PANTIP.COM : A2904289 มีคนฝากมา Post จากเว็ปผู้จัดการ [กระทู้นอกเรื่อง]

มีคนฝากมา Post จากเว็ปผู้จัดการ

มีคนฝากมา Post จากเว็ปผู้จัดการ

ดูรายการถึงลูกถึงคนเหมือนกันเลยอยากออกความเห็น
ก่อนอื่นเรื่องรูปต้องแยกประเภทก่อนนะครับว่ามี
1.รูปตัดต่อคือเจ้าของภาพไม่ได้ถ่ายจริงแต่มีคนไปทำขึ้นมา
2.รูปที่แอบถ่ายเค้าเช่นพวกแอบในห้องลองเสื้อหรือห้องน้ำ
3.รูปที่เค้าไม่ต้องการเผยแพร่ถ่ายเอาไว้ดูเองเช่นวีดีโอที่ไฮโซเค้าถ่ายกับอาจารย์แฟนเค้าแต่มีคนแอบเอามา
4.รูปที่เค้าต้องการโชว์ต่อสาธารณะอยู่แล้วแต่บังเอิญมีเหตุให้ไม่ได้โชว์
ซึ่งถ้าผู้เสียหายโดนกรณีที่1 2 หรือ 3 น่าเห็นใจมากๆ

แต่ผมสงสัยว่าเรื่องนี้จะเป็นประเภทที่4ขอย้ำว่าแค่สงสัยเท่านั้นสาเหตุที่สงสัยมี

1.การที่คุณตั๊กแสดงความเห็นในรายการถึงลูกถึงคนว่ากองเซ็นเซอร์ไม่ยุติธรรมดับเบิ้ลแสตนดาร์ดทีหนังฝรั่งยังโป๊ได้ อันนี้น่าจะให้คุณสรยุทธเอาเทปมาเปิดให้ดูอีกที
2.ถ้าเจตนาปิดหัวนมตั้งแต่แรกจริงทำไมไม่ใช้ผมปลอมต่อปลายลงมาปิดซึ่งง่ายและค่าใช้จ่ายถูกมาก กลับนำไปทำCGซึ่งแพงกว่ามาก
...............ซึ่งถ้าให้คิดถึงเหตุผลก็น่าจะมีเจตนาให้โป๊ถึงขนาดนี้อยู่แล้วแต่ไม่ผ่านเซ็นเซอร์
................จึงจำเป็นต้องทำCGเพื่อเพิ่มผมไม่ให้เห็นหัวนมเพราะค่าใช้จ่ายถูกกว่าจะยกกองไปถ่ายซ่อม

ซึ่งภาพที่โป๊ขนาดนี้อาจอยู่ในหนังเวอร์ชั่นต่างประเทศก็ได้

ส่วนกรณีของคุณโจ้นั้นเท่าที่อ่านจากหนังสือพิมพ์เห็นบอกว่าแกคาดหัวนมแล้วจึงโพสรูปเข้าไป
โดยตั้งกระทู้ว่าเดี๋ยวนี้ต้องถ่ายทำกันถึงขนาดนี้เชียวหรือ

.........ซึ่งถ้าข้อเท็จจริงเป็นแบบนี้แล้วการกระทำของคุณโจ้อาจจะไม่ผิดข้อหาหมิ่นประมาทก็เป็นได้

เรื่องนี้อ่านจากความเห็นที่46นั้นก็ถูกส่วนหนึ่งครับคือรูปนั้นเป็นรูปจริงเรื่องจริง
ผมไม่ใช่นักกฎหมายพอมีความรู้บ้างแบบคนหัวหมอแต่บังเอิญมีพี่ชายเป็นทนายระดับลูกศิษย์กุนซือนายกที่สู้คดีซุกหุ้นวันนี้ก็เลยถามแก
แกว่ายังงี้ครับเรื่งบางเรื่องถึงเป็นเรื่องจริงก็ผิดครับเช่นเราเอาเรื่องของชาวบ้านที่เป็นชู้กันนั้นไปพูดถึงเค้าเป็นชู้กันจริงๆแต่เราก็อาจผิดฐานคดีหมิ่นประมาทได้
....แต่ถ้าคนที่เป็นชู้กันนั้นดันเป็นพระแล้วเป็นเรื่องจริงอันนี้ไม่ผิดเพราะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชนที่จะไม่ต้องหลงทำบุญกับคนที่ไม่ใช่พระ หรือคนนั้นเป็นนักการเมืองเราก็จะได้ไม่เลือกคนที่ไม่มีจริยธรรมครับ

สรุปคือจะไม่หมิ่นประมาทก็ต้องประกอบด้วย 2 กรณีรวมกันคือต้องมีทั้ง 2 กรณีคือ
1.เป็นเรื่องจริง..ซึ่งเรื่องนี้ผมว่าคุณโจ้ผ่านเพราะทุกๆคนก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง
2.เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะซึ่งเรื่องนี้โดยพฤติกรรมแล้วมันก็น่าจะออกเป็นแบบนั้นได้กล่าวคือ

เรามักจะนึกถึงคุณตั๊กในสถานะว่าแกเป็นดารา เท่านั้นลองนึกถึงอีกสถานะภาพของแกซิครับเท่าที่ผมทราบซึ่งอาจจะผิดก็ได้ซึ่งถ้าข้อมูลที่ผมทราบนี้ผิดเรื่องนี้ก็ใช้ไม่ได้

คือถ้าคุณโจ้กับคุณทนายให้การในเรื่องเจตนาว่า

"สถานะภาพของคุณตั๊กนั้นเป็นนักศึกษาและถ้าฟังไม่ผิดยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วย"

ผมว่าการที่เราเอาพฤติกรรมของนักศึกษาที่ทำจริงๆด้วยซึ่งการทำครั้งนี้มันออกจะเป็นอนาจารและไม่เหมาะสมต่อสถานะภาพของนักศึกษามาให้คนช่วยวิจารณ์เพื่อประโยชน์ของสังคมส่วนรวมรวมถึงเพื่อให้กระทรวงวัฒนธรรมผู้บริหารสถานการศึกษาต่างๆที่เกี่ยวข้องมาแก้ไขปัญหานี้นะมันเพื่อส่วนรวมชัดๆเข้าข้อยกเว้นเรื่องหมิ่นประมาทพอดี

.........หรือใครว่านักศึกษามาแก้ผ้าถ่ายรูปถ่ายหนังไม่ใช่ปัญหาที่อาจทำให้สังคมเสื่อมทรามได้ ทีประกวดนางงามโป๊น้อยกว่านี้ยังโวยวายกัน แล้วเมื่อหลายปีก่อนมิสยูลีคที่เป็นนักศึกษาสถาบันแถวคลองประปามาถ่ายหนังสือนูดที่โป๊น้อยกว่านี้ยังแอนตี้จะไม่ให้เค้าจบไม่ให้เค้าร่วมรับปริญญาเลย
...........แล้วต่อไปเด็กที่ชั้นเล็กกว่านี้อาจเป็นเด็กอายุ 15 ชั้นมัธยมมาถ่ายหนังวีซีด๊หาตังค์กันหมดโดยอ้างว่าเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่แล้วจะทำอย่างไรกับสังคมนี้
แต่ถ้าคุณตั๊กไม่เรียนหนังสือแล้วบรรลุนิติภาวะโดยการแต่งงานแล้วเรื่องนี้ก็ใช้ไม่ได้
แต่ถึงแม้จะไม่ได้เรียนหนังสือก็ยังเป็นเยาวชนที่ไม่บรรลุนิติภาวะแล้วผู้ปกครองดูแลอย่างไร

ถามว่าคุณตั๊กเลือกที่จะไม่เล่นอย่างนี้ได้ไหมตอบเลยว่าได้ครับ
ผมว่าใครเป็นนักกฎหมายคุณความเห็นที่ 46 ก็ได้ลองค้นกฎหมายเกี่ยวกับการทำงานของเด็กและเยาวชนดูครับว่าอนุญาตให้ถ่ายหนังหรือทำงานที่เข้าข่ายอนาจารอย่างนี้ไหม

เห็นไหมครับเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม

ผมว่าที่คุณโจ้ต้องทำก็คือรักษาสำนวนให้ออกมารูปนี้นึกถึงคุณตั๊กในฐานะนักศึกษาและเยาวชนครับไม่ใช่ดารา
คนของกระทรวงไอทีบอกว่าคุณตั๊กเค้ามีสิทธิปกป้องตัวเอง
คุณโจ้ก็มีสิทธิที่จะปกป้องสังคมของเราไม่ให้เสื่อมทรามได้
ปกป้องไม่ให้เยาวชนที่เห็นคุณตั๊กเป็นแบบอย่างเห็นแก่เงินหรือวัตถุนิยมทำอะไรก็ได้แม้จะไม่สมกับวัยเพื่อเงินตัวเดียว
...ทั้งๆที่คุณตั๊กปัจจจุบันนั้นมีฐานะแล้วรวยกว่าคุณโจ้อีกสามารถเลือกงานได้ไม่ต้องเห็นแก่เงินขนาดนี้

ประเด็นนี้ผมว่าสำคัญเล่นดีๆผมว่าอัยการอาจไม่สั่งฟ้องด้วยซ้ำขึ้นศาลไปผมว่าศาลจะยกฟ้องเอา

แล้วควรทำไงเมื่อศาลยกฟ้องแจ้งความคุณตั๊กกลับในข้อหา"แจ้งความเท็จให้ผู้อื่นได้รับการดำเนินคดีอาญาซึ่งโทษนั้นไม่เบากว่าหมิ่นประมาทรู้สึกจะมากกว่าด้วย

แล้วตอนนั้นตำรวจต้องคัดค้านการประกันให้ขังในโรงพักเหมือนคุณโจ้นะครับเพราะแกเป็นคนมีฐานะอาจจะใช้เงินจ้างคนไปข่มขู่คุณโจ้ได้

ผมว่าเรื่องที่สังคมต้องตั้งข้อสังเกตุนะครับ
1.คุณระเบียบรัตน์หายไปไหนนี่เด็กนักศึกษามาแสดงหนังอนาจารทั้งๆที่บทประพันธุ์ดั้งเดิมไม่ต้องโป๊ขนาดนี้ไม่ใช่สาระของบทประพันธุ์เลย(เรื่องนี้เป็นความผิดคนเขียนบทกับผู้กำกับ) แต่เงียบ
2.สถาบันการศึกษาที่นักศึกษาคนนี้ไม่ดำเนินการอะไรหรือครับ ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเรียนสถาบันนี้น่าจะคิดให้ดีนะครับว่าควรให้ลูกหลานเรียนที่นี่หรือไม่เพราะทำเหมือนสนับสนุนให้นักศึกษาไปทำอะไรโป๊ๆได้ขอให้มีเงินมาจ่ายหน่วยกิต เดี๋ยวก็ไปเป็นแดนซ์เซอร์หรือถ่ายอัลบัมพิเศษกันหมดหรอก
3.เพื่อนร่วมสถาบันไม่รู้สึกอะไรเลย
4.กระทรวงวัฒนธรรมต้องการให้เด็กทำงานอะไรก็ได้หรือครับแม้งานนั้นจะขั้นต่อวัยและศีลธรรมอันดี

ที่สำคัญต้องนึกว่าเด็กคนนี้เป็นนักศึกษาแม้จะเป็นงานเบื้องหลังก็ไม่ควรจะทำถึงขนาดนี้ถึงการทำงานครั้งนี้จะต่อผมลงมาบังนมอย่างที่ผมว่าไว้ตอนต้น
แค่กระบวนการทำนั้นเป็นการให้คนที่เป็นเยาวชนยังไม่บรรลุนิติภาวะอายุแค่18-19ปี เรียนอยู่ในสถาบันที่มีชื่อเสียงทำผมว่าถ้ามีคนทราบแล้วเอาเรื่องนี้มาเผยแพร่ผมว่าก็ไม่น่าจะผิด
.....เพราะสามารถใช้แสตนอินแทนได้ ถึงแม้เด็กจะสมัครใจทีมงานก็ไม่ควรทำ

เรื่องนี้จริงๆผมอยากโพสใน"พันทิพ"ห้องเฉลิมไทยแต่ผมไม่ได้เป็นสมาชิก

ถ้ามีคนมาอ่านเป็นสมาชิกเฉลิมไทยก็ช่วยก็อปปี้ไปโพสให้หน่อย

และถ้าเป็นไปได้ให้นำประเด็นนี้ไปให้คุณโจ้เพื่อนำไปปรึกษาทนายของเธอ อาจจะเพิ่มแนวทางสู้คดี

เพราะผมไม่ชอบที่คุณตั๊กกับเสี่ยเจียงซึ่งเป็นคนรวยไปรังแกคุณโจ้ซึ่งจนกว่า

ถ้าชนะผมให้ฟ้องกลับทั้งทางอาญาเรื่องแจ้งความเท็จ
และเรียกค่าเสียหายที่ทำให้เราเสียชื่อเสียงอาจจะตกงานเราก็ต้องเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่เหมือนคุณตั้ก

คนหัวหมอ

จากคุณ : DoctorPal - [ 8 ก.ค. 47 10:59:28 ]

ความคิดเห็นที่ 1

จับประเด็นดีมาก

กิกิ

จากคุณ : พูจัง - [ 8 ก.ค. 47 11:11:17 ]

ความคิดเห็นที่ 2

ประเด็นแปลกใหม่ น่าสนใจกว่าหลายๆ กระทู้ในช่วงนี้ครับ

โหวต

จากคุณ : Mi Corazon - [ 8 ก.ค. 47 11:20:35 ]

ความคิดเห็นที่ 3

ฮุ้ยฮา.........ขอบอกว่าเจ๊ถูกจายยยยย เอาไป 1 โหวต เข้นอีเว๊นท์ไปเรยยยย

จากคุณ : niddin - [ 8 ก.ค. 47 11:26:59 ]

ความคิดเห็นที่ 4

"สรุปคือจะไม่หมิ่นประมาทก็ต้องประกอบด้วย 2 กรณีรวมกันคือต้องมีทั้ง 2 กรณีคือ
1.เป็นเรื่องจริง..ซึ่งเรื่องนี้ผมว่าคุณโจ้ผ่านเพราะทุกๆคนก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง
2. public interest
ดีใจมาก ที่ได้อ่านอะไรแบบนี้ค่ะ . ..
เขียนได้ดีมากค่ะ โดยเฉพาะที่แยกออกมาเป็นสององค์ประกอบแบบนี้ เพราะคดีความที่ต่างประเทศเอง บางครั้งที่มีคดีระหว่างดารา กับ นักหนังสือพิม และศาลต้องเลือกระหว่าง right to privacy กับ public interest ...right to privacy ของดาราอาจจะถูกล้มล้างด้วย public interest defence ได้ เพราะฉะนั้น อีกทางหนึ่งที่พี่มือกลองฯ จะใช้เป็นแนวทางในการสู้คดีได้ ก็คือ ต้องแสดง public interest ให้ชัดเจน..แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิธีที่พี่เค้าโพสไปคราวนั้นด้วยนะคะ...

ก็คงจะบอกได้แค่ว่า ขอให้โชคดีนะคะ .. ยังไง ถ้ายอมความกันได้ ก็อาจจะดีที่สุด เรื่องจะได้จบเร็วๆ แล้วคุณแม่ของคุณบงกชเอง ก็มีแนวโน้มว่าจะทำเช่นนั้นอยู่เหมือนกัน ..แต่ก็ยังไม่ออมาชัดเจนนัก
คิดว่า คนส่วนใหญ่คงเริ่มเข้าใจเหตุการณ์จริงๆกันมากขึ้น หลังจากที่ได้ชมรายการฯ เมื่อคืน และอ่านจากทางหนังสือพิมหลายๆฉบับ อย่างน้อย ถ้าคนรอบข้างที่เราแคร์เข้าใจว่าเราเป็นยังไงก็พอแล้วล่ะค่ะ..
สุดท้าย .. ปกติไม่เคยเข้ามาแสดงความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้เท่าไหร่ เพราะไม่รู้ที่มาที่ไปดีพอด้วย อีกอย่างก็ไม่ได้เป็นสมาชิกของที่นี่ แต่ยังไง ก็ขอให้พี่มือกลองฯ โชคดีนะคะ ผิดโดยสุจริต เหมือนท่านนายกฯคราวนั้น ความผิดก็ควรจะ proportionate ตามด้วย ... จะได้ไม่ใช่สองมาตรฐาน

ก็ ขอให้พี่โชคดีค่ะ...

"..ใจเอ๋ยใจ ใจหายใจคว่ำ หายใจยาว ใจดีสู้เสือ.." จำได้ไม๊ค่ะ นี่คือสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานไว้แก่พวกเราเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ..

อ้อ อยากบอกว่า ..เมื่อคืนน่ะ เห็นด้วยกับคำพูดของพี่คนที่หน้าตี๋ๆ มากๆเลยค่ะ พูดได้เป็นกลางดีค่ะ พี่คนอื่นก็ทำได้ดีเหมือนกันค่ะ.. แสดงจุดยืนของคนในนี้ได้ดี..

จากคุณ : เราเอง - [ 8 ก.ค. 47 11:36:55 A:202.57.177.205 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5

อื่ม....น่าคิด

จากคุณ : Muyng - [ 8 ก.ค. 47 11:39:27 A:202.142.192.78 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6

โหวตด้วยค่ะ

จากคุณ : light gin - [ 8 ก.ค. 47 11:47:59 ]

ความคิดเห็นที่ 7

มาโหวตด้วยอีกแรง

จากคุณ : ฮิปโปสีชมพู - [ 8 ก.ค. 47 11:53:23 ]

ความคิดเห็นที่ 8

กระทู้โดนใจค่ะ
ให้ไปเลย 1 โหวต

จากคุณ : ตุ๊กตาไขลาน - [ 8 ก.ค. 47 11:53:26 ]

ความคิดเห็นที่ 9

ดีค่ะ คนที่มองจากข้างนอก จะสามารถมองเห็นประเด็นอื่นๆ ที่คนในอาจจะไม่เห็นเนื่องจากอารมณ์กำลังอิน(เหมือนเรา) เท่าที่รู้คุณต. ไม่ได้เรียนแล้วนี่คะ แต่เรื่องกระทรวงวัฒนธรรมกับเรื่องเยาวชนทำงานเลี้ยงครอบครัวนี่น่าสนใจค่ะ

อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมคุณแม่ต.ไม่ทำงานเลี้ยงลูกคะ ยังไม่แก่เลย

จากคุณ : ban_ri - [ 8 ก.ค. 47 11:54:10 ]

ความคิดเห็นที่ 10

โหวต 1 เสียงครับ

จากคุณ : !Jukkroo - [ 8 ก.ค. 47 11:57:32 ]

ความคิดเห็นที่ 11

เยี่ยมครับ ประเด็นใหม่ น่าสนใจ ไม่เห็นมีคนพูดถึง

จากคุณ : jedi_mj - [ 8 ก.ค. 47 12:02:19 ]

ความคิดเห็นที่ 12

อืมม์ ประเด็นนี้น่าสนใจดีครับ

จากคุณ : น้ำพริกหมูแดง - [ 8 ก.ค. 47 12:13:37 ]

ความคิดเห็นที่ 13

อืมม..ค่ะ

จากคุณ : นางสาวแสนดี..sandy - [ 8 ก.ค. 47 12:14:03 ]

ความคิดเห็นที่ 14

อืม เห็นด้วยนะครับ เมื่อคืนในรายการถึงลูกถึงคน ท่านที่
มาจากกระทรวงICT บอกให้เห็นใจตั๊ก เพราะว่าทำงาน
เลี้ยงแม่ตั้งแต่อายุ 15 ผมฟังแล้วกลับไม่รู้สึกเห็นใจเลย
รู้สึกว่า ตั๊กน่ะมีโอกาสมากว่าหลายๆคน มากกว่าคุณโจ้ด้วย
ซ้ำ ที่สามารถหาเงินได้มหาศาลตั้งแต่ยังวัยรุ่น ภาพนี้มีได้ก็
เพราะตั้งใจจะให้มีอยู่แล้ว น่าเห็นใจคุณโจ้มากกว่า

จากคุณ : คนวงนอก - [ 8 ก.ค. 47 12:29:12 A:161.246.45.30 X:161.246.1.32 ]

ความคิดเห็นที่ 15

ถึงจะไม่ได้เรียนแล้ว public interest ก็ยังเป็นประเภท public morality ได้ อยู่ ดี ค่ะ ..คิดว่า

เพราะถึงยังไม่ได้เรียน ก็ยังเป็นเยาวชน ..
คดีที่เคยใช้ public intetrest อย่างคดีของ แคทธารีน ซีตาร์โจนส์ กับ นิตสารเล่มหนึ่ง นั้น public interest defence อ่อนกว่าในคดีคุณมือกลองซะอีกด้วยค่ะ..
ตอนนั้น right to privacy ของดาราต่างประเทศคู่นี้ก็คือแค่การที่เค้าแต่งงานกันเฉยๆ ส่วน public interest ที่นักข่าวใช้เป็นข้อแก้ตัวก็แค่บอกเหมือนกับว่าอยู่ในความสนใจของประชาชน ในฐานนะที่ไมเคิ้ล กับ แคทธารีน เป็นบุคคลสาธารณะ ..ซึ่งฟังดูอ่อนมากเลยใช่มั๊ยคะ ถ้าเทียบกับกรณีของเราในตอนนี้
เพราะ right to privacy ของดาราหญิงคนนี้ ถือได้ว่ามีผลกระทบทางด้าน ศีลธรรมของสังคม ..ซึ่งสามารถแยกได้ว่าแตกต่างจากการแต่งงานในกรณีแรก ซึ่งไม่มีผลกระทบเสียหายกับสาธารณะเหมือนอย่างกรณีการถ่ายภาพลักษณะนี้ ส่วนตัวแล้ว คิดว่า เมื่อยิ่งเปรียบเทียบกับเคสที่เกิดขึ้นในต่างประเทศเคสนี้ คิดว่า defence of public interest ในเคสของพี่มือกลอง น่าจะยิ่ง strong กว่าเคสนั้นเข้าไปอีกด้วยซ้ำค่ะ ขอโทษนะคะ ถ้าพูดวกวน พยายามแล้วค่ะ..

จากคุณ : เราเอง - [ 8 ก.ค. 47 12:29:17 A:202.57.185.106 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16

ดันๆ อีก1เสียงละกันอิอิ

จากคุณ : ผมหล่อแล้วผิดตรงไหน - [ 8 ก.ค. 47 12:40:57 ]

ความคิดเห็นที่ 17

โหวตให้แล้วค่ะ

"สถานะภาพของคุณตั๊กนั้นเป็นนักศึกษาและถ้าฟังไม่ผิดยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วย"

เรียนถามผู้รู้นิดนึงค่ะ กรณียังไม่บรรลุนิติภาวะ สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้ด้วยตัวเองรึเปล่า หรือว่าต้องให้ผู้ปกครองเป็นผู้ดำเนินการแทน

จากคุณ : แก้มน้อยคอยรัก - [ 8 ก.ค. 47 12:42:12 ]

ความคิดเห็นที่ 18

ยาว และ โดนใจค่ะ

เอาไป 1 โหวต

จากคุณ : ^_^ Rita - Narak ^_^ - [ 8 ก.ค. 47 12:42:49 ]

ความคิดเห็นที่ 19

น่าสนใจ โหวตให้ด้วย

จากคุณ : amonwan - [ 8 ก.ค. 47 12:49:42 ]

ความคิดเห็นที่ 20

น่าสนใจ

แต่ขอเน้นอีกที

คุณระเบียบฯ หายไปไหน กระทรวงวัฒนธรรม หายไปไหน?

ขอโหวตนะครับ

~

จากคุณ : Sirn - [ 8 ก.ค. 47 13:06:50 ]

ความคิดเห็นที่ 21

โหวตให้ตรงไหนรู้ม่ะ

"ตรงคุณระเบียบรัตน์ ไปไหน "

ช่วยโหวต ช่วยโหวต

จากคุณ : เกเร อารมณ์ดี (kayray) - [ 8 ก.ค. 47 13:10:19 ]

ความคิดเห็นที่ 22

ขอยกเอาคำพูดของคุณทนายในกระทู้ก่อน ๆ เพราะอ่านแล้วมีเหตุมีผล เป็นอีกประเด็นนึงเหมือนกัน เผื่อใครยังไม่เคยเห็น -- (และกระทู้นี้ได้ขึ้นหน้าหนึ่ง)

--------------------
ในกรณีของน้องโจ้ที่นำภาพมาโพสในกรณีนี้ ที่ผิดแน่ๆก็คือในเรื่องละเมิด ซื่งเป็นความแพ่ง
แต่จะเป็นหมิ่นประมาทหรือไม่ ก็ต้องมาพิจารณาดูอีกครั้งว่า ภาพนั้น จะทำให้เจ้าของภาพถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชังหรือไม่

อย่าลืมว่าภาพที่โพสเป็นภาพของเจ้าของภาพจริงๆ โดยสามัญสำนึกของผู้ถ่ายก็ย่อมจะรู้อยู่แล้วว่า การภ่ายภาพเช่นนี้จะมีผลกระทบอะไรตามมา

ตลอดเวลาที่น้อง ต. ถ่ายภาพนี้และมีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ น้อง ต. จะออกพูดตลอดเวลาว่า มันเป็นเรื่องของการแสดง มันเป็นภาพศิลป

ดังนั้น การเภยแพร่ภาพศิลป ผืดหมิ่นประมาทหรือครับ

ความเห็นของผมถ้าจะผิดก็แค่ในทางแพ่งในเรื่องละเมิดเท่านั้น ขอบคุณครับ

จากคุณ : ใช่แล้ว.....ผมเองครับ - [ 8 ก.ค. 47 10:39:31 ]

จากคุณ : อันปังแนน - [ 8 ก.ค. 47 13:21:34 ]

ความคิดเห็นที่ 23

สุดยอดคะ การันตี ความคิดเลย นั่นสิคนเรามองแค่สังคมเปลือกนอก มองแค่ตั๊กเป็นดารา โจ้เป็นคนธรรมดาที่ทำให้เธอเสียชื่อ (เพราะเธอออกมาฟ้อง)

เห็นภาพเลยนะคะ ยอดมาก

จากคุณ : Ex-TeRMinaToR - [ 8 ก.ค. 47 13:28:10 ]

ความคิดเห็นที่ 24

เห็นด้วยกับคคห3 เรื่องนักศึกษาแก้ผ้า

แต่ไม่เห็นด้วยเรื่องเจตนาให้เป็นประโยชน์กับสาธารณะ
เพราะคุณโจ้มิได้มีเจตนาเช่นนั้นในตอนโพสท์
เป็นการตีความเข้าข้างมากกว่า

อย่างไรก็ตามคิดว่าไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทเพราะ
1.ไม่ได้เจตนาหมิ่นให้เสื่อมเสีย
2.ภาพเป็นของจริง
3.คุณ ต.ไม่ได้เสื่อมเสียจากรูปที่โพสท์มากไปกว่าที่อื่นๆหรือที่เคยถ่ายๆมา

จากคุณ : เฮ้อ. - [ 8 ก.ค. 47 11:17:11 A:218.90.51.133 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14

แต่ผิดฐานละเมิดเพราะเจ้าของภาพไม่ยินยอม เป็นคดีแพ่ง ไม่ยอมความแล้วจะไปฟ้องเอาอะไรกะคุณโจ้
ได้ไม่คุ้มเสียหรอก

จากคุณ : เฮ้อ. - [ 8 ก.ค. 47 13:40:38 A:218.90.51.133 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25

อย่างที่เราเคยโพสต์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า เราสามารถฟ้องทีมงานถ่ายทำหนังไอ้ฟักได้หรือไม่ ที่ทำให้เยาวชนถ่ายหนังหรือทำงานที่เข้าข่ายอนาจาร........

น่าจะทำเป็นกรณีศึกษานะ

จากคุณ : คนไม่รักดี - [ 8 ก.ค. 47 13:41:52 ]

ความคิดเห็นที่ 26

เยี่ยมครับ ผมไม่ค่อยรู้กฎหมายเรื่องนี้เท่าไรนัก แต่พอที่จะเข้าใจครับ....... สู้ต่อไป

(คนไร้มัลติมีเดีย)
*** Is Me ***

จากคุณ : CyrusAsVirus II - [ 8 ก.ค. 47 13:48:27 ]

ความคิดเห็นที่ 27

ขอเพิ่มอีกนิดนะคะ คือ สนใจในมุมมองที่เป็นกฏหมายแบบนี้น่ะค่ะ มันง่ายกว่าการที่จะพูดในมุมมองของความผิด หรือ ถูก ทางสังคม เนื่องจากบรรทัดฐานทางกฏหมายมันเป็นอันเดียวกัน อยู่ที่ว่าจะหยิบยกอันไหนขึ้นมาใช้ ทางด้านสังคม มันแล้วแต่ความคิด พื้นฐาน และค่านิยมของแต่ละคน ซึ่งมันยากที่จะตัดสินค่านิยมของคนอื่นว่าผิดหรือถูก

ก็ แค่ อยากสนับสนุนให้สิ่งที่คุณเจ้าของกระทู้โพสไว้ ให้ได้ถูกใช้เป็นคำพิพากษาต้นแบบของศาลไทยสำหรับใช้ในกรณีลักษณะเดียวกันนี้ในวันข้างหน้า
เพราะดูจะเป็นทางออกที่ค่อนข้างแฟร์สำหรับสองฝ่าย และก็ balance ระหว่าง right to privacy กับ public interest ได้ดี
คิดว่าศาลน่าจะตัดสิน follow สูตรนี้ ค่ะ
เพราะที่ว่ายุติธรรมทั้งสองฝ่ายก็คือ วิธีนี้ิ จะนำสององค์ประกอบข้างต้นมาพิจารณาพร้อมกัน ในขณะเดียวกัน ผู้เสียหายที่ภาพของตน เป็นภาพที่เข้าข่ายในประเภทที่ 1-3 ก็ยังจะได้รับความยุติธรรมในระดับตามสถานการณ์ของตนไป ซึ่งผู้เสียหายในสามประเภทนี้ ที่อาจจะรวมถึงคนที่ถูกแอบถ่ายแล้วถูกนำมาโพส เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเสียหายจริงๆและต่างจากผู้เสียหายในภาพประเภทที่ 4 ซึ่งอาจจะไ้ด้รับความช่วยเหลือตรงนี้ลดน้อยลงไปตามลำดับ เนื่องจากเป็นสิ่งที่แม้แต่ผู้เสียหายเองก็ยินยอมในระดับหนึ่งให้ภาพออกมาสู่สาธารณะ แม้จะต่างกันเพียงแค่ฟอร์ม คือ ภาพเคลื่อนไหว หรือ ภาพนิ่ง
แนวคิดนี้ ถือได้ว่าเป็นแนวทางในอุดมคติ ที่ศาลควรจะตาม เวลาตัดสินคดีลักษณะนี้ เพราะกรณีต่างๆควรแยกเป็นประเภทก่อน ไม่ใช่ one size fits all ...

หลังจากพิจารณาขั้นแรกแล้ว ก็ต่อมาด้วยขั้นที่สอง ว่าองค์ประกอบต่อไป ที่แยกเป็น หนึ่ง กับ สอง ที่ว่า เป็นภาพจริง และ มีประโยชน์ต่อสารธารณะชน (pubic interest=public morality) ผ่านสองข้อนี้หรือเปล่า..

วิธีนี้ จะเป็นการนำสองสิ่งมาชั่งน้ำหนักกัน ดีกว่ามุ่งที่จะดูจากหมิ่นประมาทอย่างเดียวซึ่งไม่ยุติธรรมต่อคนโพส หรือแม้แต่ไม่ยุติธรรมต่อสังคม่โดยรวม ถุ้าจะปกป้อง right to privacy ของคนคนหนึ่ง แต่มีผลเสียกับ ศีลธรรมของสังคมโดยรวม /หรือในทางกลับกัน ถ้ามุ่งประโยชน์สาธารณะชนอย่างเดียว ก็จะไม่ยุติธรรมกับผู้เสียหายซึ่งก็มีสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ควรได้รับการปกป้องเช่นกัน การที่เรานำสองสิ่งมาพิจารณาช่างน้ำหนักพร้อมกันจึงนับได้ว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด ว่า ความจำเป็นทางpublic interest จะมีน้ำหนักพอที่จะหักล้าง ความจำเป็น ในการปกป้องสิทธิส่วนบุคคลตรงนั้นได้หรือไม่ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว ตรงนี้ เห็นว่าน่าจะได้ สำหรับกรณีคุณมือกลองฯ นะคะ

วิธีนี้จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง และเป็นโครงสร้างที่ศาลควรจะรับไว้เป็นบรรทัดฐานในการพิจารณาในกรณีเช่นนี้
หัวใจที่สำคัญคือ หนึ่ง แยกประเภทของภาพก่อน สอง พิจารณา ช่างน้ำหนัก ระหว่าง right to privacy กับ public interest

ชอบความคิดของคุณ คนหัวหมอ มากๆค่ะ
แต่ถ้าให้พูดในฐานะคนทั่วไปที่ไม่มีวิญญาณของนักกฏหมายอย่างทนายความ ก็คงจะต้องบอกตรงๆว่าชอบประณีประนอมมากกว่าค่ะ เพราะอยากให้ปัญหามันจบเร็วๆ สงสารคนที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และคนที่ควรจะโดนลงโทษจิงๆคือคนที่ละเมิดข้อตกลงของคุณตั๊กในสัญญาการจ้างงาน แล้วนำรูปออกมา เพื่อหวังผลทางการค้า ..คุณตั๊ก จะผิดถูก มันก็เป็นเรื่องที่ถกเุถียงกันอีกทีทางสังคม แต่คนที่ทำภาพนิ่งนั้นขึ้นมาและเอาออกมาข้างนอกนั้น ผิดเต็มๆไม่ว่าทางศิลธรรม หรือกฏหมาย..

แต่สิ่งหนึ่งที่อยากให้เกิดขึ้นจากกรณีนี้ก็คือ บรรทัดฐานที่ยุติธรรมและได้มาตรฐาน ที่ศาลจะสามารถนำไปใช้ในคดีในลักษณะนี้ที่จะัเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตค่ะ ถ้าท่านผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในศาล ได้เข้ามาอ่านตรงนี้ ก็อยากให้นำไปพิจารณาด้วยนะคะ

ท้ายอีกที ขอบอกว่า ชื่นชมแนวทางการคิดของคุณคนหัวหมอมากๆ มีขัั้้้นตอนที่ดี ถือได้ว่าใช้เป็นแม่แบบให้ศาลตามได้เลยก็ว่าได้ หวังว่าคงจะได้นำสิ่งดีๆมาแลกเปลี่ยนให้เราได้อ่านกันอีกนะคะ ขอบคุณค่ะ

จากคุณ : เราเอง - [ 8 ก.ค. 47 14:04:51 A:202.57.180.18 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28

ยาวอะหยังปะล้ำปะเหลือ

จากคุณ : คนนี้ติงต๊อง>> (เชรุมิซัง) - [ 8 ก.ค. 47 14:21:48 ]

ความคิดเห็นที่ 29

คนของกระทรวงไอทีบอกว่าคุณตั๊กเค้ามีสิทธิปกป้องตัวเอง
คุณโจ้ก็มีสิทธิที่จะปกป้องสังคมของเราไม่ให้เสื่อมทรามได้
ปกป้องไม่ให้เยาวชนที่เห็นคุณตั๊กเป็นแบบอย่างเห็นแก่เงินหรือวัตถุนิยมทำอะไรก็ได้แม้จะไม่สมกับวัยเพื่อเงินตัวเดียว
----> โอ้ เจ็บมาก คนที่พูดและเรียบเรียงนี่มีมุมมอง ความคิดที่น่าทึ่งทีเดียว (ไม่ได้หมายถึงกรณีว่าตั๊กนะ แต่หมายถึงองค์รวมๆ)
แต่จริงๆแล้ว คุณตั๊กเขาใช้แสตนอินไม่ใช่หรือ กับฉากแบบนั้น? หรือไงคะ

จากคุณ : Fruit_tea - [ 8 ก.ค. 47 15:14:10 ]

ความคิดเห็นที่ 30

ขอบคุณจริงๆค่ะ เป็นมุมมองที่ไม่ได้คิดเลย

จากคุณ : ครีมชีส - [ 8 ก.ค. 47 16:16:52 ]

ความคิดเห็นที่ 31

strong case ตรงไหนครับ
ในเมื่อรูปมันไม่ได้โชว์หัว

น้องเขาเอามาปิดแล้ว.....

ต้องดูที่ หลักฐานด้วยสิครับ

จากคุณ : ชาวบ้านทำมะดา - [ 8 ก.ค. 47 16:59:50 A:203.170.245.50 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32

เออ ถ้าภาพมันเปิดหมดล่ะ ก็เสร็จ
ผมว่า หลงประเด็นไปหรือเปล่า....

จากคุณ : ชาวบ้านทำมะดา - [ 8 ก.ค. 47 17:02:56 A:203.170.245.50 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33

ก็ไม่มีอะไรจะเสียนะ ถ้าจะลองดู เวลามีคดีจริงๆ เราก็ต้องลองให้หมดทุกทาง ที่พอจะเป็นประโยชน์กับตัวเรา แต่ก็ไำม่ค่อยเห็นด้วยในเรื่องฟ้องกลับน่ะค่ะ แล้วยังไงก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการนำเสนอของพี่มือกลองฯเค้าด้วย

ก็อย่างที่บอกน่ะค่ะ ถ้าพูดถึงในแง่ ใช้เป็นแนวทางสำหรับการพิจารณาคดี ก็คิดว่าใช้ได้เลย แต่กับเคสเฉพาะเคสนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับหลักฐานต่างๆอีกด้วย

ไงๆ ถ้ายอมความกันได้ ก็จะดีที่สุด

จากคุณ : เราเอง - [ 8 ก.ค. 47 18:18:44 A:202.57.184.42 X: ]

ความคิดเห็นที่ 34

อืมม...ที่โพสต์มาน่าคิด

จากคุณ : น้องแหนมเนือง - [ 10 ก.ค. 47 02:08:34 ]

ความคิดเห็นที่ 35

ไอ้ ฟัก

จากคุณ : zmakqo10 - [ 11 ก.ค. 47 17:47:08 ]

ความคิดเห็นที่ 36

ยอมความกันแล้วจบดีกว่าครับผม

จากคุณ : พฤษภเสารี - [ 11 ก.ค. 47 18:01:07 ]

ความคิดเห็นที่ 37

โดนมากๆเลย โหวตๆๆ

จากคุณ : toffee_ti - [ 11 ก.ค. 47 18:01:58 ]

ความคิดเห็นที่ 38

ยาวจัง เกือยอ่านไม่จบ

จากคุณ : ทามะจัง - [ 11 ก.ค. 47 18:19:01 ]

ความคิดเห็นที่ 39

อืม..........

จากคุณ : superying - [ 11 ก.ค. 47 19:27:40 ]

ความคิดเห็นที่ 40

คุณระเบียบรัตน์ ขึ้นเชียงใหม่ ค่ะ เด๋วก็ลง
แกก็เสียใจค่ะ เรื่องของแกน่ะ

จากคุณ : สะดุ้ง*-*คุง - [ 11 ก.ค. 47 20:06:54 ]

ความคิดเห็นที่ 41

กระผมเห็นด้วยกับข้อความข้างบนและท่านเราเองเพราะไม่งั้นสังคมบนเนทอาจจะปั่นป่วนถ้ามีการแจ้งละเมิดและชนะโดยดูแค่ที่สิทธิส่วนบุคคลอาจเป็นบรรทัดฐานแต่เพียงด้านเดียว ซึ่งอาจจะมีการแจ้งละเมิดกันไปทั่วสงสารเจ้าหน้าที่อาจจะไม่ต้องทำงานอื่นอันนี้เป็นข้อสงสัยตั้งแต่ต้นโดยไม่มีความรู้ทางกฎหมายนะขอรับกระผม ส่วนในกรณีเพื่อต้องการให้เป็นคดีตัวอย่างควรใช้กรณีที่เข้าองค์ประกอบของรูป1,2,3,ขอรับกระผมซึ่งกระผมว่าคงไม่มีปรากฎการ์ณนี้ขึ้นที่มีแต่ผู้เสียหายขอรับกระผม

จากคุณ : ให้กำลังใจ - [ 11 ก.ค. 47 20:15:44 A:210.86.188.7 X: ]

ความคิดเห็นที่ 42

น่าสนใจดีครับ.........

จากคุณ : ผมร้อยตำรวจเอกสมชายปลอมตัวมา - [ 11 ก.ค. 47 20:37:39 ]

ความคิดเห็นที่ 43

เรื่องไปถึงไหนแล้วเนี่ย

จากคุณ : นายภูติ - [ 11 ก.ค. 47 20:51:00 ]

ความคิดเห็นที่ 44

เพราะคุฯระเบียบรัตน์แกต้องแก้ปัญหาของตัวเองให้ได้ก่อนค่ะ
เลยไม่มีเวลามาโวยเรื่องนี้

จากคุณ : pHH - [ 11 ก.ค. 47 21:42:22 ]

ความคิดเห็นที่ 45

เห็นด้วยฮะ f_thailand ... เอาไปอีกหนึ่งโหวตครับ

จากคุณ : -=.Gay-E-Cha.=- - [ 11 ก.ค. 47 22:33:38 ]

ความคิดเห็นที่ 46

ให้อีก 1 โหวตเลยคร้าบ

จากคุณ : esdgr - [ 11 ก.ค. 47 23:41:49 ]

ความคิดเห็นที่ 47

อ่านแล้วคิดดีจริงๆ เอาไปหนึ่งโหวตเร้ยยย

จากคุณ : โลกเบี้ยว - [ 11 ก.ค. 47 23:52:22 ]

ความคิดเห็นที่ 48

เป็นประเด็นที่น่าสนใจครับ

ส่วนเรื่องการฟ้องกลับรึไม่นั้นต้องให้คุณโจ้ ตัดสินใจเอาเอง

คนอยากให้ฟ้องกลับนะมีเยอะ แต่คนทำจริง ๆ จะมีกี่คนเอง และเรื่องทุนทรัพย์ในช่วงสู้คดีอีก
งานนี้เอาจริง ๆ "คนทำ"จะเหนื่อย แบบสุด ๆ "คนอยากให้ทำ"ก็แค่คอยดูเกมส์ + นั่งเชียร์
แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 47 01:19:15

จากคุณ : ท.ทหารหัวแตก - [ 12 ก.ค. 47 01:18:39 ]

ความคิดเห็นที่ 49

เยี่ยมครับ

จากคุณ : cat's tail (Cat's tail) - [ 12 ก.ค. 47 01:27:31 ]

ความคิดเห็นที่ 50

1 vote

จากคุณ : กวางโย่ง&ManU - [ 12 ก.ค. 47 01:30:31 ]

ความคิดเห็นที่ 51

ดีครับถ้ากล้านะ

จากคุณ : คลิ๊กขวา - [ 12 ก.ค. 47 08:13:32 ]

ความคิดเห็นที่ 52

โหวตให้ค่ะ

จากคุณ : varada - [ 12 ก.ค. 47 10:15:22 ]

ความคิดเห็นที่ 53

เห็นใจ คุณโจ จริงๆ

ติดคุกฟรีๆๆ หรือเปล่า น้า

�� (_\_)(_|_)(_/_) ��

จากคุณ : (ไม่)ชอบๆจริงๆ - [ 12 ก.ค. 47 10:25:47 A:203.113.35.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 54

คุณระเบียบรัตน์ก้อกำลังแย่อยู่อ่ะน่ะ

จากคุณ : นายคล้าว - [ 12 ก.ค. 47 10:56:03 ]

ความคิดเห็นที่ 55

ก็สงสัยอยู่เหมือนกัน ตั๊กเนี่ย

จากคุณ : ranmachan - [ 12 ก.ค. 47 11:15:03 ]

ความคิดเห็นที่ 56

เยี่ยม...

หึหึ "เยาวชน"

จากคุณ : จิ้งจกเหินลม - [ 12 ก.ค. 47 11:18:24 ]

ความคิดเห็นที่ 57

เป็นประเด็นที่น่าคิดจริงๆ ค่ะ (แต่เราไม่เคยคิดถึง)
ส่วนที่เราเห็นด้วยมากๆ ของคุณ เราเอง ในความเห็นที่ 27 ค่ะ
"แต่ถ้าให้พูดในฐานะคนทั่วไปที่ไม่มีวิญญาณของนักกฏหมายอย่างทนายความ ก็คงจะต้องบอกตรงๆว่าชอบประณีประนอมมากกว่าค่ะ เพราะอยากให้ปัญหามันจบเร็วๆ สงสารคนที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และคนที่ควรจะโดนลงโทษจิงๆคือคนที่ละเมิดข้อตกลงของคุณตั๊กในสัญญาการจ้างงาน แล้วนำรูปออกมา เพื่อหวังผลทางการค้า ..คุณตั๊ก จะผิดถูก มันก็เป็นเรื่องที่ถกเุถียงกันอีกทีทางสังคม แต่คนที่ทำภาพนิ่งนั้นขึ้นมาและเอาออกมาข้างนอกนั้น ผิดเต็มๆไม่ว่าทางศิลธรรม หรือกฏหมาย.."

จากคุณ : เรามันบ้านๆ (วันนี้เราไม่ซน) - [ 12 ก.ค. 47 12:45:08 ]

ความคิดเห็นที่ 58

ยังงัย ผมขอให้เขายอมความกันได้โดยดีครับ

จากคุณ : Joke_Jordan - [ 12 ก.ค. 47 13:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 59

อีกหนึ่งเสียงครับ

จากคุณ : Ringo Star - [ 12 ก.ค. 47 13:44:19 ]

ความคิดเห็นที่ 60

หนึ่งเสียง ดีมากครับ ท่านเจ้าของกระทู้

จากคุณ : สายลมพัดผ่านสวนร้าง - [ 12 ก.ค. 47 14:31:52 A:203.113.57.103 X: ]

ความคิดเห็นที่ 61

sexy sexy sexy....

naughty naughty naughty ....

bitchy bitchy bitchy ....

me....

ร้องเพลง สบายใจ

จากคุณ : ก๋ากั๋นคาบปลาทู - [ 12 ก.ค. 47 15:38:20 ]

ความคิดเห็นที่ 62

คิดอยู่เหมือนกันค่ะว่านักศึกษาทำแบบนี้ได้เหรอคะ
น่าจะผิดกฏของสถาบันนะ

จากคุณ : เล้งนึ่ง - [ 12 ก.ค. 47 16:06:00 A:203.118.122.155 X: ]

ความคิดเห็นที่ 63

อ้าว มีคนคิดว่า คุณโจ้ ไม่ผิด เหมือนผม เหมือนกันแฮะ

เห็นมีแต่บอกว่า ผิดแน่ ผิด100% อะไรทำนองนี้

จากคุณ : โต - [ 12 ก.ค. 47 16:07:38 A:202.133.139.111 X: ]

ความคิดเห็นที่ 64

อ่านแล้วเห็นด้วยมากๆค่ะ ถ้าตั๊กไม่ถอนฟ้องหรือยอมความก็น่าจะใช้ประเด็นนี้แหละค่ะสู้ได้ แต่ป่านนี้คงมีคนแนะนำตั๊กให้จบเรื่องได้แล้วมั้ง ยื้อไปก็มีแต่ตัวเองนั่นแหละโดนด่าโดนสมน้ำหน้า เอาเวลาไปทำมาหาเงินดีกว่า

จากคุณ : ตุ้งมิ้งโรล - [ 12 ก.ค. 47 16:41:16 ]

ความคิดเห็นที่ 65

อืม..ม..
เห็นด้วย
เอาไป 1 เสียง

จากคุณ : คนรักแมวตี๋ - [ 12 ก.ค. 47 17:18:39 ]

ความคิดเห็นที่ 66

ประเด็นใหม่ น่าสนใจมากๆครับ
เอาใจช่วยคุณโจ้นะ

จากคุณ : DaNiaL HamSteR - [ 12 ก.ค. 47 17:47:19 ]

ความคิดเห็นที่ 67

อืม หลายอย่างที่ไม่เคยนึกถึงเลยค่ะ
ตอบเรื่องน้องตั๊กเลี้ยงแม่ตั้งแต่15ได้ดีมากค่ะ

จากคุณ : คุณนายฟู - [ 12 ก.ค. 47 18:13:23 ]

ความคิดเห็นที่ 68

เจ้าของกระทู้นำเสนอประเด็นที่น่าสนใจครับ

แต่ถ้าจำไม่ผิดได้มีการมาโพสที่นี่ก่อนใช่ไหมครับ
เพราะผมก็ได้อ่านมาแล้วจากที่นี่

จากคุณ : ใช่แล้ว.....ผมเองครับ - [ 12 ก.ค. 47 19:15:38 ]

ความคิดเห็นที่ 69

เคยมาลงไว้...แต่ตอนนั้นไม่มีใครสนใจอ่ะ

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A2906213/A2906213.html

มาโหวดด้วยแระกันครับ

จากคุณ : ลอยลม ส้มเช้ง (Mr.Dukdik) - [ 12 ก.ค. 47 19:24:49 ]

ความคิดเห็นที่ 70

โหวตค่ะ

จากคุณ : ปืนติดพิษ - [ 12 ก.ค. 47 19:28:27 ]

ความคิดเห็นที่ 71

กากบาทโหวตให้อีก 1 ค่ะ

จากคุณ : เจ้านิ - [ 12 ก.ค. 47 19:47:09 ]

ความคิดเห็นที่ 72

เห็นด้วยอย่างแรง.... ถถถถถถถถถถูกต้องนะคร๊าบบบบบ

จากคุณ : Dj.กำมะลอ (ไม่ได้Login) (CyberT22) - [ 12 ก.ค. 47 20:33:33 ]

ความคิดเห็นที่ 73

อีก 1 โหวตค่ะ

แยกเป็นประเด็นได้น่าสนใจมากๆ

จากคุณ : อาซิ่ม - [ 12 ก.ค. 47 20:54:21 ]

ความคิดเห็นที่ 74

one vote

จากคุณ : ZETMAN - [ 12 ก.ค. 47 21:40:00 ]

ความคิดเห็นที่ 75

แยกดีค่ะ ซาบซึ้งจิงๆ เอาไปเลยอีกเสียงง

จากคุณ : SLC#53 - [ 12 ก.ค. 47 21:49:36 ]

ความคิดเห็นที่ 76

โหวตให้ครับ

จากคุณ : In The Dark Master - [ 12 ก.ค. 47 22:08:41 ]

ความคิดเห็นที่ 77

ร่วมดันกระทู๊นี้ด้วยคนครับ ประเด็นน่าสนใจอย่างที่เค้าว่าจริงๆ

จากคุณ : เด่ะนอก - [ 12 ก.ค. 47 22:15:23 ]

ความคิดเห็นที่ 78

โหวตให้ด้วยล่ะกัน

จากคุณ : Mr.JT - [ 12 ก.ค. 47 22:30:06 ]

ความคิดเห็นที่ 79

สัมผัสคุกมา 3 วัน เราไม่อยากให้นายยอมง่ายๆเลย ถ้านายยอม ก็เท่ากันกับว่า นายไปนอนในคุกฟรี 3 วัน ส่วน น้องตั๊กได้ บริษัท vcd ก็ได้เต็มๆ ออกโฆษณา ทุกสื่อขนาดนี้นี่ หลายร้อยล้านนะ เราว่า นายฟ้องกลับก็น่าจะได้หลายอยู่ ชนิดที่ว่าพออยู่พอกินไปจนแก่เลยแหละ
ปล. เวลาเรียกค่าเสียหายต้องเรียกเว่อร์ๆ ไว้ก่อนเพราะพี่แกชอบลด
ปล.1 ฟ้องกลับในประเด็นทำร้ายจิตใจ ทำร้ายสังคมวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย ทำให้สังคมเสื่อมทราม ส่งเสริมสื่อลามกอนาจาร ทำลายสังคม internetฟ้องกลับได้หลายร้อยหัวข้อเลยแล้วแต่จะคิดอ่ะ ส่วนใครเป็นจำเลยบ้างก็ บานเลย หึๆ ฟ้องกลับๆๆๆๆๆๆ

จากคุณ : น้องส้มเด็กดี - [ 12 ก.ค. 47 22:52:45 ]

ความคิดเห็นที่ 80

ผมกะลังคิดว่าคุณโจ้ติดคุกเพื่อนให้ VCD ไอ้ฟักขายได้ 10 ล้านแผ่นแบบที่ลงข่าวว่า จะเป็น VCD ที่ยอดขายเยอะที่สุดที่ไทยเคคยทำมา

จากคุณ : natz - [ 12 ก.ค. 47 23:22:13 ]

ความคิดเห็นที่ 81

จริงของเขาเหมือนกันนะ โดนใจมากเลยค่ะ

จากคุณ : chatchanya - [ 12 ก.ค. 47 23:33:27 ]

ความคิดเห็นที่ 82

เอาไปก่อนเลยครับ โหวต เฉพาะตัวกระทู้เองก็ดีแล้วครับ
เดี๋ยวจะโพสต์ต่อครับ แต่ขออ่านคคห.อื่นก่อนครับ

จากคุณ : ลุงปลาทองสีน้ำเงิน (platong_trumpet) - [ 12 ก.ค. 47 23:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 83

ok อ่านแล้วครับ

อืม ถ้าสมมติว่าฟ้องกลับน่ะครับ
น้องโจ้จะเอาค่าใช้จ่ายจากไหนล่ะครับ

เพราะอยากให้ฟ้องกลับเหมือนกัน
เดี๋ยวจะบริจาคช่วยเพิ่ม ครับ (ถ้าฟ้องกลับ อิอิ)

จากคุณ : ลุงปลาทองสีน้ำเงิน (platong_trumpet) - [ 13 ก.ค. 47 00:14:24 ]

ความคิดเห็นที่ 84

ถ้าคุณมือกลองผิด
ผมว่า สื่อที่เอาภาพไปลง ก็ผิดพอๆ กับคุณโจ้แหละครับ

จากคุณ : ไก่จิกเด็กตายบนปากโอ่ง - [ 13 ก.ค. 47 00:29:40 ]

ความคิดเห็นที่ 85

vote kha'.

จากคุณ : pook.. (i-tim) - [ 13 ก.ค. 47 03:33:05 ]

ความคิดเห็นที่ 86

เจ๋งมากค่ะ

จากคุณ : กอหญ้าพาฝัน - [ 13 ก.ค. 47 08:17:25 A:203.113.77.36 X:203.150.209.232 ]

ความคิดเห็นที่ 87

ลองมองตากับปากเธอดีๆซิ แล้วคุณจะเกลียดเธอ

จากคุณ : arku - [ 13 ก.ค. 47 09:12:25 ]

ความคิดเห็นที่ 88

คิดดี ทำดี ได้ดี จ้า

จากคุณ : MaNgKoOd - [ 13 ก.ค. 47 10:12:49 ]

ความคิดเห็นที่ 89

โหวตค่ะ

จากคุณ : jaja12345 - [ 13 ก.ค. 47 15:32:05 ]

ความคิดเห็นที่ 90

ประเด็นนี้น่าสนใจ.....น่านำไปคิดค่ะ...

จากคุณ : Annie~ตาโต - [ 13 ก.ค. 47 16:34:37 ]

ความคิดเห็นที่ 91

อีกบทความบน http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9470000020963

จากคุณ : PiggyBabybear - [ 13 ก.ค. 47 16:49:53 ]

ความคิดเห็นที่ 92

ภาค 1 ความรับผิดต่อการกระทำความผิดทางอาญาฐานหมิ่นประมาทบนกระดานข่าวสาธารณะ

ในภาคนี้จะกล่าวถึงความรับผิดทางอาญาเป็นสำคัญ ส่วนความรับผิดทางแพ่งนั้นผู้ใดสนใจจะลองทำวิจัยดูก็น่าจะได้

ก่อนที่ผู้เขียนจะเข้าสู่เนื้อหา ขอบอกโจทย์ก่อนดังนี้ โจทย์ที่ว่าเป็นเรื่องสมมติ เหมือนตุ๊กตาที่เอาไว้ให้นักเรียนกฎหมายตอบข้อสอบนั่นแหละ ที่ต้องลอกโจทย์ก่อน ก็เพราะว่า เราจำเป็นต้องเอาหลักกฎหมายมาปรับเข้ากับโจทย์ ถึงจะเป็นการตอบปัญหาทางกฎหมายที่ดี ไอ้ประเภทอ่านหนังสือพิมพ์แล้วพูดไปเรื่อยว่าเจ้าของเวบต้องรับผิดชอบอย่างนั้นอย่างนี้ … ผมว่าอย่าไปบอกใครนะครับว่าเรียนกฎหมายกับใครมา..สงสารผู้สอน

ตุ๊กตา (อย่าลืมนะครับ ตุ๊กตาคือเรื่องสมมติเพื่อลับสมองนักเรียนกฎหมาย ไม่ใช่เรื่องจริงซักกะหน่อย) ของเรามีดังนี้ครับ

“น.ส.ย้วย ได้นำแสดงภาพยนตร์เรื่อง “กรรมพิพากษา” ซึ่งมีฉากหนึ่งที่ น.ส. ย้วยต้องแก้ผ้าอล่างฉ่างทั้งตัว ซึ่งน.ส. ย้วยก็แก้ผ้าอย่างเชี่ยวชาญด้วยความเชื่อที่น.ส.ย้วยมักจะอ้างต่อสื่อมวลชนเสมอมาว่า หนังระดับอินเตอร์เขาต้องแก้ผ้ากันทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม ฉากแก้ผ้าของ น.ส. ย้วย ก็เป็นอันไม่ได้นำไปใช้ในภาพยนตร์ เนื่องจากถูกเซ็นเซอร์ ซึ่ง น.ส. ย้วยได้แสดงอาการฉุนเฉียวให้สาธารณะชนรับรู้ผ่านทางรายการโทรทัศน์ด้วย เนื่องจาก กบว. บังคับให้ทำกราฟฟิกปิดหัวจุกของเธอ

อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์เรื่อง “กรรมพิพากษา” ทำรายได้อย่างรูดเป้าถล่มทลาย จนต้องออกจากโรงไปด้วยความเจ็บช้ำ และผู้สร้างเตรียมนำไปออกเป็นวีซีดีขาย ก็ปรากฏว่า มี Forward เมล์ลึกลับที่ไม่ทราบที่มา เผยแพร่ภาพ “อินเตอร์” คือภาพที่น้องย้วย ที่ถ่ายเปลือยในภาพยนตร์นั้นโดยยังไม่ได้เซ็นเซอร์ แพร่ลามไปทั่วระบบอินเทอร์เน็ต

นายมือกรรม (นามแฝง) เห็นภาพนั้นเข้า จึงนำไปโพสต์ในกระดานข่าวสาธารณะ “พันธุ์แท้ดอตคอม” ซึ่งมีนายวันชาติเป็นเจ้าของ เพื่อสอบถามคนในเวบนั้นว่า นี่เป็นภาพจริงหรือภาพตัดต่อ ซึ่งต่อมานายวันชาติพบว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม จึง

แต่กรรมเป็นของนายมือกรรม เมื่อทีมงานของหนังเรื่องดังกล่าวมาเห็นแล้วแจ้งให้น้องย้วยทราบ น้องแกเลยมีอันของขึ้น ประมาณคุณแม่เป็นลม เนื่องจากน้องย้วยนี่เป็นกุลสตรีม้าาาาก มาก เรื่องโชว์นมโชว์ต้มนี่ไม่เค้ย ไม่เคย จึงโวยวายไปแจ้งความ ขู่ฟ้องเวบไซต์พันธุ์แท้ ได้แก่นายวันชาติ เจ้าของเวบ และนายมือกรรม คนที่โพสต์กระทู้พร้อมรูปดังกล่าว บังอาจทำให้ชื่อเสียงอันแสนจะบริสุทธิ์สะอาดยิ่งกว่าผ้าอนามัยที่ยังไม่ผ่านการใช้งานของเธอต้องมีราคีคาว

จงอธิบายความรับผิดทางอาญาของนายมือกรรม นายวันชาติ…

จากคุณ : PiggyBabybear - [ 13 ก.ค. 47 16:52:27 ]

ความคิดเห็นที่ 93

อ้อ มีข้อเท็จจริงเพิ่มเติมให้พิจารณาเล่นด้วยว่า เมื่อนายมือกรรมเข้ามอบตัวแล้ว พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไว้ถึงสามสี่วันโดยคัดค้านการประกันตัวต่อศาล และเรียกเงินประกันสูงถึงสามแสนบาทและประกาศว่าจะไปจับกุมหรือตรวจค้นเวบไซต์อื่นที่ลงรูปน้องย้วยด้วย นอกจากนี้หนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับก็เอารูปน้องย้วยรูปแบบเดียวกับที่นายมือกรรมโพสต์ ไปตีพิมพ์ลงหน้าหนึ่งอย่างเกรียวกราว พร้อมขนานนามนายมือกรรมว่า เป็นคนวิปริต วิตถาร ลามก บ้ากาม ฯลฯ แถมให้ด้วย ”

ก่อนจะตอบตุ๊กตา เราต้องวางหลักกฎหมายก่อน ดังนี้

หลักความรับผิดทางอาญานั้น ประการแรก จะต้องมีการกระทำ ซึ่งการกระทำนั้นจะต้องเป็นการกระทำที่กฎหมายอาญา (ได้แก่ประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมายอื่นที่มีลักษณะเป็นโทษทางอาญา) ห้ามมิให้กระทำโดยระบุว่าเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้

กฎหมายในที่นี้ ได้แก่ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ความผิดฐานหมิ่นประมาท ซึ่งความผิดดังกล่าวบัญญัติไว้ดังนี้ว่า

“มาตรา 326 ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

องค์ประกอบของมาตรา 326 นี้ ได้แก่

1. มีการใส่ความผู้อื่น

2. ต่อบุคคลที่สาม

3. โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง และ

4. ผู้กระทำได้กระทำโดยเจตนา

การใส่ความผู้อื่นตามมาตรา 326 นี้ จะต้องมีลักษณะสำคัญประการหนึ่งด้วย คือการ “ยืนยันข้อเท็จจริง” ดังคำอธิบายของศาสตราจารย์หยุด แสงอุทัย ดังนี้

“คำว่า “ใส่ความ” มีความหมายแตกต่างกับที่เข้าใจกันอยู่ตามธรรมดาสามัญ คือไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นการใส่ร้าย แต่หมายถึงการกล่าวยืนยันข้อเท็จจริงต่อบุคคลอื่น จะเท็จหรือจริงก็เป็นการใส่ความทั้งนั้น ”

การยืนยันข้อเท็จจริงนี้ ข้อเท็จจริงที่ยืนยันจะเป็นจริงหรือเป็นเท็จหรือไม่ก็ตาม แต่ผู้หมิ่นประมาท จะต้องยืนยันข้อเท็จจริงต่อบุคคลที่สามว่า บุคคลที่ถูกหมิ่นประมาทนั้นกระทำการอันควรเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือสมควรได้รับการเกลียดชังอย่างไร

ตัวอย่างของกรณีที่ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเป็นการหมิ่นประมาท เช่น ญาติข้างโจทก์ได้บอกจำเลยว่า จำเลยได้รักใคร่กับชายในทางชู้สาวนอนกอดจูบกันและได้เสียกัน มีผู้มาถามจำเลย จำเลยก็เล่าข้อเท็จจริงนั้นให้ฟัง ตัดสินว่าจำเลยมีความผิดฐานหมิ่นประมาท (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 380/2503)

อย่างไรก็ตาม หากปรากฏว่า ไม่มีการยืนยันข้อเท็จจริง ก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการใส่ความ เช่น คำพิพากษาฎีกาที่ 2180/2531 ได้วินิจฉัยว่า “การที่จะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้น จะต้องเป็นการใส่ความผู้อื่นโดยยืนยันข้อเท็จจริงที่ใส่ความนั้นต่อบุคคลที่สามและการใส่ความนั้นน่าจะทำให้ผู้อื่นที่ถูกใส่ความเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ดังนั้น การที่จำเลยถาม ป. ว่ามีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับโจทก์หรือไม่ จึงเป็นเพียงการคาดคะเนของจำเลยเท่านั้น มิใช่เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงอันน่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังแต่ประการใด...” หรือกรณีตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1734/2503 “มารดาถูกขว้างด้วยก้อนอิฐ บุตรไม่เห็นคนขว้าง แต่ได้กล่าวต่อหน้าคนหลายคนว่า ไม่มีใครนอกจากอ้ายแก้ว (โจทก์) อ้ายชาติหมา อ้ายฉิบหาย ดังนี้ พฤติการณ์ในคดีแสดงว่าไม่มีเจตนาใส่ความให้โจทก์เสียชื่อเสียง หรือถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ไม่ผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖...” ซึ่งไม่ได้ยืนยันข้อเท็จจริงเช่นกัน

จากโจทก์ข้างต้น นายมือกรรมได้ให้โพสต์ข้อความในเชิงตั้งคำถามว่า “นี่เป็นภาพจริงหรือภาพตัดต่อ”และลงภาพน้องย้วย ถือได้ว่ายืนยันข้อเท็จจริงอันเป็นการ “ใส่ความ” น้องย้วยแล้วหรือไม่?

และการกระทำของคุณมือกรรม มีการยืนยันข้อเท็จจริงใด ว่าน้องย้วยนั้น ได้ถ่ายภาพเจ้าปัญหานั้นจริง?

จากคุณ : PiggyBabybear - [ 13 ก.ค. 47 16:53:00 ]

ความคิดเห็นที่ 94

และหากเป็นการใส่ความ การใส่ความดังกล่าวทำให้น้องย้วย “น่าจะเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง” หรือไม่ และการโพสต์รูปน้องย้วยอล่างฉ่างนั้น สื่อข้อเท็จจริงประการใดหรือว่า น้องย้วยนั้น ควรจะเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างไร เพราะการถ่ายภาพเปลือยทั้งตัวหรือ ?

การโพสต์ภาพด้วยคำถามที่ว่า “นี่เป็นภาพจริงหรือภาพตัดต่อ” หากมองว่าเป็นการ “ใส่ความ” ตามมาตรา 326 แล้ว จะถือว่าเป็นการใส่ความว่าอะไร?

เพราะอย่าลืมว่า น้องย้วยเองก็เคยประกาศต่อสาธารณะชนแล้วว่า การแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ ตัวเองได้ “เปลือย” แสดงภาพยนตร์ และยิ่งกว่านั้น น้องย้วยยังรู้สึกภูมิใจที่ได้แสดงในรูปแบบดังกล่าว ทั้งนี้เมื่อภาพยนตร์ดังกล่าวจะถูกเซ็นเซอร์โดยกองเซ็นเซอร์ น้องย้วยก็ออกอาการไม่พอใจด้วยซ้ำ !!! ซึ่งตรงนี้ผู้ตอบก็สงสัยว่า หากภาพดังกล่าวไม่ถูกกองเซ็นเซอร์บังคับให้ทำกราฟฟิกบังแล้ว ปัจจุบันภาพนี้ก็จะไม่เรียกว่าเป็น “ภาพลับ” แต่จะเรียกว่า “สกรีนช็อต” หรือเป็นเพียงฉากหนึ่งจากภาพยนตร์เท่านั้นเอง!!!

และหากพิจารณาตามแนวคิดของกฎหมายอาญาในการแสวงหาเจตนาของผู้กระทำความผิดว่า “กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา” แล้ว จะเห็นว่านายมือกรรมได้พยายาม “ลด” ความเสียหาย ด้วยการเซ็นเซอร์หน้าอกของน้องย้วยแล้วอีกต่างหาก (อาจจะเพราะไม่อยากให้อุจาดตาก็ได้ -_-!#) เช่นนี้ย่อมเห็นว่า นายมือกรรมมีเจตนาเพื่อการ “ขอความคิดเห็น” เพราะถ้ามีเจตนาจะใส่ความให้เสียหายแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่นายมือกรรมจะต้องทำเซ็นเซอร์แต่อย่างใด

เช่นนี้ พอจะฟังได้หรือไม่ว่า นายมือกรรมไม่ได้มีเจตนาใส่ความน้องย้วย ซึ่งไม่เข้าองค์ประกอบตามมาตรา 326 เพราะผู้กระทำเองก็ไม่ได้แสดงความแน่ใจว่านี่คือภาพของผู้เสียหายหรือไม่?

จบคุณมือกรรมดีกว่า ... มาถึงคุณวันชาติที่เป็นเจ้าของเวบไซต์บ้างว่าจะต้องรับผิดอย่างไร

ความผิดทางอาญานั้น ประการสำคัญคือ ผู้กระทำความผิด จะต้องกระทำโดยเจตนา ซึ่งเป็นหลักที่ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 59 ได้บัญญัติไว้ว่า “บุคคลจะต้องรับผิดทางอาญา เมื่อกระทำโดยเจตนา เว้นแต่จะได้กระทำโดยประมาท ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องรับผิดเมื่อได้กระทำโดยประมาท หรือเว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยแจ้งชัดให้ต้องรับผิดแม้ได้กระทำโดยไม่มีเจตนา”

หลักการว่าบุคคลต้องรับผิดทางอาญาได้อย่างไรนั้น ประการแรก บุคคลนั้นจะต้องมีการกระทำประการหนึ่งประการใดขึ้นมาก่อน การกระทำนั้นรวมถึงการละเว้นการกระทำด้วย ตามมาตรา 59 วรรคสุดท้าย ที่บัญญัติรวมถึงการให้เกิดผลอันหนึ่งอันใดขึ้นโดยงดเว้นการที่จักต้องกระทำเพื่อป้องกันผลนั้นด้วย

ความผิดฐานหมิ่นประมาท เป็นผิดที่ต้องอาศัยเจตนาในการทำ และไม่มีความผิดฐานประมาททำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง ดังนั้นเราจะพูดกันแต่เรื่องของเจตนาในการกระทำความผิด เท่านั้น

เจตนาคืออะไร ประมวลกฎหมายอาญาได้บัญญัติไว้ในมาตรา 59 วรรคสอง ว่า “กระทำโดยเจตนา ได้แก่กระทำโดยรู้สำนึกในการที่กระทำ และในขณะเดียวกัน ผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น”

โดยศาสตราจารย์ ดร. จิตติ ติงศภัทิย์ บรมครูทางกฎหมาย ได้อธิบายความไว้ดังนี้ว่า

“การกระทำโดยรู้สำนึกนั้น แม้จะเป็นลักษณะประการหนึ่งของจิตใจ แต่ก็เป็นแต่เพียงองค์ประกอบแสดงสภาพของการกระทำดังกล่าวมาแล้ว องค์ประกอบสภาพจิตใจคือ เจตนา ได้แก่ความประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลแห่งการกระทำนั้น ซึ่งหมายความถึงผลสำเร็จแห่งการกระทำนั้นเอง (but immédiat) รวมทั้งผลอันเกิดขึ้นจากการกระทำ (résultat) นั้นด้วย เหตุนี้เจตนาจึงมิใช่แต่เพียงการกระทำโดยรู้สำนึก หรือจิตใจบังคับอิริยาบถเท่านั้น แต่จะต้องประกอบด้วยความมุ่งหมายต่อผลตามความหมายดังกล่าวนั้นอีกด้วย ...” (หมายเหตุ : การเน้นตัวหนาเป็นการเน้นของผู้เขียนเอง)

จากคำอธิบายข้างต้น ย่อมเห็นได้ว่า เจตนานั้นจะต้องเกิดจากการที่มีการกระทำที่จะทำให้เกิดผลประการหนึ่งประการใด แต่ผู้กระทำนั้นจะต้องรู้สำนึก และมุ่งหมายให้เกิดผลนั้นอย่างแท้จริง เช่น ควักปืนมายิง คู่อริที่กลางกระหม่อมหวังให้ตาย หยิบโทรศัพท์มือถือของเพื่อนกะเอาไปปล่อยตามมาบุญครอง หรือการกระทำที่ไม่ได้มุ่งผลประการใดประการหนึ่งอย่างชัดเจน ในทางตำราที่ครูบาอาจารย์มักจะให้คำอธิบายไว้ คือ การยิงปืนเข้าไปในที่ชุมชน ขับรถฝ่าเข้าไปกลางฝูงชนด้วยความเร็วสูง เป็นต้น

นอกจากนี้ ผู้กระทำการดังกล่าวจะต้องรู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของการกระทำความผิดนั้นด้วย ตามมาตรา 59 วรรคสาม ที่บัญญัติไว้ดังนี้ว่า “ถ้าผู้กระทำมิได้รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิด จะถือว่าผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นมิได้”

เมื่อนายวันชาติ เป็นเจ้าของเวบไซต์กระดานข่าวสาธารณะ ไม่ได้เป็นผู้โพสต์ภาพปัญหานั้นเอง จะถือว่านายวันชาติเป็นผู้กระทำความผิดได้หรือไม่ ? หรือหากจะมองว่า นายวันชาติกระทำโดยการละเว้นการกระทำโดยการไม่ลบภาพที่มีปัญหาดังกล่าวเสีย ก็ต้องกลับไปดูหลักเรื่องเจตนาในข้างต้นว่า นายวันชาติได้รู้สำนึกของการ “ละเว้น” นั้นหรือไม่

หากนายวันชาติรู้แล้ว แต่ก็ไม่ได้ลบ เช่นนี้ก็อาจจะฟังได้ว่านายวันชาติเองมีเจตนาที่จะ “ละเว้น” การกระทำ เพื่อให้มีภาพนั้นปรากฏอยู่บนกระดานข่าวสาธารณะของเขา

แต่ถ้านายวันชาติไม่ได้รู้ เลยไม่ได้ลบ จะถือได้อย่างไรว่านายวันชาติรู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิด ตามมาตรา 59 วรรคสาม หากทันทีที่เมื่อรู้ นายวันชาติก็ได้ลบภาพนั้นเสีย ย่อมแสดงให้เห็นเจตนาว่า หากนายวันชาติได้รู้ข้อเท็จจริงอันอาจเป็นองค์ประกอบความผิดฐานหมิ่นประมาทแล้ว นายวันชาติก็จะไม่ “กระทำการ” (คือการปล่อยให้ภาพปัญหาแสดงอยู่ในระบบ) ดังกล่าว

จากคุณ : PiggyBabybear - [ 13 ก.ค. 47 16:53:28 ]

ความคิดเห็นที่ 95

ซึ่งจะนำเอากรณีของนายวันชาติไปเปรียบเทียบกับกรณีของบรรณาธิการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนโดยทั่วไปไม่ได้ เพราะกระดานข่าวสาธารณะนั้น โดยเทคโนโลยีแล้ว เจ้าของกระดานข่าวจะไม่สามารถตรวจดูข้อความก่อนที่จะนำขึ้นแสดงในระบบได้เลย แต่เจ้าของกระดานข่าวจะมีสิทธิในการลบข้อความที่ไม่เหมาะสมออกจากระบบได้

แต่บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนนั้น มีหน้าที่และความสามารถในการ “กลั่นกรอง"”ข้อมูลที่จะส่งไปตีพิมพ์เผยแพร่ และเป็นความรับผิดชอบทั้งในทางกฎหมายและทางจารีตประเพณีว่า บรรณาธิการจะต้องให้ความเห็นชอบข่าวและบทความทั้งหลายที่ได้ตีพิมพ์หรือเผยแพร่ กล่าวคือหากภาพดังกล่าวไปปรากฏในหนังสือพิมพ์ได้ ต้องผ่านตาบรรณาธิการ และบรรณาธิการเห็นชอบแล้วเท่านั้น

ลักษณะของเจ้าของกระดานข่าวสาธารณะ ก็เหมือนเจ้าของบ้านหลังหนึ่ง วันหนึ่งหากมีคนเอารูปโป๊ หรือข้อความหมิ่นประมาทไปแปะรั้วบ้านท่านโดยท่านมิได้รู้ได้เห็นด้วย กว่าจะมาเจอรูปก็แปะอยู่ข้ามวันแล้ว เช่นนี้หากจะให้ท่านต้องรับผิดโดยถือว่าเป็นผู้ร่วมหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นด้วย เพียงเพราะเป็นเจ้าของบ้านกระนั้นหรือ ?

อนึ่ง ความเห็นข้างต้นของผู้เขียนนั้น เป็นความเห็นทางกฎหมายของปัจเจกชนผู้ศึกษากฎหมายคนหนึ่งเท่านั้น หาใช่เป็นการ “ฟันธง” หรือชี้นำผลแห่งคดีแต่ประการใด...

อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนนั้นสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่า การที่พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการควบคุมตัวและคัดค้านการประกันของผู้ต้องหาเป็นเวลานานถึงสี่วัน และเรียกหลักประกันสูงถึงสามแสนบาท (ซึ่งเทียบเท่ากับกรณีการค้ายาเสพติด) ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ซึ่งมีอัตราโทษต่ำเพียงไม่เกินหนึ่งปี และโดยสภาพความผิดฐานหมิ่นประมาทนี้เป็นความผิดที่ยอมความกันได้ และเป็นความผิดต่อชื่อเสียงของบุคคล มิใช่ความผิดต่อรัฐ (เพราะถ้าเป็นความผิดต่อรัฐจะเป็นความผิดที่ยอมความกันไม่ได้) ตำราทางกฎหมายบางตำราถือว่าความผิดต่อปัจเจกบุคคลเช่นนี้ เป็น “กฎหมายเอกชน” ด้วยซ้ำ

แต่รัฐก็ใช้อำนาจรัฐชนิดมหาศาล เข้าตรวจค้นที่ทำงานและบ้านของผู้ต้องหาเยี่ยงเป็นอาชญากรร้าย รวมทั้งประกาศให้ผู้อื่นที่ทำการโพสต์ภาพเข้ามอบตัว (โดยที่ผู้เสียหายมิได้ร้องทุกข์ถึงเวบไซต์อื่นๆเลย?) การกระทำของพนักงานสอบสวนเช่นนี้ ชอบด้วยกฎหมายและชอบธรรมแล้วหรือไม่ ? รวมทั้งสื่อมวลชนซึ่งประโคมข่าวด้วยข้อความที่เหยียดหยามผู้ต้องหา ว่าเป็นไอ้โรคจิตบ้าง ไอ้วิปริตบ้ากามบ้าง เช่นนี้เป็นการเคารพในสิทธิของผู้เสียหายแล้วหรือยัง

และพนักงานสอบสวนรวมถึงสื่อมวลชน เคยผ่านตาข้อความว่า “การใช้อำนาจโดยองค์กรของรัฐทุกองค์กร ต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ และเสรีภาพตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้” ซึ่งปรากฏอยู่ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 26 และมาตรา 33 ที่ว่า “ในคดีอาญา ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด...ก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิดจะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้” หรือไม่ ?

มีใครตอบผมได้บ้าง

แต่คำถามหนึ่งซึ่งไม่เฉพาะแต่จะคาใจผม แต่คาใจคนส่วนใหญ่ที่ได้อ่าน “โจทย์ตุ๊กตา(เสียกบาล)” เรื่องนี้ คือทำไม ภาพเดียวกันกับที่ลงในอินเทอร์เน็ต เมื่อหนังสือพิมพ์นำไปลง (ซึ่งจำนวนผู้ได้ดูภาพก็เท่าจำนวนยอดขายของหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับ – ซึ่งมากกว่าปริมาณคนเข้าไปอ่านเวบไซต์ไม่รู้กี่พันกี่หมื่นเท่า) ทำไมผู้เสียหายถึงไม่รู้สึก “เสียหาย” บ้าง ? หรือไม่สำแดงอาการว่าจะฟ้องร้องหนังสือพิมพ์เหล่านั้นแต่ประการใด ...

มาตรฐานความ “เสียหาย” ของน้องย้วยผู้เสียหายมันอยู่ตรงไหนกันแน่ ...

จากคุณ : PiggyBabybear - [ 13 ก.ค. 47 16:53:55 ]

ความคิดเห็นที่ 96

กะลังจะสอบ
เหอๆๆ บุคไว้ประดับความรู้

เยี่ยมทุกความคิดเห็นเลยค่ะ

จากคุณ : แหนมมัด - [ 13 ก.ค. 47 17:53:33 ]

ความคิดเห็นที่ 97

แล้วรูปอื่นที่เห็นทั้งข้างบน-ข่างล่าง ละตั๊ก
ไม่ฟ้องรึ
หึ หึ หึ
แบ๊ะ แบ๊ะ แบ๊ะ อ้าวคุณมือกลอง
เปลี่ยนเสียงร้องแล้วเรอะ...........
เหอ เหอ เหอ

จากคุณ : malijauna - [ 13 ก.ค. 47 19:37:47 A:203.156.45.47 X: ]

ความคิดเห็นที่ 98

โอย... อ่านซะตาลายเลย .. o_o

จากคุณ : แม่หนูเอง - [ 13 ก.ค. 47 21:08:13 ]

ความคิดเห็นที่ 99

ขอยกมือโหวตให้เจ้าของกระทู้ครับ

จากคุณ : silver seraph - [ 13 ก.ค. 47 22:50:02 ]

ความคิดเห็นที่ 100

ร้อยทั้งร้อย เห็นด้วยครับ
ผมจะโดนฟ้องไหมครับ

จากคุณ : โก๋สิจ๊ะ - [ 13 ก.ค. 47 23:46:08 ]

ความคิดเห็นที่ 101

ก็คิดเหมือนกันค่ะ ยังเคยคุยเรื่องนี้กับพี่คนหนึ่งค่ะ พี่เค้าก็แสดงความคิดเห็นแบบนี้เลย แต่เค้าไม่ได้เป็นทนายนะ

โหวตให้ค่ะ

จากคุณ : หมู...หวานกรอบ - [ 14 ก.ค. 47 08:40:56 ]

ความคิดเห็นที่ 102

แล้วระเบียบรัตน์หายไปไหน ทีเรื่องไม่เป็นเรื่องแมม่ก็นะ...

จากคุณ : megalomaniac - [ 14 ก.ค. 47 12:21:03 ]

ความคิดเห็นที่ 103

โหวตครับ

จากคุณ : ปั๊ม - [ 14 ก.ค. 47 12:51:20 ]

ความคิดเห็นที่ 104

ได้ A แน่ๆเลยหนู กฎหมายอาญาเนี่ย

จากคุณ : Ed60797 - [ 14 ก.ค. 47 14:25:28 ]

ความคิดเห็นที่ 105

ผมให้อีกคะแนนเลยครับ ทีเวลาถ่ายเรื่องนี้แล้วรับเงินไม่เห็นบ่นต่อว่าคนกองถ่ายที่เค้ายืนดูละครับ

จากคุณ : pee (pmicrobes) - [ 14 ก.ค. 47 14:35:40 ]

ความคิดเห็นที่ 107

เป็นไปได้แฮะ สู้เขาโจ้

จากคุณ : จันทร์กลางหาว - [ 14 ก.ค. 47 16:02:43 ]

ความคิดเห็นที่ 108

ชอบมากครับ โหวตด้วย

จากคุณ : sutsakron - [ 14 ก.ค. 47 17:57:50 ]

ความคิดเห็นที่ 109

โหวตให้ด้วยคน

จากคุณ : 323club - [ 14 ก.ค. 47 18:06:31 ]

ความคิดเห็นที่ 110

อืมมม...จริงด้วย "รบร.หายไปไหน?"

ยาวได้ใจ...เอาไปหนึ่งโหวตก็แล้วกันคะ...

จากคุณ : ขวัญเอ๊ยขวัญมา!!! - [ 14 ก.ค. 47 19:20:10 ]

ความคิดเห็นที่ 111

แต่เราอยากมองอย่างเป็นกลางนะ

รูปถ่ายของตั๊ก ก็เป็นสิทธิของตั๊ก ถ้าเขาไม่อนุญาต เราก็ไม่มีสิทธิเอาไปเผยแพร่

โดยที่มองว่าตั๊กก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ถึงเป็นดารา แต่ก็ยังเป็นคน

เพราะงั้น สิทธิส่วนตัวของเธอ จึงควรได้รับการคุ้มครอง

ไม่ใช่เป็นดาราแล้ว ใครจะเอารูปโป๊มาโพสต์ยังไงก็ได้

คนเราควรเคารพสิทธิส่วนตัวกัน ดาราก็คนนะ

ถ้าคุณบอกว่าตั๊กผิด ผิดตรงไหนเหรอ เพราะรูปนั้น หนังก็ไม่ได้ฉายอยู่แล้ว เด็กวัยรุ่นจะไปรู้ได้ยังไงว่ามีการถ่ายภาพนั้น

เด็กจะได้ตัวอย่างไม่ดี ก็เพราะมีคนเอารูปเผยแพร่นั่นแหละ ซึ่งไม่ไช่คุณมือกลองคนเดียว แต่คือทุกคนที่เผยแพร่รูป

ถ้าจะโทษเรื่องตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชน ก็ต้องโทษทุกคนที่กระจายรูปด้วย ไม่ใช่โทษตั๊กคนเดียว

จากคุณ : คนธรรมดาที่ไม่เหยียบดารา - [ 14 ก.ค. 47 22:09:58 A:203.113.61.102 X: ]

ความคิดเห็นที่ 112

และขอเรียกร้องให้ดาราได้รับการคุ้มครองสิทธิส่วนตัวเท่าเทียมกับคนธรรมดา

ไม่ใช่เป็นดาราแล้ว สิทธิส่วนตัวจะต้องถูกลิดรอนไปด้วน

อย่าอ้าง public interest เลย ถ้าวันหนึ่ง คุณได้รับเมล์ที่เป็นรูปโป๊ดารา

คุณจะเอารูปโป๊มาโพสต์ถามคนอื่นไหมว่าจริงไม่จริง

ถ้ามันเป็นรูปลูกสาว หรือ น้องสาวคุณ

ขออ้าง สำนึกของความเห็นคน และเมตตาธรรม

เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง

อย่าเหยียบคนล้มนักเลย

จากคุณ : คนธรรมดาที่ไม่เหยียบดารา - [ 14 ก.ค. 47 22:14:42 A:203.113.61.102 X: ]

ความคิดเห็นที่ 113

อีก 1 โหวตละกันค่ะ

จากคุณ : Little Dreamer - [ 15 ก.ค. 47 10:07:11 ]

ความคิดเห็นที่ 114

#111, 112
แล้วถ้าลูกชายคุณต้องอยู่ในคุก 3 วันเพราะถูกคัดค้านการประกันตัว เพื่อเพิ่มยอดจำหน่ายของ Vcd หนังเรื่องนึงล่ะ
นี่ยังไม่นับผลกระทบจากสังคมที่มีต่อเค้าอีกนะ

-----------------------------
รูปถ่ายของตั๊ก ก็เป็นสิทธิของตั๊ก ถ้าเขาไม่อนุญาต เราก็ไม่มีสิทธิเอาไปเผยแพร่

โดยที่มองว่าตั๊กก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ถึงเป็นดารา แต่ก็ยังเป็นคน

เพราะงั้น สิทธิส่วนตัวของเธอ จึงควรได้รับการคุ้มครอง

ไม่ใช่เป็นดาราแล้ว ใครจะเอารูปโป๊มาโพสต์ยังไงก็ได้

และขอเรียกร้องให้ดาราได้รับการคุ้มครองสิทธิส่วนตัวเท่าเทียมกับคนธรรมดา

ไม่ใช่เป็นดาราแล้ว สิทธิส่วนตัวจะต้องถูกลิดรอนไปด้วน
-----------------------------

เห็นด้วยกับข้อความของคุณทุกอย่างเลย
งั้นถามว่าทำไมเธอไม่ฟ้องหนังสือพิมพ์ด้วยล่ะ?
คุณตอบได้มั้ย?

เธอมิสิทธิ์ที่จะเลือก
และเธอก็เลือกแล้ว...

จากคุณ : Stairs way to hell - [ 15 ก.ค. 47 10:16:29 A:203.151.21.1 X: ]

ความคิดเห็นที่ 115

ทำไมจำเลยต้องเป็น “พันทิป”

ทำไม ภาพเดียวกันกับที่ลงในอินเทอร์เน็ต เมื่อหนังสือพิมพ์นำไปลง (ซึ่งจำนวนผู้ได้ดูภาพก็เท่าจำนวนยอดขายของหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับ – ซึ่งมากกว่าปริมาณคนเข้าไปอ่านเว็บไซต์ไม่รู้กี่พันกี่หมื่นเท่า) ทำไมผู้เสียหายถึงไม่รู้สึก “เสียหาย” บ้าง ? หรือไม่สำแดงอาการว่าจะฟ้องร้องหนังสือพิมพ์เหล่านั้นแต่ประการใด

บุญชิตขอลอกโจทย์มานิดหนึ่งแล้วกัน ก่อนจะตอบให้ว่า

เพราะเว็บไซต์พันทิป รวมทั้งเว็บบอร์ดทั้งหลาย และเว็บไซต์ใดๆที่เปิดให้ผู้อ่านสามารถแสดงความคิดเห็นได้ (ซึ่งอาจจะรวม Manager Online บ้านเราเข้าให้ด้วย) คือ “ปิศาจ” ที่หลอกหลอนคนในวงการฝ่าย “นายทุน” อยู่ทุกวี่วัน เหมือนปีศาจกาลเวลาในเรื่อง “ปิศาจ” ของคุณเสนีย์ เสาวพงษ์ ที่คอยหลอกหลอนศักดินาเก่าอยู่นั่นเทียว

วงการ “นายทุน” ที่หมายถึงกิจการทุกประการที่จำหน่ายและนำเสนอต่อผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นกิจการ การค้า บริการ สื่อ และบันเทิง เพราะการมีขึ้นของอินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์ ทำให้พวกเขาอยู่ในสภาพที่ “ควบคุมสถานการณ์ไว้ไม่ได้” ต่างจากสมัยเมื่อยี่สิบกว่าปีอย่างสิ้นเชิง ที่อำนาจในการนำเสนออยู่ในมือ “สื่อ” เกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงไม่แปลกนัก ที่ทำไมสินค้าราคา 5 บาท แต่งบโฆษณามันตกชิ้นละเกือบ 10 บาท (และขายเราในราคา 20 กว่าบาท!!!) เพราะโฆษณา ผ่าน “สื่อ” (ในยุคเก่า) คือการ “ชี้นำ” ให้ผู้บริโภคอยู่ในมือได้ง่ายดายที่สุด

เราอ่าน อย่างที่เขาอยากให้เราอ่าน เราดู สิ่งที่เขาอย่างให้เราดู เราฟัง เรื่องที่เขาอยากให้เราฟัง...

แบบไม่มีปากเสียงเสียด้วย...

เคยไหมที่คุณหงุดหงิดเพราะอะไรๆหลายๆอย่างที่ได้ประสบพบเห็นในชีวิตประจำวัน…

เบื่อโฆษณาซังกะบ๊วย ตลกแบบไม่รับผิดชอบสังคม หรือเอาคนบางกลุ่มมาเล่นตลกให้ดูน่าอนาถ เพื่อผลในการเป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์”

หงุดหงิดกับนักการเมืองที่ดีแต่ด่าและจับผิด แต่ไม่เคยคิดจะทำงานให้ดู

ดาราวัยรุ่น เล่นแข็งเป็นท่อนซุง พฤติกรรมแหลกเหลวชนิดซ้อเจ็ดด่าไม่สะเทือน แต่มีเจ๊ดันอยู่ข้างหลัง เลยลอยหน้าลอยตาออกทีวีได้ทุกวีก

หรือร้านอาหาร บริการด้วยบาทา สรรหามนุษย์หน้าตูดมาเป็นพนักงานเสิร์ฟ

คุณอยากจะบ่นก่นด่าอย่างหัวเสีย แต่แล้วก็นึกได้ว่า… บ่นไปแง่งก็เท่านั้นแหละ คนที่โดนบ่นมันไม่ได้ยินหรอก เขียนจดหมายไปร้องทุกข์ แน่ใจได้เลยว่าที่หมายคือถังขยะรีไซเคิล ถุงกล้วยแขกหรือไม่ก็เครื่องทำลายเอกสาร

ในยุคนั้น การที่ใครก็ไม่รู้ตัวเล็กๆสักคนหนึ่ง ริจะต่อกรกับ “องค์กร” ขนาดยักษ์สักองค์กรหนึ่ง… มันเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่าการใช้ลมตดเขยื้อนภูเขา

ใครครองสื่อ ใครมีตังค์ ใครกุมอำนาจ ผู้นั้นชนะ ว่ากันอย่างนั้น ผมจำได้สมัยผมยังเด็ก (นานมาแล้วละ) เทปเพลงชอบออกข่าวว่าขายได้ล้านตลับ เชื่อหรือไม่เชื่อ ไปนั่งนับหน้าแผงก็คงไม่ได้

ไม่มีการถ่วงดุลอำนาจใดๆจากปัจเจกชน คนตัวเล็กๆ ไม่มีปากมีเสียงในสังคม ไม่พอใจก็ต้องเฉยไว้… ส่วนสังคมนั้นก็ต้องอยู่ในสภาพของฝ่ายรับที่เชื่อฟังการสื่อสารทางเดียว ...คุณอ่านหนังสือตามที่สื่อบอกว่าน่าอ่าน คุณซื้อผงซักฟอกก็ยี่ห้อที่เห็นในทีวี และคุณชื่นชอบตามกระแสสังคมที่ถูกชักนำโดยสื่อรูปแบบต่างๆ ในปัจจุบัน สื่อ และองค์กรธุรกิจนั้นมีอำนาจเหนือปัจเจกชนอย่างยากที่จะต่อสู้ต้านทาน

แต่แล้วก็มี “ปิศาจร้าย” ถือกำเนิดขึ้น มันคือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระดับโลก ที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดขึ้นมาในรอบ 10 ปีนี้ จากระบบ Unix ที่มีแต่จอดำๆ ตัวหนังสือสีขาวหรือสีเขียว พิมพ์โต้ตอบส่งข่าวหากัน ก็เติบโตไปสู่ระบบเว็บที่มีกราฟฟิกสวยงามด้วย HTML และแตกต่อไปสู่เว็บที่สามารถโต้ตอบได้จากผู้ใช้ด้วยเทคโนโลยีของ CGI, asp, php และ aspx

ใน พ.ศ. 2543 เป็นต้นมาเว็บไซต์ก็กลายเป็นจอมปิศาจที่หลอกหลอน “สื่อ” และกลุ่มทุน เพราะเรา (หมายถึงผู้บริโภค) ได้อ่าน อย่างที่เราอยากอ่าน เราดู สิ่งที่เราเลือกดู เราฟัง สิ่งที่เราอยากฟัง...

และที่ร้ายที่สุด คือเราสามารถเขียน สิ่งที่เราอยากเขียน พูด สิ่งที่เราอยากพูด แสดงสิ่งที่เราอยากแสดง ให้สาธารณชนคนในเน็ตได้รับรู้ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้ปัจเจกชนธรรมดา เปลี่ยนสภาพจาก “ผู้ถูกเลือก” (ให้รับสื่อ) มาเป็น “ผู้เลือก” (ที่จะรับสื่อ) นี่คือความน่ากลัวที่สุดของปิศาจหน้าเหลี่ยมที่เรียกว่า “อินเทอร์เน็ต” ... เป็นการพลิกแผ่นดินครั้งใหญ่ ให้ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดินได้อย่างแท้จริง

เมื่อ “คุณ” จะไม่ใช่ใครก็ไม่รู้อีกต่อไป…

คุณคนเดียว สามารถเตะเข้าไปที่หว่างขาให้ “ยักษ์” เหล่านั้นสูดปากและล้มกลิ้งได้

สำหรับประเทศไทย ผมกล้าพูดว่า พันทิปเป็นเว็บที่มีผู้ “เข้าร่วม” มากที่สุดในสังคมเว็บบ้านเรา เรื่องการเข้าชม จำนวนฮิต หรือเรตติ้ง ผมไม่กล้ารับรอง แต่ถ้านับจากการมีส่วนร่วม ผมเชื่อว่าเป็นเช่นนั้น

เว็บนี้มิใช่ของใคร แม้ชื่อเจ้าของเว็บจะได้แก่คุณวันฉัตร ผดุงรัตน์ แต่การที่เว็บนี้ดังติดอันดับขึ้นมาได้ มิใช่เพราะใครเขียน แต่เป็นเว็บที่ผู้เข้าร่วมทุกคนมีส่วนร่วมในการเขียน เสมือนเป็นสื่อของคุณ เป็นอำนาจของคุณ พลังของเว็บนี้เกิดจากพลังของผู้เข้าร่วมแต่ละคนๆ รวมกันจนเป็นพลังถ่วงดุลอำนาจ “สื่อ” และ “องค์กร” ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

โดยเฉพาะชุมชนแห่งหนึ่งในพันทิป คือกลุ่มเฉลิมไทย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีพาวเวอร์มากที่สุด ประชาคมเฉลิมไทยเคยปั้น และเคยฆ่า ทั้งหนัง เพลง และดารา ชนิดที่ว่าต่อให้ต้นสังกัดคุณใหญ่แค่ไหนก็ช่วยไม่ได้ และในทางกลับกัน ถ้าของคุณ “ดี” จริง ต่อให้คุณจะหมดแรงแค่ไหน แต่คนพันทิปเฉลิมไทยก็สามารถอุ้มคุณขึ้นมาได้

หนังห่วยๆ แต่โปรโมตแรง สมัยก่อนอาจจะยังพอทำเงินได้ เพราะกว่าที่คนจะรู้ว่าหนังห่วยก็คือต้องเสียงตังค์เข้าไปดูแล้ว อย่างดีก็ได้แต่บ่น หรือบอกเพื่อนสักสองสามคนว่าหนังโหลยโท่ย อย่าไปดูแง่งเลย แต่ถ้าคุณมาบ่นในพันทิป หรือบางคนใจร้ายขนาดหนัก เอาเรื่องย่อมันมาโพสต์เล่าเลย หนังเรื่องนั้นเป็นอันจบเห่… (ซึ่งอันนี้เป็นดาบสองคมเหมือนกันนะครับ เพราะเคยมีคนใช้วิธีนี้ฆ่าหนังดีๆ ตายไปเหมือนกัน)

หรืออย่างโฆษณาที่ตลกแบบไม่รู้กาลเทศะ เช่นมุก “กัปตันนอนกะแอร์ไหม” ในสมัยก่อน ก็เคยถูกจุดขึ้นที่พันทิป ก่อนจะลุกลามไปทั่ว… รวมทั้งโฆษณาบ้านจัดสรรไร้รสนิยมแห่งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ แน่นอนครับว่าทั้งบริษัทเจ้าของสินค้า และผู้คิดโฆษณา ต้องออกมาขอโทษขอโพย และเปลี่ยนโฆษณาชุดนั้นออกไป หรือบางกรณีปากแข็งบอกไม่มีผล แต่แล้วการค่อยๆ ถอนโฆษณาปัญหานั้นออก ก็ตอบโจทย์ได้ประการหนึ่ง

ใช่ว่าเว็บบอร์ดจะให้แต่โทษแก่ฝ่ายทุนเจ้าของกิจการ เว็บบอร์ดนี้เคยให้คุณแก่หนังเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นหนังฟอร์มเล็ก หน้าหนังขายไม่ออกแน่ๆ ฉายได้สามวันโดนลดรอบเหลือไม่ถึงสองวันต่อรอบ แต่ต่อมา เมื่อกระแส “ปากต่อปาก” ถูกจุดขึ้นที่เว็บบอร์ดเฉลิมไทย หนังเรื่องนั้นก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้น จนกระทั่งกลายเป็นกระแสจนกลายเป็นหนังดัง หนังทำเงิน หนังที่ทุกคนต้องดู และโหมให้ดนตรีไทยเดิมกลับมากลายเป็น “กระแสหลัก” ... หนังเรื่อง “โหมโรง” ไงครับ

หรือมีกล้องถ่ายรูปของบริษัทที่ไม่ค่อยโฆษณาอยู่เจ้าหนึ่ง เพราะบริษัทนี้เน้นขายฟิล์มเป็นหลัก แต่ด้วยความที่กล้องที่ว่านี้ มีคุณภาพคุ้มค่าเกินราคามาก เจ้ากล้องนี้จึงถูกนำมาแนะนำในกลุ่มผู้เล่นกล้องในห้อง Blue Planet ของพันทิป (ปัจจุบันแยกตัวออกมาเป็นห้องอิสระแล้ว) มีการนำรูปที่ได้จากกล้องที่ว่านี้มาอวดกัน ผลปรากฏว่า กล้องรุ่นนี้ทำยอดขายได้ถล่มทลาย ขายดียังกะขนมหม้อแกงเมืองเพชรตอนบ่ายๆเสียอีก ผมเคยไปยืนที่หน้าร้านถ่ายรูปไม่กี่นาที มีคนมาซื้อกล้องนี้ไปแล้วสองตัว มาลองอีกตัว อะไรแบบนี้เลย ทั้งๆ ที่กล้องตัวนี้โฆษณาน้อยมาก โฆษณาทางทีวีไม่มีเลยด้วยซ้ำ

ไม่เฉพาะพันทิปเท่านั้น แต่เว็บไซต์อื่นๆที่สามารถเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นได้ ก็อยู่ในสภาพนี้กันหมด คือ ประชาชนสามารถ “สื่อสาร” ถึง “มวลชน” ได้เองโดยไม่มีใครมาจำกัดหรือชี้นำได้ ทั้งนี้ไม่นับเว็บไซต์อีกหลายเว็บ ที่คนธรรมดา เราๆท่านๆ ทำกันเอง เพื่อบอกเล่าสิ่งที่ชอบ หรือสิ่งที่ไม่ชอบ และเผยแพร่ไปให้คนที่สนใจได้เลือกอ่านอย่างจุใจ

เมื่อเว็บไซต์มีพลังมหาศาล ในการให้คุณให้โทษแก่สินค้า บริการ รวมทั้งภาพพจน์ของบุคคลด้วย จึงไม่แปลกว่าจะมีผู้ตระหนักในพลังของมัน เช่นผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ผู้หนึ่งเลือกที่จะยิงโฆษณาในเว็บไซต์ก่อนเป็นที่แรกๆ

และสื่อเองที่รู้ทัน ก็เริ่มปรับตัว เช่นเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ ซึ่งเป็นสื่อสมัยใหม่และมีวิสัยทัศน์แบบผู้นำอย่างที่จริง ที่เปิดโอกาสให้ผู้อ่านสามารถคอมเมนต์บทความหรือข่าวของหนังสือพิมพ์ได้ เรียกว่าถ้าคุณกล้าเขียน คุณก็ต้องกล้ารับฟังความเห็นแย้ง หรือกล้าโดนด่า เพราะว่าการสื่อสารในปัจจุบันหลังยุคเว็บไซต์ ทุกอย่างมันจะเปลี่ยนไป

ใครที่คิดว่า ตัวเองเป็นสื่อแล้วชี้เป็นชี้ตาย พิพากษาสังคมได้ ประทานโทษ – ตกยุคครับ

จากคุณ : M-o-o-Y - [ 15 ก.ค. 47 10:28:23 ]

ความคิดเห็นที่ 116

อย่างไรก็ตาม การควบคุมพลังของเว็บก็เป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง เพราะอย่างที่บอก ว่าข้อมูลที่ปรากฏในเว็บสาธารณะทั้งหลายนั้น เป็นเสียงของประชาชนโดยแท้ เป็นผู้บริโภคที่มีพลังเพิ่มขึ้นจากอำนาจสื่อสารที่ไร้ขีดจำกัดนี้ ถ้าคุณเป็นกลุ่มทุน และสื่อ ที่เคยชี้เป็นชี้ตาย “กระแส” ได้ คุณจะกล้าปล่อยให้ “ปิศาจอินเทอร์เน็ต” (ที่มีพันทิปเป็นเหมือนศูนย์กลาง) สามารถยืนอยู่อย่างโอหังและเติบโตขึ้นเรื่อยๆกระนั้นหรือ?

ปฏิบัติการ “เช็คบิล” จึงเกิดขึ้น และเป็นการเช็คบิลแบบสามัคคีบาทาเสียด้วย บุญชิตฯ ซึ่งเป็นคนบ้าทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด หรือ Conspiracy Theory อยากจะเชื่อว่ามันมีการร่วมมือกันแบบไม่ต้องสุมหัว เพราะทุกคนตั้งใจหรือมีเจตจำนงร่วมกัน ที่จะ “ฆ่า” พลังของชุมชนเว็บไซต์นี้อยู่แล้ว

ทำไมข่าวของเกมส์ออนไลน์อย่างแรกน่าร็อกถึงถูกตีแผ่พิษภัยของมันออกมาอย่างรุนแรงเกินจริง เช่นเด็กขายตัวเอาเงินมาเล่นเกมส์ ทั้งๆที่ปราศจากหลักฐานยืนยัน?

ทำไม “ภาพลักษณ์” ของคนเล่นอินเทอร์เน็ต เช่นผู้ต้องหาคดีน้องย้วย (ที่คุณกล้าสมมติขึ้นในภาค 1) ถึงถูก “สื่อ” บางสื่อ ตีภาพให้คนส่วนใหญ่ (ที่ไม่ได้เล่นอินเทอร์เน็ต) เห็นว่าเป็นโรคจิต หรือ วิปริต

นี่คือคำตอบว่า ทำไมน้องย้วยในโจทย์ตุ๊กตา ถึงตั้งหน้าตั้งตาเอาผิดแต่กับ “เว็บไซต์” ที่ลงภาพของเธอ แต่ไม่มีการแตะต้องหนังสือพิมพ์ใดๆ ที่นำภาพของเธอไปลงอย่างอุจาดตากว่า

นี่คือความพยายามในการ “ปราม” พลังของเว็บได้หรือไม่

หรือว่านี่คือการเชือดแพะคนหนึ่งในประชาคมคนเล่นเว็บไซต์ดู เพื่อให้เกิดความ “แขยง” หรือ ”กลัว” ที่จะพูดถึง “สินค้า” (ไม่ว่าสินค้านั้นจะเป็นสิ่งของหรือเป็นคน) ของกลุ่มทุนในทางลบ เพราะกลัวต้องไปนอน “ห้องกรง” แบบประกันตัวได้แสนยากเย็น เสมือนไปฆ่าคนตายมาก็ไม่ปาน

ที่แน่ๆ ห้อง “โทรโข่ง” ที่เป็นห้องที่เปิดให้ประชาชนมาร้องเรียนเกี่ยวกับความไม่เป็นธรรมที่ได้รับทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนในเว็บพันทิป ถูกปิดตายอยู่ในตอนนี้ เพราะกลัวปัญหาเรื่องการฟ้องร้องกันที่อาจจะมีขึ้น

และเราคงจะได้เห็น การ “โต้กลับ” ที่น่ากลัวต่อประชาคมเน็ต ของ “กลุ่มเจ้าของอำนาจสื่อสารมวลชนเก่า” อีกมากมายตามมา และหากคดี “มือกลอง - มือกรรม” นี้ไม่ยุติลงง่ายๆ รับรองว่าเราได้เห็นกระบวนการโจมตีคนในเน็ตด้วยกฎหมาย (ที่ยังไม่ชัดเจน) อีกหลายเรื่องทีเดียว

ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมสื่ออื่นถึงไม่โดนฟ้องหรือร้องเรียนนั้น เนื่องจากสื่อเหล่านั้น เป็นสื่อที่ ... ผมไม่อยากใช้คำว่าพอจะควบคุมได้ แต่มันก็พอคุยกันได้ ถูกไหม ... การทะเลาะกับสื่อที่พอคุยกันได้เป็นเรื่องไม่ฉลาดเท่าไหร่

แต่การมา “ทะเลาะ” กับ “พลัง” ของคนในเน็ตนั้นฉลาดหรือไม่ประการใด ผมก็ไม่รู้สิครับ...
ผมมาทราบว่า คดีปัญหาของน้องตั๊ก บงกช ผู้เสียหายจากกรณีภาพหลุดในเว็บไซต์ ตอนนี้มีแนวโน้มว่าเธอจะไม่เอาเรื่องกับหนุ่มมือกลองในตำนานแล้ว เพราะเห็นว่าเขาไม่ใช่ “คนผิด” ตัวจริงที่สมควรได้รับโทษ ด้วยเหตุนี้ ...ผมเลยยิ่งเชื่อว่า น้องตั๊กคงไม่ใช่ น้องย้วย จอมพาลพาโล (ตัวตุ๊กตาในภาคหนึ่ง) แน่ๆ ครับ

เพราะการที่น้องตั๊กออกมาถอนฟ้องนี่ เป็นการเดินเกมที่ “ฉลาด” มากๆ และให้ภาพที่สวยงามได้ในสายตาสังคมมากเลยทีเดียว ผิดกับอาการพาลๆ โง่ๆ แบบคำพูดตัวเองรัดคอตัวเองของน้องย้วยในโจทย์ตุ๊กตาเป็นอันมาก

ที่มา http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9470000022063

จากคุณ : M-o-o-Y - [ 15 ก.ค. 47 10:33:53 ]

ความคิดเห็นที่ 117

ความเห็น Stairs way to hell ถามว่า
แล้วถ้าลูกชายคุณต้องอยู่ในคุก 3 วันเพราะถูกคัดค้านการประกันตัว เพื่อเพิ่มยอดจำหน่ายของ Vcd หนังเรื่องนึงล่ะ
นี่ยังไม่นับผลกระทบจากสังคมที่มีต่อเค้าอีกนะ

ถ้าเรามีลูก ก็คงสอนลูกแต่เด็กแล้วว่าทรัพย์สินคนอื่น อย่าไปแตะ ถ้าเขาไม่อนุญาต เพราะตัวเราเองไม่เคยฟอร์เวิร์ดรูปโป๊แอบถ่ายของใคร เพราะเคารพสิทธิส่วนตัวคนอื่น

แล้วถ้าลูกชายเราถูกคุมขังต่อ เพื่อเพิ่มยอดจำหน่ายซีดี ก็คงต้องตำหนิคนทำที่เล่นตุกติก (ตั๊กเป็นคนทำเหรอ) แต่เราก็คงไม่โกรธที่ตั๊กแจ้งความในตอนแรก เพราะเป็นสิทธิของเขา ไม่โกรธที่ถูกแจ้งความ แต่ถ้าแกล้งให้ขังต่อเพื่อเพิ่มยอดซีดี ก็คงไม่ชอบในจุดนั้น แต่ก็ยอมรับในส่วนที่เป็นความผิดของลูกเรา

ที่คุณบอกว่า แล้วผลทางสังคมต่อลูกชายเราล่ะ เราก็คงมองว่ามันเป็นผลของการกระทำของเขาเอง (ทำไมไปโทษตั๊ก อยู่ๆ เธอจะไปหาเรื่องคนที่ไม่รู้จักทำไม มีแต่คนที่เธอไม่รู้จัก เอาเรื่องมาให้เธอ) ตั๊กมีสิทธิแจ้งความเอาผิดคนที่เอารูปเธอไปเผยแพร่ แต่คนที่ต้องรับผิดชอบผลทางสังคมต่อคุณมือกลองคือสื่อมวลชน เพราะเป็นคนเอาเรื่องคุณมือกลองไปลง

งั้นเราถามหน่อยว่า แล้วผลทางสังคมต่อตั๊กล่ะ ที่ตั๊กถูกด่าๆอยู่นี่ เขาไม่ได้รับผลเหรอ ถ้าเรามีลูก สิ่งที่ลูกเราได้รับ ก็คือสิ่งที่เขาทำให้เกิดกับคนอื่นก่อน

แล้วที่คุณถามเราว่า ทำไมตั๊กไม่ฟ้องหนังสือพิมพ์ ฟ้องแต่คุณมือกลอง

ก็แล้วทำไมคุณไม่ไปเอาเรื่องนักข่าวที่ใส่ความคุณมือกลองในแต่ละฉบับ ทำไมมาโทษตั๊กคนเดียว

คนที่ทำให้คุณมือกลองเสียชื่อ คือ นักข่าว ตั๊กแค่แจ้งความตามสิทธิของเธอเฉยๆ

จากคุณ : คนธรรมดาที่ไม่เหยียบดารา - [ 15 ก.ค. 47 11:30:45 A:203.113.61.102 X: ]

ความคิดเห็นที่ 118

เหยื่อของธุรกิจที่กม.เปิดช่องให้

จากคุณ : HMOM - [ 15 ก.ค. 47 12:40:09 ]

ความคิดเห็นที่ 119

สุดยอดเลยค่ะ เป็นมุมมองที่เยี่ยมมากๆเลย

จากคุณ : pupipo - [ 15 ก.ค. 47 14:05:44 ]

ความคิดเห็นที่ 120

ร่วมด้วยช่วยโหวตค่ะ

จากคุณ : กระตู้วู้ - [ 15 ก.ค. 47 17:15:12 ]

ความคิดเห็นที่ 121

เราว่าดารายังไงๆ ก็ไม่เหมือนคนธรรมดา พวกเค้ามีอีกสถานภาพหนึ่งที่ต้องตระหนักมากๆ คือต้องเป็นตัวอย่างที่ดี จะมาอ้างว่า ทำงานศิลปะไม่ได้ ถ้าคุณคนธรรมดาที่ไม่เหยียบดารา ดูหนังเรื่องโหมโรง มีฉากที่ศรต้องทำพิธีครอบครู ครูจะย้ำว่า อย่าเอาดนตรีไปทำร้ายข่มเหงใคร นั่นแสดงว่า ศิลปินต้องมีศีลธรรมกำกับ คตินี้มีเหมือนกันหมดทั้งฝรั่งและไทย ศ.ศิลป์ พีระศรี ท่านสอนลูกศิษย์เสมอว่า ศิลปินต้องมีศีลธรรม ต้องเป็นคนดี งานศิลปะต้องสร้างสรรค์สังคม อย่าทำศิลปะเพื่อขายหรือเพื่อประโยชน์ของตัวเอง อย่าให้งานศิลปะของตัวเองทำให้สังคมเสื่อมทรามลง นี่คือสิ่งที่ศิลปินทุกคนต้องตระหนัก ดังนั้นศิลปินจึงไม่เหมือนคนธรรมดา และเราเห็นว่า ถ้าศิลปินทำเพื่อประโยชน์ของตัวเอง เราในฐานะคนหนึ่งในสังคม ไม่ควรนิ่งเฉย อย่างที่ชาวพันทิพย์ทำอยู่นี้ก็ถูกต้องแล้ว ไม่งั้นเด็กสาวรุ่นๆ นึกอยากจะแก้ผ้าเพราะอยากดัง(แต่อ้างเพื่อศิลปะ) ก็ทำได้ เพราะคนนั้นคนนี้ก็เคยทำมาก่อน ถามว่าหากปล่อยไปแล้ว สังคมส่วนรวมจะเป็นยังไง คนรุ่นเรานี่แหละที่ต้องรับผิดชอบ

จากคุณ : เอเธนา - [ 15 ก.ค. 47 20:03:36 ]

ความคิดเห็นที่ 122

กล้องที่กล่าวถึงจากเว็บผู้จัดการ คือยี่ห้อ และรุ่นอะไรครับ

จากคุณ : Rambler - [ 15 ก.ค. 47 22:39:19 ]

ความคิดเห็นที่ 123

โอ้... คิดได้ไง ชอบอ่ะ โหวต ๆ

จากคุณ : maldive - [ 16 ก.ค. 47 01:11:31 ]

ความคิดเห็นที่ 124

ความเห็นที่121
คุณเอเธนาพูดถูกที่ว่า เป็นดาราควรเป็นตัวอย่างที่ดี ถูกต้องแล้วค่ะ

ศิลปินไม่ควรถ่ายรูปโป๊ ตั๊กทำไม่ถูกที่ถ่ายภาพล่อแหลม แต่บทลงโทษจากสังคม ไม่ใช่การเอารูปโป๊ของเธอไปกระจายนะคะ(ไม่ควรโทษคุณมือกลองคนเดียว โทษทุกคนที่กระจายรูป)

บทลงโทษที่สังคมควรทำ คือ ถ้าหนังเรื่องไหนมีภาพโป๊ ก็อย่าไปอุดหนุน หนังเรื่องไหนไม่โป๊ จึงอุดหนุน ดาราที่ถ่ายโป๊เห็นอย่างนี้ ก็จะเลิกถ่ายโป๊ไปเอง

ถึงแม้ว่าเราจะเห็นว่าตั๊กทำไม่ถูกเรื่องถ่ายโป๊ แต่เราก็ไม่มีสิทธิละเมิดสิทธิส่วนตัวของเธอ ตัวเราเองเกลียดเพื่อนบางคนมากๆ แต่เราก็ไม่ไปแตะต้องทรัพย์สินส่วนตัวของเขานะ

สังคมไทยมีวัฒนธรรมพอที่ "สกัดกั้น" คนที่ทำไม่ถูก (เช่นถ่ายโป๊)อย่างมีเหตุผลและ "เคารพสิทธิส่วนตัวกัน"

ถ้าตั๊กทำไม่ถูกที่ถ่ายโป๊ ก็อย่าไปดูหนังโป๊ที่เธอเล่น แต่ถ้าตั๊กเล่นหนังไม่โป๊ ก็ไปดูได้ตามใจชอบ (เกลียดพฤติกรรม แต่ให้โอกาสปรับตัว คือน้ำใจคนไทย)

ไม่ใช่ว่า พอเราไม่ชอบที่ดาราถ่ายโป๊ แล้วไปกระจายรูปโป๊ที่เจ้าของไม่ยินยอม มันไม่ใช่วิสัยของสังคมไทยที่มีวัฒนธรรมดีงามและเคารพสิทธิส่วนตัวคนอื่น

ถึงไม่ชอบใคร แต่ก็ต้องเคารพสิทธิส่วนตัวของเขา ถ้าวันหนึ่งเรารู้จักคุณเป็นการส่วนตัว ต่อให้เราไม่ชอบคุณอย่างไร ก็จะไม่แตะต้องทรัพย์สินส่วนตัวของคุณเป็นอันขาด

จากคุณ : คนธรรมดาที่ไม่เหยียบดารา - [ 16 ก.ค. 47 01:21:50 A:203.113.61.107 X: ]

ความคิดเห็นที่ 125

กระทู้นี้บอกว่า การเอารูปโป๊มาเผยแพร่เป็นการปกป้องสังคมไทยไม่ให้เสื่อมทราม

ถามว่า
การเอารูปโป๊ไปเผยแพร่ (ไม่ใช่คุณมือกลองคนเดียวแต่ทุกคนที่ทำ) ทำให้สังคมไทยดีขึ้นตรงไหน (ไม่อยากให้เด็กๆอยู่ในสังคมที่ทุกคนช่วยกันกระจายรูปโป๊เพื่อแก้แค้นดาราถ่ายโป๊นะคะ)

การเอารูปโป๊คนอื่นไปกระจายไม่ได้ทำให้คนเลิกถ่ายโป๊หรอก

คนจะเลิกถ่ายโป๊ เพราะไม่มีคนดูหนังโป๊ ซื้อภาพโป๊ต่างหาก เพราะไม่มีเงินตอบแทนต่างหาก

จากคุณ : ต่อ - [ 16 ก.ค. 47 01:30:57 A:203.113.61.107 X: ]

ความคิดเห็นที่ 126

แต่เพื่อความยุติธรรม ก็ขอพูดถึงคุณมือกลองว่า เขาก็แค่คนสนใจดาราคนหนึ่ง ไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร แล้วรูปตั๊กก็แพร่หลายอยู่แล้ว คุณมือกลองไม่ใช่ต้นตอ

โทษที่ควรได้รับ น่าจะอยู่ที่การปรับเงินก็พอ ไม่ควรจะถูกขัง และสื่อมวลชนไม่ควรลงชื่อจริงและรูปของเขา

ถ้าตั๊กแจ้งความ แล้วสื่อมวลชนไม่ลงรูปและชื่อจริงของคุณมือกลอง คุณมือกลองก็ยังสามารถตกลงกับตั๊กได้โดยไม่เดือดร้อนทางสังคมแต่อย่างไร

คุณมือกลองจึงได้รับโทษหนักกว่าที่ควร ตรงนี้ขอเป็นกำลังใจให้ แต่ถ้าจะโกรธ น่าจะโกรธคนที่ถ่ายรูปคุณ และเอาชื่อคุณไปลงนะคะ

จากคุณ : คนธรรมดา - [ 16 ก.ค. 47 01:52:39 A:203.113.61.107 X: ]

ความคิดเห็นที่ 127

อ่านความเห็นของคุณคนธรรมดาที่ไม่เหยียบดาราแล้ว
เหมือนเถียงข้าง ๆ คู ๆ นะ

ยังไงบอกไม่ถูก

จากคุณ : Yamada (tazarn) - [ 16 ก.ค. 47 04:53:47 ]

ความคิดเห็นที่ 128

...

จากคุณ : zarzia - [ 16 ก.ค. 47 11:47:19 ]

ความคิดเห็นที่ 129

เห็นด้วยนะคับ ....

จากคุณ : ปลาโลมา_:P - [ 16 ก.ค. 47 12:48:05 ]

ความคิดเห็นที่ 130

จับประเด็นได้ตรงใจผมมากเลยครับ ยอดเยี่ยมจริงๆ

จากคุณ : ทอฟฟี่สีน้ำเงิน - [ 16 ก.ค. 47 13:27:02 ]

ความคิดเห็นที่ 131

1 vote

จากคุณ : tawan - [ 16 ก.ค. 47 16:44:58 ]

ความคิดเห็นที่ 132

vote

จากคุณ : อ๊อดน้อยใส่แว่น - [ 16 ก.ค. 47 17:43:23 ]

ความคิดเห็นที่ 133

1 vote krub pom

จากคุณ : mariachi - [ 16 ก.ค. 47 22:10:37 ]

ความคิดเห็นที่ 134

^^

โอเชเรยยย

จากคุณ : ที่จริงแล้วเป็นเทวดา - [ 16 ก.ค. 47 22:28:15 ]

ความคิดเห็นที่ 135

1 เสียง

จากคุณ : ิbabynoke - [ 16 ก.ค. 47 23:13:43 ]

ความคิดเห็นที่ 136

เสี่ยเจียง ค้านถอนแจ้งความ "คุณมือกลอง"

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A2917107/A2917107.html

เอ ! หรือว่าคุณมือกลองไม่ใช่คนไทย ? f_thailand

เพราะเสี่ยเขาบอกว่า "เราคนไทยด้วยกันมีอะไรก็พูดกันได้ คนไทยไม่ฆ่าคนไทยด้วยกันหรอก"

เฮ้อ...เป็นห่วงคุณมือกลองจัง...อย่าคิดมากหล่ะ

จากคุณ : วงศ์เดือน - [ 17 ก.ค. 47 02:53:43 ]

ความคิดเห็นที่ 137

ขอแสดงความเห็นด้วยอีกคนนะคะ
สงสัยจริงๆในประเด็นที่ว่า ตอนแรกที่คุณ ต.
ยังอยู่ในสังกัดแกรมมี่ คุณ ต. พยายามบอกว่า
มันเป็นงาน เป็นการแสดง เป็นศิลป์ แต่พอย้าย..
ทีนี้กลับออกมาฟ้องกันซะอย่างงั้น

จากคุณ : มดตะนอย - [ 17 ก.ค. 47 11:36:41 A:202.59.255.6 X: ]

ความคิดเห็นที่ 138

เห็นด้วยอย่างยิ่งจริงๆแล้ว อัยการและ ตร.น่าพิจารณานะ
ว่าเป็นการแจ้งความเท็จรึเปล่า!!

จะหมิ่นประมาทได้ไง ก็เจ้าตัวยังเคยตั้งใจอยากให้นมตัวเองผ่าน กบว.ซะเลย ทีนมกระจายทางเนททำเป็นโวยวายจะเอาคนอื่นเข้้าคุก

จะให้ใครเห็นใจน้องต. ก็ควรเห็นใจคนอื่นที่เดือดร้อนกันบ้างนะ หรือสังคมควรมีมาตรการสั่งสอนคนอย่างน้องต.กันบ้างแล้ว ไม่ใช่มาอ้างคุณงามความดี ทำงานเลี้ยงแม่ ฯลฯ แล้วเรื่องอื่นจะถูกหมดดีหมด

จากคุณ : เบื่อเธอเหลือเกิน!! - [ 18 ก.ค. 47 00:43:54 A:10.21.2.200 X:202.44.14.194 ]

ความคิดเห็นที่ 139

อืม ผมว่าเป้นประเด่นที่น่าสนใจมากครับ ชอบมากในมุมมองนี้

ของเป็นกำลังใจให้คุณโจ้ในการสู้คดีต่อไปนะฮะ

จากคุณ : igunn - [ 18 ก.ค. 47 23:30:25 ]

ความคิดเห็นที่ 140

เรายอมรับว่าทุกคนมีสิทธิส่วนบุคคลอ่ะแต่ แต่กรณีที่ว่าเป็นดาราแน่นอนดาราเป็นคนของประชาชน
ในการทำอะไรๆ ก็แล้วแต่มันอยู่ในสายตาประชาชน ซึ่งตรงนี้ คุณ ต. ต้องยอมรับด้วย ดาราเป็นผู้นำเสนอ สื่อต่างๆมาสู่ ประชาชน มีอำนาจในการนำเสนอมากกว่าประชาชนคนธรรมดา ภาพที่ออกมาดีหรือไม่ดี ประชาชนคือผู้ตัดสิน
ในกรณีของคุณต. เรามองว่าเธอเป็นคนนำเสนอสื่อ ขณะเดียวกัน คุณโจ้ก็เป็นตัวแทนของประชาชนในการตัดสินว่าสื่ออย่างนี้ควรจะมีออกมาหรือไม่ ด้วยวิธีการให้คนอื่นช่วยกันตัดสิน โดยคุณโจ้ได้ทำคาดหัวนมเพื่อป้องกันการอุจาทย์ เอาไว้เพื่อให้คนอื่นรวมแสดงความคิดเห็น ฉะนั้นตรงนี้เราว่าถ้าคุณต.ยอมรับและเข้าใจในบทบาทของหน้าที่การเป็นดารา ก็อาจจะมีเรื่องไม่มาถึงขั้นนี้ก็ไำด้ คุณคนธรรมดาที่ไม่เหยียบดาราตามจริงคุณก็มองในแง่ของคุณก็ถูก ที่ว่าเค้ามีสิทธิปกป้อง สิทธิส่วนตัวของเค้าแต่ ให้มองย้อนกลับไป
ประการแรก คุณต.เคยจะเอาสิทธิส่วนตัวที่คุณบอกว่าเค้ามีสิทธิปกป้อง เนี่ย ออกมาให้ประชาชนได้ยลโฉมแล้วโดยการที่เรียกร้องขอให้ไม่มีการเซนเซอร์ภาพโดยที่เธออ้างว่าเพื่อศิลปะของการแสดง ซึ่งถ้า สมมุติว่า กองเซนเซอร์ให้ภาพนั้นผ่านจะเกิดอะไรขึ้นกับเยาวชนคนดู

ประการที่สอง เรื่องของความตั้งใจ คุณต.เธอไม่ได้ตั้งใจแต่แรกแล้วว่าจะให้ การถ่าย shot นี้เป็น shot ที่ห้ามเปิดเผย สังเกตได้โดยการเรียกร้องให้กองเซนเซอร์ ไม่แบนภาพดังกล่าว อันนี้คือความตั้งใจที่เธอออกมาโวยวายตอนแรก แต่มาถึงณ เวลานี้ภาพดังกล่าวถูกเปิดเผยทางเน็ต เธอออกมาเรียกร้องขอคามเป็นธรรม ฉะนั้นมันจึงขัดๆกันอยู่ในที รวมทั้งอีกอย่างคุณ ต.เธอ นับได้ว่าเป็นแค่เยาวชน ขอถามว่าเยาวชนมีความผิดไม๊ที่ถ่ายภาพแบบนี้ ต่อให้ ไม่มีการเผยแพร่ในทางใดๆ หรือเป็นการถ่ายเป็นการส่วนตัวก็ตามที ใช่ สิทธิส่วนบุคคลพึงมีพึงรักษา แต่ ว่าต้องดูด้วยว่าสิทธิส่วนบุคคลที่มันมีขึ้น มันเหมาะมันควรไหม ถ้าอย่างนี้เด็กมอสามอยากถ่ายภาพเปลือยบ้างให้เพื่อนหรือให้แฟนถ่ายให้ วันดีคืนดีมีคนเอามาโพส ในทำนองว่าเด็กตัวแค่นี้ถ่ายภาพนี้แล้วหรือ อยากถามว่าใครเป็นคนผิด คนโพสที่หวังดีอยากให้เด็กไทย ไม่เอาแต่หมกหมุ่นเรื่อง xx หรือเด็กไทย ที่อยากจะโตเกินวัยและวาดหวังอนาคตไว้อยากจะเป็นดาวโป๊ ( กรณีนี้เป็นการยกตัวอย่าง)
เราสนับสนุนกับประโยคนี้อย่างยิ่ง
คนของกระทรวงไอทีบอกว่าคุณตั๊กเค้ามีสิทธิปกป้องตัวเอง
คุณโจ้ก็มีสิทธิที่จะปกป้องสังคมของเราไม่ให้เสื่อมทรามได้

จากคุณ : moonny - [ 19 ก.ค. 47 13:12:48 ]