ความคิดเห็นที่ 1 ขึ้นอยู่กับตัวเราน่ะครับว่าไปแล้วจะเข้าสังคมเค้าแค่ไหน ถ้าพยายามหาเพื่อนฝรั่ง ทำกิจกรรม host family ทำอะไรทำด้วย ผมว่าฝึกได้เยอะ 9 เดือนนี่ อย่างน้อยๆ ก็ฟังรู้เรื่อง พูดให้ฝรั่งรู้เรื่องได้ (ถูกหลักไม่ถูกหลักนั่นอีกเรื่อง) ในทางกลับกัน ถ้ามัวแต่ไปอยู่แต่กับคนไทยที่อยู่ที่โน่น.. 9 เดือนนี่อาจไม่ได้อะไรเท่าไหร่.. ส่วนจะติดตัวต่อไปนานแค่ไหน ของแบบนี้เป็นทักษะครับ ยิ่งได้ใช้ ได้ฟัง ได้พูดอยู่ตลอดเวลา มันก็ติดตัวไปตลอดชีวิตนั่นแหละ จากคุณ : ชาเขียว - [ 3 ก.ย. 47 00:47:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าไปกะพวกโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน ก็รับรองได้เลยว่ากลับมาต้องพูดได้แน่นอนค่ะ เพราะว่าทั้งเมืองมีแค่เราเป็นคนไทยคนเดียว พูดไม่ได้ก็ต้องพูดค่ะ แต่จะสำเนียงดีแค่ไหนก็ขึ้นกับตัวเราและสถาพแวดล้อมที่เราไปอยู่น่ะ เราเจอนักเรียนแลกเปลี่ยนที่เพิ่งกลับมา บางคนพูดไทยไม่ได้เลยน่ะ สำเนียงดีมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กะพื้นฐานและความพยายามของเราเองด้วย แต่เราว่าไปโครงการแบบนี้อย่าได้ตัดสินใจว่าจะไปเพราะจะเอาแต่ภาษาอย่างเดียวน่ะ เพราะไปแบบนี้ชีวิตมันก็มีลำบากเหมือนกัน ต้องไปอยู่บ้านคนอื่นเขา ไปใช้ชีวิต+อาหารที่ไม่คุ้นเคย ช่วง 3 เดือนแรกลำบากมากๆ แต่ถ้าคุณผ่านมันมาได้ บอกได้เลยว่าจะได้อะไรที่ดี ๆ ในชีวิตอีกเยอะค่ะ จากคุณ : ohhioh - [ 3 ก.ย. 47 00:49:21 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตามมากรี๊ด แห่ะ แห่ะ ล้อเล่น เอ่อ ม.4เหรอ น่าจะได้เยอะนะ ไม่รู้ดิ จำไม่ได้ จากคุณ : แมวเหมียวพุงกาง - [ 3 ก.ย. 47 00:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นด้วยกับ คห.1คุณชาเขียวอย่างยิ่ง ไปอยู่ที่โน้น ขอแนะนำ ห่างๆ ชุมชนคนไทยไว้ครับ อดทน ครับ จากคุณ : TAXI_DRIVER - [ 3 ก.ย. 47 01:02:12 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ได้ค่ะ อย่าว่าแต่ภาษาอังกฤษเลย ฝรั่งเศส อิตาลี่ ก็ไปได้ แต่ขึ้นอยู่ที่ตัวเราเองอย่างที่คุณชาเขียวบอกน่ะค่ะ ที่สำคัญ ต้องหลีกเลี่ยงการสมาคมกับคนไทยด้วยค่ะ จากคุณ : umae - [ 3 ก.ย. 47 01:03:24 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตอนนี้ผมอยู่ที่เมกา มากับทุน afs นี่เพิ่งมาได้แค่ เดือนเดียว ก้อได้สำนวนอะไรแปลกๆเยอะแยะไปหมด ถ้ามารร แล้วจะสนุกมากขึ้น เค้าจะยิงคำถามมาแบบไม่หยุด ถือเป็นการดีเพราะจะได้ฝึกภาษา แล้วถ้าได้เมืองเล็กๆหรือเล็กๆ (รร ที่อยู่มีนักเรียน 300 คน เป็นเอเชียคนเดียว) จะยิ่งดีมาก เพราะเค้าจะค่อนข้างต้อนรับคุณมากกว่า รร ใหญ่ๆ ยังงัยถ้าอยากจะประสบความสำเร็จกับทุน afs คุณต้องพูดให้เยอะๆ ช่วงแรกๆอาจจะคุยเกี่ยวกับเรื่องที่บ้าน หรือประเทศไทยเค้าจะให้ความสนใจกันมาก ขอให้โชคดี จากคุณ : Sixcontinents - [ 3 ก.ย. 47 01:10:51 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ใช่ครับหลีกๆเอาไว้ บางเมือง Meeting กันไม่รู้จักหยุด จากคุณ : ทริปเปิ้ลคลิก - [ 3 ก.ย. 47 01:17:00 A:202.80.225.72 X: TicketID:071691 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้ารู้ตัวเองว่าไปเพื่ออะไร จะได้อะไรกลับมามากกว่าภาษาอีกนะคะ โอกาส .. ไม่ได้มาเยี่ยมเยือนเราบ่อยๆนะคะ ^_^ จากคุณ : chOOchUp - [ 3 ก.ย. 47 01:36:10 A:202.133.163.174 X: TicketID:005865 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่าน่าจะได้นะ จากคุณ : flyingmoon - [ 3 ก.ย. 47 01:40:21 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อย่าคาดหวังแค่ภาษาอังกฤษเลยค่ะ ชีวิตต่างแดน มีอะไรให้เรียนรู้เยอะแยะ อิฉันอยู่มาห้าหกปีแล้ว ยังไม่น้ำไหลไฟดับเลย ถ้าคุณไม่ได้เกิดที่เมืองนอกและใช้ชีวิตอยู่ที่นี่พอสมควร โอกาสที่คุณจะพูดได้ เหมือนฝรั่งเนี่ย น้อยมากๆ ยังไงๆ พูดคล่องแค่ไหน คุณก้อติดสำเนียงไทยแน่นอนค่ะ พยายามอยู่กับคนที่ไม่พูดภาษาไทย แล้วคุณจะพูดได้เร็วขึ้นอย่างที่ คคน ต้นๆ บอกนะ ขอให้โชคดีนะคะ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 47 02:01:37 จากคุณ : หนูหมีน้อย - [ 3 ก.ย. 47 01:57:10 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณทุกคนมากๆ ครับ แต่... -_-" มันใช้เงินมากจริงๆ ง่ะ เฮ้อ... จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [ 3 ก.ย. 47 02:09:15 A:203.113.51.68 X: TicketID:071948 ]

ความคิดเห็นที่ 12 พยายามพูดไว้นะน้องนะ อย่าอายที่จะพูด อย่ากลัวที่จะพูด เจอเพื่อนฝรั่งที่รู้จักก้อตรงหรี่ๆๆๆ เข้าไปเลย นอกจากจะพูดได้ฟังได้ คงได้สำนวนแปลกๆด้วยนะ ที่แบบว่าในบทเรียนไม่มีสอนอ่ะ  9เดือนน้องจะได้ประสบการณ์เพียบเลย สู้ๆนะจ้ะ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 47 02:39:06 จากคุณ : neoatom - [ 3 ก.ย. 47 02:29:38 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เรื่องภาษาไม่รู้ ... แต่คนที่รู้จักไปได้จะ6เดือนแล้ว เปลี่ยนนิสัยเป็นคนละคนไปแล้ว จากคุณ : side B - [ 3 ก.ย. 47 02:40:47 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มันอยู่ที่คนหน่ะน้อง พี่มาอยู่ 7 ปีแล้ว ภาษายังไม่กระเตื้องเลย กร๊ากกก จากคุณ : Snowie - [ 3 ก.ย. 47 03:20:28 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อืมเราว่า มันก็คุ้มนะ เสีย ประมาณ 2 แสน แต่ว่าทั้งปีเราว่าถูกมาก เราเสียดายตอน ม ปลายไม่ได้สอบ เฮ่อ แต่คุณสอบได้เราว่าคุณก็น่าจะมีพื้นฐานภาษาอังกฤษพอสมควรแล้วล่ะคะ จากคุณ : โนบิ โนบิตะ (n-OO//bit-a) - [ 3 ก.ย. 47 03:22:13 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อย่างที่หลายคนบอกนะคะ ว่าขึ้นกับตัวน้องเอง พี่เองก็อยู่มา 8 ปีแล้ว ไฟยังติดๆดับๆอยู่เลยค่ะ ก็พยายามจับกลุ่มกับเด็กฝรั่งเข้าไว้ แล้วถ้าได้ไปอยู่เมืองเล็กๆที่ไม่ค่อยมีคนไทยนี่ยิ่งดีค่ะ ส่วนตัวแล้วคิดว่านอกจากภาษาแล้วยังได้อะไรอีกเยอะค่ะ ตั้งแต่การทำอะไรเองทุกอย่าง รวมทั้งการต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม หลายคนมีปัญหากับ family ลูกๆของ family ไม่ได้ขู่นะคะ แค่บอกเอาไว้ว่าถ้ามีปัญหาอะไร ก็เป็นเรื่องปกติค่ะ เอาเป็นว่าถ้าจะไปก็ขอให้ได้เมืองที่ไม่ค่อยมีคนไทยละกันนะคะ เพราะคนไทยมีทั่วทุกสารทิศค่ะ จากคุณ : มูมูฮาคุโช - [ 3 ก.ย. 47 03:55:26 ]

ความคิดเห็นที่ 17 การไปเรียนต่างประเทศมันไม่ได้แค่ภาษาอย่างเดียวนะครับ ผมว่าเรายังได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ซึ่งทำให้เราเป็นคนที่มีโลกทรรศก์กว้างไกล ผมอยู่มา 2 ปีพอพูดฟังกันรู้เรื่องครับ อย่าอายที่จะพูด แม้ว่ามันจะถูกหรือผิดก็ตาม ขอเพียงให้คุณพูดมาก ๆ เข้าไว้ ก็จะทำให้เราค่องในการพูด จากคุณ : MiSs hOmE - [ 3 ก.ย. 47 04:07:12 ]

ความคิดเห็นที่ 18 น้องอ๊อปจ๊ะ อ่านกระทู้น้องแล้วคิดว่า น่าจะเข้ามาตอบประเด็นที่ยังไม่มีใครตอบดีก่า เรื่องภาษา น้องคงพอได้ไอเดียจากพี่ ๆ ข้างบนแล้วนะ ...พี่เสริมอีกจิ๊ดส์เดียว...หลานพี่ 2 คน ไปกลับมา ได้มาต่างกัน คนโต พอกล้อมแกล้ม ไม่ถึงกะได้หมดแต่คิดว่าเค้าน่าจะรุ่ง ส่วนอีกคน โง่เท่าเดิม อิ อิ ...อันนี้ ขึ้นกับแต่ละคนมั๊ง ทีนี้ มาเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เห็นถึงกับให้พ่อแม่ไปกู้หนี้ยืมสินมาเลยเหรอ...ถามจริ๊ง....นอกจากน้องอ๊อปจะคิดเรื่องภาษาที่จะได้แล้วเนียะ...คิดเรื่องตัวเองจะมีส่วนช่วยใช้หนี้ก้อนนี้มั๊งป่าววว ยกตัวอย่าง เด็กเมืองนอกนะ ถึงระดับคอลเลจปุ๊บ ถ้าพ่อแม่ไม่สะสมไว้ให้ เค้าต้องดิ้นรนกันเองนะ อาจไปกู้โครงการรัฐ หรือ ทำงานหาเงิน เรียนไปด้วย เป็นต้น ถ้ายังไง น้องอ๊อป ลองปรึกษาพูดคุยภาระนี้กะพ่อกะแม่สักหน่อยสิ ...พี่ว่า น้องอยู่ ม.4 ก็น่าจะโตพอที่จะรับรู้ เข้าใจเงื่อนไขที่พ่อแม่ไปแบกมาได้นะ พี่เองไม่มีข้อมูลเรื่องรัฐช่วยการศึกษาหร๊อก...แต่คงถึงเวลาที่น้องต้องไปไขว่และคว้าแล้วละ อย่าเพิ่งรีบตัดใจ โดยยังไม่ได้ลงไปดูปัญหาจริง ๆ จากคุณ : เด็กดี - [ 3 ก.ย. 47 04:07:57 A:24.16.11.146 X: TicketID:064228 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าไม่พยายามพูดไทย อะนะ เรียนรู้กับเจ้าของภาษาอะดีที่สุดเลยคับ พยายามนะคับ สู้ว้อยยยยยยยยย - จากคุณ : ++Chinemon++ - [ 3 ก.ย. 47 08:40:55 ]

ความคิดเห็นที่ 20 น้องขา ถ้าพ่อแม่ต้องถึงกับไปกู้หนี้ยืมสินมา อย่าไปค่ะ เก้าเดือนนี่ น่าจะได้ภาษา พอสมควร หากน้องพยายาม"อย่างหนัก" ไม่อาย หน้าด้าน จะผิดจะถูกก็พูดไป แต่ก็ได้ไม่มากนักหรอกค่ะ และหากกลับมาแล้ว ไม่ได้ใช้บ่อยๆ นานๆไปก็ลืมได้เหมือนกัน ยิ่งถ้าภาษาน้องไม่ดีอยู่แล้วก่อนจะไปนะ...ชีวิตน้องจะเครียดมากๆเลย เพราะสื่อสารกะคนอื่นไม่รู้เรื่อง พี่เคยมีเพื่อนเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากญี่ป่น ภาษาอังกฤษเค้าไม่เอาอ่าวเลย ไม่สามารถสื่อสารกะ Host family ได้รู้เรื่อง เค้าเครียดมากๆ เกือบหลุดโลกไปเลยนะคะ พี่แนะนำว่า น้องเรียนภาษาให้เก่งในไทยก่อน (เรียนเอาเอง จากการอ่าน เขียน ฟัง หัดพูดตามหนัง เยอะๆ) แล้วไปสอบชิงทุนเอาค่ะ พี่แนะนำโครงการ Young Exchange Service หรือ YES เค้าจะมีทุนฟรีให้ทุกปีสำหรับเด็กที่สอบได้ที่ 1 ถึง ที่ 4 ของปีนั้นๆค่ะ (แต่ขนาดทุนฟรี ก็ยังต้องมีเงินเป็น pocket money ติดตัวไปใช้จ่ายรายเดือนค่ะ) น้องลองสอบถามรายละเอียดจากทางโรงเรียนน้องดู อย่าลืมว่า เรียนให้เก่งเองก่อนในไทย (เพื่อจะได้สอบชิงทุนได้) ซักปีนึงนี่น่าจะโอเคเลยนะคะ พอ ม. ห้าค่อยสอบ ขอให้น้องประสบความสำเร็จนะคะ จากคุณ : 1 is the loneliest number - [ 3 ก.ย. 47 09:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ก็อย่าลืมว่าเสียเงินไปตั้งเยอะ .. คุณพ่อคุณแม่ต้องลำบาก .. ไปแล้วก็เอาคืนซะให้คุ้ม .. ภาษาอังกฤษน่ะไม่ยาก .. อาศัยลูกบ้าบวกความกระแดะเล็กน้อย .. แค่นี้ก็เอาตัวรอดแล้ว .. ช่วงแรกๆ มันอาจจะยังไม่เห็นผลมากนัก .. รอสักพัก .. ไม่เกินความพยายาม .. มีเวลาตั้ง 9 เดือน .. เราไปไม่นานขนาดนั้น .. กลับมาภาษาเราดีขึ้นเป็นกอง .. แต่ก็ต้องอาศัยลูกบ้าอย่างที่บอก .. อย่ากลัวที่จะพูด .. ถ้าเราเดินหนีฝรั่ง แล้วจะเก่งได้ไง .. ใส่เกียร์ 5 เข้าหาเลยน้อง .. ฝรั่ง เวลาเจอแบบเนี้ย .. บางที เค้าก็จะช่วยเหมือนกัน .. มีฝรั่งคนนึง .. เราต้องเดินสวนกะเค้าทุกเช้า เวลาไปคอลเลจ .. เค้าจะจูงหมาออกมาเดินเล่น .. ก็เริ่มจากยิ้มให้ .. ก็คุยกัน .. ผ่านไปหลายปี ตอนนี้ยังเป็นเพื่อนกันอยู่เลย .. กับ host .. กลับบ้านมาก็ขึ้นไปเกะกะๆ เค้าบ้างก็ได้ .. อย่าเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง .. ช่วยเค้าทำโน่นทำนี่ .. ทำไปคุยไป .. ฝึกภาษาไปในตัว .. --> และจะติดตัวไปตลอดชีวิต เลยไหม คือถ้าสิ่งที่ผมจะได้มันไม่คุ้มกับจำนวน เงินที่เสียไป ผมจะได้ตัดใจครับ --> อันนี้ขึ้นอยู่กับตัวน้องแล้วหล่ะ .. ไม่มีใครตอบได้หรอก .. แต่บอกไว้อย่าง .. ถ้าน้องกลับมาแล้วมีพัฒนาการที่เห็นได้ชัดล่ะก็ .. พ่อแม่ปลื้มตาย .. 250000 ที่เสียไป .. หายเหนื่อย .. ขยันหาเพื่อนล่ะ .. เอาใจช่วย .. :) จากคุณ : b e e r - [ 3 ก.ย. 47 09:33:31 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขึ้นอยู่กะตัวเอง เป็นส่วนสำคัญเลยล่ะ พูดมากรู้มาก ใช้มาก จำมาก ก็จะดีเองอ่ะค่ะ*^_^* จากคุณ : I'M NAN - [ 3 ก.ย. 47 09:35:29 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เราเป็นคนไทยที่ไม่เคยไปเมืองนอกเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างคล่อง ฝรั่งหลายๆ คนชมว่าภาษาอังกฤษ excellent ด้วย ถ้าจะไปเรียนแล้วกะจะเอาแต่ภาษาอังกฤษ ก็ไม่ต้องไปหรอก อยู่เมืองไทยก็ฝึกภาษาอังกฤษได้เหมือนกัน แต่อยากให้ไปเพื่อไปเอาประสบการณ์ชีวิตต่างหาก ลองไปอยู่ที่นู่น ถึงแม้จะเก้าเดือน แต่ก็คงจะได้ประสบการณ์มากขึ้น แต่อย่ากดดันตัวเองมากนักล่ะ เข้าใจว่าที่บ้านไม่ค่อยมีเงิน แต่อย่ากดดันจนเครียดแล้วเป็นบ้าไปนะ สู้ตาย จากคุณ : Hot chocolate - [ 3 ก.ย. 47 09:59:25 ]

ความคิดเห็นที่ 24 หลานสาวเราได้ภาษาเดนนิชมา ค่อนข้างคล่องพอสมควร จากคุณ : จันทร์กลางหาว - [ 3 ก.ย. 47 10:31:10 ]

ความคิดเห็นที่ 25 พี่เคยเห็นเพื่อนพี่ไปมา ก็จะได้พวกภาษาพูด มากกว่าอย่างอื่น แต่ก็อย่างที่ทุกๆคนพูดว่าจะได้อะไรหลายอย่างนอกจากภาษา ได้ฝึกดูแลตัวเองได้ทั้งประสบการณ์ชีวิต ไอ้เรื่องภาษานี่จะติดตัวหรือไม่ แล้วแต่คน เพราะเพื่อนสองคนที่ไปมา คนแรกหมั่นฝึกฝน อ่านหนังสือภาษาอังกฤษประจำ ก็เห็นภาษาเขาดีมาตลอด ส่วนอีกคน ไม่เห็นว่าภาษาจะดีมากมายกว่าคนอื่นที่อยู่เมืองไทยมาตลอด เพราะไม่ได้ใช้นั่นเอง เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคุณความเห็นที่ 20 ถ้าพื้นฐานไม่ดีแล้ว อาจจะยากสักหน่อยที่จะพัฒนา ยิ่งในกรณีที่คุณพ่อคุณแม่น้องต้องขนาดไปกู้หนี้ยืมสินมานี่ คิดหนักๆหน่อยก็ดีนะคะว่าข้อได้ข้อเสียมันมากน้อยกว่ากันแค่ไหน น้องยังอายุน้อย ถ้าเพียรพยายาม โอกาสมัน่าจะมีเรื่อยๆนั่นแหละ จากคุณ : ... (Leopold) - [ 3 ก.ย. 47 10:45:37 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ไปเลยน้อง ประสบการณ์พี่ก็เริ่มต้นเหมือนน้องเลย สอบได้โครงการนี้ ตอน ม. 4 เหมือนกัน และพ่อแม่ต้องหาเงิน 2 แสนมาสมทบทุนโครงการ แรกๆก็กลัวว่าไม่รู้เรื่อง แต่พอไปแล้วเดือนแรกเราจะเหมือนกับจะจมน้ำตาย จะตาย จะตาย จะตาย แต่ก็ไม่ตาย เดือนที่สองก็เริ่มขอเบอร์โทรเพื่อน แล้วเพื่อนก็ชวนเราไปเที่ยวปาร์ตี้ตอนวันศุกร์ เดือนที่สามก็สบายตัวแล้ว ภาษาอังกฤษมันจะอยู่รอบตัวน้องตั้งแต่ลืมตา ลงมากินข้าวเช้า ไปขึ้นรถโรงเรียน เรียนหนังสือ ไปเล่นกีฬา กลับบ้าน ดูทีวี จนถึงเข้านอน เพราะฉะนั้น เด็กๆรุ่น ม.4-5 นี่จะรับได้เร็วมากๆ อย่ากลัวเลยครับ ความกลัวเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นมา เอาชนะมันให้ได้ จากคุณ : รุ่นพี่ (GSK) - [ 3 ก.ย. 47 10:55:22 ]

ความคิดเห็นที่ 27 2อาทิตย์ก็คล่องปรื๊อแล้วค่ะน้องอ๊อป อย่าไปกลัว ยิ่งเด็กๆแบบนี้ เรียนรู้ไว จำง่าย ร่าเริง สนุกสนาน เป็นมิตรเข้าไว้ น้องจะได้เรียนรู้ชีวิตและวิธีการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง แล้วจำไว้เสมอว่าเรามาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ทำให้ดีที่สุด จากคุณ : ^w^ยากุซ่าหน้าแมว^w^ - [ 3 ก.ย. 47 10:56:15 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อ้อ..เสริมอีกนิด พอไปแล้วพี่กลับพบว่า "ภาษา" ไม่ใช่สิง่เดียวที่เราจะได้รับจากการไปอยู่เมืองนอก "วัฒนธรรม" เป็นสิ่งหนึ่งที่เราหาได้ยากจากการใช้ชีวิตในบ้านเรา พูดง่ายๆ เห็นภาพชัดๆ เช่น วัฒนธรรมการเรียนของฝรั่งเค้าจะแสดงออกเต็มที่และมีวินัยเรื่องเวลา วัฒนธรรมการใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนเค้าจะชอบเล่นกีฬามากๆ วัฒนธรรมอื่นๆที่น้องอาจไม่เห็นภาพได้ หากไม่ลองมาสัมผัสจริง จากคุณ : รุ่นพี่ (GSK) - [ 3 ก.ย. 47 11:04:19 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้ามาด้วยทุนนี้แล้วมันลำบากครอบครัวมากนัก.. ผมว่าทำไมไม่สอบชิงทุนอะไรซักอย่างให้ได้มาเรียนอยู่เมืองนอกซักห้าหกปีไปเลยไม่ดีกว่าเหรอครับ ^_________________________________^ จากคุณ : น้ำลายบูด - [ 3 ก.ย. 47 11:09:36 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เห็นด้วยกะ คคหที่ 1,20 และ23 ค่ะ ถ้าไปแล้วต้องลำบากพ่อแม่มากเกินไป อยู่เมืองไทยก้อฝึกภาษาได้ สามารถพูดได้คล่องเหมือนกัน ยกตัวอย่างพี่ ภาษาอังกฤษอ่ะ ส่วนตัวไม่เก่งเลย แต่ได้จีนกลาง เรียนมาหลายปีดีดัก ที่สมาคมจงหัวที่บ่อนไก่นี่แหละ เคยทำงานกะคนไต้ัหวันเค้ายังบอกว่า จีนกลางพี่พูดได้ดี ไม่เคยไปเรียนที่จีนหรือไต้หวันเลย (ทั้ง ๆ ที่เป็นความใฝ่ฝันเลยนะแต่ยังไม่มีโอกาส) แต่หาอ่านเพิ่มเติมซื้อหนังสือพิมพ์จีน รีดเดอร์ไดเจสฉบับภาษาจีน วีซีดีละครชุดของจีนใหญ่ - อันนี้ถึงฟังไม่รู้เรื่องทั้งหมด แต่ก้อพอจับใจความใหญ่ที่เค้าสื่อสารกันได้ ที่พูดมาไม่ใช่ยกยอตัวเอง แต่อยากบอกว่า ไม่ว่าจะเรียนที่ไหน เรียนอะไร ขึ้นอยู่กับความตั้งใจขยันของตัวเราเองเป็นที่ตั้งค่ะ สถานที่ถึงแม้มีส่วนช่วยด้วยแต่ยังเป็นเรื่องรอง ดูจากที่น้องโพสน้องคงเห็นใจพ่อแม่ด้วย แต่ถ้าอยากไปจริง ๆๆ ลองเรียนที่ไทยให้จบ ม.6 ก่อนดีเปล่า เอาภาษาเอาพื้นฐานให้แน่น และไปลองสอบทุนของ ก.พ.อ่ะค่ะ เคยรู้มาว่ามีทุนฟรีให้ด้วยนะ จากคุณ : เซียง ๆ - [ 3 ก.ย. 47 12:16:12 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อยากให้ลองอ่านดูคะ เรื่องของคนที่ลูกสาวสอบได้ทุน แต่ไปไม่ได้ เพราะปัญหาเรื่องเงิน http://www.mcdang.com/WebBoard/Question.asp?GID=24812 จากคุณ : เอเวอรี่ - [ 3 ก.ย. 47 12:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนมากๆ คร้าบ \(^0^)/ _/|\_ /(-_-")\ /(>_<)\ /(T_T)\ \_(ToT)_/ ฮือๆๆๆ จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [ 3 ก.ย. 47 13:32:26 A:203.113.51.68 X: TicketID:071935 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อ๊ะ เข้ามาย้ำอีกที น้องอ๊อป ชั่งน้ำหนักดี ๆ นะ....ที่พี่ ๆ เค้าเข้ามาให้ความเห็นถูกทั้งน้าน....ทั้งความเห็นที่ว่าไป กะ ไม่ไป...มันขึ้นกับน้องเองแหละ ไปคุยกับพ่อแม่ถึงปัญหาเรื่องเงินก่อนนะ....แล้วยังไง ช่วยแวะเข้ามาบอกผล หรือ ประเด็นต่าง ๆ ที่อาจมีเพิ่มเติม...พี่ ๆ จะได้ช่วยกันคิดอะ การได้ชื่อเป็นร.ทุน afs เป็นเรื่องดีมาก ๆ ในชีวิต...แต่ไม่รู้นะ...พี่ว่า น้องเป็นเด็กดี ๆ เก่ง ๆ (ขนาดสอบทุนได้นี่ ไม่ธรรมดานะ) หากมีเหตุจำต้องพลาดโอกาสไป...พี่มั่นใจว่า อย่างน้อง ก็คงจ้องรอโอกาสต่อ ๆ ไปอีกแหละน่า...เชื่อเหอะ แต่ยังไง ๆ ก็ขอให้โชคดี มีทางแก้ปัญหาได้นะ จากคุณ : เด็กดี - [ 3 ก.ย. 47 13:32:34 A:24.16.11.146 X: TicketID:064228 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เรื่องเงิน 250,000 ที่ต้องบริจาคสมทบทุน พี่รู้สึกเช่นเดียวกันเลยในครั้งที่พี่ตัดสินใจจะไป สงสารพ่อแม่มาก พ่อแม่เราไม่มีเงินเก็บเลย เป็นข้าราชการเงินเดือนรวมกันทั้งบ้านไม่เกิน 30,000 ต่อเดือน ไหนๆมีภาระอื่นๆอีก แต่ก็ต้องไปกู้เงินแบ็งค์มาให้ และผ่านไปเป็นเวลาถึง 5 ปีถึงหมด ถามว่าเยอะไหม...ตอบได้เลยว่าเยอะมากสำหรับครอบครัวชนชั้นกลาง แต่ว่าคุ้มไหม ? ตัวพี่เองบอกได้เลยว่า "คุ้มทุกบาท" (คนอื่นอาจไม่พูดเหมือนพี่ นี่ก็แล้วแต่คน) เพราะว่า 1. เรื่องภาษานี่มันช่วยให้พี่ไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆระดับต้นๆของประเทศได้ แล้วมันติดตัวมาจนถึงเวลามาทำงาน ไปทำงานที่ไหนใครก็อยากได้คนที่พูดภาษาได้คล่องๆ ซึ่งพี่ก็ผ่านเกณฑ์ขั้นนี้ได้เสมอๆ 2. เรื่องโลกทัศน์ - อย่างที่พี่บอกไว้ว่า มุมมองเราจะกล้าขึ้น กลับมาพี่กล้าที่จะแสดงออกต่อหน้าสังคม ในทางที่ถูกที่ควร และเป็นที่ยกย่องในโรงเรียน 3. เรื่องวัฒนธรรม - การใช้ชีวิตแบบนักเรียนแลกเปลี่ยนมันจะค่อยๆหล่อหลอมให้เราซึมซับการใช้ชีวิตแบบชาวต่างชาติ และมันจะมาผสมผสานกับความเป็นไทยของเดิม 4. เรื่องแรงจูงใจ -- สำคัญที่สุด บอกได้เลยว่า returnee 99.99% มักจะพยายามหาทางกลับไปอีกให้ได้ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง เพื่อนพี่หลายๆคนกลับมาเรียนแล้วก็มาเข้ามหาลัย พอจบแล้วหลายคนก็จะหาสอบชิงทุนนั่นทุนนี่ ไปต่อนอกอีกจนได้ มันเหมือนมีไฟที่คุกรุ่นอยู่ในใจเสมอและรอวันที่จะลุกโชต่ช่วงขึ้นอีกครั้ง ........... จากคุณ : รุ่นพี่ (GSK) - [ 3 ก.ย. 47 14:19:58 ]

ความคิดเห็นที่ 35 พี่ว่าน้องควรไปเถอะ ไม่รู้นะ โอกาสอย่างนี้ไม่ได้มีได้ง่าย ๆ ในทุกคนนะ แต่ว่าไปแล้วน้องควรจะทำมันให้คุ้มค่าที่สุด กับเงินที่พ่อแม่เราเสียไป เอากลับมาให้คุ้ม!!! แล้วพอกลับมาก้อไปเรียนต่อที่มันเกี่ยวกับภาษาไปเลย เรียนให้แบบจริง ๆ จัง ๆ อะ พี่ว่าต้องรุ่งแน่นอน ขอให้โชคดีจ๊ะ จากคุณ : Baby Dog - [ 3 ก.ย. 47 14:35:10 ]

ความคิดเห็นที่ 36 น้องสาวดิฉันได้ทุน AFS เหมือนกันค่ะ ไปเรียนที่ อเมริกาประมาณ 1 ปี ตอนไปเขาจัดได้ว่าเป็นคนที่ภาษาอังกฤษเข้าท่าที่เดียว แต่น้องสาวบอกว่าพอไปถึงเขาพูดกับแฟมิลี่ไม่รู้เรื่อง ฟังไม่รู้เรื่อง พอพูดกลับไปเขาก็ฟังไม่รู้เรื่อง ไปโรงเรียนวันแรกไม่เข้าใจอะไรเลย พอวันรุ่งขึ้นทุกคนไปโรงเรียนมีการบ้านมีน้องสาวดิฉันคนเดียวที่ไม่มีอะไรเลย เพราะเขาฟังไม่เข้าใจ แต่ 3 เดือนหลังจากนั้น ทุกอย่างลงตัวหมด เขาฟังออกแม้แต่เสียงกระซิบ พวกเราที่บ้านที่ว่าภาษาอังกฤษเจ๋ง ๆ ตอนนี้สู้เขาไม่ได้เลยสักคน หลังจากนั้นน้องสาวก็เอ็นท์ติดอักษรศาสตร์ จุฬา อีกคนนึงเป็นน้องสาวเพื่อน เรียนจบตรีม.เกษตร หลังจากนั้นไปเรียนภาษาที่ออสเตรเลียประมาณ เกือบ ๆ ปี วันนึงไปสอบสัมภาษณ์งาน โดนเขาสัมภาษณ์พูดว่า ผมเสียดายเงินที่พ่อแม่คุณส่งไปเรียนภาษาจัง อันนี้เป็นตัวอย่างให้ดูนะค่ะ คิดว่าขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลมากกว่า ถ้าไปอยู่กับแฟมิลี่และแถวนั้นไม่มีคนไทยเลยก็ดี แต่ว่าแฟมิลี่ต้องขยันเอาใจใส่คอยพูดด้วยเยอะ ซึ่งคิดว่าจะช่วยได้เยอะ ไม่มีคำแนะนำสำหรับน้องเจ้าของกระทู้เรื่องเงินที่จะต้องกู้นะค่ะ แต่คิดว่าโอกาสของคนเราไม่ได้หมดลงเพราะว่าไม่ได้ไปเรียนอเมริกา จากคุณ : ป่านทอ - [ 3 ก.ย. 47 14:43:39 ]

ความคิดเห็นที่ 37 พี่เป็น AFS รุ่นปี '35 น่ะค่ะ ไปออสเตรเลียปี 35 คำนวนแล้ว เป็นพี่ของน้องหลายปีเลย ตอนไปแรกๆ เรื่องการสื่อสารก็ติดๆขัดๆนิดหน่อยเป็นธรรมดาค่ะ แต่ที่มีปัญหามากที่สุดก็คือ เวลาเรียน หนักหนามาก ก็เครียดนะคะ แต่ก็อดทน แรกๆเวลาเค้าถามอะไรมา พี่จะตอบเค้าได้สั้นๆน่ะค่ะ แต่เข้าใจนะ เพียงแต่เราคิดไม่ทัีนเวลาจะพูดอะไร พอสามเดือนมัีนจะเริ่มอยู่ตัวค่ะ เริ่มปรับตัวได้ การพูดการฟังดีขึ้น แต่พี่มารู้ตัวจริงๆก็ประมาณ 5 เดือนเข้าไปแล้ว นั่งดู VDO อยู่ดีๆ เพิ่งสังเกตว่าตัวเองฟังที่เค้าพูดในนั้นเข้าใจหมดเลย ดีใจมาก วิ่งไปหา mum บอก "เนี่ย mum หนูเข้าใจที่เค้าพูดหมดเลย" mum ก็มองหน้าประมาณ "นี่เธอเพิ่งรู้ตัวเรอะ" ขำๆน่ะค่ะ 6 เดือนนี่คือสบายแล้ว สื่อสารอะไรได้สบาย พูดคุยเล่น ปล่อยมุข รับโทรศัพท์อะไรได้เหมือนอยู่บ้านเรานี่แหละค่ะ วิธีหาประโยคหรือศัพท์ใหม่ๆมาใช้ในชีวิตประจำวันก็คือ การดูทีวีหรือหนังบ่อยๆน่ะค่ะ เห็นประโยคไหนน่าสนใจก็จะจดเอาไว้ ลองหาโอกาสเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันดู ช่วยได้เยอะเลย จากคุณ : fingers-crossed (fingers-crossed) - [ 3 ก.ย. 47 17:33:07 ]

ความคิดเห็นที่ 38 AFS มันไปอยู่ 11 เดือนไม่ใช่เหรอครับ (หรือปีนี้เขาลด? หรือผมสับสน?) ในฐานะคนที่ไปเมากามาก่อนเมื่อปีที่แล้ว ขอบอกล่ะกันครับ มันก็ขึ้นอยู่กับคุณด้วย คุณต้องออกไป คุยกับเขาให้มาก อย่าหมกตัวอยู่แต่ในบ้าน เพราะคิดว่าคุณจะพูดไม่ได้ ผมชอบคนอเมริกันอย่างนึง เพราะเวลาคนต่างชาติ พูดภาษาเขาไม่ได้ เขาไม่เคยด่า ไม่เคยว่า ว่าไอ้นี้โง่ พูดภาษาอังกฤษไม่เป็น สำเนียงเห่ย เพราะเขาเข้าใจว่ามันไม่ใช่ภาษาของเรา ตอนผมไปครั้งแรก ผมฟังออก ผมพูดได้ แต่สำเนียงผม การออกเสียงผมทำไม่ได้ พอนานๆ เข้ามันก็ได้เองครับ เรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับคุณจริงๆ ตอนนี้ผมก็พูดได้ ถึงจะติดสำเนียงไทยอยู่บ้างก็ตาม (ก็ผมพูดภาษาไทยมาทุกวัน 17 ปีแล้ว) แต่ก็จัดว่าดีในระดับนึง เรื่องประสบการณ์ ปีนึง เอาให้คุ้มค้า เรียนรู้ให้เต็มที่ ใช้ชีวิตให้สุดๆ (ในทางที่ดี) เพราะโรงเรียนที่โน้นจะเปิดกว้างให้คุณทำอะไรที่อยากทำ ไม่ใช่ให้ทำตามที่ อ. สั่งเหมือนเมืองไทย แล้วคุณจะรู้ว่า อเมริกา (โดยเฉพาะ New York และ Austin, Texas) สุดยอด! ปีนึงที่ผมต้องมานั่งเรียนซ้ำชั้นใหม่ มาคิดดูตอนนี้ แล้ว ผมไม่เสียดายกับมันเลยครับ แลกกับประสบการณ์ที่ผมได้มา ขอให้โชคดี :D ป.ล. เวลาที่อเมริกา มันจะผ่านไปเร็วมาก ผมไปไม่นาน ยังไม่ทันไรเลย กลับแล้ว ถ้ามีโอกาส จะกลับไปแน่ครับ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 47 19:46:06 จากคุณ : So Gallagher - [ 3 ก.ย. 47 19:44:10 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ประมาณซัก 3 เดือนก็น่าจะเริ่มคุ้นเคยแล้วล่ะค่ะ เพราะตอนมาอยู่ญี่ปุ่นแรกๆแทบเรียกได้ว่าไม่รู้ภาษาเลยด้วยซ้ำ แต่พอเรียนไปซัก 4 อาทิตย์ก็เริ่มสื้อสารได้ ตอนนี้มาอยู่ญี่ปุ่น 4 เดือนแล้ว ก็พอฟังรู้เรื่อง คุยรู้เรื่องมากขึ้น เพราะฉะนั้นภาษาอังกฤษน้องก็พอมีพื้นฐานมาแล้ว ไม่น่าจะยากเกินไป แค่ต้องพยายามพูดภาษาของเข้าให้ชิย ให้ความคิดเป็นระบบอัตโนมัติ ไม่ผ่านการแปลจากไทยอ่ะค่ะ ขอให้สำเร็จ (^ ^)V จากคุณ : KiMnoy (KiMnoy) - [ 5 ก.ย. 47 14:58:33 ]