จิบกาแฟแลหนังไทย : "เค้าเรียกผมว่าความรัก" โรแมนติกคอมมิดี้ที่รอคอย

ขออนุญาตนำรีวิวที่เขียนลงนิตยสารมาให้อ่านกันครับ

ช่วยแนะนำติชมด้วยนะครับ


เค้าเรียกผมว่าความรัก - โรแมนติกคอมมิดี้ที่รอคอย

ผมเป็นคนชอบดูหนังโรแมนติก-คอมมิดี้ครับ หรือที่เราเรียกย่อๆกันว่า "รอมคอม" นั่นแหละ ตัวอย่างหนังแนวนี้ที่ผมชอบก็ เช่น "Sexphone คลื่นเหงาสาวข้างบ้าน" "สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก" "กวนมึนโฮ" เป็นต้น และผมก็เผ้ารอว่า นับตั้งแต่ "สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก" และ "กวนมึนโฮ" จะมีหนังไทยเรื่องไหน ที่ทำให้ผมดูแล้วรู้สึกอิ่ม อิน ประทับใจ อยากดูซ้ำบ่อยๆ ได้ขนาด 2 เรื่องนี้อีกหรือไม่ การรอคอยนี้ใช้เวลานานกว่า 2 ปีรอจน 1 ในผู้กำกับ "สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก" คือ พี่วศิน ปกป้อง หวนกลับมากำกับหนังอีกครั้ง ในหนังเรื่องใหม่ที่ชื่อว่า "เค้าเรียกผมว่าความรัก" และการรอคอยของผมก็ได้สิ้นสุดลงสักที

หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่มีความแฟนตาซีมากกว่ารอมคอมทั่วไป เพราะเป็นเรื่องของ "กามเทพ" แน่อนครับพอมีคำว่า "กามเทพ" เข้ามา ในสมองก็เริ่มคิดถึงเด็กฝรั่งตัวเล็กๆมีปีก มีธนู คอยไล่ยิงศรรักให้คนรักกันแต่แท้จริงแล้ว ดูไปดูมา ไหงมันออกมาแนวคล้ายการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง "Death Note" ซะอย่างนั้น พล็อตเรื่องจากที่ได้ดูหนังตัวอย่าง ทำเอาผมหวั่นไหว ว่าจะมันจะไหวหรือ กามเทพเนี่ยนะครับ ปัจจุบันเค้ามี Social Network ใช้กันเยอะแยะ ติดต่อกันก็ได้หลากหลาย จะต้องมีกามเทพอีกหรือ? จริงๆถ้าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่พี่วศินกำกับ ผมไม่กล้าดูครับ ที่ยอมเข้าไปดูเพราะเครดิตของผู้กำกับล้วนๆ

เปิดมาหนังก็เดินเรื่องแบบ เอาแล้วไง จะรอดไหมเนี่ย เพราะช่วงครึ่งชั่วโมงแรก มันช่างเบาบาง ดูแย่เอามากๆ ตลกฝืดเพียบและคอยแทรกมาเป็นระยะๆ บอกเลยครับว่าน่าหวั่นใจสุดๆ ครับ พอผ่านไปถึงช่วงที่มีเรื่องของกามเทพเข้ามาค่อยดูดีขึ้น และดีขึ้น และดีขึ้น และ......มันดีขึ้นไปเรื่อยๆ จนพาเราเข้าไปติดในอารมณ์ของหนังซึ่งโรแมนติกมากๆ พอถึงจังหวะปล่อยของ มาเป็นชุดครับ ยิงมาเรื่อยๆ เรียกน้ำตามาเอ่อได้ตลอด ระหว่างนี้ยังหักกลับไปตลกสลับเรื่อยๆได้อีกด้วย เสียดายนิดหน่อยที่ตอนเฉลยคู่หลัก มันง่ายเกินไปนิดนึง จริงๆขยี้มาขนาดนี้ น่าจะจัดให้หนักกว่านี้ แต่พอเข้าใจครับว่า ยังมีเรื่องราวที่ต้องคลี่คลายอีกพอสมควร

ในด้านการแสดง เป้ - อารักษ์ อมรศุภศิริ ซึ่งแสดงเป็น "คิว" พระเอกของเรื่อง ผู้ซึ่งไม่ยอมบอกรักในเวลาที่บอกได้ แสดงได้ดีครับ ดูได้เพลิน พาหนังไปได้เรื่อยๆ และเรียกน้ำตาของผมมาเอ่อได้หลายฉากเลยทีเดียว ส่วนนางเอกน้องใหม่ โบ - ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชา ต้องบอกว่าบทไม่เอื้อให้แสดง
ฝีมือได้มากนักครับ ส่วนใหญ่แสดงแต่ไม่ได้มีบทพูดหรือการปะทะคารมณ์ แต่ก็ทำให้หนังดูสดชื่น สดใส น่าดู ที่สำคัญคือ หนังทำให้น้องเค้าดู สวยขึ้น สวยขึ้น เรื่อยๆ ในส่วนของนักแสดงรอง ผมชอบ แจ๊ส ชวนชื่น ครับ แสดงได้ดีเหลือเชื่อมากๆ แม้แต่บทอารมณ์คราม่า ส่วนน้าค่อม ชวนชื่น, สตาร์บัคส์
และท่านอื่นๆ ก็ทำได้ดีทั้งหมด และนักแสดงประกอบทั้งหมด ก็แสดงได้ดีครับ (เรื่องนี้นักแสดงประกอบเยอะมาก) ที่ขอชมจากใจคือ การคัดเลือกนักแสดงประกอบหน้าใหม่มาได้เหมาะสมกับบทและดูดีทุกคนเลยครับ เก่งจริงๆ

หนังเรื่องนี้ต้องชมบทครับ บางช่วงเขียนไว้ได้แบบโดนใจสุดๆ และต้องขอโทษทุกท่านด้วยว่า ขอไม่พูดไปถึงเนื้อเรื่องเพราะถ้ารู้น้อยๆก่อนดูหนังจะทำให้ดูหนังได้สนุกมากกว่าครับ ผมชอบการที่หนังบังคับบางอย่าง บังคับให้ต้องพูดคำพูดเดิมๆ ที่เคยฟังว่าขำเป็นมุกตลก แต่รอบหลังๆมันไม่ขำแล้ว ฟังแล้วจุกมากกว่า มีหลายอย่างในหนังที่กระแทกใจแรงมากๆ และเด็ดตรงที่ใช้การกระทำสื่อแทนบทพูด หนังเรื่องนี้เป็นแบบ ดูครั้งแรกฟังครั้งแรกขำ ครั้งที่ 2 อึ้ง ตอนต้นๆ ดูเชย ตอนท้ายกลับโดน ที่สำคัญ หนังเรื่องนี้ตั้งคำถามกับผู้ชมในเรื่องของความรัก การบอกรักใครสักคนมันยากหรือง่ายแค่ไหน หนังแสดงให้เห็นถึงคนทีมีอยู่ทั่วไปที่ปิดบังความรักของตัวเอง ไม่กล้าบอกรักออกไป และจริงๆแล้วคำถามสำหรับทุกๆคน กามเทพคืออะไร?

ต้องขอขอบคุณพี่วศินครับ ที่ทำให้ผมได้ดูหนังแนวที่ผมอยากดูแบบ "อิ่ม" อีกครั้ง รวมทั้งได้แง่คิดในเรื่องของความรักอีกมากมาย เชื่อเลยว่า ใครที่ยังกล้าๆกลัวๆ ที่บอกความในใจออกไป พอได้ดูหนังเรื่องนี้ น่าจะมีความกล้ามากขึ้นอีกเยอะเลย ข้อเสียของหนังก็มีบ้างพอสมควรครับ ตั้งแต่ช่วงแรกๆที่ดู "หน่อมแน้ม" ไปหน่อย การที่พระเอกได้ไปเป็นกามเทพแบบว่า...เอ่อ เล่นกันง่ายๆแบบนี้เนี่ยนะ บางช่วงของหนังที่บทดูไม่ค่อยเคลียร์ บางอย่างน่าปรับให้สมบรูณ์กว่านี้อีกนิดได้ ตอนจบที่พีคน้อยไปหน่อย แต่หนังเรื่องนี้ มันมีบางอย่างครับ บางอย่างที่ให้อารมณ์โรแมนติดมากๆๆๆๆ และบอกเลยว่า บทแบบนี้ ถ้าตัดมุกตลกประปรายทั้งหลายออกไป แล้วเน้นโรแมนติดมากกว่านี้ ฉากที่ขยี้ใจคนดู คงได้เสียน้ำตากันเป็นแถบๆแน่

ขอบ่นการ Tie-in หรือการโฆษณาแฝงของหนังเรื่องนี้นิดนึงครับ คือมันไม่เนียนเลยครับ คือน้ำดื่มกับชาเขียวนั่นน่ะ อะไรมันจะดื่มกันตลอดเรื่องเลยหรือครับ แถมกินจากขวดตลอด ปกติคนไทยทั่วไป ถ้ากินจากขวดมักจะมีหลอด แต่มันคงจะดูไม่เท่ในแง่การนำเสมอมั๊งครับ เลยดูขัดๆและเจ้าประจำบริษัทประกันน่ะ หลายเรื่องแล้วครับ ที่โฆษณาชื่อกันแบบจะๆ คราวนี้มีสโลแกนลงไปอีก อะไรจะต้องทำขนาดนั้น คนดูจะเบื่อนะครับ ทำแบบนี้กันบ่อยๆ การโฆษณาอยากให้พิจารณาถึงความรู้สึกผู้ชมด้วยนะครับว่า จะรู้สึกดีกับสินค้าของท่านหรือไม่ ตัวอย่างที่ดีของ Tie-in ในหนังไทย ตัวอย่างเช่น น้ำอัดลมในกวนมึนโฮ ที่เป็นมุกตลกส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่องอย่างแนบเนียนครับ

สรุปโดยรวม หนังเรื่องนี้ ความฮามีเรื่อยๆ ความโรแมนติกมีให้ตลอด และความซาบซึ้งนั้นมาเต็มครับ ดูแล้ว อิ่ม จุก ฟิน ประทับใจ จนพอมองข้ามข้อเสียต่างๆของหนังไปได้ หนังไม่ได้สมบูรณ์ แต่ส่วนที่ดีจนพีคของหนัง มีหลายจุดและโดนมากๆครับ เชื่อว่าจะถูกใจทั้งเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน ผู้ใหญ่ เรียกว่า โดนใจได้ทุกเพศทุกวัยแน่นอนครับ

เกรดหนัง - น่าดูมาก

ขอบพระคุณมากครับที่แวะมาอ่าน

จากคุณ	: Mr. Coffee
เขียนเมื่อ	: 29 ต.ค. 55 15:50:51