั้นละครไทยจึงเสนอในด้านเดียวซะมากกว่า 2. สังคมไทยยังเเยกละครพีเรียดกับประวัติศาสตร์ไม่ออกค่ะ ยังเข้าใจว่าละครพีเรียดต้องตรงประวัติศาสตร์เสมอไป 3.หนังสือเรียน หรือหลักฐานอะไรของไทยที่เขียนให้พม่าไม่ดี มากกว่าว่ามันเป็นเรื่องเเนวคิดของโบราณ ถูกนำม่ใช้ล้างสมองคนไทยมานานเเล้ว คุณคิดว่าถ้าทำนอกกรอบขึ้นมา คงจะไม่มีคนดู โดนคนต่อว่า อะไรต่างๆนานๆ ส่วนตัวก็อยากให้มีนะคะ เเต่คงยาก เพราะไม่มีใครกล้าเสี่ยง แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 55 20:12:22 แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 55 20:11:25 จากคุณ : น้ำค้างเเก้ว เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 20:08:31

ความคิดเห็นที่ 27 วิชาประวัติศาสตร์ของประเทศไหน ก็คงต้องยกเชื้อชาติของประเทศนั้นๆเป็นสำคัญ ยังคิดสงสัยอยู่ในใจว่า ที่บอกจะรวมกันเป็นกลุ่มประเทศอาเซียน เราจะรวมกันได้อย่างสนิทใจจริงๆเหรอ? ในเมื่อค่อนชีวิตเราถูกปลูกฝังมาตลอดทั้งในหลักสูตรของโรงเรียนหรือสื่อบันเทิงอย่างหนังหรือละครว่าประเทศเพื่อนบ้านเราเคยเป็นศัตรูกับเรามาก่อน ถ้ามองจากมุมมองของประเทศเพื่อนบ้านแถบลุ่มน้ำโขง สยามเราเมื่อก่อนก็ไม่ใช่ย่อยๆเหมือนกัน จากคุณ : เขียนบน iPad (lulamby) เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 20:24:10

ความคิดเห็นที่ 28 ก็เหมือนกับหนังฮอลลีวูดที่มักจะให้โซเวียตเป็นตัวร้าย แล้วอเมริกาเป็นพระเอกอะครับ จากคุณ : นกพิราบคาบข่าว เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 20:25:23

ความคิดเห็นที่ 29 เพราะไม่ใช่คนกลางเป็นคนสร้างเรื่องครับ อย่างที่หลายคนบอก การแต่งเรื่องพราะนเรศวรเป็นตัวเอก VS คู่ปรับโดยตรงของตัวเอกก็คือพระมหาอุปราช  การใส่ไข่คู่ปรับโดยตรงยิ่งมากเท่าไร ตัวเอกยิ่งมีความชอบธรรมมากเท่านั้น ส่วนเรื่อง เฮกเตอร์ VS อคิลิส ก็ไม่ต่างกันครับ เมื่อเล่าผ่านมุมมองของโฮเมอร์ซึ่งเข้าข้างฝ่ายกรีกเต็มที่ ตอนที่สองแม่ทัพสดกัน ก็ใส่ไข่เฮกเตอร์ไม่มีชิ้นดี ทั้งที่บุคลิกเฮกเตอร์ก่อนหน้านั้นกล้าหาญไม่กลัวตาย ที่สังหาร-เปโตรคัส-ก็เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นอคิลิสจึงเข้าสู้เต็มกำลัง แต่พอฉากสู้อะคิลิสตัวจริง โฮเมอร์กลับโม้ว่า เฮกเตอร์หนีอคิลิสรอบเมืองถึง 3 รอบเฉยเลย ก่อนจะขว้างหอกดวลกัน แล้วพลาดโดนเสียบใต้คอ ที่นี่พอผ่านมุมมองของคนอื่น ที่เอาไปแปลหรือเอาไปเขียนใหม่ รวมทั้งเอาไปสร้างเป็นหนัง เขาไม่ได้มองผ่านมุมมองที่ลำเอียงเหมือนโฮเมอร์ บุคลิกของเฮกเตอร์ในยุคใหม่ จึงดูเท่ห์ และกล้าหาญ ตามการตีความของคนกลางจริงๆ จากคุณ : ป่วนกระโทก เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 20:44:22

ความคิดเห็นที่ 30 ขอแจมมั่ง ผมว่ามันอยู่ทีี่มุมมอง มุมกล้อง และใครสร้าง ถ้าโซเวียตสร้างหนัง อมเริกาก็คือตัวร้าย เช่นกัน หรือพม่าสร้าง หนังทุกเรื่องจะสร้างตัวเดินเรื่องขึ้นมาก่อน กล้องจึงต้องจับตัวเดินเรื่องมากที่สุด สิ่งที่อยากเห็นในอนาคตแต่คงจะยากเพราะมันลงทุนสูง และเสี่ยงไม่ทำเงิน คือเสนอทั้ง 2 มุม 2 กล้องในหนังเรื่องเดียวกัน ปล.อยากเห็น หนังเรื่องเดียวกันถ่าย 2 มุมกล้อง 2 มุมมองทั้งฝ่ายดีและฝ่ายเลวโดยให้น้ำหนักที่สมดุลลงตัว มีที่ใกล้เคียงคือ แบทแมน VS โจ๊กเกอร์ เช่นยืนคุยกันอยู่ แต่หลังจากแยกย้าย กล้องเทน้ำหนักไปที่พระเอกมากกว่าตามเทรน ฮีโร่นิยม เพราะโจ๊กเกอร์ไม่ใช่พระเอก จึงไม่ต้องไปใส่ใจการใช้ชีวิตของเขา เพราะสุดท้ายก็ต้องแพ้อยู่ดี การต่อสู้ของแสงและเงา ความดีและความเลว ปล.2 ขอยกตัวอย่างอีกเรื่องจากการ์ตูน มาโคโตะ เสนอนักมวย 2 คน ชื่อเหมือนกัน เป็นมุมแดง+น้ำเงิน เวลาออกตีพิมม์ จะออกพร้อมกัน 2 เล่มตลอดไป เพราะแต่ละเล่มและสี จะเสนอแต่มุมมอง มุมกล้องและความคิดของฝ่ายตัวเองตลอดทั้งเล่ม ถือว่าแปลกและแตกต่างจากเรื่องทั่วๆไป การ์ตูนทำแล้ว ในอนาคต หวังว่าจะมีหนังแบบนี้บ้าง เพราะไม่ว่าจะดีจะเลว มันก็มีส่วนที่น่าจะนำเสนอและเป็นแนวทางการใช้ชีวิตของคนอื่นๆด้วยเช่นกัน ว่าอยากเป็นแบบไหน แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 55 21:14:13 จากคุณ : A-DASH เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 21:11:24

ความคิดเห็นที่ 31 ขอเสริมคห.30 ผมสังเกตว่ามีภาพยนตร์ที่ทำเช่นเดียวกับมาโคโตะ นั่นคือ Flag of our father กับ Letter from Iwojima เสนอภาพการสู้รบ ณ เกาะอิโวจิม่า ประเทศญี่ปุ่นในเวลาเดียวกัน โดย Flag of our father มีอเมริกาเป็นพระเอก ส่วน Letter from Iwojima มีญี่ปุ่นเป็นพระเอก ซึ่งตามความเห็นของผม มองว่า หนัง Flag of our father ที่อเมริกาเป็นพระเอกนั้น ฝ่ายอเมริกาดูชั่วมาก ดูแล้วสงสารบรรดาทหารอเมริกันที่รบเพื่อชาติ แต่กลับถูกทอดทิ้งโดยประเทศที่ตนเองปกป้อง หนำซ้ำยังกลายเป็นเครื่องมือแสวงหาผลประโยชน์จากคนบางกลุ่ม แล้วพอหมดประโยชน์ก็โดนทอดทิ้ง แต่เรื่อง Letter from Iwojima นั้นตรงกันข้าม ทหารญี่ปุ่นมองว่าคนอเมริกันนั้นโหดร้ายป่าเถื่อน เป็นเผ่าพันธ์ที่ชั่วร้าย แต่แล้วเมื่อพวกเขาได้พบ ได้สัมผัสคนอเมริกันจริงๆ ก็พบว่าคนอเมริกันนั้นก็เป็นมนุษย์เช่นเดียวกับพวกเขา มีความรัก มีเมตตา มีครอบครัวที่คอยอยู่เบื้องหลังเช่นเดียวกัน ดังนั้นภาพลักษณ์ของอเมริกาในเรื่อง Letter from Iwojima จะดูดีกว่า Flag of our father (ยกเว้นทหารอเมริกันนายนึงที่ยิงเชลยมือเปล่าทิ้ง เพราะขี้เกียจดูแล) จะว่าไปหนังเรื่อง We were soldiers ก็ทำได้ใกล้เคียงนะครับ เพราะจะตัดภาพสู้รบไปมาทั้งฝั่งทหารอเมริกันที่นำโดยพันโทฮัลล์ มัวร์ และฝั่งทหารเวียดนามเหนือที่นำโดยพันโทเหงียนฮุอันห์ ซึ่งพันโทเหงียนผู้นี้เป็นผู้นำที่เข้มแข็ง ฉลาด กล้าหาญและรักลูกน้องไม่แพ้ผู้พันมัวร์เลย แต่สุดท้ายก็ต้องแพ้เทคโนโลยีอเมริกัน (แต่เนื่องจากหนังเรื่องนี้ผู้พันมัวร์เป็นพระเอก ภาพย่อมจับไปทางผู้พันมัวร์มากกว่าผู้พันเหงียนอยู่แล้ว แต่ก็ถือว่ากล้องยังเทน้ำหนักให้ผู้พันเหงียนมากกว่าโจ๊กเกอร์อยู่นะครับ) จากคุณ : Mafiya เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 21:28:50

ความคิดเห็นที่ 32 ขอแลกเปลี่ยน คห. กับ คห.25 นะครับ แนวความคิดว่าด้วยการที่มนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมความดีนั้นเป็นแนวคิดแบบขงจื๊อ ในขณะที่ตัวผมกลับยึดถือแนวคิดแบบ หานเฟยจื่อ ที่กล่าวว่า มนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมความชั่วร้ายครับ เพราะถ้ามนุษย์เกิดมาพร้อมความดีในตัว เราคงไม่ต้องมีการอบรมสั่งสอน ไม่ต้องมีศาสนาข่มความชั่วในตัวเรา ไม่ต้องมีกฏหมายมากำหนดกฏเกณฑ์ในสังคม ถ้ามนุษย์เกิดมาพร้อมความดีในตัวจริงๆเมื่อถึงวัยสืบพันธ์พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องมีผัวเดียวเมียเดียวเลยครับ เพราะธรรมชาติเรียกร้องมาเมื่อไหร่ก็สมสู่กับใครก็ได้ตามสัญชาตญาณดั้งเดิมของเรา ดังนั้นการมีโรงเรียน ศาสนา และกฏหมายถึงเป็นเครื่องหมายแสดงว่ามนุษย์เรานั้นไม่ได้ดีอะไรเลยเราจึงต้องถูกฝึกและควบคุมสัญชาติญาณดิบ ผมเห็นด้วยกับหลักแนวคิดของหานเฟยจื่อนะครับ (คนที่เห็นด้วยอีกคนก็ ฉินซีฮ่องเต้ ที่ใช้ปรัชญาหานเฟยในการปกครองบ้านเมือง) เรื่องที่ผมพูดนี้จะดูเหมือนออกห่างจากประเด็นกระทู้ แต่จริงๆผมจะวกมาเรื่องภาพยนตร์นี่แหละครับ กระทุ้นี้ทำให้ผมสุนทรีมาก เสียดายที่ผมมีเวลาเล่นเน็ตจำกัดคงต้องขอลาเพียงเท่านี้ทั้งที่อารมณ์ยังอยากสนทนาต่อ โอกาสหน้าว่ากันใหม่นะครับ ขอลาแบบค้างคาใจไปก่อน จากคุณ : ปลาวาฬภูเขา เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 21:50:34

ความคิดเห็นที่ 33 ผมว่านเรศวรเนี่ย ธีมมันเป็นเรื่องแนวกู้ชาติปลอดแอกอ่ะครับ ซึ่งธีมหนังประเภทนี้ จำเป็นต้องมีผู้นำที่ชั่วร้ายกดขี่ข่มเหง เพื่อเสริมให้การที่ตัวเอกประกาศลุกขึ้นสู้ ดูมีพลังนั่นเอง ดังนั้นผมว่าคุณไปเปรียบกับหนังสงครามทั่วไปไม่ตรงนักนน่ะครับ ควรจะเปรียบเอากับหนังแนวปลดแอก ประกาศอิสระภาพมากกว่า ยกตัวอย่าง Braveheart กับ The Patriot ที่นำเสนอภาพของทหารอังกฤษที่โหดร้ายทั้งคู่ จากคุณ : Good night my dearest เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 21:53:57

ความคิดเห็นที่ 34 ไม่เข้าใจว่า ปลาวาฬภูเขาอุตส่าห์กระทุ้งใน คห. 14 ซะขนาดนั้นแล้ว ทำไมยังมีคนตอบว่าเหมือนหนังฮอลลีวู้ดที่ให้โซเวียตเป็นตัวร้าย ทั้งที่คำถามของ จขกท. ไม่ได้ถามทำนองว่าทำไมโซเวียตถึงเป็นตัวร้ายสำหรับฮอลลีวู้ดตลอด แต่ถามทำนองว่า "ทำไมฮอลลีวู้ดทำหนังยกย่องให้ปูตินเป็นตัวละครฝ่ายดีได้ แต่เขียนบทให้สตาลินเป็นตัวร้ายตลอด" ต่างหาก จากคุณ : Marcopy เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 23:42:19

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณมากครับคห.34 ผมกิ๊ฟหมด ไม่งั้นจะยกให้แล้ว ปล.ผมชอบคำตอบของคห.33ครับผม เสียดายที่กิ๊ฟหมดอีกเช่นเคย แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 55 23:57:07 จากคุณ : Mafiya เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 23:51:29

ความคิดเห็นที่ 36 พระมหาอุปราชาเท่ ๆ ก็มีนะครับ  แต่เป็นการ์ตูน และเรื่องนี้  ในบทสรุปก็ตีความออกมาว่าพระนเรศวรกับพระมหาอุปราชานั้น  ลึก ๆ แล้วทั้งคู่ก็มีไมตรีต่ออีกฝ่ายในฐานะที่เติบโตมาด้วยกัน จากคุณ : bluemouse เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 00:12:13

ความคิดเห็นที่ 37 ขืนแต่งให้ฝ่ายหงสาเป็นคนดีเกินไป หรือแค่มีดีผสมเลวแบบปุถุชน ฝ่ายอยุธยาก็จะดูเป็นคนทรยศ อกตัญญู ไม่รู้คุณที่เขาชุบเลี้ยงมาน่ะสิ มันก็แค่นี้ ดีไม่แต่งให้ฝ่ายหงสาเป็นพวกวิปลาศ อำมหิตผิดมนุษย์ อสูรกาย กองทัพซอมบี้ หรือทัพยักษ์มาร ให้ฝ่ายอโยธามีองค์นารายณ์อวตาร พร้อมกองทัพเทพมาจุติ ชูธงธรรมกวาดล้างมารร้ายก็ดีเท่าไหนแล้ว แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 55 00:23:59 จากคุณ : Kuroro Lucifer เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 00:17:14

ความคิดเห็นที่ 38 คห.37 พูดแล้วผมนึกถึงนเรศวรภาคแรก+ภาค2เลยครับ ในภาคแรก ขณะที่ลักไวทำมูคอยรังแกพระนเรศวร สุรกรรมาจะคอยปกป้องพระนเรศวรตลอด แต่ภาค2สุรกรรมาได้รับคำสั่งให้ตามฆ่าพระนเรศวร ก็ทำหน้าที่ของตนอย่างสุดฝีมือแม้จะชราภาพแล้ว แต่ที่สุดก็โดนพระนเรศวรใช้พระแสงปืนข้ามแม่น้ำสะโตงยิงตาย จากคุณ : Mafiya เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 00:20:27

ความคิดเห็นที่ 39 ถ้าจำไม่ผิด พระมหาอุปราชาไม่ใช่ยศกษัตริย์นะคะ และกษัตริย์พม่าตอนนั้นคือพระเจ้านันทบุเรง แย้งตามหัวกระทู้เรื่องอื่นไม่มีความเห็นเพราะชาวช้านเค้าตอบไปหมดแล้ว จากคุณ : เมษาพาเพลิน เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 03:06:55

ความคิดเห็นที่ 40 เข้ามาบอกว่าน่าจะได้คำตอบตั้งกะ@4แล้วเน้อ การละครแต่โบราณ บทมักแทรกอะไรที่ดูมีคุณค่าเพราะรู้ว่าละคร(นิทานแต่งต่างๆ)มีอิทธิพลไม่น้อย จึงมักแทรกคติว่าความดีชนะความชั่ว(เรื่องตำนานที่คนจดจำก็มักเป็นเพราะสอนใจบางอย่าง) ไม่งั้นสังคมมันจะเลือกชั่วแล้วได้ดีกันซะหมด เหมือนการกลายของประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊กที่เล่าปี่-โจโฉ ถูกแบ่งเป็นฝ่ายดี-ชั่วในยุคที่จับมาเป็นบทงิ้ว แต่อย่างละครกรีกมักกระชากใจกว่าด้วยการให้ตัวเอกเลว หรือหลงผิดจนคนดูอยากทำดีเพื่อจะได้ไม่จุดจบเงิบอย่างละคร เมื่อมายุคหลังสิ่งที่นำเสนอมันหลากหลายขึ้นมาก พวกทำบทแบบไม่สอนอะไรคนดูก็เยอะ ทำบทตามความเคยชิน(ไม่คิด)ก็เยอะ และคนดูหนังแบบไม่คิดตามก็เยอะ จากคุณ : แค่นี้ก่อน^^ (mkhazard) เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 04:26:19

ความคิดเห็นที่ 41 เพราะสมัยนั้นไทยตกเป็นเมืองขึ้นของพม่าและพระนเรศวรต้องไปเป็นตัวประกันที่พม่า แล้วพระนเรศวรต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดในขณะที่อยู่พม่าและต้องพยายามหาทางกอบกุ้ประเทศคืน ดังนั้นมันก็ต้องมีผู้ร้ายที่พระองค์ต้องฝ่าฟัน จากคุณ : toshi28 เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 09:37:36

ความคิดเห็นที่ 42 เพราะเรื่องนี้พระนเรศวรเป็น "พระเอก" ค่ะ ก็ต้องมีตัวร้ายเป็นเรื่องธรรมดา จากคุณ : เมื่อไหร่จะได้ไปเที่ยวอีกคะ เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 13:56:52

ความคิดเห็นที่ 43 ผ่านมาเกือบสิบห้าปี .... กับกระทู้ห้องเฉลิมไทย ..... อ่านการพูดคุยผ่านกระทู้นี้แล้วนึกถึงเมื่อยุคแรก ๆ ที่พูดคุยกันในเรื่องที่ "เป็นเรื่อง" และถกกันบนพื้นฐาน ความรู้ เหตุผล ต่อยอดความคิดกันได้เรื่อย ๆ ... ไม่ได้เห็นมานานมากแล้ว อ่านกระทู้นี้แล้วนึกถึงความสุขในสมัยอดีต..... ยกนิ้วโป้งให้กับทั้งผู้ตั้งและผู้ตอบหลาย ๆ คนครับ เข้าใจในประเด็นที่สื่อสารผ่านตัวอักษรและพูดคุยตอบกันบนเนื้อหาที่ชัดเจน ... ไม่ลากหรือใช้อารมณ์ตีความหมายหรือแค่ผ่านมาแล้วถ่มน้ำลายใส่(กระทู้)เหมือนกับหลาย ๆ กระทู้ในรอบสิบห้าปีที่ผ่านมา ..... หวังว่าคงจะได้เห็นการถกเสวนาแบบนี้อีกครับ ชอบครับ จากคุณ : wolf เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 17:28:11

ความคิดเห็นที่ 44 ยกเว้นเราไว้คนเถอะ เราชอบดูแบบสีเทานะ เพราะมันได้คิด พื้นฐานคนเราเกิดมาอยากดีกันทุกคน แต่เพราะมีปัจจัยต่างๆ ทำให้บางที เราก็ดีไม่ได้อย่างใจ จากคุณ : หมีน้อย คอยรัก เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 21:06:20