CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ฟิคแปล-แฮร์รี่พอตเตอร์กับสงครามครั้งที่สอง- บทที่ 11 ครับ

    มาแล้วครับ บทที่ 11 เชิญอ่านได้เลยครับ
    ***********************************
    บทที่ 11 ไม่นะ หวังว่าคงไม่ใช่ครีฟวีย์อีกคน
    วิชาแรกในวันต่อมาของแฮร์รี่คือวิชาตัวเลขมหัศจรรย์ วิชานี้เป็นสิ่งที่แฮร์รี่ตั้งหน้าตั้งตารอ เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะ เฮอร์ไมโอนี่พูดนักพูดหนาว่าสนุก แต่ก็นั่นแหละ เฮอร์ไมโอนี่มักจะชอบของแปลก เช่น ชอบอ่านหนังสือเรียนเป็นกิจกรรมยามว่าง
    แฮร์รี่รู้สึกรำคาญใจ เมื่อนักเรียนทั้งห้อง มีเขาคนเดียวที่ดูเหมือนจะเป็นเด็กโต นักเรียนเกือบทั้งหมดเหมือนยังอยู่ปี 3 มีปี 1 กับปี 2 ด้วยนะ บางคน แฮร์รี่ถอนใจก่อนจะเลือกที่นั่งหลังสุด
    ศาสตราจารย์เวกเตอร์ อาจารย์ที่ดูแก่ โทรม และแต่งชุดแม่มดตามแบบฉบับพื้นเมือง เธอคนนี้ท่าทางจะไม่ค่อยสนใจใยดีนักเรียนซักเท่าไหร่ เธอเขียนพวกประโยคสัญลักษณ์ สมการทั้งหลายบนกระดาน พร้อมทั้งคำอธิบายว่าสัญลักษณ์แต่ละตัวมีความหมายว่าอย่างไร เธอหวังให้นักเรียนทุกคนจดโน้ตย่อลงไปในสมุดด้วย แฮร์รี่สังเกตได้ว่าเด็กปีหนึ่งส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรบ้าง
    เด็กผู้ชายผมบลอนด์อายุ 11 ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แฮร์รี่ดูจะสนใจเพดานมากกว่าบทเรียน
    แฮร์รี่ถองเด็กคนนั้นเบา ๆ และกระซิบว่า “นี่น้อง อย่าลืมจดโน้ตย่อนะ”
    เด็กน้อยคนนั้นได้สติคืนมาจากเพดาน พร้อมกับหยิบปากกาขนนกและม้วนกระดาษออกจากกระเป๋า “ขอบคุณครับพี่” เขากระซิบตอบมา
    เมื่อคาบนั้นหมดลง หัวของแฮร์รี่ก็โล่งเหมือนยกภูเขาทั้งลูกออกไป
    เด็กผมบลอนด์คนนั้นตามแฮร์รี่มาติด ๆ อย่างกระตือรือร้น โอ้ ไม่นะ แฮร์รี่คิด พระจเาช่วยบอกทีว่านี่คงไม่ใช่ครีฟวีย์อีกคนนะ...
    เด็กคนนั้นโผล่มาตรงหน้าแฮร์รี่ “หวัดดีคับ พี่ชื่ออะไรอะ ผมชื่อมาร์ค”
    “พี่เหรอ พี่ชื่อ แฮร์รี่น่ะ นายอาจจะรู้แล้วก็ได้มั้ง”
    “ไม่ครับ ผมเพิ่งมาใหม่ อยู่ปีหนึ่งเอง แต่พี่อาจจะไม่รู้เพราะผมเข้าเรียนวิชายาก ๆ ใช่มั้ย” มาร์คหยุดแป๊บนึง เขากำลังพยายามเดินข้ามรอยแยกที่พื้น
    แฮร์รี่ตัดสินใจถามสิ่งที่เขาอยากรู้ “นายคงไม่ใช่ครีฟวีย์ ใช่มั้ย”
    “ไม่ใช่ครับ ว่าแต่ อะไรคือครีฟวีย์เหรอ บางที มันอาจจะเป็นชื่อพ่อมดที่ผมไม่รู้จักก็ได้ รู้ไหม พ่อผมอะ โกรธมากเลยตอนผมได้รับจดหมาย เขาคิดว่าพวกเวทย์มนต์เป็นเรื่อง..... เอ่อ ผมจะไม่พูดคำที่พ่อผมใช้หรอกนะ เอาเป็นว่าเขาคิดว่ามัน “ไม่มีจริง” คำเนี้ย เป็นไง”
    “อืม ดีดี เอาเหอะ ฉันต้องไปละ แล้วเจอกัน” แฮร์รี่หมุนตัวไป
    เสียงของมาร์คตะโกนก้องทางเดินระหว่างที่แฮร์รี่เดินต่อไป “ครับผม เราคงจะได้เจอกันบ่อยเลยแหละ ผมอยู่บ้านกริฟฟินดอร์ด้วย!”
    แฮร์รี่ไม่ค่อยมีกะจิตกะใจเรียนวิชาต่อไปคือวิชาสมุนไพรศาสตร์เท่าไหร่ อย่างแรกคือเขาเข้าชั้นเรียนสายเพราะมัวแต่เดินไปกับมาร์ค อีกอย่าง แฮร์รี่รู้ดีว่าเนวิลลย์ยังคงหัวเสียกับเรื่องพ่อของเขา เฮอร์ไมโอนี่ก็ยังไม่รู้ว่า “boatman forking molt” หมายถึงอะไร ถ้าเฮอร์ไมโอนี่ไม่ถาม เขาก็จะยังไม่บอก แฮร์รี่คิด
    แต่เหตุผลสำคัญที่สุดที่แฮร์รี่ไม่มีกะจิตกะใจจะตั้งหน้าตั้งตาเรียนวิชาสมุนไพรศาสตร์ก็เพราะมันคือ สมุนไพรศาสตร์ ต้นไม้น่าเบื่อเกินไป
    “วันนี้เราจะไปเรียนกันที่เรือนกระจกหมายเลขเจ็ด วันนี้เราจะทำกิจกรรมกับอโคไนต์กัน โปรดตามฉันมา” ศาสตราจารย์เสปราต์ กล่าวก่อนจะเริ่มชั้นเรียน
    แฮร์รี่เดินตามเฮอร์ไมโอนี่ที่เดินนำอยู่ข้างหน้าจนทัน “นี่ เฮอร์ไมโอนี่ เธอจะคุยกะฉันมั้ยนี่”
    “อาจจะ”
    แฮร์รี่ไม่สามารถจะทนเฮอร์ไมโอนี่ในลักษณะนี้ได้ แฮร์รี่ถอนหายใจแล้วเดินคู่กับเฮอร์ไมโอนี่จนถึงเรือนกระจกหมายเลขเจ็ด
    ในที่สุดเฮอร์ไมโอนี่ก็พูดออกมา “ฉันกำลังคิดว่าฉันพูดกับเธออยู่ ฉันโกรธเธอที่เธอไม่เห็นคุณค่าของฉันวันนั้น...ในเมื่อเธอทำเหมือนกับว่าฉันไม่เคยช่วยอะไรเธอเลย”
    แฮร์รี่ไม่สามารถบอกได้ว่าเขาเองนี่แหละ จับตาดูเฮอร์ไมโอนี่ทุกฝีก้าว ท่วงท่าอันสง่างาม ทรงผมบลอนด์ที่หยักเป็นลอนของเธอ แต่แฮร์รี่ก็ไม่อาจจะบอกไปได้
    “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำอย่างนั้นหรอก” แฮร์รีพูด
    เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มออกมา “วันนั้นฉันอารมณ์ไม่ดีน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่กอดแฮร์รี่และมองไปที่เนินข้างหน้า “ดูนั่นสิ เรือนกระจกหมายเลข 7” เธอพูด
    “ว้าว ใหญ่โตดีจัง” แฮร์รี่พูด
    “อืม ที่เนี่ย เป็นที่เก็บสมุนไพรที่ใช้ทำยาทั้งหลาย มันค่อข้างอันตรายเชียวล่ะ”
    “ศาสตราจารย์บอกว่าเราจะทำกิจกรรมกับอะไรนะ”
    “อโคไนต์น่ะ มันเป็นดอกไม้ที่มีพิษ รูปร่างเหมือนหมวก แต่มันเป็นส่วนประกอบสำคัญมากในน้ำยาฟื้นพลัง แปลกมั้ยล่ะ ดอกไม้พิษแต่มีประโยชน์มาก”
    “อืมม ใช่” แฮร์รี่ตอบไปทันที
    “อะไรนะ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม
    “เราเรียนสมุนไพรศาสตร์กับสลิธีรินน่ะสิ” แฮร์รี่ชี้ไปที่มัลฟอย แครบ และกอยล์ ที่เดินนำหน้าอยู่ประมาณ 10 ฟุต
    “เอาล่ะ หวังว่าพวกนั้นคงไม่ใช้พวกดอกไม้พิษทำอันตรายคนอื่นก็แล้วกัน เราต่างก็รู้ดีว่า พวกนั้นน่ะอันตราย”
    พวกเขาเดินเข้าเรือนกระจกหมายเลข 7 ไปที่กลุ่มต้นอโคไนต์
    “เอาล่ะ พวกเธอ สวมถุงมือ แว่น และหน้ากาก ให้เรียบร้อย จะไม่มีใครบาดเจ็บในคาบนี้ อาจารย์ใหญ่คงไม่ชอบใจแน่ และถ้าเธอรู้สึกอยากจะเป็นลมหรือไม่สบายอะไร เดินออกไปได้เลยนะ ไม่เป็นไรสำหรับคาบนี้”
    ศาสตราจารย์เสปราต์ใช้เวลาอีกเกือบชั่วโมงในการอธิบายวิธีการดูแลและรับมือกับพืชมีพิษทั้งหลาย ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที แฮร์รี่ก็หยุดให้ความสนใจ
    แฮร์รี่ไม่ใช่คนเดียวที่หยุดฟัง เขามองไปที่มัลฟอย แครบและกอยล์ ที่กำลังยื่นมือไปจี้ต้นไม้พุ่ม ที่เมื่อเอามือจี้แล้ว มันก็ค่อย ๆ หดเล็กลงไป พวกเขาหัวเราะต้นไม้กลุ่มนั้น แต่ทันใดนั้นเองพวกเขาก็จับแขนขวา และใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะย่อเข่าลงไปนอน
    มัลฟอยหายใจหนัก น้ำตาไหลออกมาจากขอบตาทั้งสองข้างของเขา “ชู่ว์ อย่าร้อง... อย่าร้อง...มันจะผ่านไป เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเองแหละ มันจะผ่านไป...” เขาพูดอย่างอิดโรย
    ความเยือกเย็นเข้าครอบแฮร์รี่ ภาพการมองเห็นของเขาในค่ำคืนวันนั้น... เด็กผมบลอนด์คุกเข่าบนลานกว้างสีเทา ภาพตอนนั้นยังคงติดตาแฮร์รี่ เขาสั่นน้อย ๆ ท่ามกลางเรือนกระจกอันอบอ้าว
    ความรู้สึกนั้นพุ่งใส่แฮร์รี่เหมือนก้อนอิฐ สิ่งที่เขาได้เห็นคืนวันนั้น เป็นจริง... จริง ๆ ด้วย...
    **********(จบบทที่ 11 ครับ)***************

    จากคุณ : Prof.Dumbledor - [ 30 ก.ย. 47 19:15:10 ]