อีก 1 เสียงความเห็นหลังดู Twilight breaking dawn part 2 (โคตรคุณพ่อ)
|
|
หนังเรื่องไหนตั้งตารอมันต้องวันแรกเท่านั้นถึงจะได้ feel หลายคนบอกทไวไลท์มันหนังผู้หญิง ดราม่าจ๋า โชว์กล้ามกับคู่พระนาง เรื่องของเรื่องที่ผมติดคือ อ่านวรรณกรรมมาก่อน แล้วสนุกมาก อินมาก เขียนดีมาก เลยติดตามภาพยนต์ ภาคนี้เนี่ย... คือภาค...คุณพ่อตัวอย่าง
ไว้คราวหน้าจะเขียนถึงภาคแรก พูดถึงภาค 5 นี้เนี่ย... พูดถึงช่วงเวลาที่สร้างครอบครัวของแวมไพร์ (กับหมาป่าอีกติ๊ดนึง) แล้วเกิดเหตุที่ส่อจะผิดกฏกับพวกโวลตูรี พระนางมีลูก ลูกของแวมไพร์ปกติจะโดนกำจัดเพราะมันจะไม่โต เด็กตลอดกาล สอนไม่ฟัง หิวตลอด รักษาความลับไม่ได้ แต่ลูกเกิดตอนนางเอกเป็นมนุษย์ ก็เลยไม่อมตะ โตได้ (แปลว่าจริงๆแล้วไม่เป็นภัย) ก็เลยเกิดขัดแย้งกับโวลตูรีที่เข้าใจผิด เกือบจะต้องฆ่ากันนั่นเอง จบ
สำหรับฉากเลิฟซีน...ฉากจู๋จี๋จ้องตาเอ็ดเวิร์ดกับเบลล่า...ผมเบื่อแล้ว มันซ้ำมาให้เห็นทุกภาค จนไม่อินแล้ว ดีที่สุดของภาคนี้คือ 1.ฉากแอ็คชั่นท้ายเรื่อง ทำได้ดีเกินคาด เกินกว่าในหนังสือมาก จะเคยเห็นมุขนี้แล้วในเรื่อง NEXT (ซึ่งกากได้โล่) ถ้าเป็นฉากต่อนตีกันธรรมดาคงน่าเบื่อ ดูหนังเป็นร้อยเป็นพันเรื่องก็เห็นมาแทบทุกรูปแบบ แต่เนื่องจากนี่เป็นภาค 5 ที่ปูตัวละครมายาวนานให้คนผูกพันธ์ อินกับความสัมพันธ์แต่ละคน ก็จับมาฆ่าทิ้งกันเล่นๆให้ดูเลย...แบบว่าฆ่าแมร่งเลย ผมสะดุ้งเลย....เอางี้เลยเหรอวะ (1.เข็มขัดสั้น ไม่เหมือนในหนังสือ ทุกคนปลอดภัย 2.เพราะเสี่ยงมากที่จะฆ่าตัวละครเล่นแล้วพยายามไม่ให้จบแบบหดหู่ ซึ่งไม่เหมือนในหนังสือ ) การที่ผู้กำกับเล่นแบบนี้ ทำให้ตรึงคนดูมาก ผมก็ถูกตรึงว่า มรึงพากรูขึ้นหิ้งไปกับหนังแล้ว ตอนจบหาบันไดลงให้เจอนะมรึง ก็นั่งดูนั่งลุ้น เอ้า...ตายห่ากันเข้าไป (ถึงมุกฆ่ากันจะมีแค่หัวหลุดซะส่วนมากจนหลังๆชักดูพิกลๆ) ปรากฏว่า เมื่อไปถึงฉากสิ้นสุดของการต่อสู้ เฉลยแล้ว ถึงกับเงิบกันทุกคน ไม่ได้ติงต๊องเหมือน NEXT มีเหตุมีผลให้เล่นฉากฝันแบบนี้ ปล1.จริงๆการต่อสู้แทบจะไม่เกิดขึ้นเพราะสิ่งที่เข็มขัดสั้นอย่างเดียวคือ เบลล่ามีเกราะ ทำให้พวกโวลตูรีใช้พลังพิเศษอะไรไม่ได้ คือสู้ได้เพราะเบลล่า แต่ความจริงแผ่เกราะได้กว้างเป็นสนามฟุตบอลเลยนะ ไม่ใช่ครอบทีละคน(เห็นเกราะก็ไม่ชัด) ปล2.เบลล่าหน้าสวยจริง แต่อ้าปากทีไร ไอ้ฟันกระต่ายยื่น 2 ซี่ของคุณมันดึงความสนใจผมมาก กลายเป็น ตลกไปเลย...ไปหั่นออกเถอะครับ
ตลกที่สุดคืออาโรเปลี่ยนท่าทีทันควันบอก "ที่นี่ไม่มีอันตราย" (เพราะตูหัวขาดไปแล้ว) เออ อันนี้ฮาจริง นี่เป็นที่มาของคำว่า เปลี่ยนความคิด ชีวิตเปลี่ยนนะครับ ฮาๆ
2.โคตรพ่อชาลีย์ ผมอินมาตั้งแต่ภาคแรก พ่อที่รักลูกสุดหัวใจ น่าสงสารที่สุดเพราะคนที่รักเนี่ย หายตัวไปหลายครั้ง ไม่บอกกล่าว บอกก็บอกไม่หมด ยังทรมานจนถึงภาคนี้ การสูญเสียอะไรไปแบบดื้อๆ มีโอกาสให้ฟุ้งซ่านสติแตกคิดไปเองสูง ชาลีเป็นแบบนี้มาหลายภาคแล้ว แต่ยังคงรักเบลล่าเสมอ มันอินตรงนี้
และโคตรพ่อคาไรร์ ไม่ต้องพูดอะไรมาก มันเห็นกันชัดๆในหนังอยู่แล้ว เป็นตัวละครที่เรียกได้ว่า ถ้ามีปัญหา คนนี้พึ่งพาได้ทุกเรื่องเลยว้อย ฉลาด เท่ สมาร์ท สุขุม คำพูดเฉือดเฉือน เป็นมิตร ทรงพลัง ผู้นำ เยือกเย็น สุภาพ มีสติ รอบคอบ รักครอบครัวสุดชีวิต บลาๆๆ %$#&()^*_#_+!@ คือเท่ตั้งแต่ภาคแรกยันหัวขาด ตาเหลือก เอาซะใจร่วงไปอยู่ตาตุ่ม ถือว่าทำถูกแล้วที่เอาตัวละครที่มีมิติ มีคนเชียร์เยอะขนาดนี้มาฆ่าแกงกันเล่น ฉากหายากแบบลงตัวโหดๆสะใจแบบนี้ ส่งผลให้หนังเรื่องนี้ ฝังในสมองส่วนหน้าของผมเรียบร้อย
นอกจาก 2 เรื่องนี้แล้ว ประเด็นเรื่องอื่นอ่อนไปซะหมด ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารของเรเนสเม่ เรื่องเจคอบกับเรเนสเม่ ซึ่งเป็น theme หลักของ 2 ภาคนี้ด้วยซ้ำ ทำได้ผ่านๆมากเฉยสนิท ผมยังคงยืนยันว่าภาคแรกยังเป็นภาคที่ ลงตัวโดยรวมมากที่สุด สนุกที่สุด แต่ภาคนี้ สนุกที่สุดในฉากแอ็คชั่น และโดยรวมมากกว่าภาค 2 3 4 แน่นอน
ไปดูในโรงก็คุ้มครับกับฉากแอ็คชั่น สะเทือนใจ ดูอีกรอบก็พอไหว ถ้ายังทนเลิฟซีนเฉิ่มๆของพระนางได้
จากคุณ |
:
society6600gt
|
เขียนเมื่อ |
:
16 พ.ย. 55 10:45:08
|
|
|
|