ความคิดเห็นที่ 7
ผมเรียนปรัชญามาครับ ขอบอกว่า เนื้อเรื่องมันก็คือหลักสูตรปรัชญา ปีหนึ่ง (มหาลัย) ธรรมดาๆนี่เอง ไม่ได้ลึกล้ำอะไรมากขนาดนั้น
เริ่มต้นด้วยภาคแรก ->
epistemology, metaphysics (ปรัชญาว่าด้วยความรู้ - จะรู้ได้ไงว่าอะไรจริงไม่จริง โลกเรามีจริงหรือไม่)
ต่อด้วย philosophy of the mind, i.e. dualism, artificial intelligence, consciousness (ว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับตัวตนของเรา ร่างกาย วิญญาณ ความรู้สึกนึกคิด ข้อแตกต่างระหว่างคนกับสมองกล)
จบด้วยเรื่อง free will, free choice, determinism - hard determinism (fatalism) และ soft determinism (law of physics, law of the world) (ว่าด้วย เรื่อง free will คือเราจะเลือกทางเดินทางไหนรึป่าว หรือว่าเราตกอยู่ภายใต้กฏเกณฑ์ต่างๆ ไม่ว่ากฏทางฟิสิกส์ หรืออาจจะเป็นโชคชะตา และอื่นๆ)
โดยภาคสองจะยุ่งๆกับ การพยายามอธิบายเหตุการณ์ในสังคม (social phenomenas) โดยใช้วิทยศาสตร์ได้มากขนาดไหน พูดง่ายๆ คือการจำลอง สังคมมนุษย์ที่ซับซ้อนมากๆๆๆๆๆนั้น สามารถจะทำได้ขนาดไหนกัน
แต่น่าเสียดายที่ สองพี่น้องนั้นค่อนข้างจะทำหนังไม่เป็นทำให้ภาคสอง ซึ่งน่าจะมีความเข้มข้นทางปรัชญามากที่สุด กลับออกมาไม่ได้เรื่อง แถมส่งแก่นเรื่องทางปรัชญานี้ไม่ชัดเจนเท่าภาคแรก ทำให้เรื่องมันโคดห่วย
แต่ภาคสุดท้าย ยิ่งห่วยไปใหญ่ จบแบบควายๆ ปรัชญาก็หายไปหมด แถมยังโคดมั่ว เรียกอารมณ์คนดูก็ไม่ได้ (ฉาก trinity ตายนี่ห่วยบรมโคตร คนดูเกือบหัวเราะกันทั้งโรง) ห่วยจริงๆสรุป
จากคุณ :
อ่ะนะ
- [
22 พ.ย. 46 20:40:21
A:195.92.67.209 X:217.134.98.28
]
|
|
|