CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    “สุวัจน์”โยนบาป“น้องอร”อยากได้ทองคำแท้

    จาก ผู้จัดการออนไลน์

          เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ทำการพรรคชาติพัฒนานายสุวัจน์ ลิปตพัลลภหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวภายหลังการประชุมว่าที่ประชุมได้พิจารณา และมีมติเลื่อนการประชุมใหญ่วิสามัญ จากจากวันที่  28  ส.ค.  2547  มาเป็นวันที่  31 ส.ค.  2547  เวลา 13.30  น. ที่สำนักงานใหญ่พรรคชาติพัฒนา  ถนนสุโขทัย  เขตดุสิต  กรุงเทพฯโดยมีระเบียบวาระสำคัญในการประชุม คือ พิจารณาการยุบรวมพรรคชาติพัฒนาเข้ากับพรรคไทยรักไทย
         
          ผู้สื่อข่าวรายงานแจ้งว่าในระหว่างการประชุมนายสุวัจน์ ยังได้หยิบยกการวิพากษ์วิจารณ์การนำเหรียญทองโอลิมปิคของ“น้องอร” กลับมาให้คณะรัฐมนตรีเชยชม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาซึ่งปรากฎว่ามีเสียงวิจารณ์ ว่าไม่มีความเหมาะสมนั้นว่า การนำเหรียญทองกลับมาเมืองไทยเป็นความประสงค์ของ “น้องอร” ที่ต้องการให้ตนเองทำบล๊อกเหรียญทองขึ้นมาอีก 1 เหรียญซึ่งทำด้วยทองคำแท้ มูลค่า 3 แสนบาท โดยเห็นว่าเป็นชาวโคราชด้วยกันก็จะรับปากจะทำให้ซึ่งเรื่องนี้ได้พูดคุยกับ “น้องอร” และผู้ใหญ่ในวงการกีฬาที่อยู่ที่นั่นจนเป็นที่เข้าใจแล้ว ไม่ทราบว่า ทำไมถึงเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ออกมาเช่นนี้
         
          นายสุวัจน์  ลิปตพัลลภ  รองนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า  ขณะนี้กำลังดำเนินการกับบล๊อกเหรียญอยู่  คาดว่าจะเสร็จและส่งเหรียญทองกลับไปให้ “น้องอร”ได้ในวันที่ 18 ส.ค.นี้โดยทางบริษัท การบินไทย จะเป็นผู้จัดการดำเนินการนำกลับมอบไปให้ต่อไป
         
          ครป.จวก"สุวัจน์"ฉวยโอกาส
          ด้าน นายสุริยะใส กตะศิลาเลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.)กล่าวถึง กรณีที่นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นำเหรียญทองโอลิมปิกของนางสาวอุดมพร พลศักดิ์ มาก่อนนั้น ว่าเป็นการฉวยโอกาสและนักการเมืองหลายคนมักใช้โอกาสในความสำเร็จของประชาชนไปเพิ่มพูนภาพลักษณ์และบารมีทางการเมืองให้กับตนเอง และวิธีการแบบนี้ทำกันมานาน จนหลายครั้งไปบดบังเบื้องหลังความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของนักกีฬาและทีมงาน สื่อมวลชนก็ไม่ควรไปให้ค่าพวกฉวยโอกาสนี้มากเกินไป แต่ควรนำเสนอเบื้องหลังของชัยชนะและเส้นทางการต่อสู้ของนักกีฬาจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมมากกว่า
         
           เลขาฯครป.กล่าวอีกว่า แทนที่สังคมไทยจะได้เรียนรู้และศึกษาประสบการณ์บทเรียนจากความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของนักกีฬา เรากลับเห็นบรรดานักการเมืองแข่งกันเสนอหน้าเพื่อเข้ามาเป็นเจ้าของความสำเร็จนั้นแทน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยสนับสนุนการกีฬาอย่างแท้จริง
         
          "ผมคิดว่านักการเมืองควรเอาแบบอย่างของคุณอุดมพร  พลศักดิ์ นักยกน้ำหนักเหรียญทองโอลิมปิกหรือนักกีฬาอีกหลายคนที่ประสบความสำเร็จก่อนหน้านี้เป็นแบบอย่างของการทำงานการเมือง เพราะนักกีฬาเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็เริ่มต้นจากไม่ค่อยมีอะไรเป็นคนครอบครัวยากจน แต่มีความมุ่งมั่นและจริงจังกับงานที่เขาทำจนประสบความสำเร็จกลายเป็นวีรบุรุษวีรสตรีของคนไทย เรียกได้ว่าบรรดานักเลือกตั้งเทียบไม่ได้เลยหรืออาจจะไม่มีค่าพอที่จะไปชื่นชมเหรียญรางวัลเหล่านั้นก่อนผู้เป็นพ่อแม่ของนักกีฬาด้วยซ้ำ"
         
          นาย สุริยะใส กล่าวอีกว่า โดยเฉพาะนายสุวัจน์  ลิปตพัลลภ  ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติพัฒนาที่เพิ่งยุบพรรคไปรวมกับพรรคไทยรักท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารน์ของสังคม เพราะนายสุวัจน์เคยประกาศว่าจะสร้างพรรคชาติพัฒนาให้ประสบความสำเร็จทางการเมือง จึงไม่แน่ใจว่านายสุวัจน์ ฉวยโอกาสเอาความสำเร็จของอุดมพรมาฟอกความล้มเหลวทางการเมืองของตนเองหรือเปล่าไม่ทราบ

    จากคุณ : Zenithal - [ 17 ส.ค. 47 19:41:06 ]