ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าหากจะย้อนไปถึงสูตรสำเร็จของหนังชุดบอนด์ แน่นอนว่าสิ่งแรกที่แฟนๆ จะต้องนึกถึงคือฉากลำกล้องปืน (Gun Barrel Sequence) ที่เลื่อนจากซ้ายไปขวาและพระเอกบอนด์ก็จะเดินออกมาถึงกลางจอพร้อมกับหันมายิงและมีเลือดไหลลงมาจากด้านบนของจอ อันเป็นสัญญลักษณ์บ่งบอกว่าความมันส์ของหนังบอนด์ตอนใหม่กำลังจะเริ่มต้นแล้ว ซึ่งหลังจากที่แดเนียล เคร็ก มารับบทเจมส์ บอนด์ 2 ครั้ง ฉากดังกล่าวล้วนแล้วแต่จะมาแนวแปลก โดยในตอน Casino Royale (2006) ฉากดังกล่าวมาปรากฏหลังจากฉากแอคชั่นเปิดเรื่องที่บอนด์สังหารสายลับหนอนบ่อนไส้สองราย และฉากลำกล้องปืนก็ปรากฏขึ้นทันที ในขณะที่ตอน Quantum Of Solace (2008) ฉากดังกล่าวไปโผล่อยู่ท้ายเรื่องหลังจากที่หนังทั้งสองตอนได้เล่าจุดกำเนิดของเจมส์ บอนด์ 007 อย่างสมบูรณ์แบบเรียบร้อย เสมือนว่าเจมส์ บอนด์ ที่ใครหลายคนเคยรู้จักได้กลับมาแล้ว ผมเองจึงคิดและคาดหวังไปว่าใน Skyfall เราจะได้เห็นฉากนี้ตั้งแต่เปิดเรื่องซะที แต่คำตอบหลังจากที่โลโก้ MGM และ Columbia Pictures ผ่านไปคือไม่ครับ ไม่มีฉากลำกล้องปืน งงอีกสิครับงานนี้ แต่ไม่เป็นไรครับ คิดซะว่ามันเป็นเรื่องของวิวัฒนาการของหนังและจินตนาการของผู้กำกับแต่ละคนไป แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 55 16:46:49 จากคุณ : Alecaster เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 16:22:46

ความคิดเห็นที่ 2 หากว่ากันตามสูตรหนังบอนด์เพื่อความเข้าใจง่ายแล้ว โดยปกติหนังบอนด์จะเปิดด้วยฉากแอ็คชั่น ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นการโชว์ความสามารถของพระเอก เปิดตัววายร้าย หรือไม่ก็เล่าเหตุการณ์สำคัญที่เป็นต้นเหตุของหนังในตอนนั้นๆ เช่นเดียวกันกับ Skyfall หนังได้เลือกหยิบเหตุการณ์สำคัญที่เป็นสาเหตุของหนังตอนนี้มาเล่าเป็นฉากแอ็คชั่น ด้วยการที่รายชื่อสายลับถูกขโมยไปจากแล็ปทอปเครื่องหนึ่ง “เจมส์ บอนด์” และเจ้าหน้าที่ภาคสนาม “อีฟ” ได้รับมอบหมายให้ไปตามล่าหัวขโมยและชิงรายชื่อกลับมา แต่ท้ายที่สุดเกิดความผิดพลาดระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ “เจมส์ บอนด์” ถูก “อีฟ” ยิงพลาดระหว่างการต่อสู้บนหลังคารถไฟ ตกลงไปสู่แม่น้ำด้านล่าง และหายไปอย่างไร้ร่องรอย จนทางการระบุว่าเจมส์ บอนด์ เสียชีวิตแล้ว ไม่เพียงเท่านั้นสถานการณ์ใน MI6 ยิ่งเลวร้ายขึ้นเมื่อ M ถูกจับตามองเป็นพิเศษจากภาครัฐที่ส่งเจ้าหน้าที่มัลลอรี่มาควบคุมกำกับการทำงาน เพราะเธอได้ปล่อยให้รายชื่อสายลับซึ่งเป็นความลับสุดยอดถูกเปิดเผย และยังเลวร้ายมากขึ้นไปอีกเมื่อกลุ่มวายร้ายสามารถแฮ็คข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของ M พร้อมทั้งระเบิดฐานบัญชาการ MI6 ที่กรุงลอนดอน ซึ่งถือเป็นการก่อการร้ายขั้นร้ายแรงอย่างถึงที่สุด จากคุณ : Alecaster เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 16:23:26

ความคิดเห็นที่ 3 แน่นอนว่าถ้าเจมส์ บอนด์ ตาย หนังคงจบบริบูรณ์ ดังนั้น หลังจากที่บอนด์ได้หลบไปใช้ชีวิตแบบสำมะเลเทเมา ณ สถานที่ใดสถานที่หนึ่งและได้เห็นข่าวว่าฐานบัญชาการ MI6 ถูกถล่มยับอย่างไม่ไว้หน้าและคาดการณ์ว่าเป้าหมายที่กลุ่มวายร้ายนี้ต้องการคือ M บอนด์จึงกลับมาจากความตายเพื่อรายงานตัวปฏิบัติหน้าที่อีกครั้ง แต่ถึงใจพร้อมก็ไม่ได้หมายความว่ากายจะพร้อมด้วย หนังจึงเล่าให้เห็นถึงสภาพร่างกายของบอนด์ที่ขนาดยิงเป้ารูปคนยังเป้าสะอาด มือสั่นเทาตลอดเวลาน่าจะด้วยอาการติดสุราเรื้อรัง ตามด้วยการทดสอบสุขภาพจิตจากการพูดคำแรกที่นึกขึ้นได้ในหัวจากคำที่จิตแพทย์พูดที่แอบมีบทให้ขำขันกันเล็กน้อยและแสดงให้เห็นถึงความรักชาติและรักในหน้าที่ของบอนด์ ก่อนที่จะลงเอยด้วยคำสุดท้ายที่แพทย์พูดคือ “Skyfall” ซึ่งบอนด์ไม่ตอบอะไรและเดินออกไป เหลือทิ้งไว้แต่ความงงงวยให้คนดู แต่ในท้ายที่สุด M เห็นว่าบอนด์มีสมรรถภาพร่างกายที่พร้อม จึงตัดสินใจส่งบอนด์ไปปฏิบัติภารกิจล่าวายร้ายที่ฉกข้อมูลลับไปและจับตัวกลับมา จากคุณ : Alecaster เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 16:24:12

ความคิดเห็นที่ 4 ในระหว่างนั้น หนังก็ได้เล่าให้เห็นการปฏิบัติงานของ MI6 ในยุคที่ต้องลบลี้หนีภัยมาอยู่ที่ฐานทัพใต้ดิน มี Q คนใหม่ที่มาส่งมอบอุปกรณ์ให้บอนด์ แต่ไม่ต้องคาดหวังครับว่าจะได้เห็นอุปกรณ์ไฮเทคที่แปลกตามาให้ชม เพราะหนุ่ม Q มีแค่ปืน Walther PPK แบบพิมพ์ลายนิ้วมือใช้ได้เฉพาะคน กับวิทยุเล็กๆไว้ติดตามตำแหน่งของบอนด์เท่านั้น (คล้ายกับอุปกรณ์ติดตามตัวในตอน Goldfinger (1964)) ขนาดบอนด์ยังบ่นว่าไฟแรงซะเปล่ากลับมีมาให้แค่นี้ แต่ Q คนใหม่นี้อาจจะไม่ได้เป็นภาพของ Q สูงอายุที่ยืนให้บอนด์กลั่นแกล้งอย่างเดียว จึงมีการต่อปากต่อคำกลับไปพร้อมทั้งจิกกัดตัวละครตัวเองในอดีตว่าที่บอนด์มองว่าเค้าไม่เก่งเพราะเค้าไม่ใส่เสื้อกาวน์สีขาวอย่างนั้นเหรอ หรือเค้าอายุน้อยอย่างนั้นเหรอ แถมยังแซวอุปกรณ์ในอดีตอย่างปากการะเบิด (ปรากฏในตอน Goldeneye (1995)) ว่าบอนด์อยากได้แบบนั้นเหรอ มันดูเชยชะมัดยาดเลย นอกจาก Q แล้วยังมีเจ้าหน้าที่มัลลอรี่ที่ดูเหมือนจะเป็นคนที่คอยตามกัดตามจิกเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของ M กับ 007 อยู่ตลอดเวลาอีกด้วย จากคุณ : Alecaster เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 16:24:48

ความคิดเห็นที่ 5 ถึงเวลาอีกครั้งที่ 007 ต้องออกไปปฏิบัติภารกิจสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต ระหว่างการเดินทางเค้าได้พบกับสาวลึกลับที่มีนามว่าเซเวอรีน ที่เปิดตัวมาซะดูน่าเกรงขามเสมือนนางพญา แต่ที่ไหนได้ถูกบอนด์จับไต๋ได้ว่าเป็นแค่นางบำเรอของวายร้ายคนสำคัญของเรื่องคือราอูล เพียงเพราะเธอเหล่ตามองบอดี้การ์ดเป็นพักๆ บอนด์จึงสัญญาว่าถ้าเธอพาไปหาราอูล บอนด์จะจัดการราอูลให้ แต่ที่ไหนได้พอบอนด์ได้พบกับราอูลซึ่งเหมือนจะคุยกันถูกคอดีเลยกลายเป็นว่าราอูลจัดการยิงเซเวอรีนตายซะงั้น หมดแล้วหน้าที่เธอ น่าสงสารจริงๆ ระหว่างการสนทนากันอย่างถูกปากถูกคอราอูลได้เปิดเผยตัวกับบอนด์ว่าเป็นอดีตสายลับที่ถูก M ส่งไปปฏิบัติงานจนถูกจับตัวไว้ โดนทรมานร่างกายอย่างทารุณ แต่ M ก็ไม่มีทีท่าว่าจะช่วยเอาตัวเค้ากลับมา ฉะนั้นเมื่อหนีเอาตัวรอดออกมาได้ จึงขอผันตัวไปเป็นคนร้ายจะดีกว่า จึงได้ปฏิบัติการฉกข้อมูลลับไป พร้อมทั้งพุ่งเป้าทำร้ายไปที่ M แต่ด้วยอุปกรณ์เก๋าๆ อย่างวิทยุแสดงตำแหน่งของ Q ช่วยชี้ตำแหน่งของ 007 ทำให้กองกำลังบุกไปรวบตัวราอูลกลับมาสอบสวนได้ จากคุณ : Alecaster เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 16:25:46

ความคิดเห็นที่ 6 แต่มีหรือที่วายร้ายระดับนี้จะยอมถูกจับตัวฟรีๆ เพราะแท้จริงแล้วมันเป็นแผนการของราอูลให้เค้าถูกจับตัวมาที่ฐานบังคับการลับของ MI6 เพื่อเจาะและก่อกวนฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ สร้างความเดือดร้อนให้ M ต้องถูกนำตัวไปให้การต่อรัฐบาล และหนึ่งในฉากที่ตื่นเต้นที่สุดของเรื่องนี้ก็ปรากฏขึ้นเมื่อระหว่างที่ M ให้การต่อรัฐบาลอยู่นั้น ราอูลและลูกสมุนก็บุกไป ณ สถานที่ดังกล่าวเพื่อสังหาร M แต่ความซวยดันไปตกที่เจ้าหน้าที่มัลลอรี่เมื่อเค้าถูกยิงบาดเจ็บที่แขน ขณะที่บอนด์เข้าไปช่วยชีวิต M ไว้ได้ทัน และถึงเวลาแล้วที่บอนด์จะทำหน้าที่ที่เค้าคิดว่าสมควรจะทำที่สุดคือการอารักขาและพา M ไปอยู่ในที่ปลอดภัย การเริ่มต้นกลับสู่อดีตจึงเริ่มต้นขึ้น...Turn back in time. จากคุณ : Alecaster เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 16:26:49

ความคิดเห็นที่ 7 หนังได้พาผู้ชมกลับสู่อดีตของเจมส์ บอนด์ โดยการให้บอนด์พา M ไปหลบภัยที่คฤหาสน์หลังเก่าของพ่อและแม่ของบอนด์ในสก็อตแลนด์ที่ชื่อว่า “Skyfall” นับเป็นช่วงที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้ในการทำหน้าที่คารวะนิยายชุดเจมส์ บอนด์ เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 50 ปีหนังชุดเจมส์ บอนด์ หากใครที่ไม่ได้เป็นแฟนที่ติดตามเจมส์ บอนด์ อย่างลึกซึ้งอาจจะเข้าใจว่าตัวละครตัวนี้ไม่ได้มีประวัติชีวิตอะไรมากมาย เป็นแค่เสือผู้หญิง บ้ายิงปืน อาชีพสายลับ มีใบอนุญาตฆ่า แต่แท้จริงแล้วเจมส์ บอนด์ ก็เป็นคนมีพ่อมีแม่เหมือนอย่างเราๆ โดยหนังได้เล่าผ่านการสนทนาระหว่าง M กับบอนด์ แบบใช้ลูกเล่นให้คนอยากศึกษากันต่อว่าทำไมบอนด์ถึงกลายเป็นเด็กกำพร้าและทำไมถึงได้กลายมาเป็นสายลับอย่างที่เราคุ้นเคย และหนังได้ค่อยๆ เปิดเผยสัญลักษณ์ชื่อพ่อของบอนด์บนปืนยาวที่ไม่ได้ถูกขายไปพร้อมกับทรัพย์สินอื่นในขณะที่บอนด์ถูกทางการระบุว่าเค้าตายด้วยตัวอักษร “AB” ที่แฟนเจมส์ บอนด์ เห็นช็อตนี้แล้วก็คงจะได้ยิ้มกัน จนกระทั่งหนังมาเปิดเผยอีกครั้งในฉากหลุมศพของพ่อและแม่ของบอนด์ซึ่งคนดูหนังทั่วไปคงจะได้รู้กันซะทีว่าพ่อและแม่ของบอนด์มีชื่อว่าอะไร ไม่เพียงเท่านั้นหนังยังพาคนดูไปพบอดีตที่เป็นสัญลักษณ์ของหนังบอนด์อีกอย่างคือรถยนต์ Aston Martin รุ่น DB5 ซึ่งปรากฏโฉมพร้อมเพลง James Bond Theme แบบคลาสสิค พร้อมด้วยอุปกรณ์ไฮเทคที่ยังอยู่ครบ แถมยังมีบทสนทนาที่แซวกันระหว่าง M กับบอนด์เรื่องเบาะข้างคนขับด้วย เรียกรอยยิ้มจากแฟนเจมส์ บอนด์ ได้อีกช็อต ถึงแม้ว่าฉากต่างๆ เหล่านี้จะเล่าในช่วงเวลาไม่นานนัก แต่ด้วยบรรยากาศของหนังในฉากดังกล่าวทำให้เราได้เห็นอดีตของบอนด์ที่ไม่ค่อยได้เห็นกันในหนังด้วยความสุขแบบเต็มอิ่มได้เป็นอย่างดี แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 55 16:46:29 จากคุณ : Alecaster เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 16:27:26

ความคิดเห็นที่ 8 และหนึ่งในฉากที่น่าจะอยู่ในความทรงจำของแฟนหนังบอนด์ตลอดไปก็มาถึงเมื่อราอูลได้ตามมาไล่ล่า M ตามแผนการที่บอนด์ได้เตรียมตั้งรับไว้ แต่ด้วยกองกำลังที่เหนือกว่าของราอูล ทำให้บอนด์ M และคินเคด ซึ่งเป็นชายสูงอายุที่คอยดูแลคฤหาสน์หลังเก่านี้ให้บอนด์ถูกโจมตีย่อยยับอย่างไม่เป็นท่าจนบอนด์ต้องให้คินเคดพา M หนีทางอุโมงค์ใต้ดินไปที่โบสถ์ ส่วนบอนด์จะคอยตั้งรับและล่อราอูลเอาไว้ แต่สุดท้ายบอนด์ก็ต้องยอมระเบิดคฤหาสน์อันเป็นอดีตที่เค้าไม่อยากจะจดจำอยู่แล้วทิ้งและตาม M กับคินเคดไป ขณะเดียวกันกับที่ราอูลก็ได้ตาม M ไป ระหว่างที่ราอูลกำลังจะยิง M นั้น บอนด์ได้มาช่วยทันและจัดการราอูลเรียบร้อย แต่ปรากฏว่า M ถูกยิงมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว และสิ่งที่บางคนคาดการณ์ก่อนหนังจะฉายและสิ่งที่แฟนหนังบอนด์ไม่คิดว่าฉากนี้จะเกิดขึ้นคือ M ได้เสียชีวิตลงในอ้อมกอดของ 007 นับเป็นอีกครั้งที่แฟรนไชส์หนังบอนด์ได้ทำร้ายจิตใจคนดูและเรียกน้ำตาลูกผู้ชายจากเจมส์ บอนด์ หลังจากที่ครั้งหนึ่งในตอน On Her Majesty’s Secret Service (1969) หนังได้พาคนดูไปพบความสุขที่สุดเมื่อบอนด์ได้แต่งงานกับเทเรซ่าด้วยรักแท้ในช่วงท้ายเรื่อง ก่อนที่ตอนจบเทเรซ่าจะถูกวายร้ายโบลเฟลด์และฟรายไลน์ เออร์ม่า บุนท์ ยิงเสียชีวิต หากเรียกเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ว่า Angel Fall คงจะไม่แปลกเลยว่าฉากการเสียชีวิตของ M ในครั้งนี้จะถูกเรียกว่า Skyfall และคงจะเป็นฉากหนึ่งในโลกภาพยนตร์ที่ถูกกล่าวถึงไปอีกนาน จากคุณ : Alecaster เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 16:28:16

ความคิดเห็นที่ 9 แต่คงต้องทำความเข้าใจต่อไปว่านี่คือหนังสไตล์สายลับ ไม่ใช่หนังดราม่า เพราะฉะนั้นหนังจึงไม่ทิ้งให้คนดูจมกับความเศร้านานเกินไป โดยการพาคนดูย้อนกลับสู่อดีตอีกครั้งและเชื่อว่าแฟนหนังบอนด์ทั้งหลายคงจะหัวใจพองโตไปตามๆกัน เมื่อฉากส่งท้ายของหนังเรื่องนี้เสมือนเป็นการพาหนังชุดเจมส์ บอนด์ กลับสู่จุดเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์แบบเมื่อ “อีฟ” เจ้าหน้าที่ภาคสนามไม่มีความเหมาะสมกับหน้าที่ดังกล่าวจนต้องกลับไปทำงานนั่งโต๊ะ โดยเป็นลูกน้องของมัลลอรี่ 007 เดินตามอีฟเข้าไปที่ห้องทำงานหลังปฏิเสธเจตนาของ M ที่อยากให้เค้ามาทำงานนั่งโต๊ะด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับแนะนำตัวกันแบบเต็มๆ ว่าเค้าชื่อ บอนด์...เจมส์ บอนด์ และอีฟแนะนำตัวเองว่าเธอคือ อีฟ มันนี่เพนนี หลังจากนั้น 007 จึงได้เดินเข้าห้องประตูสองชั้นที่คุ้นเคยเพื่อเข้าไปรายงานตัวต่อหัวหน้าคนใหม่ของเค้านั่นคือแกเร็ธ มัลลอรี่ หรือ M นั่นเอง จากคุณ : Alecaster เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 16:29:00

ความคิดเห็นที่ 10 หากพูดถึงนักแสดงที่มารับบทต่างๆ ใน Skyfall น่าจะเรียกการแสดงของพวกเค้าทุกคนว่าเป็นแบบเล่นน้อยแต่ได้เยอะ เสมือนว่าหนังเรื่องนี้จะแตกต่างจากหนังบอนด์ตอนก่อนๆ ที่มักจะโฟกัสให้บอนด์พาผู้ชมไปกับเนื้อเรื่อง แต่ในเรื่องนี้ทุกคนได้ออกมาเฉลี่ยทำหน้าที่ที่ตัวเองต้องทำเพื่อพาหนังไปสู่ตอนจบ แดเนียล เคร็ก รับบทเจมส์ บอนด์ ที่ใกล้เคียงเจมส์ บอนด์ ที่ผู้ชมคุ้นเคยมากยิ่งขึ้นกว่าสองภาคก่อน ส่วนฮาเวียร์ บาเด็ม ได้ทำให้ราอูลกลายเป็นวายร้ายที่น่าจดจำที่สุดตัวหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะมีมิติของตัวละครไม่มากมาย แต่ด้วยการแสดงของฮาเวียร์ บาเด็ม ได้ช่วยส่งตัวละครตัวนี้ได้เป็นอย่างดี นับว่าเป็นโชคดีของทีมงานที่ได้ยอดนักแสดงคนนี้มารับบท เพราะถ้าเป็นนักแสดงคนอื่นอาจทำให้บทนี้จมหายไปได้ดื้อๆ ขณะที่ทีมสนับสนุนอย่างบิล แทนเนอร์ และ Q ได้มีบทบาทเยอะขึ้นกว่าตอนก่อนๆ ทำให้รอรี่ คินเนียร์ และเบน วิสชอว์ ได้แสดงบทบาททางอารมณ์มากขึ้นและทำได้เป็นอย่างดี ส่วนสาวเบอนีซ์ มาโล ไม่ได้ทำอะไรมากมายในหนัง เพราะทำหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์หนังเยอะกว่าบทบาทการแสดงของเธอ สาวนาโอมิ แฮร์ริส อาจจะมีหลายความเห็นว่าเธอเหมาะสมหรือไม่กับบทสำคัญบทนี้ แต่ถ้าว่ากันด้วยตาเห็นไม่กี่ฉากที่เธอออกมาถือว่าเธอได้ทำหน้าที่เป็นอย่างดี โดยเฉพาะฉากสุดท้ายที่แอบเห็นเคมีที่เข้ากันระหว่างเธอกับแดเนียล เคร็ก ที่น่าจะชวนให้คนดูได้สนุกสนานกันไปอีกนาน และที่สำคัญคือในหนังเธอดูสวยกว่าในใบปิดประชามสัมพันธ์เยอะเลย ขณะที่ราล์ฟ ไฟน์ส คงไม่มีใครที่จะปฏิเสธฝีมือการแสดงของเค้า ถึงแม้จะคุ้นตากับบทตัวร้ายมากกว่าก็ตาม แต่ฉากสุดท้ายในห้องทำงานสุดคลาสสิค เค้าเหมาะสมกับบท M ด้วยประการทั้งปวง และคนสำคัญคนสุดท้ายที่จะลืมไม่ได้คือเดม จูดี้ เดนช์ ไม่มีอะไรที่จะพูดมากไปกว่า คุณจะอยู่ในความทรงจำของแฟนหนังเจมส์ บอนด์ ตลอดไป จากคุณ : Alecaster เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 16:30:26

ความคิดเห็นที่ 11 ในภาคของดนตรีประกอบนั้น Skyfall ได้โทมัส นิวแทน มาทำหน้าที่แทนเดวิด อาโนลด์ จึงอาจจะทำให้เพลงประกอบระหว่างดำเนินเรื่องนั้นแปลกหูไปบ้างพอสมควร แต่ก็ยังไม่ถึงกับละทิ้งกลิ่นอายของเจมส์ บอนด์ไปเสียทีเดียว เพลงประกอบภาพยนตร์ Skyfall ที่ขับร้องโดย Adele เข้ามาสอดรับกับเนื้อหาของภาพยนตร์ได้อย่างชัดเจนที่สุด ในขณะที่ได้ฟังครั้งแรกยังไม่เข้าใจเลยว่าเพลงตั้งใจจะสื่ออะไร แต่พอชมภาพยนตร์จบก็ได้ถึงบางอ้อกันเลยทีเดียว ดนตรีของเพลงนั้นก็ชวนให้นึกถึงเพลงประกอบหนังบอนด์ยุคเก่าๆได้สมกับเป็นการฉลองครบ 50 ปี แต่จะมีติดใจก็ตรงงานด้านโลเกชั่นและโปรดัคชั่นที่ภาคนี้คงจะไม่ได้ลงทุนมาก แต่น่าจะทำออกมาให้ดูลงทุนกว่านี้ซะหน่อย โดยเฉพาะสองฉากเด่นที่เห็นชัดมากว่าถ่ายในสตูดิโอก็ได้และไม่ค่อยเก็บรายละเอียดคือฉากที่บอนด์อยู่ในตึกที่เซี่ยงไฮ้และฉากคาสิโนที่บอนด์ขึ้นเรือไปพบกับเซเวอรีน โดยข้อด้อยดังกล่าวนั้นได้อาศัยข้อด้อยอีกข้อช่วยคือความมืดของภาพและฉากต่างๆ ที่มืดจนแทบมองไม่เห็นอะไร จากคุณ : Alecaster เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 16:31:03

ความคิดเห็นที่ 12 อย่างไรก็ตาม Skyfall ก็ได้พาคนดูมาเริ่มต้นในจุดที่คุ้นเคยอีกครั้ง ทำให้หนังเจมส์ บอนด์ กลับเข้าที่เข้าทางอีกครั้ง สร้างมิติของตัวละครต่างๆ ให้เพิ่มมากขึ้นซึ่งนับว่าเป็นสัญญาณที่ดีของหนังบอนด์และอาจจะเป็นการเรียกผู้กำกับมือฉมังมาสานต่อแฟรนไชส์หนังเรื่องนี้ได้อีกครั้ง ดังที่อัลเบิร์ท อาร์. บร็อคโคลี่ อดีตผู้สร้างหนังบอนด์ได้เคยสอนบาบาร่า ลูกสาวของเค้าไว้ว่า...หากวันใดที่ลูกถึงทางตัน คิดอะไรไม่ออก หรือทำไม่ได้อย่างที่หวังแล้ว ให้ย้อนกลับไปหาสิ่งที่เอียน เฟลมมิ่ง เคยทำไว้ นั่นจะเป็นจิตวิญญาณของเจมส์ บอนด์ ปล. ฉากลำกล้องปืนไปโผล่ตอนท้ายเหมือนตอน Quantum Of Solace อีกครั้งครับ แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 55 19:36:01 จากคุณ : Alecaster เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 16:35:55

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณสำหรับข้อมูล คับ จากคุณ : zido เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 17:01:49

ความคิดเห็นที่ 14 มานั่งพับเพียบฟังสปอยล์ด้วยความเต็มใจ พร้อมกับภาวนาให้หนังเข้าที่ญี่ปุ่นเร็วๆ จากคุณ : โมลี เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 17:04:31

ความคิดเห็นที่ 15 สุดยอดเลยครับ จากคุณ : แซม วิทวิคกี้ เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 17:40:20

ความคิดเห็นที่ 16 M ที่รักเราดูคุณมาตั้งแต่เราเด็กๆ จนคิดไปแล้วว่า M จะเป็นคนอื่นไม่ได้ จากคุณ : plug_dogzaa เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 17:47:41

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่ได้เป็นแฟน 007 นะครับ แต่ผมดูแล้วหลับ หนังมันดราม่าเกินไปมั้ง ผมอยากได้ 007 สมัย Pierce Brosman เล่นมากกว่า ขอบคุณจขกท.ครับ ทำให้ผมเข้าใจหนังได้มากขึ้น จากคุณ : kanstk เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 18:01:36

ความคิดเห็นที่ 18 เอาแบบดิบๆห้าวๆแบบ craig ก็ได้อยู่นะฮะ ... แต่หนังกลับละเลยอารมณ์ทั้งฉากแอ็คชั่น กึ๋นตัวร้าย ดราม่าm ในช่วงท้ายไปหมดสิ้น มันเลยได้แค่ "แค่เนี๊ยะเองหรอ" จากคุณ : Barca'naL_uffy เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 18:11:43

ความคิดเห็นที่ 19 จขกท. นะครับ :-) จริงๆ แล้วโดยส่วนตัวผมก็มองว่าหนังเรื่องนี้รีบจบไปแบบตัดความสำคัญของตัวละครที่ปูมาเหมือนกันนะครับ แต่ความรู้สึกนั้นมันดันถูกกลบด้วยความรู้สึกที่ว่าโฟกัสมันไปอยู่ที่ความสัมพันธ์ของบอนด์ M และการย้อนกลับไปที่อดีตมากกว่าจะมาเน้นเรื่องการปราบตัวร้ายน่ะครับ เลยพยายามเข้าใจหนังว่ามันต้องการอย่างนี้ ฮ่าๆ จากคุณ : Alecaster เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 18:26:37

ความคิดเห็นที่ 20 กับ สไปเดอร์แมน ภาคล่าสุดอันแย่กว่ากันครับ จากคุณ : คนมุก เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 18:36:29

ความคิดเห็นที่ 21 ดีนะ ตอนที่บอนด์แกซิ่งมอไซค์บนหลังคาในอิสตันบูล ไม่ผ่าไปชนพี่ Clive Owen ของเราเข้า ( ดูแล้วแอบคิดถึงหนัง The International ) จากคุณ : azurite เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 18:39:02

ความคิดเห็นที่ 22 ความเห็นส่วนตัวเทียบกับ The Amazing Spider-Man ผมว่า Skyfall ดีกว่านะครับ ดีกว่าเยอะด้วยครับ แต่อย่างว่านะครับ แล้วแต่คนชอบครับ :-) จากคุณ : Alecaster เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 18:41:28

ความคิดเห็นที่ 23 เขียนดี ขอบคุณครับ จากคุณ : ratmo_11 เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 18:45:15

ความคิดเห็นที่ 24 แต่ผมชอบ อเมซสไปดี้ มากกว่า งับ ^^ จากคุณ : Barca'naL_uffy เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 18:53:54

ความคิดเห็นที่ 25 ผมชอบภาคนี้ครับ จากคุณ : bigwores เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 18:58:26

ความคิดเห็นที่ 26 บอนด์ที่เราคุ้นเคยจะกลับมาแล้ว จากคุณ : หน่วยอาชาเหล็ก เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 19:11:35

ความคิดเห็นที่ 27 จบไร้สาระมากครับ ผู้ร้ายจากเก่งมาโง่เลย ภาคนี้ไม่มีฉากเิปิดลำกล้อง?? มีแต่มองทะลุรูกระสุน หรือคือๆกัน จากคุณ : kopbirt เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 19:31:21

ความคิดเห็นที่ 28 สองภาคแล้วที่ฉากยิงปืนไปอยู่ท้ายเรื่อง จากคุณ : หน่วยอาชาเหล็ก เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 20:15:17

ความคิดเห็นที่ 29 ชอบฉากเปิดตัวราอูล เดินมาจากลิฟต์ เล่าเรื่องหนูในถังน้ำมัน มาเรื่อยแบบไม่คัตเลย มาจบตรงหน้าบอนด์พอดี ผมว่า ตัวร้ายแกออกตุ๊ดนิดๆนะ จากคุณ : ผู้โดยสารสาย169 เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 20:31:07

ความคิดเห็นที่ 30 ผมว่ามันก็ไม่ได้แย่ถึงขนาดนั้นนะ ป.ล. ผมชอบฉากเพลงskyfallที่ขึ้นมาหลังจากบอนด์โดนอีฟสอยร่วงมากเลย แต่เซ็งนิดหน่อยว่าบอนด์ถึกเวอร์ไป แบบว่าโดนยิงร่วงลงน้ำตก แล้วก็ขึ้นมากินเหล้า แคะกระสุนออก ตอนยิงเป้ามือสั่นยิงไม่โดน แต่สู้จริงก็ยิงโดน(มันเป็นสัญชาติญาณสินะ) ป.ป.ล เสียดายรถมากๆเลย ขนาดบอนด์เห็นรถพังยังขึ้นอ่ะ แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 55 20:40:26 จากคุณ : Transcendence เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 20:31:08

ความคิดเห็นที่ 31 ดูช่วงฉากท้ายๆ รู้สึกเหมือน 007 กลายเป็นหนังคาวบอยไปเลย 555 จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 20:31:58

ความคิดเห็นที่ 32 ชอบมาก จากคุณ : รักทะเล เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 20:33:02

ความคิดเห็นที่ 33 ผมกลับชอบภาคนี้มากกว่าเวอร์ชั่นเพียร์ซ บรอสแนนอีกนะ อันนั้นดูเด็กน้อยไปเลย แต่ผมก้ขัดใจบางฉากนะ อย่างปืนวอลเทอร์<สะกดถูกป่าวอะ>เอามาโชว์ครั้งเดียวแล้วก้หายไป จากคุณ : winteach เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 21:46:52

ความคิดเห็นที่ 34 เราว่า  ภาค Skyfall อันนี้ สนุกค่ะ  ตัวร้ายก็ดูจิตดีค่ะ  บางทีแอบนึกถึงโจ๊กเกอร์เลย ไม่เหมือนตอน  Quantum Of Solace   อันนั้นดูแล้วจะหลับเลยค่ะ จากคุณ : ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 22:28:40

ความคิดเห็นที่ 35 ชอบภาคนี้ครับ สนุกดี จากคุณ : คนไทยในต่างมุม เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 22:56:14

ความคิดเห็นที่ 36 ชอบภาคนี้นะ เหมือนจะเรื่อยๆแต่กับมีชั้นเชิงบ้าง แต่ฉาก M กับตอนจบ ทำไม่ค่อยดีเท่าไร จากคุณ : iColour_Fully เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 23:16:09

ความคิดเห็นที่ 37 ตั้งแต่ดู 007 มาหลายตอนชอบภาคนี้ที่สุด ดูแล้วค่อยสมกับเป็นจารชนสายลับจริงๆ ดุเดือด มันส์มาก พระเอกเหมาะกับบทมากๆ เลย ไม่หล่อ แต่เสน่ห์แกเหลือล้น และหุ่นดีมากๆ >_< จากคุณ : yamara-tee เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 23:24:43

ความคิดเห็นที่ 38 อ่านเพลินดีค่า  ชอบๆๆ ^^  แต่ติดนิดนึงตรง น่าจะเว้นบรรทัดหน่อยนา อิอิ  คือ ข้าพเจ้าอ่านแล้วตาลายเบาๆ แต่ไม่เป็นไรค่า อ่านได้อยู่ๆ  ปล. ตั้งแต่ดูแฟนพันธุ์แท้เจมส์ บอนด์ กับการได้มาอ่านที่กระทู้ดีๆแบบนี้  ชักอยากจะไปเก็บเกี่ยวหนังภาคก่อนๆมาดูบ้างแล้วววว ^^  จากคุณ : DaRaDoRa เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 23:49:50

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ ^_^ จากคุณ : Alecaster เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 00:55:30

ความคิดเห็นที่ 40 มีส่วนที่ชอบมาก แล้วก็ส่วนที่ขัดใจนิดๆหน่อยๆนะคะ ส่วนที่ขัดใจก็พวก - คาแรกเตอร์ Q เปิดมาแต่ไม่ปิด ตกลงจะเนิร์ด แต่ คูล หรือ เนิร์ดแล้วเอ๋อแล้วเอ๋อเลยกันแน่ ไม่เห็นมันโชว์คูลตอนไหนเลย ตอนงมทางใต้ดินก็เป็นตัวบอนด์เองที่ใช้ประสบการณ์ไล่ตามคนร้ายได้มากกว่าเทคโนโลยี - เปิดประวัติบอนด์ซะเยอะเชียว ฉากสุดท้ายจะว่าอลังการก็ไม่เชิง บู๊มันส์มาก แต่ขัดใจ บอนด์อึดเวอร์ ไม่มีเหนื่อย ไม่มีหอบอะไรเล้ยยย ตกน้ำแข็งก็ขึ้นมาปามีด ชัวะ ชนะ = ='' (ตรูว่าแล้วว่าต้องมีด) - ตัวร้ายมาดเก๋มากกก เป็นไบฯ แต่ ไม่น่ากลัวเลยสักนิด ดูเป็นเด็กขาดความอบอุ่นมากกว่า คนโรคจิตสยดสยองจนเซเวอรีนต้องพูดถึงด้วยความหวาดเสียวขนาดนั้น แต่ข้อดีก็มีเยอะอะค่ะ บู๊มันมาก ซาวดนห์เท่ห์มาก ภาพก็สวย งานอาร์ตสะใจมาก โดยเฉพาะฉากในตึกกระจกที่เซี่ยงไฮ้ มันส์โคดๆ จากคุณ : SICKHEART เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 02:19:52

ความคิดเห็นที่ 41 วิจารณ์ได้ดีนะครับ แต่ขออนุญาต จขกท.แนะนำ เรื่องการพิมพ์น่ะครับ อยากให้ เว้นวรรคกว้างกว่านี้ และก็ ตัดเข้าบรรทัดมากกว่านี้ นิดนึงครับ น่าจะทำให้อ่านได้ง่ายขึ้นนะครับ เท่าที่อ่านตอนนี้ อ่านยากนิดนึงครับ เอ๊ะ หรือผมแก่แล้ว จากคุณ : พุงพลุ้ย เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 03:06:39

ความคิดเห็นที่ 42 มึนกับความพยายามในการผนวกบอนด์สองยุคเข้าด้วยกัน หลายๆ ฉากโอเคในตัวมันเอง แต่ผนวกรวมกันเป็นภาพรวมแล้วไม่เข้ากันเท่าไหร่ (เหมือนโดนเขย่าโดยไม่ได้คน) แต่พอตอนจบมีโลโก้ ครบรอบ 50 ปี เท่านั้นแหล่ะ เข้าใจสารของหนังทันที Happy Anniversary นะครับ (แต่อย่ามาปนเปแบบนี้บ่อยนะ ภาคนี้ยกให้ เพราะ นี่คือการตีตั๋วมาฉลองวันเกิด/ครบรอบ 50 ปีของหนังบอนด์นี่เอง) แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 55 07:41:22 จากคุณ : JoJo A-Go!Go! เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 07:40:59

ความคิดเห็นที่ 43 วิจารณ์ได้ดีนะคะ :) สำหรับเราหนังก็โอเคนะ ชวนให้คิดถึงยุคเก่าๆ วันนี้กำลังไปดูรอบที่สองค่ะ ----------------- ฉากที่เผลอกรี๊ดออกมาคือ รถบอนด์ ฮ่าๆ คิดถึงรุ่นเก่าๆแต่เก๋าจริงๆ แต่ก็กรี๊ดอีกรอบตรงรถโดนทำลาย ฮือๆเสียดายจริงๆ จากคุณ : ช้อนขนมหวานตักไอติม เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 11:03:15

ความคิดเห็นที่ 44 สนุกมากเลยค่ะ ได้ทุกอารมณ์เลยจริงๆ จากคุณ : เรียนช่างก็สวยได้ เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 14:05:14

ความคิดเห็นที่ 45 แต่สิ่งที่ผมแอบฮาในภาคนี้นะ เมื่อนึกถึงหนังล้อเลียนบอนด์อย่างAustin Powersที่ล้อมุขClassic อย่างนึงคือ ตอนที่จับตัวเจมส์ บอนด์ได้แทนที่จะรีบฆ่าๆให้จบไปซะ ชอบพร่ำเพ้อ พรรณา จนสุดท้ายก็เสียท่าเองซึ่งใน Skyfall มีสถานการณ์แบบนี้2-3ครั้ง แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 55 19:14:57 จากคุณ : -zzz- เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 19:13:53

ความคิดเห็นที่ 46 ชอบมากครับรู้สึกว่ามีครบทุกอารมย์ จากคุณ : Destiny-Boy เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 11:37:22