ความคิดเห็นที่ 1 แล้วมันเป็นความผิดของนีโอหรือการที่เขาพยายามจะลบ สมิธในภาคแรก กลับทำให้ สมิธเกิดใหม่กลายเป็นส่วน หนึ่งของด้านมืดของนีโอ แถมเก่งมากด้วย ใครจะไปรู้ อย่างนี้ ในภาคแรกนีโอไม่ควรไปแตะต้องสมิธใช่ไหม เขียนบทภาพยตร์ไม่ดีเลย เพราะในภาคแรกการที่นีโอลบสมิธ ถ้าหนังไม่มีการสร้างต่ออีก เราจะรุ้สึกว่านีโอเก่งมากสมกับเป็น the one แต่เมื่อหนังสร้างต่อมา กลายเป็นว่าเพราะการกระทำ ของนีโอ กับสมิธ ในภาคแรก เป็นต้นเหตุของความยุ่งยากในภายหลัง ทำให้รู้สึกว่า ในภาคแรกนีโอคือผู้กล้า แต่ในภาคสุดท้ายกลาย เป็นไอ้ทึ่มตัวผิดปกติ จึงต้องชดใช้ด้วยชีวิต เอาเข้าไป ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยว่ารายได้ภาคนี้ไม่สวยแน่ เข้าไปดูใน box office สิ จากคุณ : นีโอไม่เด่นเลยในภาคนี้ - [ 9 พ.ย. 46 03:23:01 A:203.113.67.6 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 ทรินิตี้ภาคนี้ก็ไม่เด่น เห็นด้วยครับกับความเห็น ที่ว่าพระเอกตัวจริงของภาคนี้คือ สมิธ ก็มันเด่นกว่าใครจริงๆนี่นา จากคุณ : นีโอไม่เด่นเลยในภาคนี้ - [ 9 พ.ย. 46 03:25:55 A:203.113.67.6 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 เพิ่มเติมผมคือคนเดียวกับผู้ใช้นามแฝงว่า(ภาคแรกดีที่สุด) คือลืมไปว่าใช้นามแฝงนั้นมาก่อน ชักจะเบลอ บางคนอาจจะพูดว่าไม่มีใครถามสัก หน่อย ก็ช่างเถอะผมไม่ถือ จากคุณ : นีโอไม่เด่นเลยในภาคนี้ - [ 9 พ.ย. 46 03:39:34 A:203.113.67.6 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมว่า ออราเคิล เด่นสุดครับ คือ ออราเคิล รู้ทุกอย่าง + ความเชื่อ (ในสิ่งที่ออราเคิล คาดไม่ได้) ทำให้การดำเนินไปของ สมิธ และ นีโอ น่ะอย่างกับ ออราเคิล วางแผนไว้แล้ว อย่างที่รู้ว่า สมิธ ต้องมากอป ก็ไม่หนี เพราะว่าวางแผนไว้แล้วว่าต้องให้ สมิธ เนี้ย กอป หมดทุกอย่างใน matrix (หรือ กอปทุกอย่าง เท่าที่ matrix คิดว่าหมดทุกอย่าง หมายถึง บางทีเมโรวิเจียน อาจจะหลบไปได้ แต่ matrix ก็ไม่รู้อยู่ดีว่ามีส่วนที่ไม่โดน กอป) เมื่อทำให้ฝั่งหุ่นยนต์ ถึงขั้นวิกฤตแล้วให้ นีโอ ไปต่อรอง(โดยบอกนีโอ เหมือนไม่ได้บอกอะไร(เหมือนเคย) แต่สิ่งที่บอกเหมือนไม่บอกทำให้ neo get ว่าต้องไป แมทชีนซิตี้) กับ ปลาหมึกพูดได้น่ะ(จำชื่อไม่ได้) จะทำให้ต้อง ok กับ neo ก็เลยเป็นทางออกของ สันติสุก โดยตอนสู้ ออราเคิล ยังแนะนีโอ อย่างที่ผมพูดไว้ข้างบนด้วย เหมือนกับ ว่าผลที่ได้ออกมาให้ตอนจบนั้น ออราเคิล ได้วางแผนไว้แต่แรกแล้ว โดยให้แผนดำเนินไป โดยกระตุ้น คนโน้นทีคนนี้ที เริ่มจาก มอเฟียร์ ให้เชื่อในตัวนีโอเลย ซึ่งตอนจบ ที่ สถาปนิก กะ ออราเคิล คุยกันบอกว่า เสี่ยงมากอะไรทำนองเนี้ย ก็คือว่ามีบางอย่างที่ ออราเคิล ไม่สามารถรู้ได้ แต่เค้าใช้ความเชื่อเอา เพราะเค้าเชื่อในตัวนีโอ ว่าจะต้อง get ที่เค้าบอก แล้วก็เสี่ยงที่จะดำเนินแผน แบบนี้ ดูแล้วเข้าใจว่าประมาณนี้ จากคุณ : ดีเจน้อย - [ 9 พ.ย. 46 03:46:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อยากจะชี้ในเห็นอีกอย่างนึงครับ คือว่า ออราเคิล กะ สถาปนิก เปรียบเหมือนพ่อกับแม่ ซึ่งคอย ดูแล matrix อยู่ ถ้าย้อนไปใน ภาค 2 ที่มีสองทางเลือก เปรียบเสมือนว่า ทางเลือกนึงคือ สถาปนิก เป็นคนทำทางเลือกไว้ให้คือ reload ซึ่งก่อนหน้านี้ ทุกคนเลือกทาง สถาปนิค หมด เพราะว่าเป็นทางที่ปลอดภัยกว่าแน่ๆ แต่ไม่สามารถหลุดพ้น วัฏจักรได้ อีกประตูนึงคือ ออราเคิล ซึ่งคือทางที่นีโอเลือก เป็นทางที่เสี่ยงกว่า แต่ไปถึงจุดสุดท้ายที่ดีกว่า จากคุณ : ดีเจน้อย - [ 9 พ.ย. 46 03:54:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สรุปแล้วเครื่องจักร หาทางที่จะอยู่ร่วมกับมนุษย์ตลอดกาล เพราะยังไง เครื่องจักรก็ต้องการพลังงานจากมนุษย์ สถาปนิค มีแนวทางแบบ reloaded ส่วน ออราเคิล มีแนวทางแบบ revolution จากคุณ : ดีเจน้อย - [ 9 พ.ย. 46 03:59:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 Well, I will try my best. เรื่องช้อน ใน reloaded Explanation: In The Matrix, the spoon is used to help Neo learn the ability of the One. The spoon delivers the messages "there is no spoon in virtual world". As for the spoon in Reloaded, the spoon is obviously banged up. It delivers the messages "there is spoon in the real world". Kama of Neo and Smith Explanation: "Everything has a beginning has an end". 1.The matchine created the Matrix system that cause the One (the anomaly of the Matrix) 2.The One has its own anomaly as well. You know who..."Smith" 3.The purpose of the One is to detect the anomaly of human who reject the Matrix system, people in Z10N 4.The purpose of Smith originally is to protect the Matrix from invaders Once the One destroy Smith... As the result, the purpose of Smith is changed to do whatever against the One. He is the anomaly of the One (bug). I assume that the last 5 versions of the One didn't destroy Smith. The Matrix is the movie that is complete by itself. 1. The Matrix shows a lot of things that make the audiences question. 2. The Reloaded shows the answers 3. The Revolution shows the end .......................................................................... 1. Questions always get people amazed, and excited. 2. Answers always get some agree and some might be upset. 3. The end doesn't mean anything to some people, but means something to others as well. Love it or hate it....It's your choice! จากคุณ : #54 - [ 9 พ.ย. 46 04:17:49 A:65.101.43.124 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 งั้นมนุษย์ก็ต้องเป็นทาสเครื่องจักรตลอดไปใช่ปะ(เป็นแหล่งพลังงาน) อย่างนี้เครื่องจักรก็ชนะอย่างแท้จริงนะสิ ไม่เห็นชอบเลย จากคุณ : นีโอไม่เด่นเลยในภาคนี้ - [ 9 พ.ย. 46 04:19:41 A:203.113.67.7 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 อีกนิดเดียว คุณเข้าใจถูกทางแล้ว ขออภัยที่จะรบกวนเสริม(สอด)ให้อีกนิด... จากจุดเริ่มต้นที่นีโอสร้างไวรัสจัดการกับสมิทซึ่งเป็นโปรแกรมก็ต้องจัดการด้วยวิธีนี้เป็นวิธีหนึ่งแล้ว นีโอมีเจตนากะปล่อยให้ไวรัสระบาดทั่วระบบ โดยไม่สนใจ คนในระบบอื่น ๆ ด้วย เทพยากรณ์จึงถูกส่งมาเพื่อ เจรจากับนีโออย่างมนุษย์ มันคุ้มแล้วเหรอที่ทำอย่างนั้น ถ้าเธอทำอย่างนั้น แล้วพวกฉันทำลายไซอ้อนบ้างหละ เธอจะรู้สึกยังไง นีโอจึงได้ดวงตาเห็นธรรม รู้ว่าตนผิด ที่เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่คนอื่น จึงต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป ส่วนที่นีโอมีพลัง ด้วยเพราะเทพยากรณ์ถูกส่งมาทำภารกิจเจรจากับมนุษย์ และลวงล่อให้นีโอตัดสินใจ ด้วยตัวเองในฐานะมนุษย์กับสิ่งที่ทำลงไปอย่างนั้น จึงเป็นเกมส์ที่เสี่ยงของเทพยากรณ์อย่างยิ่ง อย่าลืมข้าพเจ้าเป็นเพียงผู้เดียวที่รู้คำตอบของทั้งหมด เพราะถอดเอาสมการที่คนอื่น พยายามป้อนให้หลงทางออก แล้วมาตีความตอนจบของคำพูดสุดท้ายในหนังเท่านั้นเอง จึงกระจ่างแจ้งทะลุหมดว่า จริง ๆ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จำชื่อข้อยไว้ด้วยเน้อ.... จากคุณ : XEROX - [ 9 พ.ย. 46 04:37:08 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สำหรับผมแล้วผมคิดว่ามนุษย์น่าจะสามารถเอาชนะเครื่องจักรได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยการที่มีนีโอเป็นผู้นำ เนี้อเรื่องของหนังถึงจะสอดคล้องกับความเป็น the one ตาม Theme ของหนังในภาคแรก อย่าลืมนะว่าในภาคแรก Themeของหนังมีสำคัญอยู่2เรื่องนั่นคือ การค้นหา ว่าเมตริกซ์คืออะไร และนีโอเป็นthe one ผู้สามารถ ชี้ให้มนุษย์ทั้งปวงหลุดจากเครื่องจักรอย่างแท้จริง ขอบอกว่าโดยเฉพาะThemeที่ว่าด้วยนีโอคือthe oneผู้จะมาปลดปล่อยมนุษย์อย่างสมบูรณ์ ตรงนี้ถูกเน้นมากในภาคแรกจนเป็น หัวใจของหนังเลย(ถ้าไม่มีการสร้างในภาคต่อไป) แต่เมื่อ มีการสร้างหนังในภาคต่อมาthemeตรงนี้กับถูกเปลี่ยนไป และเปลี่ยนไปจนมันหมดความหมายในที่สุด(2และ3)โดยมีThemeใหม่เข้ามาแทนที่ว่า นีโอคือความผิดพลาดของระบบ ดังนั้นผมจึงอาจจะเป็นคนเดียวในเมืองไทยที่นั่งยันกระโดดยันว่า เนื้อหาใน2ภาคหลัง มันทำลายTheme ในภาคแรก จนหมด (หมายถึงTheme ความเป็น the one ของนีโอ โดยยึดตามที่เห็นในภาคแรก) บางคนอาจจะบอกว่าผมยึดติดกับภาคแรกมากเกิน ซึ่งมันก็จริง เพราะตามความเชื่อของผม(คนเดียวก็ได้) หนังที่เป็นภาคต่อแล้วเนื้อเรื่องต่อเนื่องอย่างไม่ขาดสาย หนังภาคที่มา ทีหลังจะต้องเคารพในTheme ของภาคต้นแบบเสมอ และยังต้องใส่อะไรใหม่ๆลงไป โดยไม่ทำลายTheme ที่เห็นในหนังต้นแบบด้วย ป.ลนี่เป็นความคิดส่วนตัวของผมไม่ได้บอกว่าคนอื่นต้อง เห็นด้วย และผมก็ดีใจที่ผู้ดูหนังเรื่องนี้ต่างก็มีความคิดของตนเอง ไม่ว่าคนที่บอกว่าดูไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่นิดเดียว หรือคนที่บอกว่าเข้าใจทุกอย่าง ไม่มีใครผิดหรอกครับ เพราะมันก็เป็นแค่หนัง จากคุณ : amatetra - [ 9 พ.ย. 46 04:47:50 A:203.113.67.7 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 คุณ amatetra ที่ผมเข้าใจคืออย่างนี้คร้บ ในภาคแรก อย่างที่คุณพูด theme ของเรื่องคือการเข้าใจว่าเมตริกซ์คืออะไร นีโอเป็นผู้ปลดปล่อยที่แท้จริง ก็เหมือนกับว่าภาคนี้เป็นในมุมมองของมนุษย์ครับ มนุษย์มีความหวัง มีความฝัน ผมยอมรับว่าในภาคหนึ่งสามารถ stand alone คือ จบในตัวของมันเองได้ เพราะมันจบแบบ ความหวังยังมีต่อไป แต่พอมาในภาคสองนี่ ผมว่ามันเป็นในมุมมองของเครื่องจักรมั่งว่า มันก็ต้องการอยู่รอดเหมือนกันกับมนุษย์ มองนีโอเป็นความผิดพลาดของระบบ เลยต้องมีการเซทให้เดอะวัน กลับหาต้นกำเนิด ทำลายไซออน สร้างไซออนใหม่ แล้วรีโหลดเมตริกขึ้นมาใหม่ เป็นวัฏจักร พอในภาคสุดท้าย ก็เป็นบทสรุปของคนและเครื่องจักร ว่าสันติภาพคือคำตอบ ถึงแม้ว่าอาจไม่ยั่งยืนก็จริง คนในไซออนก็ได้อยู่ เครื่องจักรไม่มารุกราน เครื่องจักรก็ยังมีแหล่งพลังงานใช้ต่อไป มีชีวิตอยู่ได้เหมือนกัน ใครที่ยังติดอยู่ในเมตริก ถ้าอยากออกก็ออกได้ ถ้าจะเถียงว่าถ้าเกิดออกกันมาหมดแล้วจะทำยังไง ผมว่ามันไม่ออกมาหมดหรอก คนบางคนก้อยังคงอยากอยู่ในระบบ (สังเกตว่าในเวอรชั่นล่าสุดนี่ก็ได้รับการปรับปรุงขึ้นมาให้ดีกว่าเดิมมากแล้ว มีสีสัน ไม่ทึมๆ เหมือนเมื่อก่อน) จากคุณ : supermarket - [ 9 พ.ย. 46 05:11:22 A:128.174.199.200 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 ทุกสิ่งที่โดดเด่นย่อมมีด้านลบของมัน อย่าพยายามยึดติดกับสิ่งที่ดูดีเกินไป แล้วหนังเรื่องนี้ ตั้งแต่ภาคแรก เนื้อเรื่องกับแนวคิด เค้าก็เคยมีเป็นหนังสือการ์ตูนก่อนแล้ว ถ้าเราเข้าใจ ผิดโดยไปยึดติดกับ "Theme หนัง"ภาคแรกมากไป จะทำให้เราหลงประเด็น เนื้อเรื่องจริงๆถูกวางเค้าโครงไว้มากกว่าที่ภาคแรกทำไว้มาก่อน ถ้าภาคแรกรุ่ง ภาคต่อมาก็มีโอกาสเป็นหนังใหญ่ ถ้าไม่รุ่งก็เป็นหนังสือการ์ตูนต่อ ก็แค่นั้น ส่วนที่มาของการ์ตูน Matrix (ที่คนยังไม่ค่อยนิยมและรู้จัก) ผมลบไปหมดแล้ว เพราะนาน มากตอนนั้นไม่คิดว่าจะเป็นหนัง และก็เป็นฉบับดั้งเดิมคนละแบบกับพวก การ์ตูนที่ออกตามๆกันมาภายหลัง จากคุณ : TT - [ 9 พ.ย. 46 07:28:17 A:218.224.110.197 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 เท่าที่อ่านเจอ คือว่า เค้าวางไว้แล้วว่าจะเป็น ไตรภาค ครับ คือผมคิดว่า การที่จะทำหนังต่อ หรือ นิยาย ต่อหลายๆเล่มน่ะ ตอนหลังๆหรือภาคหลังๆ จะเป็นอะไรที่ถูกต้องที่สุด คือเป็นเพราะว่าต้องการให้มีจุดหักมุมในเรื่อง และต้องค่อยเฉลย โครงที่วางไว้ก่อนแล้ว ให้คนดูได้คิดตามไปจะได้หนุก ถ้าวางว่าเป็นอย่างภาคแรกนีโอ คือพูดปลดปล่อย หนังสอง ภาคต่อมา อาจจะไม่มี หรือถ้ามี ก็จะเป็นการ พจญภัยของ นีโอ ไป คือแสดงว่าให้เห็นว่าต่อสู้อย่างไรถึงจะ ชนะ แค่นั้นเอง จากคุณ : 1 - [ 9 พ.ย. 46 10:20:04 A:203.145.13.2 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมว่าไม่ใช่เรื่องแปลกนะครับที่สุดท้ายเครื่องจักรจะชนะมนุษย์ ที่เราไม่พอใจในบทสรุปของหนัง เราตัดสินโดยเอาอีโก้ของมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้อง ยอมไม่ได้ที่จะให้มนุษย์แพ้เครื่องจักร ถ้าเราให้นิยามของคำว่าสิ่งมีชีวิตหมายถึงความมีสำนึกถึงการดำรงค์อยู่ของตัวเอง และมีความสามารถในการสืบทอดได้ เครื่องจักรใน Matrix ก็ไม่ต่างอะไรจากมนุษย์ และเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการอยู่ในระดับสูงกว่าด้วยโดยแก้ไขจุดบกพร้องต่างๆที่มนุษย์มีอยู่ ถ้าพูดถึงการดำรงค์อยู่ของเผ่าพันธ์ โอกาสที่เครื่องจักรจะอยู่รอดมีมากกว่ามนุษย์เยอะ ผมชอบนะที่หนังจบในแบบนี้มันทำให้เรามานั่งคิดถึงเผ่าพันธ์ของเรา(มนุษย์)อย่างจริงจัง ว่าจริงๆแล้วเราสมควรจะอยู่รอดไหมในเส้นทางการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต(ลองคิดถึงสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่สูญพันธ์ไปก่อนหน้านี้ ) จากคุณ : Pia mangfilm - [ 9 พ.ย. 46 11:35:52 A:202.133.162.15 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 เหมือนเกมภาษาเลยครับ แรกๆตัวเอกเด่น หลังๆตัวร้ายก็จะสุดยอด เด่นที่สุด จากคุณ : Dead-of-[A]Saleman - [ 9 พ.ย. 46 14:34:24 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ความเห็นที่15 anata wa ijiwaru desu จากคุณ : kusanagi - [ 9 พ.ย. 46 16:50:57 A:202.183.178.97 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 ทำไมทุกคนมั่นใจกันจังว่าหนังเรื่องนี้ถูกเขียนบทสมบูรณ์มาแต่แรก เราว่าตอนแรก ผู้กำกับเขาคงเขียนเน้นประเด็น อิสรภาพของมนุษย์นั่นแหละ แต่ตอนหลังคงเปลี่ยนใหม่ เพราะเห็นว่าคนดูเริ่มจับทางได้ เพื่อให้หนังดูฉลาด คนดูส่วนใหญ่ตามไม่ทัน แล้วเรามาดูกันว่ารายได้มันจะไปถึงไหน หนังจะเป็นที่ประทับใจ คนส่วนใหญ่หรือไม่ จากคุณ : คิดดีๆกันเถอะ - [ 9 พ.ย. 46 18:04:18 A:202.183.178.97 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยกับ #18 คือว่า มีการจับเนื้อเรื่อง มาปนกัน วางไม่ค่อยเรียงกันไม่เนียนยังไงไม่รู้ ดูๆ แล้วก็รู้สึกจริงๆว่า จับโน่นเพิ่มนิด นี่หน่อย จากคุณ : 8) - [ 9 พ.ย. 46 18:31:17 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คห.9 พูดได้น่าสนใจนะ แต่ติดตรง paragraph สุดท้ายนั่นแหล่ะ อัตตาน้ออออออออออออ........อัตตา ถุยยยย!!!!!!!!!!!!!!!!! จากคุณ : Noe - [ 9 พ.ย. 46 21:36:18 A:203.113.80.11 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นด้วยกะฟามเห็นที่ 14 ค่ะ คิดดูดิ ถ้าคนทั้งโลกคิดแบบว่า "มนุษย์ต้องชนะ" กันหมด ซักวันนึง คงได้เกิดสงครามระหว่างมนุษย์กะหุ่นยนต์ที่สร้างขึ้นมาจริง ๆ แน่นอน แถมไอ้มนุษย์บ้าอีโก้พวกนี้ยังไม่ยอมรับสันติอีกด้วย จะเอาชนะซะให้ได้ แบบนี้ ก้อสมควรแล้วที่จะโดนหุ่นยนต์เอาไปเป็นถ่านไฟฉาย แต่ละคนที่อยากให้จบแบบมนุษย์โคตรชนะเนี่ย สมควรไปเข้าวัดฟังธรรม นั่งสมาธิ เพื่อให้เกิดดวงตาเห็นสัจธรรมซะบ้างนะคะ อะไร ๆ มันจะได้ดีขึ้น จากคุณ : คนผ่านมาค่ะ - [ 9 พ.ย. 46 23:01:44 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นด้วยกับคห.21ครับ คนทำหนังอาจเตือนสติเราว่าอย่าคิดว่าเราเองเลิศสุด อย่าคิดว่าเราต้องเหนือกว่าคนอื่นเสมอไป สันติภาพคือสิ่งที่ดีที่สุด อย่าลืมว่าความจริงแล้วเรื่องนี้น่ะเครื่องจักรคือซินเดอเรลลานะ ถูกกดขี่ข่มเหงสารพัด พอออกไปตั้งตัวเองได้ก็ยังถูกรุกราณอีก สุดท้ายซินเดอเรลลาอย่างเครื่องจักรจึงได้สบายกว่าแม่เลี้ยงใจร้ายอย่างมนุษย์งัย PS.ชอบที่สุดในภาคแรกตรงที่สมิทบอกว่าคนเราไม่ใช่สัตว์เลือดอุ่นแต่เป็นไวรัสอ่ะ เจ่งเป้งไปเลย จากคุณ : Neo L's law - [ 10 พ.ย. 46 00:13:53 A:203.113.77.68 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 ภาคสอง + สามนี้ ผมว่าพี่น้อง เขาคงต้องผูกเรื่องจากภาคแรกเอาไว้ โดยการวางโครงเรื่องก่อนใช่ไหมครับว่าเขาต้องการให้มีตัวละครใดบ้างในหนังของเขา ซึ่งเขาก็คงหาเรื่องผูกเหตุผลที่สมิธกลับมาได้ โดยการที่นีโอประทับความสามารถบางอย่างลงมาในตัวสมิธ จากการทำลายสมิธในภาคแรก เป็นการแก้ผ้าเอาหน้ารอดจริงๆ ครับ เนื่องจากสมิธเป็นตัวละครยอดฮิตตัวหนึ่งในเรื่องเลย (ผมเองก็ชอบ) ถ้าสมิธถูกนีโอทำลายซะขนาดนั้น ผมว่ามันน่าจะกลับไปสู่ source แล้วก็ถูก delete ไปได้แล้ว นี่กลายเป็นว่ากลับมาได้เฉยเลย จากคุณ : uno - [ 10 พ.ย. 46 23:35:25 A:202.133.166.241 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 หนังพยายามบอกกับคนดูมากครับว่า Architech นั้นเป็นบิดาของเมทริกซ์ใช่มั๊ยครับ ทุกอย่างที่เขาทำจะต้องอิงอยู่บนหลักของความถูกต้อง การคำนวณ ค่าสมการที่แน่นอน เป็นตามหลักวิทยาศาสตร์ 100% ขณะที่ Oracle นั้นเปรียบเป็นแ่ม่ก็คือ การใช้อารมณ์ ความรัก ความโลภ ฯลฯ ในการวิเคราะห์มนุษย์ และใช้ข้อมูลนี้ประกอบกับของ Architech เพื่อที่จะสร้างเมทริกซ์ให้สมบูรณ์ที่สุด ดังนั้นตอนจบของภาค 3 ที่ Oracle บอกว่า ฉันไม่รู้ทั้งหมดหรอก แต่ฉันเชื่อ (ศรัทธา) และตอนที่คุยกับนีโอในภาคสอง ก็บอกอีกว่า "เธอ(นีโอ) ต้องร้องเรียกศรัทธาจากฉัน" ช่างเป็นฉากจบที่เลี่ยนเหลือเกินครับ ตามความคิดผม (อ้าวทำไมตอนท้ายกลับด่าซะนี่) สุดท้ายทุกเรื่องก็ต้องจบด้วยความศรัทธา ความเชื่อกันไปหมด (พึ่งปาฏิหารย์อะไรทำนองนี้) จากคุณ : uno - [ 10 พ.ย. 46 23:43:23 A:202.133.166.241 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 ถึงความคิดเห็นที่ 1 ผมว่าการเกิดขึ้นของ neo ย่อมส่งผลที่น่าสพึงกลัวต่อโลกเครื่องจักร การทำนายอนาคตได้นั้นต้องมันมีรูปแบบที่แน่นอนง่ายต่อการทำนาย คือควบคุมปัจจัยนิ่งแล้ว เสนอทางเลือกก่อน ที่จะให้มันซี่ซัวเลือก ทันที่ที่ neo กำเนิดขึ้นมา ก็เขาสู่แผนการกำจัด neo อยู่แล้ว เริ่มจาก agent ซัดก่อนหากไม่สำเร็จก็ ให้นำทางไปพบ อาชิเทค ทราบเรื่องราวที่ The one ควรกระทำ ไม่เช่นนั้น zion แหลก (matrix ก็แหลกด้วย เนื่องจาก code ด้านลบ เจตจำนางค์ที่จะทำลาย matrix ให้มันจบจากสมิธ) ไม่สำเร็จอีกใช้แผน The source ส่งภาพล่อและล่อแสง กับ The one เชื่อมต่อกับคลื่นสมอง (เป็นเหตุให้ neo กำจัดเซนติเนลได้)จากภาค 2 ที่ให้ neo เลือก กับสู่ The source เพื่อให้ source อ่านค่าวิเคราะห์ และกำจัด neo นั้นเอง ท้ายสุด neo ไปเลือกข้อนี้อีกครั้งใน ภาค 3 ถามว่าการที่ สมิธเก่งแบบนี้อยู่ในการคาดเดาของ ออราเคิลหรือเปล่า คิดว่าไม่นะ หากมองเป็น ไวรัส ก็ถือตัวใหม่ ก็ดูแปลกแหวกแนวกว่าที่เคยเจอ ก็ตัวก่อนซ่าๆ พอไปเจออาชิเทค ก็ย่อมรับกับสู่ The source สำหรับ neo ก็รูปแบบเดิมข้อให้ทราบ patten ก็กำจัดได้ สมัยหนึ่งมีไวรัสที่จำลองซ่อน code แบบกระจายไว้ที่หลายๆไฟล์ทำให้การ detect ว่าเป็นไวรัสทำได้ยากขึ้น เพราะรูปแบบการกระจายไม่แน่นอน neo ก็เช่นกัน ดันไปกระจาย code ใส่ smith (The one รุ่นใหม่อาจจะทำอะไรมากว่านี้อีกก็ได้ ไม่ทึ่มหรอก) การที่ฉากสุดท้าย smith จิ้ม neo นั้นคือการคืนค่าที่แท้จริงทั้งหมดสู่ The one เป็นรูปแบบที่แน่นอนแล้ว The soucre ก็กำจัดได้ในทันที่ ดังนั้น windows ก็สามารถใช้งานได้เป็นปกติแล้ว จากคุณ : bream@padawan.shinawatra.ac.th - [ 11 พ.ย. 46 01:23:50 A:203.170.175.195 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่ได้ทำลาย Theme นะ ความตั้งใจเดิมของ neo ยังคงอยู่ ซึ่ออยู่ในร่างของ สมิธไง ฉากสุดท้ายภาค 3 ที่ถามว่าทำไมทำไม neo ตอบว่าเขาเลือกที่จะปกป้อง zion ซึ่ง ก็เป็นเหตุผลที่ที่ oracle สร้างความผูกพันของ neo กับ คนใน zion และเป็นเหตุให้ zion คงอยู่มาหลายปีโดยไม่ถูกทำลายให้สิ้นซากอีที่หนึ่ง จากคุณ : bream@padawan.shinawatra.ac.th - [ 11 พ.ย. 46 01:35:56 A:203.170.175.195 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 ตอนสมิทถูกทำลายตอนภาคหนึ่งผมรู้สึกตะหงิดๆใจบอกไม่ถูก ก็นั่นมัน "ดาราดัง" เลยนะ จะให้มีบทแค่นั้นเองหรอ? จนมาดูภาค 2 และ 3 จึงได้เข้าใจ ดาราดัง บทก็ต้องดังเป็นธรรมดา จากคุณ : Generals - [ 11 พ.ย. 46 14:09:33 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมว่าที่เด็กฝาก ช้อน มาให้ หมายถึงให้นีโอใช้พลังจิตเหมือนที่เด็กสามารถงอช้อนด้วยพลังจิตได้ ซึ่งนีโอก็ใช้ตอนจบของภาคสอง ที่ใช้พลังจิตหยุด Sentinels ได้ เรื่อง Neo กับ Agent Smith มีอธิบายเยอะแล้วซึ่งผมเห็นว่าสอดคล้องกับพอสมควร จากคุณ : Peet - [ 12 พ.ย. 46 09:42:11 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมว่าที่เด็กฝากช้อนมาให้เพราะหนังอาจจะบอกเฉยๆก็ได้ว่าเด็กคนนั้นได้ออกมาจากเมตทริกแล้วอาจจะไม่มีอะไรมาก จากคุณ : สายลมฯ - [ 13 พ.ย. 46 09:52:21 A:169.210.13.170 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 #54 i love your comments!!! ส่วนคุณ amatetra คหที่ 10 ที่บอกว่าภาค 2 และ 3 ทำเสีย theme ของเรื่อง ถ้าได้ดู แผ่น The Matrix Revisited เป็นเบื้องหลังของภาคแรก จะรู้ว่าเนื้อเรื่องถูกเขียนใว้ทั้ง 3 ภาคแล้วครับ แต่ที่ออกมาห่างกันมากระหว่างภาคแรกกะภาค2 เพราะว่าผู้กำกับทั้งสองยังหน้าใหม่ในวงการครับ ผู้ผลิตเลยต้องให้ลองเอาอองมาแซมเปิลก่อน เมื่อได้รับความนิยมก็ถึงได้มีผลงานชิ้นต่อๆมา เห็นด้วยกะ #54 ทุกประการ จากคุณ : *Sir Donalro* - [ 16 พ.ย. 46 01:19:36 ]