ความคิดเห็นที่ 1 ยก ความคิดเห็นที่ 20 ในกระทู้ที่แตกมาเป็นตัวอย่าง เราว่าเรื่องคาเวนดิชทำให้ประเด็นการกลับชาติมาเกิดดูน่าสงสัยนะ เรื่องของหลุยซาเกิดขึ้นในปี 1975 เรื่องของลุงคาเวนดิช ในหนังสือเราจำไม่ได้ว่าเกิดขึ้นในช่วงไหน แต่ลุงแกอายุ 65 ซึ่งแปลว่าถ้าเป็นวิญญาณดวงเดียวกันจริงๆ หลุยซาต้องตายตั้งแต่จบเรื่อง และเรื่องของคาเวนดิชก็ต้องเกิดขึ้นในปี 2040 จากคุณ :: กิน นอน หอน เห่า จากคุณ : NooDuiDui เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 10:49:54

ความคิดเห็นที่ 2 เราก็เพิ่งสังเกตจุดนี้เหมือนกัน เวลาเหลื่อมกันจริงๆ ถ้าอย่างนั้นอาจไม่ใช่เรื่องกลับชาติมาเกิดเีสียทีเดียวแล้วล่ะ น่าจะเป็นการสื่ออะไรบางอย่างของผู้เขียน เช่น เป็นตัวละครหลัก หรือเป็นตัวละครที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องอะไรทำนองนั้น ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ อ่านหนังสือนานแล้วล่ะ จำรายละิเอียดไม่ค่อยแม่น จากคุณ : Pooh Of The Hundred Acre Wood เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 11:14:05

ความคิดเห็นที่ 3 เราคิดว่าประเด็นดาวหางทำให้ต้องพิจารณาหนังสือกับหนังต่างกันเลยนะ จากหนังสือ เท่าที่ตามอ่านๆมาจากเวบบอร์ดต่างๆ มันมีประเด็นที่ว่าเรื่องของหลุยซ่ามีความเป็น fiction สูงกว่าเรื่องอื่น เรื่องเดินเรื่อ เป็นบันทึกไดอารี่ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเพราะจะเห็นว่ามีฟุตโน๊ตของลูกอีวิ่งเป็น editor เรื่องของโรเบิร์ต อันนี้เป็นจดหมายที่โรเบิร์ตเขียนเอง เรื่องของคาเวนดิช คล้ายนิยายแต่คาเวนดิชเป็นคนเขียนเอง เรื่องของซอนมี เป็นบันทึกบทสนทนา เรื่องของแซคคารี่ เป็นเรื่องเล่าของแซค แต่เรื่องของหลุยซา Half-Lives: Luisa Rey Mystery เป็นนิยาย(ในนิยายอีกที)ที่แต่งโดยคนอื่น คือเรื่องของเธออาจเกิดขึ้นจริง แต่การที่มีคนอื่นมาเขียนเล่าเรื่องแทน(และเขียนในรูปแบบนิยาย) ทำให้เรื่องของเธออาจถูกบิดไปมาก อย่างเช่นปานดาวหาง มีความเป็นไปได้ว่าผู้แต่ง Half-Lives: Luisa Rey Mystery อาจจะต้องการสร้างค.สัมพันธ์ระหว่างตัวหลุยซากับตัวซิกสมิธ ตัวหลุยซา(ตัวจริง)อาจไม่มีปาน แต่พอถูกนำเสนอในฉบับนิยาย เพื่อให้พล๊อตน่าตื่นเต้นขึ้น คนเขียน Half-Lives เลยเพิ่มปานดาวหางเข้าไป อันนี้เป็นแนวคิดนึงอ่ะนะ แต่เราค่อนข้างเห็นด้วยเลยทีเดียว สงสัยต้องหยิบนิยายมาอ่านรอบสองเสียแล้ว จากคุณ : กิน นอน หอน เห่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 11:35:31

ความคิดเห็นที่ 4 เพิ่งสั่งหนังสือไปตะกี้เองค่ะ ไม่รู้พลาดได้ไง ไปอยู่ไหนมานะเรา -*- ถ้าอย่างที่คุณ กิน นอน หอน เห่า ว่ามา คนที่เอาเรื่องของหลุยซ่ามาเขียนเป็น Half Life รู้เรื่องปานดาวหางได้ไงคะ จากคุณ : NooDuiDui เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 11:43:42

ความคิดเห็นที่ 5 น่าจะเป็นเพราะหลุยซา(ตัวจริง)ได้จดหมายของโรเบิร์ตมาจากซิกสมิธ และคนแต่ง HL ก็ได้อ่่านจดหมายเหมือนกันนะ ก็เลยแต่งให้ออกแนวโรมานซ์นิดๆ ว่าทำไมซิกสมิธตัดสินใจขอให้หลุยซาช่วย จากคุณ : กิน นอน หอน เห่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 11:52:10

ความคิดเห็นที่ 6 แสดงว่าเรื่องหลุยซ่าก็อาจจะเป็นเรื่องที่ปนเรื่องแต่งเยอะเลย ประมาณนั้นป่ะคะ เพราะถ้าดูไทม์ไลน์แล้ว หลุยซ่าได้จดหมายทั้งกองหลังจากที่ซิกซ์สมิธเห็นปานของหลุยซ่าอีกด้วยซ้ำ จากคุณ : NooDuiDui เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 12:12:09

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องของหลุยซาเรย์ ปานอยู่ที่  Isaac Sachs เครื่องเล่าของผู้เฒ่าแซคคารี่ ปานอยู่ที่ Meronym แก้ไข : ผมคิดขึ้นมาเองเพื่อให้สมเหตุผลตามวัย-เวลา อิอิ แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 55 16:55:23 จากคุณ : myung เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 12:53:14

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าเรื่องหลุยซ่า เรย์ ในหนัง ปานอยู่ที่ไหปลาร้าของหลุยซ่าค่ะ เรื่องของแซคคารี่ ปานอยู่ที่แซคคารี่ ตรงข้างหลังของศีรษะค่ะ อ้างอิงจากรูปนี้ http://geektyrant.com/storage/2011-post-images/cloud-atlas-infographic.png จากคุณ : NooDuiDui เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 13:37:59

ความคิดเห็นที่ 9 คห. 7 น่าจะเป็นแบบในหนังสือ เพราะจำได้ว่าเมโรนิมมีปาน ส่วนคห. 8 เป็นของในหนัง หนังกับหนังสือไม่ตรงกัน จากคุณ : Pooh Of The Hundred Acre Wood เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 13:57:22

ความคิดเห็นที่ 10 แสดงว่าหนังเปลี่ยนแปลงจากในหนังสือไปเยอะเลยทีเดียวนะเนี่ย จากคุณ : NooDuiDui เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 14:13:36

ความคิดเห็นที่ 11 ในหนังเปลี่ยนแค่ปานของเมโรนีม หลุยซามีปาน ถูกต้องแล้ว: 'Luisa shunts these aside to get a clearer view of a birthmark between her shoulder blade and collarbone... Coincidences happen all the time. But it is undeniably shaped like a comet.' จากบทที่ 24 ของ Half-Lives จากคุณ : กิน นอน หอน เห่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 14:42:31

ความคิดเห็นที่ 12 ตอบโดยการเดานะค่ะ เพราะหนังยังไม่ได้ดู แต่หนังสืออ่านแล้ว 1.เราเข้าใจว่าหนังต้องการจะสื่อถึงประเด็นการกลับชาติมาเกิด แล้วผลของการกระทำในชาติก่อนๆ ส่งผลอย่างไรในชาติถัดไปหรือเปล่าคะ อันนี้ถ้าเห็นชัดเจนเลย ก็คือการกระทำของตัวละครหลักในแต่ละชาติ ที่จะส่งผลเชื่อมโยงไปในอนาคต ค่ะ อดัม (เขียนบันทึก) > โรเบิร์ต (จดหมาย) > หลุยซา (หนังสือ) > ทิมโมธี (หนัง) > ซอนมี (เทพเจ้า + คำทำนาย) > แซครี แต่ถ้าตัวละครย่อยนี้ ใครทำอะไร ส่งผลยังไง ไปเกิดเป็นใคร อันนี้ไว้ดูแล้วน่าจะอธิบายได้ "บ้าง" นะค่ะ คงไม่หมดเพราะรายละเอียดมันเยอะมาก และตัวหนังเค้าก็ไม่ได้เน้นการสื่อ ตรงประเด็นนี้มากมาย หลักแล้วน่าจะเป็นการกระทำของตัวเอกในแต่ละเรื่องมากกว่าค่ะที่หนังเน้นเป็นประเด็นหลัก 2. ตามความเชื่อของคนทั่วไป ปานรูปดาวหางนี่คือสัญลักษณ์ของการกลับชาติมาเกิดหรือเปล่า ตอบได้สองกรณีค่ะ 1.ถ้าในหนังสือ ค่ะใช่ (แต่ในหนังสือยังคลุมเครือประเด็นนี้ในความคิดเรา เพราะในเรื่องอดัม ไม่มีใครมีปานเลย ในเรื่อง แซครี่ คนที่มีปานควรเป็นตัวเอกคือแซครี่ แต่ปานดันไปโผล่ที่ เมโรนิม) ในหนังสือพยายามจะสื่อว่า คนที่มีปานก็คือ ดวงวิญญาณดวงเดียวกันกลับชาติมาเกิด สังเกตได้จากหลายจุด อย่างจุดที่ รูฟัส คุยกับ หลุยซา ได้อย่างถูกคอ เหมือนรู้จักกันมานาน นั่นก็เพราะ โรเบิร์ตเพื่อนรักของ รูฟัส กลับชาติมาเกิดเป็น หลุยซา ตรงที่รูฟัสพูดว่า "ผมเหมือนรู้จักคุณมาชั่วขีวิตแทนที่จะเป็นเก้าสิบนาทีก่อน" และประเด็นนี้ ก็ไม่มีปัญหาด้วยว่าหลุยซา จะเกิดมาเป็น ทิมโมธีไม่ได้ เพราะเวลาในหนังสือ ไม่ระบุระยะเวลาในเรื่อง ทิมโมธีแน่นอน เพราะฉนั้นไอเดีย นี้ไม่มีปัญหา อันนี้คือในหนังสือนะค่ะ แต่ 2.ถ้าในหนัง ไม่ใช่แน่นอนค่ะ เพราะตามช่วงเวลาแล้ว หลุยซา ต่อให้จบเรื่องแล้วตายเลยก็มาเกิดเป็น ทิมโมธีไม่ได้ เพราะในหนังได้กำหนดช่วงเวลาในชาติภพต่างๆมาแล้ว ดังนั้น ประเด้นที่เราคิด ปาน (ในหนัง) ไม่ใช่สัญลักษณ์การกลับชาติมาเกิดแน่นอน และถ้าถามว่าจะรู้ได้ไงใครเกิดมาเป็นใคร นักแสดงนั่นแหละค่ะดูง่ายๆ ใครแสดงเป็นใคร ในแต่ละชาติ ก็นั่นแหละค่ะ ดวงวิญญาณเดียวกัน (ไอเดียนี้มาอ้างอิงมาจาก บทสัมภาษณ์) ส่วนปานนี้ เราคิดว่าน่าจะเป็น สัญลักษณ์ที่บอกว่าใครเป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก ใครที่จะรับผลการกระทำของตัวเอกในเรื่องก่อน และการกระทำของตัวเองจะส่งผลกระทบต่อตัวเอกในเรื่องถัดไป (ซึ่งไม่ใช่วิญญาณดวงเดียวกัน) แต่ถ้าประเด็นลึกลงไปอีกที่ว่า ใครทำอะไรไว้กับใครถึงเกิดมาเป็นคนนี้ ใครรักใคร ใครพบใคร ใครล่าใคร ถึงเกิดมาเจอผลกระทบแบบนี้ เป็นรายบุคคลละก่อ ไว้ดูแล้วจะมาวิเคราะห์ให้นะค่ะ อิอิ ตอนนี้เดาได้แค่นี้แหละ จากคุณ : Zenturiana เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 17:13:39

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณคุณ Zenturiana มากเลยค่ะ ควรจะหาหนังสือมาอ่านเพื่อเพิ่มรายละเอียดด้วยเนอะ ^^ เพราะในหนังตอนของอดัม คนที่มีปานก็คือตัวอดัมเองค่ะ มีตรงอกซ้าย ถ้าจำตำแหน่งไม่ผิด ถ้าเป็นแบบนั้น ตามที่คุณ Zenturiana อธิบายเฉพาะเรื่องของหนังก็พอจะเข้าใจได้ เพราะยกตัวอย่างนักแสดงที่รับบทอดัมก็กลายเป็นแฮจูชาง ส่วนคนที่รับบทซอนมีก็เป็นทิลด้าในอดีต อันนี้น่าจะเป๊ะกับเรื่องกลับชาติมาเกิดเลย จากคุณ : NooDuiDui เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 17:53:34

ความคิดเห็นที่ 14 เพิ่งไปดูรอบสองทุ่มที่ Paragon ดูจบจึงเข้าใจว่า ทำไมจึงไม่ค่อยประสพความสำเร็จด้านรายได้นัก แม้ว่าหนังมีประเด็นของมันอยู่ แต่การที่มันมีความหลากหลายของเรื่องย่อยเช่นนี้ เราดูแล้ว รู้สึกว่ามันไม่ค่อย work เลย จากคุณ : prognosticator เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 03:52:20

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่เคยอ่านหนังสือ ดูแต่หนังค่ะ ตอนแรกก็คิดว่า คนที่มีปานคือคนเดียวกันกลับชาติมาเกิด แต่ดูไปดูมา แต่ละคนที่มีปานไม่มีอะไรสัมพันธ์กันเลย และนักแสดงแต่ละคน ก็จะเล่นเป็นตัวละครที่มีอุปนิสัยคล้ายๆกันในแต่ละชาติ ร้ายก็ร้ายทุกชาติ คนที่ให้อิสระแก่ผู้อื่นก็ยังคงเป็นอยู่อย่างนั้นทุกชาติ จนสุดท้าย บอกไม่ได้ว่าได้อะไร หรือว่าผู้เขียนต้องการให้ได้อะไร แล้วปานนั้นใช่คนที่กลับชาติมาเกิดหรือเปล่า แย้งกันไปหมด ปล. อยากหาหนังสือมาอ่านมาก เผื่อจะได้อะไรบ้าง จากคุณ : b.rabbitz เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 16:06:09

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นคนสงสัยเรื่องการกลับชาติมาเกิดในหนังเรื่องนี้กันมาก อยากจะมาตอบ อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวจากการอ่านหนังสือ และสปอยล์นิดหน่อย... จากหนังสือ ก็ไม่ได้จะโยงมากมายว่าแต่ละคนเกี่ยวกันแบบแนบแน่นอย่างไร เพราะมันไม่ใช่ประเด็นหลัก ผู้เขียนเพียงต้องการเสนอประเด็นว่า เวลาผ่านไป กี่ยุคกี่สมัย คนเราก็ยังเอาเปรียบกันอยู่เสมอ ยังมีการกดขี่ทางเชื้อชาติ (อดัม) มีการกดขี่ทางชนชั้นทางสังคม (โรเบิร์ต) การลอบฆ่าเพื่อรักษาผลประโยชน์ (หลุยซา) การข่มขู่ของพวกนอกกฏหมาย (ทิโมธี) การกดขี่คนที่มีกำเนิดต่างจากเรา (ซอนมี) และที่ดิบเถื่อนเป็นรูปธรรมที่สุดคือ คนกินคน (แซครี) ส่วนดาวหางนั้นเป็นประเด็นที่เล็กมากๆ แค่ต้องการจะสื่อว่าเราทุกคนที่เกิดมาบนโลกมันมีความเกี่ยวข้องที่เรามองไม่เห็นอยู่ เพราะคนส่วนมากชอบคิดว่า เกิดคนละยุคคนละประเทศไม่เคยเจอหน้าก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะคนทุกคนในโลกเกี่ยวพันกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเสมอ จากคุณ : Pooh Of The Hundred Acre Wood เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 14:22:17

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่าหนังน่าสนใจ แต่ดูจบแล้ว ไม่ถึงกับชื่นชมครับ หนังหลวมเกินไป เล่าเรื่องแบบพาราเรลเวิลด์ โดยที่วางการเชื่อมโยงของแต่ละเรื่องไว้หลวมมาก คิดว่าเรื่องนี้ไปไม่ถึงออสการ์นะครับ เพราะดีแค่ประเด็น แต่สร้างไม่ถึงครับ ผิดกับ Inception ที่ซับซ้อน ถึง และมีสไตล์ จากคุณ : tarodanex เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 21:00:23

ความคิดเห็นที่ 18 มันไม่ใช่พาราเรลเวิร์ลดิ์ไง มันแค่เป็นยุคที่ต่อเนื่องกันมา เริ่มตั้งตั้ง ไดอารี่ของอดัมที่โฟรบิเชอร์อ่าน จดหมายของโฟรบิเชอร์ที่หลุยซาได้ไป หนังของคาเวนดิซที่ได้แรงบัลดาลใจมาจากหนังสือ ซอนมีได้ดูหนังของคาเวนดิซ จนซอนมีกลายเป็นที่พูดถึงในยุคของแซคคารี แค่ยุคที่มีความเชื่อมโยงต่อเนื่องกัน เหมือนที่เราทำอาจจะส่งผลกระทบไปอนาคต จากคุณ : Kadaj17 เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 12:07:25