ความคิดเห็นที่ 1
อยากบอกเธอ
รักครั้งแรก
มันเป็นเรื่องที่อยู่ในลิ้นชักความทรงจำของผมมานานแล้ว นานจนความทรงจำใหม่ ๆ เข้ามาทับ เข้ามาซ้อน จนมันหลุดไปอยู่ลึก ๆ จนหาไม่เจอ แล้วจู่ ๆ แม่ก็โทรทางไกลมากจากสระบุรี " น้อย เค้าส่งการ์ดมาให้บอลน่ะ เค้าจะแต่งงานวันเสาร์หน้าแล้วนะ " " น้อย
.ไหนแม่ " ผมงง " ก้อ น้อย
.หน่าของเอ็งไง " แม่เฉลย ภาพเก่าสมัยเด็ก ๆ ลอยขึ้นมาทันทีที่สิ้นคำว่า " ไง " ของแม่ เด็กหญิงช่างพูด อายุประมาณ 6 ขวบ แก้มแดง ตาแป๋ว ผมยาว ยาวจนต้องถักเปียทั้งสองข้าง ตัวบางร่างเล็ก แต่มีของเยอะจนเด็ก ๆ แถวบ้านชอบล้อเธอว่า " น้อยหน่านมใหญ่ " ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่ามันใหญ่หรือไม่อย่างไร เพียงแต่เวลาเธอโดนล้อมาก ๆ เธอจะร้องไห้กลับบ้าน ทำให้ผมไม่มีเพื่อนเล่น ผมจึงต้องไล่ตีไอ้คนล้อเธอทุกที ( ไอ้สิ่งที่ผมทำไปเนี่ย ถ้าผู้ใหญ่เค้าทำให้แก่กันเค้าเรียกว่า ปกป้อง ) เราสองคนอยู่บ้านติดกัน บ้านผมขายกาแฟและน้ำดี่ม บ้านเธอขายข้าวราด คนกินข้าวร้านเธอ ก็จะสั่งน้ำจากร้านผม คนมานั่งกินกาแฟ พูดคุยสนทนาสภากาแฟ คุยกันเป็นวัน ๆ ที่ร้านผม พอหิวข้าว ก็สั่งข้าวร้านเธอ ร้านของเรามีบริการ DELIVERY โดยที่เราสองคนคือคนไปส่งของและมักจะไปพร้อม ๆ กันเพราะคนสั่ง พร้อมกันเสมอ ๆ เธออายุมากกว่าผม 4 เดือน และด้วยความที่แถวละแวกบ้านเรามีเด็กผู้หญิงเยอะกว่าเด็กชาย เวลาเล่นกัน ถ้าไม่เล่นกระโดดยาง ก็จะเล่นขายของบ่อยๆ ผมก็ต้องยอม เพราะไม่งั้นก็ไม่ได้เล่น ผมต้องเล่นเป็นพ่อ น้อยหน่าเล่นเป็นแม่ เพื่อนเธออีกคนเป็นลูก ที่เหลือเป็นคนซื้อ คนเป็นพ่อต้องไป ทำงาน แม่ขายของอยู่บ้าน พอพ่อกลับบ้าน แม่ก็จะทำอาหารให้กิน อาหารคือใบไม้มาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แช่น้ำเป๊ปซี่ ที่ผมแอบหยิบมาจากตู้แช่โดยไม่ให้แม่รู้ (ขโมย) เอามาให้พวกเราเล่นกัน ส่วนกระโดดยางนั้น เป็นเกมโปรดของน้อยหน่าเลยทีเดียว เพราะเธอเล่นเก่งมาก กระโดดได้สูง ตั้งแต่ อีตาตุ่ม ไล่ขึ้นไปอีเข่า,อีตรง,อีกระเป๋าล่าง,อีกระเป๋าบน,อีเอว,อีพุง,อีอก,อีคอ,อีติ่ง,อีหัว,อีสูงสุด เธอโดดผ่านหมด เธอเคยบอกว่าเธออยากเป็นนักกระโดดสูงไปแข่งโอลิมปิค ผมว่าเธอมีลุ้นทีเดียว เราเล่นซนตามประสาเด็ก ๆ กันเกือบทุกวัน เช้า ๆ เธอตื่นเช้ากว่าผมก็จะขึ้นไปปลุกผมบนบ้าน โดยใช้วิธีกระโดดทับตัวผมที่กำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียง จนผมตกใจสะดุ้งตื่น ต้องรีบลุก ไม่งั้นเธอกระโดดทับอีก ออกไปล้างหน้าแล้วลงไปเล่นกับเธอ เที่ยงก็กลับมากินข้าว จานใครจานมัน แต่กินน้ำกระป๋องเดียวกัน ตกบ่ายก็เล่นกระโดดยาง เย็นก็มานั่งดูโทรทัศน์ พวกไอ้มดแดง หน้ากากเสือ ด้วยกัน ( ไอ้สิ่งเหล่านี้ ถ้าเป็นผู้ใหญ่เค้าทำกัน เค้าเรียกว่า ออกเดท ) เวลามีงานปีใหม่ ผู้ใหญ่ก็จะจับเราเต้นประกอบเพลงและต้องเต้นคู่กัน จนได้สตางค์เอามากินขนมกัน หลายวัน ( ถ้าเป็นผู้ใหญ่ทำเค้าเรียกกันว่า ช่วยกันทำมาหากิน ) เวลาผ่านไป พอเราเข้าโรงเรียน ผมก็เริ่มมีเพื่อนผู้ชาย เหมือนน้อยหน่าที่ก็มีเพื่อนผู้หญิงเพิ่มมากขึ้น โลกของผมกว้างใหญ่ขึ้น เริ่มมีจักรยาน ลูกข่าง เป่ากบ เข้ามาในชีวิต แต่ยังไงๆ ผมก็ยังมีกระโดดยาง เล่นขายของ และน้อยหน่า อยู่เหมือนเดิม เรายังคงเล่นด้วยกันอยู่บ่อย ๆ จนกระทั่ง
. ผ ม เ ป็ น เ ห า !
แม่บอกว่าติดมาจากน้อยหน่า ก็ผมเปียยาวสลวยคู่นั้นแหละ เราโดนเพื่อนล้อ แซวต่าง ๆ นานา เรียก น้อยหน่าว่า อีเหา เรียกผมว่า ไอ้เหา จนแม่ผมต้องเอาใบน้อยหน่ามาคั้นน้ำแล้วโปะหัวไว้ ถึงจะหาย แต่เพื่อน ๆ ก็ยังเรียกผมว่าไอ้เหาอยู่ดี ต่อเมื่อผมเรียนลูกเสือสำรอง ต้องตัดผมเกรียนนั่นแหละที่พวกมันเลิกเรียกชื่อนี้ น้อยหน่าเสียใจที่เป็นต้นเหตุให้ผมต้องเป็นเหา ผมบอกเธอว่า ติดเหาจากเธอ แต่ใบของเธอก็ทำให้ผมหายจากเหานะ (ไอ้สิ่งที่ผมทำนี้ ถ้าเป็นผู้ใหญ่เค้าเรียก เกี้ยว ) ต่อมาไม่นาน น้อยหน่าก็ตัดผมสั้น โดยบอกเหตุผลว่าต้องเรียนยุวกาชาด แต่ผมว่าเธอต้องกลัวว่าจะ ทำให้ผมติดเหาเธออีกแน่ เธอถึงยอมตัดเปียของเธอทิ้ง ( สิ่งที่เธอทำผู้ใหญ่เค้าเรียกว่า เสียสละเพื่อคนที่ตนรัก ) แต่เพื่อน ๆ ก็ยังคงแซวเราเรื่อย ๆ ว่าผมชอบเล่นกับผู้หญิงบ้าง เป็นเหาเหมือนผู้หญิงบ้าง สงสัย_ึงจะ เป็นกระเทย จนผมทนไม่ได้ ต้องพิสูจน์ให้เพื่อนๆเห็นว่า ผมเป็นผู้ชาย การจะเป็นผู้ชายได้นั้น มันต้องเกเร แกล้งผู้หญิง และขี่จักรยานปล่อยมือ เย็นนั้นผมขี่จักรยานแต่ปล่อยมือข้างเดียวนำแก๊งค์ซิ่งของพวกเรา ไปที่วงกระโดดยางที่น้อยหน่าเล่น อยู่ เธอพูดเหมือนทุกครั้งว่า " บอล มาช้าอีกแล้ว ไปหาคู่มา แล้วเป่า ฉุบ เลือกข้าง " แต่วันนี้ผมไม่ได้ช้า เพราะผมเดินไปถึงคนที่ถือหนังยางตั้งแต่เธอเรียกชื่อ บอล แล้วพร้อมทั้งล้วงเอา กรรไกรออกมาตัดยางที่พวกเธอใช้กระโดดยาง จนขาดเป็นเส้นเล็กเส้นน้อย เธอโมโห วิ่งมาตีผม ผมผลักเธอล้มจนกระโปรงนักเรียนเธอเปิดเห็นกางเกงใน แล้วก็วิ่งหนีขี่จักรยานจากไป ( สิ่งที่ผมทำกับเธอ ผู้ใหญ่ผู้หญิงเค้าเรียกว่า งี่เง่า ) คืนของเย็นนั้น ผมกลับเข้าบ้าน เจอแม่ของน้อยหน่า ถามว่าทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า น้อยหน่ากลับ ถึงบ้านถึงไม่พูดไม่จา ข้าวปลาไม่กิน ขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำตั้งนาน ออกมาก็เข้านอนเลย ผิดวิสัยเธอที่ช่างพูด ผมโกหกแกไปว่า วันนี้ยังไม่ได้เจอกันเลย สงสัยทะเลาะกับเพื่อนที่โรงเรียนมั้งครับ เช้าวันต่อมา น้อยหน่าหยุดเรียน เธอไม่สบาย เป็นไข้หวัด ต้องเข้าโรงพยาบาลหลายวัน ผมไม่กล้าไป เยี่ยมเธอ เพราะรู้สึกผิดนิด ๆ พอเธอกลับมาจากโรงพยาบาล เธอก็ไม่พูดถึงเหตุการณ์วันนั้นเลย และเปลี่ยนไป ไม่ดื้อไม่ซน ไม่เล่น เหมือนเด็กผู้ชายอีกต่อไป ส่วนผมก็รู้ว่าเธอโกรธ แต่ก็ไม่กล้าง้อเธอ เดี๋ยวเพื่อนมันจะหาว่าเป็นกระเทยอีก ก็เลยพลอยไม่กล้าไปเล่นบ้านเธอไปด้วย เอาแต่เล่นลูกข่าง เป่ากบ ไปตามประสาเด็กผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง เราเริ่มห่างกันเรื่อย ๆ จนกระทั่งแม่เธอถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่สอง จึงเลิกขายข้าวที่ร้านเดิม ไปเปิดห้อง อาหารอยู่ข้างๆ โรงงานกระเบื้อง ห่างไปประมาณ 4 กิโล วันสุดท้ายก่อนเธอจะย้ายบ้าน ผมรวบรวมวงยางที่ได้จากการเป่ากบ ที่เก็บไว้ในกระป๋องเยอะแยะ มานั่งร้อยเป็นเส้นยาว ๆ เอาไปให้เธอ แล้วบอกเธอว่า " เราทำเส้นใหม่มาชดใช้ให้แล้ว " เธอหน้าบึ้ง " แล้วเล่นให้เก่ง ๆ จนเป็นนักกีฬาทีมชาตินะ " เธอยังบึ้งอยู่แล้วค่อย ๆ ยิ้มแก้มแดง ตาแป๋ว ( ไอ้แบบนี้ ถ้าผู้ใหญ่ทำกันเค้าเรียกว่า แง่งอน ) แล้วเราก็ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันบ่อยเหมือนก่อน
จนกลายเป็นเพียงแค่ความทรงจำ
หลังจากที่แม่วางหูไปแล้ว ผมมาทบทวนเรื่องราวดู ก็พบว่า นั่นอาจเป็นรักแรกของผมก็ได้ รักแรกที่จบ ลงเพราะความงี่เง่าไม่เข้าท่า กล้าผิดเรื่อง ไอ้เรื่องที่ควรกล้า ก็ไม่กล้า พ่อเคยบอกว่า สำหรับเรื่องของความรู้สึกนั้น เราใช้อวัยวะสำคัญสองอย่างนี้แค่อันเดียวก็พอ เพียง แต่เรื่องความรักครั้งนี้ ผมดันเลือก ปอด แทน หัวใจ
.
บอล
ปล. น้อยหน่า ชื่อจริงชื่อ สุนิตา แต่งงานกับคุณมานพ รองผู้จัดการโรงงานมินิแบ บางปะอิน อายุห่างกัน 19 ปี ณ โรงแรมเกียวอัน จ.สระบุรี เสาร์ที่ 28 ตุลาคม นี้ 18.00 น. ถ้าว่างไปด้วยกันนะครับ ผมคงจะไปบอกพี่มานพว่า ฝากดูแลสุนิตาด้วย แล้วก็บอกน้อยหน่าว่าถ้าเธอมีน้องเมื่อไหร่ ตั้งชื่อว่า บอล นะ.
จากคุณ :
ก๋ากรั๊นจ์
- [
29 ก.ย. 46 13:49:40
]
|
|
|