ความคิดเห็นที่ 13
ไม่อยากจะอ้างเหตุผลใดๆนะครับ แต่ที่เราเห็นพระเลวๆ ดูหนังโป๊ ,ตุ๋ยเด็ก ,แอบมีอะไรกับสีกา, หากินกับผ้าเหลือง, บ้าคาถาอาคม, เดิน shopping ตามห้าง ฯลฯ
เป็นเพราะว่าความเสื่อมถอยของพุทธศาสนาทีล่ะเล็กล่ะน้อย จากการยอมผ่อนปรนบางเรื่องนี่แหล่ะ ค่อยๆหย่อนมาตั้งแต่โบราณกาล จนเป็นอย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน ........ ทำความดีนั่นมันก็ใช่ครับ แต่มันคนล่ะจุดกัน ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับการบวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่ การปฎิบัติและได้ผลต้องปฎิบัติด้วยตัวเองครับ ... การทำให้พ่อแม่ได้บุญก็คือ ตอนที่เราบวชจะดึงพ่อแม่ให้มาเรียนรู้วิธีปฎิบัติทำให้จิตใจสงบ รู้จักการให้มากขึ้น โดยการที่มาเข้าวัดบ่อยๆช่วงที่ลูกหลานบวชนี่เอง
แก่นของพุทธจริงๆแล้วเป็นปรัชญาที่ให้คนที่ศึกษารู้จักสัจจะธรรมและการมีชีวิตอยู่ครับ ไม่ใช่เรื่องพิธีกรรม, เรื่องมงาย หรือการทดแทนบุญคุณแต่อย่างใด .... การบวชเป็นอุบายอย่างนึงที่ทำให้เราเรียนรู้สิ่งที่ว่ามา และสืบสานพระธรรมรึ "แก่น" ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ต่อไปอย่างถูกต้อง ถ้าหย่อนยานไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นยิ่งกว่าที่ผมกล่าวมาตอนต้น .... อีก 100 ปี คนทั่วไปคงจะบวชแบบใส่แค่ผ้าเหลืองอยู่บ้าน รึใส่ผ้าเหลืองไปทำงานก็พอ.. ด้วยเหตุผลว่าไม่มีเวลาไปที่วัด รึเหตุผลสารพัด... ปกติ "แก่น" ก็เข้าถึงยากอยู่แล้ว ยิ่งไม่มีเปลือกให้เห็นมันก็จะยิ่งจับต้องไม่ได้
ตอนผมบวชก็ยอมรับนะครับว่าไม่ได้เคร่งครัดตามธรรมวินัยโบราณอะไรมาก พยายามทำให้ดีที่สุด ไปบวชอยู่วัดป่าบนเขาทางเหนือ ฉันวันล่ะมื้อ วัดไม่มีไฟฟ้าใช้ ขนาดอยู่แบบนั้นยังไม่วายทำผิดวินัยตั้งมากมาย ตอนแรกคิดว่าจะบวชสัก 15 วัน... แต่การบวชในสภาพที่วัดมีวินัยเคร่งแบบนั้น ทำให้ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆขึ้นมาก จาก 15 วัน เป็น เกือบ 1 ปี ถึงจะสึกออกมา ...
.....ศาสนาพุทธค่อนข้างเปิดกว้างครับ บวชพระไม่ได้ ก็บวชเณรรึชีพราหณ์แทนอย่างที่เขาบอกก็ได้ ที่ธรรมวินัยระบุมาแบบนั้น เพราะว่าสมัยก่อนการบวชพระ เป็นการศึกษาวิธีพ้นทุกข์แบบจริงจังและเคร่งครัดมาก เอาแค่นี้ก็ผิดจากปัจจุบันมากแล้วครับ เดี๋ยวนี้การบวชเป็นแค่พิธีกรรมเท่านั้นเอง ถ้าผ่อนปรนไปมากกว่านี้ให้นึกภาพเอาเองล่ะกัน ....... (แรงไปมั๊ยครับ...ถ้ารู้สึกไม่ดีผมขอโทษด้วยนะ)
จากคุณ :
C h u N g (C h u N g)
- [
23 เม.ย. 47 03:48:06
]
|
|
|