"ตั๊ก-บงกช"ควง"เจ้าสัวบุญชัย"ทำบุญทอดกฐินสุดชื่นมื่น
|
|
จากกรณี นางเอกสาว ตั๊ก บงกช คงมาลัย ออกมายอมรับเตรียมประกาศหมั้นกับมหาเศรษฐีหมื่นล้าน นายบุญชัย เบญจรงคกุล เจ้าสัวใหญ่วัย 58 ปี ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทสัมปทานให้กับเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบดีแทค หลังจากคบหากันมาได้ระยะหนึ่ง โดยจะเข้าพิธีหมั้นกันในวันที่ 19 พ.ย.ที่จะถึงในปี2555นี้ และเตรียมที่จะเดินแผนชีวิตเข้าประตูวิวาห์ภายในปีหน้า 2556 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า วันนี้ (5 พ.ย.) ที่วัดป่าฉัพพรรณรังสี อ.จตุรัส จ.ชัยภูมิ นางเอกสาวชื่อดัง ตั๊ก-บงกช คงมาลัย ได้ควง เจ้าสัวหมื่นล้าน นาย บุญชัย เบญจรงคกุล ว่าที่คู่หมั้น หรือที่ตั๊กเรียกสั้น ๆ ว่า "พี่ใหญ่" พร้อมคุณแม่ ธนาภา ชีพนุรัตน์ และรุ่นพี่ที่สนิท อ้วน รีเทิร์น มาร่วมทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2555 เนื่องจากคุณแม่ตั๊กเป็นประธานทอดกฐิน ทั้งหมดเดินทางมาจากกรุงเทพโดยรถตู้ จำนวนหนึ่ง โดยตั๊กและนายบุญชัยนั่งรถตู้สีบลอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ฌน 28 ยี่ห้อโตโยต้า อัลพาร์ด ส่วนแม่ของตั๊กและอ้วน รีเทิร์น นั่งรถตู้สีขาวป้ายแดง หมายเลขทะเบียน น 4738 ยี่ห้อโตโยต้า อัลพาร์ด เช่นเดียวกัน ซึ่งเมื่อมาถึงวัดตั๊กและเจ้าสัวก็นั่งรับประทานอาหารที่ทางวัดจัดไว้ให้อย่างเป็นกันเอง ระหว่างนั้นก็มีชาวบ้านมาขอลายเซ็นตั๊กและนายบุญชัย พร้อมขอถ่ายรูปเป็นระยะ อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่นั่งตัวติดกันและเวลาไปไหนมาไหนก็จะคอยจับมือกันตลอด
ทั้งนี้เวลาประมาณ 10.00 น.ได้มีการแห่กฐินรอบศาลาการเปรียญ ทั้งคู่ถือผ้าไตรเดินวนรอบโบสถ์ 3 รอบ บรรยากาศค่อนข้างคึกคักสนุกสนาน เนื่องจากมีชาวบ้านในละแวกดังกล่าวและพื้นที่ใกล้เคียงมาร่วมแห่เป็นจำนวนกว่า 1 พันคน หลังจากนั้นทั้งคู่ได้ทำพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพพรหมเทวดาจุดเทียนชัย พร้อมทำพิธีอธิษฐานจิต วัตถุมงคล ปลุกเสกเดี่ยว โดยพระครูปลัดสุริยัณ จนุทณุโณ เมื่อเสร็จพิธีทุกอย่าง ตั๊กและนายบุญชัยพร้อมคุณแม่ธนาภา ก็เดินทางกลับกรุงเทพทันที
หลังจากเสร็จพิธีทุกอย่างแล้ว ทั้งคู่ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์พร้อมกันเป็นครั้งแรกกับ โดยนายบุญชัย กล่าวถึงความรู้สึกที่มาร่วมทอดกฐินด้วยกันว่า ตนรู้สึกดี การได้มาอยู่ร่วมกันหรือการทำอะไรด้วยกันก็จะสบายใจ ส่วนใหญ่สถานที่ที่พบปะกันก็จะเป็นการไปวัด ทำบุญ เพราะจะชวนกันง่ายหน่อย ตอนนี้ทุกสื่อจับตามองก็รู้สึกเห็นใจตั๊ก เพราะบางทีก็มีมุมมองที่ไม่ยุติธรรมให้เขา ที่ทำให้เขาเครียด
ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องการที่ตั๊กแสดงหนังและต้องเล่นฉากเลิฟซีนหวือหวานั้น รู้สึกหึงหวงบ้างหรือไม่ เจ้าสัวหมื่นล้านกล่าวว่า ตนไม่รู้สึกหึงหวงอะไร เพราะมันเป็นวิชาชีพของเขา เรามองในมุมของการแสดง เขาเป็นคนที่มีความสามารถ ตนดูหนังของเขาหลายเรื่อง แต่ตนไม่เคยออกไอเดียในการทำหนังให้เขา เพราะตนเคยทำหนังมา 1 เรื่อง แล้วไม่ประสบความสำเร็จ คือเรื่อง "ขุนรอง ปลัดชู" ตอนนั้นยังไม่รู้จักตั๊ก ถ้ามีโอกาสก็จะเอาหนังที่เคยทำมาดูกัน หลังจากที่เขาหมดภาระเรื่องต่าง ๆ แล้ว คุณตั๊กรู้จักคนในวงการทั้งหมด ทั้งฝ่ายกำกับ ฝ่ายเสียงและจัดจำหน่าย คงจะเอาหนังทั้งก้อนนี้มาทำใหม่และเอาไปฉายในโรงภาพยนตร์ หนังที่ทำขึ้นมาก็อยากให้คนไทยได้ดู แต่ครั้งนั้นมันพลาด เพราะตนเปิดบริษัท บีบี พิคเจอร์ส
ต่อข้อถามที่ว่าในอนาคตจะให้ตั๊กมาดูแลบริษัทนี้แทนหรือเปล่า นายบุญชัย กล่าวว่า ไม่ เพราะตั๊กก็มีกิจกรรมและกิจการของเขาอยู่แล้ว ตัวบริษัทมันไม่เท่าไหร่หรอก มันอยู่ที่ว่าเราถนัดทำอะไร เพราะผมเป็นคนชอบสารคดี ตั๊กเองก็ชอบเหมือนกัน จากนั้นผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่า ที่ความรักลงตัว เพราะชอบอะไรเหมือนกันใช่หรือไม่ เจ้าสัวหมื่นล้าน กล่าวว่า มีหลาย ๆ ส่วน เพิ่งจะรู้จักกันเดือนเดียวเอง จะไปบอกว่าชอบเหมือนกันทุกอย่างไม่ได้ แต่ว่าโดยพื้นฐานแล้ว เรื่องที่สำคัญต่อชีวิตเรานั้นคุยกับเขาได้ ผมชอบปฏิบัติธรรม เชื่อในเรื่องโลกหน้า และก็มีครูบาอาจารย์ศรัทธาองค์เดียวกัน คือ หลวงพ่อสด ที่ผ่านมาคบกันไม่มีทะเลาะกัน อาจจะมีช่วงหลังที่มีแรงกดดันทำให้ตั๊กเหนื่อย แต่เราก็เข้าใจ ผมจะนิ่ง ๆ มากกว่า ส่วนเรื่องช่องว่างระหว่างวัยคงไม่มี เพราะผมทำตัวเด็ก
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า ตั้งแต่คบกันมาทำเซอร์ไพร้ส์ตั๊กบ่อยไหม นายบุญชัย กล่าวว่า ไม่มี เพราะว่าความโรแมนติกไม่ต้องเซอร์ไพร้ส์ มันอยู่ที่สิ่งที่เราทำหลาย ๆ อย่าง บางครั้งก็เป็นที่อยู่ในชีวิตอยู่แล้ว ตนเป็นคนชอบศิลปะและทำงานศิลปะ เช่น การวาดรูปเขาไม่ได้ตั้งใจจะให้โรแมนติก แต่ความรู้สึกคือ ผมไม่ได้วาดรูปมา 38 ปีแล้ว มันแต่ทำธุรกิจ แล้วพอตนมาวาด ผมจะวาดใคร เอาเป็นว่าตนใช้ความประทับใจ มองหน้าเขาคุยกับเขาแล้วก็มาวาด ผมไม่อึดอัดที่โดนจับตามอง เพราะเชื่อว่าตัวเองไม่มีข้อบอกพร่อง
สำหรับเรื่องเรือนหอบนเนื้อที่ 32 ไร่นั้น เจ้าสัวหมื่นล้าน กล่าวว่า ตอนนี้เรือนหอรอดูว่าจะพัฒนาที่ดินอย่างไร อาทิตย์หน้าจะคุยกับสถาปนิก เรา 2คนชอบต้นไม้ ก็จะทำเป็นต้นไม้ล้อมบ้าน สวนเยอะ ๆ เพราะเราอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่างานที่เขาหรือผมทำ งานก็คล้าย ๆ กัน หลังจากเรือนหอสร้างเสร็จผมจะให้แม่ของตั๊กมาอยู่ด้วย เพราะเขามีแม่อยู่คนเดียว ส่วนเรื่องได้มีโอกาสทานน้ำพริกแม่ของตั๊กบ้างหรือไม่ น้ำพริกยังไม่มีโอกาสได้ทาน แต่สั่งไว้แจกงานหมั้นแล้ว เอาไว้แจกผู้ใหญ่และสื่อมวลชน ปกติไม่ค่อยถนัดทานน้ำพริกเท่าไหร่ ถามว่าจะมีการดึงตั๊กมาช่วยงานบ้างหรือไม่ ก็คงไม่ต้องดึง แต่ถ้าผมแสดงความเห็นแล้วเขาฟัง หรือ เราแสดงความเห็นแล้วเขาฟัง ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่ทำตัวเป็นผู้รู้เพราะงานไม่เหมือนกัน
ต่อข้อถามที่ว่า นอกจากเรื่องธรรมะแล้ว จุดที่คุยกันแล้วคลิกที่สุดคือเรื่องอะไร เจ้าสัวหยุดคิดสักครู่ แล้วกล่าวว่า "คงเป็นวิธีการปฏิบัติธรรม การนั่งสมาธิ เราปฏิบัติแบบเดียวกัน เวลาคุยกันก็เข้าใจ หลาย ๆ อย่างในวิถีชีวิตเราคล้าย ๆ กัน ในวงการบันเทิงอาจจะบอกว่าตั๊กเหวี่ยง ๆ แต่ในวงการโทรคมนาคม เวลาผมให้สัมภาษณ์แล้วใครมายอกย้อน ผมก็เหวี่ยงเหมือนกัน" จากนั้นผู้สื่อข่าวถามแทรกว่า ภาพตั๊กที่ผ่านมาดูแรง ทำไมถึงกล้าจีบตั๊ก นายบุญชัย กล่าวว่า "ทีมที่ผมใช้ให้ไปขอลายเซ็นตั๊กที่บ้าน เขาไปเห็นรูปหลวงปู่สดเต็มบ้าน เขาก็มาบอกผม ผมเลยกล้าคุยกับเขาและเชิญเขามาที่พิพิธภัณฑ์"
นายบุญชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับเรื่องการมีทายาทนั้น อยากมีคนสืบทอดในเรื่องความศรัทธาด้านศาสนา ถ้ามีอีกคนก็สืบทอดทางธุรกิจและเอาเงินมาอุปฐากศาสนา อยากให้นามสกุล "เบญจรงคกุล" อยู่คู่กับพุทธศาสนา ตอนนี้ยังไม่ได้วางแผนว่าจะมีเมื่อไหร่ มันอยู่ที่เรา 2 คน ถ้าเราอยาก เราก็มีดีกว่า ถามว่าตอนนี้เตรียมงานหมั้นไปถึงไหนแล้ว เอาให้เรียบง่ายที่สุด ตั๊กเป็นคนมีชื่อเสียง เป็นดารา อายุน้อย ผมเป็นนักธุรกิจ และประสบการณ์ชีวิตผ่านมาหลายครั้ง ถ้าคนพบเราไปเที่ยวกัน 2 คน ก็จะมองในมุมลบ น้องเขาจะเสีย อย่างเก่งก็ถูกมองว่าเป็นเพลย์บอย เลยคิดว่าถ้าเราหมั้นเราจะได้มีสักขีพยาน ญาติผู้ใหญ่ของเขาจะได้ไม่เพ็งเล็งว่าผมเป็นพ่อพวงมาลัย
เจ้าสัวหมื่นล้าน กล่าวต่อไปว่า ส่วนเรื่องสินสอดนั้น แม่ของตั๊กบอกไม่ต้องมี เอาแหวนมาอย่างเดียว ก็ไปสั่งเพชรมาทำพิเศษ ของไม่บอกว่ากี่กะรัตอยากให้ไปดูวันงาน ข้อดีของคู่เราคือ ไม่ยึดติดวัต:-)ิ่งคนมองเขาอย่างนั้นว่าแต่งกับคนแก่กว่าทำไม ก็อย่าไปทำให้มันเข้าทางเขา เราก็อยู่ของเรา แฮปปี้มั้ยเพชรแค่นี้ ใส่ได้ทุกวันมั้ย ไม่ใช่ใส่ก้อนหินก้อนหนึ่ง เอาที่ขนาดกำลังดี ที่เหลืออยู่ที่ดูแลกัน มันไม่ได้อยู่ที่แหวน ผมไปงานแต่งงานที่เขาทุ่มทุนสร้างมหาศาลมาหลายงานแล้ว แต่อยู่กันไม่ถึงปี ไอ้ชุดแต่งงานชุดละล้านที่ต้องไปตัดนิวยอร์ค อันนั้นฉีกทิ้งไปเลย งานนี้จะเรียบง่ายที่สุด และประคองให้ดีที่สุด บรรยากาศงานคงเน้นไทย ๆ ญาติผู้ใหญ่ของตั๊กมาจากสุพรรณบุรีทั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า อีกถึง 2 อาทิตย์จะหมั้นแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้าง นายบุญชัย กล่าวต่อไป ตื่นเต้นครับ ถามว่ามีแฟนเด็กต้องหมั่นตรวจเช็คร่างกายหรือเปล่า ไม่หรอกครับ ผมทำตัวเด็ก (หัวเราะ) โยคะอาทิตย์ละ 2 ครั้ง เข้าห้องยิม 3 ครั้ง ออกกำลังกายเองอีก 1 ครั้ง จากนั้นผู้สื่อข่าวถามแทรกต่อไปว่า บอกรักตั๊กบ่อยไหม เจ้าสัวตอบอย่างอารมณ์ดีว่า "บอกรักบ่อย แต่เขาไม่ค่อยเชื่อ ทางด้านเขาก็มีบอกรักกลับมาบ้าง"
ด้าน ตั๊ก กล่าวว่า สำหรับเรื่องการเตรียมตัวเข้าพิธีหมั้น ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก ส่วนใหญ่เน้นทำบุญกันมากกว่า เพราะเป็นช่วงทอดกฐิน ที่เลือกมาวัดนี้เนื่องจากแม่รู้จักกับหลวงพี่ที่นี่ แม่ทำบุญที่นี่เป็นประจำ หลวงพี่สอนธรรมะและเวลามีปัญหาก็คอยให้คำปรึกษา เป็นหลวงพี่อีกองค์ที่นับถือ ถามว่าฤกษ์หมั้นได้จากที่นี่หรือเปล่า ก็ได้จากหลาย ๆ แห่งซึ่งก็ให้ตรงกันว่าวันที่ 19 พ.ย.นี้ฤกษ์ดี สำหรับเรื่องที่มีข่าวว่าชุดหมั้นจำนวนหลักล้าน ไม่ใช่หลักแสนอย่างที่เป็นข่าว ก็คิดว่าไม่น่าจะถึง ใช้ผ้าไหม จ.ลำพูน โดยพี่โจ้ เซอร์เฟส เป็นคนตัด ก็พับละประมาณ 4 แสน ซึ่งผ้าไหมพวกนี้แพงอยู่แล้ว แต่เน้นความพอดี ไม่ต้องราคาแพงมากมาย จริง ๆ แล้วทุกอย่างจะศักดิ์สิทธิ์ได้อยู่ที่เรา 2 คนมากกว่าว่าเราคบกันจะซื่อสัตย์ต่อกันและกันหรือไม่ และจะให้อภัยกันและกันในยามมีปัญหาได้หรือเปล่า
ต่อข้อถามที่ว่า ที่ผ่านมาทำความรู้จักกันมาได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว มีปัญหาอะไรในเรื่องการปรับตัวหรือไม่เพราะต่างก็อยู่กันคนละวงการ นางเอกสาวชื่อดังกล่าวว่า ต่างกันเยอะเหมือนกัน แต่พี่ใหญ่เป็นคนใจเย็น แต่ที่ผ่านมาก็ไม่ทะเลาะกัน พอคบกันแล้วคลิกกันทุกอย่างลงตัวเราก็สบายและมีความสุข สำหรับกรณีที่หลายคนจับจ้องว่าเป็นซินเดอเรลล่านั้น ขอขอบคุณทุกคนมากที่มองว่าเป็นนางเอกซินเดอเรลล่า แต่จริง ๆ แล้วชีวิตจริงไม่ใช่ ยังทำงานอยู่ เพียงแต่ได้รักกับคนมีบุญ มีธุรกิจฐานะมั่นคง คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า หลังแต่งงานตั๊กจะจดทะเบียนหรือไม่ เพราะที่ผ่านมามีข่าวออกมาหลายกระแสว่าจดบ้างไม่จดบ้าง ตั๊ก กล่าวว่า "เรื่องนี้ต้องถามฝ่ายชายมากกว่า เราก็หวงนามสกุลตัวเอง จริง ๆ แล้วตั๊กไม่อยากจดทะเบียน เพราะตั๊กเชื่อว่าพี่ใหญ่เลี้ยงตั๊กได้อยู่แล้ว และการจดทะเบียนก็เป็นแค่กระดาษ มันก็ไม่ได้สำคัญอะไร สิ่งที่สำคัญก็คือ พี่เขาจะเป็นแบบนี้ตลอดไปหรือเปล่า ตั๊กถึงบอกเขาเสมอว่าไม่อยากจดทะเบียน เพราะตั๊กไม่อยากจะไปรับรู้เรื่องอะไรที่เซ็นซิทีฟอ่อนไหวมาก ๆ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่โตและทุกอย่างก็ไม่ใช่ของเรา เราไม่จำเป็นต้องจดกันได้ ไม่จดก็รักกันได้ ที่พี่ใหญ่พูดว่าแต่งงานเมื่อไหร่จดทันที เหมือนเป็นการให้เกียรติเรา เขาเป็นคนดี ตรงนี้ตั๊กถึงได้รักเขา จริง ๆ คนก็มักจะถามว่าทำไมถึงชอบกัน ก็เขาเป็นคนดี เขาชอบงานศิลปะเหมือนที่ตั๊กชอบ วัน ๆ เราอยู่ด้วยกันก็นั่งดูภาพวาด ไปนั่งคุยกับอาจารย์ศิลปะ คุยกันรู้เรื่องมีความสุข"
หลังจากพิธีหมั้นถามว่าพี่ใหญ่จะมีโปรแกรมไปเที่ยวต่างประเทศหรือไม่ นางเอกสาวกล่าวว่า ยังค่ะ เพราะพี่ใหญ่ต้องทำงานเยอะ เขารักครอบครัวและพี่น้องเหมือนเรา และก็ต้องดูแลแม่ เราอยู่เมืองไทยก็มีความสุขแล้ว ยังเที่ยวเมืองไทยไม่ครบเลย แต่ก่อนหน้านี้เคยคุยกันว่าจะไปประเทศอินเดีย เพราะอยากไปไหว้พระบรมสารีริกธาตุกัน ก็มีแนวโน้มว่าอาจจะไป จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า ใกล้จะถึงวันหมั้นแล้วตื่นเต้นบ้างหรือไม่ นางเอกสาวกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ตื่นเต้นค่ะ พิธีหมั้นจริง ๆ ก็เป็นแค่พิธี จะศักดิ์สิทธิ์ได้ก็อยู่ที่เราศรัทธาหรือเปล่ามากกว่า แต่พิธีหมั้นก็ต้องมีเพื่อความเหมาะสมและถูกต้องตามจารีตประเพณี ขอแค่ให้เราอยู่ด้วยกันและเข้าใจกันตลอดไปก็พอ ถ้าไม่มีพิธีเขาก็ยังอยู่กับเราอยู่ดี คิดแค่อยากจะทำให้เราสบายใจ เวลาพี่ใหญ่เครียดจากงานมาจะดูแลพี่เขาอย่างไรมากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า ใกล้จะเข้าพิธีหมั้นแล้ว ตั๊กคิดจะเตรียมตัวเป็นแม่บ้านแม่เรือนโชว์เสน่ห์ปลายจวักเองเลยไหม ตั๊ก กล่าวอย่างอารมณ์ดีกว่า "ใช่ค่ะ คิดจะไปเรียนทำอาหารฝรั่งมาก เพราะพี่ใหญ่ชอบทาน เรื่องอาหารไทยให้แม่สอนได้ แต่ยังไม่ได้ดูเลยว่าจะไปเรียนที่ไหนดี คงต้องให้พี่ใหญ่เลือกสถานที่ให้ ตั๊กค่อนข้างซีเรียสเรื่องนี้ แต่พี่ใหญ่บอกว่าไม่ต้องหรอก ไปหาทานเอาเองก็ได้"
ข่าวจาก : เดลินิวส์ http://www.dailynews.co.th/entertainment/164933
จากคุณ |
:
Dear Nostalgia
|
เขียนเมื่อ |
:
6 พ.ย. 55 18:09:44
|
|
|
|