ความคิดเห็นที่ 1 ไม่เห็นด้วยกับการฆ่าตัวตายครับ เห็นด้วยกับการเรียนรู้การใช้ชีวิตเพิ่มขึ้นมากกว่า ชีวิตมีทั้งความสุขและความทุกข์ครับ อย่างที่ผมชอบพูดอยู่บ่อยๆ คนที่ร่ำรวยที่สุดที่คุณเห็น อาจจะมีความสุขได้อยู่ในโลกของความเป็นจริง แต่กลับต้องนอนหวาดผวากลัวโจรจะมาปล้นชิงทรัพย์สินของตัวเอง ต่างกับคนที่ไม่มีจะกินต้องทำงานแหละเหนื่อย ตรากตรำเวลาทำงานเป็นอย่างมาก แต่ก็มีความสุขเมื่อได้หลับพักผ่อน และฝันดี คนเราทุกคนหาความสุขใส่ตัวเองได้หมดครับ เมื่อมีช่วงเวลาที่มีความทุกข์ ก็ย่อมจะมีช่วงเวลาที่มีความสุขเช่นกัน หากเราไม่รู้จักว่าความทุกข์เป็นเช่นไร ไหนเลยจะรู้จักรสชาติของความสุขว่าเป็นอย่างไร จริงมั๊ยครับ อยากให้ทุกคนมีความสุขกับการใช้ชีวิต และมีชีวิตบนโลกนี้ครับ ยอมรับในตัวเอง ยอมรับความเป็นจริง สภาพแวดล้อม และสังคม แล้วเราจะมีชีวิตอย่างเป็นสุขครับ ลัลล้า~* จากคุณ : * ค น พ เ น จ ร * - [ 19 เม.ย. 47 15:44:44 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จะตายไม่ได้ ยังโสดอยู่ ไม่ยอมเสียชาติเกิด ต้องแต่งงานก่อน ค่อยตาย หุหุ จากคุณ : SassyBoy100 - [ 19 เม.ย. 47 15:47:35 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นด้วย เหมือนวงร็อคอะไรน้า ที่ว่า ถ้าเราสามารถตายตามคำสั่ง เช่น ส่งทหารไปอิรักได้ เราก็มีสิทธิตัดสินใจได้เองเช่นกัน ว่าสมควรแก่เวลาแล้ว จากคุณ : angy_11 - [ 19 เม.ย. 47 15:51:13 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มันก็เหมือนการลาออกจากชีวิต เมื่อถึงจุดที่คิดว่าเราควรจะไปได้เสียที เป็นการประหยัดทรัพยากรโลก อาทิเช่น น้ำประปา ไฟฟ้า อาหาร อากาศ ฯลฯ ทั้งนี้ทั้งนั้น ควรมีหลักเกณฑ์และสถานที่ที่รองรับ เช่น มีศูนย์การเดินทางสู่ปรโลก เป็นการจัดการศพหลังเสียชีวิต อาจจะใช้ยาพิษแบบที่ฉีกนักโทษ หรืออย่างไรก็ตามที ไม่ใช่ต้องไปโดดตึก นอนเอาหัวพาดรางรถไฟ แบบก่อนๆมา ข้อนี้ ผมเห็นด้วยครับ จากคุณ : Ped-Degree - [ 19 เม.ย. 47 15:51:27 ]

ความคิดเห็นที่ 5 โหวตแร๊ะ จากคุณ : PIKPON - [ 19 เม.ย. 47 16:04:04 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ล้วถ้าคุณจะฆ่าตัวเองตายคุณจะสนใจไหมว่าผิดหรือถูกกฎหมาย จากคุณ : titanic_sux - [ 19 เม.ย. 47 16:10:22 ]

ความคิดเห็นที่ 7 พิการ ... ระดับไหนครับ ผมคิดถึงตัวผมเอง ถ้าโดนเอาซักอย่างสองอย่าง เช่นขาขาด -> ไม่เป็นไร นั่งรถเข็น ทำงานบนคอมได้ แขนขาด -> เอ้อ ซวยดิ เอ้า ยังพอเดินได้ ก็อืม น่าจะพอใช้ขา หัดทำอะไรได้ ตาบอด -> เหวยยยยย ก็เอาฟระ ยังพอนั่งจมปุ๊ก ทำอะไรได้ แต่ถ้าโดนหลาย ๆ เคส แขนขาด ขาขาด ตาบอดสมองเอ๋อ ก็ขอยอมตายเช่นกัน สรุปว่า ผมเห็นด้วยครับ แต่เห็นด้วยว่า หากเราตัดสินใจปลิดชีวิตตนเองแล้ว อยากให้รัฐมอบเงินก้อนนึง ให้คนข้างหลังเราด้วย จากคุณ : อยากรู้อยากเห็น - [ 19 เม.ย. 47 16:13:01 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยสุดๆ แต่มันจะไปขัดแย้งคำสอนของศาสนานะ จากคุณ : lalalala - [ 19 เม.ย. 47 16:17:45 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยแน่นอน เพราะตายมักจะดีกว่า ไม่ดีคงกลับกันมาแล้ว จากคุณ : Bion@l_Fantasy_X - [ 19 เม.ย. 47 16:33:26 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นด้วย ลองคิดว่าตัวเองเป็นภาระให้ครอบครัวดูแลทั้งร่างกายและการเงิน โดยที่ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นหลักประกันว่าเราจะกลับมาปกติได้เหมือนเดิมทุกอย่าง คนที่คอยพยาบาลเราเค้ามีความหวังอยู่แล้วหล่ะแต่เค้าก็เป็นทุกข์เหมือนกันนะ ทั้งนีทั้งนั้นต้องให้เราตัดสินใจเอง จากคุณ : ??? - [ 19 เม.ย. 47 16:45:05 A:210.86.200.75 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมเชื่อเรืองปาปครับ : ) ฆ่าตัวตายเป็นปาปที่ใหญ่พอสมควร เคยอ่านหนังสือเรื่อง ชุดประดาน้ำกับผีเสื้อไหม คนเขียนเป็นอัมพาต กระพิบตาได้อย่างเดียว ยังเขียนนิยาย เรื่องนี้ได้เลยครับ มีชีวิตอยู่ก็สู้กันให้ถึงที่สุดอ่ะ จากคุณ : คนผิดชื่อก้อง - [ 19 เม.ย. 47 17:18:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าเราหมดสภาพจิงๆ แล้วทางการแพทย์ก็ไม่มีทางรักษา +กับทางบ้านจนไม่มีจะกิน เราเลือกที่จะตายดีกว่า เคยคิดประเด็นนี้เหมือนกันนะเวลาดูรายการประเภท วงเวียนชีวิต สังเวทใจอ่ะ เลือกได้เราไม่ขอเป็นภาระใครอ่ะ กรณีนี้คือ เราต้องหมดสถาพจิงๆนะประเภทแขนขาด ขาขาดข้างเดียวเราก็ยังสู้ชีวิตอ่ะ จากคุณ : มือกลองในตำนาน - [ 19 เม.ย. 47 17:24:17 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ยังไม่เห็นด้วยเลย เพราะนอกจากที่จะผิดศีลธรรมแล้วยังก็ให้เกิดปัญหาเรื่องฆาตกรรม หรือปัญหาอื่นๆอีกที่ตามมาอีก ถ้ามันเกิดขึ้นสักวันหนึ่ง...(หุๆ)...คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่า คุณเป็นคนเซ็นต์อนุญาตให้ฆ่าตัวตายได้... จากคุณ : ตะโก้หวาน - [ 19 เม.ย. 47 17:27:26 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่เห็นด้วย มนุษย์ทุก ๆ คนในส่วนลึกๆของจิตใจ ไม่มีใครอยากตายหรอกครับ ทุกคนรู้ดีว่า เกิดมาต้องตาย แต่ก็พยายามดิ้นรนให้ตัวเองมีชีวิตที่ยืนยาวนานที่สุด ส่วนคนที่คิดฆ่าตัวตาย ต้องการหนีปัญหาชีวิต ปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้าเข้ามา เป็นความคิดเพียงชั่วครู่ ไม่ใช่ความตั้งใจจริง แต่สำหรับกรณีคนที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้และไม่อยากเป็นภาระคนอื่น เป็นกรณีส่วนน้อยในสังคม และ เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่า เขาต้องการตายจริง ๆ เพราะตัวของเราเองยังไม่เข้าใจจิตใจเราเองเลยในบางครั้ง ถ้ากฎหมายนี้ออกมาจริง ๆ ต้องส่งผลกระทบต่อคนส่วนใหญ่ สังคมต้องวุ่นวายไม่สิ้นสุดแน่นอน แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 47 17:46:27 จากคุณ : ผู้กอง - [ 19 เม.ย. 47 17:43:22 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่เห็นด้วยครับ ยังไงผมก็คิดว่าชีวิตมนุษย์มีค่าต่อให้เขาจะไม่สามารถทำประโยชน์อะไรให้ใครได้เลย ถึงต่อให้คนเราพิการยังไง ผมว่าเขาก็สมควรมีชีวิตอยู่ และคนในสังคมนั้นก็ควรจะช่วยเหลือเขาให้มีชีวิตอยู่ อย่างมีความหวัง คนที่สมบูรณ์กว่าสมควรที่จะช่วยเหลือคนที่ด้อยกว่า เป็นหน้าที่ในฐานะเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกที่ต้องไปช่วยเขา ถ้าสังคมใด ไม่สามารถทำให้คนพิการคนที่มีโรคร้ายแรงต่างๆ มีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความหวัง ผมว่าสังคมนั้นก็เป็นสังคมก็เป็นสังคมที่เลวร้ายและน่ากลัวอย่างมาก ถ้าเราปล่อยให้มีกฎหมายอนุญาตเรื่องนี้ ก็เท่ากับว่า เราเห็นว่าความเมตตา น้ำใจและ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ม่ความหมายในสังคมไทย อีกหน่อย ใครไม่ใช่พ่อแม่เรา ถ้ามันแก่ ก็ตายๆ ไปซะ ใครขาขาดก็ตายไปเหอะ อยู่ไปก็รกโลก เปลืองทรัพยกร ทำงานให้สังคมไม่ได้ คนไทยเดี๋ยวนี้ เรามีจิตใจย่ำแย่ขนาดนั้นเลยเหรอครับ สำหรับเจ้าของกระทู้ ผมอยากให้ลองไปอ่าน tuesday with morries ดู แล้วคุณจะรู้ว่า คนที่ใกล้ตาย ช่วยอะไรตัวเองไม่ได้ ได้ทำให้เราเห็นคุณค่าและความหมายของชีวิต ได้มากแค่ไหน คนป่วยใกล้ตาย ไม่ใช่คนไร้ประโยชน์ และไม่ใช่ภาระสำหรับคนอื่นในสังคมครับ !!! แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 47 17:59:38 จากคุณ : สายน้ำฟ้า - [ 19 เม.ย. 47 17:51:53 ]

ความคิดเห็นที่ 16 การฆ่าคนเป็นความผิด ไม่ว่าใคร เมื่อไหร่ เพราะอะไร และเพื่ออะไร จากคุณ : krysler - [ 19 เม.ย. 47 18:12:37 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมก็ไม่เห็นมีกฎหมายห้ามฆ่าตัวตายหนิครับ ถ้าคนฆ่าตัวตายแล้วไม่ตาย ไม่เห็นโดนข้อหา พยายามฆ่าเลย จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 19 เม.ย. 47 18:22:25 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่เห็นด้วย นอกจากคุณค่าของการมีชีวิตแล้ว ในแง่กฏหมาย จะต้อง "พิสูจน์" เท่าไหร่ ถึงจะรู้ว่า "ฆ่าตัวตาย" หรือ "ฆาตกรรม" จากคุณ : YaDaN - [ 19 เม.ย. 47 18:45:15 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตรงๆเลยนะ เราเห็นด้วยกับกฏหมายการุณยฆาต... ย้ำ การุณยฆาต (สะกดถูกมั๊ยอ่า) เหตุผลนะคะ : 1 คนเรามีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็แล้วแต่ที่ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน : คนเราไม่มีสิทธิที่จะเลือกเกิด แต่ว่าควรจะเลือกตายได้ ลองคิดดูนะคะ ถ้าอยู่ๆวันนึงคุณเกิดพิการ เป็นอัมพาต หรืออะไรก็แล้วแต่ คุณไม่สามารถสื่อสารกับใครได้ ไม่มีใครรู้ว่าคุณรู้สึกยังไง คุณเป็นเหมือนผัก.... คุณยังจะอยากอยู่มั๊ย... ถ้ามันเกิดขึ้นกับคุณ คุณยังอยากจะอยู่ต่อรึป่าว คุณคิดมั๊ย ว่าถึงตอนนั้น คุณอาจอยากจะมีสิทธิเลือกว่าคุณจะตายยังไง 2 การุณยฆาตถือเป็นการรักษาอย่างหนึ่ง : ไม่ว่าการแพทย์สมัยใหม่จะดีเพียงใด ยังไงก็ยังมีโรคที่รักษาไม่หาย ผู้ป่วยที่ป่วยขั้นสุดท้าย ไม่มีทางรักษา จะต้องทนทุกข์ทรมาน การทำการุณยฆาตถือเป็นวิธีการรักษาอย่างหนึ่ง (การรักษาในที่นี้คือการกระทำที่ทำให้ผู้ป่วยหายจากอาการที่เป็นอยู่) 3 หมอในประเทศไทยตอนนี้อยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้า คายไม่ออก : เราเคยคุยกับหมอเรื่องนี้ ตามที่หมอบอกเราคือ ในบางกรณี หมอก็ทำการการุณยฆาตเหมือนกัน (ตัวอย่างเช่น กรณีที่คนไข้สมองตาย การปิดเครื่องช่วยหายใจถือว่าเป็นการทำการุณยฆาต) ต้องเข้าใจว่าการกระทำเช่นนี้ผิดกฏหมายนะคะ แล้วที่บอกว่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกก็คือ หมอมีหน้าที่ช่วยให้ผู้ป่วยหายดี และ รักษาชีวิตผู้ป่วย แต่ในบางกรณี สองอย่างนี้มันไปด้วยกันไม่ได้ เราเชื่อว่าคงไม่มีหมอดีๆคนไหนอยากจะทำผิดกฏหมายหรอกค่ะ ถ้าออกกฏหมายการุณยฆาตออกมา จะช่วยให้หมอกระทำการที่ไม่ผิดกฏหมาย ยังไงก็ดี การที่จะออกกฏหมายการุณยฆาตใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่าย เพราะจะต้องคำนึงถึงหลายๆอย่าง ทั้งวิธีการก่อนการทำการุณยฆาต เช่นทำได้เฉพาะกรณีไหน และขั้นตอนต่างๆ ถ้าจะออกกฏหมายตรงนี้แล้ว จะต้องมั่นใจว่าไม่มีปัญหาต่างๆตามมา ถ้าจะไม่ออกกฏหมายตรงนี้ รัฐควรจะมีกฏหมายออกมารองรับว่าจะดูแลผู้ป่วยที่อยู่ในสภาพที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อย่างไร ทั้งด้านการแพทย์และการเงิน... อย่าลืมว่าทุกคนไม่ได้รวย สำหรับเรา การออกกฏหมายการุณยฆาตเป็นการให้ทางเลือกเพิ่มขึ้นอีกทางว่าผู้ป่วยต้องการจะรับการรักษาอย่างไหน ไม่ได้หมายความว่า ถ้าออกกฏหมายตัวนี้มา จะต้องทำการุณยฆาตผู้ป่วยทุกคน พูดมาตั้งเยอะตั้งแยะ แต่ยังไงก็เข้าใจว่าคนไม่เห็นด้วยก็มีมาก ยังไงก็ลองรับฟังดูละกันนะคะ จากคุณ : ...hamster... - [ 19 เม.ย. 47 18:48:52 ]

ความคิดเห็นที่ 20 นี่ๆ คิดกันทางกฏหมายรึเปล่าครับเนี่ย กฏหมายนี้ออกก็ตายๆๆๆๆ นายก.ถูกพ่อเลี้ยงเกลียดอย่างมาก เนื่องจากเป็นเอ๋อ ช่วยงานไม่ได้ เค้าจึงบังคับให้ลูกเลี้ยงปั๊มลายมือบนใบขออนุญาตฆ่าตัวตาย เอายาพิษฉีด.........ม่อง ฆาตกรรมมั้ยครับเนี่ย แต่ถ้าจะมีจริงๆมันคงจะรัดกุมกว่านี้ เอาล่ะทำสถานที่สำหรับฆ่าตัวตาย เป็นหน่วยงานราชการ ใครอยากตาย มาเลย......เดี๋ยวจัดให้ หึหึ แล้วลองนึกสภาพ คนที่อยากตายสิครับ นี่ๆพ่อแม่คงไม่อยากให้ลูกตายหรอกครับ ถึงพิการเค้าก็ยังอยากเลี้ยง คงต้องมีคนเซ็นรับรองอีก ใครล่ะ? โอ๊ย สารพัด........... ผมฟุ้งซ่านเกินไปมั้ย (แต่คงไม่เท่าเจ้าของกระทู้นะ) จากคุณ : 5555 (พิสุข) - [ 19 เม.ย. 47 18:50:47 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เราสามารถพิพากษาว่าใครควรอยู่-ควรตายได้หรือครับ จากคุณ : MONalizard - [ 19 เม.ย. 47 19:01:12 ]

ความคิดเห็นที่ 22 นี่ๆ คิดกันทางกฏหมายรึเปล่าครับเนี่ย กฏหมายนี้ออกก็ตายๆๆๆๆ นายก.ถูกพ่อเลี้ยงเกลียดอย่างมาก เนื่องจากเป็นเอ๋อ ช่วยงานไม่ได้ เค้าจึงบังคับให้ลูกเลี้ยงปั๊มลายมือบนใบขออนุญาตฆ่าตัวตาย เอายาพิษฉีด.........ม่อง ฆาตกรรมมั้ยครับเนี่ย แต่ถ้าจะมีจริงๆมันคงจะรัดกุมกว่านี้ เอาล่ะทำสถานที่สำหรับฆ่าตัวตาย เป็นหน่วยงานราชการ ใครอยากตาย มาเลย......เดี๋ยวจัดให้ หึหึ แล้วลองนึกสภาพ คนที่อยากตายสิครับ นี่ๆพ่อแม่คงไม่อยากให้ลูกตายหรอกครับ ถึงพิการเค้าก็ยังอยากเลี้ยง คงต้องมีคนเซ็นรับรองอีก ใครล่ะ? โอ๊ย สารพัด........... ผมฟุ้งซ่านเกินไปมั้ย (แต่คงไม่เท่าเจ้าของกระทู้นะ) จากคุณ : พิสุข (พิสุข) - [ 19 เม.ย. 47 19:05:03 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมคิดว่าในเมื่อชีวิตนี้เป็นของเรา ถ้าเราเบื่อชีวิตนี้แล้วไม่อยากอยู่ก็น่าจะอนุญาตให้ตายได้ตามใจเราต้องการ และผมก็ไม่เห็นด้วยกับพวกที่ไปช่วยคนที่ฆ่าตัวตายเพราะว่าถ้าให้เขาตายไปเขาคงจะสบายกว่า จากคุณ : ... - [ 19 เม.ย. 47 20:20:39 A:202.5.88.156 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 แย้งความเห็น #19 1 . อยากให้ไปอ่านผีเสื้อกับชุดประดาน้ำครับ แล้วคุณจะรู้ว่าชีวิตยังมีความหวังอยู่ได้ทุกขณะ และนี่คือเหตุผล ที่ผมยื่นยันเสมอว่า ไม่สนับสนุน การฆ่าตัวตายอย่างถูกกฎหมาย เพราะมนุษย์ที่เราคิดว่าเป็นผักนะจริงๆเขาไม่ได้เป็นผักแบบที่เราคิดหรอกครับ 2. ผมเห็นใจหมอครับ แต่จริงๆแล้วในโลกบ้าๆใบนี้มันก็มีปฎิหาริย์หลายครั้ง ที่เจ้าชายนิทราฟื้นขึ้นมาได้จริงๆ ซึ่งมันจะไม่มีทางเกิดเลยถ้า หมอตัดสินใจทำ การุณฆาต แทนคนไข้ไปก่อน แย่ทีสุด ที่ผมเห็นว่าพอจะทำใจยอมรับได้ คือ การปลดเครือ่งช่วยพยุงชีวิต โดย ได้รับความยิมยอมจากญาติผู้ป่วยเท่านั้นในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถตอบสนองต่อภายนอกได้แล้ว และต้องเป็นความเห็นจากคณะแพทย์ ไม่ใช่ความเห็นจากแพทย์เจ้าของไข้เพียงคนเดียว 3.เรืองงบประมาณมันเป็นหน้าที่ของรัฐโดยตรงที่จะต้องรับผิดชอบอยู่แล้วครับ แต่ยอมรับว่าประเทศเรายังอีกไกลที่จะมีระบบประกันสุขภาพที่ใช้งานได้ดีจริงๆ จากคุณ : สายน้ำฟ้า - [ 19 เม.ย. 47 20:37:03 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เห็นด้วย เฉพาะกับบุคคลที่ทำอะไรไม่ได้แล้ว ขยับเขยื้อนตัวไม่ได้ นอนเป็นหุ่น แต่ยังมีสติตัดสินใจอะไรได้ เช่น ให้กระพริบตาถี่ ๆ หมายความว่าใช่ หลับตาไปเลย หมายความว่าไม่ใช่ (กรณีที่ต้องได้รับคำยินยอมในการฆ่าตัวตายอย่างถูกกฎหมาย เพราะแน่นอน คนไม่มีสติ ย่อมให้ความยินยอมไม่ได้) แต่สำหรับบุคคลที่พิการทั้งร่างกายและจิตใจ คือร่างกายทำอะไรไม่ได้แล้ว ได้แต่นอนนิ่ง ๆ เฉยๆ แถมจิตใจก็ไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว และแน่นอนถ้าให้ความยินยอมไม่ได้ การฆ่าตัวตายอย่างถูกกฎหมายก็เกิดขึ้นไม่ได้อยู่ดี เพราะเจ้าตัวไม่ยินยอม ถ้ากฎหมายนี้ออกมา ต้องพิจารณาอย่างละเอียดในหลาย ๆ แง่ ในส่วนของการแสดงความจำนงว่าต้องการฆ่าตัวตายอย่างถูกกฎหมาย ก็ต้องมีบุคคลหลาย ๆ คนเป็นพยาน เพื่อทำให้แน่ใจว่า บุคคลนั้นต้องการฆ่าตัวตายเองจริง ๆ มิได้ถูกบังคับ จากคุณ : @วายร้ายนิสัยดี@ - [ 19 เม.ย. 47 20:51:59 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่เห็นด้วย และไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ การออกกฎหมายให้ฆ่าตัวตาย ไม่เหมือนกับ การุณยฆาต ที่ในประเทศออสซี่ยอมให้ผู้ป่วยในขั้นสุดท้าย และใกล้จะเสียชีวิตให้แพทย์ทำให้ตายได้ เพราะกรณีนั้นเค้าอ้างว่า ทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เมื่อถึงที่สุด(คือต้องอาการสุดๆแล้วและต้องตายอย่างแน่นอน)จึงเลือกที่จะทำให้ตัวเองตายด้วยมือแพทย์ ไม่ได้เกิดมาจากพื้นฐานความคิดที่ว่าเค้าเหล่านั้น ถูกทอดทิ้ง หรือไม่อยากมีชีวิตอยู่ เพราะทำให้คนอื่นเดือดร้อน แต่ถ้าคุณอนุญาตให้คนเหล่านั้น(ที่นอกเหนือจากกรณีการุณยฆาต)สามารถฆ่าตัวตายได้ เท่ากับเราแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะปัญหาคนพิการ คนแก่ ที่ถูกทอดทิ้งให้ลำบาก ล้วนเกิดมาจากปัญหา........ "ความรับผิดชอบ" ของญาติพี่น้อง และคนในครอบครัว ที่เกี่ยวข้อง "ความรับผิดชอบ" ของตัวคนที่ฆ่าตัวตาย เช่น คนอกหัก เอ็นท์ไม่ติด ที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อความรักที่พ่อแม่มีให้ อย่างน้อย...คุณก็ทำให้เค้าเกิดมาบนโลกใบนี้ อย่างน้อย....เค้าเลี้ยงคุณมาจนเสวยสุขทุกวันนี้ อย่างน้อย....ชีวิตคุณก็มีความหมายกับคนที่คุณดูแลอยู่ คุณยอมให้คนพวกนี้ฆ่าตัวตาย เท่ากับยอมรับว่าไอ้-อีที่ทิ้งพวกเค้าเหล่านั้น ทำถูกแล้ว กฎหมายมีพื้นฐานมาจากศีลธรรมอันดีและต้องไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย......ถ้ายอมให้คนฆ่าตัวตายอย่างไรก็ได้ มันเป็นการแสดงถึงการขาดศีลธรรมอย่างรุนแรงของสิ่งมีชิวิตที่เรียกว่าคน และไม่สมควรให้มีคำว่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้ต้องรักษา การมีชีวิตอยู่ตามวิถีแห่งห่วงโซ่อาหาร เป็นเรื่องปกติ สิ่งมีชีวิตอื่นมีชีวิตเพราะวัฏจักรนี้ทั้งนั้น ไม่มีสัตว์ชนิดไหนในโลกฆ่าตัวตายหรอก   แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 47 21:06:17 แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 47 21:01:13 จากคุณ : สมเมี้ยว - [ 19 เม.ย. 47 20:56:35 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ตอนเกิดน่ะ เลือกเกิดได้ไหม แล้วตอนตายน่ะ ยังจะเลือกจะตายด้วยเหรอ อยู่อย่างลำบากก็ยังดีนะ ที่เรายังได้มาเกิด เราเห็นว่าการเกิดเป็นเรื่องใหญ่มากนะ ไม่ว่าจะเกิดมาอย่างไร ได้เกิดมาเป็นคนเนี่ยมีบุญมากๆถึงขาจะไม่ครบ หน้าตาไม่สวยอะไรก็ตามแต่เหอะ อยู่อย่างทุกข์นี่ก็เราต้องรับวิบากกรรมกันไปนะ หนีปัญหาโดยชิงตายไป ก็ต้องยกยอดกรรมที่ต้องรับในชาตินี้ไปไว้ชาติหน้าอีก มันรอเราอยู่นะ การตายที่มาจากการเลือก การเลือกที่จะไปตายโดยสมัครใจ คิดเหรอว่าเป็นการตายที่มีคุณภาพ ตายอย่างสงบใจ ตายแล้วจะได้ไปดี ตายด้วยวิธีการเลือกตายเองเนี่ยนะ จากคุณ : RBZ - [ 19 เม.ย. 47 21:20:34 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมมองว่า คนเรามีสิทธิ์ที่จะเลือกที่จะตายได้นะครับ เพราะชีวิตใครชีวิตมัน ส่วนเรื่องคนข้างหลังจะเป็นยังไง ก็เป็นเรื่องของเวรกรรมล่ะครับ ชีวิตต้องต่อสู้ดิ้นรนต่อไป ส่วนเรื่องกฎหมายนี่ น่าจะให้ใช้เฉพาะคนที่เจ็บป่วยทรมาณอย่างมาก เช่นอุบัติเหตุร้ายแรง หรือโรคที่ทำให้ทุกข์ทรมาณ แต่ต้องแน่ใจว่าเป็นความต้องการของคนที่ต้องการเท่านั้น หรือถ้าไม่สามารถรับรู้เรื่องราวต่างๆได้ก็ควรขึ้นกับการตัดสินใจของคู่สามีภรรยาหรือลูกหลานหรือญาติพี่น้องเป็นหลัก และต้องตรวจสอบให้ดีและรัดกุมว่าจะไม่เป็นช่องทางให้คนกระทำผิดได้ ครึ่งต่อครึ่งครับ เพราะมันอาจเป็นช่องทางให้คนใช้หาผลประโยชน์ได้ และผิดต่อความเชื่อทางพุทธอย่างมาก แต่สำหรับผมที่เชื่อในเรื่องเวรกรรม นรกสวรรค์แล้ว มันยังไม่จบครับ ยังต้องตามไปชดใช้กรรมอีกหลายรอบ จากคุณ : redcomet - [ 19 เม.ย. 47 21:55:00 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่เห็นด้วยค่ะ ชีวิตคนเรามีค่านะคะ...... จากคุณ : ::ยัยเหม่เม๋:: - [ 19 เม.ย. 47 22:07:42 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ไม่เห็นด้วย ถ้ากฏหมายตัวนี้ออกมา มันก็จะกลายเป็นกฏหมายที่แสดงความเสื่อมโทรมของสังคมอย่างเด่นชัดแน่ๆ ผมไม่ได้บอกว่า คุณไม่มีสิทธิฆ่าตัวตาย คุณอยากจะทำก็ทำไป โดดน้ำ กินยา หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าจะทำจริงๆ ต้องคิดไว้ด้วย ว่าจะต้องไม่มีคนไปช่วย แล้วก็จะได้ตายสมใจ และไม่มีใครเอาศพคุณมาขังคุกฐานฆ่าคนตายหรอกครับ แต่ถ้าจะให้กฏหมายออกมาโดยสนับสนุนให้แพทย์หรือคนใดๆ ช่วยให้ตายนั้น ไม่ควรมีเด็ดขาด เพราะ แพทย์ คือผู้รักษาช่วยชีวิต ไม่ใช่คนฆ่า และไม่มีใครมีสิทธิ์ไปฆ่า หรือช่วยใครฆ่าใคร เพราะผิดหลักธรรมทุกศาสนา สรุป ไม่ควรมีอย่างยิ่ง เพราะทุกวันนี้มันก็ทำกันเกลื่อนแล้ว จากคุณ : Redrum - [ 19 เม.ย. 47 23:02:35 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่เห็นด้วยครับ จากคุณ : หอยทากติดเทอร์โบ - [ 19 เม.ย. 47 23:24:23 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เคยเรียนในวิชา ethic ครับ เค้าเรียกว่า utanasia(ยูทานาเซีย)ไม่รู้สะกดถูกอ่ะเป่า แต่ผมว่าสำหรับcase ที่คนไข้ที่ทรมานมากๆแล้วอยากตายเนี่ยมันก็น่าคิดน่ะฮ่ะ จากคุณ : ดิวอี้บอย (dueyboy) - [ 19 เม.ย. 47 23:43:49 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เห็นด้วยกับการุณยฆาตที่อนุญาตให้ใช้กับผู้ที่เป็นโรคร้ายแรงระยะสุดท้าย คือไม่สามารถรักษาให้หายได้ และต้องมีชีวิตอยู่อย่างทนทุกข์ทรมาน ในที่นี้หมายถึงว่าเขาต้องการที่จะพ้นทุกข์ด้วยนะคะ ญาติบางคนต้องการ ยื้อชีวิตให้นานที่สุดไม่คิดว่าเค้ากำลังทุกข์ทรมานอยู่ ต้องเจอกับตัวเองแล้วจะรู้ อยากจะเล่าถึงปู่เรา เขานอนตัวเกร็งแขนเกร็งขาเกร็ง ชักกระตุกเป็นพักๆ อยู่ที่ร.พ. หมอบอกว่าช่วยไม่ได้แล้วอยู่ได้เพราะสายออกซิเจนอย่างเดียว แต่ลูกหลานไม่อยากให้ปู่จากไป เลยขอให้หมอยื้อชีวิตให้นานที่สุด ซึ่งก็ทำได้ประมาณ1เดือน เราซึ่งเป็นหลานห่างๆไปเยี่ยมพอเห็นสภาพปู่เราต้องออกมาร้องไห้เลย มันสะเทือนใจ ทำไมต้องให้ปู่มาทรมานด้วยทำไมไม่ปล่อยไปตามกาละเวลา ปู่เค้าถึงเวลาที่จะพ้นทุกข์แล้วจะมายื้อเขาทำไม เราเข้าใจว่าลูกหลานรักอาลัยอาวรณ์ แต่มันเหมือนรักแบบเห็นแก่ตัวมากกว่านะ จากคุณ : ข้าวหลามหนองมน - [ 20 เม.ย. 47 00:23:12 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ไม่มีใครมีสิทธิ์มาตัดสินชีวิตคนอื่นได้ ผมเห็นด้วยครับ จากคุณ : ro[M]eo - [ 20 เม.ย. 47 02:00:29 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ไม่ได้ละเมิดสิทธิใคร ก้อ เห็นด้วยซิครับ ตายตามสบาย ไม่ผิดกฏหมาย จากคุณ : ไม่มีอมยิ้ม - [ 20 เม.ย. 47 03:13:34 A:202.5.82.103 X: ]

ความคิดเห็นที่ 36 แล้วฆ่าตัวตายผิดกฏหมายด้วยเหรอคะ??? ถ้าเค้าตายไปแล้ว จะเอาผิดกะใคร.... ที่คุณถามหมายถึงอย่างคนที่เค้าเป็นภาระแล้วอยากตาย แล้วเราจะยอมให้เค้าตายไหมอ่ะเหรอคะ ถ้าคุณเห็นคนกะลังจะตายต่อหน้าคุณจะช่วยไหมล่ะ หรือจะปล่อยให้เค้าตายไปต่อหน้าต่อตา อยากตายก็ตายไป ก็ดี สบายทั้งสองฝ่าย เราไม่เห็นด้วยนะ อาจจะเพราะศาสนามั้ง ทุกคนเกิดมามีกรรมเป็นของตัวเอง ที่เป็นเช่นนั้นเพราะมีเหตุ การฆ่าตัวตายไม่ใช่จุดจบของปัญหา วิธีแก้ ปัจจุบันก็มีมูลนิธิคอยช่วยอยุ่แล้ว อาจจะไม่พอ ถ้าทุกคนมีโอกาสช่วยก็น่าจะช่วยๆกัน ++++โลกนี้ไม่มีใคร ไม่เคยเจอความทุกข์หรอก+++ จากคุณ : มะนาว^___^ - [ 20 เม.ย. 47 03:38:49 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ไม่เห็นต้องให้กฎหมายอนุญาตเลย จากคุณ : ชมทะเล - [ 20 เม.ย. 47 04:11:27 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ก่อนอื่นเมืองไทยไม่มีกฎหมายห้ามฆ่าตัวตายนะคะ ถ้าออกมาจริงคงพิลึกน่าดู เพราะคนตายไปแล้วเอาผิดก็ไม่ได้ แล้วถ้าพยายามแล้วแต่ไม่ตายแล้วกฎหมายดันไปเอาผิดเขาอีกก็เท่ากับสร้างแรงจูงใจให้คนที่อยากตายทำยังไงก็ได้ให้ตายได้สำเร็จ แทนที่จะส่งผลในทางตรงข้าม ที่เจ้าของกระทู้พูดถึงจริงๆแล้วหมายถึงการให้ความช่วยเหลือในการฆ่าตัวตายละมั้งคะ อย่างที่บางกระทู้ข้างบนบอกแล้วว่านี่เป็นเรื่องของการุณยฆาต (euthanasia) เพราะเอาเข้าจริงคนที่ลงมือน่ะไม่ใช่คนที่อยากตาย แต่กลับเป็นหมอหรือคนอื่นแทน เรื่องนี้เถียงยังไงก็ไม่จบหรอกค่ะ เหมือนเรื่องทำแท้งน่ะแหละเพราะมันขัดกันระหว่างความเชื่อทางศาสนากับความต้องการส่วนบุคคล แล้วก็เรื่องความยากง่ายในทางปฏิบัติด้วย การทำการุณยฆาตนะคะ ถ้าไม่เอาเรื่องความเชื่อทางศาสนามาปน โดยทฎษฎีแล้ว หากเป็นกรณีที่ผู้ป่วยบาดเจ็บใกล้ตาย ทำยังไงก็ไม่รอดแล้วและได้รับความทุกข์ทรมานมาก รวมทั้งกรณีชัดเจนว่าเจ้าตัวยินยอม ไม่มีปัญหาหรือข้อสงสัยใดๆทั้งสิ้น การอนุญาตให้ตายได้ย่อมไม่ต่างอะไรนักกับการปล่อยให้ผู้ป่วยตายโดยธรรมชาติในอนาคตอันใกล้ เพราะยังไงก็ต้องตายอยู่แล้ว การให้ตายไปก่อนย่อมเป็นการระงับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานของผู้ป่วย เป็นการให้ความเคารพการตัดสินใจของเขา เพราะเราเองคงไม่รู้ดีไปกว่าตัวคนป่วยว่าอะไรดีที่สุดสำหรับเขา... แต่ว่า ในความเป็นจริง จะให้ทุกอย่างลงล็อคเข้าตามสมมติฐานเบื้องต้นคงเป็นไปได้ยากมากๆ การอนุญาตให้ทำการุณยฆาตมีความเสี่ยงหลายอย่างค่ะ ข้อแรก ถ้าคนไข้แกไม่ได้สติ จะรู้ได้อย่างไรว่าแกยินยอมจริง ถึงแม้จะเขียนหนังสือเอาไว้เสียดิบดีล่วงหน้าแล้วก็เถอะ ก็ยังฟังไม่ได้เต็มที่นักว่ายินยอมจริง เพราะคนเราเปลี่ยนใจกันได้บ่อยไปนะคะ เรื่องนี้ไม่ใช่พินัยกรรมนะคะที่ถือเอาฉบับสุดท้ายเลยตามเลย เพราะนี่เกี่ยวกับชีวิตคน ไม่ใช่ทรัพย์สิน จะว่ากันชุ่ยๆไม่ได้ แล้วถึงแม้คนไข้แกได้สติ ให้ความยินยอมจริง จะรู้ได้ยังไงว่าแกสมัครใจ 100% เพราะแกอาจถูกบีบบังคับด้วยเหตุผลต่างๆนานา เช่น ไม่อยากให้ครอบครัวลำบากเรื่องค่ารักษา หรือตายดีกว่า ครอบครัวจะได้เคลมประกันได้ แล้วก็อื่นๆอีกสารพัด พิสูจน์ยากมากค่ะว่าแกเต็มใจตายจริง เพราะบางคนอาจจะไม่อยากตายจริงก็ได้ ข้อถัดมา เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเขาไม่มีทางรักษาหายแล้วถ้าไม่ใกล้ตายจริงๆนะคะ อย่างสมองตายเนี่ยชัดมาก เพราะทางแพทย์ถือว่าตายไปแล้ว แต่ถ้ากรณีไม่ได้ใกล้ตายชัดเจนเช่นนี้จริงๆ มีความเสี่ยงค่ะว่าอาจมีการตรวจรักษากันชุ่ยๆ ยกตัวอย่างกันง่ายๆเลยนะคะ ถ้าเราอนุญาตให้ออกกฎหมายแบบนี้ออกมาได้ คนกลุ่มแรกที่เราจะเห็นตายไปก่อนใครเพื่อนก็คือคนกลุ่มที่สังคมควรให้ความช่วยเหลือเป็นอันดับหนึ่งเลยซึ่งก็คือ คนจน คนแก่ คนพิการ หรือคนอื่นๆที่สังคมรังเกียจอย่างเช่นคนติดเอดส์ ยิ่งใครเข้าทุกประเภทยิ่งได้ลาโลกเร็วกว่าเพื่อน เพราะคนพวกนี้มีความเสี่ยงอยู่ว่าที่ยินยอมตายก็มาจากภาวะความกดดันทางใจว่าชีวิตไม่มีความหมายแล้ว หรือไม่มีปัญญาหาเงินค่ารักษา หมอที่ทำงานชุ่ยๆหน่อยก็อาจมองว่าถ้าจะต้องช่วยชีวิตคนกล่มนี้สู้ไปช่วยคนหนุ่มสาว หรือคนมีตังค์จะดีกว่า คิดกันแบบเห็นแก่ตัวหน่อยก็คงบอกได้ว่าก็ดีน่ะสิ อยู่ไปก็เป็นภาระสังคมเปล่าๆ แต่สังคมเราไม่ได้ตั้งเพื่อสนับสนุนคนที่แข็งแรงที่สุดนะคะ สังคมเราตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือคนอ่อนแอ คนที่เอาตัวรอดตามกฎธรรมชาติที่ว่าปลาใหญ่กินปลาเล็กไม่ได้ เพราะไม่อย่างนั้น เราะจะมารวมตัวกันตั้งสังคมทำล่ะคะ สู้อยู่อย่างคนป่า อยู่แบบสัตว์ป่าไม่ดีกว่าหรือ เพราะสัตว์ป่าอยู่อย่างใครเข้มแข็งก็รอด ใครอ่อนแอก็ตาย ดังนั้นกฎหมายที่ในทางปฏิบัติสนับสนุนการวัดระดับคุณค่าของชีวิตคน แม้โดยทางอ้อมนั้นผิดวัตถุประสงค์ของสังคมอย่างร้ายแรง โดยส่วนตัวแล้วถือว่าในทางทฎษฎีอย่างในเงื่อนไขข้างบนนะคะ การุณยฆาตมีประโยชน์มากกว่าโทษ (ถ้าไม่เอาเรื่องบุญ บาป มาปนนะคะ) แต่ว่า การจะกำหนดกฎเกณฑ์เพื่อป้องกันความผิดพลาดและความเสี่ยงอย่างที่กล่าวมาแล้วยากมากๆ ที่อเมริกาเคยมีคนเสนอว่าก็ให้หมออย่างน้อยสองคนลงนามรับรองถึงอาการคนไข้ว่าไม่หายจริงๆนะ และรับรองว่าคนไข้แสดงความเต็มใจจริงๆอย่างสม่ำเสมอ (แบบว่าต้องหมั่นแสดงน่ะค่ะว่าฉันอยากตายจริงๆนะเออ) ต่อหน้าพยานอย่างน้อยสองคน ภายในระยะเวลาหนึ่ง และความยินยอมนั้นเชื่อถือได้ รวมทั้งลงโทษคนที่ไปขู่เข็ญให้คนไข้อยากตายอีกด้วย แต่ที่เนเธอร์แลนด์ซึ่งอนุญาตกฎหมายคล้ายๆอย่างนี้มานานพอสมควรแล้ว คนก็ยังเถียงกันไม่เลิกว่าจริงๆแล้วไอ้กฎแบบนี้ช่วยป้องกันการุณยฆาตโดยที่คนไข้ไม่ยินยอม (involuntary euthanasia) ได้มากน้อยแค่ไหน จะเห็นได้ว่ากฎที่ออกมาเพื่อป้องกันความผิดพลาด ไม่ว่าจะออกมาแบบไหนก็ล้วนแต่มีขั้นตอนยุ่งยาก แล้วถ้ามีปัญหาก็ต้องขึ้นศาลให้ศาลชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานซี่งก็ใช่ว่าจะง่ายเสียเมื่อไรล่ะคะ ความเสี่ยงเรื่องความผิดพลาดนั้นมีมาก และความเสียหายจากความผิดพลาดก็มากมายไม่อาจคิดเป็นเงินได้เพราะชีวิตคนได้ตายไปแล้วทั้งชีวิต ส่วนตัวเห็นว่าถ้ามีเวลากับงบประมาณมานั่งพิเคราะห์ว่าคนนี้อยากตายจริงหรือไม่ สู้เอาเวลากับเงินไปกระจายความช่วยเหลือด้านการแพทย์ให้เท่าเทียมกันหรือไปสนับสนุนการหาวิธีรักษาโรคร้ายดูจะได้ประโยชน์กว่า ไม่ใช่ว่าไม่เห็นใจคนเจ็บนะคะ แต่ว่าวิเคราะห็ดูแล้วกฎหมายแบบนี้เห็นทีจะปฏิบัติยากเต็มทีที่จะไม่ให้มีความเสี่ยงเลย พูดกันง่ายๆคือเสียมากกว่าได้ค่ะ ถ้าเราไม่มีวิธีการลดความเสี่ยงที่ดีกว่านี้ละก็ ตอนนี้คงต้องตอบเป็นคำตอบสุดท้ายล่ะค่ะว่า "ไม่เห็นด้วย" จากคุณ : misoramen - [ 20 เม.ย. 47 10:29:23 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เห็นด้วยครับ จากคุณ : หมาร่าหมาหรอด - [ 20 เม.ย. 47 10:30:38 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เห็นด้วยนะคะ ชีวิตใคร ชีวิตเค้า เค้าตัดสินเองว่าจะอยู่หรือตาย จากคุณ : บาดใจป้าอย่างแรง - [ 20 เม.ย. 47 12:08:42 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คิดว่าถ้าอยากตายก็น่าจะตายได้ไม่น่าจะต้องยุ่งเกี่ยวกับกฏหมายอะไร ทั้งที่เป็นการตายเพราะความเจ็บป่วย ยากจน เบื่อชีวิต หรือไม่มีอะไรจะทำ ฯลฯ จากคุณ : we suck young blood - [ 20 เม.ย. 47 12:20:43 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ถ้าเราพิการแบบแย่มากๆ เราก็ขอตายดีกว่าน่ะนะ จากคุณ : คนสวย (ทำใจได้) - [ 20 เม.ย. 47 13:49:27 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ถ้าจะถามว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย นั้น ยอมรับว่าตอบยาก เพราะถ้าเป็นเราพิการ ถึงขนาดที่ดูแลตัวเองไม่ได้ต้องพึ่งพาคนอื่นืกเรื่อง มันก็คงไม่ไหวเหมือนกัน ไม่รู้จะอยู่เป็นภาระให้คนอื่นเค้าไปทำไม ==> แต่ถ้าเป็นคนที่เรารักแล้วล่ะก็เราก็คงอยากที่จะดูแลเค้า ถึงแม้ว่าจะต้องดูแลเค้าไปตลอดชีวิตของเราก็ตาม แต่เราก็เต็มใจที่จะทำ แต่ก็อย่างที่คุณเจ้าของกระทู้พูดก็น่าคิดนะ ถ้าเรามีฐานะ เราก็ดูแลเค้าได้ แต่ถ้าขนาดว่ตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเนี่ยมันก็น่าคิดนะ แต่มันคงไม่โชคร้ายอะไรขนาดนั้นมั้ง เพราะเราเองก็ยังไม่มีอะไรที่ต้องรับผิดชอบขนาดนั้นเลยตอบไม่ได้ว่าจะออกความเห็นอย่างไรดี แต่อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิดนะ งั้นขอไม่เห็นด้วยแล้วกันค่ะ เพราะเค้าว่ากันว่าการฆ่าตัวตายนั้นเป็นบาปอย่างมหันต์ จากคุณ : bluesea (thanida) - [ 20 เม.ย. 47 17:14:08 ]

ความคิดเห็นที่ 44 มันอาจจะเกิดการแอบอ้าง...ในการฆ่ากันโดยการถูกกฏหมายกันได้นะครับ น่ากลัวมาก จากคุณ : เฦ้าอยู่ปากทางนรก (kerberos_1) - [ 21 เม.ย. 47 12:55:20 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ชื่นชมหลาย ๆ ความเห็นในที่นี้ครับ ทั้ง 2 ฝั่งเลย ถึงจะตรงข้ามกันที่ vote แต่ล้วนมาจากพื้นฐานจิตใจที่ดีงาม...อืมมม..ปานนั้น : ) ไม่ vote ครับ จะว่าอัน 3 (ไม่มีความเห็น) ก็ไม่ใช่ น่าจะมีข้อ 4 - ไม่สามารถฟันธง อะไรทำนองนี้ จากคุณ : Narcissus - [ 21 เม.ย. 47 23:20:11 ]