###กร๊ากกกกกกก ฮ่า ฮ่า ฮ่า ในที่สุดผมก้อเจอกระทู้ที่คุณ *คนพเนจร* ตอบแล้วไม่มีคำว่า ลัลล้า~*ครั้งแรกคร้าบบบบบ

    ผมขอโทษคุณ *คนพเนจร*  ครับ  ผมเคยตั้งใจไว้ว่า เมื่อไรที่ผมเห็นคุณตอบ หรือตั้ง กระทู้ ที่ไม่มีคำว่า ลัลล้า~* ผมจะตั้งกระทู้นี้ครับ

    เมื่อกี้พอผมเห็นกระทู้ที่คุณตอบปุ๊บ ผมรีบตั้งกระทู้นี้อย่างด่วนเลย โดยไม่สนใจที่จะอ่านให้จบก่อน  ผมไม่เคยมีความคิดที่จะเอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่น

    http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A2746065/A2746065.html

    ความคิดเห็นที่ 3  

    เพื่อน........

    18 October 2002 - 0:09

    คุณเคยคิดอยากฆ่าตัวตายบ้างรึเปล่าเอ่ย .........

    อย่างที่ผมเคยเล่าให้ฟังว่า ผมเองเจ็บป่วยบ่อยๆ และไม่ค่อยสบาย มีหลายครั้งเลยที่ผมคิดจะฆ่าตัวตาย แต่ทุกๆ ครั้งก่อนที่ผมจะลงมือ ผมเองจะรู้สึกเสียดายชีวิต รู้สึกกลัวความตายเป็นอย่างมาก รู้สึกไม่อยากจะลืมสิ่งต่างๆ ที่ดีๆ ที่ผมได้พบ และไม่อยากลืมเพื่อนคนสำคัญทุกคนในชีวิตของผม

    อย่างที่หลายๆ คนทราบอีกเช่นกัน ว่าผมป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย แต่ก็ไม่ใช่โรคที่จะตายวัน ตายพรุ่ง เพียงแต่ต้องรักษาสุขภาพตัวเองให้ดี ต้องฉีดยาทุกวัน วันละ 4-5 เข็ม ก่อนอาหาร และก่อนนอน ทั้งต้องเจาะเลือดตัวเองตรวจให้เรียบร้อย อย่างต่ำวันละ 2 หน ความทรมานแบบนี้เกิดกับผมทุกครั้งที่ผมทิ่มเข็มลงไปที่หน้าท้อง ทุกครั้งที่ผมเจาะเลือดที่ปลายนิ้ว ผมรู้สึกเจ็บหรอก ไม่ใช่คนที่ไม่มีความรู้สึกซักหน่อย เข็มทิ่มเนื้อ ถ้าใครบอกว่าไม่เจ็บหล่ะก็ โกหกคำโตเลยหล่ะ 555

    มีหลายๆ คนเคยบอกว่า เราตายแล้วจะได้ไปเกิดใหม่บ้าง เราตายแล้วจะต้องไปตกนรกก่อน หรือได้ไปขึ้นสวรรค์บ้าง แต่สำหรับผม ผมอยากจะบอกว่า ทำใจเหอะครับ เราควรจะยอมรับความจริงซ๊ะ เพราะเราไม่เคยตาย ผมกลับเชื่อว่า พอเราตาย ทุกชิ้นส่วนของเราก็จะกลับไปสู่สามัญ กลายเป็นอะตอม แต่ยังคงอยู่บนโลก ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ ไอ้พวกหลักไสยศาสตร์หน่ะ สำหรับผมมันเป็นแค่ความเชื่อ ว่าอาจจะเป็นไปได้เท่านั้น ถ้าใครตายไปแล้วกำลังจะไปเกิดใหม่ แล้วอยากให้ผมเชื่อ ก็มาหาผมได้ ผมก็อยากเจอเหมือนกัน

    วันหนึ่งที่ผมได้ไปเยี่ยมบ้านเด็กกำพร้ากับเพื่อนๆ ผมได้ไปยืนใต้ต้นไม้แล้วถอนหายใจ มีเพื่อนผมคนหนึ่งถามผมว่า จริงๆ แล้วเค้าเองไม่รู้ว่าตัวเค้าเกิดมาเพื่ออะไร ทำไมถึงต้องเกิดมา แล้วทำไมถึงต้องมีเค้าอยู่บนโลกนี้ด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดในจักรวาล มันเริ่มต้นเมื่อไหร่ ผมจึงตอบเค้ากลับไปว่า จะไปสนทำไมว่ามันจะเริ่มต้นเมื่อไหร่ แต่สำหรับผม มันเริ่มต้นตั้งแต่ตอนผมได้เกิดมา ผมจะไม่คิดถึงสิ่งที่ผมไม่สามารถจะบอกได้ว่ามันเริ่มมายังไง แต่ผมรู้ว่าผมได้เกิดมาและมันก็เริ่มต้นขึ้น คนเราทุกคนเกิดมาเพื่อกันและกัน เพื่อพึ่งพากัน เพื่อที่จะอยู่ร่วมกัน มนุษย์มีความหลากหลาย ทั้งหน้าตา รูปร่าง เอกลักษณ์เฉพาะตัว และด้วยเหตุแห่งความหลากหลายนี้ จึงทำให้เราไม่สูญพันธุ์ ลองมองสัตว์ต่างๆ ดูสิ ไม่มีสัตว์ชนิดใดในโลก ที่มีความหลากหลาย และความฉลาดเท่านี้เลย

    ตอนเราตายรู้สึกยังไงน๊ะ ทุกคนคงอยากรู้เหมือนกัน มีหนังสือเล่มนึงบอกถึงว่า ตอนก่อนตาย คนเราจะหลั่งสารชนิดนึงออกมา แล้วจะทำให้รู้สึกสบาย รู้สึกว่าไม่เจ็บปวด และสารนี้จะกระตุ้นประสาท ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเราเหมือนลอยได้ รวมถึงประสาทสัมผัสของเราจะสามารถรับรู้สิ่งต่างๆ รอบๆ ตัว และมโนภาพได้ ดีกว่าปรกติ ใช่ครับ ผมกำลังพูดถึงประสบการณ์วิญญานออกจากร่าง ซึ่งมักจะเกิดกับคนที่ใกล้เสียชีวิต บางคนก็บอกว่า เค้าได้ลอยออกไปอยู่ข้างบนสูงๆ แล้วจ้องลงมามองตัวเองบ้าง บางคนก็บอกว่าเค้าออกไปนั่งอยู่ข้างๆตัวเองบ้าง หรือบางคนบอกว่าสามารถย้อนอดีตกลับไปได้เลย แล้วคนเหล่านั้นก็ค่อยกลับมาฟื้นใหม่ จริงๆ แล้วผมอยากจะบอกว่าตามหลักวิทยาศาสตร์หน่ะ อธิบายได้หมดเลย เพราะตอนที่เราเองกำลังจะตายหน่ะ ถึงเราจะบอกว่าเราไม่กลัว แต่จริงๆ เรามีความกลัวอยู่ในตัวเองทุกคน คนที่กลัวตายมากๆ ก็จะสามารถจินตนาการเรื่องเหล่านี้ได้ไม่ยาก เพราะร่างกายเราพร้อมที่จะให้จินตนาการอยู่ด้วยแล้ว(เกิดจากสารที่ผมบอกข้างต้นว่าร่างกายจะหลั่งออกมา ทำให้รู้สึกว่าผ่อนคลาย ปลดปล่อย สบาย และประสาทสามารถรับรู้สิ่งรอบตัวได้ใวกว่าเดิมอีกหลายเท่า) สำหรับผมเองจึงไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายเท่าไหร่ แต่ถ้ามันมีจริงก็ดีไม่หยอกเหมือนกัน จะได้กลับมาเกิดใหม่อีกซักครั้ง ผมอยากเกิดเป็นคน

    เพื่อน เป็นคำพูดที่ดูอบอุ่น พอพูดถึงคำนี้ผมจะนึกถึงคนที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียว คนที่ทำให้เราไม่เหงา คนที่จะอยู่เคียงข้างเรา ไม่ว่าเราจะทุกข์ สุข เศร้า เสียใจ คนที่เป็นกำลังใจให้เราทุกครั้งที่เราท้อแท้ สำหรับเพื่อนของผมที่ผมรักมากที่สุด 2 คนแรก คงไม่พ้นคุณพ่อ และคุณแม่ของผม เค้าเป็นเพื่อนที่สอนผมให้รู้จักการใช้ชีวิต การดำเนินชีวิต และการมีชีวิต เป็นกำลังใจให้ผมตลอดมาตั้งแต่ผมเริ่มมีชีวิต ผมรักเพื่อน 2 คนนี้มาก และอยากจะมีชีวิตอยู่กับเค้านานๆ

    เพื่อนคนถัดๆ มาของผมคงจะไม่พ้นญาติๆ และพี่น้อง ของผม ถึงแม้พวกเค้าจะจู้จี้ขี้บ่นบ้าง อาจจะมีทะเลาะกันบ้าง(แต่อาจไม่เท่าเพื่อน 2 คนแรก) แต่เค้าก็หวังดีกับผมมาตลอด อยากให้ผมมีอนาคตที่ดี ผมเองเกิดในตระกูลที่พอจะมีฐานะ เลยได้อะไรจากญาติๆ มาเยอะมาก (ว่าตรุษจีนปีนี้ขอให้เยอะๆ เท่าปีหน้าแล้วกันครับ) พวกญาติๆ ส่วนใหญ่แล้วออกจะบ่นเก่งซักหน่อย ดุผมบ้างเป็นครั้งคราว บางทีก็โดนตีด้วย แต่ผมไม่คิดจะโกรธเค้าหรอก เพราะผมเองก็เป็นคนค่อนข้างดื้อ หัวรั้น ผมใช้ชีวิตช่วงเด็กๆ อยู่กับญาติๆ มากกว่าคุณพ่อคุณแม่ เพราะผมเป็นหลานคนแรกในตระกูล จึงย้ายบ้านบ่อยตั้งแต่เด็กๆ เดี๋ยวไปอยู่นู้นที เดี๋ยวมาอยู่นี่ที โอย สลับกันไปเลี้ยงเป็นอาทิตย์ๆ เลยเป็นที่มาของคำว่า * ค น พ เ น จ ร *

    เพื่อนอีกหลายคนที่ลืมไม่ได้ คือ อาจารย์ของผม ผู้ให้ความรู้ผม ประดุจ พ่อ-แม่ คนที่ 2 แต่สมัยผมเรียนอยู่ พ่อ-แม่ เหล่านี้ ทำไมตีผมจังหว่า อิอิ ใช่ครับ ผมโดนตีทุกวันเพราะไม่ขยันเรียน อาจารย์เองก็คงหาทางออกไม่ได้ เลยทำการลงโทษซ๊ะ เหอๆๆๆ แต่ถึงยังไง เค้าก็คือคนที่สอนผมให้รู้จักภาษา สอนให้ผมรู้จักการคำนวน ให้พื้นฐานต่างๆด้านวิชาการกับผม ให้ผมได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ทำให้ผมได้รู้จักคิด ทำให้ผมเป็นคนมีเหตุผล ทำให้มีผมในทุกวันนี้ได้ ทุกอย่างเป็นเพราะพวกเค้าทั้งนั้น ผมเองรู้สึกดีใจมากเช่นกัน ที่ได้มีเพื่อนอย่างนี้

    เพื่อนที่ผมกล่าวมาข้างต้นคือเพื่อนผู้มีพระคุณกับผม แต่ผมเองยังมีเพื่อนๆ ที่ลืมกันไม่ได้อีก นั่นคือ เพื่อนแปลกหน้า ใช่ครับ ผมเรียกว่าเพื่อนแปลกหน้า เพราะผมเองไม่เคยรู้จักเค้ามาก่อน และผมเองก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันด้วยโดยตรง แต่เค้าเหล่านั้นเป็นผู้ที่เข้ามาในชีวิตผม ผู้ที่มาเดินร่วมทางกับผม หรืออยู่เคียงข้างผม ให้ข้อคิดและบทเรียนต่างๆ เพื่อนเหล่านี้ก็ได้แก่เพื่อนที่เรียนมาด้วยกัน เพื่อนที่รู้จักกันในทางผ่านของชีวิต เพื่อนที่คบกันเป็นแฟน หรือจะพูดอีกทีก็พวกคุณๆนี่แหละ เพราะสำหรับผมเอง พวกคุณนั้นเหมือนไม่ได้เกี่ยวพันอะไรกับผมเลย เราไม่ใช่ญาติกัน เราไม่ใช่พี่น้องกัน แต่เราหน่ะ อาจจะเป็นศิษย์อาจารย์ของกันและกัน เพราะเราเองได้มาใช้ชีวิตร่วมกัน ได้มาอยู่ร่วมกัน ได้สอนกันและกันในการใช้ชีวิต ได้แชร์ประสบการณ์ความรู้และความรู้สึกต่างๆ ให้แก่กันและกัน อยู่ด้วยกันยามเหงา ยามที่เรารู้สึกว่าไม่มีใคร เป็นที่ปรึกษาให้แก่กัน เพื่อนแปลกหน้าจะช่วยเราได้เสมอ สำหรับมิตรภาพแบบนี้ เป็นมิตรภาพที่เรามอบให้กันและกันโดยไม่ได้มีความผูกพันใดโดยตรงต่อกันเลย(ไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่พี่น้อง) เป็นความรู้สึกที่ให้กับคนอื่น คนแปลกหน้า ในบางครั้งเหมือนเป็นการให้ที่ไม่เจาะจง เพื่อนเหล่านี้จึงนับว่าเป็นเพื่อนที่ลืมไม่ได้เลยทีเดียว

    เพื่อนสำหรับผมเองแล้ว เป็นนิยามที่มีความหมายมาก เพราะมันคือสิ่งที่บ่งบอกว่า ผมไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ ทุกครั้งที่ผมเหงา พอผมคิดถึงเพื่อนๆ ผมอดที่จะแอบยิ้มเล็กๆ ไม่ได้ โดยเฉพาะเพื่อนใน internet หลายๆ คน เป็นเพื่อนแปลกหน้าที่ผมรู้สึกว่า เราคุ้นเคยกัน ถึงแม้เราจะไม่เคยเจอหน้ากัน เราจะไม่ได้ไปทานข้าวด้วยกัน เราจะไม่ได้รู้จักกันในความเป็นจริง แต่ผมก็มีความรู้สึกว่า เราได้อยู่ร่วมกัน ผมรู้สึกถึงความอบอุ่นได้เมื่อยามที่ผมได้คิดถึงเค้าเหล่านั้น อย่างที่บอก การได้แอบรักใครก็เป็นความรู้สึกที่มีความสุข แต่การได้แอบคิดถึงใคร ก็เป็นความรู้สึกที่มีความสุขได้เช่นกัน สำหรับผมเองแล้ว ผมคงขาดเพื่อนทุกคนไม่ได้และผมเองอยากจะมีชีวิตอยู่นานๆ เพื่อที่จะได้อยู่กับเพื่อนที่ผมรัก อยู่กับเพื่อนที่รักผม แคร์ความรู้สึกของผม และเพื่อที่จะได้พบกับเพื่อนใหม่ๆ ที่จะทำให้ผมมีความสุขยิ่งๆขึ้น ผมรู้สึกว่า ชีวิตผมเองมีคุณค่า เพราะคำว่า "เพื่อน"

    (ตัว original)
    ( )'"'x( ) ( )x'"'( ) (ผมตัว copy ครับ)
    ( ' o' ) ( ' o ' ) คุยกะหมีน้อยป่ะ
    ==(,,)=(,,)===(,,)=(,,)==

    ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนครับ
    * ค น พ เ น จ ร *
    -------------------------------------------------------
    อ้างอิง Diary ของผมเอง เขียนเมื่อนานมาแล้วครับ
    http://www.dogpositive.com/viewdiary.php?dname=TuiLor&entry=3&offset=1

    จากคุณ : * ค น พ เ น จ ร *  - [ 3 เม.ย. 47 01:26:29 ]


    *******************************************

    ผมเสียใจครับ

    เป็นกำลังใจให้แกนะพื่อน







    แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 47 02:01:41

    แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 47 01:54:07

    แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 47 01:46:04

    แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 47 01:42:07

    จากคุณ : นายกำลังคิดเหมือนชั้นมั๊ย บี1 - [ 3 เม.ย. 47 01:37:22 ]