CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ++มารู้จักกับพิธีกรสาวใหญ่ใจบุญคนนี้กันเถอะ "โอพร่าห์ วินฟรี่ย์"++

    สวัสดีครับ

    หลังจากวีรกรรมสะท้านโลกด้วยการแจกรถยนต์ราคาคันละล้านฝ่าๆ รวมสองร้อยกว่าคันให้แก่ผู้ชมในห้องส่งฟรีๆ คนละคันหยั่งกะเลี้ยงทำบุญขึ้นบ้านใหม่ หลายๆ คนก็ได้แต่เป็นปลื้มสำหรับแม่สาวใหญ่ใจบุญท่านนี้เป็นอันล้นพ้น และสวดภาวนาผ่านนิ้วมือทั้งสิบที่จิ้มๆๆ คีย์บวชว่าเมื่อไหร่เมืองไทยจะเกิดปาฏิหาริย์ฝนตกสิบหกห่าใหญ่อย่างนี้เกิดขึ้นบ้างเสียที เอาล่ะ ทีนี้เรามาทำความรู้จักเจ๊กันดีกว่า เผื่อความปลื้มจะกลายเป็นความคลั่งขึ้นมา ตีตั๋วไปนั่งทอดหุ่ยอยู่ในห้องส่งรายการทอล์คโชว์ของหล่อนบ้าง เหอๆๆๆๆ

    พิธีกรสาวผิวหมึกคนนี้ เธอชื่อไรรู้ป่ะ? ชื่อ โอพร่าห์ วินฟรี่ย์ ไงล่า!!!! ก๊ากๆๆๆๆ

    (ไม่มีเสียงปรบมือจากผู้ชมในห้องส่ง มีเพียงเสียงกระแอมในลำคอ เสียงหญิงชรากำลังจามไม่หยุด กับหน้าม้าคนนึงที่กำลังหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังโดยไม่ทราบสาเหตุ)

    เอาล่ะเข้าเรื่องกันดีกว่า

    เธอเริ่มแผดเสียงทุ้มใหญ่ของเธอเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 มกราคม 1954 หรือเมื่อประมาณ 50 ปีมาแล้วพอดิ๊บพอดี ที่เมืองเล็กๆ ชื่อว่าโคเชียสโค่ มิซซิสซิพพี่ย์, โอพร่าห์เกิดมาท่ามกลางอุตสาหกรรมฟาร์มกลางแดดของชุมชนชาวผิวสีในละแวกนั้น เจ๊เด่นมาตั้งแต่เด็กก็เพราะว่าเริ่มรู้จักวิชาพิธีกรมาตั้งแต่สามขวบเท่านั้นเอง แหล่งข้อมูลบอกมาว่าเธอชอบอ่านแผดเสียงดังๆ และเล่นเป็นพิธีกรตั้งแต่อายุสามขวบ อัจฉริยะแต่เด็กๆ เลยอะ

    พออายุได้ 6 ขวบก็ย้ายพร้อมกับมารดาไปอยู่มิลวอคี่ย์ แต่ก็เกิดคลุ้มคลั่งไรไม่รู้หนีออกจากบ้านตอนอายุ 13 พอถูกจับได้ก็ถูกเหวี่ยงเข้าบ้านเยาวชนเสีย ระกำเคราะห์ซ้ำที่ห้องเต็มไม่สามารถยัดโอพร่าลงไปได้ เฮ้อ เธอเลยต้องไปอยู่กับคุณพ่อบังเกิดเกล้า ชื่อเวอร์นอน วินฟรี่ย์ ที่ทิ้งเธอไปตั้งแต่ยังเล็กที่แนชวิลล์แทน T-T

    (เสียงผู้ชมแกะกล่องทิชชู่)

    แต่เรื่องไม่ได้เลวร้ายและน้ำเน่าอย่างที่คิด เมื่อพ่อของเธอก็เป็นชายจิตใจดีเช่นกัน ส่งเสริมให้เธอเป็นคนรักการอ่าน โอพร่าเลยชอบอ่าน พอ่านมาก โลกทัศน์ก็เปิดกว้าง ยิ่งกว่าเปิดยูบีซีและใช้วันทูคอลเสียอีก

    เมื่อโอพร่าห์แตกเนื้อสาวสะพรั่ง ย่างเข้าสู่อายุ 17 ทันใดก็เริ่มเดินทางมุ่งสู่อาชีพบันเทิงทันนั้น โดยเริ่มจากการเป็นลูกจ้าง (ไม่ทราบตำแหน่ง) ของรายการวิทยุดับเบิ้ลยู-วี-โอ-แอลประจำเมืองแนชวิลล์, คงจะไปได้รุ่งจริงๆ ล่ะเพราะต่อมาอีกสองปีก็ถูกจับเซ็นสํญญากับช่องดับเบิ้ลยู-ที-เอฟ-วี-ทีวีในเมืองแนชวิลล์ที่เดิมในฐานะผู้ประกาศข่าว (กิ๊บกิ๊ววว กระโดดไกลดีจัง)

    (ผู้ชมในห้องส่งส่งเสียงโอ้โห อื้อหือ)

    โอพร่าห์ถือคติว่ามีเซ็นต์นึงพึงบรรจบให้ครบดอลล์ฯมาตลอด จึงมีทุนไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเทนเนซซี่ย์ โดยลงวิชาหลักอย่างการพูดโดยเฉพาะ แล้วก็ยังลงวิชาการแสดงเสริมเอาไว้ด้วย

    หลังจากจบการศึกษาปี 1976 เธอก็ย้ายไปอาศัยอยู่ที่เมืองบัลทิมอร์เพื่อทำงานให้กับดับเบิ้ลยู-เจ-แซ่ด-ทีวี (ทำไมชื่อสถานีต้องขึ้นต้นด้วยดับเบิ้ลยูทั้งนั้นเลยอ่ะ) ในฐานะผู้ช่วยผู้ประกาศข่าว และก็ โอ๊ว์ ว้าว วินฟรี่ย์เธอช่างมีความสามารถล้นเหลือจริงๆ จะเก่งกว่าชั้นแล้วมั้งเนี่ย ก็เลยไล่ เอ้ย ช่วยผลักดันให้โอพร่าห์ของเราได้มีรายการเป็นของตัวเองเสียที ชื่อรายการ "พีเพิ่ล อาร์ ทอล์คคิ่ง" ณ ช่องสถานีเดิม

    ทำไปทำมาจนถึงปี 1984 เจ๊ก็ตัดสินใจย้ายขึ้นไปอีกจนถึงชิคาโก เพื่อรับหน้าที่พิธีกรเต็มตัวครั้งแรกในรายการทอล์คโชว์ท้องถิ่นยอดนิยมเปรี้ยงปร้าง "เอ เอ็ม ชิคาโก" นั่นเอง จากที่เธอเริ่มเข้าไปรายการสั้นกระจึ๋ง นกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำก็จบซะละ แต่พอเธอเข้าไปเรตติ้งก็กระฉูดปรู๊ดปร๊าดขยายเวลารายการเป็นชั่วโมงนึงเต็มๆ บางทีก็มากกว่านั้น อืม ป้าโอพร่าห์นี่สุดยอดจิรงๆ

    "ยังไม่ต้องชมชั้นหรอกย่ะนังเตอร์ ชั้นยังมีดีกว่านี้อีกเยอะ โฮะๆๆๆ" ป้าโอพร่าห์กล่าวอย่างมีอารมณ์ขันดังยิ่งกว่าไก่

    (ผู้ชมในห้องส่งหัวเราะชอบใจ นายเด๋อคนนึงถอดเสื้อล่อนจ้อนกระโดดลงมาหน้าเวที แล้วโชว์แก้มก้นที่สักเอาไว้ว่า "ผมรักคุณ, โอพร่าห์ วินฟรี่ย์" ก่อนจะถูกยามลากตัวออกไป)

    ใช่แล้วครับ ป้าเตะปี๊บดังกว่าที่ผมกล่าวไปทุกเรื่องเชียวละ เพราะอย่างน้อยๆ ทางสถานีอึดอัดใจที่จะให้เจ๊ทำรายการท้องถิ่นที่ลอกคราบหลายทีจากผู้สร้างรุ่นก่อนๆ เลยถอดเจ๊ออกมาซะแล้วลากให้มาเซ็นสัญญาใหม่เมื่อปี 1985 ใช่ชื่อรายการทอล์คโชว์ตามชื่อของป้าเอง--ใช่แล้วครับ "เธอะ โอพร่าห์ วินฟรี่ย์ โชว์" นั่นเอง

    (เสียงปรบมือจากผู้ชมในห้องส่งดังขึ้น)

    จากนั้นโอพร่าห์วินฟรี่ย์โชว์ก็ดังฮิตถล่มทลายสายฟ้าฟาด ระหว่างที่ดับเบิ้ลยู-เจ-แซ่ด-ทีวีนั่งนับเม็ดเงินเม็ดทองหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย รายการนี้ก็ขึ้นอันดับเป็นทอล์คโชว์ระดับประเทศไปเรียบร้อยแล้ว และแค่ในปีแรกรายการนี้ก็ยังได้รับรางวัลเอ็มมี่ย์ อะวอร์ดตั้งสามตัวแน่ะ หนึ่ง-รายการทอล์คโชว์ยอดเยี่ยม, สอง-พิธีกรสาวยอดเยี่ยม และ สาม-รางวัลสุดยอดเกียรติยศรายการทีวียอดเยี่ยมนานาชาติ ซึ่งเธอเป็นพิธีกรที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ทำอย่างนี้ได้!

    เอาหล่ะ พักสักครู่ แล้วผมจะมาพิมพ์ต่อครับ

    (เสียงผู้ชมในห้องส่งปรบมือดังลั่น ภาพตัดเข้าสู่การโฆษณา ถึงเวลาอ่าน sms จากผู้ชม เริ่มคนแรกเลยครับ)

     
     

    จากคุณ : ++peter++ - [ 15 ก.ย. 47 22:27:39 ] ส่งภาพนี้เข้ามือถือ