ความคิดเห็นที่ 1 ขยับท้ายตารางมาเริ่มกันที่ อันดับ 8 กับหนังตลกไทย ที่หลุดจาก Top 5 เสียแล้ว อย่าง หอแต๋วแตก แหกมว๊ากมว๊ากกก แน่นอนว่าโดนยักษ์ใหญ่ตามมากระทืบซ้ำซะขนาดนี้ ยังไงก็คงไม่รอดอยู่แล้วล่ะ! สัปดาห์นี้ เจ๊แต๋วโดนแวมไพร์สูบเลือดแทบหมดตัวไปถึง 95%!! เหลือเพียง 1 แสนบาท เก็บค่าหอมาสี่สัปดาห์ ฮาลั่นห้องกันไปแล้ว 25.5 ล้านบาท ตัวเลขที่แทบจะไม่ขยับไปจากเดิมซักเท่าไหร่ ทำให้ดูเหมือนว่า อันดับต่างๆ ของหนัง คงจะคงที่อยู่แบบนี้แล้วแน่นอน ทั้งอันดับหนังไทยทำเงินสูงสุดประจำปีนี้ ที่ไต่เข้า Top 10 ไม่ได้แน่นอนแล้ว (ติดอยู่ในอันดับ 11 ตามหลัง อันธพาล ที่ 28 ล้านบาท) ในกลุ่มหนังตลกปีนี้ ก็ไต่ขึ้นมาได้สูงสุดในอันดับที่ 3 (ตามหลัง Ted และ สาระแน โอเซกไก ที่ 41.5 และ 37.5 ล้านบาท ตามลำดับ) และรั้งตำแหน่งบ๊วย ในตระกูลหอแต๋วแตกทั้งมวลอย่างเป็นทางการ (ตามหลังภาคสาม ซึ่งเคยครองตำแหน่งนี้ ที่ 33.7 ล้านบาท ไปพอสมควร) เอาเป็นว่าอย่างน้อยที่สุด ทั้งกระแสและรายได้ของหนัง ก็คงพอจะทำให้เจ๊พจน์ใจชื้นขึ้นมาอยู่บ้าง เพราะยังทำได้ถึงในระดับนี้ ทั้งๆ ที่ต้องมาชนยักษ์ถึงสองเรื่อง แถมชื่อเสียงจากภาคก่อนๆ ก็โดนกระแสลบ กลบไปซะขนาดนี้!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 20:20:29

ความคิดเห็นที่ 2 ได้อานิสงค์เรื่องอื่นๆ ตก เลยขยับขึ้นมาสองขั้น มาอยู่ใน อันดับ 7 กับแอนิเมะ กระแสดี Wolf Children ที่ได้รับคำชมจากคนดูในบ้านเราไม่แพ้ในบ้านเกิดเลยก็ว่าได้ แต่ด้วยโรงฉายที่ค่อนข้างจำกัด(มาก) ก็คงทำให้หนังถีบตัวเองขึ้นไปมากไม่ได้นัก ยิ่งต้องมาโดนแย่งความสนใจจากหนังฟอร์มใหญ่(ที่ได้มนุษย์หมาป่าล่ำกว่ามาหลอกล่อ!)ไปอีก สัทำให้สัปดาห์นี้ รายได้ของหนังตกลงไปครึ่งนึง เก็บไปอีก 1 แสนบาท รวมสองสัปดาห์ ครอบครัวหมาป่า สร้างความสุขได้แล้ว 4 แสนบาท อย่างที่เคยบอกไป แม้จะไม่ใช่ตัวเลขที่มากมายอะไร (ตามหลังหนังของตระกูลดังๆ อย่าง โคนัน และ โดราเอม่อน ที่ผ่านหลักล้านไปได้ตั้งแต่สัปดาห์แรกอยู่ไกล) แต่ก็ถือว่าดูดีทีเดียวสำหรับแอนิเมะที่ได้เข้าฉายเพียงโรงเดียว (แถมต้องมาชนกับหนังใหญ่อีก) เป็นตัวเลขที่ดูดีมากทีเดียว สำหรับกลุ่มแอนิเมะที่ (แถมเข้าฉายเพียงโรงเดียวอีกต่างหาก) โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับรุ่นพี่จากค่ายจิบลิอย่าง From Up on Poppy Hill ที่มาถึงตอนนี้ แทบจะเรียกได้ว่าเดินสเต็ปเดียวกันเลยก็ว่าได้! เพราะนอกจากรายได้เปิดตัวจะพอๆ กันแล้วที่ 2 แสนบาท ยังต้องมาชนหนังใหญ่ในสัปดาห์ที่สองเหมือนกันอีก (ในตอนนั้นคือ The Avengers) จนรายได้ลดลงครึ่งนึง เหลืออยู่ที่ 1 แสนบาท แล้วเก็บเงินสองสัปดาห์ไปที่ 4 แสนเท่ากันอีก!! งานนี้ ถ้ายังคงเจริญรอยตามกันไปจนตลอดลอดฝั่ง(หรือทำได้ดีกว่า) ก็รับประกันรายได้เกินครึ่งล้านไปแล้วแบบสบายๆ แถมตอนนี้ หนังกำลังจะแซง Toriko 3D & One Piece 3D ที่เคยเปิดตัวไปได้เท่ากัน แต่ปิดรายได้ค่อนข้างน้อย ที่ 4 แสนบาทอย่างแน่นอนแล้ว ก็เลยไม่ต้องรั้งบ๊วยในกลุ่มแอนิเมะญี่ปุ่นปีนี้ไปเสีย ส่วนจะไปได้ไกลกว่าสาวน้อยชักธงแห่งบ้านจิบลิหรือไม่นั้น ก็คงอยู่ที่แฟนๆ แล้วล่ะครับ ว่าจะไปช่วยหนูน้อยหมาป่ากันมากแค่ไหน! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 20:22:13

ความคิดเห็นที่ 3 อีกหนึ่งเรื่องที่หลุดจาก Top 5 มาอยู่ อันดับ 6 ในสัปดาห์นี้ กับภาคต่อ เมืองสยอง Silent Hill: Revelation ที่คู่แข่งใหญ่หน้าใหม่ อาจจะไม่ใช่แนวเดียวกัน (แถมไม่ใช่สามมิติอีกต่างหาก) แต่จำนวนโรงที่หนังโดนสูบไป ก็ยังคงทำเอาหนัง “ทรุด” ไม่แพ้เรื่องอื่นอยู่ดีล่ะนะ! เพราะสัปดาห์นี้ สาวสยองของเรา ถูกรุมดูดเลือดไปถึง 95%!! เหลือเพียง 1 แสนบาท เมืองหลอน เรียกนักท่องเที่ยวมาสี่สัปดาห์ได้แล้ว 22 ล้านบาท เรียกได้ว่า ปิดประตู(เมือง)ในการไต่อันดับกลุ่มต่างๆ ไปเลย ไม่ต่างจากเรื่องอื่นๆ ที่บอกไป ตั้งแต่ในกลุ่มหนังสยองขวัญ ที่ดูจะแน่นิ่งอยู่ในอันดับ 3 มานานแล้ว เพราะตามI MISS U และ 407 เที่ยวบินผี ที่ 43 และ 34.4 ล้านบาทอยู่ไกล!! หรือในกลุ่มภาคสองของหนังที่สร้างจากเกมดัง หนังก็ยังคงคว้าอันดับ 3 อีกเช่นกัน ตามหลัง Resident Evil: Apocalypse และ Tomb Raider 2 อยู่ไกล ที่ 64.2 และ 56.5 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนในกลุ่มเกมทุกภาคนั้น หล่นไกลไปถึงขั้นหลุด Top 10 ไปอยู่ในอันดับ 15 กันเลยทีเดียว!!! ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มี Silent Hill ภาคแรกรวมอยู่ด้วย โดยปิดตัวเอาไว้มากกว่าที่ 28.1 ล้านบาท (ส่วนอันดับในกลุ่มหนังเกม ดีกว่าหน่อย ในอันดับที่ 11) ทำให้เมืองนรกภาคใหม่ของเรา รั้งตำแหน่งบ๊วยของตระกูลตัวเองไปอีกหนึ่งตำแหน่ง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะมีภาคใหม่ออกมา(บ๊วยแทน??)ด้วยหรือเปล่า ในเมื่อรายได้ออกมาเหงาๆ เกินคาดแบบนี้แล้วเนี่ยสิ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 20:22:41

ความคิดเห็นที่ 4 ยังคงทำให้ตกใจไม่เลิก!! เพราะเล่นกระโดดขึ้นมาอีกสองขั้น เข้าสู่ Top 5 (อีกครั้ง) ใน อันดับ 5 แล้ว! กับหนังภารกิจกลางแดนระอุ Argo ที่ยังคงเดินหน้าเก็บเงินต่อไป(จากกระแสที่เป็นบวกมากๆ)แบบไม่สะทกสะท้านหนังใหญ่ แม้จะมีออกอาการเป๋ไปบ้าง เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนๆ แต่เมื่อเทียบเรื่องอื่นๆ (ที่พากันร่วงระนาวตกอันดับไปหมด)แล้ว อาการถือว่าดีข้นมาเลยทีเดียวเชียว! เพราะสัปดาห์นี้ รายได้หนังลดลงไปครึ่งนึง เก็บไปอีก 2 แสนบาท เก็บทุนจากการปฏิบัติภารกิจมาหกสัปดาห์ได้แล้ว 6.1 ล้านบาท ตัวเลขถือว่าเปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนน้อยมากซะจนสถิติด้านรายได้ไม่เปลี่ยนแปลงอะไร แต่ถ้าพูดถึงอันดับของหนัง ที่หลังจากเคยหลุด Top 10 ไปแล้ว แต่สามารถกระโดดกลับเข้ามาใน Top 5 ได้นี่ ถือว่าแปลกและหายากมากจริงๆ เพราะอย่างที่เคยบอกไปเมื่อสัปดาห์ก่อนๆ หน้าว่าแค่หนังที่เคยหลุด Top 10 แล้วกระโดดกลับขึ้นมาได้ ก็ถือว่ามีน้อยมากแล้ว (ก่อนหน้า Argo ก็มีเพียง 3 เรื่องในปีนี้ คือ Wrath of the Titans, The Vow และ The Dark Knight Rises ซึ่งเรื่องที่กลับมาอีกครั้งได้อันดับสูงที่สุดอย่าง The Vow ก็ยังขึ้นมาได้เพียงอันดับ 8 แต่ยังไม่เคยมีเรื่องไหน กลับมาอยู่ได้เกินสองสัปดาห์เลยแม้แต่เรื่องเดียว!) ส่วนเรื่องที่กระโดดกลับเข้ามาใน Top 5 ได้อีกรอบ ที่ใกล้เคียงที่สุดก็คงจะเป็นกรณีของแอนิเมะค่ายจิบลิเมื่อปีก่อน อย่าง Arriety ที่เคยเปิดตัวสัปดาห์แรกนอก Top 10 แต่สัปดาห์ต่อมา(ซึ่งมี Transformer 3 มาถล่มโรง)หนังกลับสามารถกระโดดขึ้นมาเข้า Top 5 ได้ซะงั้น! มาถึงสัปดาห์ที่สาม เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง ปล่อยหนังใหม่มาถีบหนังกระเด็นเกือบหลุด Top 10 ไปอีก (ลงไปอยู่ในอันดับ 10) แล้วก็ดั่งฟ้าเล่นตลกอีกครั้ง (นี่อ่านเรื่องย่อละครอยู่รึเปล่าเนี่ย!!) ด้วยการที่หนังกระเด้งกลับเข้า Top 5 อีกครั้ง ในสัปดาห์ที่ 4!! (ซึ่งแฮร์รี่ภาคสุดท้ายเปิดตัว) แม้จะไม่อีหรอบเดียวกัน แต่ก็ถือว่าใกล้เคียงที่สุด ในช่วงเวลาใกล้ๆ นี้แล้วล่ะนะ! ส่วนหนุ่มเบน แม้หนังเรื่องนี้ของเขาจะไม่อาจหาญไปสู้หนังเรื่องอื่นๆของเขาในช่วงพีคได้ แต่ถ้านับกันเฉพาะหนังหลังจาก Paycheck ซึ่งเป็นหนังระดับ 10 ล้านเรื่องสุดท้ายของเขา หนังใหม่ของเขาถือว่าทำได้ดีที่สุดในรอบ 8 ปีที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ แซงหน้า Jersey Girl อีกหนึ่งหนังแป้กกับอดีตภรรยา และผู้กำกับเพื่อนซี้ เก็บเงินในบ้านเราไปแบบเงียบๆ ที่ 5.5 ล้านบาท ปล่อยให้ Armageddon ยังคงเป็นหนังร้อยล้านเพียงเรื่องเดียวของหนุ่มเบนต่อไป (116 ล้านบาท) เว้นแต่เฮียแกจะกลับมามีหนังฟอร์มระดับ “บล็อกบัสเตอร์” กับเขาอีกครั้งล่ะนะ! (ซึ่งดูจากโอกาสตอนนี้ ถือว่าดูดีไม่น้อยทีเดียวล่ะ ในเมื่อ "ภาษีทำเงิน" ของเฮียแก จับซะขนาดนี้!) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 20:24:48

ความคิดเห็นที่ 5 หลุดจาก Top 3 หนึ่งขั้น มาอยู่ใน อันดับ 4 กับหนังสยองขวัญ ซ่อนความลับ House at the End of the Street ที่ใช้ว่าเพิ่งเข้าฉายได้ไม่นาน จะรอดพ้นจากการโดนตีกินโดยหนังใหม่ฟอร์มยักษ์ไปได้! เพราะสัปดาห์นี้ สองแม่ลูก โดนสูบเลือดสูบเนื้อไปถึง 85%!! อยู่ที่ 4 แสนบาท รวมสองสัปดาห์ บ้านสยองขึ้นราคาไปแล้ว 4 ล้านบาท อนาคตดูจะไม่ค่อยสดใสซักเท่าไหร่ (แหงล่ะ ก็เล่นวูบเกือบหมดตัวตั้งแต่สัปดาห์ที่สองแบบนี้!!) แม้ครั้งหนึ่ง จะเคยทำได้ดีกว่าหนังแนวคล้ายๆ กันทั้งหลาย แต่ในเมื่อหลายๆ เรื่องเจองานที่เบากว่า(เยอะ!) รายได้ก็เลยยังพอแล่นฉิวไปได้บ้าง ทั้ง The Woman In Black ของอดีตพ่อมดน้อย ที่ครั้งหนึ่งเคยเปิดตัวมากกว่า แต่สัปดาห์ต่อมา ชนฮีโร่ผีหัวไฟ ซึ่งไม่โหดมากนัก รายได้เลยหล่นเกินครึ่งไปไม่มาก (55%) เก็บเงินสองสัปดาห์แซงไปแล้ว ที่ 4.4 ล้านบาท หรือบ้านสยองของป๋าเครก เจมส์ บอนด์ อย่าง Dream House ที่เปิดตัวน้อยกว่าเช่นกัน แต่เจองานสบายกว่า อย่าง In Time (แต่ไปหนักตรงมหาอุทกภัยแทน) รายได้เลยลดเกินครึ่งไม่มากอีก (55%) รายได้สองสัปดาห์ก็ตามสูตร แซงไปแล้ว ที่ 4.9 ล้านบาท แทบไม่ต้องไปเทียบกับบ้านหลอน Insidious ที่เปิดตัวในสัปดาห์ฉายจริงได้พอๆ กัน แถมกระแสบวก ยังช่วยพยุงให้หนัง รายได้ลดลงไม่ถึงครึ่งอีก (46%) รายได้สองสัปดาห์+รอบพิเศษ เลยฟันไปเน้นๆ แล้ว ที่ 6.7 ล้านบาท ฝั่งสาว เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ หลังจากมี “ว่าที่” แฟรนไชน์สุดฮิตอย่าง The Hunger Games เข้าฉายก่อนซัมเมอร์ เก็บเงินสองสัปดาห์ไปถึง 45 ล้านบาท (รายได้สัปดาห์ที่สอง ลดลงไปเพียง 41% ทั้งๆ ที่ต้องชนกับพี่ลูกครึ่งเทพด้วยนะนั่น!) ทำเอาหนังใหม่ของเธอกลายเป็น “หนังคั่นเวลา” ไปเลยทีเดียว แม้ว่าจะไม่ใช่หนังทำเงินต่ำสุดในบ้านเราก็เถอะ (น้อยสุดตกเป็นของหนังหวังรีเทิร์นวงการของป๋าเมล กิ๊บสัน อย่าง The Beaver ที่เก็บเงินเงียบๆ ในบ้านเราสองสัปดาห์ไปเพียง 3 แสนบาท จาก 5 โรงฉาย) ก็ต้องยอมรับว่า แม้กระแสหนังจะออกมาไม่ได้ย่ำแย่อะไร แต่ในเมื่อต้องมาเจอกับหนังกระแสดีกว่า(มากๆ) หนังก็เลยถูกกลบ(ซะมิด!)ไปอย่างน่าเสียดาย จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 20:25:29

ความคิดเห็นที่ 6 อีกหนึ่งเรื่องที่ตกลงมาหนึ่งขั้น หล่นจากรองแชมป์ มาอยู่ใน อันดับ 3 กับหนังตลกไทย เจือกลิ่นไซไฟ สูบคู่กู้โลก ที่ถือว่า มาได้เงียบเหงา ผิดฟอร์มของสองตลกตัวชูโรงมากจริงๆ งานนี้ พอต้องมาชนกับยักษ์ใหญ่ ก็เลยโดน “สูบคู่” เป็นธรรมดา!! แม้จะอาการไม่หนักหนาเท่าเรื่องอื่นๆ มากเท่าไหร่ เพราะสัปดาห์นี้ หนังโดนสูบไปกว่า 65% เก็บไปอีก 1.7 ล้านบาท รวมสองสัปดาห์ ฮากู้โลกไปแล้ว 8.5 ล้านบาท ก็ไม่ถึงกับเลวร้าย แม้จะดูน้อยเกินไปซักหน่อย ตามมาตรฐานของทั้งสองดารานำแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่าปีนี้ทั้งหนังไทย และหนังตลกพากันฟอร์มตกกันไปหลายเรื่อง ตัวเลขที่ออกมาจึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ หากลองเทียบบรรดาหนังตลกไทยที่พบกับสถานการณ์ไม่ต่างกัน (คือชนหนังใหญ่จนรายได้รูด) ใกล้เคียงที่สุดก็คงหนีไม่พ้น ปล้นนะยะ 2 อั๊ยยยย่ะ ที่ครั้งนึง เคยเปิดตัวมากกว่าร่วมสองล้าน แต่พอต้องมาชนกับฝูงเรือรบ ก็ทำเอาแก๊งค์แต๋วปล้นของเรา ไปกันแทบไม่เป็น รายได้ร่วงถึง 72%!! แต่ก็ยังเก็บไปมากกว่าแก๊งค์สูบคู่อยู่หน่อย ที่ 2 ล้านบาท ส่วนรวมสองสัปดาห์ ห่างกันค่อนข้างไกลแล้ว ที่ 12.5 ล้านบาท ผิดกับหนังตลกไทยเรื่องก่อนหน้า อย่าง หอแต๋วแตก แหกมว๊ากมว๊ากกก ที่ชนของแข็งไม่ต่างกัน (กับเจมส์ บอนด์เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วนั่นแหละ!) แต่กระแสปากต่อปากดูเหมือนจะดีกว่า รายได้เลยลดลงผิดคาดไปเพียง 53% (ส่วนรายได้รวมสองสัปดาห์ นำทั้งสองเรื่องบนไปไกลแล้ว ที่ 21 ล้านบาท) ฝั่งค่ายใบโพธิ์ หลังจากเพิ่งจะดีใจ(??)กับรายได้หนังที่ไต่ระดับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกันมาติดๆ กันหลายเรื่อง (ส่วนจะกำไรหรือเปล่านั่นก็อีกเรื่องนึงนะครับ!) การมาของสูบคู่ฯ ดูเหมือนจะมาเบรกฝันดีของค่ายอย่างไม่ได้ตั้งใจไปเสีย!! แม้มาถึงสัปดาห์นี้ หนังจะทำรายได้รูดลงมาค่อนข้างเยอะ (เรื่องก่อนหน้าที่ทำเงินลดลงเยอะกว่าจากค่ายเดียวกัน ก็คือ จันดารา ปฐมบท ที่เจอสถานการณ์หนักไม่ต่างกัน ชนกับผีชีวะจนรายได้ร่วงกราวไปกว่า 67% แต่รายได้รวมนั้น เรียกว่า ห่างกันหลายช่วงตัวนัก!!!) เอาเข้าจริง หนังก็น่าจะผ่านหลัก 10 ล้านให้แก่ค่ายใบโพธิ์ไปได้อีกเรื่องหนึ่งในปีนี้ล่ะนะ (แต่คงแบบเฉียดฉิวสุดๆ!! ถึงอย่างไร ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ 6 ติดต่อกันของค่ายในปีนี้อีกเช่นกัน ต่อจาก อันธพาล, คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์, ชัมบาลา, จันดารา ปฐมบท และ ยักษ์) พูดถึงหนังตลกเจือไซไฟของไทย เรื่องก่อนหน้าที่คงต้องนึกถึงก็คงหนีไม่พ้น กระดึ๊บ จากค่าย(ที่เริ่มจะไม่)ฟีลกู้ด GTH หลังจากที่เคยเปิดตัวไปแบบน่าผิดหวัง(แต่มากกว่าคู่สูบอยู่หน่อย!) มาสัปดาห์ที่สอง เจอทั้งก๊วนนาร์เนีย และผู้ชายลั้ลลา กระทึบซ้ำ! รายได้เลยร่วงหนักยิ่งกว่าไปถึง 75%!!! เก็บรายได้สัปดาห์ที่สองไปใกล้ๆ กัน เพียง 1.8 ล้านบาท (แต่ด้วยอานิสงค์เปิดตัวมากกว่า เลยเก็บรายได้รวมนำไปแล้ว ที่ 13 ล้านบาท) ขณะที่ฝั่งเครดิตของสองนักแสดงนำ แม้ในด้านตัวเลข อาจจะสู้ผลงานเก่าๆ ของทั้งคู่ไม่ได้เลย แต่ถ้าลองเทียบดูสถานการณ์จากเรื่องก่อนหน้า ที่ทั้งคู่ต่างประสบกันมา ดูเหมือนจะพบกับสถานการณ์ที่ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก อย่างเฮียหม่ำ ถ้าพูดถึงสถานการณ์ “ชนยักษ์” (จนคว่ำ!) ก็คงหนีไม่พ้น “คู่แป้ก” ประจำปีก่อนของเฮียแก อย่าง จั๊กกะแหล๋น และ ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน ที่เรื่องแรก “ใจกล้า” สุดๆ ถึงกับเปิดตัวชน ลัดดาแลนด์ และ Thor แบบไม่เกรงกลัว (แต่สุดท้าย กลายเป็น “ตัวเกร็ง” เพราะโดนสองเรื่องนั้น แย่งพื้นที่ไปแทน) พอถึงเวลาที่ของจริงอย่างแก๊งค์ซิ่ง Fast Five เปิดตัว หนังเลยแทบจะ “ถูกเมิน” ไปเลยเรื่องเดียว (รายได้ถดถอยไปถึง 60% ยังดีที่เก็บเงินสองสัปดาห์ไป 21.5 ล้านบาทแล้ว) ส่วนเรื่องหลัง ตอนเปิดตัว งานสบายกว่า เพราะไม่มีคู่แข่งเปิดชนด้วย แต่มาสัปดาห์ที่สอง งานหนักกว่ามากๆ เพราะต้องมาชนกับ สงครามหุ่นเหล็ก ที่กระทึบซะจนเฮียแกแทบจมดินไปถึง 70%! (แต่ยังคงเก็บเงินสองสัปดาห์มากกว่าอยู่ดี ที่ 16 ล้านบาท) ฝั่งเฮียเปิ้ลอาจจะอารมณ์ต่างกันนิดหน่อย แต่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ในปีเดียวกันนี้เลย กับเรื่องก่อนหน้า อย่าง รักเว้ยเฮ้ย ที่ซิวแชมป์ประจำสัปดาห์แบบสบายๆ (แม้จะเปิดตัวน้อยไปนิด) แต่สัปดาห์ต่อมาต้องมาชนกับ ATM ที่กลุ่มเป้าหมายเดียวกัน และดันบังเอิญ “ฮิต” เกินคาดด้วยนี่สิ! จากที่รักอยู่ดีๆ ก็เลย “ร่วงเว้ยเฮ้ย!” ไปถึง 86%!!! (ยังดีที่ทะลุหลักสิบล้านไปแล้ว ที่ 13 ล้านบาท) เบาลงมาอีกนิดเห็นจะเป็น โกยเถอะเกย์ ประกบเฮียหอย และป๋าต้อม ยุทธเลิศมากำกับ ที่ว่าเปิดตัวผิดฟอร์มก็ถือว่าเหนื่อยแล้ว (สิบล้านนิดๆ) ดันต้องมาชนกับ เมล์นรก หมวยยกล้อ ที่แนวและกลุ่มเป้าหมายเดียวกันอีก งานนี้ สองเกย์เลยรูดลงไปตามระเบียบถึง 75%!! (สองสัปดาห์ โกยไปเบาๆ 18 ล้านบาท) ส่วนเปิดตัวสูงสุดก็ยังคงเป็น สาระแนห้าวเป้ง เช่นเคย ที่ 32.9 ล้านบาท ฝั่งผู้กำกับนฤบดี เวชกรรม อย่างที่เคยบอกไปว่าย้ายมาจากตระกูลสาระแนสามตอนก่อนหน้า ซึ่งแต่ละตอน ถือว่าทำเงินลดลงกันไม่หนักมากเท่าไหร่ แต่หนักสุดเห็นจะเป็น สาระแนเห็นผี ที่ดูจะเจองานหนักกว่าใครเพื่อน เพราะโดนประกบหน้าหลังจากสองหนังไทยขายฮาฟอร์มดีทั้งคู่ (สุดเขต และเจ๊แต๋วภาค 3 ) รายได้เลยรูดลงเยอะกว่าใครเพื่อนหน่อย ถึง 63% (แต่รายได้รวมก็ยังห่างไกลอยู่ดี ที่ 41.1 ล้านบาท) ส่วนรายได้รวมของหนัง ที่กำลังจะผ่านหลัก 10 ล้าน(แบบฉิวเฉียด!)นั้น แทบไม่ต้องนับกันเลยทีเดียว ว่าทั้งสามคนนี้ มีหนังผ่านหลักนี้กันกี่เรื่อง!! (เอาไว้รอหนังผ่านได้จริงๆ ค่อยมาบรรยายกันอีกทีดีกว่าเนอะ!) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 20:26:02

ความคิดเห็นที่ 7 ถึงเวลาหลุดจากบัลลังก์ มาอยู่ใน อันดับ 2 เสียที! กับสุดยอดสายลับ (โกยเงิน)ระดับโลก! Skyfall หลังจากที่นั่งเก็บเงินสบายๆ (เฉียดร้อยล้าน!) มาได้สองสัปดาห์ สัปดาห์นี้ ก็ถึงเวลาแบ่งให้ยักษ์ใหญ่(กว่า) เข้ามารับไม้ เก็บกวาดต่อไป ยิ่งป๋าบอนด์ต้องประเคนโรง+รอบฉายให้ จนแทบจะสิ้นเนื้อประดาตัวเช่นนี้ ก็คงไม่ต้องแปลกใจ หากจะได้เห็นรายได้ของหนัง รูดลงแบบไม่บันยะบันยังไม่ต่างจากเรื่องอื่นๆ เพราะโดนสูบเลือดสูบเนื้อไปถึง 75%!! ลงมาอยู่ที่ 7 ล้านบาท คืนชีพมาสามสัปดาห์ ป๋าบอนด์ อ้อน(??)คนดูไปแล้ว 106 ล้านบาท แม้จะตกลงมาหนัก แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายมากเท่าไหร่ โดยเฉพาะเป้าหมายหลักของหนัง อยู่ที่หลัก 100 ล้าน ก็สามารถผ่านมาได้อย่างง่ายดายในที่สุด พูดถึงรายได้สัปดาห์ที่สามกันก่อน อย่างที่บอกไปว่า แม้จะร่วงหนัก แต่ก็ไม่ได้แย่มากมายอะไร เพราะโดยปกติ วัฏจักรของหนังฟอร์มใหญ่ก็มักจะร่วงหนักกันในสัปดาห์ที่ 3-4 อยู่ แล้ว จึงไม่น่าแปลกใจ ที่รายได้สัปดาห์ที่สามของป๋าบอนด์ จะยังคงติดอยู่ใน Top 10 รายได้สัปดาห์ที่สามสูงสุดประจำปีนี้ (แต่อันดับลดลงจากในกลุ่มสัปดาห์ที่สองมาหนึ่งขั้น มาอยู่ในอันดับ 7 ตามหลังเพื่อนร่วมค่ายอย่าง Resident Evil: Retribution ที่กลับมาแวงในสัปดาห์นี้ได้อีกครั้ง เพราะงานเบากว่าเยอะ ที่ 7.5 ล้านบาท) ส่วนรายได้รวมนั้น ท้ายที่สุดหนังก็สามารถผ่านหลัก 100 ล้านได้สำเร็จ เป็นเรื่องที่ 7 ของปีนี้เข้าไปแล้ว (ตามหลัง Resident Evil: Retribution อีกเช่นกัน) โดยใช้เวลารวมทั้งสิ้น 14 วัน ในการผ่านหลักนี้ ซึ่งถือว่าช้าเกือบที่สุดในบรรดาหนัง 100 ล้านทั้ง 7 เรื่องของปีนี้ (เร็วกว่าเพียง Resident Evil: Retribution อีกนั้นแหละ โดยเรื่องหลังใช้เวลาไป 20 วัน) ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ ถ้าหากหนังจะยังคงติดอยู่ในอันดับ 6 ในกลุ่มหนังทำเงินสูงสุดของปีนี้ และอาจจะเป็นอันดับสูงสุด ที่หนังจะไต่ขึ้นมาได้อีกด้วย! (เพราะยังตามหลังอันดับ 5 อย่าง The Dark Knight Rises อยู่ไกลทีเดียว ที่ 132 ล้านบาท!) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 20:26:31

ความคิดเห็นที่ 8 ในส่วนของหนังตระกูลสายลับทั้งหลาย มาถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่าแทบจะไม่เหลืออะไรให้ต้องลุ้นกันแล้วล่ะมั้ง ในเมื่อการที่หนังผ่านหลัก 100 ล้านได้อย่างเป็นทางการ ก็ทำให้บอนด์ภาคใหม่ของเรา กลายเป็นหนังสายลับเรื่องที่ 4 ตลอดกาล ที่สามารถผ่านหลักนี้ไปได้ สำหรับรายได้สัปดาห์ที่สาม แม้ว่าจะดูจะลดลงหนักหนา เมื่อเทียบกับสายลับคู่แข่งตระกูลดัง อย่างตระกูลอีธาน ฮันต์ ที่ขอส่ง Mission: Impossible III เข้าชิง ในฐานะภาคที่ทำเงินสูงสุด แม้สัปดาห์ก่อน หนังจะทำเงินรวมสองสัปดาห์ แซงป๋าบอนด์ไปค่อนข้างเยอะ ร่วมห้าล้าน (ทั้งๆ ที่รายได้สัปดาห์ที่สองลดลงไปต่ำกว่าพอสมควร!) แต่มาสัปดาห์นี้ นอกจากจะโดนของแข็งชนอย่างต่อเนื่อง จนรายได้รูดลงไปถึง 82%!! (เก็บสัปดาห์ที่สามน้อยกว่าป๋าบอนด์ไปเกินเท่าตัว! ที่ 3.4 ล้านบาท) รายได้รวมสามสัปดาห์ตอนนี้ ก็ถูกแซงไปแล้วเช่นกัน (แม้จะนิดหน่อยก็ตาม ที่ 104.9 ล้านบาท) แทบไม่ต้องพูดถึง Mission : Impossible - Ghost Protocol ที่รายได้สัปดาห์ที่สามอาจจะมากกว่าอยู่หน่อย (8 ล้านบาท) แต่รายได้รวมสามสัปดาห์ ยังไม่ทะลุหลัก 100 ล้านเลยด้วยซ้ำ! (97 ล้านบาท) มาถึงตอนนี้ โอกาสที่บอนด์ภาคใหม่ของเรา จะแซงหน้าหนังตระกูลฮันต์ทั้งสองภาคล่าสุด แทบจะเป็น 100% แล้วล่ะ! (เก็บเงินไป 107.3 และ 106.5 ล้านบาท ตามลำดับภาค) ฝั่งตระกูลบอนด์ด้วยกันก็ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่นัก เพราะหลัก 100 ล้านของภาคล่าสุด ถือว่าเป็นบอนด์ภาคที่สองที่สามารถทำได้เช่นนี้ ซึ่งนั่นก็ทำให้กลายเป็นบอนด์ภาคที่ทำเงินสูงที่สุดของป๋าเครกไปโดยปริยาย หลังจากสองภาคก่อนหน้า อย่าง Casino Royale และ Quantum of Solace ทำได้เพียงปริ่มๆ ร้อยล้านเท่านั้น (ทำเอาไว้ที่ 83.9 และ 92.2 ล้านบาท ตามลำดับ โดยภาค Casino ถูกแซงไปได้ตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว) มาถึงตอนนี้ ในตระกูลบอนด์ด้วยกัน ป๋าเครกจึงเหลือคู่แข่งสำหรับเพียงตอนเดียวคือ Die Another Day ซึ่งน่าจะเป็นการรับไม้ต่อบอนด์ทำเงินสูงสุดในบ้านเราได้ไม่ยากแล้วล่ะมั้ง (หลังจากต้องรอคอยมาถึง 10 ปีเต็ม! ที่ 108.5 ล้านบาท) ซึ่งถ้าหากแซงเรื่องหลังไปได้ ก็จะเป็นการรับช่วง หนังสายลับทำเงินสูงสุดในบ้านเรา ไปด้วยอีกหนึ่งตำแหน่งด้วย! งานนี้ก็เลยทำเอาแฟนๆ ยอดสายลับของเรา โล่งอกกันได้เต็มที่เสียที แม้จะทำเงินไม่ถล่มทลายเท่าในสหรัฐฯ หรือหลายประเทศในยุโรป (ที่ถึงขั้นเป็นสถิติตลอดกาลกันเลยทีเดียว!) แต่มาได้ไกลถึงขนาดนี้ สำหรับบ้านเรา ก็ถือว่าไม่น้อยหน้าประเทศอื่นๆ แล้วล่ะ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 20:27:08

ความคิดเห็นที่ 9 แทบไม่ต้องออกแรงขึ้น อันดับ 1 กันให้เมื่อย! กับภาคปิดตำนานรัก(เคย)สามเส้า The Twilight Saga: Breaking Dawn - Part 2 อีกหนึ่งหนังภาคต่อจากนิยายดัง ที่ประสบความสำเร็จบนจอเงินมหาศาล ในที่สุดก็เดินทางมาถึงตอนสุดท้าย(จริงๆ)ซะที! (หลังจากหั่นเล่มจบออกเป็นสองภาค) กับเรื่องราวต่อเนื่องจากภาคที่แล้ว แม้ว่าสาวเบลล่า จะกลายเป็นแวมไพร์+คุณแม่ยังสาวแบบเต็มตัวไปแล้ว แต่ความลับของลูกสาวเธอ ซึ่งเป็นลูกครึ่ง(คน+แวมไพร์) กำลังจะนำพาอันตรายมาสู่ทุกคนในบ้าน ทำให้บ้านคันเลน จำเป็นต้องลุกขึ้นมาสู้ เพื่อปกป้องทุกคนที่รักไว้ให้ได้! แน่นอนว่าปิดฉากซะยิ่งใหญ่ขนาดนี้ สาวกแวมไพร์(ที่มีเยอะมากๆ ในบ้านเรา)ก็น่าจะออกมา “ทไวไลน์” ร่วมกันครั้งสุดท้ายอย่างอุ่นหนาฝาคั่งแน่นอน ยิ่งได้รอบ+โรงแบบเต็มอิ่มเช่นนี้ด้วยแล้ว สุดสัปดาห์แรก แวมไพร์ของเราเลยสูบเงินไปถึง 98 ล้านบาท เป็นตัวเลขที่ถือว่า “มหาศาล” มากๆ สำหรับหนังซักเรื่องในบ้านเรา ยิ่งเปิดตัวในระดับ “เฉียดร้อยล้าน” แบบนี้ ก็คงไม่ต้องแปลกใจ ถ้าจะเห็นสถิติใหม่ๆ ตามมาอีกเป็นหางว่าว! เริ่มจากรายได้เปิดตัวสูงสุดสำหรับหนังในปีนี้ ที่สุดท้าย หนังก็สามารถโค่น The Avengers (78 ล้านบาท) ขึ้นแท่นเป็นหนังเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดประจำปีนี้ไปแบบเหนือคาดสุดๆ! แต่ก็ต้องยอมรับว่า The Avengers นั้น เปิดตัววันแรกตั้งแต่วันอังคาร ซึ่งตรงกับวันแรงงานไปแล้ว (และทำสถิติวันเดียวตลอดกาลไว้ที่ 39 ล้านบาท ห่างจากวันแรกของ Breaking Dawn ไปเกือบเท่าตัว!) ซึ่งเอาเข้าจริง รายได้สี่วันแรกของ The Avengers ก็ยังสู้เหล่าแวมไพร์ของเราไม่ได้อยู่ดี เพราะทำเอาไว้ที่ 92 ล้านบาท ในเมื่อโค่นหนังทุกเรื่องในปีนี้ได้หมด หนังจึงได้รับตำแหน่ง หนังที่เข้าฉายในระบบสองมิติ เปิดตัวสูงสุดในปีนี้ พ่วงไปอีกหนึ่งตำแหน่ง (ห่างจากแชมป์เก่าอย่าง The Dark Knight Rises ที่ 56 ล้านบาท เกือบเท่าตัว!) ขณะที่รายรับรวม มาแค่สัปดาห์แรกหนังก็ถือว่ามาไกลมากทีเดียว เพราะขึ้นมาสูงถึงอันดับ 8 (ตามหลัง Resident Evil: Retribution ไม่ไกล ที่ 103 ล้านบาท) และกำลังจะกลายเป็นหนัง 100 ล้านเรื่องที่ 8 ของปีนี้(แบบสบายๆ) อีกเช่นกัน แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 55 13:56:50 จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 20:28:11

ความคิดเห็นที่ 10 ฟากสถิติเปิดตัวสูงสุดตลอดกาลในบ้านเรา นี่น่าจะถือว่าเป็นอีกครั้งหนึ่งแล้วที่มีหนังเปิดตัวในระดับ “เฉียด” ร้อยล้านแบบนี้ (เป็นเรื่องที่สามที่สามารถเปิดตัวได้ในระดับ 90 ล้าน) แต่เพราะว่าครั้งนี้เข้าใกล้ร้อยล้านมากๆ ทำให้แวมไพร์ของเราเปิดตัวสูงสุดในบ้านเราเป็นอันดับที่ 3 (โดยมี 2 เรื่องข้างบนอย่าง Transformers 3 และ Harry Potter 7.2 เปิดตัวในระดับ 100 ล้านขึ้นด้วยกันทั้งคู่!) ที่เกินคาดมาซักหน่อยก็คงหนีไม่พ้นในกลุ่มหนังที่เข้าฉายในระบบสองมิติ เปิดตัวสูงสุดตลอดกาล ที่หนังคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ! (แซงหน้า 2012 ที่ 94.9 ล้านบาทไปแบบหายห่วง) แน่นอนว่ารายได้เปิดตัวสูงในระดับต้นๆ ตลอดกาล เลยไม่น่าแปลกใจที่จะได้เห็นหนัง ไล่กวาดแชมป์ในกลุ่มต่างๆ เป็นว่าเล่น เริ่มจากในกลุ่มหนังแวมไพร์-มนุษย์หมาป่าด้วยกัน ที่แน่นอนว่าคว้าบัลลังก์มาครองได้อย่างง่ายดาย เพราะโดยปกติ กลุ่มนี้บ้านทไวไลท์ต่างก็เปลี่ยนภาคกันมาครองแชมป์จนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว! ซึ่งถ้าตัดกลุ่มทไวไลท์ด้วยกันออกไป หนังก็ยังคงเป็นแวมไพร์ที่เปิดตัวสูงสุดในปีนี้อยู่ดี (แซงหน้า Underworld Awakening ไปหลายช่วงตัว ที่ 23 ล้านบาท) หรือในกลุ่มตลอดกาลก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ เพราะแชมป์เก่าอย่าง Van Helsing ก็โดนแซงไปไกล สู้ไม่ได้อีกเช่นกัน ที่ 29.6 ล้านบาท จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 20:28:40

ความคิดเห็นที่ 11 ข้ามฟากมาดูฝั่งบล็อกบัสเตอร์ภาค 5 ด้วยกันทั้งหลาย แม้จะมีจำนวนเพียงหยิบมือ แต่ก็ต้องยอมรับว่า แต่ละเรื่อง รายได้โหดเอาเรื่องเหมือนกันอยู่ ซึ่งอย่างที่เกริ่นไปก่อนหน้านี้ แวมไพร์ของเราก็ยังคงมามาเก็บแชมป์ในกลุ่มนี้ไปอีกเช่นกัน (แซงหน้า Harry Potter and the Order of the Phoenix ไปไกลหน่อย ที่ 82.9 ล้านบาท) รวมไปถึงรักษาสถิติ รายได้เปิดตัวเพิ่มขึ้นทุกภาค มาตั้งแต่ภาคแรก ไม่ต่างจากตระกูลอื่นๆ อีกด้วย! (ซึ่งนับถึงเฉพาะถึงภาคห้าเท่านั้นนะครับ เพราะแฮร์รี่ของเรา ขึ้นมาสูงสุดในภาคห้า กลับร่วงลงไปในภาคหก ก่อนที่จะกลับมาทุบสถิติตัวเองใหม่ในภาคสุดท้าย) ส่วนตระกูลทไวไลท์ด้วยกัน ต้องยอมรับว่าเป็นรายได้เปิดตัวที่น่าตกใจสุดๆ การที่หนังจะขึ้นมาเป็นภาคที่เปิดตัวสูงสุด อาจจะไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเท่าไหร่สำหรับภาคสุดท้าย แต่ที่น่าตกใจก็เพราะ ในเมื่อสองภาคก่อนหน้าทำรายได้เปิดตัวแทบจะเท่าๆ กันจนเหมือนเริ่มอิ่มตัว (สองภาคก่อนหน้าเปิดตัวเอาไว้ที่ 51.1 และ 51.3 ล้านบาท ตามลำดับภาค โดยแชมป์เก่าคือภาค 4) รายได้ของภาคล่าสุด ถือเป็นก้าวกระโดดที่พุ่งขึ้นมาสูงมากๆ เกือบเท่าตัว! (เทียบกับแฮร์รี่ ภาค 7.1 และ 7.2 ที่ภาคสุดท้าย ทำเงินกระโดดขึ้นมา 46% แถมได้ราคาสามมิติมาช่วยด้วย!) ซึ่งแทบไม่ต้องพูดถึงหลัก 100 ล้านที่ผ่านได้แน่นอนในวันจันทร์ ก็จะทำให้ตระกูลทไวไลน์ ได้สมาชิกระดับ 100 ล้านเพิ่มเป็น 3 เรื่องแล้ว (ส่วนอันดับรายได้รวมในกลุ่ม หนังกระโดดขึ้นมาสูงถึงอันดับ 3 แล้วตอนนี้ และคาดว่าน่าจะแซงทุกภาคได้หมดภายในวันจันทร์ด้วย!) สำหรับเครดิตของนักแสดงและผู้กำกับ แทบไม่ต้องเดากันให้เสียเวลา ว่าหนังจะขึ้นเป็นแชมป์ในเครดิตของแต่ละคนได้หรือไม่!! ซึ่งถ้าลองมาแยกย่อยดูดีๆ ก็ใช่ว่าทุกคนจะ(เคย)มีซีรี่ย์ทไวไลท์ทำสถิติในเครดิตของตัวเองไปซะหมด อย่างหนุ่มแวมไพร์โรเบิร์ต แพททินสัน ที่อาจจะแจ้งเกิดเต็มๆ จากซีรี่ย์นี้ แต่กลายเป็นว่า เพิ่งจะเป็นทไวไลท์ภาคล่าสุดนี่เอง ที่สามารถขึ้นเป็นหนังเปิดตัวสุงสุดของเขาได้! เพราะแชมป์ก่อนหน้าตกเป็นของ Harry Potter and the Goblet of Fire ที่เขารับบทสมทบ แต่ก็กวาดเงินกวาดทองไปตามสไตล์พ่อมดน้อย ที่ 82.3 ล้านบาท ส่วนผลงานเรื่องก่อนหน้าในปีนี้ แม้จะมีเข้ามาถึง 2 เรื่อง แต่ทั้งคู่ต่างก็เปิดตัวในวงจำกัดซะจนรายได้เปิดตัวน้อยนิด ไม่ถึงหลักล้านเลยด้วยซ้ำ! (Bel Ami และ Cosmopolis เปิดตัวไปที่ 2 และ 8 แสนบาท ตามลำดับ) ฝั่งสาวแวมไพร์(มือใหม่)คริสเต็น สจ๊วต ที่ครั้งหนึ่งเคยมีเพียงตระกูลทไวไลท์ ที่สามารถทำเงินในหัวแถวของเครดิตเธอ แต่มาปีนี้ แม้ทไวไลน์จะยังคงทำได้ดีที่สุดเช่นเคย แต่อย่างน้อย เธอก็ยังมีหนังแทรกเข้ามาใน Top 5 ได้อยู่ กับหนังที่ทำให้เธอดัง(ในเรื่องฉาว!) อย่าง Snow White and the Huntsman ที่ตอนนี้ ตกลงไปอยู่ในอันดับ 5 ด้วยรายได้ที่ค่อนข้างโอเคอยู่ ที่ 33 ล้านบาท (ส่วนอีกเรื่องในปีนี้ อย่าง On the Road ที่เธอไปปล่อยของไว้ไม่น้อย ก็เปิดตัวไปแบบจุ๋มจิ๋ม เพราะจำกัดโรง ที่ 1 แสนบาท จาก 2 โรงฉาย) อีกหนึ่งหนุ่ม อย่างหมาป่าล่ำ เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์ แทบจะไม่มีหนังเรื่องไหนมาสอดแทรกในตระกูลทไวไลท์อย่างคนอื่นๆ ได้เลย อย่างดีที่สุดก็คือ Abduction ที่กระแสก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่ในฐานะนำเดี่ยวนอกซีรี่ย์ทไวไลน์เรื่องแรก ก็ถือว่าทำได้ไม่เลวนัก เปิดตัวที่ 10.2 ล้านบาท (ติดอยู่ในอันดับที่ 6 ตามหลังทไวไลท์ทั้ง 5 ภาคนั่นแหละ!) ส่วนผู้กำกับบิล คอนดอน อาจจะไม่ใช่ลูกหม้อเหมือนคนอื่นๆ เพราะมากำกับได้เพียง 2 ภาค (ซึ่งมากกว่าคนอื่นๆ อยู่ดี ที่ได้กำกับกันแค่คนละภาคเท่านั้น!) แต่ก็ไม่ต่างกับคนอื่นๆ ตรงที่มีทไวไลท์เป็นหนังทำเงินสูงสุดในเครดิตของตนเองเช่นกัน โดยมีอดีตแชมป์นอกกลุ่มแวมไพร์ อย่าง Dreamgirls เปิดตัวไปหงอยๆ ตามประสาหนังเพลง ที่ 2.6 ล้านบาท กระแสหนังที่ออกมาค่อนข้างก้ำกึ่งไม่ต่างจากภาคก่อนๆ (แต่ดูจะเป็นคำชมเยอะกว่าหน่อย) ก็คงไม่ส่งผลต่อตัวรายได้หนังมากเท่าไหร่แล้วล่ะมั้ง ในเมื่อเปิดตัวออกมาซะมโหฬาร จนแทบจะลบสถิติของทุกๆ ภาค และหนังอื่นๆ ในปีนี้ไปหมดแล้ว แต่ที่น่าเป็นห่วงหน่อยก็คงจะเป็นรายได้ระดับ 200 ล้านนี่แหละ ที่แม้ว่าหนังจะมีเวลาให้ได้เก็บโกยค่อนข้างนานอยู่ (ก่อนการกลับมาของมัชฌิมโลก) แต่หนังคู่แข่งเรื่องอื่นๆ ก็ไม่ได้ง่อยเปลี้ยซะทีเดียว แถมรายได้ที่ตกลงหนักดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติของหนังใหญ่อยู่แล้ว งานนี้ก็คงต้องลุ้นกันอย่างเดียวแล้วล่ะ ว่าแวมไพร์ของเรา จะ “เข่าอ่อน” ไปซะเองมากแค่ไหน!? จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 20:29:32

ความคิดเห็นที่ 12 ปิดตำนานแวมไพร์ได้ถล่มทลายซะขนาดนี้ Top 10 สัปดาห์นี้  รายได้เลยพุ่งกระฉูดไปถึง 107.5 ล้านบาท มากกว่า Top 10 ของสัปดาห์ก่อน (36.9 ล้านบาท) แบบถล่มทลายถึง 191%! และมากกว่า Top 10 สัปดาห์เดียวกันของปีก่อน (22.6 ล้านบาท) แบบไม่เห็นฝุ่นไปถึง 375%!!!!! ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่นางพญาอั้ม 30 กำลังแจ๋ว ยังคงนั่งบนบัลลังก์เป็นสมัยที่สาม ด้วยรายได้ที่ถือว่าน้อย สำหรับแชมป์สัปดาห์อื่นๆ ที่ 7.7 ล้านบาท (กระทั่ง The Thing ที่มาเพียงเรื่องเดียวในสัปดาห์นั้น ก็ยังสู้ไม่ได้อยู่ดี แม้จะเพียงนิดเดียวก็เถอะ!) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 20:30:38

ความคิดเห็นที่ 13 สุดสัปดาห์หน้า ท่ามกลางบรรยากาศทไวไลท์ที่น่าจะยังคงยึดโรง+บัลลังก์แบบต่อเนื่อง ก็เต็มไปด้วยหนังใหม่ที่หวังจะเข้ามาท้าทาย เรียกกลุ่มคนดูของตัวเองให้ได้มากที่สุด ถึงแม้ว่าจะยากอยู่ซักหน่อย ที่จะไปกระชากบัลลังก์ลงมาได้ (แต่ก็ไม่ลองไม่รู้นี่!!) โดยเต็งหนึ่งในกลุ่มหนังใหม่ตกเป็นของหนังไทยสยองขวัญจากค่ายห้าดาว ที่ขอกลับมาทวงบัลลังก์ “ผู้นำเทรนต์(??)” อีกครั้ง ด้วยการส่งหนังสามมิติเรื่องที่สองของตนเองลงโรงฉาย กับเรื่องราวสุดหลอน แบ่งออกเป็นสามตอนย่อย หลากเรื่องราว รวมดารามากฝีมือไว้คับคั่ง ใน ”ตีสาม” ตามมาพอประมาณกับหนังแอ็กชั่นรีเมค ที่เปลี่ยนตัวศัตรูคู่ฉกาจมาเป็นเกาหลีเหนือ บุกยึดครองดินแดนอเมริกาด้วยวิธีการลึกลับ แต่ใช่ว่าทุกคนจะยอมแต่โดยดี เมื่อมีแก๊งค์หนุ่มสาวผู้หนีรอด รวมพลังฟอร์มทีม จัดการ “เอาคืน” กันให้สาสม ใน ”Red Dawn” ร่วมวงด้วยหนังมันส์ระทึก (แต่รายได้กร่อยซะจนค่ายระทึกแทนในบ้านเกิด!) ได้หนุ่มงานชุกโจเซฟ กอร์ดอน เลวิตต์ มาสวมบทหนุ่มนักปั่นระดับเทพ ที่ต้องมาเจอเรื่องวุ่น(ถึงชีวิต) จากเอกสารที่เขาเป้นคนรับส่ง ใน ”Premium Rush” และหลากหนังจำกัดโรง จำกัดเครือ ทั้งอีกหนึ่งหนังไทย ที่น่าจะเรียกว่าเป็น “ละครเวที ขึ้นจอ” ซะมากกว่า! เพราะเป็นครั้งแรกกับละครเวทีไทย ที่ได้เข้าฉายในฐานะภาพยนตร์ หลังจากสร้างชื่อเสียงมาไม่น้อย ในช่วงที่ออกแสดง ได้สองพระ-นางขวัญใจวัยรุ่น มารับบทนำในเรื่องราวสุดซึ้ง ของนักร้องหนุ่มจอมกะล่อน ที่ดันมาพบรักแท้กับสาวตาบอด แต่กลับต้องพบกับอุปสรรคขวางกั้นมากมาย ใน ”รักจับใจ” หนังเอเชียจากนิยายชื่อดัง (ที่เลื่อนฉายแล้ว เลื่อนฉายอีกมาร่วมเดือน!) ได้นางเอกขวัญใจของใครหลายๆ คน หลิวอี้เฟย มารับบทหนึ่งในสี่สุดยอดมือปราบ ที่คอยสะสางปัญหาต่างๆ ในยุทธจักร กับ ”The Four” หนังเต็งรางวัล ของผู้กำกับหนุ่มขั้นอ๋อง พอล โธมัส แอนเดอร์สัน ที่ได้นักแสดงดีกรี(เข้าชิงและได้)ออสการ์ มาประชันบทบาทกันแบบไม่ทิ้งลาย! กับเรื่องราวของหนุ่มแปรปรวน ที่ชีวิตกำลังจะเปลี่ยนไป เพราะได้พบกับชายเจ้าลัทธิ ที่เกิดรู้สึกติดใจในตัวเขาอย่างประหลาด ใน ”The Master” และรอบพิเศษของหนังฟอร์มดี รวมดาราคับคั่ง อย่าง ”Cloud Atlas” ที่เข้าฉายตั้งแต่รอบสองทุ่มเป็นต้นไป ผีไทยทะลุจอ จะล่อแวมไพร์ลงจากบัลลังก์ได้หรือไม่??? สัปดาห์หน้า มาลุ้นกันต่อครับ! เครดิตข้อมูลอันดับรายได้หนังประจำสัปดาห์ http://www.entertainweekly.in.th/file_detail.php?cid=01118&c=11 จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 20:31:23

ความคิดเห็นที่ 14 อาทิตย์นี้ไม่ต้องดูเลยที่1กับ2 จากคุณ : gumk1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 20:41:41

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ จากคุณ : ฉันอยู่เพื่อกิน เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 20:48:18

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณครับ อ่านเพลินเลย จากคุณ : Brown_Label เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 21:27:52

ความคิดเห็นที่ 17 ทไวไล้รายได้เว่อมากกกกกกกกกแต่สนุกจริงๆแหละ จากคุณ : ปลาตะเพียนโออิชิ เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 21:49:49

ความคิดเห็นที่ 18 ทไวไลท์ สนุกจริงๆครับ ขอบคุุณข้อมูลดีๆนะครับ กระทู้ดีมาก ^-^ จากคุณ : 2 Undifferent เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 22:48:01

ความคิดเห็นที่ 19 สมควรจริงๆกับ tw ภาคจบนี้ เพราะถ้าเอาตามฟีลที่ได้ดูจริงๆ แทบไม่อยากเชื่อตัวเองเหมือนกันว่า ฟีลผมว่ามันสนุกกว่า avengers / dark knight rise ด้วยซ้ำไป เนื้อเรื่องมันอาจไม่มีอะไร(เลย) แต่ตัวหนังทำได้ดี ไม่มีเบื่อ ลุ้น ฮา ซึ้ง และปิดท้ายได้ประทับใจจริงๆ จากคนที่ไม่ได้ปลื้มเท่าไหร่กับตัวหนังชุดนี้ ภาคจบทำให้ได้ฟีลขนาดนี้ มันแปลกมากจริงๆนะเนี่ย ^^ จากคุณ : Barca'naL_uffy เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 23:27:33

ความคิดเห็นที่ 20 Gift & Vote จ้า กระทู้ที่รอคอย ^____^ จากคุณ : zelimony เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 23:43:23

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณเช่นเคยค่ะ โหวตๆ จากคุณ : mini_me_yo เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 00:47:54

ความคิดเห็นที่ 22 3 วันแรก 92 1 สัปดาห์ 98 เริ่มตกละนะ จากคุณ : DEVIL PHOENIX HELLSING เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 08:42:42

ความคิดเห็นที่ 23 อ่านมันส์ดีจริงๆครับ..ข้อมูลปึ๊กมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก จากคุณ : ป็อกป็อกแป็กแป็ก เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 09:29:20

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณครับ จากคุณ : Love Anyone เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 10:45:59

ความคิดเห็นที่ 25 1.หมาป่าแน่นอน   เพราะแถวบ้านมันจองไป4โรง.ไม่มีไรดูเลยกับ007 1โรง จากคุณ : gumk1 เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 10:59:00

ความคิดเห็นที่ 26 อาิทิตย์หน้าเชียร์รักจับใจ จากคุณ : peachgirl79th เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 11:16:36

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณสำหรับข้อมูลแน่นๆ แต่อ่านแล้วงง รายได้ทไวไลท์4.2 สรุปว่า 98 ล้านบาท นี่คือรายได้เปิดตัว 4 วันแรกหรือรวมทั้งสัปดาห์ 7 วันกันแน่??? จากคุณ : Barry Banana Caramel เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 12:47:13

ความคิดเห็นที่ 28 ^ ^ รายได้ 4 วันแรกค่ะ 15-18 พ.ย. จากคุณ : ฉันอยู่เพื่อกิน เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 13:33:35

ความคิดเห็นที่ 29 รอคุณ gunki_kun มารายงานสัปดาห์หน้านะครับ แต่ตอนนี้ก็พอรู้ตัวเลขคร่าวแล้วว่า เบรคกิ้งดอร์น ภาค 2 ทำไปอีก 31 ล้าน ตอนนี้ได้ไป 158 ล้านและครับ จากคุณ : DICK&JANE เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 14:59:35

ความคิดเห็นที่ 30 แอบไปเห็นของอาทิตย์นี้มา ทไวไลท์ 158 ล้าน บอร์น 111.6 ล้าน ตี3 ก้เปิดสวยอยุ 15 ล้าน ><" แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 55 15:09:28 จากคุณ : dsเด็กป้อมsc เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 15:09:10

ความคิดเห็นที่ 31 รายได้อลังการสมกับเป็นภาคสุดท้าย ... แต่ฉากบู๊ ก็ดูระทึกตื่นตาตื่นใจดีนะ ! ลุ้นว่า ใครจะตายเมื่อไหร่ =.= จากคุณ : B-Crusher เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 08:34:25

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณมากครับ อาทิตย์ที่แล้วรออ่านอยู่ อาทิตย์นี้เลยอ่านสองกระทู้ควบ :) จากคุณ : mikroski เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 17:53:25

ความคิดเห็นที่ 33 ชอบ คห. 11 จากคุณ : joy_bph เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 23:09:32

ความคิดเห็นที่ 34 RED DAWN มันส์มากๆ ขอบอก ใครยังลังเล ไปดูได้เลย จากคุณ : TVIC_1408 เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 11:50:50