Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
จำกระทู้เมื่อ2ปีก่อนอันนี้ได้ไหม "ชีวิตไฮโซ (น่าอิจฉาจังเนอะ)"!!! ติดต่อทีมงาน

***

    เผอิญเมื่อช่วงเย็นได้มีโอกาสไปนั่งไล่ดูกระทู้เก่าๆในคลัง  แล้วเจอกับกระทู้นี้เข้าซึ่งตั้งเอาไว้เมื่อวันนี้ของเมื่อ2ปีที่แล้วพอดี  พออ่านจบจึงคิดว่าในสังคมเรามีคนที่รวยมากขนาดนี้อยู่ด้วยหรือ  ขนาดเจ้าสัวระดับท็อปทั้งหลายของประเทศยังทำงานกันหัวเป็นเกลียวตัวเป็นน็อตเลย


http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2010/10/A9839474/A9839474.html


**เนื้อหาในกระทู้ดังกล่าว**

ไฮโซของแท้ ของจริง ก็มักจะชื่นชอบชีวิตแบบหรูหรา เขามีวิธีซื้อความสุขได้ในแบบที่แตกต่าง หลายคนมีความสุขกับการต่อคิวซื้อสินค้า ราคาสูง คุณเคยเห็นหรือเปล่า? กระเป๋าใบละ เหยียบล้านบาท!! เขามีหิ้วกันจริงๆนะคะ และไม่ใช่ของที่ทำก๊อบปี้เสียด้วย... เสียฟอร์มไฮโซของแท้แย่เลย!! กระเป๋าราคาแสนต้นๆที่ไฮโซของแท้หิ้วกัน อุ๊ย!! เด็กๆ ของแท้ของจริง ต้องห้าแสนอัพ!! ไม่เชื่อลองถามจากสาวๆไฮโซตัวจริงดูว่า แต่ละคนซื้อความสุขให้ตัวเองอย่างไร

อินทิรา ธนวิสุทธิ์ หรือน้องแอน ลูกสาวคนเดียวของ "เตี่ยโส" เธอเป็นเจ้าของสินค้าราคาติดเพดานมากมาย "น้องแอน" แย้มว่า ใครคิดว่า "แอน" มีกระเป๋าแอร์เมสมากที่สุดในประเทศไทย!! ต้องขอปฏิเสธ ไม่ใช่นะคะ... มีหลายคนที่มีของเยอะกว่า "แอน" เป็นคนไม่ชอบแข่งกับใคร ขอเป็นคนที่ 30 ล้าน โดยมีจำนวนคนครึ่งหนึ่งรวยกว่า "แอน" และอีกครึ่งหนึ่งมีน้อยกว่า "แอน" แล้วกัน

ส่วนเรื่องของที่ชอบก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง ของที่มีคุณค่าสำหรับ "แอน" ก็คือของที่ไม่เหมือนใคร ราคาไม่ต้องแพงมาก อย่างเครื่องเพชรนี่ไม่เคยซื้อเอง เตี่ยกับแม่ซื้อให้ตลอด โดนบังคับให้ใส่ เครื่องเพชรมาตั้งแต่เด็ก เตี่ยกับแม่บอกว่า เรามีของก็ต้องใช้ แต่ไม่ต้องเว่อร์ อย่างกระเป๋านี่ชอบแอร์เมส เพราะคลาสสิกดีไซน์ไม่เปลี่ยน จนอายุ 80 ปี "แอน" ก็ยังใช้ได้อยู่ ไม่ได้ตั้งเป๋าเอาไว้ว่า แต่ละเดือนต้องใช้เงินเท่าไร แต่จะรู้ตัวว่าเดือนนี้ใช้ได้เท่านี้ ถ้าใช้มากเกิน เดือนหน้าก็ต้องลดลง

"แอน" ชอบซื้อกระเป๋า ยิ่งแอร์เมส "แอน" ใช้รุ่นเบอร์กิ้น กับ เคลลี่ เป็นของประเภทมีเงินก็ยังซื้อไม่ได้!! ซึ่งคงเป็นเรื่องการตลาดของเขาอย่างหนึ่ง แต่ก็โชคดีที่ได้มาเรื่อยๆทั้งทางเน็ตบ้าง ฝากเพื่อนซื้อบ้าง ใบแรกที่ตัดใจซื้อเป็นหนังจระเข้ด ้านสีเทาเข้ม ฝากเพื่อนซื้อจากฝรั่งเศส เมื่อสัก 4-5 ปีที่แล้ว เพราะเห็นคุณแป้ง-นวลพรรณ ใช้ และก็ตัดสินใจซื้อมาเรื่อยจนกระทั่งปัจจุบัน เมื่อก่อนนี้ซื้อ หนังจระเข้ก็ใบละ 7.5 แสนบาท แต่ปัจจุบันค่าเงินยูโรแพงขึ้น ราคายิ่งกระเถิบมากขึ้นไปด้วย ใบโปรดที่ไม่เหมือนใครเป็นใบที่สั่งทำเอง เลือกสี วัสดุที่ใช้และแบบเอง เป็นเบอร์กิ้นส์ผ้ายีนส์ใบเดียวในโลก "แอน" ซื้อของ ก็เหมือนกับคนที่เขาเก็บนาฬิกาหรือรถเก่า เวลาได้เห็นก็ทั้งภูมิใจและมีความสุข ถ้าชอบแล้วไม่ได้ซื้อนอนไม่หลับค่ะ!!!

ส่วนเสื้อผ้า "แอน" ซื้อของวินเทจของปุชชี่ (Emilio Pucci) ตั้งแต่ปี 1960-1970 เป็นของยูส (ใช้แล้ว) มีขายในช็อปที่ต่างประเทศ จะเป็นของสีสันฉูดฉาดตามสไตล์ที่ชอบ หรือประมูลจาก Christie หรือ Sotheby แต่ราคาก็ไม่ใช่แพงมาก อยู่ระหว่าง 2-3 หมื่นบาท เพราะ "แอน" ไม่ชอบลงทุนกับเสื้อผ้า เนื่องจากเป็นคนที่ใส่ครั้งเดียวแล้วเบื่อเลย ส่วนรองเท้าเป็นคนชอบรองเท้ามาก เคยไปต่างประเทศครั้งแรก "เตี่ย" ให้สตางค์ไปห้าหมื่นบาท ตัดสินใจซื้อรองเท้าเลยหมื่นกว่าบาท ส่วนแบรนด์โปรดเป็นของ Manolo Blahnik ที่ชอบเพราะ แม้จะเป็นรองเท้าที่สูงมากแต่ใส่สบาย สูง 5 นิ้วใส่แล้วยังไม่โยกเลย และยังน้ำหนักเบา ส่วนใหญ่รองเท้าของ "แอน" ราคาจะอยู่ที่หมื่นถึง 5 หมื่นบาท ถ้าใกล้แสนก็เป็นหนังจระเข้...

ตอนนี้ชีวิต "แอน" ก็ถือว่ามีความสุข ไม่ติดหนี้ใคร ใช้เงินเท่าที่พอใช้ได้ ทำอะไรไม่แข่งกับใคร ขออยู่แบบนี้ เพราะเป็นคนกลัวความรับผิด ชอบ และไม่ ชอบทำอะไรที่ต้องกำหนดวัน-เวลาแน่นอน แบบนี้สบายใจที่สุด


"น้องแอนเคยได้ยินคนบ่นว่าถ้าชั้นรวยนะชั้นจะไม่ทำงาน น้องแอนก็คิดยังงั้นเหมือนกัน ไม่มีใครอยากลำบากหรอกค่ะ น้องแอนก็เลยไม่ทำงาน  ทุกวันนี้ก็ใช้เงินเตี่ยอยู่"
เธอให้สามีลาออกจากงานเพราะเธอไม่อยากเจอหน้าสามีตอนเครียดหลังจากเลิกงานค่ะ

คุณแอนสมัยเรียนมาแตร์เธอใส่นาฬิกาคาร์เทียรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นเรือนละล้านลายม้าลายไป ร.ร.

เห็นเค้าเรียกลูกสาวหนึ่งเดียวของเฮียว่าว่า เจ้าหญิงสันหลังยาว

เกิดมาในชีวิตนี้ ไม่เคยทำอะไรเลย ย้ำ ไม่เคยทำอะไรเลย เธอเล่าว่า จะตื่นตอนประมาณเที่ยง เสร็จแล้วก็จะไปหาอะไรอร่อยๆกิน พอบ่ายๆเย็นๆ ก็จะไปนวดหน้า ทำผม ช้อปปิ้งตามเรื่องตามราว ต้องไปเลือกซื้อของให้ in trend เดี๋ยวจะตกยุค ต้องมีทุก collection ก่อนใครๆ เดี๋ยวจะเชย พอตกค่ำ ก็เตรียมแต่งตัวไปงานไฮโซไฮซ้อทั้งหลาย คนสัมภาษณ์ก็ถามต่อว่า แล้วไม่ทำงานอะไรเหรอ เค้าบอกว่าไม่ทำหรอก ไม่รู้จะทำไปทำไม ปวดหัว ทุกวันนี้เตี่ยก็มีให้ใช้เพียงพออยู่แล้ว เรื่องทำงานไม่จำเป็นในชีวิตเธอ เตี่ยกลัวเธอเหนื่อย บอกว่าเตี่ยเลี้ยงหนูได้จนตาย ไม่ต้องทำหรอกงาน เราก็คิดในใจว่า โห แล้วจะหา ผ ว ได้เหรอ ปรากฏว่ามีหนุ่มคนนึงหลงมาติดกับเธอจนได้ ตอนแรกผู้ชายมีงานประจำทำอย่างดี จำไม่ได้แน่ว่าทำงานอยู่เมืองนอกหรือเปล่า พอแต่งงานปุ๊บ เฮียก็สั่งลูกเขยเลยให้หยุดทำงาน อยู่เป็นเพื่อนลูกสาวเค้า สุดท้ายตอนหลัง สองคนเลยไม่ทำงานทั้งคู่


ป.ล. ที่เอาเนื้อความในกระทู้ดังกล่าวมาตั้งใหม่นั้น  ผมไม่ได้มีเจตนาจะดูหมิ่นหรือวิพากวิจารณ์บุคคลท่านใดทั้งสิ้นครับ  เพียงแต่เห็นว่ากระทู้มันช่วยเปิดโลกทัศน์บางอย่างของผมให้ได้เห็นอีกแง่มุมหนึ่งในสังคมให้มากขึ้นก็เท่านั้นเอง


**ขอบคุณครับ**

จากคุณ : เจไดหนุ่ม
เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 18:12:47




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com