ความคิดเห็นที่ 1 บ่ฮู้ รู้แต่หนังเอี้ยดอ้าด แห่ะๆ ล้อเล่นนนนนนนน จากคุณ : SSTR - [ 23 พ.ย. 47 22:51:38 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เพื่อความต่อเนื่องของเนื้อหาจากกระทู้โน้น ผมขออนุญาตก็อปความเห็นเกี่ยวกับหนังอาร์ตจากกระทู้โน้นมานะครับ ความคิดเห็นที่ 13 เข้าใจว่าที่จขกท. บอกว่า "อาร์ท" น่าจะหมายถึงว่า เป็นหนังที่จะสัมผัสได้ด้วยใจ ด้วยอารมณ์ความรู้สึก (ใช้สมองส่วนที่รับศิลปะ) มากกว่าที่จะดูแล้ว เข้าใจทันทีโดยเนื้อเรื่อง หรือภาพที่เห็น หรือนำมาวิเคราะห์ประมวณผลด้วยสมองซีกซ้าย สรุปคือว่าเป็นหนังที่ต้องดูด้วยใจ และใช้ความรู้สึกสัมผัส แล้วจะได้รับสิ่งที่หนังต้องการจะสื่อ (แต่ถ้าเป็นหนังอย่างเมตริกซ์ จะต้องใช้การวิเคราะห์ จึงจะได้รับ "สาส์น" ที่หนังต้องการจะสื่อ) พอได้มั๊ย?? แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 47 22:08:45 แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 47 21:58:07 จากคุณ : คาเฟอีน - [ 23 พ.ย. 47 21:57:17 ] จากคุณ : ชาเขียว - [ 23 พ.ย. 47 22:54:07 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ความคิดเห็นที่ 14 นิยาม "หนังอาร์ท" ของแต่ละคน ก็อาจจะแตกต่างกันไปได้ อย่างเช่นบางคนอาจจะดูที่ภาพ ที่สวยงาม การตัดต่อที่มีสไตล์ แบบหนังเรื่อง Hero หรือบางคนอาจจะมองที่อารมณ์ของหนัง อย่างเช่น Days of Being Wild, In the Mood... ฯลฯ หรือบางคนอาจจะดูที่บทสนทนาที่ไพเราะ เนื้อเรื่องที่แปลกใหม่ มีจินตนาการสร้างสรรค์ ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือการที่ดูหนังแล้วไปกระตุ้นต่อมสมองซีกขวา (ความรู้สึก) มากกว่าซ้าย (เหตุผล) นั่นเอง จากคุณ : คาเฟอีน - [ 23 พ.ย. 47 22:11:48 ] จากคุณ : ชาเขียว - [ 23 พ.ย. 47 22:54:37 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ....ผมเข้าใจว่าหนังอาร์ตนี่เป็นศัพท์ที่ไม่ใช่สากล เพราะถ้าไปดูการจัดหมวดหนังเราจะไม่เห็นแบบ Drama/Thriller/Romance/......ART ....แต่ปัจจุบันการใช้เหมือนกับต้องการจะสื่อถึงหนังที่ดูยาก ไม่ตลาดเท่าที่ควร แต่ต้องระวังไม่ไปเกี่ยวกับหนังทุนน้อย เพราะเดี๋ยวก็จะเกิดไปทับซ้อนกับ "หนังอินดี้" อีก .....ดังนั้นก็คงเป็นศัพท์ที่ไม่ได้มีนิยามหรือบรรทัดฐานตายตัวแต่เหมือนเป็นความเข้าใจของแต่ละคนไป (เพราะบางคนอาจบอกว่า สัตว์ประหลาด เป็นแต่อีกคนบอกไม่เป็น อันนี้มันก็แล้วแต่คน) จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 23 พ.ย. 47 22:55:22 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หนังที่ดูไม่รู้เรื่องแต่ไม่อยากบอกว่าไม่รู้เรื่อง เลยบอกว่าอาร์ตแทน จากคุณ : . - [ 23 พ.ย. 47 22:55:22 A:61.90.22.200 X: TicketID:071691 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ความคิดเห็นที่ 18 หนังอาร์ทแปลว่าไม่ทำเงินครับ อิอิ เป็นความหมายที่เป็นรูปธรรมสุดๆ เป็นหนังที่น่าจะไม่ทำเงินนั่นเอง หรือไม่สามารถได้รายได้มโหฬาร เมื่อพูดถึงแฟนฉัน คนที่ไปดูมาจะไม่มี ใครบอกเลยว่าเป็นหนังอาร์ต เพราะคิดว่า มันจะเก็บตังค์ได้นั่นเอง เลยไม่คิดว่ามันอาร์ต และคนทั่วไปเข้าถึงได้ หนังอาร์ตในความหมายที่ใครๆก็ใช้น่าจะหมายถึง เฉพาะกลุ่ม ไม่สามารถเข้าใจได้ทุกเพศทุกวัย หรือ ทุกคนไม่สามารถเข้าถึงได้เท่าเทียมกันโดยง่าย เท่านั้นเอง จากคุณ : bud - [ 23 พ.ย. 47 22:22:08 ] จากคุณ : ชาเขียว - [ 23 พ.ย. 47 22:55:45 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ศิลปะที่ไม่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป คนทั่วไปเห็นได้แต่มองไม่ออก ศิลปินด้วยกันเท่านั้นถึงจะเข้าใจ รึเปล่า? ทั้งที่ศิลปะที่สุดยอดทั่วไปก็ชอบกันได้นะ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 47 23:09:14 จากคุณ : คลื่นแทรก - [ 23 พ.ย. 47 23:07:57 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่ค่อยรู้เรื่องค่ะ เคยได้ยินเค้าบอกว่าหนังอาร์ตเป็นหนังที่ดูแล้วต้องคิด ต้องตีความ ออกมาอีกทีถึงจะเข้าใจอ่ะ อย่างเรื่อง รักน้อยนิดมหาศาล เค้าก็บอกว่าจัดเป็นหนังอาร์ต เห็นจะจริง ขนาดเราก็พยายามตั้งใจดูอย่างมาก ยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลยค่ะ จากคุณ : นานะ - [ 23 พ.ย. 47 23:10:56 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่รู้ครับ แต่หากให้ติดสิน คือหนังที่ดูแล้ว ภาพและเนื้อหาค่อนข้างลึกและต้องใช้ใจดูไม่ใช่ตา จากคุณ : ประมุขพรรคมาร - [ 23 พ.ย. 47 23:13:09 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ..เข้ามาดูก่อนครับ... แล้วจะตาม Save. เมื่อกระทู้ตก......เพราะคิดว่า กท. นี้มีประโยชน์กับผม(บ้าง)น่ะครับ. ****ไม่ใช่อะไรมาก...แค่จะได้ Save. ข้อมูลที่เดียวเลย**** ..ไม่ว่ากัีนน่ะครับ...จขกท....... แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 47 23:24:48 จากคุณ : จากคนอยากรู้ที่ชื่อ>>> (Tonig) - [ 23 พ.ย. 47 23:24:08 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คิดเรื่องเรื่องมากกว่าเรื่องเงิน จากคุณ : Dr.slump - [ 23 พ.ย. 47 23:24:40 ]

ความคิดเห็นที่ 11 บางครั้งผมก็อยากดูหนังเพื่อผ่อนคลายนะ ถึงไม่ค่อยดูหนังที่ดูยาก หรือดูไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ แต่บางทีผมก็ชอบดูหนัง drama หนักๆ บางครั้งก็ชอบดูหนังสืบสวนสอบสวนที่ต้องคิดตามตลอด แต่หนังที่เค้าบอกว่าเป็นหนังอาร์ต ... เอ่อ ผมเข้าไม่ถึงจริงๆ นะ จะว่าผมเข้าไม่ถึงศิลปะ ผมก็ว่าไม่น่าใช่นะ คิดไปคิดมา บางครั้งพาลให้นึกเหมือน #4 เหมือนกันอ่ะ จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน - [ 23 พ.ย. 47 23:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ภาพยนตร์ที่มุ่งเน้นการนำเสนอความงามทางด้านศิลปะขององค์ประกอบทางภาพยนตร์เพื่อผลทางด้านอารมณ์ความรู้สึก มากกว่าผลเชิงพาณิชย์ให้หนังขายได้มาก จากคุณ : เดือน - [ 23 พ.ย. 47 23:44:48 A:203.150.193.58 X: TicketID:019519 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หนังตลาด ---> คือหนังที่ใช้การตลาดมาโปรโมทขายผู้ชมวงค่อนข้างกว้าง ยิ่งจับกลุ่มผู้ชมได้มากเท่าไหร่ยิ่งดี หนังกลุ่มนี้มักมีความบันเทิงมอบให้กับคนดู บ้างก็ว่าเอาใจคนดูเป็นหลัก มีสาร สาระที่จะสื่อชัดเจน เข้าใจง่าย ... ส่วนมากถูกเหน็บว่าใช้สูตรสำเร็จในการผลิต มีการทำเป็นอุตสาหกรรมใหญ่โต ใช้เงินลงทุนสูง จนถึงสูงมากๆ(เช่นจากฝั่งฮอลลีวู้ด หรือหนังไทยอย่างต้มยำกุ้งที่ใช้เงินลงทุนประมาณ200ล้านบาท) หนังอาร์ต ---> คือ กลุ่มหนังประเภทหนึ่งที่มีความเป็นส่วนตัวในการนำเสนอ มีความเฉพาะเจาะจงในเนื้อหา-อารมณ์ สาระสำคัญในบางสิ่งบางอย่างอย่างลึกซึ้ง ใช้องค์ประกอบทางศิลปะภาพยนตร์ในเชิงสร้างสรรค์สิ่งที่แปลกใหม่ แตกต่างออกไป มากกว่ามีจุดประสงค์เพื่อใช้ในความบันเทิง มีคนบอกว่าเป็นหนังที่ต้องใช้ใจดูมากกว่าประสาทสัมผัสทั้ง5ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิวเผินเกินไป ด้วยลักษณะเช่นนี้ทำให้หนังกลุ่มนี้นิยมชมกันในวงจำกัดนั้นแล หนังอินดี้ ---> คือหนังทุนต่ำ ใช้งบประมาณจำกัด จะเป็นหนังที่มีเนื้อหาแบบหนังตลาดหรือหนังอาร์ตก็ได้ หัวใจของหนังอินดี้ก็คือสร้างทางเลือกใหม่ๆให้กับผู้ชมที่เบื่อหนังกระแสหลัก(หนังตลาด) แล้วหนังอะไรดีกว่ากัน???? ---> บ้าป่าว ? ตอบให้ได้ก่อนดิ ว่าฉันกับเธอ ใครดีกว่ากัน เจงมะ? .... สปีลเบิร์ก กะ อิงมา เบิร์กแมน ใครดีกว่ากัน ? .... ตอบ... ถาม อัลเฟรด ฮิทคอร์ก ดูสิ ทำไมต้องถามแก ...ก็เพราะฮิทคอร์สามารถผสมผสานศิลปะเข้ากับความบันเทิงได้อย่างลงตัวอยู่หมัด ... ศิลปะมีคุณค่าอยู่ในตัวของมันเอง ไม่ต้องการคำยกย่องใดๆ แต่มนุษย์นั้นมีกิเลศ-มีEGOในตัวเอง ต้องการรางวัลและคำยกย่องเพื่อที่จะได้ประจักษ์ในคุณค่าของตน ...เราให้รางวัลegoเราได้ แต่ให้รางวัลแด่ศิลปะไม่ได้ จากคุณ : MAVEL - [ 23 พ.ย. 47 23:47:19 ]

ความคิดเห็นที่ 14 หนังอาร์ตคือหนังที่มีคนที่เขียนบทเพื่อให้เนื้อหา หรือรูปแบบ มีความโดดเด่น เป็นลักษณะเฉพาะ นำเสนอความเป็นศิลปะของหนัง ซึ่งค่ายหนังเล็งเห็นว่าไม่มีศักยภาพในการเป็นสินค้าทางทุนนิยมเลยไม่สนใจ จากคุณ : Zkizzik - [ 23 พ.ย. 47 23:49:46 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมไม่รู้เหมือนกันนะครับ ว่ามันมีความหมายจริงๆยังไง แต่ถ้าจะให้ผมลองจำกัดความเล่นๆดู ผมว่า น่าจะหมายถึง หนังที่มุ่งเน้น ตอบสนองผลทางด้านศิลปะ แต่ถ้านิยามตามนี่ ก็ต้องไปนิยามกันอีกว่า ศิลปะ คืออะไร ??? และเป็นศิลปะในความหมายของใคร ?? ้ถ้าผู้กำกับ บอกว่ามันเป็นศิลปะ แต่ว่า คนดูบอกไม่ใช่ มันทำมั่วๆต่างหาก มันจะยังเป็นอีกไหม ?? อ่ายิ่ง ตอบ ยิ่งงง -_-' สงสัย คำตอบผมจะเป็นคำตอบแบบ อาร์ท ๆๆ ด้วยเปล่านี่ครับ 5555 จากคุณ : สายน้ำฟ้า - [ 23 พ.ย. 47 23:52:14 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มันคือหนังสนองneedของคนสร้าง .. อิอิ จากคุณ : +*~ S O u LM a T e~*+ - [ 23 พ.ย. 47 23:52:19 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อยากได้หนัง H แบบอาร์ตๆ อ่ะ อืม... ในความเห็นผม หนังอาร์ต (ตกลงสะกดด้วย ต.เต่าใช่ไหม) -คือหนังที่ดูรอบเดียวไม่สามารถตีความได้ทั้งหมด เพราะมันซับซ้อน -เรื่องทุนการสร้างไม่น่าเกี่ยว แต่บังเอิญว่าหนังอาร์ตส่วนใหญ่มันใช้ทุนต่ำ -ดาราดังไม่ดังก็ไม่เกี่ยว แต่บังเอิญมีงบต่ำเลยจ้างดาราดังไม่ได้ -kill bill นี่มันอาร์ตป่าวอ่ะ จากคุณ : RedWine - [ 23 พ.ย. 47 23:55:15 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คิดเห็นคล้ายๆคุณ"ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ค่ะ คิดว่าเป็นหนังที่ มีความละเอียดซับซ้อนในการนำเสนอ อาจจะเป็นด้านเทคนิคการถ่ายทำที่มีความเฉพาะตัว หรือเนื้อหาที่มันมากกว่าภาพที่เห็นน่ะค่ะ ประมาณ เหมือนจะธรรมดา แต่ก็ไม่อ่ะค่ะ แต่ถ้าถามเราว่าหนังเรื่องไหนที่คิดว่าเป็นหนังอาร์ต Great Expectations อ่ะค่ะ คือเรามองด้านprops ด้านฉาก มองจากที่เห็นเลยอ่ะค่ะ อันนี้เราไม่รู้หรอกค่ะว่าใช่ไม่ใช่ แต่เป็นความคิดจากความรู้สึกเราอ่ะค่ะ จริงเนอะ ... บางทีเราก็พูดเอาเก๋ โดยที่เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไรกันแน่ จากคุณ : By the sea - [ 24 พ.ย. 47 00:07:48 ]

ความคิดเห็นที่ 19 หนัง อาร์ท เป็นหนังของผู้กำกับ ชื่อ art จ้า หรือโปรดิวเซอร์ชื่อ art ก็น่าจะได้นะ เอ...เอาเป็นคนเขียนบทชื่อ art ก็ได้นะจ้ะ สรุปหนัง art เป็นหนังที่มีใครสักคนชื่อ art ทำอะจ้ะ จากคุณ : วัชเจียเหว่ย - [ 24 พ.ย. 47 00:16:16 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เข้ามายกตัวอย่างหนังที่คิดว่า พอจะเข้าข่ายที่เรียกว่าอาร์ตได้ ( มั้ง ) Talk to Her / La Belle / Big Fish / Last Life In The Universe / ที่เลือกหนังพวกนี้มา เพราะคิดว่า คนส่วนใหญ่น่าจะเคยดู หรือผ่านตามาบ้างครับ ส่วนเรื่องคำจำกัดความของคำว่า " หนังอาร์ต " ไม่กล้าตอบฟันธงอ่ะคับ เพราะไม่รู้ว่า บรรทัดฐานจริง ๆ ของมันอยู่ที่ตรงไหน ... แต่ขอตอบตามประสาคนที่เรียนศิลปะมา อย่างนี้ล่ะกันคับ แจกัน 2 ใบ ใบแรก ... ถูกสร้างมาโดยคำนึงถึง ปริมาณความจุ .. ว่าจะใส่ดอกไม้ได้กี่ดอก ใส่ออกมาแล้วเป็นยังไง .. แจกันใบนี้ถูกตีค่าเป็นงาน Apply Arts แจกันใบที่สอง .. ถูกสร้างขึ้นมาโดยคำนึงถึง ความลงตัวของ รูปทรง texture และองค์ประกอบทางความงามอื่น ๆ ซึ่งอาจจะแฝงไว้ด้วยอารมณ์ของเส้นสาย หรือนัยยะบางอย่าง ... แจกันใบนี้ อาจจะใส่ดอกไม้ ไม่ได้เลยสักดอกก็เป็นได้ .... ใบนี้ถูกตีความเป็น งานFine Arts .. แต่ทั้ง 2 ก็ถูกเรียกว่าแจกันเหมือนกัน ... แต่จุดประสงค์ ในการทำต่างกัน ... ถึงทั้งสองจะมีความงดงามอยู่ในตัวเหมือนกัน ... คงคล้ายๆ กับ ... หนังเรื่องนึง .... ถูกสร้างโดยคำนึงถึง xxx อีกเรื่องนึง สร้างมาโดยคำนึงถึง yyy อันนี้เป็น Link ที่น่าจะมีประโยชน์สำหรับคนรักหนังนะครับ ในนี้น่าจะมีหนังหลายๆ เรื่องที่น่าติดตามหรือเข้าไปหาอะไรจากมันได้ http://www.festival-cannes.com เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ เมืองคานส์ http://www.piff.org เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ ปูซาน http://www.belinale.de เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ เบอลิน โรงหนังที่มีแนวๆ นี้ให้ดู http://www.houserama.com http://www.apexsiam-square.com จากคุณ : A r t F u l l Y - [ 24 พ.ย. 47 00:28:25 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มันจะเหมือนเด็กแนวป่าวอ่ะ ที่ "ข้าเด็กแนว เพลงที่ข้าฟังต้องไม่เป็นค่ายใหญ่ ต้องหาฟังยากโคกๆ" ซึ่งจริงๆ เพลงค่ายใหญ่ๆ อย่างที่ใครสักคนตอบในกระทู้ก่อน อย่างวง "HUM" เค้าบอกว่าก็อินดี้นะ เพราะทำเองคิดเองนำเสนอความคิดตัวเอง แต่เด็กแนวไม่ยอมรับเป็นพวก เพราะอยู่ค่ายใหญ่ อย่างนี้ป่าวอ่ะ แล้วหนังที่พี่ๆ ข้างบนยกตัวอย่างมา ผมว่ามันดูงดงามนะ อย่างนั้นเรียกว่า "หนังอาร์ต" ป่าวครับ หรือหนังอาร์ตต้องห้ามขึ้นโรงเมเจอร์หรืออีจีวี ต้องลิโด้เท่านั้น หรือไม่ก็ฉายตามเทศการหรืองานเสวนาแค่นั้น นี่ผมไม่ได้กวนนะ ผมสงสัย และคิดว่าคงมีคนสงสัยแบบผมหลายคน จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน - [ 24 พ.ย. 47 01:15:11 ]

ความคิดเห็นที่ 22 หนังอาร์ต -- หนังที่คนส่วนใหญ่ดูไม่รู้เรื่อง แต่คนส่วนน้อยดูแล้วบอกว่า"สุดยอด" จากคุณ : pipe_holiday - [ 24 พ.ย. 47 01:25:32 ]

ความคิดเห็นที่ 23 #20 Talk to Her / La Belle / Big Fish / Last Life In The Universe / สำหรับผมนี่ หนังพวกนี้ เป็นหนัง ที่นำเสนอ ได้งดงาม น่าสนใจ น่าเสียเวลาดู ไม้ได้ดูยากเย็นอะไรด้วย จะบอกว่าหนังพวกนี้ เป็นหนังอาร์ต นี่ สำหรับผมยังรู้สึก แปลกๆ แต่ถ้าเป็น "สัตว์ ประหลาด" หรือ "Naqoyqatsi" นี่ ผม ว่า เป็นหนังอาร์ต สำหรับผมแน่ๆ ครับ ตอนดู แล้ว กลับมา ยังมานั่งคิด สองสามวันเลยว่าหนังมันสื่อถึงอะไร ์ จากคุณ : สายน้ำฟ้า - [ 24 พ.ย. 47 01:32:34 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ผมเคยดูหนังอาร์ตๆแบบอาร์ตหนักๆเลย ไปซื้อมาจากร้านแถวจตุจักร ดูไม่รู้เรื่องครับ ทั้งๆที่พยายามแล้ว แต่มันมีอะไรบอกผมอยู่นิดๆครับในหนังที่ผมดูไม่รู้เรื่องนั้น คือ ผมได้ยินเสียงเพลงบรรเลงจากต้นไม้ใบหญ้าแทน ผมหลับตา แต่ใช้ประสาทดูแทน เห็นท่วงทำนองของจังหวะที่เค้านำเสนอเลยครับ จากคุณ : aorair - [ 24 พ.ย. 47 01:35:57 ]

ความคิดเห็นที่ 25 #23 ถ้านิยามของคำว่า " หนังอาร์ต " คือ เข้าใจยาก ก็คงงั้นอ่ะครับ ที่ยกตัวอย่างข้างต้นมา เพราะเป็นหนังที่คนน่าจะผ่านตามาเยอะน่ะครับ ถ้างั้นคงยกตัวอย่างหนังที่ไม่มีฉายในบ้านเราอ่ะครับ เพราะคงจะง่ายและตรงกว่าด้วย จากคุณ : A r t F u l l Y - [ 24 พ.ย. 47 01:38:51 ]

ความคิดเห็นที่ 26 หนัง art คือ before - หนังที่คนดู เข้าไปดูด้วยความฮึกเหิมอยากจะเสพความ art(ที่เขาว่าๆกัน) เข้าไปให้เต็มปอด after - ออกมาจากโรงด้วยอาการงุนงง และ ทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆตัวดู ว่างเปล่า หาอะไรจับไม่ได้ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึก เก๋ เท่ cool เพราะมันคือหนัง art ไม่ใช่หนังตลาดๆ จากคุณ : แป๊ะซะ - [ 24 พ.ย. 47 01:45:25 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ยกตัวอย่างหนัง 2  เรื่องของเจ้ย สุดเสน่หา กับ สัตว์ประหลาด ผมดูแล้วมานอนคิด ตื่นมาอีกวัน ตกเย็นยังคิดไม่ตกเลยครับ ถึงวันนี้ก็เถอะ ใครถามผม  ผมก็ตอบว่าผมไม่ได้รับสารที่เจ้ยสื่อออกมาเลย น้องๆที่ดูสัตว์ประหลาดด้วยกันบอกว่า มันคือหนังรัก อีกคนบอกมันสื่อถึงการมีสัญชาตญาณดิบๆแบบสัตว์ อีกคนบอกนี่มันหนังไล่ล่า ล่าอารมณ์ตัวเอง อยู่กับอารมณ์ตัวเอง ปลดปล่อย คือยิงวัวตาย มันมีสัญลักษณ์ในหนังมากมายครับ   พูดถึงสัญลักษณ์ ผมต้องไปเปิดเอนไซโคฯซะแล้ว ว่าเจ้ยสื่อถึงสัญลักษณ์อะไรมั่งในหนัง  สองเรื่องที่ว่า พูดถึงสัญลักษณ์ ผู้กำกับไทยหลายคนไม่ค่อยให้ความสนใจในสัญลักษณ์กันเท่าไหร่ ไว้ให้ผู้รู้มาพูดถึงสัญลักษณ์ในห้องนี้ดีกว่าครับ แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 47 01:52:07 จากคุณ : aorair - [ 24 พ.ย. 47 01:48:11 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ^ ^ ^ เห็นด้วยสุดแรงเกิด กะคุณ aorair ค่ะ จากคุณ : แมวเหมียวพุงกาง - [ 24 พ.ย. 47 01:59:09 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 24 พ.ย. 47 02:02:01 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผมว่าการสื่อสารให้ผู้รับรับรู้ได้ในมุมกว้างแต่ยังคงมีชั้นเชิงในการนำเสนอน่าจะดีที่สุด แต่ใครล่ะจะได้ปริญญาใบนั้นไปครองได้ แต่เจ้ยก็สามารถสื่อให้คนในเมืองคานส์รับรู้มาแล้ว และได้ปริญญามาแล้ว ส่วนผมก็ยังงงอยู่ต่อไปอีกสัก 2 ปี ผมว่าผมอาร์ตแล้วนะ หรือใจมันอาร์ตไม่พอ ก็อาจเป็นได้ น่าจะใช่แน่ๆผมไม่อาร์ตพอ ทั้งๆที่ว่าอาร์ตทานแล้ว บางอารมณ์ก็เข้าถึงได้ง่ายมาก แต่บางอารมณ์ผมกลับดูไม่เข้าใจเลยสักนิด ยังมีอะไรหลายๆสิ่งที่ผมยังไม่สามารถใช้ใจเข้าไปสัมผัสได้อีกมากมาย บางทีต้องใช้ทั้งร่างและวิญญาณ ถึงจะรับรู้ได้ เอาแค่ความเข้าใจในผู้หญิงคนนึง บางทีผมยังไม่เข้าใจเลย จะเอาอะไรกับดูหนังอาร์ตล่ะครับ ............................ จากคุณ : aorair - [ 24 พ.ย. 47 02:02:20 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คือหนังที่ดูแล้วไม่รู้เรื่องค่ะ เคยดูและพยายามตีความ ถกกันหน้าดำคร่ำเครียด (แต่ในใจลึกๆรู้สึกว่ามันถ่ายหนังมั่วๆนี่หว่า) จากคุณ : umae - [ 24 พ.ย. 47 02:07:26 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อย่างหนังเรื่อง hero กับ road home นี่ผมชอบมากครับ ถามว่าอาร์ตไหม ผมว่าอาร์ต แต่มันเป็นอาร์ตแบบ pop art ครับ ส่วนสัตว์ประหลาด ผมกลับมองว่าเป็นเหมือนจิตรกรรมแบบแวนโก๊ะหรือปิกัสโซ่ สรุปคือผมก็ยังชอบหนังอาร์ต แบบ pop art แล้วกันครับ จากคุณ : aorair - [ 24 พ.ย. 47 02:09:31 ]

ความคิดเห็นที่ 33 .. แวะเอาหนังดีๆ ที่ผมคิดว่า อาร์ต มาฝากครับ เผื่อแฟนๆหนังอาร์ต สนใจจะหามาชมกัน หนัง ของ Federico Fellini 8 1/2 (1963) , La Dolce Vita (1960) หนัง ของ Fran็ois Truffaut The 400 Blows (1959) , Day for Night (1973) หนัง ของ หว่อง การ์ ไว Chungking Express (1994) , In the Mood for Love (2001) หนัง ของ Krzysztof Kieslowski White (1993) , Blue(1993) , Red (1994) จากคุณ : POGGHI - [ 24 พ.ย. 47 02:11:28 ]

ความคิดเห็นที่ 34 หนังที่ดูเข้าใจยากอะปะ แบบต้องดูหลายๆครั้งถึงจะรู้เรื่อง แล้วก็เป็นหนัง ที่ คนส่วนมากคิดว่า เจ๋ง ทั้งๆที่ไม่ค่อยรู้เรื่อง ไม่รู้นะ คิดเอง จากคุณ : mariah-myall - [ 24 พ.ย. 47 02:17:30 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เห็นด้วยกับ 16เลย ในความเห็นส่วนตัวนะ คิดว่าหนังอาร์ทคือหนังที่สร้างเพื่อสนองความต้องการของคนสร้างมากกว่าคนดู ทำให้จำกัดการไป "คลิก" คนดูในวงแคบกว่าหนังที่สร้างเพื่อหาผลกำไร โอกาสที่คนจะไม่เข้าใจ , ดูไม่รู้เรื่องจึงสูงกว่า ไม่ใช่ว่าหนังอาร์ทต้องไม่ทำเงินเสมอไป เพียงแต่คิดว่า รายได้ไม่ใช่เป้าหมายหลักแค่นั้นเอง จากคุณ : Papercut - [ 24 พ.ย. 47 02:27:33 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เดี๋ยวขอให้คำจำกัดความ (ส่วนตัว) ใหม่ที่นี่ละกันนะครับคุณชาเขียว... เอาความหมายแบบทั่วไปที่เขาใช้ ๆ กัน ต้องบอกว่า ที่บอกไว้คราวที่แล้ว เป็นการ (พยายาม) ตีความที่จขกท.เดิม บอกไว้ว่าดูเรื่องนี้แล้วได้อารมณ์แบบหนังอาร์ตนะครับ (ซึ่งผมเองก็ไม่มีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้เลย) แต่ถ้าให้นิยามคำว่า "หนังอาร์ต" จริง ๆ สำหรับผมมองว่าขึ้นอยู่กับว่าหนังเรื่องนั้น ๆ ทำขึ้นมาเพื่อ "สนอง" อะไร.... ถ้าต้องการสนอง "ตลาด" ต้องการขายให้ได้มาก เข้าถึงคนกลุ่มใหญ่ ..... ก็น่าจะเรียกว่า "หนังตลาด" ถ้าต้องการสนอง "อิสระ" ของคนทำหนัง ก็น่าจะเรียกว่า "หนังอิสระ" หรือหนังอินดี้ แต่ถ้าต้องการสนองความเป็น "ศิลปะ" หรือสร้างขึ้นมาเพื่อให้เกิด "งานศิลปะ" สื่อสารกับผู้ที่เข้าใจได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนกลุ่มใหญ่ และไม่ใช้เรื่องสนองตัวเองคนเดียว.... อันนี้ก็น่าจะเรียกว่าเป็น "หนังอาร์ต" คราวนี้คำว่า "ศิลปะ" ก็คงจะต้องแตกไปอีกเป็นหลายแขนง บางคนอาจจะเล่นเรื่องของสี หรือสัญลักษณ์ที่ซ่อนอยู่ บางคนอาจจะเหมือนภาพ abstract บางคนอาจจะทำออกมาเป็นภาพ realistic คือเสนอความเป็นจริง (เช่นพระเอกนางเอก เป็นคนจริงๆ ในโลกความจริง ไม่สวยไม่หล่อ ไม่รวย ฯลฯ) ลองนึกถึงคนวาดรูปอาจจะชัดเจนขึ้น บางคนตั้งใจวาดให้คนส่วนมากชอบ บางคนตั้งใจวาดอย่างที่ตัวเองอยากวาด บางคนตั้งใจวาดให้มีคุณค่า มีองค์ประกอบศิลปะ บางคนตั้งใจวาดภาพศิลปะ แต่ออกมาเละเทะก็มี แต่บางที ความเละเทะที่ไม่มีใครเห็นค่าในตอนแรก ก็กลับเป็นมีค่าประเมินไม่ได้ อย่างเช่นปิกัสโซ่... จนเขาตาย คนถึงจะเห็นคุณค่าของศิลปะของเขา เป็นต้น ส่วนใหญ่ งานศิลปะ ที่ศิลปะมาก ๆ มันก็มักจะไม่ mass อย่างเช่น งานเขียนอาจารย์เฉลิมชัย ขนาดดังขนาดนี้ แต่มีไม่กี่คนหรอกที่แม้แต่จะแค่เข้าไปดูว่าแกวาดรูปอะไร เทียบกับรูปวาดของ ชัย ราชวัตร (แต่ก็ไม่ใช่ว่างานที่ต้องการสื่อกับคนหมู่มาก จะไม่ดี... มันเปรียบกันไม่ได้) จากคุณ : คาเฟอีน - [ 24 พ.ย. 47 03:24:11 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อาา รู้สึกเราอาร์ทจังหนังที่พูดถึงดูหนังแล้ว อาาา โคตรอาร์ทกุรุ กั่กๆ เอาคำตอบจริงๆ เลยนะครับ จริงๆมันเป้นเรื่องของคนทำหนังครับ คำตอบบางคนออกไปทางเอาใจตัวเอง ก็คือ ประเภท "หนังที่ฉันดูไม่รู้เรื่อง" หรือ หนังประเภท "หนังที่ใช้สมอง" ซึ่งนั่นไม่เกี่ยวเลยครับ หนัง หรือของทุกอย่างคุณก็มีสิทธิ์จะไม่รู้เรื่อง และก็มีสิทธิ์จะใช้สมองกับมันนั่นแหละครับ เคยได้ยินใครบางคนพูดว่า ทุกอย่างมันก็เป็นศิลปะหมดนั่นแหละ มันอยู่ที่ใจของเรานั่นเอง กลับมาทีี่เรื่องคนทำ หนัง art หรือหนังศิลปะ เนี่่ย ตัวคนทำ(ผู้กำกับ) เค้าอยากจะนำเสนองานที่มีความลุ่มลึก มากกว่าจะให้คนที่เข้ามาดูหนังพบกับความตื่นเต้นตกใจและจากกันไป อันนี้คุณก็ต้องย้อนนนนนนน กันไปถึงสมัยยุคเริ่มต้นหนัง สองพี่น้อง ลูมิแอร์ ซึ่งว่ากันว่าเป็นหนังต้นแบบ Realism (หนังสมจริง = งานประเภทเล่าเรื่องให้สมจริงปรุงแต่งน้อย) ซึ่งหนังเรื่องแรกของพี่น้องคู่นี้ก็คือ The Arrival of a Train (1985) ตัวเรื่องเป็นการถ่ายภาพรถไฟเทียบชานชาลาเท่านั้นเอง ซึ่งก็สร้างความตกตะลึงให้กับผู้ชมอย่างมาก จากนั้น ก็เริ่มมีหนังทีี่มาทางแฟนตาซี เพื่อสร้างความสนุกสนาน เพลิดเพลินใจให้แก่ผู้ชม อย่างหนังของ จอร์จ เมลิเอส์ (นู๋ๆ น้องๆ ที่เคยไปชมพาราด็อกแฟต 4 หนังที่เปิดให้ดูก่อนเข้าคอนเสิรต์ คือหนังของท่านผู้นี้นั่นแหละ) จอร์จ เมลิเอส์ เป็นนักมายากลมาก่อน จึงใช้ภาพยนตร์ในการสร้างจินตนาการของเค้าให้มากขึ้น เช่นหายตัว(การตัดแบบ Jump cut) ซึ่งแน่ละ พอมีคนลองอะไรหลายๆ อย่าง มันก็ย่อมมาถึงทางพวกฝ่ายศิลปะ ซึ่งอยากจะนำเสนอสิ่งที่ให้ผู้ชมได้ตระหนักมากขึ้น ยั่วยุให้เกิดความคิด แน่นอนว่า หนังทีี่จะทำงั้นได้(ในยุคเริ่ม) ก็คงไม่พ้นแนวทางเซอร์เรียวลิสต์(เหนือจริง) หรือสมัยนี้หลายคนเรียกสั้นๆ "หนังเซอร์" ก็เหมือนกับหนังคุณอภิชาติพงษ์นั่นแหละครับ พอมีสิ่งผิดปกติขึ้นในหนัง ผู้ชมมักจะคบคิดมากขึ้นในสิ่งที่ได้เห็น ในยุคเซอร์เรียว เนี่ย ผมไม่แน่ใจว่าใครบุกเบิกนะ(ชักขี้เกียจค้นข้อมูล) แต่ถ้าให้ผมบอกชื่อแบบ ถามแล้วตอบได้ทันที ผมคงตอบ Luis Bunuel (ไม่กล้าออกเสียงเพราะผมคงออกเสียงผิดแน่ๆ) ซึ่งทำหนังที่ีเต็มไปด้วยสัญญาลักษณืต่างๆ นาๆ ไม่รู้ว่าผมเล่าถึงตรงนี้ยังพอนึกภาพออกหรือเปล่า ว่าจริงๆ แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ที่ีอยากบอกก็คือว่ามันเป็นความซนของคนนั่นแหละครับ เริ่มจากเราบันทึกภาพลงฟิลม์ได้ เราก็เริ่มทำให้มันเคลื่อนไหวได้ และเราก็เริ่มใส่เรื่องราว เริ่มฉีกเรื่องราว นำเสนอความคิด และก็เริ่มนำทุกอย่างมาผสมผสานกันไปหมด จะเห็นว่าหนังสมัยนี้นั้น มีครบทุกรสจริงๆ ตั้งแต่สมจริง ดราม่า และแอบเซอร์นิดๆ ถามว่ามันเป็นศิลปะมั้ย ผมก็ว่ามันเป็นนะ การที่เราจะเล่าเรื่องราวที่เรามีอยู่ ผ่านรูปแบบไปสู่ผู้ชม แล้วเลือกสิ่งต่างๆ เพื่อบอกว่าเราจะสื่ออะไรกับเค้า มันก็ศิลปะแล้วละครับ แต่คำว่า art ที่เราเรียกๆ กัน ว่า"หนังอาร์ตนะ" อะไรพวกนั้นนะ มันเหมือนการปฏิเสธ และประชดประชันกันมากกว่า มันอยู่ที่ตัวบุคคลนั่นแหละ ที่จะเลือกรับ ปฏิเสธมันหรือเปล่า คุณสมบัติหนังอาร์ต ก็อย่างทีี่พิมพ์ๆไปครับ ว่ามันคือทุกอย่างนั่นแหละ เพราะผมเชื่อว่าทุกอย่างมันก็อาร์ตหมด แต่ถ้าตอบแบบสมัยนิยม ที่คนเอามาพูดไว้ประชุด ก็คงหนังที่่เราไม่เข้าใจมันนิดๆ หรือแอบใช้ยกยอตัวเองว่าเข้าใจมันดี อาา ตอบอย่างเมามันเลยกุรุ โชว์ความโง่ของตัวเองอีกแล้วสิ *ใครเจอคุณพี่ bud เรียกมาตอบด่วน เหอๆๆ คนนี้แหละรู้จริง อิๆ จากคุณ : วัชเจียเหว่ย - [ 24 พ.ย. 47 03:29:17 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มะรู้ว่ะ... อุอุ art ถ้าเติม he ข้างหน้า ก็กลายเป็น heart ต้องใช้ใจดู แต่จากที่ดูหนังมาอะนะ แล้วเราชอบหนังประมาณตัวอย่างในกระทู้นี้ มันมีอีกหลายหนังที่เขาพูดๆกัน เช่น หนังอินดี้ หนังนอกกระแส หนังคลาสสิค เราก็ดูรวมๆกันไป เลยไม่รู้จะแยกไงเหมือนกัน ^^ แต่อินดี้จะแยกง่ายกว่า เพราะมันจะต้องทุนต่ำ ค่ายเล็กเท่านั้น คลาสสิคก็จะประมาณหนังได้รางวัล แต่จะเป็นหนังเก่า หนังหายาก เรื่องเรียบๆเรื่อยๆ แต่ดูจบจะอุทานว่า "ดีอะไรอย่างนี้ฟะ" นอกกระแส ก็ไม่ตลาด หาดูยากอีก >.< พอถึงอาร์ตก็เลยรวมๆๆหลายๆอย่างมาไว้ด้วยกันก็ได้ อาร์ตสำหรับคนทั่วไป (ที่ไม่ชอบดูหนังอาร์ต) จะคิดว่าเข้าใจยาก ต้องปีนกะไดดู ประมาณสัตว์ประหลาด สุดเสน่หา รักน้อยนิด lovely rita (ดู 3 เรื่อง ข้าเจ้าก็ไม่เก็ททั้ง 3 เรื่อง TT) ข้าเจ้าก็เลยเห็นว่า มันเป็นอาร์ตระดับสูง ประมาณ abstract (คิดจนหัวแตก) และคงไม่เหมาะกะข้าเจ้าเป็นแน่ แต่ก็ยังเรียกหนังที่ตัวเองดูว่า เป็นหนังอาร์ตอยู่นะ แต่เห็นด้วยว่ามันเป็น pop art เสพง่ายหน่อย สรุป ในความเห็นเรา หนังอาร์ตก็คือ หนังศิลปะ ใช้ภาพที่เป็นศิลปะ พล็อตที่ไม่ตลาด หาดูยาก ต้องใช้ความพยายามหาดูสูง แต่พอจะทำความเข้าใจได้ ไม่งงแตก เนื้อหาจะส่วนตัวนิดหน่อย เพราะสร้างมาสนองneed แต่จะมีบางส่วนให้เราคนดูรู้สึกร่วมได้ เป็นหนังที่พูดถึงกับใคร(เพื่อน แฟน พ่อแม่ ฯลฯ)แล้วเค้าจะไม่รู้จัก ประมาณว่ามันมีหนังชื่อนี้อยู่ในโลกด้วยเหรอ เป็นต้นว่า แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 47 04:26:30 จากคุณ : birdlove - [ 24 พ.ย. 47 04:24:15 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอลองนิยามดู อยากเปรียบการ -ทำหนัง- ซักเรื่องให้เหมือนการ -วาดภาพ- นักวาดการ์ตูน ==> เลือกที่จะหยิบปากกา หมึกดำ มาเล่าเรื่องผ่านภาพ และคำพูดในกรอบหน้ากระดาษ ที่คนอ่านเข้าใจเรืื่่องราวได้ทันที นักวาดการ์ตูนอินดี้ ==> วาดแบบไม่มีสำนักพิมพ์จ้าง อาจซีร็อกซ์ขายในกลุ่มเล็กๆ ลายเส้นอาจไม่สวย แต่เนื้อเรื่องตามใจฉัน นักวาดภาพประกอบนิทาน ==> เลือกที่จะวาดภาพที่น่ารัก ชวนฝัน ด้วยสีน้ำ หรือสีสดๆ ประกอบกับเรื่องราวที่เล่า ปิกัสโซ่, แวนโก๊ะ ==> เลือกที่จะสร้างสรรค์ -อะไรบางอย่าง- ที่คนต้องตีความ, ลึก แต่มีคุณค่า นั่นก็คือ การ์ตูน(แบบญี่ปุ่น) == หนังตลาด/หนังฮอลลีวู้ด หรือ หนังที่ไม่ได้้ซับซ้อนนักในการนำเสนอ ง่ายต่อการเข้าใจของคนทั่วไป การ์ตูนแต่ละเรื่องก็มีวิธีการเล่าที่ต่างออกไป (การ์ตูน ญ/การ์ตูน ช/การ์ตูนโหด/การ์ตูนลามก/การ์ตูนจรรโลงโลก) ภาพวาด abstract(หรือไม่ก็ตาม) ของเหล่าศิลปินทั้งหลาย == หนังอาร์ต ซึ่ง ภาพวาดศิลปะ,  การ์ตูนอินดี้, สมุดภาพสวยๆเล่าประกอบนิทาน,  การ์ตูนแบบยุโรป หรือ การ์ตูนอินเดีย ก็จะแตกต่างในแนวทางการนำเสนอของการ์ตูนแบบญี่ปุ่น นั่นก็คือหนังเหล่านั้นเป็น == หนังนอกกระแส แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 47 06:11:11 จากคุณ : น้องร้องข่กข่ก - [ 24 พ.ย. 47 06:02:14 ]

ความคิดเห็นที่ 40 สำหรับเรา หนังอาร์ต หนังอินดี้ หนังฮอลลีวู้ด(กระแสหลัก) เป็นเซ็ทที่มีส่วนอินเตอร์เซ็คท์ กันหมด ที่สำคัญ แค่คำว่า " ศิลปะ " ของแต่ละคนก็แตกต่างกันแล้ว หนัง "อาร์ต" ของคนหนึ่ง อาจไม่ "อาร์ต" สำหรับอีกคนก็ได้ มันไม่ไปแตะ ต่อมความรู้สึก ของคนทุกคนได้เท่าๆกันหรอก แต่กระนั้น "อาร์ต" บางอันที่มีคุณค่าในตัวเอง หรือเป็นแนวทางใหม่ เช่น การวาดภาพแบบใหม่ที่เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ( อิมเพรสชั่นนิสม์, เซอเรียลริสม์, คิวบิสม์ ฯลฯ) อันนั้นก็ต้องยกย่อง และยอมรับ ไม่ใช่บอกว่า ดูไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ ไม่เห็นอาร์ตเลย จากคุณ : น้องร้องข่กข่ก - [ 24 พ.ย. 47 06:25:36 ]

ความคิดเห็นที่ 41 บางทีเส้นแบ่งระหว่างความอาร์ตหรือไม่อาร์ต มันอยู่ที่คนดูพอสมควร คนสร้างงาน คงไม่ตั้งไว้หรอกค่ะ ประมาณว่าฉันจะทำหนังอาร์ตนะ ฉันจะทำหนังอินดี้นะ เห็นด้วยกับคุณวัช ว่าตอนนี้ปลายๆ เสียง ประชดคำว่าหนังอาร์ต คือหนังที่ดูไม่รู้เรื่อง ก็บอกว่าหนังอาร์ต ไว้ก่อน ไม่ขอนิยามแล้วกันนะคะ เพราะอยู่ที่ผู้เสพย์สื่อนั้นๆ จริง แต่อยากแชร์เรื่องสัตว์ประหลาด ดูไปสองรอบ รอบแรกดูด้วยความเกร็ง เพราะหนังมันมีภาพของความเก่งของผู้กำกับ รางวัลต่างๆ ก็รับประกันเต็มไปหมด รอบแรกเลยออกมางงๆ กลัวๆ แต่พอดูรอบสอง ปล่อยๆ ไม่คิดอะไร หนังดูง่ายกว่าที่คิดเยอะ ฮาๆ หลายมุข แถมลึกซึ้งหลายตอน ทีนี้อยู่ที่คนดูงานศิลปะแล้วล่ะคะ ว่าเปิดใจกว้างแค่ไหน งานศิลปะบางชิ้นต้องใช้ทั้งอารมณ์ความรู้สึก และสติปัญญาเข้าตีความ ไม่เห็นด้วยกับการแบ่งแยกว่าอะไรๆ จะมีฝั่งชัดเจน เหมือนชีวิตไม่มีขาว-ดำ ชัดเจน จากคุณ : grappa - [ 24 พ.ย. 47 07:25:33 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คุณ grappa ตอบตรงใจผมที่สุดแล้วครับ อาร์ตไม่อาร์ตขึ้นอยู่กับคนดูว่าจะเรียกมันยังไง จากคุณ : dog mulder - [ 24 พ.ย. 47 09:59:02 ]

ความคิดเห็นที่ 43 หนัง ART เป็นหนังที่ต้องชื้อ VCD (ไม่รู้ว่าจะมี DVD รึป่าว) มาดูครับ เพราะ ต้องดูมากกว่า 1 รอบ ส่วนหนังตลาดเป็นหนังที่สามารถไปดูที่โรงภาพยนต์ได้ โดนไม่ต้องตีความอะไรมากมาย จากคุณ : megalomaniac - [ 24 พ.ย. 47 10:34:35 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ยกประเด็นอีกนิดนึง... สมมตินะครับ สมมติ สมมติเอาว่า ใครสักคนให้ลิงตัวนึงละเลงสีบนผ้าใบ แล้วให้ Jackson Pollock มารับสมอ้างว่าเป็นตัวเองวาด แล้วเอาไปโชว์ใน Gallery ... อีกกรณีนึง สมมติให้ใครสักคนเอาคนเป็นดาวน์ซินโดรมมากำกับหนังเรื่องนึง แล้วให้.... เอ่อ .... ผู้กำกับหนังอาร์ตชื่อดังโคตรๆ สักคน (พอดีผมไม่รู้จัก) มารับสมอ้าง แล้วเอาไปฉายงานเทศกาลหนัง.... ผมคิดว่าก็คงมีคนบอกว่า ภาพ และหนังตามตัวอย่างข้างบนนั้นเป็น ภาพ abstract art และ หนังอาร์ต เช่นกัน... ถ้างั้น... ก็คงจะจริงว่า อะไร อาร์ต ไม่อาร์ต ขึ้นอยู่กับผู้เสพย์งานนั้นจริงๆ พูดง่ายๆ ก็คือ อาร์ต ไม่อาร์ต คิดไปเอง... ผมเคยสงสัยนะครับว่า... ไอ้ที่เราไปตีความว่าศิลปินคนนั้น คนนี้ สื่ออะไรออกมาในภาพ หรือผู้กำกับคนนั้นคนนี้ สื่ออะไรออกมาในหนัง บางครั้ง ดีไม่ดี ศิลปิน หรือผู้กำกับคนนั้น ยังคิดไม่ถึงไอ้ที่วิเคราะห์ๆ กันนั่นเลยด้วยซ้ำ... ส่วนประเด็นเรื่องหนังอาร์ตคือหนังดูยาก ผมคิดว่าไม่ใช่ เป็นการตีกรอบที่แคบเกินไป ไม่งั้น หนังอาร์ต กับหนังที่ผู้กำกับห่วย คนเขียนบทห่วย ตัดต่อภาพห่วย แล้วดูไม่รู้เรื่อง ก็แทบไม่ต่างกันเลยน่ะสิ... จากคุณ : ชาเขียว - [ 24 พ.ย. 47 11:00:44 ]

ความคิดเห็นที่ 45 อ่อ ผมสงสัยอีกนิดนึง Disney Fantasia 2000 ถือว่าเป็นหนังอาร์ตมั้ยครับ... ดูแล้วต้องตีความ ดูแล้วรับได้ด้วยสุนทรีย์ทางตา หู และใจ ถ้าไม่ใช่ ทำไมถึงไม่เป็น หรือถ้าใช่ ทำไมถึงเป็น จากคุณ : ชาเขียว - [ 24 พ.ย. 47 11:03:53 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ผมรู้อย่างนึงว่า หนังอาร์ตเนี่ย บางทีมันถูกสร้างขึ้นมาด้วย Production ที่เรียบง่าย แต่ สามารถตีความหมายได้อย่าง หลากหลาย และลึกซึ้ง อิ_อิ จากคุณ : ซาเวีย - [ 24 พ.ย. 47 11:09:50 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อ่ะ อีกนิดนึงครับ ต่อมขี้สงสัยทำงาน... หนังอาร์ต เป็น "สากล" หรือเปล่าครับ... การที่เราดูหนังจากทิมบักทูไม่รู้เรื่อง ไม่ได้บอกว่าหนังเรื่องนั้นเป็นหนังอาร์ต หรือการที่คนในหมู่เกาะฟิจิดูแฟนฉันไม่รู้เรื่อง ไม่ได้บอกว่าแฟนฉันเป็นหนังอาร์ต ดังนั้น... สงสัยครับ... เพราะปกติแล้ว ศิลปะ น่าจะต้องเป็นสากล คนดูรูป Stary Night ของแวนโก๊ะ แล้วน่าจะรู้สึกกดดัน หดหู่เหมือนๆ กันหมด หรือคนดูรูป Scream ของ มันช์ แล้วก็น่าจะรู้สึกแบบเดียวกัน... แล้วหนังล่ะครับ ??? จากคุณ : ชาเขียว - [ 24 พ.ย. 47 11:10:17 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ในฐานะเป็นนักเรียนศิลปะ กะเป็นคนบ้าดูหนังตั้งแต่เรียน ม.ปลาย ผมไม่เคยมั่นใจเรื่องหนังอาร์ตนะ เพราะมันไม่ใช่ประเภทของหนังอ่ะครับ มีแต่ Drama, Action หรือ Comedy อะไรทำนองนี้ (สงสัยต้องตอบแบบยุทธฯ ว่า "ผมไม่รู้จักหรอกหนังอาร์ต ผมเรียน decorate ม.ศิลปากร ผมไม่รู้จักหนังอาร์ต") หนังอ่ะ มันเป็น commercial art ในตัวของมันอยู่แล้ว ถ้าคุณเป็นศิลปิน ทำหนังเพื่อสื่อความในใจของตัวเอง ก้อไม่ต้องนำออกมาฉายหรอก แต่ถ้าจะฉายเพราะอยากเผยแพร่ความคิดส่วนตัว ก้อไม่ต้องหวังยอด แต่ถ้า nature ของหนังมันเป็น commercial art มันก้อควรจะทำเงิน ตาม nature ของคอมเมอร์เชียล นะ อาร์ต ไม่อาร์ต ไม่สนใจ เพราะ มันเป็น commercial แต่ผมว่า คนทำหนังทุกคนก็อยากให้หนังมีคนดูเพื่อสื่อความเข้าใจของตน กะได้ตังค์จากหนังทั้งนั้น รวมทั้งอยากทำหนังให้ดีมากๆ ด้วย ดีเท่ีาที่พอจะมีสมอง และมีงบที่จะทำได้ จากคุณ : มะหัด - [ 24 พ.ย. 47 11:19:57 ]

ความคิดเห็นที่ 49 คำว่า "หนังอาร์ต" ฟังดูแล้วเหมือนเป็นข้ออ้าง การประกัน การันตี หรืออาจมองได้ว่าเป็นการยกระดับของคนทำหนังของคนกลุ่มนึงหรือเปล่าครับ บางคนทำหนังยังไม่เป็น ทำออกมาแล้วคนดูไม่รู้เรื่อง เขาก็อ้างได้ว่า ก็เพราะมันเป็น "หนังอาร์ต" ผู้กำกับที่มีประสบการณ์โชกโชน อย่าง โรเบิร์ต อัลต์แมน ทำหนังเรื่อง The Player ซึ่งเป็นหนังที่ได้รับการตอบสนองจากนักวิจารณ์อย่างล้นหลาม ที่พูดกันถึงมาก โดยเฉพาะฉากจบที่ทิม รอบบินส์โผเข้าสวมกอดภรรยา ท่ามกลางดงดอกกุหลาบ หนังตลกร้ายแต่จบอย่าง happy Ending นักวิจารณ์ยกย่องว่าในฉากนั้นมีความหมายลึกซึ้ง แอบแฝงซ้อนเร้นอยู่ ซึ่งโดยตัวผู้กำกับท่านเองก็ยังมาบอกเลยครับว่านักวิจารณ์คิดกันไปไกล เขาไม่ได้มีเจตนาที่จะสื่อให้ลึกกันไปถึงขนาดนั้น แถมยังขอบคุณนักวิจารณ์ด้วยซะอีก ที่ตีความฉากจบของเขาซะสวยงามกว่าที่เขาคิด แหะแหะ สรุป ส่วนตัวก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับว่า เราเอาอะไรมาวัดว่าหนังเรื่องนี้คือ อารต์ หนังเรื่องนี้คือ ตลาด เพราะหนังมันก็คือ ศิลปะที่สื่อภาพและเสียงอย่างนึง การทำความเข้าใจของคนดู หรือการเลือกที่จะเสพ ผมว่ามันขึ้นอยู่กับ ประสบการณ์ และรสนิยม ของแต่ละคนมากกว่า จากคุณ : ผมต้องการคุณ - [ 24 พ.ย. 47 11:21:14 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เหมือนที่คุณMavel#13ว่า หนังที่ไม่มีการตลาด ไม่สนใจว่าคนดูจะชอบหรือไม่ ไม่สนว่าช่วงนี้หนังผี เราต้องหนังผี ไม่มีความเป็นฮอลลีวููดจ๋า หนังอาร์ตคือ หนังที่แสดงความเห็นแก่ตัวของผู้กำกับ หรือเรียกอีกอย่างว่าหนังนอกกระแส ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่คนมักจะดูไม่รู้เรื่อง แต่ถ้าดูรู้เรื่องเมื่อไหร่ หนังนั้นก็บูมแน่ๆ จากคุณ : A.R.T. - [ 24 พ.ย. 47 11:26:58 ]

ความคิดเห็นที่ 51 แล้วหนังอาสส์...กะหนังอัลเทอร์เนทีฟเหมือนกันหรือเปล่า ใครรู้ช่วยตอบที จากคุณ : the_sun - [ 24 พ.ย. 47 11:45:55 ]

ความคิดเห็นที่ 52 มันจะใช้ยากันยุง ยี่ห้ออาทเข้าฉากทุกฉากอ่ะ อิอิ จากคุณ : จินดาเดช - [ 24 พ.ย. 47 12:43:34 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ถ้าหากดันมีใครพิเรนทร์หาเรื่องต่อไปอีกว่า "ถ้าหนังอาร์ตคือหนังที่สนองความต้องการของผู้กำกับ หรือแสดงถึงความเห็นแก่ตัวของผู้กำกับแล้ว หนังของคุณพจน์ ... สารพัดกระเทยนั่น ก็น่าจะจัดเป็นหนังอาร์ตด้วยหรือเปล่า..." อันนี้ตั้งข้อสังเกตเฉยๆ นะครับ ไม่ได้จะหาเรื่อง ... เพราะส่วนตัวแล้วก็ไม่คิดว่าหนังของคุณพจน์ น่าจะเป็นหนังอาร์ตตามความหมายที่ถกกันในกระทู้นี้ จากคุณ : ชาเขียว - [ 24 พ.ย. 47 14:24:26 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ไม่รู้อ่ะค่ะ...แต่สำหรับเราจะอารมณ์ประมาณเดียวกับ คุณแป๊ะซะ #26 และคุณ umae #31 ค่ะ คือจะพบอารมณ์นี้ได้เวลาไปดูหนังกับเพื่อนๆที่ เฮ้าส์ RCA อาจจะเดินออกมาจากโรงพร้อมความมึนงง...แต่รู้สึกว่าตัวเองแบบ...Cool ว่ะ ^^" แบบนั้นมั๊งคะ...หนังอาร์ต -_-" จากคุณ : เจ้าหญิงดอกไม้ - [ 24 พ.ย. 47 14:49:27 ]

ความคิดเห็นที่ 55 แล้วคำว่าอินดี้ ล่ะครับ แปลว่าอะไร แล้วคนดูหนังอาร์ต หนังอินดี้แสดงว่าต้องมีแกนสมองยาวกว่าคนทั่วไปหรือเปล่า คนพยายามทำตัวเป็นอินดี้ แสดงว่าฉลาดกว่าคนทำตัวปกติหรือเปล่า จากคุณ : จันทรมาณพ - [ 24 พ.ย. 47 14:55:16 ]

ความคิดเห็นที่ 56 #53 หนังพจน์เรื่องนั้นมันในกระแสครับ กระแสกระเทย อยู่ในการตลาด ไม่อาร์ตเลยซักนิด คุณชาเขียว ลองมองกว้างๆหน่อยครับ อย่ามองแบบต่อยอดของความคิดเลย หนังอาร์ตจะไปจำกัดความตรงๆแบบหนังทริลเลอร์หรือแอ็คชั่นไม่ได้ ชื่อก็บอกแล้วว่าอาร์ต มันเป็นหนังอิสระ บริสุทธิ์ มีความเป็นส่วนตัว มีความแตกต่าง จากคุณ : A.R.T. - [ 24 พ.ย. 47 15:07:09 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ...ขอต่อยอดจากความเห็น4 ผมชอบกระทู้นี้จัง ....แต่คิดว่าคงหาที่สรุปกันไม่ได้ เพราะมันไม่มีคำนิยามดั้งเดิมอยู่แล้ว ก็คงทำให้ถกกันได้ไม่รู้จบ เพราะขึ้นอยู่กับคนตัดสินจะมองว่า เป็นหนังartจากมุมมองไหน 1.จากความต้องการของผู้กำกับ.....คือตูทำในแนวตัวเอง ดูไม่รู้เรื่องหรือเข้าใจก็ไม่สน 2.จากการตัดสินของคนดูแต่ละคน เช่น ถ้าผู้กำกับทำหนัง1เรื่องเอาคนมาดู แต่คุณดูแล้วบอก ------> "พระเจ้าจอร์จ มันยอดมาก มันartวะ" แต่เพื่อนที่นั่งข้างๆบอก------>"ดูแล้วก็งั้นๆไม่เห็นartตรงไหน ก็เข้าใจดี สัญลักษณ์ก็ตรงไปตรงมา" แต่แฟนบอกว่า-------> "หนังไม่เห็นดีเลย ดูไม่รู้เรื่อง artเกินไป" ก็คงสรุปไม่ได้อยู่ดีว่าตกลงเรื่องนี้เป็นหนังอาร์ตมั้ย ถ้าเอามจากมุมของคนดู เพราะจาก3คนก็มีอาร์ตไป2กระป๋องแล้ว แล้วถ้าถามว่าหนังดีมั้ย อันนี้ก็คนละเรื่องกับอาร์ตมั้ยอีก เพราะหนังอาร์ตอาจห่วยก็ได้ดีก็ได้ สรุป.....ผมตอบกระทู้แบบอาร์ตเกินไปหรือเปล่าก็ไม่รู้(คืองงเอง) แต่คิดว่าไม่มีคำตอบที่ตายตัวและแน่นอนครับ มันแล้วแต่คนดูแล้วละว่าคุณจะตัดสินว่าเป็นหนังอาร์ตหรือไม่ไม่มีถูกผิด เป็นปัจเจกครับ (ไม่เหมือนบอกว่าเป็นแนวไหน เช่นดู Ju-onคุณบอกเป็นโรมานซ์ อันนี้ทุกคนคงค้านคุณแน่ แต่ถ้าถามว่าสัตว์ประหลาด artมั้ย ก็คงได้คำตอบที่ต่างกันไป) ปล2....... ที่ชอบกระทู้นี้เพราะยังไม่มีการbluffกันแต่มาคุยกันด้วยเหตุผล เพราะไม่ชอบการที่เอาความเป็นart/indyแล้วมาบลัฟกัน(จากที่เห็นในหลายกระทู้) เช่น ดูหนังไม่เป็น แกมันดูแต่หนังฮอลลีวูด เพราะอย่างไรก็ตามหนังทุกเรื่องมันก็artทั้งนั้นละครับ เพราะเป็นศิลปะแขนงหนึ่งแต่ความชอบการตัดสินดีไม่ดีมันเป็นปัจเจกครับ จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 24 พ.ย. 47 16:08:13 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เห็นด้วยกับคุณ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ครับ... คือผมชอบกระทู้แบบนี้เหมือนกัน กระทู้แบบนี้หายไปนานจากเฉลิมไทยเลย... คุณ A.R.T. #56 ครับ.. อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าผมหาเรื่องนะครับ แค่ยกประเด็นว่า มันคงไม่มีกรอบตายตัวหรือคำจำกัดความตายตัว ว่าจะต้องเป็นหนังที่สนอง need ผู้กำกับ หรือว่าต้องเป็นหนังไม่ทำเงิน หรือว่าต้องเป็นหนังที่ดูไม่รู้เรื่อง ต้องตีความ หรือแม้แต่ว่าต้องลึกซึ้ง.... ลึกซึ้งของแต่ละคนก็ไม่เท่ากันซะอีกแน่ะ... ทีนี้ พอผมอ่านความเห็นคุณ A.R.T. ใน #56 ที่ว่า "หนังพจน์เรื่องนั้นมันในกระแสครับ กระแสกระเทย อยู่ในการตลาด ไม่อาร์ตเลยซักนิด " ผมเลยสงสัยต่อไปว่า หากวันหนึ่งวันไหน หนังอาร์ตกลายเป็นที่นิยม ตลาดดันเกิดนิยมหนังอาร์ต เกิดกระแสบ้าหนังอาร์ตขึ้นมา หนังอาร์ตแต่ละเรื่องออกมา ทำรายได้ถล่มทลาย ค่ายหนังต่างแห่กันมาทำหนัง "ที่คิดว่าเป็นแนวหนังอาร์ต" (จริงๆ เหตุการณ์นี้ คล้ายๆ เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ที่กระแสเพลงอัลเตอร์ดแรง จนอัลเตอร์ไม่เป็นอัลเตอร์อีกต่อไป) เกิดมีวันนั้นจริงๆ หนังอาร์ต ยังจะเป็นหนังอาร์ตหรือเปล่าครับ? จากคุณ : ชาเขียว - [ 24 พ.ย. 47 16:44:40 ]

ความคิดเห็นที่ 59 หนุกดีแฮะกระทู้นี้...ได้บริหารสมองดี มาสูดบรรยากาศกาศเฉลิมไทยที่ห่างหายไปนาน ^^ จากคุณ : เจ้าหญิงดอกไม้ - [ 24 พ.ย. 47 16:58:33 ]

ความคิดเห็นที่ 60 สรุปความหมายให้ด้วยนะคับคุณ ชาเขียว ผมขี้เกียจอ่านข้างบนอ่ะมันยาว...... แต่อยากรู้ด้วยแหละ จากคุณ : flyingmoon - [ 24 พ.ย. 47 18:27:15 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ชอบจังกระทู้นี้ จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน - [ 24 พ.ย. 47 18:32:42 ]

ความคิดเห็นที่ 62 หนังตลาด ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นหนังไม่ดี หนังตลาดชั้นดี ก็มี หนังอาร์ต (จริงๆไม่อยากใช้คำนี้) ก็มีทั้งหนังอาร์ตชั้นดี กับ หนังอาร์ตที่พยายามจะดี (แต่ห่วย) เพราะฉะนั้น อย่าเอาคำๆนี้มายึดติดกันเลย เพราะมันจะเกิดอคติบางอย่างในใจ .. อย่างเช่น " โหย หนังตลาดหวะ ไร้สาระ" หรือ " โหย หนังอาร์ต ต้องปีนบันไดดูแหงๆ พวกที่ชอบ คงอยาก ติสต์มากหละสิ" คนพวกนี้มีจริงๆนะ .. คือตั้งแง่ไว้ก่อนอะ ตั้งมากจนลืมไป ว่า .. หนังมันก็คือหนัง มีดีมีแย่ ถูกใจ ไม่ถูกใจ ปะปนกัน ไป จากคุณ : UnDeR_RaDaR - [ 24 พ.ย. 47 19:07:09 ]

ความคิดเห็นที่ 63 มาอ่านอีกที รู้สึกตอบไม่ตรงคำถามเลย โทษที -_-' จากคุณ : UnDeR_RaDaR - [ 24 พ.ย. 47 19:08:54 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ถ้าเราจะพูดถึงเรื่อง "ศิลปะ" จะเอา "ศาสตร์" แบบวิทย์ มาอธิบาย ก็คงจะลำบากนะครับ เพราะหลักของวิทยาศาสตร์ จะต้องเป็นกฏเกณฑ์ตายตัว อธิบายได้ แต่ "สุนทรียะ" ของศิลปะ เป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นกับผู้ที่เสพแต่ละคน และไม่มีกฏเกณฑ์ตายตัว ก่อนจะตีความได้ว่า "หนังอาร์ต" คืออะไร ก็คงจะต้องตีความคำว่า "ศิลปะ" คืออะไร ภาพวาดแบบไหนที่เรา "เรียก" ว่า "ภาพศิลปะ"?? คนนี้มี "ศาสตร์" ในการพูด กับคนนี้มี "ศิลป์" ในการพูด ต่างกันอย่างไร?? "ศาสตร์" ของการทำงาน กับ "ศิลปะ" ของการทำงานของเราคืออะไร?? ดูแล้วเป็นการยากที่จะอธิบาย แต่ถ้าหาเส้นแบ่งตรงนั้นเจอ... ก็นั่นแหละครับ เส้นจำกัดความของ "ศิลปะ" บางทีอาจจะต้องหลับตา แล้วใช้ใจมอง ถึงจะเจอเส้นนั้นก็ได้ อันนี้ก็อธิบายกันไปตามประสาคนเรียนสายวิทย์นะ จากคุณ : คาเฟอีน - [ 24 พ.ย. 47 19:16:11 ]

ความคิดเห็นที่ 65 หนัง อาร์ท คือหนังที่ผิดปกติ ครับ จากคุณ : Riddick - [ 24 พ.ย. 47 19:37:06 ]

ความคิดเห็นที่ 66 อืม...แวะมาออกความเห็นค่ะ ชอบจัง กระทู้นี้ อ่านแล้วนึกถึงตอนเรียนเลย ในความคิดของเรา หนัง(เกือบ)ทุกเรื่อง เป็น Art ค่ะ แต่จะเป็น Art แบบเข้าใจยากหรือง่ายแค่นั้น เพราะภาพยนตร์คือศิลปะแขนงหนึ่ง โดยเป็นการถ่ายทอด ศิลปะออกมาในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเป็นไปได้ว่า อาจจะเป็น ศิลปะแนวที่เข้าใจง่าย หรือเข้าใจยากก็แล้วแต่ประเภท ของศิลปะนั้นๆ   อย่าง Hollywood ทั่วไป ก็ Art ค่ะ แล้วแต่ว่าแนวไหน   อย่างพวก Formalismจะเป็นหนังที่มีการถ่ายภาพ การสร้างเรื่องที่มีการใช้เทคนิคต่างๆ มาสร้างสรรค์ เทคนิคที่ว่าก็คือ เทคนิคในการเล่าเรื่องโดยการใช้สี การจัดแสง จัดองค์ประกอบของภาพ โดยที่ผู้กำกับนั้นต้องการสื่อความหมายผ่านมาทางภาพในแต่ละฉาก ในภาพยนตร์อยู่แล้ว ซึ่งหนังตลาด หรือหนัง Hollywood จะไม่ซับซ้อน กับรายละเอียดเหล่านี้มากนักบวกกับแรงดึงดูดของนักแสดงที่มีชื่อเสียงอยู่ ทำให้คนดู รู้สึกว่า หนังนั้นเข้าถึงไม่ยาก และมองข้ามความเป็น Art ที่เป็นนัยยะบางจุดที่ผู้กำกับแอบสื่อความหมายไว้ได้ หนังแนวๆที่เป็น Pop Art อย่างนี้ เขาก็เรียกกันว่าเป็น Classical Cinema พวก plot ขายๆ อย่าง Air Force one / My best friend's wedding ฯลฯ หนังพวกนี้เป็น classical cinema ที่เป็น formalism น่ะค่ะ คนดูก็จะมองว่า หนังพวกนี้ ไม่ Art  ไงคะ เพราะมันไม่ซับซ้อน เพราะคนสร้างต้องการให้คนดูเกิดอารมณ์ร่วมไปกับหนังได้ง่าย และเข้าใจเนื้อเรื่องของหนังมากที่สุด (ต่อค่ะ ต่อ .... ยาวมากเดี๋ยวขี้เกียจอ่าน) แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 47 20:17:20 จากคุณ : primaverra - [ 24 พ.ย. 47 19:47:36 ]

ความคิดเห็นที่ 67 มาต่อที่ Art แบบ เริ่มดูยากมาทีละนิด อย่างที่บอกว่า ศิลปะมันไม่ใช่เรื่องที่จะตีความได้ว่า อะไรที่ดี อะไรที่ไม่ดี ดังนั้น ศิลปะอีกแบบที่ตรงข้ามกัน กับแบบ Formalism ก็คือ Realism -- > คือหนังที่สร้างมาโดย แสดงตามหลักความเป็นจริง มากที่สุด ไม่มีเทคนิค ไม่มีการใช้สี หรือแสงมาช่วยเพื่อ สร้างอารมณ์ร่วมมากนัก (ใช้บ้าง แต่ไม่มาก) บางที ดูแล้วเหมือนดูสารคดี แต่ไม่ใช่นะคะ หนังบันเทิงที่เป็น Realism ช่วงหลังๆนี่...เอ่อ นึกไม่ค่อย ออก ใครช่วยๆนึกหน่อยได้ไหมเอ่ย .... Bridget Jones นี่ ได้ไหม จริงๆเคยคนบอกว่า ภาพยนตร์ของท่านมุ้ยเป็นภาพยนตร์ ที่ออกไปในแนวของ Realism อยู่เหมือนกันน่ะค่ะ เห็นไหมว่านี่ก็ Art ถามว่า ดูยากไหม ก็ไม่นะคะ ... Art ต่อมาที่เริ่มดูยากขึ้นคือพวก Surrealism คือ หนังถ่ายทอดอะไรที่เหนือจริงอย่างมาก เพื่อถ่ายทอด อารมณ์ หรือใช้ศิลปะเข้ามามีบทบาทในการถ่ายทอดเรื่อง ราวที่จะสื่อ หนัง Hollywood ที่เห็นชัดๆก็ What dreams may come ค่ะ มีการใช้สีเยอะมาก เพื่อถ่ายทอดความเป็น นรก สวรรค์ และเรื่องอารมณ์ ของตัวละครที่ถ่ายทอดผ่านมาทาง องค์ประกอบทางศิลปะในเรื่องของโทนสี หรืออย่าง Lord of the rings ก็ใช่นะ นี่ก็ Art อีกแบบนึง หนังแบบนี้ ดูผ่านๆ ถ้ามี Plot เป็น classical cinema คนดูโดยทั่วไปก็ดูได้ความบันเทิงในระดับหนึ่งค่ะ ซึ่งถ้าคนเรียนศิลปะมา อาจจะมองเห็นสัญลักษณ์มากกว่า นั้นในหนังเรื่องนี้ก็ได้ ต่อที่ หนัง Art อื่นๆ ที่ดูยากๆเลยจริงๆดีกว่า.... จากคุณ : primaverra - [ 24 พ.ย. 47 20:13:21 ]

ความคิดเห็นที่ 68 Realism อย่างที่คุณ primaverra ว่านี่... The Blair Witch Project นี่พอไหวป่ะครับ จากคุณ : ชาเขียว - [ 24 พ.ย. 47 20:14:52 ]

ความคิดเห็นที่ 69 นั่นเลย นึกอยู่เลยค่ะคุณชาเขียว แต่นึกชื่อไม่ออก ชอบไปนึกถึงหน้าน้องหมีในหนังสือ a day แทนอะ Bear wish project อะเลยไม่กล้าพิมพ์ กลัวผิด หุหุ ต่อค่ะ มาถึงพวก ศิลปะแหวกแนว Art แบบดูไงก็ไม่รู้เรื่อง การตีความของงานศิลปะแบบนี้นี่ ไม่มีขอบเขตค่ะ แล้วแต่มุมมองเลย พวก Avant Guard Filmmakers ทั้งหลาย ยุคแรกๆ เขามีการเอาฟิล์มมาขีดๆ ขูดๆ แล้วเอาไปฉาย ......... เอ่อ...พอดี โดนโทรตามค่ะ เดี๋ยวกลับมาต่อนะ ใครที่อ่านแล้ว เจอตรงไหนผิดไป ช่วยแนะนำด้วยนะคะ เรียนมานาน ลืมๆเลือนๆไปบ้างละ เดี๋ยวมาค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 47 22:22:25 ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : primaverra - [ 24 พ.ย. 47 20:23:14 ]

ความคิดเห็นที่ 70 อย่าลืมมาต่อน๊า จะเก็บไว้เป็นความรู้ จากคุณ : เจ้าหญิงแห่งดาวรักขม - [ 24 พ.ย. 47 21:09:36 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ชอบกระทู้นี้จริงๆ เข้ามาถกกันอย่างสุภาพและแนวคิดดีๆหลายกระทู้เลย อยากขอยกมือถามผู้ที่ผ่านมานิดนึง ถ้าเคยดูภาพยนตร์เรื่องต่อไปนี้ รู้เรื่อง/ไม่รู้่เรื่อง,ชอบ/ไม่ชอบ และสำหรับคุณจะเรียกมันว่า "หนังอาร์ต" หรือไม่ เป็นความอยากรู้อยากเห็นต่อความรู้สึกของคนหมู่มาก กับหนังบางเรื่องเท่านั้นค่ะ 1. The Matrix (1999) 2. Kill Bill Vol.1-2 3. American Beauty 4. Invasion of the Barbarians 5. สุดเสน่หา 6. Fallen Angels (นักฆ่าตาชั้นเดียว) 7. เรื่องรักน้อยนิดมหาศาล 8. Love Letter 9. Dancer in the Dark 10. Crouching Tiger, Hidden Dragon (พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก) ขอบคุณค่ะ จากคุณ : น้องร้องข่กข่ก - [ 24 พ.ย. 47 21:25:05 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เฮ้อ ! ถกกันไปมา วัยรุ่นเซ็ง >< เห็นด้วยกะทุกคนแหละ มันอยู่ที่แต่ละคนอยากเรียก อาร์ตแล้วเท่ดี อินดี้แล้วเด็กแนว ที่เราดูๆหนังอาร์ตกันอยู่เนี่ย ก็เพราะอยากดู ดูแล้วรู้สึกเท่ กว่าดูหนังตลาด มุมมองแปลกกว่า เนื้อหาใหม่กว่า หาดูยากกว่า ....มันเลยน่าสนใจกว่า ทำไมทุกคนเข้าใจว่าอะไรคือหนังตลาด? แต่ทำไมไม่เข้าใจว่าอะไรคือหนังอาร์ต ข้าเจ้าเริ่มจะติดเชื้อจขกทแล้วนะเนี่ย ทำไมช่างถามจังคะ จะเอาไปทำธีสิทละป่าว? อิอิ ^^ จากคุณ : k (birdlove) - [ 24 พ.ย. 47 21:33:20 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ถึงไหนละนะ   อ่อ Avant Guard จะเป็นศิลปะที่แบบ ใช้รูปแบบการสื่อสาร การถ่ายทอดทางศิลปะแบบ Pure Art (อ้างอิงจาก หนังสือ มาทำหนังกันเถอะ ของพี่ประวิทย์ แต่งอักษร ค่ะ) คือเป็นศิลปะที่เพียวๆ ไม่ได้สนใจเรื่องของเนื้อหา แต่ สนใจ รูปแบบของการถ่ายทอด ซึ่งมีรูปแบบวิธีที่ไม่จำกัด เลยค่ะ จะขูดฟิล์ม ขีดฟิล์ม เอาปีกแมลงมาแปะบนฟิล์ม การถ่ายภาพแปลกๆ สารพัดความพิสดารที่เอามารวมกันแล้ว เป็นอะไรที่บางที่เราดูแล้วยอมรับว่า ไม่รู้เรื่องจริงๆ แต่ในการชมนั้น เราพบความแปลกใหม่และความตื่นตากับ ภาพที่ปรากฏบนจอภาพยนตร์นั้นอย่างมาก นี่คือผลจากความคิดที่ไม่มีขอบเขตจำกัดของ ศิลปะ แบบ Avant Guard   เคยดูหนังของกลุ่มนี้หลายๆเรื่องที่อาจารย์เอามาฉาย สาบานว่า ดูไม่รู้เรื่องค่ะ ยังไงก็ไม่รู้เรื่อง แต่มีเรื่องนึงที่ ดูตอนคาบสุดท้ายก่อนเรียนจบ และดูแล้ว ชอบมาก ชอบจนไปหา DVD มาจนได้ เธอคือ Maya Deren เป็น เจ้าแม่เเห่งหนัง Avant Guard In the Mirror of Maya Deren เป็นหนัง Art ที่ดูแล้วไม่รู้เรื่อง แต่เราชอบมาก ใครมีโอกาสลองไปหามาดูนะคะ แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 47 22:37:50 จากคุณ : primaverra - [ 24 พ.ย. 47 22:36:39 ]

ความคิดเห็นที่ 74 สรุปง่ายๆ ความเป็นหนัง art ไม่ art มันขึ้นกับตัวผู้รับสารเป็นสำคัญค่ะ งานหนังบางเรื่อง ออกแนว art แต่ว่า เป็น art ที่มี plot ไม่ลึกลับซับซ้อน ดูง่าย สมมติว่าคะแนนความเข้าถึง ในความเป็น Art มีเท่ากับ 5 คนดูทั่วไปที่ดูแล้วเข้าใจในระดับ 3 คือเข้าใจเรื่อง ดูดารา แล้วชอบ เพลงดี ฯลฯ ก็มีเยอะ และหนังเรื่องนี้ก็สรุปได้ว่า ไม่ Art ค่ะ เพราะ อะไรก็ไม่รู้นะ แต่หนังที่มีความสลับซับซ้อน มีการถ่ายทอดผ่านสัญลักษณ์มากมาย เพื่อจะให้คนดูได้สังเกตการณ์เล่าเรื่องที่เกิดขึ้น ผ่านภาพในเเต่ละฉากผู้กำกับตั้งใจไว้ ความซับซ้อนนั้นทำให้คนทั่วไป เข้าใจศิลปะภาพยนตร์นั้น ได้เพียง 1 หรือ 2 จากคะแนนเต็ม 5 เท่านั้น และคนก็จะออกมาบอกว่า หนังอาร์ตว่ะ ไม่รู้เรื่อง ..... แต่จริงๆแล้ว หนัง art ไม่ได้ดูยากนะคะ แค่เราต้องใช้ความตั้งใจกับมันหน่อย แต่คำพูดคนทำให้มันเป็นหนังที่ ดูไม่รู้เรื่องแน่ๆ ประมาณนั้นค่ะ เอารูปหนังโปรดอีกเรื่องมาให้ดู เป็นหนังอิตาลี ยุค neo-realism ตอนนั้น หนังแนวนี้ทำมาเพื่อะท้อนความเป็นจริง ในสังคมของเค้า เศ้รามากค่ะ The Bicycle Thief จากคุณ : primaverra - [ 24 พ.ย. 47 22:49:56 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เออ หนังอาร์ต กะหนังอินดี้ หรือหนังนอกกระแส นี่มัน อันเดียวกันเหรอครับ ตามความคิดผมว่า หนังนอกกระแสน่าจะเป็นภาพใหญ่สุด ภายในนั้น มีส่วนนึงที่เป็นหนังอาร์ต การที่มันจะนอกกระแสได้ คงเกิดได้จากการทำอะไรที่มัน ผิดแปลกจากสิ่งที่เขาทำกัน เช่น สร้างแบบไม่ได้นึกว่ามันจะขายได้หรือไม่ ส่วนหนังอินดี้ จริงๆ มันน่าจะคือหนังที่มีทุนต่ำ อาจมี production ที่เรียบง่าย หรือไม่มีงบในการโฆษณามากมายนัก อย่างหนังที่ฉายใน house ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะ อินดี้ หรือ อาร์ตตรงไหนนะ หนังอาร์ตจริงๆ จังๆ เท่าที่เคยดูและรู้สึกได้ คงเช่นเรื่อง Koyaanisqatsi / Powaqqatsi / Naqoyqatsi ประมาณนี้มั้งครับ ไม่มีอะไรเลย ไม่มีเนื้อเรื่องด้วยซ้ำ เอาภาพมาเรียงต่อกัน ใส่ดนตรีไป แต่สิ่งที่เขาถ่ายทอดออกมามันมีความหมาย เรารู้สึกได้ มั่วๆ ปาย อิ_อิ จากคุณ : ซาเวีย - [ 24 พ.ย. 47 22:53:58 ]

ความคิดเห็นที่ 76 avant-garde (อาวองการ์ด) เป็นภาษาฝรั่งเศส มาจาก avant แปลว่าก่อน + garde = keep รวมกัน avant-garde = พวกนักบุกเบิก หรือพวกหัวก้าวหน้า คือพวกนี้จะชอบทำ หรือเก็บ (garde) อะไร ๆ ก่อน (avant) คนอื่นน่ะครับ ... (สงสัยจะตาดี) จากคุณ : คาเฟอีน - [ 25 พ.ย. 47 01:51:12 ]

ความคิดเห็นที่ 77 คำว่า "อินดี้" เขาใช้อธิบายถึง "วิธีการทำงาน" ส่วนคำว่า "อาร์ท" เขาใช้พูดถึง "ผลงาน" ที่ออกมามากกว่าครับ... มันน่าจะเรียกได้ว่าเป็นคนละเรื่องกัน ถ้ามีนายทุน ที่ต้องการจะออกทุนให้ผกก. สร้างหนังที่ถ่ายทอดศิลปะชั้นสูง แบบที่เขาต้องการ โดยไม่สนใจว่าจะขายได้เท่าไหร่ แต่ผกก. ต้องทำให้ได้ อย่างที่นายทุนอยากจะเห็น ไม่มีอิสระในการทำงาน 100% ... อันนี้ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นหนังอาร์ต ที่ไม่อินดี้ แต่ปกติ สมการนี้มักจะไม่เป็นจริง เพราะ "นายทุน" มาลงทุน ย่อมต้องการ "ผลกำไร" จากเงินที่ลงทุน (มากกว่าความสุขทางใจ) และ "ศิลปะ" กับ "อิสระ" มักจะเป็นสิ่งที่ต้องไปด้วยกัน ถ้าเอามาเปรียบกับเรื่องการทำเพลง ก็น่าจะเห็นภาพได้เหมือนกัน... เพราะเป็น พาณิชย์ศิลป์เหมือนกับการทำหนัง การทำงานในค่ายใหญ่ ๆ จุดประสงค์หลักก็ย่อมต้องการให้งาน "ขาย" ให้ได้มากที่สุด ... ต้องมาคิดว่า จะแต่งทำนองอย่างไหนให้คนรับได้ง่าย แต่งเนื้อร้องให้คนจำได้ง่าย ให้คนอิน ให้ได้อารมณ์ เล่นดนตรีให้คนขยับตามได้ คนส่วนมากมีความรู้สึกร่วม ร้องเพลงยังไงให้คนชอบ แต่ก็ยังมีศิลปินอีกบางส่วน ที่ต้องการจะทำเพลงเพื่อรับใช้ศิลปะ ไม่สนใจยอดขาย (อย่างเช่นวงฟองน้ำ) เวลาทำเพลง ก็ต้องมาคิดว่า จะหาเสียงอะไรใส่เข้าไปในดนตรี เพื่อสื่ออะไรบางอย่าง จะสื่อสิ่งที่ต้องการจะเล่า ด้วยอะไรดี (ที่บางทีคนอาจจะต้องคิดเป็น 2-3 ชั้น ถึงจะเข้าใจได้) ... สนุกกับการซ่อน เพื่อให้คนเข้ามาค้นหา สนุกกับการสร้างความฉงน และสนุกกับการหาอะไรใหม่ ๆ มาใส่ในดนตรีที่เล่น ฯลฯ ในขณะเดียวกัน... ยังมีนักดนตรีอีกหลายคน เลือกที่จะทำเพลงตามใจตัวเอง ด้วยวิธีการของตัวเอง ไม่ต้องการอยู่ในระบบของค่ายเพลง ......... อันนี้แสดงว่ามีความเป็นอิสระในการทำงาน บางคนอาจจะตั้งใจว่า จะทำเพลงให้ "โดน" ให้ "ขาย" ด้วยวิธีของเขาเอง (= indy + pop) หรือบางคนอาจจะไม่สนใจว่าจะขายรึเปล่า ทำตามที่ตัวเองเห็นว่าดี แต่งานที่ออกมา จะมีคุณค่าทางศิลปะหรือเปล่า ก็เป็นอีกเรื่องนึง จากคุณ : คาเฟอีน - [ 25 พ.ย. 47 02:25:49 ]

ความคิดเห็นที่ 78 กระทู้นี่น่าสนใจจริงๆ มาต่อประเด็นคุณชาเขียวค่ะ ตั้งคำถามไว้น่าสนใจดี อย่างเคสลิงกับ Pollcok ที่คุณพูดถึงก็น่าสนใจนะคะ กรณีงานศิลปะ มันขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมายของผู้เสนองาน ว่าต้องการบอกอะไร หรือนำเสนออะไร มีกรณีเรื่องศิลปะกับศิลปินที่อยากร่วมแชร์ ครั้งนึง มาร์แซ็ล ดูชองป์ เจ้าพ่อ Conceptual Art (แกเป็นรายแรกที่เอาภาพโมนาลิซ่ามาล้อเล่น ด้วยการใส่หนวด ) เคยเอาโถส้วมมาตั้งในแกลเลอรี่ แล้วเซ็นชื่อ แถมบอกว่านี่คืองานศิลปะ ซึ่งสมัยนั้นก็ฮือฮามาก แถมดูชองป์ยังบอกว่า ผมไม่เชื่อในงานศิลปะ แต่เชื่อใน ศิลปิน (ดูชองป์ แกมีคอนเซปต์เบื้องหลังงานนะคะ ) อีกเรื่อง เชื่อว่าหนังอาร์ทไม่เป็นสากลค่ะ สมมุติว่าเราดูหนังอาร์ทที่พยายามนำเสนอเรื่องของชนเผ่านึง เราคงดูเท่าไรคงไม่เข้าใจ เพราะเราก้าวข้ามกำแพงวัฒนธรรมไปไม่ได้ หรืออย่างเรื่องอารมณ์ขัน ก็ไม่สากลค่ะ บางครั้งเราคงไม่เก็ทมุขที่ฝรั่งบอกเรา มีหนังหลายเรื่องที่เราขำแล้วฝรั่งไม่ขำ หรือฝรั่งขำแล้วเราไม่ขำ แต่ความเป็นสากลหรือไม่ ไม่ใช่ข้อตัดสินว่าดีหรือไม่ดีนะคะ ตอนนี้กลับคิดว่าบางครั้ง ความเป็นสากลคือความพยายามทำให้เหมือนกันหมด เหมือนที่ฮอลลีวูดพยายามทำ โดยส่วนตัวกลับชอบสิ่งซึ่งไม่สากลค่ะ จากคุณ : grappa - [ 25 พ.ย. 47 08:03:28 ]

ความคิดเห็นที่ 79 อ่านอย่างเดียว เก็บความรู้ๆ จากคุณ : น้ำใส - [ 25 พ.ย. 47 08:15:18 ]

ความคิดเห็นที่ 80 โหมโรงก็แอบอาร์ท เพราะเราใช้ใจดู ตราบตรึงซึ้งสมองทั้งสองซีก ประทับ จากคุณ : แมวมาป่วน - [ 25 พ.ย. 47 13:26:27 A:61.90.81.145 X: TicketID:079985 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เข้ามาตาม Save ครับ จากคุณ : Tonig - [ 25 พ.ย. 47 19:59:37 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เซฟด้วย :p จากคุณ : *^^* CuPiD BluE StaR *^^* - [ 28 พ.ย. 47 17:46:33 ]