ความคิดเห็นที่ 1 ผมก็ชอบ John Barry ครับ Somewhere In Time ก็เป็นซีดีแผ่นที่ซื้อแผ่นแรก ๆ เลย นอกจาก SIT แล้ว งานของจอห์นแบร์รี่ ที่จะได้ยินบ่อย ๆ ก็คือ Out of Africa และก็ Dances with Wolves (นึกชื่อหนังอยู่นาน จะนึกเป็นแต่ John Dunbar's Theme) จริง ๆ ฟังไปเรื่อย ๆ งานของแบร์รี่จะซ้ำกันเยอะครับ ทำนองไม่ซ้ำแต่สไตล์มันจะซ้ำ ๆ เรียกว่าฟังปุ๊บรู้ปั๊บครับ พอพักหลัง ๆ นี้ แกเบื่อ หรือมีคนว่าแกเรื่องแต่งซาวด์ซ้ำ ๆ หรือไงไม่รู้ ก็ไม่ค่อยทำสกอร์ออกมาแล้ว เรื่องท้ายสุดที่เห็นก็ Enigma นั่นแหละครับ ความที่ดนตรีแกเป็นเอกลักษณ์(พยายามใช้คำให้ดูดี ^ ^") ตอนที่เล่นทายสกอร์กัน ผมเคยเอา สกอร์ของ DwW มาทาย แล้วมีคนทายว่าเป็น Out of Africa อ่ะครับ แต่เชื่อไหมครับ ผลงานสร้างชื่อของแกคือ เจมส์ บอนด์ อ่ะ เมื่อก่อนแกดังนะครับ สูสีกะปู่จอห์นอีกคน (จอห์น วิลเลี่ยมส์) เลย ผมเคยนึกว่าคอมโพเซอร์ดัง ๆ นี่ต้องมีชื่อตัว J รึเปล่า (นอกจากปู่จอห์น 2 คนข้างต้นแล้ว ยังมี Jame Horner อีกคน) ฮ่าๆๆ จากคุณ : ช่างไม้ - [ วันอาสาฬหบูชา 21:58:16 ]

ความคิดเห็นที่ 2 Score นี่เป็นดนตรีบรรเลงเฉยๆ ใช่มั้ยครับคุณช่างไม้ แล้วเพลงที่มีเนื้อร้องเนี่ยะเค้านับเป็น Score ด้วยรึเปล่า คือชอบฟังเพลงเหมือนกัน น่ะครับ แต่ไม่เคยฟัง Score กับเค้าซักกะที หนังเรื่องนึงนี่เค้าแต่งดนตรีบรรเลงขึ้นมาใหม่เลยเหรอครับ นึกว่าเค้าไปเอาจากที่มีอยู่มาประกอบซะอีก แล้วที่บอกว่าเป็น album score เนี่ยะ เป็นดนตรีบรรเลงทั้งalbum เลยเหรอครับ ทำไมหนังเรื่องนึงมันมีดนตรีบรรเลงประกอบได้เยอะขนาดนั้นเลยเหรอครับ หรือว่ามันจะรวมกับเพลงประกอบหนังอื่นๆ ที่มีเนื้อร้องด้วย แหะๆ ถามเยอะไปหน่อย แต่อยากรู้กั๊บเพราะชอบฟังเพลงมั่กมาก จากคุณ : Tan - [ วันเข้าพรรษา 00:41:21 A:202.133.182.1 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าเป็นหนังโรงนะคะคุณTan เค้าจะแต่งเพลงบรรเลงใหม่หมดเลย ไม่ได้เอาของเก่ามาใช้ หรือว่าถ้าเอาของเก่ามาใช้เค้าก็ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ด้วยค่ะ แม้แต่การเล่นมุขเอ่ยชื่อเพลง หรือหนังเรื่องอื่นก็ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์เหมือนกัน เอ หลงมาเรื่องลิขสิทธิ์ได้ไง เอาเป็นว่าเค้าแต่งใหม่เล่นใหม่หมดแล้วกันค่ะ ยกเว้นอัลบั้มพวก noting hill, my bestfriend wedding ที่อย่างนั้นก็เหมือนเป็นอัลบั้มรวมเพลงรักมากกกว่า จากคุณ : booklovers - [ วันเข้าพรรษา 07:51:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อ่า ไม่แน่นะคะพี่บุ๊คจัง อย่าง score ของ The Pianist ที่ไม่ได้แต่งใหม่เลยซักกะเพลง นั่นก็เรียกว่า score อ่ะ เอาของคลาสสิคมาใส่เค้าก็เรียกว่า score นิ ล่าสุด .. อัลบั้ม Spider-Man 2 เนี่ย มีเพลงบรรเลงอยู่สองเพลง ที่เหลือเป็นเพลงร้องหมด (ฮือ) ยังเรียกว่า score เลยอ่ะ เซฯ ก็ชักจะงงแล้วเหมือนกันว่าอย่างไหนเรียกว่าอะไรกันแน่ (ใครเจอคุณต้นขา ไปเรียกมาตอบหน่อยจิคะ ฮ่า) จากคุณ : Seven Of Nine - [ วันเข้าพรรษา 17:32:14 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สวัสดีครับ ตามความเห็นของผม "Somewhere in Time" เป็นหนึ่งในสอง scores ที่หวานที่สุดในรอบ 25 ปี (อีกชิ้นหนึ่งคือ "Cinema Paradiso" (1988) ของ Ennio Morricone) แต่ score ของ John Barry ที่ผมชอบมากที่สุด คือ "The Lion in Winter" (1968) ครับ ร่อง "Main Title" ปู่จอห์นแต่งเป็นแนวเพลงสวดในโบสถ์แบบยุคกลาง มี choral เป็นภาษาลาตินระทึกใจมาก หนึ่งในห้าของราววัล Oscars ที่เขาได้ ก็มาจากหนังเรื่องนี้ครับ Scores ที่ John Barry แต่งให้หนัง James Bond ที่ผมชอบ คือ "Goldfinger" (1964) กับ "From Russia With Love" (1963) ครับ ตอนนี้ยังเศร้ากับการจากไปของ Jerry Goldsmith เมื่อวันที่ 21 เดือนที่แล้วไม่หายเลยครับ เป็นการศูนย์เสียที่ใหญ่มากของวงการดนตรีประกอบภาพยนตร์ คิดว่าเป็นการสิ้นสุดของยุค Silver Age ของ film music อย่างแท้จริง ผมฟังเพลง lullaby "Carol Anne's Theme"  ที่ลุงเจอร์รี่แต่งให้กับภาพยนตร์เรื่อง "Poltergeist" (1982) และ Overture จาก "Masada" (1981) ทุกวันตั้งแต่วันที่เขาเสีย ... แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 47 03:55:53 จากคุณ : A Muggle - [ 2 ส.ค. 47 03:41:38 ]

ความคิดเห็นที่ 6 John Barry เนี่ยนะ แบบว่า คนละทางกะผมเลย ที่ผมรู้จัก (เคยได้ลองฟัง) ก็มี Dances with Wolves กะ Mary Queen of Scots โอ้โห สวยสดงดงาม ไม่เข้ากับหน้าผมเลย ก็เลยมาฟัง 007 ทั้งหลายทั้งแหล่ อืม มันพอจะเข้ากับหน้าบ้าง แต่ดันไม่ใช่แฟน 007 ดูไปอย่างงั้นแหล่ะ ก็เลยไม่อิน ก็เหลือแต่ Enigma คือว่าหนังเนี่ย ไม่เคยดู -_-" แต่ชอบสกอร์หวานซึ้ง... ซะที่ไหนล่ะ ชอบร่องที่ 3 Police Chase ต่างหาก ฟังแล้วลุ้นดี ป.ล. กร๊ากกก คุณมักเกิ้ลใช้คำว่าร่อง จากคุณ : Elf-Oil (น้ำมันพราย) - [ 3 ส.ค. 47 10:54:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ^^ โอ้ Somewhere in Time เพิ่งรู้ว่าหวานที่สุดจริงๆ (บังเอิญจับพลัดจับผลูไปซื้อสกอร์เก่าๆมาฟังอ่ะค่ะ) ในอัลบั้ม Classic 2002 ก็มีเพลงของท่านแบร์รี่ด้วยสองเพลงค่ะ ฟังทีไรก็ซาวด์นี้ตลอด ใช่จอห์นแหงๆ อะไรแบบนี้ ท่านน้ำมันพราย ไม่เข้ากับใบหน้าขนาดนั้นเลยเหรอ แต่อันที่จริง มันก็หวานจริงๆอ่ะแหละ แต่ฟังไปฟังมาชวนหลับสบายดี (อ่าวว ฟังเพลงไว้กล่อมเองเหรอ^^") จะว่าไปฟังไปฟังมามันก็ซ้ำๆจริงแหละ (หรือเค้ามีแค่อารมณ์เดียวหนอท่านแบร์รี่) ปล.ขอบคุณบุ๊คจังมากค่ะที่อธิบาย (จริงๆก็ไม่รู้เหมือนกันว่า สกอร์กะเพลงประกอบมันต่างกันยังไง) เอ นึกอะไรได้เดี๋ยวมาอีกค่ะ จากคุณ : นานานะจัง - [ 5 ส.ค. 47 12:48:03 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าเป็น John Barry เราชอบ Out of Africa มากกว่า Somewhere in Time แฮะ ไม่รู้เป็นไง เราว่าเรื่องหลังนี่สกอร์มันหวานไปมั้ง ฟังแล้วน่าเบื่อ ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วออกจะชอบแนวหวาน ๆ ซึ้ง ๆ นะ แต่ส่วนตัวจริง ๆ ชอบ Ennio Morricone แต่งเพลงได้ทั้งหวาน ทั้งเศร้า โดยเฉพาะ Cinema Parasio, Love Affair แล้วก็ Malena Theme ฟังแล้วอยากร้องไห้ ได้อารมณ์มากกก จากคุณ : chavalito - [ 7 ส.ค. 47 14:03:55 ]

ความคิดเห็นที่ 9 โปรโมทกระทู้หน่อยๆ ไปฟังสกอร์ที่เราแปะเอาไว้ (หรือจะทายเล่นๆก็ได้ แต่เฉลยแล้วค่า) http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A2948546/A2948546.html พูดถึง Out of Africa ก็มี theme มาให้ฟังพอดีเลยค่ะ ^^~ ให้คุณ chavalito ไฟล์เสียง จากคุณ : นานานะจัง - [ 7 ส.ค. 47 15:06:19 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่ค่อยถูกกับ midi แฮะ จากคุณ : Elf-Oil (น้ำมันพราย) - [ 7 ส.ค. 47 20:29:24 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สวัสดีครับ เอา Track "Main Titlle" จาก "The Lion In Winter" ของปู่จอห์นมาฝากครับ เผื่อมีใคร สนใจอยากฟังสกอร์แบบไม่หวานของท่านบ้าง ... d/l ได้ที่นี่ครับ http://www.geocities.com/a_muggle15/John_Barry_Main_Title_The_Lion_In_Winter.mp3 (คลิ๊กขวาที่ลิงก์ แล้วกด Save Target As) คุณน้ำมันพรายครับ อืม ผมเรียกว่า "ร่อง" แทน "Track" เพราะนึกไม่ออกว่าภาษาไทยควรใช้คำไหนดีครับ จากคุณ : A Muggle - [ 7 ส.ค. 47 21:17:36 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ท่านที่สนใจสกอร์ทั้งแผ่นของ "Somewhere In Time" ขอเตือนหน่อยนะครับว่า CD มีสองเวอร์ชั่น คือภาคที่ใช้ในหนัง หน้าปกเป็นอย่างงี้ ความยาวประมาณ 31 นาที มี 9 ร่อง (กร๊าก "ร่อง" อีกแล้ว อิอิ) 1. Somewhere in Time 2. The Old Woman 3. The Journey Back in Time 4. A Day Together 5. Rhapsodyon a Theme of Paganini 6. Is He the One? 7. The Man of My Dreams 8. Return to the Present 9. Theme from "Somewhere In Time" หน้าปกเป็นอย่างงี้ จากคุณ : A Muggle - [ 7 ส.ค. 47 21:23:36 ]

ความคิดเห็นที่ 13 และอีกภาคที่เอามาบรรเลงใหม่โดย John Debney (คนนี้ก็เป็น film music composer เหมือนกัน) ของบริษัทซีดี Varese Sarabande ความยาวประมาณ 42 นาที มี 19 ร่อง .. ยาวขึ้นมานิดหนึ่ง ผมว่าเวอร์ชั่นที่ลุงจอห์นบรรเลงน่าฟังกว่าครับ .. แต่ถ้าใครสนใจเวอร์ชั่นเต็ม ขอแนะนำให้ซื้อเวอร์ชั่นนี้ครับ 1. Somewhere in Time 2. Old Woman 3. Grand Hotel 4. Nineteen Twelve 5. Thanks 6. June 27th 7. Room 417 8. Attic 9. Near the Lake 10. Rachmaninoff: Rhapsody on a Theme of Paganini - Piano Solo: Lynda Cochrane 11. Is He the One? 12. Day Together 13. Rowing 14. Man of My Dreams 15. Razor 16. Total Dismay 17. Coin 18. Whimper 19. Somewhere in Time [End Credits] จากคุณ : A Muggle - [ 7 ส.ค. 47 21:26:44 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณครับคุณมักเกิ้ล ดนตรีแบบนี้ค่อยฟังรู้เรื่องหน่อย -_-" จากคุณ : Elf-Oil (น้ำมันพราย) - [ 9 ส.ค. 47 23:14:17 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณมักเกิ้ล มี somewhere in time แบบไม่ใช่มิดี (มิร้าย เอ๊ย ไม่ช่าย)บ้างมั้ยคะ อยากได้ แง้วๆๆ หรือ crazy dog ก้อได้ค่ะ ขอบคุณมั่กๆค่ะ_/\_ จากคุณ : นานานะจัง - [ 13 ส.ค. 47 16:59:27 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมมีแผ่นซีดีครับ คุณนา สนใจบ่... ถ้าว่ากันถึง สกอร์โรแมนติก ของผมเองจะให้ Romeo and Juliet ของ Nino Rota นะ จากคุณ : ช่างไม้ - [ 20 ส.ค. 47 02:37:31 ]