ความคิดเห็นที่ 1 คงไม่ถึงขั้นบทวิเคราห์หรอกครับ ถ้าอยากลองอ่านจริงๆ เกี่ยวกับ the last temptation of crist ไปลองอ่านใน starpic เล่มเก่าๆ ดูน่ะ มีแบบละเอียด หนังทั้งสองเรื่อง ตีความพระเจ้าในความหมายเดียวกันครับ ต่างกันตรง ความคิดที่จะยอมรับหน้าที่ที่พระเจ้ามอบหมายให้พระเยซู โดย passion เป็นหนังที่เล่าเรื่องตามพระคัมภีร์เป๊ะๆ ในเหตุการณ์ช่วง 12 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนถูกตรึง หนังเล่าตั้งแต่ช่วง อาหารมื้อสุดท้าย ที่พระองค์ ทรงแจก แผ่นปัง(แทนกาย) และ น้ำองุ่น (แทนโลหิต) ไปจบที่การถูกตรึงกางเขน เหตุที่หนังได้รับการยกย่องนั้น เพราะเป็นหนังที่ดูแล้ว... ได้เข้าถึง"อารมณ์" ถึงความเจ็บปวดของพระเยซูได้แท้จริง องค์ประกอบนั้น เช่นเพลงประกอบที่ฟังดูมีพลัง ภาพที่ ถ่ายทอดให้เห็นถึงความเจ็บปวดของพระเยซูได้เป็นอย่าง ดี แต่หนังเรื่องนี้บางคนก็ไม่ชอบ เพราะมันดูโหดเกิน จน เป็นข่าวดังอย่างที่ทราบกันว่า มีคนช็อกตายคาโรงมาแล้ว แต่ก็ยังถือว่าเป็นหนังดีที่น่าดู ส่วน temptation นั้น สกอร์เซซี่ ก็สร้างจากหนังสือแต่ง ขึ้นมา ของใคร จำไม่ได้ ที่มีแนวคิดต่างจากพระคัมภีร์ ซึ่งตอนหนังเรื่องนี้ออกมาแรกๆ ก็ฮือฮาพอสมควร (คล้ายๆกับหนังอย่าง JFK) เพราะมีฉากที่ดูรุนแรงอย่าง ตอนร่วมรัก กับนางแมรี่ มัก ดากัล(นางแมรี่ ถูกพูดถึงด้วยในเรื่อง the passion) เพราะพระ เยซู นั้นมีความกลัวอยู่ในใจด้วย ซึ่งอันนี้ คล้ายกับพระ คัมภีร์ คือ พระเยซู ไม่ใช่ว่ามีความเต็มใจเสียทีเดียว ใน การยอมให้ตัวเองถูกตรึงกางเขน หนัง passion ก็มีกล่าว ถึงเรื่องนี้ ในช่วงแรกๆ แต่ passion นั้น เนื้อเรื่องจะดำเนิน ต่อไป จนกระทั่งจบที่ตรึงกางเขน(เนื้อเรื่องเหมือนพระคัม ภีร์เป๊ะๆเลย) และพระองค์ยินดีรับชะตากรรมโดยดี เนื้อหา the last temptation ก็อย่างที่คุณได้ดูไป ไม่ขอ สปอยแล้วกันคับ ก็จะเห็นถึงอีกทางออกหนึ่ง ของคำที่ พระเยซูประกาศก้องตอนโดนตรึงกางเขนสุดท้าย คำว่า "สำเร็จแล้ว" (the passion ก็มีฉากนี้ เป็นไปตามพระคัมภี) แต่สำเร็จแล้ว ในความหมายของ last temptation คือการ ได้กลับมายอมรับ ชะตากรรมที่ว่า ยังไงพระองค์ก็ต้องยอม ตรึงกางเขน เพื่อไถ่บาปให้มวลมนุษย์ พระองค์คงไม่ สามารถหนีชะตากรรมนี้ได้(เหมือนหน้าที่มากกว่า) สรุปคือ แนวเรื่องทั้งคู่ก็ไปตามพระคัมภีร์ แต่ temptation จะมองถึงความกลัวของพระเยซูในอีกแง่นึง โดยจะมีเทว ทูตเป็นผู้ให้ทางเลือกว่าพระองค์จะเลือกทางไหน แต่สุด ท้ายแล้ว พระองค์ก็ยังต้องกลับมายอมรับชะตากรรมนั้น อยู่ดี เป็นการตีความหมายของคำว่า "สำเร็จแล้ว" อีกแบบ นึง เอาเป็นว่าลองหา the passion มาดู แล้วจะเข้าใจยิ่งขึ้น ครับ (หนังใกล้ออกแล้ว) แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 47 03:58:54 จากคุณ : . (BANk8.) - [ 25 ส.ค. 47 03:53:02 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ให้ไปที่ manager.co.th ค้นหาการวิเคราะห์ภาพยนต์ โดย คุณ เสรี พงศ์พิศ ซึ่งได้เขียนถึงภาพยนต์ทั้งสองเรื่อง จากคุณ : โลกสดใส - [ 25 ส.ค. 47 05:30:17 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณ มากๆเลยครับ จากคุณ : mouse4006 - [ 25 ส.ค. 47 22:16:11 ]