 |
หลังวิกฤตการณ์เปิดโปงแผนการร้ายขององค์กรฯ ลับที่อยู่เบื้องหลังความเลวร้ายของสังคมไทย เหตุการณ์ทุกอย่างดูเหมือนคลี่คลายไปได้ด้วยดี... ดร.เมฆา (นพพล โกมารชุน) กับ นภา (สินจัย เปล่งพานิช) ทั้งคู่ครองรักกันอย่างมีความสุข เมฆาก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีของเมืองไทยได้เกือบ 4 ปีแล้ว เขาใช้ความสามารถและความซื่อสัตย์สุจริต บริหารบ้านเมืองและสังคมไทยให้เจริญรุดหน้า นภาหันหลังให้กับการปราบปรามและสืบสวน ใช้ชีวิตแม่บ้านเต็มตัว เป็นคู่คิดให้กับดอกเตอร์เมฆาในทุก ๆ เรื่อง รวมทั้งการวางแผนเลือกตั้งเพื่อให้ดอกเตอร์เมฆาเป็นนายกฯ สมัยที่ 2 พายุ (ชาคริต แย้มนาม) กับ ฟ้า (เข็มอัปสร สิริสุขขะ) แต่งงานกันด้วยความเข้าใจ ร่วมกันทำงานบริหารองค์การเพื่อสิทธิมนุษยชนในต่างประเทศ และกลับมาเยี่ยมเมฆากับนภาปีละครั้ง ครั้งล่าสุดทั้งคู่กลับมาบอกข่าวดีว่าทั้งสองคนกำลังจะได้เป็นคุณปู่และคุณยายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า คราม (พศุตม์ ปานแย้ม) กับ ทอรุ้ง (รัชวิน วงศ์วิริยะ) จะแต่งงานกันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ครามก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าหน่วยกลยุทธ์ ของ สำนักงานสืบสวนพิเศษ ส่วนทอรุ้งดำเนิน มูลนิธิครูอารี เพื่อสืบทอดเจตนารมย์ที่ดีของครูอารีที่มีต่อเด็กกำพร้าในชุมชนแออัด โดยกำหนดการแต่งงานทั้งสองคนจะมีดอกเตอร์เมฆากับนภาร่วมกันเป็นเจ้าภาพ หากแต่ใครจะคาดคิด... ท่ามกลางท้องฟ้าที่ดูเหมือนกำลังสดใส กลับมีเมฆหมอกทะมึนกำลังเคลื่อนคล้อยเข้ามาปกคลุม ความเลวร้ายกำลังจะบังเกิด ! ในรอบปีที่ผ่านมา เกิดอาชญากรรมอุกอาจปล้นทองคำแท่งและวัตถุโบราณหลายชิ้น แม้บางครั้งจะจับผู้ต้องหาได้ แต่ทองคำและวัตถุโบราณของกลางจะสูญหายไปทุกครั้ง ผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรม หลายคนเป็นที่นับหน้าถือตาในสังคม และที่สำคัญ...ทุกคนจดจำเหตุการณ์ที่กระทำลงไปไม่ได้เลยสักครั้ง ! คล้ายผู้ต้องหาเหล่านั้น..ถูกสะกดให้ทำทุกอย่างตามความต้องการของผู้มีอำนาจบงการจิตใจ ชักจูงใจให้ทำทุกอย่างไปตามที่ตัวเองต้องการ ! น้อยคนจะทราบถึงความสำคัญของโบราณวัตถุ 4 ชิ้นล่าสุดที่หายไป โดยชิ้นล่าสุดคือ สังข์ไชยมงคล 1 ใน 4 ศาสตราวุธโบราณ ตรีศูลวัชระ, อนันตคทา, จักระนารายณ์ และ สังข์ไชยมงคล ซึ่งปราฏอยู่ในตำราโบราณ คัมภีร์เทวาศาสตราวุธ หากผู้ใดหลอมรวมศาสตราวุธทั้งสี่ด้วยทองคำแท้บริสุทธิ์ในคืนเดือนดับ ศาสตราวุธใหม่ที่ได้จะมีอานุภาพทำลายล้างมากกว่าอาวุธทุกชิ้นในโลก ผู้ครอบครองยังจะมีพลังเหนือฅน สามารถครองใจและมีอำนาจเหนือสรรพสิ่งทั้งมวล! คราม ได้รับมอบหมายจากสำนักงานสืบสวนพิเศษ ให้รับผิดชอบโดยตรงในการติดตามโบราณวัตถุที่หายไปรวมทั้งจับเอาตัวคนผิดมาลงโทษ โดยร่วมกับ จ่าสมิง (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) ตำรวจหนุ่มใหญ่ที่ดูมีบุคลิกแปลกแยกกับสิ่งที่ปรากฏต่อหน้าสายตาคนโดยทั่วไป คล้ายเป็นตำรวจขี้เมาไม่ได้เรื่องได้ราว..แต่น่าแปลกที่จับคนร้ายได้ด้วยเหตุบังเอิญทุกครั้ง และนายตำรวจคนใหม่ของสำนักงานสืบสวนพิเศษอีกหนึ่งคน แสงกล้า (ปริญ สุภารัตน์) ตำรวจหนุ่มผู้มุทะลุ แสงกล้ากับจ่าสมิงเหมือนเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน มักจะขัดแย้งต่อล้อต่อเถียงกันอยู่เสมอ ด้วยบุคลิกที่ขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิง จ่าสมิงบ้าหวยเชื่อโชคลางถือฤกษ์ผานาทีเป็นชีวิต ขี้เมา เฮฮา ปากเสีย ขณะที่แสงกล้าเครียดเอาจริงเอาจังกับหน้าที่ ไม่เคยเชื่อถือในไสยศาสตร์ ยึดหลักทุกอย่างต้องอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์เท่านั้น จ่าสมิงมีประวัติความเป็นมาอย่างไรไม่มีใครรู้ รู้แต่เพียงตำรวจหนุ่มใหญ่คนนี้ย้ายหน่วยงานอยู่บ่อย ๆ มาหลายปีแล้ว และทุกครั้งที่ย้ายไปที่ไหนก็เข้าทำนองคนกินนาย.. เพราะหัวหน้าหน่วยของจ่าสมิงต้องจบชีวิตลงอย่างปริศนาทุกครั้ง คล้ายจ่ามีของอยู่ในตัว! จ่าสมิง แสงกล้า และคราม ทั้งสามคนพยายามสืบหาความจริง แต่ก็ยังไม่ทราบว่าทำไมโบราณวัตถุเหล่านั้นหายไป ผู้ที่ขโมยไปต้องการอะไรกันแน่ ดูเหมือนสำนักงานสืบสวนพิเศษยังไม่ระแคะระคายความลับเรื่องคัมภีร์เทวาศาสตราวุธเลยแม้แต่น้อย ! จ่าสมิงและแสงกล้าร่วมกับคราม เข้าสกัดการปล้นวัตถุโบราณชิ้นสำคัญ อนันตคทา จากงานแสดงวัตถุโบราณนานาชาติ ขณะกำลังต่อสู้กับคนร้ายอยู่นั้น ทั้งสามต้องพบกับศัตรูที่มีอำนาจมืด โจรขมังเวทย์ (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) กระสุนปืนและอาวุธทุกชนิดไม่สามารถทำร้ายได้ แม้แสงกล้ากับครามจะร่วมมือกันต่อสู้แต่ก็ยังไม่อาจต้านทาน หนำซ้ำครามยังถูกเล่นงานจนได้รับบาดเจ็บอาการปางตาย ส่วนแสงกล้าเองก็แทบเอาตัวไม่รอด ดีที่ได้จ่าสมิงมาช่วยไว้ทัน ! แต่น่าแปลกที่โจรขมังเวทย์ต้องล่าถอยเมื่อเผชิญหน้ากับจ่าสมิงที่มีลีลายียวนกวนโทสะ ยืนผงาดขึ้นวาดปืนในมือออกยิงเข้าใส่โจรขมังเวทย์โดยไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย และที่น่าทึ่งไปกว่านั้นก็คือ... กระสุนจากปืนของจ่าสมิงกลับเรียกเลือดออกจากตัวโจรขมังเวทย์ได้ ! อนันตคทา รอดพ้นจาก การโดนปล้นไปได้ด้วยฝีมือของจ่าสมิง ! ครามถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน โดยทอรุ้งเฝ้าพยาบาลไม่ห่าง ขณะที่แสงกล้าพยายามจะสอบสวนค้นหาความจริงจากจ่าสมิงถึงเรื่องราวโจรขมังเวทย์ เพราะท่าทางของทั้งคู่ขณะเผชิญหน้ากันนั้น เหมือนรู้จักกันมานาน.. แต่เขาไม่ได้ข้อมูลอะไรจากจ่าสมิงมากนักเพราะสมิงพูดจาไปทางเลอะเทอะซะมากกว่า สมิงเฝ้าแต่พูดด้วยแววตาแข็งกร้าวว่า.. ไสยศาสตร์ดำกำลังจะกลับมา พวกมันกำลังไล่ล่าโบราณวัตถุด้วยวัตถุประสงค์ร้ายแน่นอน แต่เขาเองก็ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร ! หากต้องการป้องกันภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้น แสงกล้าต้องเชื่อฟังเขาในทุกกรณี ซึ่งส่งผลให้แสงกล้าต้องรำคาญใจกับอาการแปลก ๆ ของจ่าสมิงเป็นอย่างยิ่ง คืนวันนั้นเกิดเรื่องไม่คาดคิด ครามคุ้มคลั่งหนีออกจากโรงพยาบาลไปอย่างไร้ร่องรอย ในวันถัดมาสำนักงานสืบสวนพิเศษจึงพบว่าอนันตคธาหายไป และยังพบร่างที่ไร้วิญญาณของครามกับ ทอรุ้งอยู่ภายในห้องจัดแสดงนิทรรศการฯ ! ไม่เท่านั้นภาพจากโทรทัศน์วงจรปิดยังบันทึกไว้ว่า ครามกับทอรุ้งต่อสู้กันอย่างรุนแรงภายในห้องจัดแสดงฯ เพราะทอรุ้งขัดขวางไม่ให้ครามขโมยอนันตคธาออกไป ในที่สุดครามพลั้งมือทำร้ายทอรุ้งจนเสียชีวิต ทำให้เขาทนไม่ได้ต้องลั่นกระสุนฆ่าตัวตาย.. จบชีวิตตัวเองตายไปพร้อมกับคนรัก ! การตายของคนทั้งสองสร้างความประหลาดใจกับแสงกล้าและจ่าสมิงเป็นอย่างมาก เพราะครามไม่น่าจะทำแบบนี้ แสงกล้าขอให้ ดอกเตอร์แพรไพลิน (ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง) สาวสวยผู้เชี่ยวชาญพิเศษทางนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบโดยละเอียด แต่หลักฐานกลับชัดเจนว่าครามลั่นกระสุนเข้าใส่ทอรุ้ง และลั่นกระสุนระเบิดหัวตัวเอง แพรไพลินปลอบใจให้แสงกล้าจำนนต่อหลักฐาน แต่แสงกล้ากลับเริ่มไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น มีเพียงจ่าสมิงที่สีหน้าเครียดมากกว่าที่เคยเป็น อารมณ์ขันที่มีอยู่อย่างเหลือเฟือกลับกลายเป็นอารมณ์เครียดแบบเกินพิกัด มนต์ดำชั่วกลับมาแล้ว.. เราต้องไม่เชื่อในสิ่งที่ปรากฏต่อสายตา ความรู้สึกและจินตนาการเท่านั้นที่จะนำเราไปสู่ความจริง! จ่าสมิงได้แต่พร่ำพูดกับแสงกล้า แสงกล้าตำรวจไฮเทคเริ่มคล้อยตามคำพูดของจ่าสมิงเรื่องอำนาจไสยศาสตร์ที่มองไม่เห็น เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองตกลงจะร่วมมือกันไขปัญหานี้ให้ลุล่วงให้จงได้ ภาพที่ไม่คุ้นตาจึงเกิดที่สำนักงานสืบสวนพิเศษ เมื่อนายตำรวจมือปราบผู้ทันสมัยและไฮเทค กลับต้องโอนอ่อนต่อการเชื่อถือโชคลางของจ่าคู่ใจ ยอมทำตามทุกอย่าง แม้กระทั่งเสี่ยงทายสูดลมหายใจ ก้าวเท้าด้วยข้างซ้ายหรือข้างขวา ! ศพของทอรุ้งและครามถูกฌาปนกิจอย่างเร่งด่วน และเพราะเหตุที่ทั้งคู่ไม่มีญาติพี่น้องถึงไม่มีใครคิดสนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่หากมีใครสังเกตจะพบความจริงว่าโลงศพที่ถูกเผาทั้งสองโลงนั้นเป็นโลงที่ว่างเปล่า ! จ่าสมิงและแสงกล้าร่วมมือกับแพรไพลิน พยายามสืบหาสาเหตุและวัตถุโบราณสองชิ้นที่หายไป โดยผสมผสานทั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัยและไสยศาสตร์ลี้ลับ หลายครั้งที่เกือบจะค้นพบความจริง แต่ที่สุดแล้วกลับพบทางตัน เมื่อทั้งพยานวัตถุและพยานบุคคลถูกเก็บหายไปอย่างไร้ร่องรอย หรือบางคนที่ยังมีชีวิตอยู่และพร้อมจะให้ความร่วมมือ จู่ ๆ กลับมีอาการเหมือนคนวิกลจริตไม่สามารถช่วยเหลืออะไรพวกเขาได้ หนำซ้ำในครั้งหลังสุดพวกเขายังต้องต่อสู้กับศัตรูหนุ่มสาวที่มีรูปร่างและเค้าใบหน้าคล้ายกับทอรุ้งและครามราวกับเป็นคน ๆ เดียวกัน !
จากคุณ |
:
มองหางตาเบ้ปากสบัดบ๊อบเชิ่ดใส่
|
เขียนเมื่อ |
:
30 พ.ย. 55 09:50:53
|
|
|
|
 |