Discworld--Night Watch (3)

    กระทู้นี้แตกประเด็นมาจาก A2501241

    “แต่จ่าก็รู้ว่าสุสานนี่มันให้ใช้ได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น ยิ่งตอนนี้เราต้องการพื้นที่อย่างมากด้วย เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ผมจะเก็บกระดูกไว้ในโรงเก็บตรงแถวหน้า ๆ เลยดีมั้ย พวกจ่าจะได้แวะมาเยี่ยมได้ง่าย ๆ ผมจะคุยกับพวกเขาให้ด้วยเอ้าเวลาผมกินน้ำชา ตกลงมั้ยจ่า”

    พลตระเวณและดิบเบลอร์แลกเปลี่ยสายตา คนส่วนใหญ่ในแองค์มอร์ปอร์คล้วนเคยเห็นสิ่งที่อยู่ในโรงเก็บกระดูกของเลกกี้ ความจริงที่ปรากฎนั้นออกจะน่าตกใจไม่น้อยสำหรับหลายคน ก็ใครเล่าจะคาดคิดว่าแหล่งพำนักอันน่าจะเป็นถาวรของใครสักคนกลับกลายจุดหยุดชั่วคราวก่อนที่กระดูกของพวกเขาจะถูกคัดแยกขึ้นเก็บไว้บนหิ้ง ขณะที่ชื่อของตัวเองคงมีปรากฎอยู่ในสมุดบัญชีเพียงซักเล่ม

    เลกกี้อาศัยอยู่ที่โรงเก็บกระดูก เขาชอบที่นั่น เขาว่ามันครึกครื้นดี

    “แกไม่ได้คิดจะทำอย่างงี้จริง ๆ ใช่มั้ย” จ่าโคลอนคาดคั้น
    “เอ่อ แบบว่าปฏิคมที่เพิ่งมาใหม่แกอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงน่ะ”
    “แกบอกเขาหรือเปล่า ว่าทำไมถึงห้ามขุดพวกเขา”
    “เขาบอกว่ามันก็แค่เรื่องเก่า ๆ โบราณ ๆ ไม่เห็นต้องยึดติดกับมันซักหน่อย”
    “แล้วแกบอกเขาหรือเปล่าว่า ถ้าอยากขุดมากนักละก็ ไปขอกับพระยาเวทีซิวะ”
    “ผมบอกเขาแล้ว เขาบอกว่าพระยาเวทีเป็นคนมองไกล รับรองว่าท่านต้องเห็นด้วย”
    “ไอ้นี่มันมาใหม่จริง ๆ แฮะ” ดิบเบลอร์ให้ความเห็น
    “ข้าก็ว่างั้น แล้วข้าก็ว่ามันคงไม่ได้อยู่นานด้วยแหละ ไม่ต้องสนใจเลกกี้ บอกเขาไปว่าแกถามพวกเราแล้ว และคำตอบคือไม่” นอบบี้เสริม
    “ขอบใจว่ะนอบบี้” สัปเหร่อสีหน้าดีขึ้น “จะบอกอะไรให้จ่า ผมชอบพวกจ่านะ เอางี้ไหม ถ้าถึงคิวของพวกจ่าแล้วล่ะก็ผมจะจัดหิ้งให้พวกจ่าเป็นพิเศษ ชื่อพวกจ่าจะอยู่ในบัญชีถัดจากชื่อผมเลยดีมั้ย”
    “เอ่อ … ขอบใจว่ะ” จ่าโคลอนไม่แน่ใจว่าแกชอบความคิดนี้หรือเปล่า

    โดยเหตุที่กระดูกทั้งหลายถูกจัดแยกตามขนาด โดยไม่ได้สนใจว่าใครเป็นเจ้าของ โรงเก็บกระดูกจึงเต็มไปด้วยห้องสำหรับซี่โครง หน้าแข้ง และอื่น ๆ สำหรับหัวกระโหลกนั้นจัดเก็บเฉพาะไว้ในห้องด้านหน้าใกล้ทางเข้า ถ้าบางศาสนาคิดถูกที่ว่าคนเราจะฟืนคืนชีวิตที่วันสิ้นโลก คนที่ฟื้นขึ้นที่นี่คงต้องใช้เวลากันนานพอดูทีเดียวแหละกว่าจะหาชิ้นส่วนตัวเองพบ

    “จริง ๆ แล้ว ผมมีที่ดี ๆ …” เลกกี้พูดค้าง ก่อนจะพูดเสียงโกรธเกรี้ยวพร้อมกับชี้ไปที่ประตู “ผมบอกแล้วใช่มั้ยว่าผมไม่อนุญาตให้มันมาที่นี่”
    ทุกคนหันไปตามทิศทางที่เลกกี้ชี้ พวกเขาเห็นพล ฯ เรก ชู ซึ่งมีช่อดอกไลแลคปักเต็มไปทั้งหมวกเดินแบกเสียมมุ่งหน้ามาตามทางเดิน
    “ทำไมล่ะ พล ฯ เรกก็มีสิทธิ์จะมาที่นี่เหมือนคนอื่น ๆ นั่นแหละ” จ่าโคลอนว่า
    “ก็มันตายไปแล้ว ผมห้ามคนตายเข้ามาที่นี่”
    “ใจเย็น ๆ ที่นี่ยังไงก็มีแต่คนตายอยู่แล้ว” ดิบเบลอร์พยายามเกลี้ยกล่อม
    “แต่ไอ้พวกนั้นไม่เดินเข้าแล้วก็เดินออกไปเองนี่โว้ย”
    “เอาน่า เลกกี้ แกก็โวยวายยังงี้ทุกปีนั่นแหละ” จ่าโคลอนว่า “จริง ๆ ถ้าดูจากวิธีที่มันตายก็น่าเห็นใจพล ฯ เรกมันนะ ถึงมันจะกลายเป็นผีดิบไปแล้วก็ใช่ว่ามันจะเป็นคน (ผี) ไม่ดีซักหน่อย อันที่จริงมันก็ทำตัวเป็นประโยชน์ไม่น้อยทีเดียวแหละ ถ้าทุกคนดูแลหลุมตัวเองแล้วเหมือนที่มันดูละก็ อะไร ๆ ก็คงดูดีขึ้นเยอะแหละ – สวัสดีว่ะ เรก –”
    เรก ชู หันใบหาสีเทาที่แห้งกรังมายิ้มให้พวกเขาทั้งสี่ก่อนจะเดินมุ่งหน้าต่อไปในทางเดิม

    “ข้าว่าปล่อย ๆ มันไปเถอะ ถ้าแกเอาหินขว้างมันเหมือนที่แกทำปีที่แล้วล่ะก็ ผู้การวิมส์เขาเล่นงานแกแน่ แกไม่ได้อยู่ที่นั่นแกไม่เข้าใจหรอก” จ่าโคลอนสรุป

    ใช่แล้ว เลกกี้คงจะเข้าใจถ้าเขาอยู่ที่นั่น นั่นแหละจุดสำคัญที่สุด พล ฯ เรกอยู่และตายตรงนั้น และนั่นคือคำตอบสุดท้าย

    จากคุณ : Away from Thailand - [ 18 ต.ค. 46 06:12:30 ]