ความคิดเห็นที่ 1 อะไรครับคำตอบที่ไม่คาดคิด จากคุณ : demerzel - [ 22 ส.ค. 47 16:53:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เราโหวตว่ามีนะ เพราะที่เรียนมา(เท่าที่จำได้)ว่าแสงมันเป็นสสารนี่ สสารก็น่าจะมีมวลนะ อืม แต่อะไรคือคำตอบที่ไม่คาดคิดจ๊ะ ชมนร? จากคุณ : booklovers - [ 22 ส.ค. 47 18:14:00 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตามหลัก ควอนตัมฟิสิกส์ แสงสามารถแสดงตัวเป็นสสารได้ คือ โฟตอน ไงครับ ซึ่งในทางตรงกันข้าม สสารเองก็แสดงตัวเป็นพลังงานได้ ทำให้ผมทราบความสัมพันธ์ระหว่าง สสาร กับ พลังงาน ว่า แท้ที่จริง สสารก็คือ สนามพลังงาน ที่หดตัวลงมาตกผลึก (มีแรงผลัก เท่ากับ แรงดูด) ซึ่งเล็กลงไปในมวล ก็จะพบความว่างเปล่า ระหว่างอะตอม ซึ่ง ตัวอะตอมเอง แท้จริงก็คือ รูปหนึ่งของพลังงาน จึงเป็นสิ่งที่อธิบายได้ว่า ทำไม แสงจึงเดินทางผ่านกระจกได้ ทั้งๆ ที่ กระจกก็มีตัวตน แข็งด้วย หนาด้วยครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 22 ส.ค. 47 18:44:19 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แสงไม่มีมวลนิ่ง จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 22 ส.ค. 47 21:20:54 ]

ความคิดเห็นที่ 5 "มวล" อ้างอิงของแสง ไม่เหมือน "มวล" ของวัตถุครับ จากคุณ : NUTS - [ 22 ส.ค. 47 23:00:38 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้ามันมีตัวตนมันก็น่าจะมีมวลด้วยถึงแม้จะน้อยนิดก็ตาม และตามที่เรียนมามันก็บอกว่ามวลของแสงเรียกว่าโฟตอน จากคุณ : depend ayu - [ 23 ส.ค. 47 00:07:21 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แสงเป็นโฟตอน เป็นพลังงานกึ่งสสารอณุภาคครับ ไม่มีมวลแต่มี momentum มีมวลไม่ได้เพราะ สสารที่มีมวลจะไม่สามารถเดินทางได้เร็วเท่าแสง เพราะต้องใช้พลังงานขั้นอนันต์เลย ! จากคุณ : Jarod - [ 23 ส.ค. 47 00:09:27 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอนอกเรื่อง ทำไมกระทู้โหวตเก็บเข้าคลังกระทู้ไม่ได้ล่ะ แง เราว่ากระทู้นี้มีประโยชน์อยากเซฟไว้จังเลยยย จากคุณ : booklovers - [ 23 ส.ค. 47 06:14:29 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คุณช่างไม้กำลังนึกถึงนิยายวิทยาศาสตร์ เรื่อง "แสงช้า" อยู่หรือเปล่าครับ หรือว่ากำลังนึกถึงการทดลองทำให้ แสงช้าลงจนเกือบหยุดสนิทด้วยไอโซเดียม เมื่อไม่นานมานี้... จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 23 ส.ค. 47 08:04:45 ]

ความคิดเห็นที่ 10 "ไม่มีมวลแต่มี momentum" ผมว่าประโยคนี้มันดูขัด ๆ กันในตัวเอง เพราะว่า momentum = mv ซึ่งถ้าไม่มีมวลซึ่งก็หมายความว่า m = 0 ซึ่งก็ต้องทำให้ momentum = 0 ตามไปด้วย จากคุณ : depend ayu - [ 23 ส.ค. 47 10:53:12 A:203.185.132.123 X:203.151.8.41 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แสงเป็นอนัตตา ^^" แหะๆ ไม่รู้หรอก แต่เราโหวตทันทีที่อ่านหัวข้อกระทู้จบ ตามที่ ชมนร บอกแล้วนะ จากคุณ : สาวน้อยร้อยแปด - [ 23 ส.ค. 47 11:00:02 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มีมวลที่ไม่แย่งเนี้อที่ชาวบ้านเค้า ละมั้งคะ จากคุณ : เจ้เซี้ยม - [ 23 ส.ค. 47 15:08:08 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แล้วความมืดมีมวลด้วนหรือเปล่า จากคุณ : มหาอนธกาฬ - [ 23 ส.ค. 47 15:09:06 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แสงมีมวลครับ เนื่องจากแสงจะถูกบรรจุเป็นขวดกลมบ้างแบนบ้าง อาจจะพบผสมอยู่กับโซดาและน้ำแข็งอยู่บ่อยๆ แต่ส่วนตัวแล้วผมจะชอบผสมโค๊กมากกว่า อ่า.........ไปนั่งดริ๊งค์กันไหมคับ จากคุณ : Wiz - [ 23 ส.ค. 47 15:49:54 ]

ความคิดเห็นที่ 15 พี่ดิจิคับ ผมเปิดร้านกะเพื่อนอยู่แถวๆมอนี่ล่ะ กลับมาเมื่อไรไปนั่งคุยกันไหมคับ จากคุณ : Wiz - [ 23 ส.ค. 47 15:51:05 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แสงเป็นชื่อคนรึปล่าว (เบี่ยงเบนประเด็น :P) จากคุณ : Domingo - [ 23 ส.ค. 47 18:31:18 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าหยั่งงี้ความมืด สีดำๆ ก็ต้องมีมวลด้วยดิ เนื่องจากแสงจะถูกบรรจุเป็นขวดเหลี่ยมขอบมน อาจจะพบผสมอยู่กับโซดาและน้ำแข็งอยู่บ่อยๆ แต่ส่วนตัวแล้วผมจะชอบผสมน้ำอ้อยมากกว่า อ่า.........นิ่มๆ แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 47 18:43:22 แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 47 18:42:05 จากคุณ : มหาอนธกาฬ - [ 23 ส.ค. 47 18:39:53 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เหอ...เหอ.. มาดูคำตอบเรื่องข้างๆหัวข้อ (แปลว่าเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง) เอิ๊กๆๆ อ่านแล้วขำแสงที่ไปกับโซดาและน้ำแข็ง..... ชนแก้ว.... เอิ๊กๆๆ จากคุณ : agarwaen - [ 24 ส.ค. 47 02:37:24 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ......อยู่ในขวด ? จากคุณ : booklovers - [ 24 ส.ค. 47 06:13:57 ]

ความคิดเห็นที่ 20 Wiz ครับ พี่คิดจะเปิดร้านเหมือนกัน แต่เป็นโครงการในฝันครับ ตอนนี้คงต้องเอาเรื่องเรียนให้จบก่อน Wiz จำร้านสวนนม กับร้าน Life is beautiful ที่เจ้าของเป็นเด็กภาคปรัชญาได้ไหมล่ะ อื้ม พี่ว่าจะเอาบริเวณแบบนั้นแหละ เสร็จแล้ว คิดว่าถ้าเป็นไปได้ ก็อยากเหลือเกินที่จะเอา textbook ดีๆ และพอกเก็ตบุคส์ภาษาอังกฤษ มาไว้ให้เด็กๆในมอนั่งอ่าน คืออ่านเท่าไหร่ก็ได้ แต่ห้ามยืมเอาออกจากร้าน(ซีลอร์กได้) เพราะเดี๋ยวคนอื่นไม่มีอ่าน ว่างๆก็ทำฟอรัมรูปแบบคล้ายมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน แต่ทีนี้เราจะเอาเป็นแบบโฟกัสไปที่ตั้งวงเสวนา ในสาขาวิชาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในขณะที่พวกกลุ่มนั้นเขาจะเน้นเรื่องสังคมวิทยาเป็นหลัก (แต่จะต้องมีการแลกเปลี่ยนกันเหมือนกัน) ว่างๆก็อาจจะมีติว math เล่นๆให้ฟรี(แต่ต้องว่างจริงๆ ตามสะดวก และตามอารมณ์) พี่มีโครงการทำเว็บแบบเดียวกับที่ อ.สมเกียรติแกทำด้วย แต่ว่าทั้งหมดนี้นะ เรื่องมันยังอีกยาวไกล บันไดทั้งหมดที่ยังต้องก้าวขึ้นไป มันยังอีกตั้งสูง.. ถ้าถึงตอนนั้นแล้ว Wiz ยังไม่หมดไฟไปก่อน ไว้มาช่วยกันทำ "กึ่งธุรกิจ" ตรงนี้จริงๆก็ยังไม่สายนะครับ จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 24 ส.ค. 47 06:49:14 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ป.ล. ขอโทษที่มาใช้กระทู้ส่วนกลางนะครับ พอดีไม่ทราบจะติดต่อคุณ Wiz ทางอื่นยังไง จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 24 ส.ค. 47 06:57:11 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เอ ความมืดก็ดูเหมือนจะมีมวลนะครับ แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไร พักนี้ไม่ค่อยเห็นมีขายแล้ว ก็ต้องขออภัยทุกท่านด้วยครับ ผมก็ลืมตัวไป แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ก็ขออีกนิดละกัน พี่ดิจิฯครับ โครงการน่าสนใจมาก แล้วผมจะเมล์ไปหานะครับ แต่คงไม่ค่อยได้เมล์บ่อยเท่าไร ว่าไปแล้ว เย็นนี้แสงสีสวยจัง.........เอ้าววว ชนแก้วหน่อยครับ เย จากคุณ : Wiz - [ 24 ส.ค. 47 16:18:25 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มีมวลค่ะ แต่เป็นมวลคนละชนิดกับสสารทั่วไป เป็นมวลที่ไม่เสถียร เคลื่อนที่ได้ค่ะ หากถูกผิดประการใดก็ขอโทษด้วยค่ะ จากคุณ : Nokazar - [ 24 ส.ค. 47 18:37:46 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ง่ะ ไม่รู้ค่ะ ความรู้ฟิสิกส์คืนครูไปหมดแล้วอ่ะ (แล้วจะมาตอบทำป๊ะอะไรล่ะเนี่ย อิอิ) จากคุณ : Seven Of Nine - [ 24 ส.ค. 47 20:20:58 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตกลงตาชมนรจะมาเฉลยไม๊เนี่ย จากคุณ : booklovers - [ 25 ส.ค. 47 07:48:55 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ง่ะ มาเฉลยก็ได้ คอมที่บ้านผมเจ๊งอ่าครับ ช่วงนี้เลยไม่ค่อยได้เข้าเน็ต เหมือนอย่างที่คุณดิจิฯ และคุณ Jarod ว่าไว้ล่ะครับ แสงไม่มีมวล ครับ เล่าสู่กันฟังนิด ๆ หน่อย ๆ บุ๊กจังบอกว่าเป็นกระทู้มีความรู้เลยพยายามทำให้เหมือนมีอะไรหน่อย ^ ^” เรื่องว่าแสงเป็นอะไรนี้ นักฟิสิกส์สงสัยกันมานานแล้ว นักฟิสิกส์ที่เรารู้จักกันดีอย่างเชอร์ไอแซค นิวตัน เคยเชื่อว่าแสงเป็นอนุภาค แต่มีคนคัดค้าน(ถ้าจำไม่ผิด จะเป็น ฮอยเกนส์ นักฟิสิกส์ชาวดัตช์)และบอกว่าแสงเป็นคลื่น และผลการทดลองการวัดความเร็วแสงในน้ำบอกว่า แสงเป็นคลื่น ครับ และแสงแสดงสมบัติของคลื่นได้ทุกอย่าง (ซึ่งก็คือสมบัติการสะท้อน หักเห แทรกสอด และเลี้ยวเบน) แต่แสงเป็นคลื่นของอะไร ยังไม่มีใครรู้ เพราะคลื่นที่มนุษย์รู้จักสมัยนั้นจำเป็นต้องอาศัยตัวกลาง (นั่นคือคลื่นไม่ควรจะเดินทางในสุญญากาศได้ เพราะไม่มีตัวกลาง) แต่แสงสามารถเดินทางในสุญญากาศได้ ช่วงนั้นก็เลยยังงง ๆ กันอยู่ จนมาถึงสมัยของแมกซ์เวลล์ จึงรู้กันว่า แสงเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เช่นเดียวกับคลื่นวิทยุ ไมโครเวฟ รังอินฟราเรด รังสีอัลตราไวโอเล็ต รังสีเอ็กซ์ และรังสีอื่น ๆ (ซึ่งผมไล่ไม่ถูกแล้ว ฮ่าๆๆ) แมกซ์เวลล์คนนี้แหละครับที่เป็นคนที่รวมแรงแม่เหล็กและแรงไฟฟ้าไว้ด้วยกัน (นั่นคือทำให้เรารู้ว่า แรงแม่เหล็กและแรงไฟฟ้าโดยแท้จริงแล้วเป็นแรงเดียวกัน) และใช้สมการของแม่เหล็กและสมการของไฟฟ้ามารวมกันแล้วแสดงสมการของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในรูปของสมการทั่วไปของคลื่น เป็นการย้ำว่า แสงเป็นคลื่น และเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่พูดตั้งนานนี่ยังไม่เกี่ยวกับมวลของแสงเลยใช่มะครับ พูดมาตั้งยาว คืออยากจะบอกว่า เมื่อก่อนนั้นอนุภาคก็คืออนุภาค คลื่นก็คือคลื่น ใครอยากจะเป็นอนุภาคหรือเป็นคลื่นต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าเป็นอนุภาคแล้วจะมาแทงกั๊กเป็น คลื่น ด้วยไม่ได้ หรือถ้าเป็นคลื่น ก็ห้ามมาเป็นอนุภาค (ลากมาเกี่ยวกับมวลก็คือ อนุภาคนั้นมีมวล คลื่นมันไม่มีมวล แสงเป็นคลื่น ดังนั้นแสงจึงไม่มีมวลครับ) นั่นคือ โลกที่ทุกคนง่ายต่อการเข้าใจ และไม่สับสน  จนมาถึงศตวรรษที่ 20 ที่จะทำให้มีคนง่ายต่อการสับสนเกี่ยวกับแสงและเริ่มไม่ไว้ใจต่อการคิดง่าย ๆ แบบคลาสสิค (คือแบบว่าไม่ค่อยไว้ใจตัวเองว่าที่คิดแบบเบสิคเซนส์น่ะถูกรึเปล่า ^ ^”) นั่นคือการเข้ามาของคำว่า ควอนตัม และสัมพัทธภาพ (พส เคยถามว่าเขียนอย่างนี้ถูกรึเปล่า ยืนยันว่าภาษาไทยใช้คำว่า สัมพัทธ์ ครับ ไม่ได้ใช้ สัมพันธ์ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันครับ) แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 47 13:21:35 จากคุณ : ช่างไม้ - [ 25 ส.ค. 47 21:57:36 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เอาเรื่องของแสงกับควอนตัมสั้น ๆ นะครับ จุดเริ่มต้นของเรื่องชวนสับสนถูกเสนอขึ้นมาโดย มาร์กซ์ แพลงค์ โดยแพลงค์บอกว่า แสงอาจจะมีสมบัติเป็นก้อนของพลังงานก้อนเล็ก ๆ ซึ่ง “ก้อนพลังงาน” นี้เรียกว่า ควอนตัม โดยที่แพลงค์เองก็ยังไม่รู้ว่าคำนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของฟิสิกส์ยุคใหม่แขนงหนึ่งซึ่งเรียกว่า กลศาสตร์ควอนตัม (จริง ๆ แพลงค์ก็ดูเหมือนยังไม่รู้ว่าจะเอาควอนตัมนี้ไปทำอะไรด้วยซ้ำไปครับ) แล้วเรื่องของเรื่องก็คือ นักฟิสิกส์ชื่อคุ้น ๆ ที่ชื่อว่า อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ พบการทดลองอันหนึ่ง(รู้จักกันในชื่อ Photoelectric Effect ซึ่งทำให้เขาได้รางวัลโนเบล ผมเองเคยเข้าใจผิดว่าไอน์สไตน์ได้โนเบลจากทฤษฎีสัมพัทธภาพอยู่นานเลยครับ) และพบว่าในการทดลองนี้ แสงประพฤติตัวเป็นอนุภาคครับ! สมมติฐานสำหรับความโลเลของแสงที่เดี๋ยวก็เป็นคลื่น เดี๋ยวก็เป็นอนุภาค ถูกเสนอโดยนักศึกษาปริญญาเอกจากประเทศฝรั่งเศสที่ชื่อว่า เดอ บรอยล์เรียกว่า หลักทวิภาค โดยเดอ บรอยล์บอกว่า สรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวงนั้นเป็นได้ทั้งสสาร และคลื่นในเวลาเดียวกัน หลักการนี้ก็ถูกนำไปใช้ในฟิสิกส์อนุภาคอีกหลายเรื่องเช่นกลศาสตร์คลื่น และการสร้างกล้องจุลทรรศน์อิเลกตรอนครับ แต่ถามว่า ตรงนี้เป็นการบอกว่า แสงมีมวลรึเปล่า มันก็ไม่ใช่อยู่ดีครับ ตามหลักทวิภาคนั้น แสงแต่ละควอนตัมมีโมเมนตัม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีมวลด้วยนะครับ มันขัดแย้งกันก็จริงครับ แต่มันก็เป็นอย่างนั้นแหละครับ คุณ depend ayu อย่างที่คุณ Jarod บอกนั่นแหละครับ ถ้าแสงมีมวล และเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสง แสดงว่าต้องมีพลังงานเป็นอนันต์เลยทีเดียวครับ สรุปว่า แสงก็ไม่มีมวล อยู่ดีครับ ผลที่ผมคุยกับเพื่อนก็เป็นแบบเดียวผลโหวตนี่ละครับ ส่วนที่มาตั้งกระทู้โหวตก็อยากรู้ว่าคนส่วนใหญ่เข้าใจว่ายังไง แต่มาดูจากผลโหวต  ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงมีคนคิดว่าแสงมีมวลกันเยอะครับ เล่าสู่กันฟังหน่อยก็ดีครับ ว่าทำไมถึงคิดว่าแสงมีมวล  ^ ^ เอ่อ อีกคำถามนึง มวลคืออะไร ครับ (อาจจะไม่เคยรู้มาก่อน แต่ลองคิดดูเล่น ๆ ดีไหมครับ) ปล. น้ำมันเอลฟ์หายไปไหนอ่ะ :P แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 47 11:07:49 แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 47 22:18:20 จากคุณ : ช่างไม้ - [ 25 ส.ค. 47 22:07:33 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สำหรับ แสง ที่ไม่ใช่อนุภาค และไม่ใช่คลื่น หรือพูดอีกแง่หนึ่งก็คือ เป็นอนุภาค(ของเหลว)ที่บรรจุขวด และเป็นคลื่นได้เมื่อตอนเขย่าขวด อันนี้ก็น่าคุยเหมือนกันครับ เดี๋ยวนัดไปคุยกันนอกรอบดีไหมครับ :P คุณเดี้ยงครับ ผมเคยได้ยินแต่ว่าแสงจะเดินทางช้าลงเมื่ออุณหภูมิต่ำมาก ๆ อ่ะครับ จริง ๆ ตอนนี้สนใจเรื่องไทม์แมชชีนครับ มีคำถามส่วนตัวว่า จริง ๆ แล้ว มีกฎฟิสิกส์ข้อไหนรึเปล่าที่บอกว่าการเดินทางย้อนเวลาเป็นไปไม่ได้ วันก่อนเดินผ่านคิโนะเห็นหนังสือ How to make a time machine น่าสนใจดีแต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาดูเลยครับ จากคุณ : ช่างไม้ - [ 25 ส.ค. 47 22:39:40 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เล่มนั้นของ Paul Davies ใช่ไหมครับ ผมพลิกดูแล้ว เขียนสรุปสำหรับสาธารณชน ให้คนที่ไม่ได้เรียนมาทางสายวิทย์เข้าใจได้ครับ คุณช่างลองอ่านเล่มใหม่ของ ไบรอัน กรีน จะดีกว่าครับ ผมเองก็อ่านหลายเล่มเกิน ลืมไปก็มาก อ่านตรงนั้นลืมตรงนี้ ได้ใหม่ลืมเก่า ถ้าจะให้ผมอภิปรายคงต้องมานั่งอ่านกันใหม่ก่อน แล้วเดือนหน้าเจอกันในเอ็มมาคุยเรื่องนี้ละครับ จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 26 ส.ค. 47 03:29:44 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าตอบตอนนี้นะครับคุณช่าง ไม่ทราบถูกต้องแค่ไหนนะครับ ถ้าปล่อยไก่ก็อย่าถือกันครับ ในความเห็นผม ผมคิดว่า การย้อนเวลาโดยมหภาค ไม่อาจเป็นไปได้ แต่ในเชิงจุลภาคแล้ว ถ้าในสเกลเล็ก อนุภาคมูลฐานไม่ได้อยู่ที่ใดที่หนึ่ง ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ดังนั้นเป็นไปได้ว่า sub-particles เหล่านั้น มีการเดินทางในเวลา และสถานที่ตลอดเวลา แม้ว่า ที่มันเดินทางนั้นจะเป็นเวลาในช่วงสั้นๆ หรือสถานที่ในระยะทางสั้นๆ แต่ก็อีกเช่นเดียวกัน เมื่อถึงที่สุดแล้ว อนุภาคมูลฐานแต่ละชนิดมันก็เป็นสตริงที่มีรูปแบบ ลักษณะเฉพาะของการสั่น แต่ละอย่างใช่ไหมครับ แล้วแบบนี้ เราจะมีทางนำเอาของพวกนี้มาใช้ ได้อย่างไรในสเกลใหญ่ ผมว่ายากนะครับ ในนิยายของคุณ Proofman (ก็คุณตากระดาษปรู๊ฟ ที่เรารู้จักกันดีนั่นแหละ ก่อนที่แกจะหน่อมแน้มแบบทุกวันนี้) ที่แกเขียนเอาไว้เมื่อกว่าสิบปีก่อน ตอนยังหนุ่มไฟแรง เรื่อง "ขอเพียงเธอรู้" ที่พระเอกประดิษฐ์ เครื่องส่งข่าวสารย้อนเวลาให้กับคนที่ตนเองรักที่สุด เพียงเพื่อให้เธอรับรู้ว่า เขารักเธอ ในวินาทีสุดท้าย ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตเพราะเครื่องบินตก แกก็คงเคยคิดปัญหานี้มาแล้ว ซึ่งผมในตอนนั้น อ่านแล้วก็ชื่นชมแนวคิดของแกมากครับ ที่แกสรุปว่า เราคงไม่มีทางส่งวัตถุขนาดใหญ่ ย้อนเวลากลับไปได้หรอก แต่อาจใช้อนุภาคมูลฐาน ที่ไม่ได้อยู่ในเวลาใดเวลาหนึ่งนี่เอง เป็นตัวส่ง เฉพาะข้อมูล ผ่านเวลาไป ให้กับเธอคนนั้น... ที่คุณปรู๊ฟแมนรัก เอ๊ย... พระเอกของเรื่องรัก จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 26 ส.ค. 47 03:48:54 ]

ความคิดเห็นที่ 31 แหม ผมในสมัยวัยรุ่น ได้แรงบันดาลใจการเขียนจากเรื่องนี้ของตาปรู๊พแมนนั่นแหละ ยังนึกแล้วซึ้งอยู่เลย เรื่อง ที่แกเขียนน่ะครับ เขียนได้ดีมากๆๆๆๆเลยครับ แม้ว่า เราไม่อาจส่งวัตถุ ข้ามเวลาไปได้จริง เนื่องจากตามความจริงทางฟิสิกส์ในปัจจุบัน เราไม่น่าจะ กระทำการเช่นนั้นได้ แต่ในเชิงของนิยายวิทยาศาสตร์นั้น (อย่าลืมนะครับ ตราบใดที่เป็นนิยาย มันมีความสนุกให้คิดเสมอ แต่ต้องอย่าเอามารวมกับ fact ทางวิทยาศาสตร์) ...ในเชิงของนิยาย สมมติว่าในวันหนึ่งข้างหน้า มนุษย์เราสามารถประดิษฐ์เครื่องมือที่สามารถสร้างวัตถุได้เหมือนเปี๊ยบ เมื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับพิกัดของอะตอมแต่ละอะตอมในวัตถุ แล้วจับอะตอมมาเรียงกัน re-construct ใหม่ให้เหมือนเก่าทุกประการ(แบบเครื่องสังเคราะห์อาหารใน Star Trek) ถ้าเรามีทาง map เอาพิกัดของทุกอะตอมของคนคนนั้น เอาไว้ได้ แล้วทำอย่างไรก็ตามให้ส่งข้อมูลชุดนี้ กลับมายัง ปลายทางในอดีตได้ โดยที่มีเครื่องมือดังว่านั้นได้ เราก็อาจสร้างคนคนนั้นขึ้นมาจากข้อมูลที่ส่งมาทางสตริง จากอนาคตได้ แต่นั่น ก็อาจถือเป็นเพียงตัวก๊อปปี้ของคนคนนั้นเท่านั้นเอง เพราะเจ้าตัวก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ในเวลาเดิมในอนาคตนั่นเอง วัตถุไม่ได้ย้อนเวลามาจริง มาแต่ข้อมูล... จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 26 ส.ค. 47 03:49:51 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ป.ล. จริงๆแล้ว เรื่อง "ฉันจะรอ" เรื่องสั้นที่เคยเขียนเมื่อนานมาแล้ว ผมพยายามเขียนให้ได้ feel เท่ากับฉากจบของตา Proofman ที่ผมเคยประทับใจเมื่อนานมาแล้วนะเนี่ย.. *************************************     "ข้อความที่เธอฝากไว้หรือ"  ชายหนุ่มถามเสียงแผ่วโหย "เธอบอกไว้ว่าอย่างไรบ้างครับ คุณหมอ" "ฉันจะรอคุณที่นี่...รอคุณกลับมาเสมอ.. ไม่ว่านานแสนนานเท่าไร ภายใต้ฟ้าครามสดใส ท้องทุ่งเขียวขจีกว้างใหญ่...ฉันจะรอ..." นายแพทย์ตอบเสียงแผ่วเบาพอกัน ************************************* แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 47 06:07:52 จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 26 ส.ค. 47 03:55:34 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ยังไม่เคยอ่านนิยายที่ท่าน proofman แต่งเลยค่ะ ท่านปรุฟขา ส่งมาให้นกอ่านบ้างนะคะ (ว่าจะให้ส่งมาทางเอ็ม แต่ได้ยินว่าลบ MSN ทิ้งหมดเลยเหรอคะ เกิดอะไรขึ้นง่า) นกรบกวนฝากคำถามนึงเกี่ยวกับแสงด้วยจะได้มั๊ยคะ สมัยเรียนมัธยม อ.ที่สอนฟิสิกส์เคยพูดถึงทฤษฎีเกี่ยวกับการย้อนกลับของภาพอยู่เหมือนกันค่ะ ประมาณว่า หากเราสามารถเดินทางได้เร็วกว่าแสงเราจะเห็นภาพย้อนกลับจริงหรือไม่ แล้วก็ให้เขียนบทวิเคราะห์มาด้วยค่ะ มีหลายคนตอบว่าจริง เพราะหลักการในการมองเห็นภาพมันขึ้นอยู่ที่ว่า แสงมากระทบวัตถุ แล้วจึงสะท้อนเข้ามากระทบกับจุดรับภาพในนัยน์ตาของเรา จากนั้นประสาทตาก็จะส่งประจุอิเลคตรอนเข้าไปประมวลผลของภาพที่สมอง ดังนั้น หากถ้าเราเดินทางได้เร็วกว่าแสงจริง เราก็จะเห็นภาพปกติ จนไปถึงภาพที่หยุดนิ่ง แล้วก็ภาพย้อนกลับน่ะสิ เพราะเดินทางได้เร็วกว่าแสงแล้วนี่??แถมบางคนก็ตอบไปด้วยว่าอาจจะถึงขั้นย้อนอดีตได้เลยทีเดียว แต่นกไม่ได้ตอบไปแบบนั้นนะคะ นกตอบว่า หากเราเดินทางได้เร็วกว่าแสงจริง ก็น่าจะไม่เห็นภาพอะไรเลย หรือไม่ก็เห็นภาพหยุดนิ่งมากกว่า เพราะแสงมันไม่ได้เดินทางมาแค่ 1 ลำแล้วก็หยุดไป แต่คลื่นของแสงมันวิ่งมาตลอดนี่นา ส่วนเรื่องของการย้อนอดีตนี่ยิ่งตัดไปได้เลย เพราะนกคิดว่า เรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างแสงกับการเลื่อนไหลของเวลามันเป็นคนละเรื่องกันโดยสิ้นเชิงค่ะ ไม่ทราบว่าเคยมีใครได้ยินทฤษฎีประมาณนี้กันมาบ้างมั๊ยคะ แล้วมีความคิดเห็นกันยังไงบ้างคะ (นกไม่กล้าไปถามคำถามนี้ที่ห้องหว้ากอหรอกค่ะ กลัวจะได้คำตอบแบบศัพท์เทคนิคแพรวพราวจากท่านปรมาจารย์ คนสมองน้อยอย่างนกอ่านแล้วไม่เข้าใจเอาซะเลยอะค่ะ - -") จากคุณ : Nokazar - [ 26 ส.ค. 47 13:12:15 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เรื่องแสงเนี่ยผมก็สงสัยมานานแล้วนะครับ โดยเฉพาะทฤษฎีสัมพัทธภาพเนี่ย (ใช้ว่าสัมพัทธ์เพราะว่าด้วยความเร็วที่เทียบกัน ไม่ได้ว่าด้วยความเร็วสัมบูรณ์) คือทฤษฎีนี้อยู่ ๆ ก็มาทึกทักเอาเองว่า วัตถุต่าง ๆ จะเดินทางเร็วกว่าแสงไม่ได้ หรือนัยน์ว่าในจักรวาลนี้แสงคือสิ่งที่เดินทางเร็วที่สุดนั่นละ ......... ทีนี้ผมสมมติว่ามีวัตถุชิ้นหนึ่งเดินทางเร็วกว่าแสง ถามว่าเราจะสังเกตเจ้าวัตถุนี้ได้ไหม ถ้าคิดตามหลักการมองเห็นที่ว่าแสงมันต้องกระทบวัตถุแล้วสะท้อนเข้าตาเรา เราก็คงจะไม่เห็นเจ้าวัตถุนี้เพราะแสงมันไล่ไปกระทบวัตถุไม่ทันใช่ไหม (คิดว่าแสงกำลังไล่ตามวัตถุแบบ 1 มิติเท่านั้นก่อนนะ) ผมก็เลยเดาเอาว่าสมมติฐานของไอสไตล์ที่มีว่าวัตถุห้ามเดินทางเร็วกว่าแสงก็มาด้วยเหตุฉะนี้ และมันก็จะไปสอดคล้องกับตัวทฏษฏีที่ว่าวัตถุเดินทางเร็วเท่าไหร่จะหดสั้นลงเท่านั้น และเมื่อเร็วเท่าแสงวัตถุจะหดหายไปเลย ..... คือจริง ๆ มันคงไม่ได้หดหรอก เพียงแต่แสงมันตามไม่ทันเลยไม่สามารถสังเกตวัตถุนั้นได้อีกต่อไป ไอสไตล์คงไม่รู้จะอธิบายตรงนี้ยังไงให้เป็นหลักการ ก็เลยเหมาเอาว่า วัตถุมันกลายเป็นพลังงานแทนแล้วกัน ปล... หุหุ หลักการของผมฟังขึ้นบ้างไหมคับ จากคุณ : depend ayu - [ 26 ส.ค. 47 20:47:14 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อ้าว ตกลงแสงเป็นพลังงานเหรอ ที่เรียนมาเค้าว่าแสงเป็นสสารที่อยู่ในรูปคลื่นพลังงาน โอย ครายก็ได้ ช่วยอธิบายที จากคุณ : booklovers - [ 27 ส.ค. 47 14:04:44 ]

ความคิดเห็นที่ 36 มวลและปริมาตรของแสงฯ มีผลต่อสติ... แสงโสม... จากคุณ : อยากจะโปร - [ 27 ส.ค. 47 14:27:54 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เอิ๊ก จากคุณ : มหาอนธกาฬ - [ 27 ส.ค. 47 15:50:24 ]

ความคิดเห็นที่ 38 "เอ่อ อีกคำถามนึง มวลคืออะไร ครับ (อาจจะไม่เคยรู้มาก่อน แต่ลองคิดดูเล่น ๆ ดีไหมครับ)" หน้ากระดาษไม่พอแหงๆ เอาแบบ แก่นๆ (core) ละกันนะ มวลหยุดนิ่ง ต้องทำให้เกิดแรง ที่เรียกว่าแรงดึงดูด เกิดจากการบิดเบี้ยวของโครงสร้างอวกาศ-กาล แรงดึงดูด เป็นแรง 1 ใน 4 แรงในธรรมชาติ ที่ถูกค้นพบแรกสุด แต่มีคนเข้าใจหลังสุด (แรงไฟฟ้า แรงแม่เหล็ก แรง strong Nuclear และแรงดึงดูด) Grand Unify Theory เป็น การรวมแรงทั้ง 4 เข้าด้วยกัน แต่ยังไม่สำเร็จ เหลือเพียงแรงดึงดูดเท่านั้นที่แตกต่าง ปล. แนะนำให้อ่าน Brief history of Time ของ Stephen Hawking ครับ ^^! จากคุณ : Jarod - [ 28 ส.ค. 47 04:36:39 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ที่จริงผมว่า คุณมุมเหล็ก หรือคุณเดี้ยงน่าจะตอบได้ดีกว่าผมนะ แต่คอยแล้วยังไม่มีใครช่วย งั้นผมโซโลต่ออีกนิดนึงแล้วกัน ยังไงถ้าผมเอ๋อ ๆ ไป ช่วยแก้ให้ผมด้วยนะ คุณJarodครับ ที่พูดถึงนิยามของมวลนั้นผมไม่ได้ตั้งใจจะให้ลึกซึ้งขนาดนั้นหรอกครับ ^ ^” เท่าที่เรียนมา เคยได้ยินมา นิยามของมวลที่เรียบง่ายและครอบคลุมพอสมควรคือ “มวลคือปริมาณที่ต่อต้านการเคลื่อนที่” ที่ตั้งใจไว้แค่นี้ครับ แหะ แหะ ขออนุญาตแก้นิดนึงครับ เข้าใจว่าคุณ Jarod จะพิมพ์ผิด อิอิ แรงทั้ง 4 ในพิภพนั้นคือ - แรงนิวเคลียร์อย่างแรง (แรงที่ยึดนิวเคลียสของอะตอมเอาไว้) - แรงนิวเคลียร์อย่างอ่อน (แรงที่มีเกี่ยวข้องในการสลายให้รังสีเบต้าของนิวตรอน) - แรงไฟฟ้า-แม่เหล็ก (อย่างที่บอกไว้ข้างต้นครับ แมกซ์เวลแสดงให้เห็นว่า แรงไฟฟ้าและแรงเม่เหล็กเป็นแรงเดียวกัน) - แรงดึงดูดระหว่างมวล หรือ แรงโน้มถ่วงนั่นเอง Brief History of Time นั้น ผมคิดว่าเรื่องที่เด่นที่สุดในหนังสือนั้นเป็นเรื่องของ หลุมดำ ครับ บุ๊คจังฮับ ผมยังขอยืนยันว่าแสงเป็นคลื่น ไม่ใช่สสารฮับ พฤติกรรมของแสงที่แสดงตัวเป็นอนุภาค นั้นอยู่ในโลกขนาด(โคตร)จิ๋วในระดับของควอนตัมครับ (และการที่แสงทำตัวเหมือนอนุภาคนั้นไม่ได้หมายความว่าแสงนั้นเป็นสสาร)ในโลกปกติของเราคิดไว้แค่ว่า แสงมีคุณสมบัติเป็นคลื่นนั้นง่ายต่อความเข้าใจที่ถูกต้องมากกว่าครับ ที่น้องนกว่ามา ผมก็เคยได้ยินครับ แต่ถ้าผมว่า เมื่อวัตถุเคลื่อนได้เร็วกว่าแสงจะเกิดคลื่นกระแทกทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า เช่นเดียวกับคลื่นกระแทกที่เกิดจากเครื่องบินเจ็ทที่บินเร็วกว่าเสียง ก็น่าจะเป็นไปได้เหมือนกันนะครับ เอิ๊กๆๆๆ จากคุณ : ช่างไม้ - [ 29 ส.ค. 47 22:10:20 A:203.113.34.12 X:203.150.217.114 ]

ความคิดเห็นที่ 40 บอกแล้วไงตาช่าง ผมเคยอ่านแล้วแต่ก็ลืมแล้ว ^^" ...เดี๋ยวก็ปล่อยไก่หรอก... แสงเป็นคลื่นแน่ๆครับ แค่มีสมบัติเป็นคลื่นมากกว่าสสาร สสารเมื่อซูมถึงระดับอนุภาคที่เป็น sub-particle แล้ว ก็ยังเป็นสสาร แต่เมื่อซูมลงลึกไปอีกสสารก็เป็นคลื่นเหมือนกัน โดยประกอบกันขึ้นมาด้วยสตริงที่เป็นลูป pattern การสั่น ของสตริงจะเป็นตัวบอกว่า sub-particle นั้นมีสมบัติ อย่างไร ซึ่งจะกำหนดสมบัติในเชิงมหภาคของสสารอีกที แต่ไม่ว่าสสาร หรือพลังงาน ก็สามารถให้คำนิยามโดยสมการคลื่นได้ทั้งนั้น สำหรับแรงโน้มถ่วง ที่รวมกับแรงอื่นๆยาก น่าจะเป็นเพราะ มันเป็นแรงที่อ่อนเหลือเกินในกาล-อวกาศปกติ แต่จริงๆแล้วในตอนที่เกิดบิกแบงใหม่ๆ แรงโน้มถ่วงก็เป็นแรงที่ มีบทบาทสำคัญเหมือนกัน มีการตั้งสมมติฐานว่า มีอนุภาคที่จัดการเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงอยู่ คือกราวิตอน ซึ่งวิ่งอยู่ในระหว่างอวกาศสี่มิติ กับมิติที่เหลือ ของเอกภพอีก 6 - 7 มิติ ที่อัดกันแน่นอยู่ในส่วนโค้งของอวกาศ ที่มองไม่เห็นในมิติที่เราอาศัยอยู่ ผมได้เคยอาศัยบทความในช่วงที่เขามีการประกาศ เกี่ยวกับสมมติฐานนี้ใหม่ๆเมื่อสามปีก่อน เขียนเรื่องสั้นไซไฟไปแล้ว เรื่องหนึ่ง (ลองส่งไปประกวด i-book award ที่กาดสวนแก้ว ได้ตังค์มาพอเติมน้ำมันรถผมครึ่งถัง T___T ) อันที่จริง ทั้งทฤษฎีสตริง ทฤษฎีเอ็ม ซึ่งตั้งขึ้นมาในปัจจุบัน ก็ยังไม่อาจรวมกันได้ในทุกกรณี แต่ว่าผมยังไม่มีความรู้ ที่จะกล่าวอะไรมากกว่านี้ได้ ผมพยายามอ่านฟื้นสมการอนุพันธ์ และคณิตศาสตร์ต่างๆอยู่ และหาซื้อทฤษฎีควอนตัมเปื่อยๆ เล่มมือสองมาเป็นของส่วนตัวได้เล่มนึง(ไม่นานมานี้เอง) แต่ คงอีกนานกว่าจะมีบุญได้เข้าใจถึงขั้นที่จะอธิบายออกมาเป็น คณิตศาสตร์กับเขาได้ครับ จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 30 ส.ค. 47 08:32:22 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ถามตาแมงมุมเหล็กโน่น - สายตรง จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 30 ส.ค. 47 08:34:01 ]

ความคิดเห็นที่ 42 มานั่งอ่านอย่างเดียว.... จากคุณ : BabyOiL - [ 30 ส.ค. 47 22:30:53 ]

ความคิดเห็นที่ 43 โอ้โฮ เป็นกระทู้วิทยาศาสตร์มากเลยค่ะ -"- โอ้ แป่วอย่างแรง... ยอมรับโดยดี...ว่าข่อยบ่อฮู้.... แต่ถ้าถามว่า คนชื่อแสง มีมวลไหม ตอบได้ว่ามีค่ะ จากคุณ : นานานะจัง - [ 1 ก.ย. 47 19:58:20 ]