PANTIP.COM : A2949007 ทำไม หญิง ต้อง "ดอกทอง"ครับ{แตกประเด็นจาก A2948054} [กระทู้นอกเรื่อง]

ความคิดเห็นที่ 25

ที่มาของคำว่า "E ดอกทอง"
มีคนถามผมไว้ที่กระทู้ http://pantip.inet.co.th/cafe/klaibann/topic/H643130.html
เผอิญเมื่อนานมาแล้ว ผมเขียนเรื่องที่มาของสำนวน "ไกลปืนเที่ยง" ไว้ที่โต๊ะหว้ากอ
แล้วก็มีคนถามเรื่องที่มาของคำว่า "ดอกทอง" ด้วยเหมือนกัน
ก็มีคนช่วยตอบไว้หลายแนว จึงอยากเอามาเผยแพร่ให้ได้ทราบกัน
ลองอ่านดูละกันนะครับ...ดีๆทั้งนั้น...

@ คำว่าดอกทอง มาจากการเปรียบเทียบผู้หญิงกับดอกไม้ประเภทต่างๆ สำหรับดอกทองกวาว ซึ่งสีสวย แต่ไม่มีกลิ่นหอม
ใช้เทียบกับผู้หญิงที่สวยแต่ไม่งามครับ

จากคุณ : PUFF - [8 ม.ค. 16:35:15]

@ ที่ผมทราบมาก็อย่างที่คุณ PUFF ตอบไว้นั่นแหละครับ
--------------------------------------------------------------------------
มีคาถาภาษาบาลีบอกไว้ว่า...

รูปโยพฺพนสมฺปนฺนา
วิสาลกุลสมฺภวา
วิชฺชาหินา น โสภนฺติ
นิคฺคนฺธา อิว กึสุกา.

"ผู้ที่มีรูปงามและอยู่ในวัยขบเผาะ
ทั้งเกิดในตระกูลที่มั่งคั่ง
แต่หากไร้วิชาความรู้ ก็ดูไม่งาม
ดุจดังดอกทองกวาวซึ่งไม่มีกลิ่นหอม ฉะนั้น"

ดอกทองกวาวนั้นมีสีแดงสดสวย แต่ไม่มีกลิ่นครับ
(สวยแต่รูป แต่จูบไม่หอม)

จากคุณ : "M" / intania2000@hotmail.com - [9 ม.ค. 12:11:09]

@ เคยอ่านพบในหนังสือเล่มหนึ่งตั้งแต่ยังเด็กว่า.......
มีเจ้านายท่านหนึ่งไปพักแรมในจังหวัดทางเหนืออันเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นแหล่งสาวงามของแผ่นดิน
ซึ่งบริเวณในเมืองในขณะนั้น ก็มีต้นทองกวาวออกดอกสะพรั่งอยู่เต็มไปทั่ว
เย็นนั้นท่านให้เรียกหาคนสนิทหลาย ๆ คน ปรากฎว่าไม่มีผู้ใดอยู่เลย
เนื่องจากลงไปเที่ยวในเมืองกันหมด
ท่านจึงเปรยปรารภว่า "มันคงลงไปหาพวก E ดอกทองกวาวกันหมดแล้วกระมัง"

จำข้อมูลได้ไม่ครบ ทั้งไม่มีที่มาที่แน่นอน
จริงเท็จประการใดต้องขอกราบอภัยมา ณ ที่นี้

จากคุณ : E ดิ้วทอง - [9 ม.ค. 13:55:11]

@ ในภาษาจีนและมลายู มีคำว่า loktong หมายถึงหญิงแพศยา หญิงใจง่าย โสเภณี
เป็นคำเดียวกับ ดอกทอง ครับ

จากคุณ : Bookaholic - [9 ม.ค. 20:53:22]

@ คำนี้เป็นคำที่ดูหมิ่นผู้หญิงอย่างรุนแรงที่สุด แต่ชายที่ประพฤติตัวสำส่อนล่ะคะ มีคำประนามที่ดูหมิ่นนี้หรือก็เปล่า
มนุษย์เรานี่ก็แปลกดีนะคะ พฤติกรรมที่มีเพื่อสืบต่อเผ่าพันธุ์ของตัวเองแท้ๆ เอามาใช้ด่าประชากรครึ่งหนึ่งของตัวเอง
จะเป็นเพราะจะได้ผูกขาดพฤติกรรมที่ว่าไว้ให้เพศเดียว(ที่ไม่ถูกด่า)เท่านั้นมั้ยคะ

จากคุณ : พวงร้อย - [10 ม.ค. 05:58:48]

@ เคยอ่านในหนังสือ (ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นศิลปะวัฒนธรรม) บอกว่าเมื่อก่อนมีสถานเริงรมย์ (ซ่อง) ที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่ง
มีดอกทองกวาวปลูกไว้หน้าบ้าน
เวลาหนุ่มๆ จะไปเที่ยวเลยเยกกันติดปากว่า "ไปบ้านดอกทอง" เลยติดมาถึงสมัยนี้

จากคุณ : นกเป็ดน้ำ - [21 ม.ค. 20:23:51]

@ จริงจริงแล้วคนโบราณเขาเปรียบกับดอกไม้ของพืชเมืองไทยเรานี่แหละครับ
ชื่อว่าต้นทองเป็นไม้ในป่า ดอกโดนแล้วคัน เขาเลยเปรียบกับผู้หญิงที่มักจะคันครับ

จากคุณ : ดอกทองตัวจริง - [14 ม.ค. 09:01:01]

@ ผมยังไม่ใจว่า คำว่า E ดอกทอง กับ ตัวละครของท่านสุนทรภู่ ที่ชื่อว่า "นางสุวรรณมาลี"
จะมีอะไรเกี่ยวเนื่องกันหรือเปล่า เพราะ พฤติกรรม น่าจะเกี่ยวกันจริง ๆ เสียด้วยสิ......
ถ้าเป็นดังนั้น น่าจะสรุปได้ว่า เนื่องจากอิทธิพลของวรรณกรรม มากกว่า สมมติฐานเป็นอย่างอื่น

จากคุณ : อุดม - [14 ม.ค. 16:33:35]

@ คุณอุดมคะ ดิฉันคิดว่าไม่เกี่ยวกับนางสุวรรณมาลีหรอกค่ะ เพราะถ้าดิฉันจำไม่ผิด นางสุวรรณมาลีน่ะ
นางเอกของเรื่องนะคะ แล้วนางก็เป็นคนดีด้วยค่ะ

จากคุณ : fay - [21 ม.ค. 09:36:33]

@ ก็ต้องให้มันทันยุคครับ เดี๋ยวนี้มี "E คอมเมอร์ส"
ก็ต้องมี "E ดอกทอง" มั่ง ที่มาก็น่าจะอินเตอร์เน็ตละมั้ง

จากคุณ : Old coconut - [9 ม.ค. 13:33:15]

@ คนที่เป็นกามโรคชนิดหนึ่ง จะมีตุ่มเหลืองๆ ขึ้นตามตัว
เค้าก็เรียกว่าดอกทองกัน
คงเอาลักษณะนั้นมาด่ากัน

จากคุณ : we - [19 ม.ค. 22:16:46]

@ คำว่า Dอกทองนั้นมีรากศัพท์มาจากภาษาจีนแต้จิ๋วครับ
โดยในภาษาจีนออกเสียงว่า หลกโท๊ง มีความหมายว่า
หญิงที่ประพฤติตัวสำส่อน
คนแต้จิ๋ว ใช้คำนี้บ่อยๆในไทย คนไทยจึงเรียนรู้ที่จะใช้บ้าง
แต่เพียนมาเป็นเสียงที่เรียกง่ายและคุ้นหูคือ Dอกทอง
และโดยที่เป็นคำที่ใช้กับหญิงโดยเฉพาะจึงเติมคำว่า E ไปด้วย
ฉะนี้แล

จากคุณ : ไม้เรียว - [9 ม.ค. 14:59:32]

@ ในภาษาจีนมีคำชมหญิงงามว่า " จินฮั้ว "
แปลว่า " ดอกทอง "

จากคุณ : ซ้ง - [10 ม.ค. 08:37:24]

@ เบญจมาส คื Dอกทอง ทั้ง 5 อิ อิ

จากคุณ : Mr.BigTime - [10 ม.ค. 01:00:51]

แถมด้วย...

@ ไม่รู้ รู้แต่ว่า คำว่า คิขุ หรือ คิคุ ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่าดอกเบญจมาศ ซึ่งคนไทยบางคน
ถือว่าคือดอกทองเช่นกัน
ใครชมว่าคิขุ อย่ายิ้มเชียวนะ

จากคุณ : marima - [20 ม.ค. 16:25:24]

จากคุณ : "M" / intania2000@hotmail.com (วีณาแกว่งไกว) - [26 ก.ค. 01:11:57]

ความคิดเห็นที่ 3

สิทธิการิยะ โบราญท่านว่าไว้
แฮ่ม ขึ้นต้นให้ดูน่าเชื่อถือไปอย่างนั้นแหละครับ เหอๆ
ตามกฎหมายตราสามดวงหรือสี่ดวงก็ไม่รู้นั้น
หญิงใดคบชู้สู่ชายถ้าจับได้เป็นผิดจริง
ให้นำขึ้นเกวียน เอาแหลน(เข้าใจว่าเป็นไม้เล็กๆทำเป็นสัญลักษณ์รูปดาว แบบที่ ปักปากหม้อยาไทยสมัยก่อน)ปะหน้า เอาดอกไม้ทองทัดหู(ดอกไม้ที่ทำเป็นสีทอง)แล้วแห่ประจานรอบเมือง ให้ชาวพาราฯดูเป็นเยี่ยงอย่าง
ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ก็จะด่าว่าร้องประจานว่า Eดอกทองครับ
สมัยนี้ประเพณีดังกล่าวยกเลิกไปแล้ว

จากคุณ : หลวงเชี่ยวสรรพสิ่ง(ช ชำนาญเดา) - [26 ก.ค. 10:11:01]

ความคิดเห็นที่ 7

มีใครเคยได้ยินคำด่า ว่า "Eสำเพ็ง" กันบ้างไหมครับ?

สงสัยจะมีต้นกำเนิดมาจากหญิงแถวสำเพ็งแน่ๆเลย ^_^

จากคุณ : ... (วีณาแกว่งไกว) - [30 ก.ค. 06:00:17]

ความคิดเห็นที่ 13

คุณวีณา E สำเพ็งคือโสเภณีครับ เพราะสำเพ็งเมื่อก่อนขึ้นชื่อทางด้านนี้ กล่าวกันว่าคนจีนเป็นลูกค้าสำคัญของอาชีพนี้ตั้งแต่สมัยอยุธยา
เพราะมาค้าขายในไทยก็แวะหาความสำราญกัน เหมือนลูกเรือต่างชาติมาขึ้นฝั่งที่พัทยาอ่ะครับ
แล้วอีกอย่างหนุ่มๆจีนที่อพยพมาเมืองไทยส่วนใหญ่มาตัวเปล่า ไม่นำภรรยามาจากจีน ก็เลยมาเป็นลูกค้าด้วยเหมือนกัน

จากคุณ : bookaholic - [31 ก.ค. 15:32:33]

ความคิดเห็นที่ 14

ขอยืนยัน ว่าเป็นภาษาถิ่นของแต้จิ๋ว
"หลกถ้ง" ในจีนแต้จิ๋วจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับดอกไม้แต่ประการใด
ดังนั้นถึงแม้จะมีคนชื่อ กิมฮวย ซึ่งแปลว่าดอกไม้ทอง ก็ไม่ได้มีความหมาย เป็น "หลกถ้ง" ไปได้ จึงมีคนชื่อ กิม** มากมาย

วิธีพิสูจน์เรื่องนี้ ไม่ยาก
ลองไปที่เมืองซัวเถา หรือซันโถว (สำเนียงจีนกลาง) แล้วเดินหาที่ๆมีผู้หญิงเยอะๆ เช่นร้านทำผม
ลองโผล่หน้าเข้าไปในนั้นแต่ตระโกนเข้าไปว่า "หลกถ้ง" ดังๆให้ได้ยินทั่วกัน
ทั้งๆที่พวกนั้นฟังและพูดไทยไม่ได้ ถ้าปรากฎว่าพวกนั้นยังยิ้มให้คุณอยู่ ให้ถือว่าที่ผมเขียนมาทั้งหมดนี่ผิด

จากคุณ : ไม้เรียว - [31 ก.ค. 16:47:42]
http://www.atriumtech.com/cgi-bin/hilightcgi?Home=/home/InterWeb2000&File=/home/searchdata/Forums/http/pantip.inet.co.th/cafe/klaibann/topic/H646737.html&Query=ดอกทอง%20ทองกวาว
.
แต่ก่อนคำนี้ไม่ติดออโต้ดีลีทนี่น๊า..

จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 7 ส.ค. 47 02:04:26 ]