ต้องขออนุญาตโพสต์อีกสักกระทู้เถิดนะครับ
เพราะถึงเวลานี้ผมรู้สึกเศร้าสลดหดหู่
กับหลายอย่างที่ได้รับรู้.....จนถึงขณะนี้
ผมขอกล่าวไปแบบกลางๆนะครับ โดยไม่เจาะจงเน้นย้ำเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ
ซึ่งหัวข้อธรรมที่ผมกำลังจะพูดถึงนี้ใช้ได้กับทุกเรื่องครับ
-------------------------------
กรรม.....เป็นคำที่มาจากภาษาบาลีว่า "กมฺม" แปลว่า"การกระทำ"ในทางพุทธศาสนา
ซึ่งมีสามประเภท
1. กายกรรม
2. วจีกรรม
3. มโนกรรม
กายกรรม คือกรรมที่เกิดแต่กาย หมายถึง ได้ลงมือกระทำ จะทำสำเร็จหรือไม่ก็ตาม เมื่อได้ลงมือกระทำแล้ว เป็นอันว่าได้กระทำ
วจีกรรม คือกรรมที่เกิดแต่วาจา หมายถึง ผ่านการใช้ภาษา ทั้งคำพูดที่ออกมาจากปาก หรือสื่อสารออกมาโดยวิธีอื่น เช่น เขียนจดหมาย,พิมพ์ฯลฯ
มโนกรรม คือกรรมที่เกิดขึ้นในใจ ความนึกคิด
กรรมทั้งสามนี้ เกิดขึ้นอย่างเดียวก็มี เกิดพร้อมกันสองอย่างก็มี เกิดร่วมกันทั้งสามก็มี
กรรม แบ่งเป็นสองข้าง คือกรรมดี และกรรมไม่ดี,กรรมชั่ว
ในส่วนกรรมดีนั้น เราคงเคยได้ยินกันมานะครับ กับคำสอนที่ว่า "คิดดี พูดดี ทำดี"
อันนี้เป็นที่เข้าใจได้ง่าย คือ คนเรา เมื่อจิตใจสะอาดบริสุทธิ์ มีคุณธรรม คำพูดหรือการใช้ภาษาก็จะออกมาไพเราะ สละสลวย น่าฟัง และก็ทำให้กิริยา การกระทำอะไรต่างๆ เป็นไปด้วยดี สำเร็จได้อย่างราบรื่น
ทีนี้มาดูด้านลบด้านมืดบ้าง....
กรรมที่ไม่ดี จะเกี่ยวข้องกับคำว่า "บาปํ" ซึ่งก็คือภาษาไทยว่า "บาป" นั้นเอง
ใครก็ตามจะมี "บาปกรรม" ก็จะเริ่มต้นที่ "มโนกรรม" ซึ่งอันที่จริงคือ "มโนปาปกมฺมํ" แต่ตัดคำว่า ปาป ตรงกลางออกไป(ตามหลักภาษาบาลี) เหลือแต่ มโนกรรม
คือจิตที่คิดไม่ดี ไม่งาม ไม่ถูกต้อง
ตรงนี้เป็นเรื่องค่อนข้างละเอียดอ่อน และต้องระวัง เพราะเราอาจทำบาปโดยไม่รู้ตัว!
เมื่อบุคคลเกิดมโนบาบกรรมขึ้น ก็จะนำไปสู่บาปกรรมอีกสองอย่างก็คือ วจีกรรม และกายกรรม ที่บางครั้งเกิดอย่างเดียว บางทีก็เกิดพร้อมกัน
ถ้ากรรมนั้นหยุดอยู่ที่มโนกรรม ผลกรรม(หรือ"บาป")ก็มีไม่มาก แต่ถ้าดำเนินมาถึง"วจีกรรม" เช่น มีการใช้คำพูดคำกล่าวอย่างหนึ่งอย่างใด ที่ไปเบียดเบียน ไปย่ำยี ไปทำร้ายผู้อื่นเข้า มโนกรรมและวจีกรรมก็ผนึกกำลังกัน และผลกรรมหรือ"บาป" ก็จะหนักขึ้น
และถ้าดำเนินไปจนถึงขั้นกายกรรม คือนำไปสู่การดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดก็ตามที่ไปเบียดเบียนผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ก็เป็นอันว่ากรรมครบสามประการ ผู้ก่อกรรมนั้น ก็เตรียมรับผลกรรมได้อย่างเต็มที่
ดังนั้น เรื่องใดก็ตามที่ไม่สมควรคิด ก็จงอย่าคิด
ถ้าได้คิดไปแล้ว หักห้ามใจได้ก็จงหักห้าม อย่าได้พูดได้เผยออกมา
และหากแม้นว่าได้พูดได้เผยออกมา ก็ขออย่าได้ลงมือกระทำ.....เพราะถ้าลงมือกระทำ ก็หนีไม่พ้นต้องรับผลกรรมที่ตนเป็นผู้ก่ออย่างเต็มๆ จะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง
ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า
กมฺมุนา วตฺตติ โลโก=สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
จบแล้วครับผม! ขอบคุณที่อ่านครับ
ขอคุณพระทั้งสามจงรักษาคุ้มครองครับ
จากคุณ :
พฤษภเสารี
- [
6 ก.ค. 47 00:51:23
]