CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    8 ชั่วโมง กับการพยายามเอาโจ้ออกจากห้องขัง(พี่พยายามเต็มที่แล้วนะโจ้)

    แปดโมงเช้าถึงสี่โมงเย็น 8 ชั่งโมงเต็มๆ ที่ผมพยายามเต็มที่จะนำโจ้ออกมาสู่อิสรภาพ

    วันนี้เป็นวันครบ สี่สิบแปดชั่งโมงที่ตำรวจมีสิทธิควบคุมตัวโจ้ไว้ตามกฏหมายและจะต้องนำโจ้ไปศาลเพื่อขออำนาจศาลฝากขัง ผมออกจากบ้านตั้งแต่หกโมงเช้า และที่ไม่ลืมคืนเตรียมเงินติดตัวไป หนึ่งแสนบาท เพื่อเตรียมไว้ประกันโจ้ ในกรณีที่ไม่มีใครมาประกัน

    ประมาณแปดโมงเช้าถึงกองปราบที่ที่โจ้ถูกควบคุมตัวอยู่
    เมื่อติดต่อกับสิบเวรแล้วก็ได้เข้าเยี่ยมโจ้
    "ศรยุทธ ออกมาพบทนาย" เสียงสิบเวรตะโกนเรียก และไม่นานก็มีผู้ชายตัวเล็กผอมสูงไม่เกิน ร้อยหกสิบเซ็นติเมตร ใบหน้าเกลี้ยงเกลา เดินออกมาพบผมด้วยสีหน้าอมทุข์และวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด

    หลังจากที่รับไหว้โจ้และแนะนำตัวกันเพียงเล็กน้อยเราก็เริ่มพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นตลอดสองสาววันที่ผ่านมา
    หลังจากที่เคยพูดคุยกันแต่ทางโทรศัพน์ก่อนที่โจ้จะมอบตัว เสียดายที่ก่อนที่โจ้จะมอบตัวเราไม่ได้พบกันตามที่นัดกันไว้

    ประมาณสิบโมงเช้า ผมได้นำโน๊ตบุ๊คให้โจ้ตั้งกระทู้เพื่อขอบคุณเพื่อนๆชาวพันทิป ที่คอยให้กำลังใจมาตลอดและให้โจ้เซ็นต์ใบแต่งตั้งทนายความ

    11 โมง ตำรวจนำโจ้ไปฝากขังที่ศาลอาญา โดยในคำร้องฝากขัง พ.ต.ต. บุญเลิศ กัลยาณมิตร พนักงานสอบสวนได้คัดค้านประกันตัว เนื่องจาก

    "ผู้ต้องหาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ เกรงว่าจะไปทำลายข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นการยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และพนักงานสอบสวนมีความจำเป็น้องสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อขยายผล รวมถึงชี้นำที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ เพื่อตรวจพิสูจน์ทราบการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ ในการโพสรูปเปลือยกายของผู้กล่าวหา และขออนุญาตนำตัวผู้ต้องหามาควบคุมที่กองปราบ"

    นี่คือเหตุผลที่พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวที่ผมถอดมาจากคำร้องฝากขังทุกคำ

    เมื่อมาถึงศาลแล้วได้พบกับคุณพ่อและคุณแม่ของโจ้และได้ทราบว่าท่านทั้งสองได้เตรียมเงินสดมาเพื่อประกันตัวโจ้ หนึ่งแสนบาท ผมจึงได้พาไปและดำเนินการเขียนคำร้องขอประกันตัวโจ้ และนำไปให้โจ้เซ็นต์ชื่อในคำร้องโดยได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวโจ้ด้วยเงินสดหนึ่งแสนบาท เมื่อเวลาประมาณ 11.55 น

    หลังจากนั้นเมื่อตำรวจฝากขังโจ้เสร็จแล้วและนำตัวกลับมาควบคุมที่กองปราบ ผมและพ่อแม่โจ้ก็ได้ออกเดินทางตามมา หลังจากที่พ่อแม่โจ้ได้ซื้อข้าวและน้ำให้โจ้แล้วก็มีการพูดคุยกันในเรื่องการประกันตัวว่า ศาลจะอนุญาตให้ประกันหรือไม่

    ผมให้ความเห็นไปว่า ในการคัดค้านการประกันตัวของพนักงานสอบสวนตามคำร้องมีเหตุผลที่จำเป็นบางประการ
    อาจเป็นเหตุผลที่จะทำให้ศาลท่านไม่อนุญาตให้ประกันตัวได้ หลังจากนั้นผมก็ได้พูดคุยกับครพ่อของโจ้เรื่องบัญชีเงิฝากที่นำมาโพสว่าใช่ของคุณพ่อจริงหรือไม่ คุณพ่อโจ้บอกว่าจริง

    เมื่อผมทราบแล้วผมได้โทรประสานงานมาที่ PANTIP เพื่อขอให้นำกระทู้ที่พวกเราช่วยกันโอนเงินขึ้นเป็น EVENT เพื่อที่สมาชิกทุกห้องจะได้เห็นและร่วมด้วยช่วยกัน
    ซึ่งต่อมาทางพันทิปก็ได้ดำเนินการให้ตามที่ผมต้องการ ต้องขอขอบคุณ คุณวันฉัตร ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

    หลังจากนั้นเราก็ได้กลับมาที่ศาลอีกครั้ง เพื่อมารอฟังคำสั่งศาลในเรื่องการประกันตัว โดยให้คุณพ่อและคุณแม่โจ้เดินทางไปก่อน ส่วนผมแวะไปเอาโทรศัพน์มือถือที่ส่งซ่อมไว้ที่ โซนี่อีริคสัน ซอยพหล 19

    ขณะที่อยู่ที่สำนักงานโซนี่ คุณพ่อโจ้โทรมาบอกว่า ศาลสั่งให้ประกันแล้ว แต่ต้องเพิ่มวงเงินเป็น สามแสนบาท
    หลังจากนั้นผมก็ได้โทรศัพน์แจ้งคุณวันฉัตร เรื่องเงินประกัน โดยผมบอกว่าศาลต้องการวงเงินประกัน สามแสนบาท พ่อโจ้เตรียมมาหนึ่งแสน ผมมีอีกหนึ่งแสน ยังขาดอีกหนึ่งแสน คุณวันฉัตร แสดงเจตนาช่วยเหลือโดยยินดีจะออหให้อีกหนึ่งแสนเพื่อจะประกันตัวโจ้ให้ออกมาภายในวันนี้ให้ได้ ขณะนั้นเวลาประมาณ บ่ายสองโมงครึ่ง

    เมื่อผมเดินทางมาถึงศาลและขอดูคำสั่งศาลปรากฏว่าศาลสั่งว่า "ให้เพิ่มหลักประกันเป็นสามแสนบาท จึงจะพิจารณาสั่งคำร้อง"
    อ้าว ถ้าอย่างนี้ก็ไม่ใช่ที่อย่างที่ผมบอกคนอื่นไปละซิ อย่างนี้แสดงว่าศาลท่านยังไม่ได้สั่งเลยว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ต้องยื่นหลักทรัพย์เข้าไปใหม่ให้ครบสามแสนบาท ศาลถึงจะสั่งว่าจะให้ประกันหรือไม่

    ผมบอกคุณพ่อโจ้ว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวผมจัดการเอง คุณพ่อโจ้ยื่นเงินหนึ่งแสนบาทให้กับผมเพื่อสมทบเพื่อยื่นประกันอีกครั้ง ผมบอกว่าไม่เป็นไร ให้เก็บไว้เถอะ( เพราะคุณพ่อโจ้บอกว่าไม่ใช่เงินของคุณพ่อเองหยิบยืมญาติพี่น้องมา)

    หลังจากนั้นผมก็ได้โทรศัพน์ติดต่อนายประกันอาชีพเพื่อให้มาดำเนินการให้ หลังจากที่มีการเขียนคำร้องใหม่อีกครั้งและจัดเตรียมเอสารเพื่อยื่นเรื่องขอประกันตัวอีกครั้ง
    ประมาณ บ่ายสามโมงสี่สิบห้านาที เจ้าหน้าที่แจ้งว่าหมดเวลายื่นแล้ว ต้องรอยื่นพรุ่งนี้เช้า

    ผมก็เลยแจ้งคุณพ่อโจ้ว่า ไม่เป็นไร พรุ่งนี้เช้าผมจะมาจัดการให้เรียบร้อย  คุณพ่อไปรอรับโจ้กลับบ้านที่กองปราบก็แล้วกัน หลังจากนั้นผมก็ได้ลากลับเมื่อประมาณ่ายสี่โมงเย็น

    ขณะขับรถกลับบ้าน คุณพ่อโจ้โทรศัพน์มาหาบอกว่า พนักงานสอบสวนขอว่า พรุ่งนี้อย่าเพิ่งยื่นประกันตัวเลย ขอเวลาอีกสักสองวัน วันพุธจะนำตัวไปส่งศาลและจะไม่คัดค้านการประกันตัว โดยถามความเห็นของผมว่า จะเอาอย่างไร

    เมื่อผมมาวิเคราะห์ดูแล้ว ถ้าพนักงานสอบสวนทำตามที่พูดไว้มันก็น่าจะเป็นผลดีกับโจ้เพราะถ้าเรายื่นประกันพรุ่งนี้ ในขณะที่พนักงานสอบสวนยังคัดค้านการประกันตัวอยู่ โอกาสที่ศาลจะไม่ให้ประกันก็มีอยู่สูง แต่ถ้าพนักงานสอบสวนนำตัวโจ้ส่งคืนศาลในวันพุธ และแถลงศาลว่าได้ดำเนินการต่างๆเสร็จสิ้นแล้วและไม่คัดค้านการประกันตัว ก็จะทำการยื่นขอประกันตัวโจ้ในวันพุธ น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
    ผมก็เลยตกลงและโทรบอกนายประกันว่าเปลี่ยนเป็นวันพุธแทน ซึ่งนายประกันก็ตกลง

    ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด วันพุธนี้ โจ้น่าจะได้รับอิสรภาพครับ
    และในขณะนี้มีสัณญาณดีๆ บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นที่จะบอกว่าคดีนี้น่าจะจบแบบแฮปปี้ ครับ

    ผมขอโทษทุกท่านครับที่ไม่สามารถนำโจ้ออกมาจากห้องขังได้

    ผมพยายามเต็มที่แล้วครับ

    จากคุณ : ใช่แล้ว.....ผมเองครับ - [ 5 ก.ค. 47 22:43:18 ]