แนะนำหนัง Waiting for Happiness ค่ะ

    เนื่องในโอกาสที่ Taking Lives กำลังจะเข้าฉายในไทย ก็เลยรวบรวมข้อมูลเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับแองเจลินา โจลี และอีธาน ฮอว์คมาให้อ่านกันค่ะ โดยข้อมูลข้างล่างนี้รวบรวมมาจากสำนักข่าวรอยเตอร์ค่ะ

    ลำดับข้อมูลในวันนี้
    1.แนะนำดีวีดีออกใหม่:WAITING FOR HAPPINESS
    2.JESSICA LANGE + CONGO
    3.ANGELINA JOLIE + CHECHNYA
    4.ANGELINA JOLIE + CAMBODIA
    5.BEYOND BORDERS นำแสดงโดยแองเจลินา โจลี
    6.BEFORE SUNSET นำแสดงโดยอีธาน ฮอว์ค
    7.CHELSEA WALLS กำกับโดยอีธาน ฮอว์ค
    8.NIGHTHAWKS (หนังเกย์)
    9.CHILDREN OF LOVE
    10.LANDSCAPE
    11.THE ACCOUNTANT
    12.ACT OF WORSHIP
    13.OWNING MAHOWNY
    14.STRAIGHT PLAN FOR THE GAY MAN
    15.TEN MOST DESIRABLE ACTORS
    16.MY OPINION ON “BROTHER BEAR”
    17.ERIC ROHMER’S LIST
    *****ข้างล่างนี้จะมีการเล่าเรื่องย่อของหนังบางเรื่อง*****
    *****อ่านข้อมูลเกี่ยวกับ Before Sunset ได้ในนิตยสาร Bioscope เล่มเดือนมี.ค. 2004 หน้าปก Lost in Translation*****

    1.WAITING FOR HAPPINESS

    ภาพยนตร์เรื่อง Heremakono (Waiting for Happiness) สร้างความประทับใจให้นักวิจารณ์ภาพยนตร์มาแล้วทั่วโลกด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับผู้อพยพและผู้ที่ต้องอาศัยอยู่ในวัฒนธรรมที่ตนเองไม่คุ้นเคย โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของอับเดอร์ราห์มาน ซิสซาโก ซึ่งเป็นชาวมอริตาเนีย และสามารถคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์ชั้นนำของแอฟริกามาได้ในช่วงต้นปี 2003

    ซิสซาโกเคยเข้ารับการศึกษาที่กรุงมอสโคว์ของรัสเซียในปี 1983-1989 และเคยสร้างภาพยนตร์เรื่อง Life On Earth ที่ได้รับคำชมมาแล้วจากทั่วโลก ส่วนเรื่อง Waiting for Happiness นี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับอับดัลลาห์ (โมฮัมเหม็ด มาห์มุด อูลด์ โมฮัมเหม็ด) ชายหนุ่มวัย 17 ปีที่ทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิดที่เมืองนูอาดิบูทางชายฝั่งตะวันตกของทวีปแอฟริกามาเป็นเวลานานแล้ว นานจนกระทั่งเขาไม่สามารถจดจำภาษาท้องถิ่นของบ้านเกิดได้ โดยขณะนี้อับดัลลาห์กลับมาที่บ้านเกิดอีกครั้งเพื่อเยี่ยมแม่ของเขาก่อนจะเดินทางต่อไปยังทวีปยุโรป และเขารู้สึกว่าตัวเองทำอะไรไม่ถูกในขณะที่ชีวิตของเขาอยู่ในจุดหักเหเช่นนี้

    อับดัลลาห์ได้รับความช่วยเหลือเรื่องการฝึกพูดภาษาท้องถิ่นจากเด็กกำพร้าแปลกหน้าชื่อคาตรา (คาตรา อูลด์ อับเดล เคเดอร์) ซึ่งทำงานเป็นลูกมือให้กับช่างวัยชรา (มาตา อูลด์ โมฮัมเหม็ด อาเบด) โดยคาตราต้องการ
    จะเป็นช่างไฟฟ้าเมื่อเขาโตขึ้น และเด็กคนนี้เป็นคนที่กระตือรือร้นและอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเรื่องของความตาย

    ยังมีตัวละครอีกหลายคนในเรื่องนี้ ซึ่งรวมถึงนักร้องและนักดนตรีหญิงผู้มีพรสวรรค์ที่พยายามถ่ายทอดความรู้ของเธอให้แก่เด็กสาวที่มีความสามารถคนหนึ่งที่มาฝึกซ้อมกับเธอทุกวัน, ผู้อพยพชาวจีนที่โดดเดี่ยวคนหนึ่งที่ร้องเพลงในบาร์คาราโอเกะเพื่อทดแทนความรู้สึกคิดถึงบ้าน และหญิงสาว (นานา เดียคีเต) ที่เล่าให้อับดัลลาห์ฟังเกี่ยวกับเรื่องการตายของลูกสาวของเธอและเรื่องที่สามีทอดทิ้งเธอเมื่อเธอเดินทางไปหาเขาที่ยุโรป

    นักวิจารณ์ของ spiritualityhealth.com ตั้งข้อสังเกตว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ผู้ชมสัมผัสได้ถึงความเปล่าเปลี่ยวและแปลกแยกในใจของอับดัลลาห์ และฉากที่เศร้าที่สุดฉากหนึ่งในเรื่องนี้คือฉากที่อับดัลลาห์ต้องไต่เขาที่สูงชันในทะเลทรายในระหว่างการเดินทางไปสถานีรถไฟ ซึ่งฉากนี้สะท้อนให้เห็นว่าเส้นทางที่จะนำไปสู่ชีวิตใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย และเราต้องเผชิญกับบททดสอบหรืออุปสรรคอันยากลำบากอยู่เสมอ

    ซิสซาโกได้รับรางวัล Stallion of Yennenga และรางวัลมูลค่าราว 10,500 ยูโรจากประธานาธิบดีเบลส คอมปาออร์ของประเทศเบอร์กินา ฟาโซเมื่อต้นปีนี้จากภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยรางวัลดังกล่าวถือเป็นรางวัลสูงสุดของเทศกาลภาพยนตร์แพน-แอฟริกัน (เฟสปาโก) ที่จัดขึ้นที่กรุงอูอากาดูกุ

    "ผมรู้สึกภาคภูมิใจในฐานะนักสร้างภาพยนตร์ชาวแอฟริกันที่ได้รับรางวัลอันยิ่งใหญ่นี้" ซิสซาโกกล่าวขณะรับรางวัลดังกล่าว

    Waiting for Happiness เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ขนาดยาว 15 เรื่องที่ได้เข้าชิงรางวัลในเฟสปาโกครั้งที่ 18 โดยเทศกาลนี้จัดขึ้นครั้งแรกในปี 1969 และจัดขึ้นเป็นประจำทุก 2 ปีในเบอร์กินา ฟาโซซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแอฟริกา

    ภาพยนตร์หลายเรื่องในเทศกาลนี้ก็พูดถึงประเด็นเรื่องการละทิ้งถิ่นฐานและการปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมที่แตกต่างเช่นกัน ส่วนนักวิจารณ์ภาพยนตร์กล่าวว่าภาพยนตร์ในเฟสปาโกปี 2003มีมาตรฐานสูง แต่เทศกาลนี้ก็ประสบปัญหาสำคัญเนื่องจากเกิดความขัดแย้งทางความสัมพันธ์ระหว่างเบอร์กินา ฟาโซกับประเทศไอวอรีโคสต์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ในช่วงที่มีการจัดงาน

    ผู้สร้างภาพยนตร์ชาวไอวอรีโคสต์ไม่ยอมมาร่วมงานเฟสปาโกปี 2003 โดยอ้างว่าสงครามทำให้ภาพยนตร์ของพวกเขาไม่ได้รับเลือกให้เข้าชิงรางวัลในงาน อย่างไรก็ดี ผู้จัดงานปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ โดยกล่าวว่าผู้สร้างชาวไอวอรีโคสต์รู้สึกโกรธที่ภาพยนตร์ของตัวเองไม่ได้รับเลือกให้เข้าชิงรางวัล

    Waiting for Happiness คว้ารางวัลมาได้อีกหลายรางวัลตามเทศกาลภาพยนตร์ต่างๆทั่วโลก ซึ่งรวมถึงเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ และเทศกาลภาพยนตร์นามูร์ในประเทศเบลเยียมซึ่งเป็นเทศกาลสำหรับภาพยนตร์ภาษาฝรั่งเศส นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับรางวัลสเปเชียล จูรี อวอร์ดในเทศกาลภาพยนตร์กิคอนที่สเปน และได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในเทศกาลภาพยนตร์อินดี้บัวโนสไอเรสด้วย

    คณะกรรมการที่มอบรางวัลขวัญใจสื่อมวลชนให้แก่ Waiting for Happiness ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ให้เหตุผลในการมอบรางวัลว่า "ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถนำเสนอความซับซ้อนทางอารมณ์ที่น่าขันที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตคนธรรมดาออกมาได้อย่างงดงามราวบทกวี"

    ลอรา ซินากรา นักวิจารณ์ของวิลเลจวอยซ์ตั้งข้อสังเกตว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ความสำคัญกับตัวละครและสัญลักษณ์โดยไม่ให้ความสำคัญกับพล็อตเรื่อง และมีส่วนคล้ายคลึงกับภาพยนตร์อิหร่านของอับบาส เกียรอสตามี และจาฟาร์ ปานาฮี โดยเฉพาะฉากที่คาตราถือหลอดไฟซึ่งคล้ายคลึงกับฉากเด็กหญิงและปลาทองใน White Balloon ของปานาฮี นอกจากนี้ ซินากรายังตั้งข้อสังเกตว่าซิสซาโกนำเสนอภาพของโลกภายนอกที่รุกล้ำเข้ามาในชีวิตของตัวละครได้ด้วยวิธีการที่น่าสนใจ เช่นภาพของเรือที่ลอยลำอยู่นอกชายฝั่งจนถึงตัวละครชาวจีนในบาร์

    ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆของซิสซาโกรวมถึง October (1991) ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ล่มสลายระหว่างหญิงชาวรัสเซียกับแฟนหนุ่มชาวแอฟริกัน, Sabriya ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักระหว่างชายชาวมาเกรบกับผู้หญิงที่อยู่ในวัฒนธรรมตะวันตก และ Le Jeu (1988) ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับเด็กๆที่เล่นเกมทำสงครามในขณะที่ผู้เป็นพ่อต้องจากบ้านเพื่อไปรบในแนวหน้า โดยภาพยนตร์เรื่องนี้มีบางจุดคล้ายกับบทประพันธ์เรื่อง Lord of the Flies และมีบางฉากที่ถ่ายภาพจากระยะไกลซึ่งทำให้เด็กๆดูเหมือนกับมด

    ส่วน Rostov Luanda (1997) ที่กำกับโดยซิสซาโกเป็นภาพยนตร์สารคดีที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายผู้หนึ่งที่ตามหาเพื่อนเก่าในประเทศแองโกลา โดยเขาใช้วิธีนำภาพถ่ายของเพื่อนไปให้คนในที่ต่างๆดู โดยชายผู้นี้ต้องเดินทางไปยังค่ายผู้อพยพ, เมืองที่ถูกทำลายด้วยสงคราม และหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกล และในระหว่างการเดินทาง เขาก็ได้รับรู้เรื่องราวในอดีตของประเทศนี้ ตั้งแต่สมัยที่ประเทศนี้ยังเป็นอาณานิคมของโปรตุเกส จนกระทั่งได้รับเอกราช และเกิดสงครามกลางเมืองกับเหตุการณ์ไม่สงบในเวลาต่อมา

    จากคุณ : Madeleine de Scudery - [ 8 เม.ย. 47 16:31:32 A:203.156.90.162 X: ]