PANTIP.COM : A12962143 [เจาะลึก EVA 3.0] สปอยล์เนื้อเรื่องแบบละเอียดยิบ พร้อมไขปริศนาจุดเชื่อมต่อระหว่างภาค [การ์ตูน]

ความคิดเห็นที่ 1

สปอยล์เนื้อเรื่องฉบับละเอียด

อาสึกะกับมาริได้ขับเอวาของพวกเธอเพื่อไปชิงตัว Eva-01 ที่ถูกจองจำอยู่บนดวงจันทร์กลับมา ซึ่งระหว่างทางก็ได้ปะทะกับเทวฑูตตนที่ 11 จนอาสึกะเกือบพลาดท่า แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจาก Eva-01 จนสามารถทำลายเทวฑูตลงได้สำเร็จ (อย่างที่เห็นในตัวอย่าง 7 นาที)

ชินจิตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าเขาถูกตรึงเอาไว้กับเตียงคนไข้ และบรรดาคนเฝ้าที่แต่งชุดยูนิฟอร์มปริศนาที่มีหมวกเบเร่ต์สีฟ้าก็ดูท่าทางจะหวาดกลัวในตัวเขาแบบมีเลศนัย (หรืออาจจะรู้สึกอึดอัดที่ต้องอยู่ใกล้เขา) เด็กสาวปริศนาได้ถามเขาว่าเขาจำได้รึเปล่าว่าตัวเองเป็นใคร ชินจิหวนรำลึกถึงเหตุการณ์ในช่วงท้ายของภาค 2.0

เตียงถูกเข็นไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับฐานทัพเนิร์ฟแห่งเก่าแต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว ที่นั่นชินจิได้พบกับมิซาโตะ ริทสึโกะ และพนักงานเนิร์ฟคนเก่าๆ ทุกคนดูเปลี่ยนไปเนื่องจากมีอายุมากขึ้น ชินจิได้พยายามเอ่ยถามคำถามแต่ส่วนใหญ่กลับไม่ได้รับคำตอบกลับมา ต่อมาเขาได้สังเกตเห็นอุปกรณ์บางอย่างที่คอที่มีรีโมทควบคุมอยู่ที่มิซาโตะ เขาพยายามถามว่าสิ่งนี้คืออะไรแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบเช่นเดียวกัน มิซาโตะได้กดปุ่มรีโมทแล้วมีสัญลักษณ์บางอย่างปรากฎขึ้นที่ปลอกคอ อุปกรณ์นั้นได้ยืนยันว่าชินจิยังคงเป็นมนุษย์อยู่ ทำให้ชินจิได้รับการปล่อยให้เป็นอิสระมากขึ้น ในเดียวกันเทวฑูตใหม่ก็ได้ปรากฎตัวขึ้น

เราจะได้เห็นว่าฐานทัพนั้นได้ตั้งอยู่แถบขั้วโลกใต้ (หรือขั้วโลกเหนือ) ที่ซึ่งเหล่ากองทัพเรือเหาะทำการต่อสู้กับเทวฑูตดำน้ำตนใหม่ กองทัพเรือเหาะนั้นนำโดยเรือเหาะ Wunder ที่ใช้เครื่องยนต์ S2 และสามารถสร้าง AT-field ได้ (Eva-01 ถูกใช้เป็นแห่งกำเนิดพลังงานของเรือ) และบนเรือนั้นเองที่เหล่าตัวละครเอกอยู่

ด้วยความอยากที่จะช่วยเหลือชินจิได้ถามว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง แต่ริทสึโกะตอบกลับอย่างเย็นชาว่าเขาได้ทำอะไรมามากพอแล้ว ในระหว่างการต่อสู้กับเทวฑูต มาริกับอาสึกะได้ใช้เครื่องสวมใส่สำหรับใต้น้ำของเอวา เรือเหาะ Wunder ได้ใช้ปืนใหญ่ทำลายเทวฑูตลง (เทวฑูตนั้นมีลักษณะคล้ายคลึงกับที่อาสึกะกับมาริสู้ในอวกาศตอนต้นเรื่อง)

เมื่อทุกอย่างสงบลงชินจิก็ถูกพาตัวไปยังห้องสอบสวน ที่นั่นเขาได้พบกับร้อยโทสาวที่ติดตามเขาไปด้วย ซึ่งก็ปรากฎว่าเธอคือ สึซึฮาร่า ซากุระ น้องสาวของโทจินั่นเอง ทำให้ชินจิรู้สึกสับสนเล็กน้อย เพราะเขาจำได้ว่าเธอเพิ่งจะอายุเพียง 7 ขวบเท่านั้นแต่ตอนนี้เธอดูราวกับคนอายุ 20 ไม่มีผิด และนั่นเองก็ทำให้ชินจิต้องช็อคเนื่องจากค้นพบว่าเวลาได้ผ่านไป 14 ปีแล้วหลังจากเหตุการณ์ในภาค 2.0 เขายังถูกบอกอีกว่าอัตราซิงโครของเขาตอนนี้เป็นศูนย์และจะไม่สามารถขึ้นขับเอวาได้อีกต่อไป

ชินจิพยายามที่จะสืบเสาะว่าเกิดอะไรขึ้นกับอายานามิ เรย์ เพราะเขาจำได้ว่าได้ช่วยเหลือเธอออกมาแล้ว แต่เขาก็ได้รับคำตอบว่าสิ่งที่พวกเขาพบมีเพียงเอนทรี่ปลั๊กเปล่าๆกับเครื่องเล่นเทปของเขาเท่านั้น ซึ่งพวกเขาก็ได้นำเอามาคืนให้กับชินจิ

อาสึกะเข้ามาในห้อง ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว แถมยังไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรสักนิดกับการที่ได้เจอชินจิ ไม่ทันไรเธอก็เหลืออดจนต้องโชว์พลังเหนือมนุษย์โดยการชกกระจกกันกระสุนจนเกือบแตกยับ อาสึกะดูท่าจะไม่ค่อยพอใจกับการที่ตัวเองฟิวส์ขาดสักเท่าไหร่ เธอบอกว่าเธอได้พยายามที่จะอดทนแล้วแต่ก็ทำไม่ได้พอได้มาเห็นหน้าชินจิ พอเธอถูกถามว่าทำเธอยังคงมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับเมื่อ 14 ปีที่แล้วเป๊ะๆ เธอก็ตอบว่านี่เป็นคำสาปของเอวา

ชินจิยังคงสับสนและหงุดหงิด แต่รู้สึกว่าทุกคนจะเกลียดเขาและปฏิเสธเรื่องที่เขาได้ช่วยเรย์เอาไว้ ณ ตอนนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงอายานามิในหัวของเขา ดูเหมือนว่าเธอกำลังตามหาเขาอยู่ เขาส่งเสียงตอบเธอไป และในขณะนั้นเองกำแพงด้านข้างเขาก็พังทลายและเอวาที่คล้ายกับ Eva-00 ยื่นมือเข้ามาและชักชวนให้เขาไปอยู่ร่วมกับเธอ

เรือรบทุกลำเปิดฉากยิ่งใส่เอวา ชินจิช็อคมากที่เห็นมิซาโตะสั่งให้กองกำลังของเธอโจมตีเอวา มิซาโตะจึงบอกว่าพวกเขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเนิร์ฟอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นองค์กรใหม่ที่มีชื่อว่า WILL-E ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อเนิร์ฟ ดูเหมือนว่ามิซาโตะจะหวาดระแวงเรื่องโครงการพัฒนามนุษยชาติและต้องการที่จะทำลายเอวาทุกเครื่องของเนิร์ฟ ชินจิที่โดนมิซาโตะปฏิบัติด้วยอย่างเย็นชา ได้ยืนกรานว่าพวกมิซาโตะกำลังโกหกเรื่องเรย์กับเขา จึงได้ตัดสินใจก้าวขึ้นไปยังบนมือของเอวา โดยไม่สนใจคำอ้อนวอนของซากุระที่ขอร้องไม่ได้ตามเรย์ไป สิ่งสุดท้ายที่เขาได้ยินก่อนหมดสติไปนั้นก็คือเสียงของซากุระที่ร้องอ้อนวอนขอให้เขาไม่ขึ้นขับเอวาอีกต่อไป

มาริที่ยังอยู่ใน Eva-08 พยายามที่จะหยุดเอวาศัตรูจนทำลายส่วนหัวได้สำเร็จด้วยปืนสั้น แต่นั่นก็ไม่ช่วยได้ทำให้เรย์เชื่องช้าลงแม้แต่น้อย เอวาปริศนานั่นงอกเอาไอพ่นออกมาจากหลังแล้วบินจากไป มิซาโตะเตรียมที่จะจุดระเบิดที่ติดเอาไว้กับปลอกคอของชินจิแม้ว่าริทสึโกะจะพยายามห้าม แต่ท้ายที่สุดชินจิก็ออกจากระยะทำงานของสัญญาณไป

ชินจิกลับมาที่กองบัญชาการเนิร์ฟ โดยมีเรย์-9 อยู่ข้างๆ เธอเป็นคนที่ช่วยเขาออกมานั่นเอง ชินจิได้พบกับพ่อของเขาที่ดูแก่ลงไปมากและใส่แว่นตาที่เหมือนกับแว่นของคีล ลอเรนซ์ (หัวหน้าเซย์เล่) เก็นโดไม่ได้บอกอะไรกับชินจิมากนัก เพียงแต่พูดว่า เมื่อถึงเวลาชินจิจะได้กลับไปขึ้นขับเอวาอีกครั้ง

ชินจิเดินตระเวนไปรอบๆฐานทัพเนิร์ฟที่พังทลาย และค่อยๆรับรู้ถึงเรื่องราวในอดีตทีละนิดๆ เขาได้รู้ว่าเมืองโตเกียวใหม่ที่ 3 ได้ถูกทำลายไปพร้อมๆกับบรรดาชาวเมืองในตอนที่เกิด 3rd Impact ทำให้ชินจิตระหนักขึ้นมาได้ว่าเขาเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบกับการตายของชาวเมืองโตเกียวใหม่ที่ 3 รวมถึงบรรดาเพื่อนร่วมชั้นของเขาด้วย ชินจิพยายามที่จะปลอบใจตัวเองว่าอย่างน้อยเขาก็ช่วยอายานามิมาได้ เขาได้พบกับเรย์-9 ในเซ็นทรัลด็อกม่า

แต่ก็น่าเสียดาย เรย์คนนี้เป็นแค่ร่างโคลนที่ไร้วิญญาณเท่านั้น เธออาศัยอยู่ในห้องเล็กๆที่มีลักษณะเหมือนห้องในโรงพยาบาล (ห้องของเรย์คนก่อนๆในภาคเก่า) เนื่องจากไม่มีจิตนึกคิดเป็นของตัวเอง เรย์-9 จึงไม่ต่างจากหุ่นยนต์ที่ได้แต่เฝ้ารอคอยคำสั่งอยู่ในห้อง ชินจิคิดว่าเธอเป็นคนๆเดียวกับเรย์ที่เขาช่วยเหลือ ชินจิพยายามกระตุ้นให้เธอนึกออกโดยเอาหนังสือที่เรย์ชอบอ่านมาให้เธอ พูดคุยกับเธอ แต่ก็ไร้ประโยชน์ ท้ายที่สุดฟุยุทสึกิก็ได้บอกกับชินจิว่าเรย์-9 คนนี้คือใคร โดยความจริงเรย์ทุกคนนั้นเป็นโคลนของยูอิ แม่ของเขานั่นเอง ซึ่งพวกเธอก็เป็นแค่เพียงวัตถุกิบสำหรับเอวารุ่นผลิตจำนวนมากเท่านั้น

ชินจิที่ตกอยู่ในสภาวะโศกเศร้าจนถึงขีดสุด ก็ได้ใกล้ชิดกับคาโอรุที่อาศัยอยู่ในสถานที่แปลกประหลาดเช่นนี้ คาโอรุซ่อมเครื่องเล่นเทปให้ชินจิและสอนให้เขาเล่นเปียโนที่ถูกตั้งทิ้งไว้ในซากปรักหักพังในจีโอฟรอนท์ ความสัมพันธ์ของพวกเขาดูจะสนิทสนมกลมเกลียวฉันท์เพื่อนมากกว่าในภาคเก่า ชินจิได้พบกับที่พักพิงทางใจที่เขาได้รับจากบุคคลที่เราเห็นว่าเป็นเพื่อนคนนี้ หลังจากที่ต้องมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัวในอดีตและอนาคต ซ้ำยังมีระเบิดติดอยู่ที่คอที่ถอดเท่าไหร่ก็ไม่ออก แต่ทว่าคาโอรุช่วยถอดมันออกมาอย่างง่ายดายแล้วสวมเข้าที่คอของตัวเองแทน แม้ว่าจุดมุ่งหมายของคาโอรุยังไม่แน่ชัด แต่ตอนนี้เขาก็ได้เข้ามาใกล้ชิดกับชินจิเพื่อทำให้เขารู้สึกสงบใจได้ในที่สุด

ในเวลาต่อมา Eva-13 ก็เสร็จสมบูรณ์ในที่สุด Eva-13 เป็นเอวานเกเลี่ยนรุ่นพิเศษที่ใช้นักบิน 2 คนในการขับเคลื่อน ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในพิธีกรรมโดยเฉพาะ แม้ว่าจะมีอัตราซิงโครเป็นศูนย์ ชินจิก็ยังสามารถขับเอวาได้อย่างง่ายดายทำให้เขารู้สึกปลาบปลื้มใจที่ได้ทำตัวให้เป็นประโยชน์ได้อีกครั้ง (สุดท้ายก็คิดมากแต่เรื่องเดิมๆ) Eva-13 ที่มีชินจิกับคาโอรุ ได้ดิ่งลงไปยังไฟนอลด็อกม่าพร้อมกับ Eva-09 ที่มีเรย์-9 เป็นคนขับ ณ ที่แห่งนั้นพวกเขาได้มุ่งหน้าไปหาร่างของลิลิธที่ถูกปักด้วยหอก 2 เล่ม

เก็นโดสั่งให้ชินจิกับคาโอรุดึงหอกออกมาเพื่อเริ่ม 4th Impact เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขโลกใหม่ หลังจากผ่านไป 14 ปี สมาชิกของเซย์เล่ไม่ได้มีตัวตนในฐานะมนุษย์อีกต่อไป จิตใตสำนึกของพวกเขาถูกย้ายไปยังแผ่นศิลา ในระหว่างพิธีกรรม ฟุยุทสึกิหยุดการทำงานของแผ่นศิลาลงซึ่งเป็นการฆ่าเหล่าสมาชิกเซย์เล่ทั้งหมดเพื่อใช้เป็นเครื่องเซ่น ในขณะที่ชินจิกับคาโอรุพร้อมที่จะดึงเอาหอกออก กองทัพ WILL-E ก็ได้มาถึงพร้อมกับอาสึกะและมาริที่ขับเอวามา การต่อสู้ระหว่างเอวาของทั้งสองฝ่ายก็ได้เริ่มต้นขึ้น ชินจิ,คาโอรุ,เรย์ vs. อาสึกะ,มาริ ดนตรีบรรเลงของฉากนี้คือ Symphony No.9 Movement 4 ของบีโธเฟ่น (เพลงสุด EPIC ประจำซีรีย์) อาสึกะเกือบจะล้ม Eva-13 ได้แต่พลังงานดันหมดลงเสียก่อน ในขณะที่มาริกำลังใส่แบตเตอรี่อันใหม่ให้ Eva-02 ชินจิกับคาโอรุก็ได้หยุดการทำงานเอวาของมาริลงได้ และมุ่งหน้ากลับไปยังลิลิธอีกครั้ง ในขณะที่ชินจิกำลังจะดึงหอกออกมาเพื่อจบพิธีกรรม แต่คาโอรุในตอนนี้กลับถูกความสงสัยรุมเร้า มีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากล ชินจิดึงหอกออกมาโดยไม่สนใจคาโอรุจนทำให้ร่างของลิลิธกลายสภาพเป็น LCL

ยานแม่ Wunder ของ WILL-E ได้เข้ามาร่วมสมรภูมิโดยมีมิซาโตะสั่งการอยู่บนยาน เรย์-9 ถูกมอบหมายหน้าที่มาเพื่อสถานการณ์เช่นนี้โดยเฉพาะ เธอได้เชื่อมต่อเอวาของเธอเข้ากับระบบของยาน Wunder จนทำให้ยานพังเสียหายจนใช้การไม่ได้ แต่อาสึกะก็กลับมาอีกครั้ง เธอจู่โจม Eva-09 และใช้กำลังบังคับให้เอนทรี่ปลั๊กที่มีเรย์-9 ดัดตัวออกมาเพื่อหยุดยั้งการแทรกแซงระบบยาน Wunder แต่น่าเสียดายที่โปรแกรมยังสามารถทำงานต่อไปได้แม้จะไม่มีนักบินเอวา อาสึกะจึงได้เปิดใช้ระบบทำลายตัวเองของ Eva-02 แล้วดีดตัวออกมา เพื่อทำลาย Eva-02ไปพร้อมกับ Eva-09 ซึ่งยาน Wunder ก็ไม่ได้รับอันตรายใดๆอย่างน่าอัศจรรย์

4th Impact เริ่มขึ้นแล้ว แต่ระเบิดของชินจิที่ติดอยู่คอคาโอรุได้ระบุว่าคาโอรุเป็นเทวทูต แม้ว่าคาโอรุจะสามารถถอดมันออกได้อย่างง่ายดาย แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะยอมตายเพื่อหยุดยั้ง 4th Impact ลง คาโอรุแทง Eva-13 ด้วยหอกทั้ง 2 เล่ม ร่างของคาโอรุระเบิดเป็นจุลไปต่อหน้าต่อตาชินจิ ในขณะที่เขาถูกดีดตัวออกมาจาก Eva-13

หลังจากนั้นสักพัก อาสึกะได้หาเอนทรี่ปลั๊กของชินจิจนพบ เขาอยู่ในสภาพช็อคกับการตายของคาโอรุจนแทบไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้เลย อาสึกะพยายามพยุงชินจิขึ้นมายืนและดึงสติเขาให้กลับมาได้ พวกเขาได้เริ่มออกเดินทางจากที่ไหนสักแห่งไปยังสุดขอบของทะเลทรายสีแดงซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่หลงเหลืออยู่หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ หลังจากนั้นไม่นาน เรย์ที่รอดชีวิตมาได้เช่นกันก็เข้ามาร่วมด้วย จากนั้นเราจะได้เห็นซากเอวสของมาริและอาสึกะถูกรวบรวมกลับไปบนยาน Wunder เพื่อใช้เป็นส่วนประกอบของยาน

ตัวอย่างตอนต่อไป....กองทัพเอวาซีรีย์ปะทะเอวานเกเลี่ยนพันธุ์ผสมที่สร้างขึ้นจากชิ้นส่วนของ Eva-02 และ Eva-09
แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 55 15:37:14

จากคุณ : Kaworu

เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 15:36:33