ลอกมาจากอีเมลล์ที่ได้รับ
> > > ขอบอกว่าเรื่องที่ผมจะนำมาเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องสูญเสียที่น่าเศร้า
> > และน่าเสียดายที่สุดของสังคมไทย
> > >
> > > ขณะที่ผู้คนมากมายในสังคม ต่างเรียกร้องหาความมีน้ำใจ ความมีคุณธรรม
> > > และการเอื้ออารีต่อกันของผู้คนในสังคม
> > >
> > > แต่ก็ยังมีคนอีกบางส่วนของสังคม
> > กลับผลักใสและบีบคั้นให้สังคมไทยของเรานั้นกลายเป็นสังคมที่ไม่น่าอยู่
> > > อันตราย และเต็มไปด้วยความไม่น่าไว้วางใจ เอาเสียเลย หลาย ๆ
> > คนจึงเลือกใช้วิธีเพิกเฉย
> > > และดูดายต่อความเดือดร้อน ของเพื่อนร่วมสังคม
> > แม้ว่าใจจริงยังมีจิตสำนึกและอยากช่วยขนาดไหนก็ตาม
> > >
> > > เคยได้ยินเรื่องพลเมืองดีที่จอดรถเข้าไปช่วยเหลือคนถูกรถชนไหมครับ
> > > ที่พอฟื้นขึ้นมาผู้เสียหายก็ชี้หน้าว่าพลเมืองดีคนนั้น
> > เป็นคนขับรถชนตัวเองหน้าตาเฉย
> > > เพราะไม่รู้จะไปเรียกร้องเอากับใครพลเมืองดี ก็เลยกลายเป็นพลเมืองซวยไป
> > >
> > > แล้วอย่างนี้ใครเขาจะอยากเอามือไปซุกหีบละครับ
> > แม้แต่คนที่ผมรู้จักก็เคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว
> > > และเขาก็เข่นเขี้ยว
> > แล้วประกาศเสียงดังว่าต่อไปจะไม่ไปเสือกเรื่องของใครอีกแล้ว
> > > ต่อให้มันจะมาดิ้นตายต่อหน้าก็ตามเถอะ
> > >
> > > ขณะที่เราร้องหาความมีน้ำใจของผู้คนในสังคม
> ขณะที่เราเรียกหาลูกผู้ชายตัวจริง
> > งั้นลองมาดูชะตากรรม
> > > และจุดจบของลูกผู้ชายตัวจริงคนนี้ดูหน่อยปะไร จะได้ลองไปย้อนคิดกันว่า
> > > ที่สังคมมันเลวร้ายผู้คนแล้งน้ำใจไม่ดูดำดูดีกันทุกวันนี้
> > >
> > > มันเป็นเพราะคนเราเห็นแก่ตัวและไร้จิตสำนึกกันมากขึ้น
> > > หรือสังคม[^_^]มันบีบบังคับให้พวกเขาต้องเป็นเช่นนั้นกันแน่
> > >
> > > สัญญา และพิทยา แสงเจือ สองพี่น้องเลือดอีสาน
> > ที่อพยพเข้ามาแสวงโชคในเมืองกรุง
> > > โดยยึดอาชีพขายลอดช่องน้ำกะทิ
> โดยอาศัยอยู่พร้อมหน้ากับพ่อและแม่คือนายสำเริง
> > > และนางสุภาพ แสงเจือ ในห้องเช่าเล็ก ๆ เลขที่ 512 ซอยตากสิน 4
> แขวงบางยี่เรือ
> > เขตธนบุรี
> > >
> > > ตีสองของวันที่ 6 กย. ขณะที่สัญญาและพิทยาสองพี่น้อง กำลังเพลิดเพลิน
> > > กับการเล่นกีตาร์อยู่หน้าบ้าน หลังเลิกจากการขายลอดช่อง
> > >
> > > ก็มีวัยรุ่นสองกลุ่มก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันที่หน้าบ้าน
> > มีผู้บาดเจ็บรายหนึ่งนอนร้องโอดโอย
> > > ด้วยความเจ็บปวดอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ ทราบชื่อภายหลังว่านายตั้ม
> > > ด้วยความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ สองพี่น้องเลยวิ่งไปดูอาการของคนเจ็บ
> > >
> > > เมื่อเห็นว่ามีอาการหนักจึงช่วยนำตัวซ้อนมอเตอร์ไซค์ ส่งโรงพยาบาลตากสิน
> > > โดยคนเจ็บเสียเลือดมาก
เนื่องจากถูกฟันด้วยของมีคมเข้าที่ศรีษะและลำตัวถึง
> 5
> > แห่ง
> > > แพทย์ต้องนำเข้าห้องฉุกเฉินเป็นการด่วน
> > >
> > > หลังจากส่งคนเจ็บแล้วแทนที่จะกลับบ้านเพราะไม่ได้รู้จักเกี่ยวข้องอะไรกัน
> > > แต่เพราะความมีน้ำใจทั้งสองคน
> > เลยอยู่ดูอาการคนเจ็บเพราะเห็นว่ายังไม่มีญาติมาเยี่ยม
> > >
> > > ในระหว่างนั้นมีวัยรุ่นชายหญิงกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนกับนายตั้ม
> > > พากันเดินทางมาดูอาการเพื่อน ด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด
> > >
> > > วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวส่งเสียงโวยวาย ลั่นโรงพยาบาลด้วยความโกรธแค้น
> > > เมื่อรู้จากพยาบาลว่านายสัญญา
> กับพิทยาสองพี่น้องเป็นผู้นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล
> > > ก็ได้กรูกันเข้าไปต่อว่าด้วยความไม่พอใจ
> > > โดยกล่าวหาว่าสองหนุ่มพ่อค้าลอดช่องไม่ยอมช่วยเพื่อน
> > >
> > > ทั้งสองก็ตอบไปตามประสาซื่อ
ว่าไม่กล้าช่วยเพราะไม่อยากมีเรื่องมีราวกับใคร
> > > อีกทั้งฝ่ายตรงข้ามก็มีกันหลายคน
> > >
> > > ทันใดนั้น นายวิชัย หรือชัย พรปรัชญากุล อายุ 27 ปี
> > เพื่อนนายตั้มซึ่งเป็นขาใหญ่ย่าสะพานพุทธ
> > > มีอาชีพขายซีดีเถื่อน ได้ตบหน้านายพิทยาด้วยความไม่พอใจ
> > >
> > > นายสัญญาเห็นน้องถูกตบทั้งที่อุตส่าห์ช่วยเหลือนำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาล
> > > จึงต่อว่าขาใหญ่สะพานพุทธกับเพื่อน
> > ว่ามาทำร้ายน้องชายเขาเรื่องอะไรเราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย
> > > ที่นำคนเจ็บส่งรพ.ก็เพราะความสงสาร
> > >
> > > แทนที่นายวิชัยกับเพื่อนจะฟังคำชี้แจงของพ่อค้าลอดช่อง
> กลับแสดงความป่าเถื่อน
> > ด้วยการชักมีด
> > > ออกมาแทงนายสัญญาเข้าที่ลิ้นปี่ ทรุดลงไปกองกับพื้น
> > > ส่วนเพื่อน ๆ ก็ใช้เก้าอี้เหล็กรุมตีนายพิทยาจนเกิดโกลาหลไปทั้งรพ.
> > >
> > > การกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลตากสิน
> > > ต่อหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัย 4- 5 คน
> > ที่ได้แต่ตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
> > > โดยไม่มีใครคิดจะช่วยเหลือหรือพยายาม ที่จะขัดขวางนายชัยกับพวก
> > >
> > > พอรุมทำร้ายสองพี่น้องจนหนำใจแล้ว
> > กลุ่มนายวิชัยก็ได้วิ่งไปซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ
> > > รุ่นแสมท สีเหลือง ที่เพื่อนสาวในกลุ่มขับมาจอดรอที่หน้าโรงพยาบาล
> > หลบหนีไปทางสะพานพุทธ
> > >
> > > กว่าที่เจ้าหน้าที่เปลของโรงพยาบาลตากสิน
> > จะส่งตัวนายสัญญาพลเมืองดีผู้เคราะห์ร้ายเข้าห้องฉุกเฉิน
> > > พ่อค้าลอดช่องน้ำใจงาม ก็อาการเพียบหนักและเสียชีวิตในอีก 2 ชั่วโมงต่อมา
> > >
> > > เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนำมาซึ่งความโศกเศร้า
> > และสูญเสียอย่างใหญ่หลวงมาสู่ครอบครัว " แสงเจือ "
> > > เพราะนายสัญญา เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงที่สำคัญ การที่หนุ่มพ่อค้าลอดช่อง
> > ท่าว่าจะตายฟรี
> > > เพราะการทำหน้าที่พลเมืองดี ทุกคนในครอบครัว จึงเสียใจเพิ่มเป็นสองเท่า
> > >
> > > ทั้ง ๆ ที่หลังจากเกิดเหตุ ตำรวจสน.สมเด็จเจ้าพระยา ได้ออกหมายจับ
> > > นายวิชัย พรปรัชญากุล อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/260 หมู่ 3 ถนน
เอกชัย
> > แวง-เขต บางขุนเทียน
> > > มือมีดเพื่อนำตัวมาลงโทษตามกฏหมาย
> > >
> > > แต่ปรากฏว่าคดีไม่คืบหน้า เนื่องจากครอบครังพ่อค้าลอดช่องมีฐานะยากจน
> > > ไม่สามารถหาเงินทุน ไปสนับสนุนการทำงานของตำรวจได้
> > >
> > > มันจึงเป็นจุดจบที่น่าเศร้า
> > บทอวสานที่น่าเสียดายของพลเมืองดีลูกผู้ชายตัวจริง
> > >
> > > ถ้าสังคมยังอ่อนแออยู่อย่างนี้
> > ถ้าคนดีต้องพากันล้มหายตายจากขณะที่ไอ้พวกคนเลวสวะสังคม
> > > ยังคงพากันลอยคอเชิดหน้าชูตา อยู่ในสังคมได้อย่างทรนงองอาจ
> > >
> > > แล้วยังจะมีใครที่ไหนอยากจะเอาชีวิต เข้าไปเสี่ยงกับการทำความดี
> > > เป็นพลเมืองดีของประเทศกันอีกต่อไป
> > >
> > > เพราะผลตอบแทนที่ได้
> > อาจจะไม่ใช่ความสุขใจที่ได้ช่วยเหลือคนและได้รับคำขอบคุณพร้อม ๆ
> > > กับแววตาที่ชื่นชมของผู้คนในสังคม
> > >
> > > แต่อาจจะเป็นความสูญเสียอันมิอาจคาดเดาได้
> > ที่อาจจะหมายถึงความตายของพลเมืองดีคนนั้นก็เป็นได้
> > >
> > > สังคมนี้ คงไม่อาจจะคืนมาได้แล้วซึ่งความมีน้ำใจ และความเอื้ออาทรต่อกัน
> > > ถึงแม้ว่าจะเรียกร้องกันขนาดไหนก็ตาม
> > >
> > > ถ้าหากว่าความสูญเสียและความตาย
> > คือจุดจบที่จะมีตอบแทนให้กับลูกผู้ชายตัวจริงกันอย่างนี้
> > >
> > > ปล.ข้อมูลจากบทความ " สัญญา แสงเจือ " พลเมืองดีผู้โชคร้าย
> > สกู๊ปหน้าสองหนังสือพิมพ์เดลินิวส์
จากคุณ :
@FURBY@ 
- [
6 พ.ย. 46 17:04:14
]
จุดจบของลูกผู้ชายตัวจริง
