CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    E-Mailในตำนาน ตอนที่1

    ก่อนอื่นผมต้องขอโทษทีมงานที่จะจัดทำหนังสือพันทิปก่อนนะครับ ก่อนหน้านี้ผมติดต่อผ่านทางคุณ uggie* ว่าจะเขียนส่งให้พิมพ์ในหนังสือด้วยแต่จนแล้วจนรอดก็ทำไม่ทันอ่ะครับ
    (จนปัจจุบันก็ยังไม่เสร็จเลย)เอาเป็นว่าผมมาลงเฉลิมไทยเป็นตอนๆไปเรื่อยๆดีกว่านะครับ
    เพราะบางเรื่องมันยังพูดตรงนี้ไม่ได้อ่ะครับมันเกี่ยวพันหลายฝ่ายเหลือเกินผมกลัวคนอื่นจะเดือดร้อนไปด้วย......เอาเป็นว่าผมกราบขอโทษมา ณ ที่นี่ด้วย นะครับ

    29 มิถุนายน 2547

    ปกติผมจะถึงที่ทำงาน7.30น.(มาเป็นคนที่2ของออฟฟิศเกือบทุกวัน)วันนี้ก็มาทำงานเช้าเหมือนเดิมนั่งกินข้าวอ่านหนังสือพิมพ์บนเน็ตและเข้าเวบพันทิปอยู่ที่โต๊ะจนไอ้ฮัทเพื่อนที่ทำงาน
    ด้วยกันมาถึง ….. จริงๆไอ้ฮัทเป็นเพื่อนร่วมห้องตั้งแต่สมัยเรียนด้วยกันเล่นดนตรีมาด้วยกันและเป็นคนที่ชวนผมเข้ามาทำงานที่KSC
    “เฮ้ยไอ้โจ้....เดียวขึ้นไปดูเครื่องพี่กิ๊กที่ชั้น10ด้วยนะเข้าnetworkไม่ได้วะ”
    “เออ...ได้..เดียวกูขึ้นไปดูให้อ่านกระทู้แปป” ผมตอบมันไปแล้วก็อ่านกระทู้ต่อไปจนหมดหน้า
    ถึงได้ลุกออกจากโต๊ะเดินขึ้นลิฟท์ไปยังเครื่องที่มีปัญหา(ลืมบอกไปที่ทำงานผมมีอยู่3ชั้น ชั้นG
    ชั้น9 และชั้น10 ทั้งแผนกผมมีกัน4คนแต่ดูแลหมด3ชั้น ส่วนแผนกผมนั้นอยู่ชั้น9)
    “มาแล้วครับพี่ เครื่องเป็นอะไรครับ”  (ในฐานะที่เพิ่งทำงานมาได้ไม่ถึง2เดือนเจอใครก็เรียกพี่หมดละ 555 ^_^ )
    “ไม่รู้สิอยู่ๆก็เข้าnetworkไม่ได้...โจ้ดูให้ทีสิ”
    “ได้ครับพี่” จากนั้นก็ลงมือแก้ไปเรื่อยจนแล้วเสร็จ
    “เสร็จแล้วคร๊าบบบบ”
    “อือ..ขอบใจมาก” ว่าแล้วผมก็ลุกออกจากโต๊ะว่าจะเดินกลับซะหน่อย ทันใดนั้น
    “โจ้ๆ....เดียวอย่าเพิ่งไปดูเครื่องให้พี่ด้วย เป็นอะไรไม่รู้มันดูหนังไม่ได้อ่ะ...”
    5555ผมขำในใจนึกแล้วต้องเกิดเหตุการณ์นี้ ทุกครั้งที่ผมหรือเพื่อนผมเดินออกไปทำเครื่อง
    ที่โต๊ะไหนรับลองได้เลยว่าไม่กลับง่ายๆแน่นอน พนักงานคนอื่นๆจะมีสารพัดปัญหามาถามแน่นอน
    และแล้วจนเกือบเที่ยงผมก็ยังไม่ได้ลงมาจากชั้น10เลย  -_-”
    ...................................
    และแล้วเสียงโทรศัพท์มือถือผมก็ดังขึ้น......ออ..ไอ้ฮัทนี่เอง
    ”เฮ้ยโจ้....ลงมากินข้าวได้แล้วเว้ย” เสียงไอ้ฮัทโทรมาตามผมไปกินข้าว
    “เออ...เสร็จแล้วเดียวลงไป” ว่าแล้วผมก็ลงไปกินข้าวเที่ยงที่โรงอาหารจนอิ่มกลับขึ้นมาที่โต๊ะ
    “เฮ้ย...เล่นCMกัน”ปกติถ้าไม่มีงานติดพันผมกับไอ้ฮัทจะเล่นเกมCMกันทุกเที่ยงและหลังเลิกงาน
    “เออ...แปป...เช็คอี-เมลแปป” ผมตอบกลับไปโดยหารู้ไม่ว่า E-mail มรณะได้เข้ามาอยู่ในเครื่องแล้ว -_-“



    inboxแสดงมีEmailใหม่เข้ามา
    “ภาพจากหนังเรื่อง ไอ้ฟัก ที่คุณยังไม่เคยเห็น” ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกหัวข้อเมลจะเป็นแบบนี้นะ
    และแล้วผมก็ได้เห็น “สิ่งที่เราไม่เอ่ยถึง” (หนังThe Villageกำลังดังขอใช้มั่ง) เฮ้ยจริงเหรอวะนี่
    มีถ่ายแบบนี้ด้วยเหรอ ผมคิดในใจ ว่าแล้วก็เหลือบไปเห็น อ้าวพันทิปยังเปิดอยู่นี่ และแล้ว
    “สิ่งที่เราไม่น่าทำ”ก็เกิดขึ้น ผมตัดสินใจลองเอามาตั้งกระทู้ถามดู  แต่...ยังก่อน ขืนเอาถาพ
    ต้นฉบับไปลงมีหวังตายแน่ตู ว่าแล้วก็เปิดโปรแกรมPaintธรรมดานี่ละ เซ็นเซอร์และพิมพ์ข้อความว่า
    “เซ็นเซอร์กลัวโดนยึดอมยิ้ม” คาดหน้าอกไว้ แล้วส่งกระทู้เข้าเฉลิมไทยอย่างรวดเร็ว
    “เฮ้ยฮัทเสร็จแล้ว....เล่นCMกัน”
    “เออ.....มาดิ”



    และแล้วจุดเริ่มต้น ของพันธมิตรแห่งแหวน...เอ่ย..ไม่ใช่(เวรกำติดคุณสาวน้อยมาอีก555)
    จุดเริ่มต้นแห่งหายนะครั้งใหญ่ในชีวิตก็ได้เริ่มขึ้น ....แต่ยังก่อนเรื่องราวของวันที่29ยังไม่หมดแค่นั้น
    ต่อจากนี้ยังมีคนมาตอบมากมาย(ส่วนใหญ่มาขอภาพต้นฉบับอ่ะ)จนเป็นที่มาของกระทู้ต่างๆ
    ทั้งที่วิเคราะห์ว่าเป็นภาพตัดต่อ ทั้งคนที่มาตอบกระทู้เตือนต่างๆ ยังมีตามมาอีกมากแต่คงยกไปไว้ตอนหน้านะครับ

    ปล.ถ้าคิดว่าผมควรเอามาลงอีกหรือไม่ก็หลังไมค์มาบอกได้นะครับ

    แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 47 13:43:29

    แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 47 13:42:46

    จากคุณ : มือกลองในตำนาน - [ 2 ก.ย. 47 13:38:10 ]