ความคิดเห็นที่ 1 ผมว่าเรื่องฝีมือการวาด แน่ใจหรอว่ามีกันเห็นแต่ละเรื่อง exe แต่หละภาพ มีดที่ 13 ภาพสวยแต่วางองค์ประกอบในรูปไม่เป็น ส่วนเรื่องของการเล่าเรื่อง ผมว่าของไทยเจ๋งดีนะ exe เนื้อเรื่องผมว่ามันพอๆกับ sao เลย orge king ก็อีกเรื่องเนื้อหาน่าติดตามมาก แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 55 23:13:26 จากคุณ : โสดนะจ๊ะ เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 23:12:52

ความคิดเห็นที่ 2 แต่อนิเมบ้านเราเขาเน้นแค่แบบ3Dที่ใช้CGเป็นส่วนใหญ่ ผมอยากให้อนิเมไทยเราทำแบบ 2D บ้างจังภาพที่ใช้ลายเส้นในการเคลื่อนไหว จากคุณ : sesshomaru เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 23:14:51

ความคิดเห็นที่ 3 มันก็ค่อยๆพัฒนาขึ้นไปตามยุคสมัยแหละครับ ค่อยดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าหวังแบบจะเท่าหรือเข้าใกล้ญี่ปุ่นตอนนี้ได้ อย่างไวสุดอาจจะสัก 20 ปี (ป่านนั้นญี่ปุ่นก็คงไปไกลกว่านี้แล้ว ถ้าประเทศมันไม่จมทะเลไปก่อนอ่ะนะ) จากคุณ : สารหนู (Espionage) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 23:22:05

ความคิดเห็นที่ 4 โอริณ กับ จิณนา อนาคต การ์ตูน 2D ของไทย จากคุณ : LordofDarknessz เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 23:22:33

ความคิดเห็นที่ 5 ฝีมือคนไทย ไม่ธรรมดาแน่นอนครับ แต่.... ขาดผู้สนับสนุน และเข้าใจ เพราะสังคมบ้านเรา มองของพวกนี้เป็นของสำหรับเด็กอยู่ จากคุณ : FreedomTaro เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 23:26:27

ความคิดเห็นที่ 6 สำหรับผม ไม่มีทางและไม่จำเป็นครับ บ้านเราเต็มที่ให้ตลาดเปิดกว้างกว่านี้ก็ถือว่ายากมากครับ เราควรไปเน้นพัฒนาบุคคลมากกว่า เต็มที่ก็ควรทำAnime ของเราเองซักเรื่อง เพื่อกระตุ้นให้ ญี่ปุ่นสนใจเรื่องที่เราแล้วนำManga ในประเทศไปขยายต่อประเทศเขา  ซึ่งต่อไปแล้วอาจนำไปทำAnime ต่อก็ได้ ควรหาทางส่งออก manga ไปสร้างความนิยมประเทศเขาแล้วทำเป็นAnime แล้วส่งคนไปพัฒนาเรื่อยๆ จะโตได้ดีกว่าครับ จริงๆบ้านเราคนฝีมือสูงผมว่าเยอะนะ แต่เจอตัวเลขการสร้าง+ตลาดที่จะขายแล้ว เข้าเนื้อเห็นๆ เลยไม่มีคนเสี่ยงเท่าไหร่ ทำเป็น Movie ก็เต็มกลืนแล้วครับ จากคุณ : ปีโป้รสมะนาว เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 23:34:17

ความคิดเห็นที่ 7 ผมว่ายากถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจัง(สุดๆๆๆๆๆๆ) เพราะที่ญี่ปุ่น Manga กับ Anime มันคือองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ครับ ส่วนบ้านเรายังเบลอภาพกันอยู่เลย >_< จากคุณ : บอนตะคุง เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 23:36:21

ความคิดเห็นที่ 8 บ้านของเราไม่ใช่ประเทศที่ทำวงการนี้เป็นอุตสาหกรรมแบบญี่ปุ่นนะครับ ได้ฟังมาจากพี่ว่า มีโรงเรียนสอนนึง (จำชื่อไม่ได้) เปิดสอนเรื่องการวาดภาพเพื่อนำไปใช้ในอนิเมชั่น แล้วก็มีทางค่ายจากญี่ปุ่น (เห็นว่ามีน้ำยาล้างจานด้วย) ได้ส่งงานมาขอให้ช่วยวาดให้ อย่างเช่น Aqualion Evol เนี่ยแหละ ภาพบางตอน (อย่างในภาพนี้) คนไทยวาดไปให้ทั้งนั้น แสดงให้เห็นว่าคนไทยก็มีฝีมือไม่แพ้ต่างประเทศ เพียงแต่ยังขาดแรงสนับสนุน ( เคยเปิดเจอใน หน้าหนังสือ แต่นึกไม่ออกว่าชื่ออะไรนะครับ ) จากคุณ : Blackrx เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 23:39:17

ความคิดเห็นที่ 9 "จะมีสักกี่ประเทศ  ที่ตามญี่ปุ่นทัน?"   กระทู้ก่อนๆเคยมีคนตอบประมาณนี้ค่ะ จากคุณ : aonton เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 23:39:49

ความคิดเห็นที่ 10 ถามว่าเป็นไปได้มั้ย ผมว่าเป็นไปได้ครับ แต่ผมก็เห็นด้วยกับ คห 6 คือ เราไม่จำเป็นต้องพัฒนาวงการ anime ให้เทียบเท่าญี่ปุ่น จากคุณ : pookpooi เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 23:40:43

ความคิดเห็นที่ 11 เอามาใส่เล่นๆ อีกผลงานที่คนไทยได้มีส่วนร่วมในด้าน Digital Work ( ถ้าหันไปดันฝั่งเราเองก็ไม่ยากเย็นเลย ) จากคุณ : Blackrx เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 23:47:11

ความคิดเห็นที่ 12 ในภาพรวมคงยากที่จะทันครับ เหตุผลก็มาจากทั้งฝีมือ เทคนิค ขนบธรรมเนียมวัฒนธรรม และขนาดของตลาด แต่ถ้าจะดูรายบุคคลก็ไม่แน่ครับ อาจจะมีใครสักคนพัฒนาฝีมือตัวเองให้เทียบเท่าได้เหมือนกัน ปล.หมายถึงมังงะเท่านั้นนะครับ อนิเมไม่ค่อยรู้ข้อมูล แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 55 00:08:42 แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 55 00:08:21 จากคุณ : SATOSAN เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 00:07:46

ความคิดเห็นที่ 13 ที่จะตามเค้าให้ทันมันไม่มีทางหรอก  คนไทยไปทำงานญี่ปุ่นเลยยังจะง่ายกว่า ทำไงได้ประเทศนี้ คนเก่งสมองไหลออกนอกประเทศหมด อยู่ที่นี่ก็ดีแต่โดนขัดขา คนสนับสนุนก็น้อย แค่ไม่มีความเป็นไทยในภาพ ก็โดนค่อนคอดแล้ว จากคุณ : น้องเป้ลูกแม่หนิง เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 00:12:21

ความคิดเห็นที่ 14 ตัดใจเถอะขอรับ พวกผู้ใหญ่+สังคมบ้านเรา ไม่ยอมรับการมีตัวตนของวงการนี้ขอรับ (ผมก็ไม่หวังอะไรเรื่องนี้กับประเทศนี้แล้ว) จากคุณ : Yuusai_Zombolt เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 00:38:20

ความคิดเห็นที่ 15 มีดที่ 13 เนื้อเรื่องมันส์ดีออกครับ ต้องลองอ่านดู สู้กันสนุก จุดพีคๆ ของเรื่อง ผมว่าสู้กันมันส์กว่าพี่ยุ่นเยอะเลยนะ แต่แค่มันดรอปๆ ในบางช่วง จากคุณ : VinceOSK เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 00:41:26

ความคิดเห็นที่ 16 ตลาดบ้านเราก็ค่อยๆขยายขึ้น กลุ่มอายุของคนดูอนิมะก็ค่อยๆเพิ่มขึ้น รออีกซักสิบปี อาจจะมีอะไรเปลี่ยนไปจากวันนี้ก็ได้ หวังว่านะ... จากคุณ : Minamin เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 00:49:43

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่าศัดยภาพคนไทยทำได้ครับ เพียงแต่ว่าเค้าไม่ทำกัน เนื่องจากไม่คุ้มเสียมากกว่า ตลาดเล็ก แถมผู้ลงทุนหรือผู้สนับสนุนยังไม่เพียงพออีกต่างหาก ส่วนใหญ่หันไปเน้นตลาดการ์ตูนเด็ก เน้นทำ 3D ภาพสวยๆเสียมากกว่า ผมเองยังมองว่า น่าจะมีใครทำ Animation แบบ 2D แต่เน้นภาพสวยๆไปเลยแบบของญี่ปุ่น ก็น่าจะมีคนสนใจอยู่ แต่อย่างว่าตลาดคนกลุ่มนี้มันเล็กถ้าเทียบกับทำการ์ตูนเด็ก ไม้เน้นเรื่องราวสมจริงมากมายนัก ส่วนเรื่องจะตามทันหรือไม่นั้น ผมว่ายากนะ มากๆด้วย เทคโนโลยี ฝีมือ ตลาด ญี่ปุ่นเค้าทำกันเป็นอุตสหากรรมขนาดใหญ่จนเป็นวัฒนธรรมของประเทศไปแล้ว ซึ่งเราไม่ต้องตามให้ทันอยู่แล้ว เพียงแค่ขอให้มันเดินหน้าไปเรื่อยๆ ก็น่าสนใจดีนะครับ จากคุณ : หมูกระเทียม+ไข่ดาว เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 01:16:35

ความคิดเห็นที่ 18 แค่เรื่องลายเส้นยังด่ากันเลย.....กี่ปีๆ ก็มีพวกแอ็บรักชาติมาจิกกัดตลอด  สภาพสังคมก็บอบบางอะไรนิดหน่อยก็กระทบศีลธรรม  ถมดำทำเบลอ ใครวาดสวยๆหน่อย  ลอกเส้น  , แม่มญี่ปุ่นมาเชียว , ไม่มีความเป็นไทย , แม่มก็อปแนว ไม่มีเอกลักษณ์ , ญี่ปุ่นจ๋าเลยนะเมิง  ,  บลาๆ จากคุณ : Dek Chan เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 01:18:41

ความคิดเห็นที่ 19 ผมไม่ได้สบประมาทนะ...แต่วิเคราะห์ตามสถานการณ์เท่าที่ดูการ์ตูนมามากกว่า20ปี ตอนนี้แวดวงหนังสือการ์ตูน ภาพยนตร์การ์ตูนในบ้านเรา ยังสู้ที่ญีั่ปุ่นเมื่อ 30ปีก่อนไม่ได้เลยครับ ทรรศนะคติของคนในวงการโทรทัศน์ หนังการ์ตูน เป็นเพียงส่วนเกินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้และเรตติ้งของทีวีในหลายๆช่อง เช่น...บางช่องจากที่เคยฉาย 2-3ชั่วโมงต่อวัน เหลือเพียง 30นาทีต่อ 1-2วัน มองการ์ตูนเป็นเรื่องของเด็ก มักง่ายตัดโน่นตัดนี่... +ระบายความไม่พอใจลงในการ์ตูนที่ฉาย สังเกตุได้จากการเซ็นเซอร์ฉากหลายๆฉากจนมันมากเกินไป.... ไม่เข้าใจว่าจะจัดเรตไปทำไม เพราะ 13+ กับ ด. ก็เซ็นเซอร์พอกัน... วงการหนังสือการ์ตูน มีการพัฒนาขึ้นมาเยอะกว่าก่อน ในแง่ของการตลาด เปิดกว้างให้คนวาดการ์ตูน หรือคนทีมีเรื่องน่าสนใจ ได้มีโอกาสอวดผลงานให้คนทั่วไปได้รับรู้ วงการหนังการ์ตูน... ปัจจุบันคนทำอนิเมชั่นมักหวังสูงเกินไปในเรื่องรายได้และกระแสตอบรับ บทในเรื่องไม่มีการพัฒนาให้เข้มข้นขึ้น เน้นจบไปเป็นเรื่องๆ ดูจบก็จบแค่นั้น น้อยเรื่องนักที่จะมีบทให้คนดูกลับไปฉุกคิดต่อ หรือจูงใจให้กลับมาดูซ้ำอีกครั้ง ในแง่ผู้ของพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่มีแต่จะถอยหลังเข้าคลองไปทุกๆวัน ขาดความเข้าใจ ขาดการดูแลเอาใจใส่ลูกหลาน ไม่มีการพร่ำสอน แนะนำ ตักเตือน ให้ความรู้ เวลาเด็กอ่านหรือดูการ์ตูนเหมือนสมัยก่อน... ปล่อยปะละเลยจนเกินควร สอนลูกหลานในทางที่ผิดในการซื้อหาการ์ตูนที่ผิดลิขสิทธิ์   มีอะไรก็โทษแต่การ์ตูน หรือช่องทีวี ส่วนสังคมของคนดูอนิเมในไทยก็เหมือนจะเสื่อมๆ เลียนแบบแต่สิ่งไม่เหมาะไม่ควร อะไรดีๆไม่เคยเอาเยี่ยงอย่างกัน ปากบอกว่าตัวเองรักอนิเม รักตัวการ์ตูน แต่การกระทำ...ไม่เลย  มิหนำซ้ำยังไปด่าทอ ขู่เข็ญบริษัทนำเข้าอนิเมอีก เวลามีการจัดอีเว้นท์อนิเมต่างๆ ก็ไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับผู้จัดงาน ไม่เคารพสถานที่ และ รวมถึงปัญหาแผ่นผีซีดีเถื่อน ที่ผู้่มีหน้าที่ปราบปรามโดยตรง ไม่ยอมทำงาน...กลับเปิดทางให้มิืจฉาชีพมาหากิน และมาปราบปรามกันเอง ....แม้จะมีผู้แจ้งเบาะแสถึงขนาดถ่ายคลิปร้านจำหน่าย สถานที่เก็บ-ผลิตซีดี/ดีวีดีเถื่อน แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า จากคุณ : Uon เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 01:25:52

ความคิดเห็นที่ 20 เคยมีคนเอามาลงให้ดูครับ อาจจะยังไม่เทียบเท่ากับต่างประเทศ แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนับสนุนครับ จากคุณ : KangpiYoa เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 02:56:53

ความคิดเห็นที่ 21 อนิเมชั่นทุนสูงกว่าทำหนัง ทำละครมากมายครับ ค่าอนิเมเตอร์ ค่าคนวาดแบ็คกราวด์ ค่าคนวาดสตอรี่บอร์ด ค่าบท ค่ากำกับ ค่าห้องตัด ค่าห้องมิกซ์เสียง ค่าคนพากย์ และค่าข้าวทีมงาน ค่าน้ำ ค่าไฟสตู และปัญหาที่สำคัญคือโปรดิวเซอร์ที่มุมมองแคบคิดว่าอนิเมชั่นคืองานสำหรับเด็ก จากคุณ : ERWA เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 03:01:34

ความคิดเห็นที่ 22 ตราบใดที่สังคมยังมองว่าการ์ตูนเป็นเรื่องเฉพาะของเด็ก ก็ไม่มีวันเจริญได้หรอกครับ มังงะยังพอไปได้ พอใช้แรงคนและแรงเงินไม่มาก ยังพอมีช่องทาง แต่อนิเมที่ต้องใช้แรงคนแลพแรงเงินอย่างมาก ไม่มีหวัง กี่เรื่องที่ทำมา ต้องมีเนื้อเรื่องสำหรับเด็กเท่านั้น จากคุณ : นายขนมหวาน เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 04:04:37

ความคิดเห็นที่ 23 หมดหวังกับประเทศไทยครับ แค่นี้ก็เจอกระแสพวกผู้ใหญ่ ไม่สนับสนุนไม่พอ ยังเอาเรื่องเอกลักษณ์ของไทยใส่ไปด้วย จำกัดขอบเขตแบบนี้ก็ไม่มีวันเจริญครับ สำหรับวงการนี้.........ความคิดบ้านเรามันแคบด้วย จากคุณ : PromZero เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 04:12:26

ความคิดเห็นที่ 24 ได้อยู่แล้วเดี๋ยวก็หมดเจนผู้ใหญ่ครูช้าง กลายเป็นเจนเด็กติดเกมออนไลน์ คลั่งเกาหลี ตอนนั้นประเทศไทยคง"เจริญ"กว่านี้ จากคุณ : หยำฉา (Vladio V Velmoth) เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 07:23:21

ความคิดเห็นที่ 25 ขนาดละครไทยที่ว่าไทยเน้นๆยังทำให้ดีเหมือนต่างประเทศเขาไม่ได้เลย ้ (แค่ซาวด์ประกอบฉากก็คิดเองไม่เป็น ได้แต่ใช้ของเก่าหมุนเวียน ไม่ก็ไปดึงจากหนัง,เกมส์หรืออนิเมะมา) จะให้หวังเรื่องการ์ตูนคงยากกว่า แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 55 08:10:09 จากคุณ : Patsuki เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 08:09:18

ความคิดเห็นที่ 26 ต้องมีใครสักคนไปดังที่ญี่ปุ่น ดังแบบว่าระดับวันพีชด้วยนะ แล้วสื่อในประเทศจะเริ่มสนใจ การลงทุนจะเพิ่ม ตลาดเติบโต จากคุณ : GrooVe_(t -_-)t เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 08:42:18

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าลดความคลั่งชาติ หยุดเหยียดผลงานคนอื่นด้วยข้ออ้างสารพัด หรือเพิ่มเปอร์เซนต์การทำกำไรในสายตานายทุนไม่ได้ก็อย่าหวังเลยครับ ปล. คนที่พิมพ์ว่าสิ้นหวังประเทศไทย ระวังมีคนกระโดดข้ามบอร์ดมาถรุยใส่นะครับ /me ปั่นโดจินและทำงานต่อไป แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 55 09:04:01 จากคุณ : BlackBible เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 09:02:47

ความคิดเห็นที่ 28 สุดท้ายก็จบที่ อ่านสแกน โหลตบิท...แผ่นก๊อปแม่สาย -w-' จากคุณ : A... เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 09:58:37

ความคิดเห็นที่ 29 ฝีมือการวาดมังงะ ผมเห็นหลายคนวาดออกมาดีพอๆ กับญี่ปุ่น แต่ความสร้างสรรค์ตัวละครนี่ยังไม่ไหวครับ ประมาณสร้างตัวเอกที่คนอยากติดตาม เคยเจอแต่แบบวาดเป็นคนธรรมดาเล่าเรื่อง แบ่งช่องนี่หลายเรื่องทำได้ดีจนเป็นเรื่องปกติแล้ว ไม่เหมือนช่วงแรก ดูไม่รู้เรื่อง แต่แย่ที่สุดที่ดูไม่พัฒนาเลยคือเนื้อเรื่อง เนื้อหายังไม่เข้มข้นน่าติดตาม พวกแนวคนธรรมดา เดินเรื่องแบบทั่วๆ ไป มีตลก หรือเรื่องผี พวกนี้สู้ญี่ปุ่นยาก แต่ในไทยคนอ่านมีเยอะ มีดที่ 13 ตอนแรกออกมาดีมากเลย แต่ผ่านมาเป็นสิบปีเนื้อเรื่องกับภาพไม่พัฒนา เนื้อเรื่องแต่ละตอนน้อย ต่อสู้พร่ำเพรือ ช่องใหญ่ ที่น่าจะดีสุดแล้วแข่งกับญี่ปุ่นได้ คือ อภัยมณีซาก้า ภาพกับเนื้อเรื่องดีมาก แต่พอเข้าช่วงสินสมุทร ก็ไม่ได้อ่านต่อ ภาพไม่สวย เนื้อเรื่องอืด ตัวละครไม่น่าสนใจ เรื่องอื่นก็มีลองหาเช่ามาอ่าน ดูแล้วพัฒนาช้ามาก ถ้าพัฒนามังงะให้ติดตลาดไม่แพ้ญี่ปุ่น อนิเมะก็น่าจะมีคนออกมาลงทุนให้ คนรุ่นอายุ 30 กว่าตอนนี้รับช่วงงานต่อจากพ่อแม่กันเยอะ แต่ละคนก็ชอบอ่านมังงะ ถ้าตลาดนี้บูมเมื่อไหร่ มีคนออกมาลงทุนแน่นอน จากคุณ : Kahathanan เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 10:21:18

ความคิดเห็นที่ 30 อาจเป็นไปได้ ถ้า พี่โต้ เป้นผู้ว่ากรุงเทพ 555+ จากคุณ : Thedew เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 11:15:56

ความคิดเห็นที่ 31 ถ้าเรื่องฝีมือ การวาดเฉยๆ ผมเคยเห็นผลงานของคนไทยที่วาดเล่นๆ แต่สวยระดับนักวาดอาชีพในญี่ปุ่นมาแล้ว เพียงแต่เจ้าตัวถือคติว่าวงการนี้ในไทยมันเกิดยากเลยเอาเวลาไปทำงานประจำและวาดรูปประกอบเป็นงานเสริมแทน ... วงการการ์ตูนถ้าไม่ติดว่าต้องใส่ความเป็นไทย ต้องมีพระ มีโน่นนั่นนี่ ให้ไทยจ๋าๆ มันก็น่าจะไปไกลกว่านี้แหล่ะครับ ที่สำคัญถ้ามองยาวไปถึงอนิเมชั่นแล้ว ยังไม่มีค่ายไหนเอามาทำเป็นธุรกิจเต็มตัวได้เลยนี่ครับ ไม่นับปังปอนด์กับจ๊ะทิงจาอะไรนั่นนะ - -. จากคุณ : Delclaw เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 11:26:59

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้าแค่ฝีมือการวาดระดับมืออาชีพ ระดับ ม ปลาย เก่งๆก็พอแล้วครับ เนื้อเรื่องและการนำเสนอ นั่นแหละที่ต้องพัฒนา จากคุณ : aqualine เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 12:54:35

ความคิดเห็นที่ 33 ผมคิดว่าไม่จำเป็นที่เราจะต้องพัฒนาเรื่องนี้ในตอนนี้นะ ตอนนี้ ไม่ได้มองว่ามันไม่ดี แต่ผมคิดว่ามันไม่คุ้ม คือต้องยอมรับว่าตลาดการ์ตูนญี่ปุ่นครองไปจะครึ่งโลกแล้ว ถ้าเราจะตามให้ทันเพื่อแย่งพื้นที่ตรงนั้น ต้องถามว่าหากใช้งบประมาณประเทศเพื่อผลักดัน หรือมีนายทุนสนับสนุนเราจะได้อะไรกลับมาบ้าง การ์ตูนญี่ปุ่นไม่ได้ทำเพื่อออกมาให้คนอ่าน แต่เขาทำมาขายให้คนซื้อผลิตภัณฑ์ จะเห็นว่าพอการ์ตูนเรื่องหนึ่งถูกเข็นจนประสบความสำเร็จ จะมีสินค้าต่อยอดมาทันที ทั้งของเล่น อุปกรณ์ใช้งาน อุปกรณ์ออฟฟิต รวมไปถึงลิขสิทธิ์ของตัวละครเพื่อไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์อื่นๆด้วย ดังนั้นตัวละครทุกตัวเขาทำมาแล้วมองแล้วว่าจะขายยังไง พวกกันดั้มทั้งหลายขายผู้ชายซึ่งชื่นชอบหุ่นยนต์อยู่แล้ว อุลตร้าแมน คาเมนไรเดอร์ อันนี้ไม่ต้องพูดถึงเด็กผู้ชายชอบ หรือแม้แต่พวกตัวละครสาวน้อย สาวใหญ่ทั้งหลาย ครบวงจรมากๆ ซึ่งจะต่างจากบ้านเรา ที่ทำการ์ตูนออกมาสักเรื่องหนึ่งเราจะจบที่การ์ตูน แต่ไม่ได้นึกถึงการต่อยอดในธุรกิจอื่นๆ ทีนี้บ้านเราถ้าตั้งเป้าทำอย่างนั้นได้ไหม ได้ครับ แต่ยากถึงยากมาก เพราะการ์ตูนญี่ปุ่นถูกสร้างและครองตลาดมานานมาก จนมีพื้นที่เหลือให้เราไปแย่งเพียงเล็กน้อย ซึ่งถ้าจะแย่งก็ต้องตั้งใจกันยาวๆเลยละครับ และอีกอย่างเพราะผลตอบแทนจากอุตสาหกรรมนี้มันไม่เห็นผล เอ่อผมหมายถึงผู้บริหารประเทศมองไม่เห็นผลจากมัน ดังนั้นเขาก็ไม่สนับสนุน สู้เอาเงินไปพัฒนาประเทศด้านอื่นดีกว่า (ถึงแม้มันจะไม่ค่อยพัฒนาก็เถอะ) ดังนั้นนักลงทุน หรือแม้แต่คนทำการ์ตูนเองเมื่อเจอทางปิดขนาดนี้ ก็เลยไม่มีใครกล้าเสี่ยง สู้ทำแบบออกมาเพื่อโชว์ผลงานของตนเองเท่านั้น ให้รู้ว่าฉันก็ทำได้นะ แล้วจบ ผมว่าถ้าผลงานการ์ตูนในประเทศไทยสนุกๆมีหลายเรื่องนะ ลายเส้นนักเขียนในขายหัวเราะ-มหาสนุก ก็มีสนุกๆเยอะนะครับ อย่างผลงานคุณปุ๋ย-เดวิล ผมชอบนักเขียนท่านนี้มาก มุข+หน้าตาตัวละครฮาแรงๆเลย สุดท้ายผมจะบอกเลยว่าอนิเมชั่นตอนนี้หลายคนคงสงสัยว่าทำไมต้องเป็นเรื่องให้เด็กดูเท่านั้น เพราะเด็กดูแน่ๆไงครับ แต่กับผู้ใหญ่ตลาดการ์ตูนยังถือว่าขายได้ไม่มาก คงไม่แปลกที่วงการการ์ตูนที่กำลังหัดเดินอย่างบ้านเราต้องเริ่มที่ขายเด็กก่อน แต่อย่าพึ่งสิ้นหวังไปนะครับ ทุกอย่างมีทางออก ตอนนี้แม้ทางจะปิดแต่ก็ค่อยๆเปิดแล้วนะครับ จากการที่อนิเมชั่นของไทยที่ทำออกมาหลายเรื่องได้รับการตอบรับมากขึ้น แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 55 13:24:17 จากคุณ : นายสองสี เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 12:57:06

ความคิดเห็นที่ 34 # 28 เร็วๆนี้ กำลังฮิต แผ่นแท้ต้องแม่สายไม่ใช่หรือครับ ^^ จากคุณ : himajin006 เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 13:12:51

ความคิดเห็นที่ 35 ลองเปิดละครหลังข่าวช่อง 7 ที่เรตติ้งดีๆสักเรื่อง แล้วพิจารณาดูเอาเถิดว่าประเทศที่ละครซึ่งคุณภาพโปรดักชั่นเทียบเทียมกันกับเกาหลีเมื่อ 10 ปีที่แล้วคนยังชื่นชมนิยมกันฉันนี้ จะมีการ์ตูนที่คุณภาพทัดเทียมกับญี่ปุ่นได้ฉันใด อนึ่งคนรัฐชาตินี้ยังไม่นิยมอ่านหนังสือ อ่านความไม่แตกฉาน จึงไม่สามารถเขียนอะไรที่ลึกซึ้งได้ การ์ตูนที่พอจะอ่านได้จึงมีเพียงการ์ตูนแนวขำขัน แนวบู๊เลือดตกยางออกเท่านั้น แนวชีวิตเข้มข้น แนวสืบสวนสอบสวน แนววิทยาศาสตร์ หรือแนวใดๆที่ต้องอาศัยวิชาความรู้หรือมีความซับซ้อนล้วนไม่สามารถเขียนออกมาให้ดีได้ การ์ตูนเกาหลีเอง แม้จะมีทุน มีการสนับสนุนมากกว่า ก็ยังด้อยกว่าการ์ตูนญี่ปุ่น โดยเฉพาะในเรื่องความหลากหลายของเนื้อหา จากคุณ : นากากาฉิ เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 21:26:05