CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ถึงลูกถึงคน : ประเด็นห้ามสตรีเข้าในเขตพระธาตุ

    ขอคัดลอกข้อความจากกระทู้ในห้องสมุด

    http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K2898735/K2898735.html#56

    เรื่องแบบนี้คนเหนือเขาถือกันมานานแสนนานแล้ว.....

    ยกตัวอย่าง เช่น.....เรื่องราวของ เจ้าแม่จามเทวี และขุนหลวงวิลังก๊ะ.....
    เจ้าแม่จามเทวี เป็นเจ้าเมืองหริภุณชัย...หรือเมืองลำพูนในปัจจุบัน.....
    ส่วนขุนหลวงวิลังก๊ะ เป็นหัวหน้าเผ่า ลั๊วะ เป็นเผ่าป่าเถื่อน แบบ พวกบาวาเรี่ยน มองโกล อาศัยอยู่แถมดอยปุย.....

    เจ้าแม่จามเทวี เป็นหญิงที่งามมากกกกกกกกกกกกกกก.....
    เมื่อขุนหลวงท่านเห็นโฉมของเจ้าแม่ จึงเกิดจิตพิศวาสใคร่อยากได้มาร่วมหอ......

    แต่เจ้าแม่มิยินยอมด้วย....เนื่องจากเผ่าลัวะ เป็นเผ่าป่าเถือ่น....และพระองค์ต้องดูและเมืองหริภูญชัยเป็นหน้าที่อยู่แล้ว.....

    ดังนั้นเมื่อขุนหลวงยกทัพมา จะมาชิงตัวเจ้าแม่.....ซึ่งเมืองหริภุณชัยในขณะนั้นยังไม่พร้อมที่จะรบด้วย.....
    เจ้าแม่จึงออกอุบายว่า.....หากอยากได้ตนเป็นคู่ครอง.....ต้องแสดงถึงพละกำลังเสียก่อน....
    ด้วยการ ซัดหอกจากยอดดอยปุยให้ข้ามไปถึงเมืองหริภุญชัยให้ได้......

    ขุนหลวงรับคำท้าและลองไปฝึกซ้อมดู.....
    ปรากฏว่า เพียงแค่ใช้พละกำลังแค่ครึ่งเดียว......
    ก็สามารถซัดไปได้เกือบถึงปากประตูเมืองแล้ว.....
    สร้างความหวั่นใจให้เจ้าแม่ยิ่ง.....(พระเจ้า.....อะไรจะแรงมหาศาลแบบนั้น.....โอวววว)

    แต่เจ้าแม่เป็นสตรีที่มีสติปัญญาเป็นเลิศ....ยากจะหาหญิงใดเหมือน.....
    จึงได้ออกอุบายที่จะทำให้ขุนหลวงไม่สามารถซัดหอกมาถึงในวังหริภุณชัยได้......
    ด้วยการนำของ 3 สิ่ง ไปมอบให้ขุนหลวงดังต่อไปนี้.....

    1. หมวก ผ้าฝ้าย.....(ที่ผ้าชั้นในของหมวกทำมาจากตีนซิ่นที่เปื้อนเลือดประจำเดือนของตน)

    2. ผ้าซับเหงื่อ.....(ที่แอบเย็บ ขนล่านสีดำของพระองค์ตรงนั้นนั่นแหละ ไว้ที่ขอบผ้า)

    3. หมากเมี่ยง.....(ที่มีส่วนผสมของข้าวแช่เปรี้ยวๆ ที่พระองค์ แอบหมักไว้ในตรงช่องนั้นของพระองค์ 1 คืน)

    เมื่อขุนหลวงเห็นของกำนัลจากเมืองหริภุณชัย ก็คิดว่า เจ้าแม่เริ่มมีใจให้ตน.....
    ดังนั้น เมื่อถึงวันจริง ขุนหลวงจึงสวมหมวกใบนั้น ใช้ผ้าซับเหงื่อผืนนั้น และเคี้ยวหมากเมี่ยงไปด้วย......

    ประกฏว่า เมื่อถึงเวลาซัดหอก......
    ขุนหลวงวัดไปได้ไกลสุดแค่ เชิงดอยปุยเท่านั้นเอง.....
    ไม่ว่าซัดอีกกี่ครั้ง ก็มิได้ไกลไปกว่าเดิมมากนัก.....

    สร้างความเสียใจ เสียหน้า แก่ขุนหลวงยิ่งนัก.....
    และเมื่อทราบจากปากของนางกำนัลหริภุณชัยที่เอาของไปถวายให้บอกว่า ของทั้ง 3 สิ่งทำมาจากอะไร.....

    ขุนหลวงจึงเสียใจ ยิ่งกว่าเดิม ไม่นึกว่า เจ้าแม่จะรังเกียจตนถึงเพียงนี้....
    ถึงขั้นเอาของเหล่านั้น มาทำให้ขุนหลวงต้องเสียกำลังวังชา อิทธิฤทธิ์ไปหมด.....
    ขุนหลวงจึงซัดหอกสุดท้ายขึ้นไปบนฟ้า กางแขนแอ่นอกรับหอก จนขาดใจตาย......


    ....จบ.....

    ศิลปะวิทยาการต่างๆ ล้วนมีครูบาอาจารย์ทั้งสิ้น
    ไม่ว่าจะเป็นดนตรี การสู้รบ การแสดง
    ซึ่งถ้าเจอของต่ำเข้าไป ก็จะทำให้เกิดการเสื่อมฤทธิ์
    หรือพุทธานุภาพได้

    ชาวเหนือเข้าใจอย่างนี้ ก็ไม่ปรารถนาให้สตรีที่มีรอบเดือน
    เข้าไปในบริเวณสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

    ตัวสตรีเองก็จะประสบกับความอัปมงคล ทำให้ล้มป่วย
    หรือมีอันเป็นไป

    ด้วยความรักความหวังดีของผู้ใหญ่ คงไม่ต้องการให้
    ลูกหลานสาวต้องประสบกับสิ่งเหล่านี้

    จะถามตรงๆ ว่าอยู่ในช่วงนั้นของผู้หญิงหรือเปล่า
    ก็คงไม่งามนัก คนถามก็ลำบากใจ

    เลยสั่งสอนกันต่อมาว่า ห้ามลูกห้ามหลานเลยดีกว่า
    เป็นที่รู้กัน เอาไว้ให้ผู้ปกครองชี้แจงกันทีหลังเอง

    จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ - [ 5 ก.ค. 47 23:38:31 ]