ความคิดเห็นที่ 1 อืมมมม อ่า มันตอบยากจังนะ กระทู้นี้ เพราะข้าเจ้ามันพวกอ่านดะ อ่านแล้วอ่านอีก อ่านไปทั่วเสียด้วยสิ แต่ถ้าเอาเป็นที่เปลี่ยนชีวิตมากๆ "เพชรพระอุมา" อ่านตอนเด็กๆ เพราะทั้งคุณปู่และคุณพ่อชอบเหลือเกิน อ่านแล้วรู้สึกประหนึ่งเราไปเดินป่ากับพ่อพรานหน้าเหมือนเก้งเหมือนกวาง กะเขาอีกคน และเป็นเรื่องที่ทำให้อยากหัดยิงปืน (ไม่ได้จะเอาไปยิงสัตว์นะฮะ ตอนนั้นอยากยิงเป็นเฉยๆ) เรียกได้ว่าเปลี่ยนให้โหดขึ้นหรือเปล่านะ? เอิ๊กๆ และก็สรุปแล้วยิงเป็นหรือเปล่านะเหรอ วะฮ่ะๆๆๆๆ ใครจะสมัครเป็นเป้าไหมละคะ เอิ๊กๆๆๆ แต่อีกเล่มที่จำได้ว่าทำให้ตอนปิดเทอมตอนเด็กๆ ไม่น่าเบื่อและเป็นเล่มที่เพาะนิสัยรักการอ่านวรรณกรรมเยาวชนให้ข้าเจ้าก็คือ "หนังสือชุดบ้านเล็ก ของลอร่า อิงกัลล์ ไวด์เดอร์" ติดเป็นตังเม อ่านแล้วก็อ่านอีก แต่เสียดายที่ว่าอยู่มาปีหนึ่ง หนังสือชุดนี้ มันหายไปไหนก็ไม่รู้ และจนป่านนี้ ว่าจะซื้อที่พิมพ์ใหม่มาเก็บ ก็ยังไม่ได้ซื้อเสียที เฮ้อออออ อีกเรื่องที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยนมากๆ ก็คือ LOTR เรื่องนี้จะคล้ายๆ พจ คือทำให้ได้เพื่อนเยอะขึ้น และทำให้ตัวเองกล้าไปเล่นอะไรที่ชาตินี้ไม่เคยคิดว่าจะเล่น (เล่นอะไร คงรู้ๆ กันอยู่) และนับเป็น เล่มหนึ่งในดวงใจ (หนึ่งในหลายๆ เล่ม หมาสามหัวเป็นพวกโลภมาก) ที่เปลี่ยนชีวิตของข้าเจ้าได้ทีเดียวค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 47 23:42:40 จากคุณ : Zerbirus - [ 13 ก.ย. 47 23:41:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กระทู้ดีมีสาระ ขอคิดนานหน่อยนะคะ ^^" *คิดไปคิดมา* ถ้าเอาเล่มเดียวเปลี่ยนชีวิตก็ต้อง LOTR ค่ะ (ยกให้เพราะอ่านก่อน ติดก่อน บ้าก่อน Sil) ด้วยเหตุผลเดียวกับพจ และพี่ซบร และเพราะเล่มนี้ทำเอาเห็นอะไรก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป คิดโยงทุกอย่างเข้ากับลอร์ดโดยอัตโนมัติ ระบบความคิดไม่ได้เปลี่ยน แต่ทำให้คิดได้เยอะขึ้น กว้างขึ้น ก่อนหน้านั้นสักสี่ปีก่อน...The Phantom of the Opera ของ Gaston Leroux ค่ะ จริงๆเรื่องนี้ไม่ได้มีคติธรรมจรรยาอะไรมากมาย เหมาะจะเป็นหนังสืออ่านพาเพลินมากกว่า แต่อ่านแล้วติดใจตงิดๆอยู่เรื่อยๆ หนังสือเรื่องนี้ทำให้สกบร.พยายามคิดหาความสมดุลย์ของทุกๆอย่าง (ดี-ชั่ว งดงาม-น่าเกลียด เก่ง-บ้า) เปิดแนวคิดของการมองหลายๆมุม (เพราะอ่านแล้วสกบร.ก็เตลิดไปเรื่อยว่าตกลงคุณพี่แฟนธ่อมแกเป็นอะไร มันจบยังไงแน่ เป็นอย่างที่เขาว่าจริงหรือเปล่า ตกลงคริสทีนเป็นผู้หญิงประเภทไหนเนี่ย ฯลฯ) ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ก่อนหน้านั้นอีกสักหกปีก่อน...Rebecca ของ Daphne Du Morrier ค่ะ ตอนแรกอ่านเพราะเป็นภาคบังคับ แต่อ่านแล้วติดใจมาก เรื่องนี้ก็เป็นนิยายทริลเลอร์ธรรมดาๆ อันที่จริงมันไม่ถึงกับเปลี่ยนชีวิต แต่มันเปิดโลกให้เราเข้าใจว่าจริงๆแล้วตัวเองมีแนวโน้มจะชอบหนังสือแบบ "ฟ้าหม่น แต่ขอบฟ้าไม่ได้เป็นสีดำเลย มันเป็นสีแดงฉาน..." (อารมณ์ประโยคสุดท้ายของหนังสือเรื่องนี้) ประมาณนี้เอง ^^" แล้วก็ทำให้มีมุมมองความรักที่ pessimistic สักหน่อย ก่อนหน้านั้นอีกหลายๆปี...ต้นส้มแสนรักทั้งสองภาค กับเจ้าชายน้อยค่ะ เปิดจินตนาการ (แล้วก็ทำลายมันซะเอง) และทำให้เป็นคนฟุ้งซ่านจิตเตลิดจนถึงทุกวันนี้ :D แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 47 00:30:15 จากคุณ : scarborough - [ 14 ก.ย. 47 00:21:44 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หนังสือเปลี่ยนชีวิตเหรอ ??? .. อืมมมม .. ตัดสินใจยากมากๆ เพราะตั้งแต่อ่านออกเขียนได้มานี่ มม ก็อ่านหนังสือมาหลายเล่ม .. แต่ถ้าจะให้เลือก ..  ถ้าไม่นับ แบบเรียนภาษาไทยรุ่นมานะมานีและผองเพื่อน ที่แนะนำให้ มม รู้จักกับความสนุกสนานจากการอ่านหนังสือเป็นครั้งแรกแล้ว หนังสือที่จัดว่า "เปลี่ยนชีวิต" มม ได้ ก็น่าจะเป็น .. โต๊ะโตะจังเด็กหญิงข้างหน้าต่าง .. วรรณกรรมคลาสสิคตลอดกาลของ คุโรยานางิ เท็ตสึโกะ ซึ่งบอกเล่า เรื่องราวของเด็กหญิงเล็กๆ คนหนึ่ง ผ่านมุมมองที่สดใสเหมือนแววตาของเด็กๆ ผ่านภาษาที่เรียบง่าย ตรงไปตรงมา เหมาะสำหรับผู้อ่านทุกเพศทุกวัย .. แต่เหตุผลที่หนังสือเล่มนี้สามารถเปลี่ยนชีวิต มม ได้นั้น ไม่ใช่แค่เพราะมันเป็นหนังสือที่แสนวิเศษเท่านั้น .. แต่เพราะ หนังสือเล่มนี้เอง ที่ทำให้ มม รู้จักกับ สำนักพิมพ์เล็กๆ แห่งหนึ่ง .. นั่นก็คือ .. สำนักพิมพ์ผีเสื้อ .. สนพ ผีเสื้อ และ สนพ อื่นๆ ในเครื่อเล็กๆ แห่งนี้แหละ ที่ได้แนะนำให้ มม รู้จักกับนักเขียนงานคุณภาพหลายๆ คน เช่น โรอัล ดาห์ล, เจมส์ เฮอร์เรียต, เจอรัล เดอเรล รวมไปถึง อีเลนอร์ ฟาร์เจิน (จากเรื่อง นกสีเงิน) ผู้เขียนเรื่อง จินตนาการแห่งชีวิต หนังสือสุดโปรดของ มม ด้วย ^^ เชื่อว่าผู้ที่ติดตามอ่านวรรณกรรมเยาวชนมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปีขึ้นไปส่วนใหญ่ คงทราบกันดีว่า .. สนพ นี้ เป็น สนพ ที่ทำหนังสือได้สมราคา ทั้งคุณภาพงานเขียน งานแปล กระดาษ รูปเล่ม และอื่นๆ .. และจัดว่าเป็นเจ้าตลาดงานวรรณกรรมเยาวชนคุณภาพในยุคนั้นมานานหลายปี จนกระทั่งมาถูกกระแสคลั่งวรรณกรรมเยาวชนในยุคปัจจุบัน ที่ มม ยังกังขาในเรื่องคุณภาพ (ให้ตายเถอะ แฮรี่)  เบียดให้ผีเสื้อตัวน้อยๆ ตกไปอยู่ในซอกเล็กๆ ของหิ้งหนังสือ และส่อเค้าว่าจะสูญพันธุ์ไปในไม่ช้านี้ TT หลังจากไม่ได้ออกหนังสือเล่มใหม่มาเป็นเวลานานผิดปกติ ในที่สุด นพ ผีเสื้อก็ออกหนังสือเล่มล่าสุด ที่หลายๆ คนรอคอย นั่นคือ ผจญภัยโพ้นทะเล หนึ่งในชุด นาร์เนีย นั่นเอง http://www.naiin.com/04book_detail.asp?sku=BK737808311133917 แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 47 01:40:33 จากคุณ : แม่มดพันปี - [ 14 ก.ย. 47 01:28:17 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถึงจะแก่แล้ว แต่มานั่งนึกแล้วย้อนความหลังดูก็ดีนะครับ ตั้งแต่จำความได้ พ่อของผมก็สอนวิทยาศาสตร์เล็กน้อยๆให้ผมเสมอๆ พ่อสอนว่าทำไมต้นไม้ถึงโต ทำไมดวงอาทิตย์ถึงสว่าง ทำไมดาวเสาร์ถึงลอยน้ำได้ ทำไมดวงจันทร์และดวงดาว ถึงลอยอยู่บนฟ้า พร้อมทั้งตอบคำถามผมสมัยเด็กอยู่เสมอๆ นานวันเข้า พอโตขึ้นอีกหน่อย พ่อผมก็ขุดเอาสมบัติขึ้นมาจากกรุ นั่นคือ หีบที่พ่อขนกลับมาจากอังกฤษเมื่อพ่อเรียนจบ ข้างในจะมีของแปลกๆให้ผมทุกปี (อย่างน้อยตอนนั้นผมก็คิดว่าแปลก) เป็นต้นว่า เครื่องจักรไอน้ำจำลองที่ใช้แอลกอฮอล์เป็นเชื้อเพลิง บอร์ดวงจรสำเร็จชนิดเสียบ ปริซึม แล้วก ็หุ่นยนต์ของเล่นที่ทำเลียนแบบหุ่นจาก Lost in Space ซีรีส์เก่าสมัยนั้น กล้องจุลทรรศน์ ฯลฯ ฯลฯ และพ่อไม่เคยรู้หรอกว่าผมเคยเอาสารเคม ีในห้องทดลองที่บ้านมาแอบผสมตอนพ่อไม่อยู่ อยู่มาวันหนึ่ง ...เป็นวันที่ผมได้อ่านหนังสือที่จะเปลี่ยนชีวิตผมไปทั้งชีวิต เมื่อพ่อหอบเอา วารสารมิติที่ 4 กลับมาบ้านให้ผมอ่าน วารสารมิติที่4 ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตผมตลอดไป จากที่ผมรู้สึกเพียงสนุกกับวิทยาศาสตร์ แค่การเล่นสนุกๆ แต่ความสมดุลของสารคดี และเนื้อหาทางไซไฟของวารสารเล่มนี้ ทำให้ความคิด และจินตนาการของผมกว้างไกลออกไปมาก มันทำให้ผมรักวิทยาศาสตร์ขึ้นมาอย่างจริงจัง ทำให้ผมอยากรู้ว่า ธรรมชาติมีอะไรซ่อนอยู่ ข้างนอกอวกาศนั่นมันมีอะไร อนาคตคนเราจะเจริญก้าวหน้าไปถึงแค่ไหน ผมอยากเห็น.. อยากเห็น.. อยากเห็น.. ผมอยากอยู่ดูโลกใบนี้ให้นานๆ... ดูความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มนุษย์เราสามารถก้าวไปถึง... จนถึงทุกวันนี้ความรู้สึกนี้ก็ยังอยู่ หนังสือชุดต่อมาที่ทำให้ผมหลงรักนิยายไซไฟมากที่สุด และอยู่ในใจของผมตลอดมาจนทำให้ผมชอบอ่าน นิยายวิทยาศาสตร์ในรูปแบบสไตล์ของหนังสือชุดนี้ไปโดยปริยายก็คือ ชุดรวมเรื่องสั้นและนิยายวิทยาศาสตร์ ออบิท ออบิทชุดหลักทั้งชุด ประกอบไปด้วยหนังสือรวม 8 เล่ม ได้แก่ ออบิท 1, ออบิท 2:ราชสีห์แห่งคอมมาร์, ออบิท 3:วิถีแห่งอังคาร, ออบิท 4:ซากสงคราม, ออบิท 5:สนธยาเยือน, ออบิท 6:ทาสแห่งกาลเวลา, ออบิท 7:สัมผัสแห่งอารยะ, และสุดท้าย ออบิท 8:มฤตยูดำ ซึ่งสามารถดูภาพปกได้จากที่นี่ http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%97_%28%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%29 เรื่องสั้นวิทยาศาสตร์ทั้งหมดที่ผมเคยเขียนมา ผมเขียนโดยมีหนังสือในเครือออบิท เป็นแรงบันดาลใจ ดังนั้นโทนเรื่องจึงอาจมีกลิ่นอายแห่งออบิทอยู่บ้างเป็นเรื่องธรรมดา บอกตรงๆว่าผมเสียใจ และเสียดายมากๆ เมื่อกลุ่มออบิท และวารสารมิติที่4 หยุดกิจกรรมทั้งหลายลง แต่ก็ดีใจมากกับข่าวดีเมื่อเร็วๆนี้ ที่ได้เห็น ดวงตราสัญลักษณ์แห่งสำนักพิมพ์ออบิท ยืนผงาดเป็นสง่าอยู่ในแวดวงวรรณกรรมอีกครั้ง กับ นิยายชุดสถาบันสถาปนา ที่เป็นนิยายอีกชุด ที่สอนการวางพล็อตของนิยายวิทยาศาสตร์ให้ผมอ้อมๆ http://www.orbit.in.th หนังสืออีกเล่มหนึ่งที่เปลี่ยนชีวิตการอ่านของผมก็คือ พ่อมดมหัศจรรย์แห่งอ๊อซ การได้รู้จักกับอ๊อซ ถนนอิฐสีเหลือง โตโต้ โดโรธี สิงห์โตขี้แย หุ่นไล่กา มนุษย์กระป๋อง เป็นหนังสือที่ทำให้เริ่มอ่านแฟนตาซีเรื่อยมา จนกระทั่งได้มาพบกับ The Belgariods ของ David Edding และ ลอร์ด ออฟ เธอะ ริงส์ เมื่อราวปี 2533 มาจนถึง จินตนาการไม่รู้จบ(Neverending Story) ระเรื่อยมาจนถึง Discworld ของ Terry Pratchett ในวันนี้ ซึ่งอยู่ในใจ ไม่แพ้พ่อมดอ๊อซเมื่อวันวานเลย อีกสองเล่มสุดท้ายที่จะอยู่ในใจของผมตลอดไปก็คือ Cosmos กับ Contact ที่แต่งโดย Carl Sagan ซึ่งทำให้ผมยังหล่อเลี้ยงเศษเสี้ยวความฝันเล็กๆ ที่จะหวนกลับไปเรียนดาราศาสตร์อีกครั้ง กลับไปหาดาวบนฟ้า ที่ผมนับเป็นเพื่อนอีกครั้ง เมื่อทุกอย่างลงตัว อีกสองปีถัดจากนี้ ถึงแม้ใครจะว่าผมบ้า หรือเสียเวลาทำมาหากินก็ตาม แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 47 04:59:33 จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 14 ก.ย. 47 04:39:23 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ...... พจ ..... นี่ย่อมาจากอะไรอ่ะ...... * * หนังสืออะไรที่เปลี่ยนชีวิต.. อย่าไปรู้มันเลย ก็ตัวผมเองยังไม่รู้เลย... ไม่รู้ว่าที่ตัวเองเปลี่ยนมาอยู่ตรงนี้ เพราะหนังสือมันทำให้เปลี่ยน หรือตัวเองเกิดเพื่อจะเป็นอย่างนี้ซึ่งต้องมีหนังสือเป็นอาวุธก็ไม่รู้ ผมรู้แค่ว่า......ณ วินาทีนี้ อาจจะมีใครสักคนหนึ่ง ที่ทำให้ชีวิตผมต้องเปลี่ยนไป.... ด้วย R Principle... "...กิมจูไม่มา ข้าย่อมไม่ปรากฏ...." จากคุณ : proofman (proofman) - [ 14 ก.ย. 47 09:34:59 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หนังสือเปลี่ยนชีวีตหรือคะ มีค่ะ ^^// *ยกมือ* เล่มแรกก็นี่เลย เจ้าชายน้อย เป็นหนังสือที่ถูกบังคับให้อ่านตอนเริ่มเรียนวรรณคดี เจ้าชายน้อยเป็นหนังสือไม่กี่เล่ม ที่ทำให้โลกของความคิดของเราเปิดออกไป จากคำพูดสั้นๆที่ว่า "สิ่งที่สำคัญ เห็นได้ด้วยใจ ไม่ใช่ด้วยตา" ซึ่งเป็นหลักของความคิดที่นำไปสู่โลกของปรัชญา และนามธรรมทั้งหลายในเวลาต่อมาของเรา หนังสือเจ้าชายน้อยแปลกตรงที่ว่า อ่านแบบเล่นๆก็เหมือนนิทานเด็ก หรือจะอ่านเอาจริงเอาจัง ย่อยให้ละเอียด ก็จะได้รสชาติอีกแบบหนึ่งที่ลึกซึ้งกว่าเดิม ปรัชญาต่างๆในเจ้าชายน้อย เป็นเรื่องสากล เกี่ยวกับเรื่องราวที่ชีวิตของคนทุกคนต้องเผชิญ เช่น ความไร้เดียงสา ความรัก ความเกลียดชัง มิตรภาพ การทรยศหักหลัง และความเข้าใจมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งเป็นหนังสือที่เรายอมรับว่าเปลี่ยนชีวิตเรามาก ถึงบัดนี้ก็ยังมีอิทธิพลอยู่ เช่น เวลาที่เราได้มองเห็นชีวิตมนุษย์ ที่เต็มไปด้วยความสงสัย เราก็จะเข้าใจได้ว่าเป็นเพราะอะไร หรือเกี่ยวกับความรัก ที่อย่างแสนซับซ้อนซ่อนเงื่อนเหลือเกิน แต่คำตอบนั้น หนังสือเจ้าชายน้อยได้ให้เงื่อนงำ และแผนที่เอาไว้แล้ว สุดแล้วแต่ว่าจะมีคนมองเห็นหรือไม่ จึงจัดว่าเป็นหนังสือในดวงใจเล่มหนึ่งค่ะ เล่มที่สอง ฤทธิ์มีดสั้น ของโก้วเล้ง ^^" ฤทธิ์มีดสั้นเป็นนิยายกำลังภายในเรื่องแรกในชีวิตของเรา เนื่องจากได้ยินคำร่ำลือมานานว่า หนังสือเรื่องนี้ไปไกลเกินกว่าความเป็นกำลังภายใน แต่กลายเป็นหนังสือ ปรัชญา ที่นักอ่านทุกคนน่าจะอ่าน จากคนที่ไม่เคยคิด จะแตะหนังสือกำลังภายในเลย หลังจากหยิบมาอ่าน ก็กลายเป็นงอมแงมน้อย ศิษย์ลี้คิมฮวงไปโดยพลัน ฤทธิ์มีดสั้นเป็นหนังสือที่เต็มเอี๊ยดไปด้วยคำคมที่ฟังแล้วบาดใจสุดๆ ใครที่ชอบคำคม อ่านหนังสือเรื่องนี้ แล้วอาจจะอยากรับประทานกระดาษเข้าไป เพราะมันเต็มเปี่ยมสุดๆ คมสุดๆ เล่มที่สาม มุซาชิ ^^" ภาคภาษาไทย (แน่จิ จะอ่านภาษาญี่ปุ่นออกได้ไงหว่า) หนังสือเรื่องนี้ทำให้เรานึกถึงคำพูดของฟรานซ์ คาฟคาที่ว่า "ถ้าหนังสือเล่มใดคุณอ่านแล้วไม่รู้สึกเหมือนโดน ฟ้าผ่าเข้าจังๆ แล้วคุณจะอ่านมันทำไม" มุซาชิเป็นหนังสือที่หยิบมาอ่านเล่นๆ แต่อ่านแล้ววางไม่ลง อ่านจบแล้วก็ยังสนุกอยู่ไม่เลิก โดยเนื้อเรื่องทีเป็น เรื่องจริงส่วนหนึ่ง ก็น่าทึ่งอยู่แล้ว แต่วิธีการใช้ชีวิตของมุซาชิยิ่งน่าทึ่งกว่า อ่านแล้วทำให้รู้สึกว่า "มนุษย์เราก็เอาชนะตัวเองได้นะ ถ้าดึงศักยภาพที่มีอยู่ออกมาใช้" เล่มที่สาม เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์^^" หนังสือยอดฮิตของหลายๆคนนั่นเอง ก็เช่นเดียวกันที่หนังสือเล่มนี้ได้เปลี่ยนชีวิตเรา จะว่าไปก็ต้องเกี่ยวกับหนังด้วยแหละ ที่ทำให้เราได้หาหนังสือ มาอ่าน เดอะลอร์ดฯ มีอิทธิพลเยอะม้ากกกก เท่าที่จะพอบรรยายได้ ก็คือ เป็นหนังสือที่ทำให้เราเกิดความหวัง และความฝัน (คล้ายๆกับอ่านดอนกิโฮเต้ แต่เรื่องนี้ อ่านแล้วมีความหวังมากกว่า) คงไม่มีใครปฏิเสธความ ดีในทุกๆด้านของลอร์ด ไม่ว่าจะเป็นความสวยงามของพรรณนาโวหาร ปรัชญาที่มีอยู่มากมาย ยุบยับเต็มไปหมด เนื้อหาที่เป็นเอพิค ยิ่งใหญ่อลังการ ซาบซึ้งกินใหญ่ และความเป็นแฟนตาซีที่หาตัวจับยาก รวมทั้งความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งกลายเป็นต้นธารใหญ่ของหนังสือแฟนตาซีในยุคต่อมา จะกล่าวได้ว่า LOTR เป็นหนังสือที่ดูยิ่งใหญ่ คล้ายๆ สถาบันหนึ่งของสาขาแฟนตาซีก็เป็นได้ และนี่เป็นหนังสือ ที่อยู่ในดวงใจอีกเล่มนึง ขอแถมอีกเล่มนึงน้า (เพิ่งนึกได้-__-") สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน ของวินทร์ เลียววาริณ เป็นหนังสือที่ตอนแรกคิดว่าจะอ่านยาก (พวกซีร้ง ซีไรท์นี่เราไม่ค่อยสันทัด แหะๆ) แต่พออ่านแล้วกลับ อ่านง่ายกว่าที่คิดมาก แถมเต็มไปด้วยแนวคิดใหม่ๆ เพียบ หนังสือของวินทร์เป็นหนังสือที่ท้าทายสติปัญญา ของผู้อ่านพอสมควร ไม่ใช่ท้าทายในด้านเทคนิคการเขียน แต่ท้าทายให้ลองคิด ลองหาข้อมูล เพื่อตอบคำถาม และไม่ให้เชื่ออะไรง่ายๆ จนถึงบทสรุปที่ดูเป็นวิทยาศาสตร์ หนังสือเรื่องนี้ไม่ถึงกับเปลี่ยนชีวิต แต่อ่านแล้วประทับใจ และอยากให้มีคนอ่านกันเยอะๆ แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 47 09:40:18 จากคุณ : นานานะจัง - [ 14 ก.ย. 47 09:39:07 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน ของคุณวินทร์ เลียววาริณค่ะ เป็นหนังสือเล่มแรกที่ตั้งใจซื้อ เพราะได้ยินข่าวหลายกระแสเรื่องซีไรต์กับหนังสือเล่มนี้มาก ก็เลยลองอ่าน ... แต่ตัวเองกลับชอบแฮะ จากนั้นก็ตามหนังสือของคุณวินทร์ทุกเล่มจนถึงปัจจุบันค่ะ หลังจากนั้นก็อยากอ่านเรื่องอื่น ๆ บ้าง ก็ซื้อหนังสืออ่านเรื่อย ๆ ค่ะ นิยาย วรรณกรรมเยาวชน แฮร์รี่ ลอร์ด ฯลฯ ที่เปลี่ยนชีวิตก็คือ ถ้าบีจังไม่ตัดสินใจอ่าน ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน ป่านนี้คงไม่อ่านเล่มอื่น ๆ ต่อหรอกค่ะ วันทั้งวันคงนั่งหน้าคอมพิวเตอร์เล่นแต่เกมส์ เอิ๊กกก Edit เอิ๊กกเพิ่งเห็นข้อความคุณนา .. อ่านของคุณวินทร์เหมือนกันเลย ^ __ ^ แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 47 09:44:39 จากคุณ : BeeJang - [ 14 ก.ย. 47 09:42:56 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อ่านคห.ของคุณสกบร. แล้วอยากคุยต่อค่ะ <<<ก่อนหน้านั้นอีกหลายๆปี...ต้นส้มแสนรักทั้งสองภาค กับเจ้าชายน้อยค่ะ เปิดจินตนาการ (แล้วก็ทำลายมันซะเอง)>>> ชอบหนังสือสามเล่มนี้เหมือนกันเลยค่ะ เพราะเป็นหนังสือภาคบังคับทั้ง3เล่ม -_-"  (แม้ต้นส้มฯภาคสองจะเป็น tear-jerker ไปหน่อย เลยไม่ค่อยชอบ) (ว่าแต่คนที่เรียนวรรณคดี นี่อ่านหนังสือภาคบังคับคล้ายๆกันเลยเนอะ ) ถ้าสกบร.ชอบ Rebecca เราก็คิดว่าต้องมีอีกเรื่องสิน่า นั่นคือ Wuthering Heights นั่นเอง เรื่องนี้ก็ภาคบังคับ (อีกแย้ว..แต่ชอบง่ะ) เป็นเรื่องความรักแบบมืดๆ ดำๆ โกธิค หลอนๆ เหมือนกัน ซึ่งมันคล้ายกันตรงที่ว่า อ่านแล้วทำให้รู้สึกเหมือนอ่านมัทนพาธา ที่ว่า "รักที่แท้เป็นสีดำ" (ไม่ใช่โบรักสีดำนะ) ชอบเรื่องนี้ตรงที่ว่า ไม่มีใครสมหวังซักกะคนในเรื่อง แต่คาแรกเตอร์และท้องเรื่องมันเด่นมาก มืดมากแต่มี ชีวิตชีวา แทบจะกระโดดโลดเต้นออกมาจากหนังสือ อ่านแล้วรู้สึกเหมือนโดนลมพัดหน้าปลิว ฉากที่พี่ฮีธคลิฟไปชกต้นไม้ แล้วขอให้อลิซาเบธกลับมาหลอกมาหลอน เขาเถอะ นี่มันช่างกินใจซะจริงๆ เรื่องนี้ทำให้จิ้น..เอ๊ย จินตนาการเตลิดน่าดู ความรักที่เหนือกว่าความตาย แต่ดาร์กซะไม่มี มีเสน่ห์จับใจ คนอ่านเสมอค่ะ (แม้จะเป็นคนอ่านด้านมืดหรือด้านสว่างก็ตาม จริงมั้ยคะ ) Edit: เพิ่งรีเฟรชแล้วเห็นข้อความของคุณบีเหมือนกันค่ะ เยๆ อ่านเหมือนกันเลย แต่ประชาธิปไตยบนเส้นขนานเรายังไม่ได้อ่านเลยค่ะ :^_^: หนังสือเก่าๆของคุณวินทร์ค่อนข้างหาอ่านยาก (แต่มีเยอะตามร้านเช่า แหะๆ) เหมือนกับบีจัง คือหลังจากอ่านไปเล่มนึง ต้องติดตามหนังสือเค้าอยู่เรื่อยๆ เล่มล่าสุดที่อ่านก็คือ อำ หลังอานบุรี แล้วก็เสี่ยวนักสืบค่ะ (อ่านแต่แนวบันเทิง เอิ๊กๆ ^__^) แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 47 09:59:58 จากคุณ : นานานะจัง - [ 14 ก.ย. 47 09:52:35 ]

ความคิดเห็นที่ 9 โจนาธาน ลิฟวิงตัน นกนางนวล neverending story ติสตู เต๋า เต็กเก็ง จากคุณ : Wiz - [ 14 ก.ย. 47 10:16:41 ]

ความคิดเห็นที่ 10 หนังสือที่เปลี่ยนชีวิต อาจไม่ใช่หนังสือที่ชอบที่สุด ถูำกป่ะ สำหรับเรา หนังสือที่มีอิทธิพลต่อชีวิตเรา น่าจะมีอยู่สามเล่ม เล่มที่หนึ่ง - วารสารโลกวิทยาศาสตร์ ของ สนพ.กราฟิกอาร์ต มี อ.วิชัย เชิดชีวศาสตร์ เป็นบอกอ หนังสือเล่มนี้ทำให้เราได้อ่านนิยายของไอแซค อาสิมอฟ เป็นครั้งแรก และทำให้เราได้รู้จักกับ ดร.คาร์ล เซแกน ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ให้เราตัดสินใจเรียนต่อในสายวิทย์ และวิศวฯ ตามลำดับ เพราะความหวังว่า อยากไปเรียนดาราศาสตร์กับอาจารย์เซแกน เอิ๊กกก (เกี่ยวกันมั้ยนั่น ^^" ไม่รู้ตอนนั้นคิดอะไรอยู่) ตอนที่ได้ข่าวว่าอาจารย์เซแกนเสียชีวิตแล้ว ถึงกับมือไม้สั่น ทำอะไรไม่ถูก ไปร่วมวงอยู่กับกลุ่มลูกศิษย์ของท่าน อ่านงานวิจัยกันอยู่พักหนึ่งเชียว (ทั้งๆ ที่อ่านไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ ^^") เล่มที่สอง - เพชรพระอุมา แต่ก่อนแต่ไร เราไม่อ่านนวนิยายของไทยเลย อ่านแต่นิยายแปล หนังสือของไทยๆ ที่อ่านมีแต่วรรณคดีและบทกวีโบราณ (จริงๆ ไม่ได้โม้ -__-") จนกระทั่งวันหนึ่ง เพื่อนคนนึงหอบเอาเพชรพระอุมามาให้ทั้งถุง คะยั้นคะยอให้อ่าน บอกว่าสนุกมาก เราดองเอาไว้หลายวันเพราะขี้เกียจอ่าน (และไม่เชื่อด้วยว่าจะสนุก) จนกระทั่งได้หยิบขึ้นมาอ่านเล่มแรกเท่านั้นแหละ..... *เหอๆๆ* เพราะเพชรพระอุมาแท้ๆ ทำให้เรากล้าหยิบนิยายไทยเรื่องอื่นๆ ขึ้นมาอ่านบ้าง เลยทำให้ได้อ่านงานดีๆ อย่าง "หนึ่งในร้อย" ที่ถือว่าเป็นสุดยอดดดดดดดดดด <เล่มนี้เราชอบมาก อยากจะถือว่าเป็นหนังสือที่ดีที่สุด> เล่มที่สาม - ไม่ต้องบอกก็รู้ - The Lord of the Rings เพราะเล่มนี้ ทำให้เรามีวันนี้ไงล่ะ ;-) จากคุณ : สาวน้อยร้อยแปด - [ 14 ก.ย. 47 11:56:52 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตอบคุณนาฯ สกบร.ไม่ได้เรียนต้นส้มฯกับเจ้าชายน้อย ตอนที่อ่านก็ยังอ่านหนังสือไม่ค่อยแตกฉานเลยด้วยซ้ำ ^^" แต่เมื่อโตขึ้นมาและอ่านคล่องมากแล้ว จะรู้สึกว่ายังรักและสนิทสนมกับเจ้าชายน้อยอยู่ แต่ต้นส้มฯนี่...ต้องขอคิดดูใหม่ แต่ทั้งสองเรื่องถือว่ามีอิทธิพลมาก สำหรับเด็กในวัยนั้น สกบร.ไม่ได้เรียนเอกวรรณคดีเลยไม่ได้ศึกษา Wuthering Heights ให้เป็นกิจจะลักษณะ ได้อ่านเพราะเป็นความอยากส่วนตัว (เหมือนเป็น "ภาคบังคับ" อีกหนึ่งเล่มสำหรับนักอ่าน...ยิ่งถ้าชอบรีเบคก้า จะไม่ได้อ่าน Wuthering Heights ก็กระไรอยู่) แล้วก็ชอบมากๆเช่นกัน ถ้าเทียบกันระหว่างสามสาวบร็องเต้แล้ว สกบร.ยกให้แม่นางเอมิลี่เป็นอันดับหนึ่งตลอดกาลค่ะ (จะว่าไป Wuthering heights มันก็เป็นหนังสือแฟนตาซีนะ มีวิญญาณ อารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาตด้วย ^^") จากคุณ : Scarborough - [ 14 ก.ย. 47 12:34:23 A:192.150.249.45 X:192.150.249.15 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ง่า .... ตอบกันยาวจังเลย ^^" ขอตอบมั่งแบบยังไม่ได้อ่านของคนอื่นเลยนะคะ (เพิ่งอ่านแต่ของ พจ คนเดียว) เล่มแรกที่เปลี่ยนชีวิต อาจจะไม่ถึงขนาดเปลี่ยนมากมาย แต่เปลี่ยนนิสัยการอ่านมากกว่า ก็คือ "แฮร์รี่ พอตเตอร์" น่ะค่ะ เป็นหนังสือที่ทำให้หันมาชอบอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ เพราะเดิมไม่เคยชอบอ่านหนังสือแปลหรือหนังสือภาษาอังกฤษมาก่อนเลย พอลองอ่านแฮร์รี่ เล่มแรกดูแล้วก็ไปซื้อภาษาอังกฤษมาอ่านต่อรวดเดียวเลย (ตอนนั้นเพิ่งแปลออกมาเล่มเดียว) แล้วก็เลยเริ่มติดอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเล่มหนาๆ ตั้งแต่นั้นมาค่ะ ส่วนอีกเรื่อง ก็ "ลอร์ดฯ" ชัวร์อยู่แล้ว .. ขอก็อป พจ มาเลยได้ป่าว ^^" เพราะตอนนี้กลุ่มเพื่อนที่คุยกันทุกวัน แชทกันทุกคืน เจอหน้ากันถี่ยิ่งกว่าเพื่อนกลุ่มอื่นก็คือกลุ่มฮอบบิทนี่แหละ .. มีกิจกรรมมากมาย ไปเที่ยวที่แปลกๆ กันก็แยะ (พิพิธภัณฑ์หรือเมืองโบราณเนี่ย ถ้าไปชวนเพื่อนกลุ่มอื่นไปมันคงมองหน้าแปลกๆ หาว่าไข้ขึ้นแน่ๆ เหอ เหอ) ... แล้วก็เป็นเพื่อนกลุ่มนี้นี่แหละที่ช่วยให้ความฝันบางอย่างเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ... ลอร์ดฯ เป็นหนังสือที่เปลี่ยนชีวิตจริงๆ จ้ะ ^^ จากคุณ : หญิงเหล็ก - [ 14 ก.ย. 47 13:33:29 ]

ความคิดเห็นที่ 13 Lord of the Ring The Little Prince เพชรพระอุมา นิตยสารออบิท มิติที่4 เนี่ยแหละค่ะ^^ จากคุณ : หนอนหนังสือตัวเป้ง - [ 14 ก.ย. 47 16:21:16 ]

ความคิดเห็นที่ 14 The Neverending Story ค่ะ สุดยอดแห่งความบรรเจิด ทำให้คลั่งเอนเด้เอามากๆ เลย รวมถึงทำให้เราบ้าเยอรมันอีกตะหาก หนังสือสารคดีของ รีดเดอร์ ไดเจสท์ พิภพมหัศจรรย์ เป็นหนังสอที่ทำให้เราบ้าได้ตั้งแต่ถึงมือจนทุกวันนี้ ทำให้เราบ้านจนต้องไปเรียน ไปค้นคว้า และจนป่านนี้ก็ยังไม่เสร็จ จอมดาบหิมะแดง ทำให้เราบ้าคนชีวิตบัดซบมาจนถึงทุกวันนี้ จากคุณ : Miran - [ 14 ก.ย. 47 20:54:18 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สำหรับผมมีอยู่หลายเล่มเหมือนกัน 1 ห้าสหายผจญภัย ตอน เกาะมหาสมบัติ นิยายเล่มแรก ที่ทำให้ติดนิยายมาตั้งแต่นั้น (ป.6) แรกๆอ่านแต่การ์ตูน 2 เพชรพระอุมา เหมือนพลิกชีวิต เปลี่ยนโลก ได้อะไร เยอะมากๆจากนิยายชุดนี้จนจาระไนไม่หมด 3 The Never Ending Story สุดยอดแห่งปรัชญาชีวิต จากคุณ : Sundown - [ 14 ก.ย. 47 21:17:38 A:61.90.13.204 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 หลายเล่มซ้ำกับท่าน ๆ อ่ะค่ะ แต่มีบางเล่มไม่เหมือน เอิ๊ก ไม่เรียงลำดับเวลานะคะ เพราะจำไม่ได้ว่าอ่านเล่มไหนก่อนหลัง -- โต๊ะโต๊ะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง ทำให้รู้ว่าเด็กที่ "แตกต่าง" ไม่ใช่เด็กดื้อเสมอไป ... เล่มนี้อ่านครั้งแรกตอนเด็กมาก ๆ เลยค่ะ -- เพชรพระอุมา อ่านตามคุณตาตั้งแต่ประถม เริ่มสวมวิญญาณนักผจญภัยและทำให้เริ่มเล่นปืน.. เอิ๊ก -- พระราชาพันปี (The King of the Copper Mountains) ของ Paul Biegel เป็นหนังสือแปล "แฟนตาซี" เล่มแรก ๆ ที่ได้อ่านค่ะ เรื่องของพระเจ้าแมยโซแลนที่กำลังจะหมดอายุขัยที่ผ่านมาหนึ่งพันปี วิธีเดียวที่จะช่วยประวิงเวลาระหว่างที่หมอมหัศจรรย์ไปตามหาสมุนไพรที่จะมาทำยาคือให้เหล่าสัตว์ที่พบเจอตามทางมาเล่านิทานให้พระราชาฟัง ... -- เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) เหมือนกับเป็นไฟท์บังคับเนอะ .. ตกลงมันเป็นงูหรือหมวก? อิอิ -- แม่มด (The Witches) - Roald Dahl "It doesn't matter who you are or what you look like so long as somebody loves you." .... -- โมโม่ (Momo) - Michael Ende เหมือนจะเคยพูดถึงเรื่องนี้ไปแล้ว ... เอา quote มาละกันค่ะ มาจากตอนที่ศาสตราจารย์พูดถึงพวก "ผู้ชายชุดเทา" ที่ขโมย "เวลา" ไปจากผู้คน..แล้วผู้คนที่เหลือก็จะ... "A fatal illness, though you scarcely notice it at first. One day, you don't feel like doing anything. NOTHING interests you, everything bores you. Far from wearing off, your boredom persists and gets worse, day by day and week by week. You feel more and more bad tempered, more and more EMPTY inside, more and more dissatisfied with yourself and the world in general... you bustle around with a blank gray face, just like the men in gray themselves - indeed, you've joined their ranks. The disease has a name. It's called deadly tedium." -- จินตนาการไม่รู้จบ (The Neverending Story) - Michael Ende เคยคุยกันไปแล้วเหมือนกัน หลาย ๆ ท่านข้างบนก็เขียนถึงเรื่องนี้ (เป็นไฟท์บังคับอีกหนึ่งเรื่อง.. เอิ๊ก) "Human passions have mysterious ways, in children as well as grown-ups. Those affected by them can't explain them, and those who haven't known them have no understanding of them at all. Some people risk their lives to conquer a mountain peak. No one, not even they themselves, can really explain why. Others ruin themselves trying to win the heart of a certain person who wants nothing to do with them...Some think their only hope of happiness lies in being somewhere else, and spend their whole lives traveling from place to place...In short, there are as many different passions as there are people." -- And Then There Were None - Agatha Christi ตอนอ่านอ่านฉบับแปล แล้วก็จำไม่ได้แล้วว่าเค้าแปลชื่อเรื่องว่าอะไรเนื่องจากหนังสือเพื่อนยืมแล้วหาย (เคืองสุด ๆ) เป็นเรื่องที่ทำให้เริ่มอ่านนิยายนักสืบค่ะ อ่านก่อนเชอร์ล๊อค โฮล์มอีก -- The Vampire Armand - Anne Rice เรื่องนี้เปลี่ยนชีวิตเพราะเป็นเรื่องแรกที่เป็นนิยายเต็มรูปแบบภาษาอังกฤษที่อ่านได้ตั้งแต่ต้นจนจบค่ะ ก่อนหน้านั้นมีหนังสือภาษาอังกฤษเยอะ แต่อ่านไม่จบทั้งนั้นเลย (แล้วก็เลยติดเหล่าหนุ่ม ๆ นักดูดของป้าแอนไปโดยปริยาย) ตอนนี้อยากอ่าน Darren Shan มากแต่แบบ .. มันเยอะจังไม่มีเวลาอ่ะ ฮือ -- Harry Pottre Series มันเปลี่ยนชีวิตเรายังไง... มันทำให้เรามีวันเกิดตรงกับตัวเอกในนิยายเป็นครั้งแรก..เอิ๊ก! จริง ๆ คงมีอีกเยอะ แต่ก็อย่างที่หลาย ๆ คนบอกอ่ะค่ะ ความเป็นเรามันก็หล่อหลอมมาจากประสบการณ์ในชีวิตอ่ะ หนังสือทุกเล่มที่อ่านผ่านตาก็นับเป็นประสบการณ์เหมือนกัน เออ ใช่.. ตอนนี้อีกเล่มนึงที่เปลี่ยนชีวิตจริง ๆ .. The Khmers ค่ะ .. ฮ่า จากคุณ : Seven Of Nine - [ 15 ก.ย. 47 08:37:56 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คุณ Seven Of Nine นี่เหมือนเราเลยค่ะ The Vampire Armand - Anne Rice เป็นนิยายภาษาอังกฤษเล่มแรกเลยที่อ่าน^^ จากคุณ : หนอนหนังสือตัวเป้ง - [ 15 ก.ย. 47 10:54:03 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เล่มที่เปลี่ยนชีวิต อาจจะไม่ใช่เล่มเดียวกับที่ชอบที่สุดอะนะคะ สำหรับนกแล้ว เล่มที่เปลี่ยนชีวิตไปเลยคงเป็น The Sun Never shined on Persian Gulf แต่จำชื่อผู้เขียนไม่ได้จริงๆค่ะ ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงค่ะ หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับสงครามอ่าวเปอร์เซียในสมัย Bush คนพ่อ ในเรื่องของการดำเนินนโยบายที่มีต่ออิรัก รวมไปถึงสถานการณ์ในดินแดนแถบอ่าวเปอร์เซียในขณะนั้น เป็นเรื่องแนวกึ่งนวนิยาย กึ่งสารคดีน่ะค่ะ ตัวละครแทบทุกตัวมีตัวตนจริง และบางตัวก็เป็นตัวละครที่ผู้เขียนแต่งขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนมุมมองของหลายๆคนค่ะ หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่จุดประกายความอยากรู้ในสถานการณ์โลกของนกค่ะ ตอนนั้นนกค้นคว้า ติดตามข่าวสารเก่าๆ ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นแท้จริงมันเป็นอย่างไรกันแน่ และก็เป็นตัวผลักดันให้นกสนใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างจริงจัง จนเบนเข็มความสนใจที่จะเป็นมัณฑนากร มาเรียนรัฐศาสตร์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศค่ะ ดังนั้น จะเรียกว่าเป็นหนังสือที่เปลี่ยนชีวิตของนกก็คงไม่ผิดนักค่ะ ^__^ จากคุณ : Nokazar - [ 15 ก.ย. 47 14:01:51 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อืมม..ตอบดีมีสาระกันทุกคนเลยแฮะ พอ. ก็อ่านหนังสือมาเยอะเหมือนกัน (ก็จนอายุปูนนี้) ก็จำไม่ได้แล้วหละค่ะว่าเรื่องไหนประทับใจที่สุด แต่คิดว่าคล้ายหลายๆคน ภาคภาษาไทยคือ เพชรพระอุมา อ่านตั้งแต่ ป.3 แล้วมั้ง ถ้าจำไม่ผิด แล้วก็ทำให้เป็นคนชอบอ่านหนังสือ(นิยาย)แนวแฟนตาซีผจญภัยไปเลย (จริงๆ เรื่องพระอภัยมณีก็ชอบนะคะ) แล้วก็ทำให้ไปสนใจหาพวกวรรณกรรมเยาวชนแนวผจญภัย อย่างพวกเรื่อง นาร์เนีย ห้าสหายผจญภัย ทอม ซอว์เยอร์ อะไรแบบนี้มาอ่าน จำได้ว่ามีหนังสือของ สนพ.เม็ดทราย กับ ทวพ. เยอะมากๆ ส่วนภาคภาษาอังกฤษเนี่ย จะเหมือน สกบร โดยบังเอิญ คือเรื่อง รีเบคกา ค่ะ เรื่องอะไรลึกลับดีแท้ ชอบๆ จริงๆ แต่เป็นเพราะไปอ่านเรื่องคุณหญิงสีวิกาเข้าก่อน แล้วรุ่นพี่บอกว่าไปหาต้นฉบับอ่านสิเธอ ก็เลยดั้นด้นไปหามาอ่าน แล้วจากนั้นก็ติดนิสัยชอบอ่าน(ชอบซื้อ) fiction ไปเลย ส่วนลอร์ดฯ ซิลฯ แฮรี่ฯ เนี่ยก็เพิ่งมาอยู่ในใจก็สองสามปีที่ผ่านมานี่แหละค่ะ (เรียกว่าถ้าไม่มีภาพยนตร์ก็คงไม่ได้อ่านหนังสือ) แล้วก็เหมือน พจ พต ได้พบเพื่อนกลุ่มใหม่ๆ แต่เหมือนรู้จักกันมาแต่ชาติปางก่อน แต่จริงๆ ที่ทำให้โลก(สมัยเด็ก)เปลี่ยนไปเป็นหนังสือการ์ตูนซะมากกว่า แฮ่ๆ นั่นคือเรื่องคำสาปฟาโรห์ (ที่อ่านไม่จบเพราะขี้เกียจซื้อ) กับเรื่องกุหลาบแวร์ซายส์ (คริสตัลดรากอนนี่ไม่ประวัติศาสตร์มั้งเนาะ จำไม่ค่อยได้แล้ว) เป็นการ์ตูนที่ทำให้ต้องไปหาหนังสือประวัติศาตร์มานั่งค้นคว้าว่าเรื่องจริงๆ เป็นอย่างไร (จริงๆอยากรู้ว่าคุณหนูออสการ์เธอมีตัวตนหรือเปล่า...เอิ๊กกก) ตอนนี้อยากอ่านเรื่อง Phantom of the Opera ค่ะ จำได้ว่าเคยอ่านสมัยวัยรุ่น(กว่านี้) แล้วเคยดูหนังด้วย...แต่เป็นหนังจีนดัดแปลงนะคะ รู้สึกจะนำแสดงโดยเลสลี จาง เห็นตอนนี้จะเป็นหนังอีกแล้ว เลยชักคิดถึง อยากอ่านขึ้นมาอีก หืมมม...ตอบตรงประเด็นหรือเปล่าหว่า... จากคุณ : tigger* - [ 15 ก.ย. 47 22:15:46 ]

ความคิดเห็นที่ 20 หนังสือเปลี่ยนชีวิต หนแรก... โยนตุ้บให้กับnarnia เพราะมันทำให้เราตั้งหน้าตั้งตาหาหนังสือประเภทนี้มาอ่านแบบเสพติดงอมแงม เปลี่ยนจากเด็กซุกซนตกต้นไม้เป็นประจำมาอ่านหนังสือได้ทีละนานๆ หนที่สอง...แอบหลงรัก Wuthering heights ด้วยทั้งความหลอนและความรุนแรงของเรื่องมันแสนจะทำให้เราวางไม่ลง เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนหนังสือที่ชอบมาเริ่มอ่านนิยายแบบมาราธอนที่ยาวนานมาจนถึงตอนนี้ ตอนนั้นไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นพวกบ้าเรื่อง angst แบบนี้เข้าไส้ แหม...เรื่องนี้มันก็อย่างที่สกบร.ว่าแหละค่ะ มันอารมณ์อาถรรพ์ อาฆาต ชอบชะมัด (ปล. แฟนฟิกของเรืองนี้ก็ใช่ย่อย...ฮ่าๆๆ มันจับแพะมาชนแกะดีแท้) LOTR คงต้องบอกว่าเป็นจุดเปลี่ยน แต่ชอบ sil มากกว่านา..เอิ๊กๆๆๆ เปลี่ยนให้เรามีแต่ LOTR ในสมองและ LOTR is everywhere ขนาดเรื่องชีวิตประจำวันยังทำให้เป็น LOTR ได้เลย อะไรมันจะคลั่งปานนั้นก็ไม่รู้ ยังไม่รู้ว่าชีวิตจะเปลี่ยนไปเพราะหนังสืออะไรอีกเหมือนกันเพราะก็ยังพยายามค้นหาหนังสือน่าอ่านต่อไปอีกเรื่อยๆ จากคุณ : liamm (agarwaen) - [ 16 ก.ย. 47 02:01:32 ]

ความคิดเห็นที่ 21 O_o' โอ้ วัตเตอริ่ง ไฮทส์ เป็นแฟนตาซี อือมๆ น่าคิดนะคะ คุณ สกบร. จิงๆเราก็ไม่ได้เรียนวรรณคดีมาโดยตรงหรอกค่ะ เพียงแต่มาเรียนเอาตอนปีสามปีสี่ (และปีต่อๆมา เย้ยยย..)แต่ตอนอ่านแล้วรู้สึกว่าอ่านหนังสือ แนวๆเดียวกันเลยแฮะ Rebecca ก็ชอบนะคะ เพียงแต่ความรู้สึกส่วนตัวคือ Rebecca น่ากัวไปหน่อย (โดยเฉพาะฉบับหนังของฮิชค็อก นี่ดูแล้วหลอนไปเลย) แต่ส่วนตัวแล้วทึ่งในเทคนิคการเขียนของเค้า ที่สามารถทำให้คนที่ไม่มาปรากฏตัวซักตอนในเรื่อง กลายเป็นคนที่มีอิทธิพลที่สุดในเรื่องได้ ( แอบถามคุณ liamm นิดนึง ว่า angst คืออาไรเหรอคะ *_* ) ส่วนเรื่องต้นส้มแสนรักและเจ้าชายน้อยนี่เราเพิ่งเคยมาอ่านตอนโตนี่เอง มะเคยอ่านตอนเป็นเด็ก ก็อาจะทำให้ยังมีอิทธิพลต่อตัวเองอยู่ (นานๆไปอาจทำลายสลายไปบ้างก็ได้นะคะ T_T) ปล. เห็นชื่อกระทู้แล้วอยากเขียนนิยายสยองขวัญบ้างจัง ชื่อ "หนังสือ..สื่อนรก" แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 47 09:41:32 จากคุณ : นานานะจัง - [ 16 ก.ย. 47 09:34:27 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เรื่องแรก - เพชรพระอุมา ค่ะ เป็นหนังสือที่เปลี่ยนชีวิตและเป็นหนึ่งในหลายเรื่องที่ชอบมากๆ^^   ...อ่านตอนเด็กๆ ประมาณ ป.4 ค่ะ  เป็นหนังสือนิยายเล่มแรกที่อ่านเลยค่ะ  อ่านแล้วก็ติดหนึบ  ถึงแม้ว่าตอนนั้นจะอ่านบางตอนแล้วไม่ค่อยรู้เรื่องก็ตามที ^^"  อ่านแล้วก็อยากหัดยิงปืนเหมือนกันนะคะ  รู้สึกว่าโลกนี้มีอะไรอีกมากมายให้ค้นหา  เป็นการเปิดโลกกว้างให้กับการอ่านหนังสือเลยล่ะค่ะ  เพราะตอนนั้นก็อ่านแต่การ์ตูนซะเป็นส่วนมาก หุหุหุ ^^  อ่านจนเพื่อนเข้ามาถามว่าเรื่องนี้เป็นยังไง  สนุกมั๊ย  แล้วก็ไปหามาอ่านจนติดหนึบกันไปหลายคน เรื่องที่ 2  - หนังสือชุดบ้านเล็ก ของลอร่า อิงกัลล์ ไวด์เดอร์ เรื่องนี้อ่านประมาณ ม.ต้น  คือก่อนหน้านั้นจะไม่อ่านวรรณกรรมเยาวชนเลย  แต่พอได้มาอ่านเรื่องนี้ ก็รู้สึกว่าพลาดอะไรไปเยอะเลย  อ่านแล้วก็ติดมากๆ  หลังจากนั้นก็เริ่มอ่านวรรณกรรมเยาวชนเพราะรู้สึกว่าสนุกและให้อะไรดีๆหลายอย่าง  ตอนนี้ก็กำลังเก็บตังค์ซื้อหนังสือชุดนี้อยู่   เรื่องที่ 3 - แฮร์รี่  พอตเตอร์ เมื่อก่อนจะไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือแปล  รู้สึกว่าอ่านแล้วแปลกๆ  แต่พอได้มาอ่านแฮร์รี่พอตเตอร์ ก็รู้สึกว่าอ่านแล้วก็สนุกดีหนิ  ไม่เห็นจะรู้สึกแปลกๆเหมือนเมื่อก่อนเลย  และด้วยความอยากลองก็ไปหาแฮร์รี่ภาคภาษาอังกฤษมานั่งอ่าน  อ่านไปก็มีดิกฯวางอยู่ข้างๆ สนุกดี  เรียกได้ว่าแฮร์รี่พอตเตอร์  ทำให้เราอ่านหนังสือแปลมากขึ้น  และทำให้เราเริ่มอ่านหนังสือภาษาอังกฤษด้วย   เรื่องที่ 4 - LOTR  หนังสือสุดที่ love  ^^ เป็นหนังสือที่เปลี่ยนชีวิตจริงๆ มี LOTR อยู่ในใจตลอด   ทำให้ได้รู้จักเพื่อนๆ พี่ๆ หลายๆคน  ได้รู้จักมิตรภาพบน internet  ได้ทำอะไรหลายอย่างที่ไม่คิดว่าได้ทำมาก่อน ทำให้มุมมองความคิดกว้างขึ้น   ทำให้เราเริ่มดูหนังเยอะมากขึ้นและถึงขั้นติดไปเรียบร้อยแล้น  เพราะเวลาหาข้อมูลเกี่ยวกับ LOTR  แล้วก็จะได้อ่านข้อมูลเกี่ยวกับหนังเรื่องอื่นๆ ด้วย    .....LOTR นี่เป็นหนังสือที่เปลี่ยนชีวิตเราจริงๆ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 47 10:18:55 จากคุณ : narusaru - [ 16 ก.ย. 47 10:15:07 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ยาวจัง....แต่ละคนมีประวัติการอ่านที่ สนุกดีนะครับ... (เป็นกระทู้บอกอายุไปในตัว...) ที่เปลี่ยนชีวิตผมคงจะเป็น วรรณกรรมเยวชนน่ะครับอ่านเยอะมากตอนช่วง ป.6-ม.3 ที่จำได้ก้มี รถวิเศษ เจ็ดสหายยอดนักสืบ ขุมทรัพย์โซโมอน ผีเสื้อและดอกไม้(เรื่องนี้จำได้ว่าอ่านแล้วน้ำตาไหล...เป็นครั้งแรกที่ตัวละครเด็กๆต้องมาตาย) ต่อจากนั้นมาชิวิตผมก็เข้าๆออกๆห้องสมุดเป็นประจำ จนกระทั่งเรียนจบ..อย่างน้อยอาทิตย์นึงต้องอ่านหนังสือสักเล่ม..ก็เลยไม่ค่อยมีหนังสือที่ประทับใจมากอ่ะครับ.. แต่ถ้าถามถึงการ์ตูนคงเยอะ เพราะผลจากการการอ่านวรรณกรรมเยวชนมากๆก็เลยติดการ์ตูนไปด้วยเลย.. เรื่องที่เปลี่ยนชิวิตก็คงเป็น อากิระ เพราะทำให้ผมสนใจวิทยศาสตร์มากขึ้น (ถึงตอนนี้จะไม่ค่อยได้ติดตามวงการนี้แล้วก็ตาม) แต่ก็ทำให้ติดนิสัย ช่างสังเกต ช่างสงสัย มาจนถึงทุกวันนี้อยู่ดี ปล.ตอนแรกคิดว่าทำไมแต่ละคนพิมยาวจัง..ผมเข้าใจแล้วอ่ะ -.- จากคุณ : ไซโอ (คนเขียนการ์ตูน) - [ 16 ก.ย. 47 16:23:05 A:203.113.37.8 X:203.150.217.116 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เอาเป็นหนังสือที่มีอิทธิพลกับชีวิต แล้วกันนะครับ 1. หนังสือเรียนชุดมานีมานะ ชุดนี้สมัยประถม 2. มังกรหยก ชุด เอี้ยก้วย ชุดนี้ประมาณ ม.ต้น 3. ทางรักและอื่น ๆ (โรสลาเรน) + เพลงขลุ่ยในฝันและอื่น ๆ (เฮสเส) ชุดนี้ประมาณม.ปลาย 4. เรื่องของฉัน ฉัน ฉัน + จดหมายจางวางหร่ำ ชุดนี้ช่วงมหาลัย 5. คุณชาย+มายา+และอื่น ๆ(ว.วินิจฉัยกุล) + รักประกาศิตและอื่นๆ(ก.สุรางคนางค์) ช่วงปี 3-4 จนถึงช่วงหลังเรียนจบตรี แต่ละเรื่องมีอิทธิพลต่อทัศนคติ มุมมองต่อโลกที่เปลี่ยนไปตามวัยครับ จากคุณ : ช่างไม้ - [ 16 ก.ย. 47 19:40:33 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มาช้าอีกตามเคย แฮ่ๆๆ อืมม คุ้นๆว่าเคยตอบในห้องรวมของโต๊ะห้องสมุดไปแล้ว แต่ไม่ได้เจาะจงหนังสือ ตอบเป็นคนเขียนมากกว่า แต่ถ้าจะลองคิดดูจริงๆแล้วหนังสือที่มีอิทธิพลขนาดเปลี่ยนชีวิตเนี่ยก็พอจะเจาะจงได้นะ 1. โดเรมอน การ์ตูนญี่ปุ่นที่ทำให้เราชอบการอ่านหนังสือ(+วาดรูป) มาตั้งแต่เด็ก ทำให้ไปหาอ่านหนังสืออื่นๆด้วย 2. หนังสือชุดบ้านเล็กของลอร่า อิงกัลล์ ไวล์เดอร์ 3. หนังสือชุดนาร์เนีย 4. หนังสือชุดห้าสหายผจญภัยของเอนิด ไบลตัน สามชุดนี้จำไม่ได้ว่าเริ่มอ่านชุดไหนก่อนกัน น่าจะเป็นช่วงประถมเหมือนๆกัน ชุดห้าสหายนี่จำได้ว่าเล่มแรกราคา 20 บาท!!! (รู้สึกจะปี2531 มั้ง) สามชุดนี้ทำให้ปิดเทอมแล้วเราอยู่ติดบ้านมากๆ 5. หนังสือของสำนักพิมพ์ผีเสื้อ ทั้งหนังสือของโรอัลด์ ดาห์ล และเจมส์ เฮอร์เรียต(2 คนนี้ขอตอบแบบยกแพค เพราะชอบทุกเล่มที่เขาเขียนจริงๆ) โต๊ะโตะจัง ติสตู คนตัวจิ๋ว ฯลฯ ทั้ง 5 ข้อข้างบนนี่อ่านตั้งแต่เด็กๆ เลยค่อนข้างจะมีอิทธิพลกับชีวิตมาก แบบ เด็กๆอ่ะนะ อ่านอะไรก็จำเข้าหัวไปหมด แล้วก็เชื่อเอาจริงๆจังๆซะด้วย แต่เล่มสุดท้าย LOTR นี่ไม่เชิงเปลี่ยนชีวิต เพราะมาอ่านตอนโตแล้ว เป็นลักษณะของการเติมความเชื่อให้มั่นคงขึ้นมากกว่า ทำให้เรามองโลกด้วยสายตาของความจริง แต่ในเวลาเดียวกันก็มีความหวังค่ะ ^__^ จากคุณ : Athiwen - [ 17 ก.ย. 47 10:24:45 A:192.168.0.129 X:210.203.178.13 ]

ความคิดเห็นที่ 26 หนังสือเรียนชุดมานีมานะ ชุดนี้สมัยประถม ได้ข่าวว่ามีการรวมเล่มแล้วนะครับ เดี๋ยววันจันทร์ค่อยออกไปซื้อ-3- จากคุณ : ไซโอ - [ 17 ก.ย. 47 12:51:49 A:203.113.36.14 X:203.150.217.111 ]

ความคิดเห็นที่ 27 O__o"" มีแล้วเหรอ .. ถ้ามี อย่าลืมมาแจ้งข่าวนะคะ จะซื้อบ้าง จากคุณ : แม่มดพันปี - [ 17 ก.ย. 47 17:31:26 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เข้ามาแอบดูของคนอื่น โอ๊ะ! เราลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไงกัน O.o" หนังสือชุดบ้านเล็กของลอร่า อิงกัลล์ ไวล์เดอร์ นั่นเองค่ะ เป็นเรื่องแรกที่เริ่มอ่านอย่างเป็นจริงเป็นจัง อ่านมาตั้งแต่ป.6 จนถึงม.6 (ชุดนี้มีทั้งหมด9เล่ม อ่านเล่มล่ะ3รอบ เป็นอย่างตํ่า) เข้าห้องสมุดทีไรก็ต้องมีเรื่องนี้ติดตัวไว้เป็นประจำ วันไหนไม่ได้อ่านนี่หงุดหงิดเลย(แต่รู้สึกว่าเป็นคนเดียวในรร.ที่อ่านเรื่องนี้ยังไงไม่รู้ ไม่ว่าอ่านจบแล้ววางไว้ตรงไหน มันก็จะอยู่ตรงนั้นเหมือนเดิม-_-") ส่วนเรื่องที่สอง ก็คล้ายของคุณAthiwen อีกเรื่องหนึ่ง หนังสือชุดนักสืบ4เกลอ ของเอนิด ไบลตันค่ะ ก็เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นให้ชอบอ่านนิยายนักสืบต่อมา(ทุกวันนี้ก็ยังหยิบขึ้นมาอ่านอยู่บ่อยๆ) อีกเรื่องก็หนังสือเรียนชุดมานีมานะ นี่แหละค่ะ ยิ่งอยู่ชั้นสูงขึ้นเรื่องราวก็ยิ่งเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นหนังสือเรียนเล่มเดียวที่พอซื้อมาแล้วจะรีบอ่านก่อนเปิดเทอม(เล่มอื่นนี่ ถ้าไม่ใกล้สอบไม่มีทางอ่าน) เรื่องสุดท้ายก็ต้องเป็น LOTR แน่นอนอยู่แล้วอ่ะนะคะ เป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกว่า เป็นแฟนตาซีที่สมจริงอย่างที่สุด คือไม่เคยอ่านเรื่องแฟนตาซีที่รายละเอียดเยอะขนาดนี้มาก่อนเลย เปิดมาเจอแค่บทนำก็แทบอึ้งแล้ว O.O' กว่าจะจำชื่อตัวละครได้ก็นานอยู่ แต่สรุปแล้วชอบมากค่ะ ถ้าจะว่าเปลี่ยนชีวิตก็คงไม่ถึงขนาดนั้น แต่ก็เป็นเล่มเดียวที่ทำให้รู้จักคนที่ชอบเหมือนกันมากขึ้นล่ะค่ะ^^ จากคุณ : underhill - [ 17 ก.ย. 47 22:12:06 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมยกประโยชน์ให้ต่วย'ตูน พ๊อกเกีตบุ๊คส์ และ ต่วย'ตูน พิเศษ ที่พ่อซื้อมาอ่าน แล้วเราอ่านได้ด้วยครับ ทำให้ "ชอบอ่าน" มาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนหนังสือที่ทำให้ติดนิยายวิทยาศาสตร์ ก็ "มิติที่4" น่ะแหละครับ เล่มที่ลงเรื่อง "แซนด์คิงส์" อ่ะ จากคุณ : 311025 - [ 20 ก.ย. 47 00:54:50 ]