CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    Fanfiction (แปล) : กุหลาบแวร์ซายส์ - ไม่มีใครนอกจากเธอ ...(ออสการ์ในขณะอยู่ที่นอร์มังดีหลังจากที่เพิ่งมีเรื่องกับอังเดร)

    ***********************************************

    fanfiction ที่เขียนขึ้นมานี้ ได้ไอเดียมาจากบรรดาแฟนๆของการ์ตูนเรื่องกุหลาบแวร์ซายส์ ซึ่งตัวละครต่างๆในเรื่องนี้นั้น ผู้เขียนมิได้เป็นคนคิดริเริ่ม หากแต่เป็นผลงานของ อาจารย์ Ikeda Riyoko ผู้ถือลิขสิทธิ์ผลงานเรื่องกุหลาบแวร์ซายส์แต่เพียงผู้เดียว

    อนึ่ง fanfiction ที่ผู้เขียนได้นำมาบันทึกไว้ยัง ณ ที่นี้ เพื่อร่วมแชร์ความเพลิดเพลินกับผู้อ่านทุกท่าน เท่านั้น มิได้หวังจะนำไปเผยแพร่เพื่อประโยชน์ส่วนตัวในด้านการค้าหรือการเงินใดๆทั้งสิ้น

    ***********************************************

    อันนี้เด็กที่รอคอย ลองแปลมาจาก No One Else But You (Oscar in Normandy) โดย Louise De Valois(giuseppet@iranet.it) translated by Anna de Jarjayes  นะคะ ไม่ได้แต่งเอง เพราะยังไม่มีเวลา อย่าหาว่าขโมยงานกันนะคะ เด็กที่รอคอยเมล์ไปบอกเค้าละล่ะ ไว้ว่างกว่านี้ จะแต่งต่อจากภาคที่แล้วที่เคยลงไว้ค่ะ

    **********************************************


    ในที่สุด เราก็ได้มาถึงที่นี่แล้วสินะ... นอร์มังดี... ว่าไปแล้วเราเองก็ต้องการพักผ่อนสักระยะเหมือนกัน

    เราไม่เข้าใจอะไรเลย  ไม่เข้าใจอะไรสักอย่างเลยจริงๆนะ...

    สิ่งที่เกิดขึ้น มันช่างวิเศษอะไรอย่างนั้น! เรานึกเอาเองว่าเราจะสามารถใช้ชีวิตเป็นอย่างเช่นบุรุษทั่วไปได้ แล้วสุดท้าย เราก็ไม่สามารถเป็นได้
    เพราะเราไม่ใช่บุรุษ!

    ไม่มีวันจะเป็นได้...  

    ว่าไปแล้ว ก็เพราะว่าเราตกหลุมรักบุรุษด้วยมิใช่หรือ? บุรุษผู้งดงามและไกลเกินเอื้อมสำหรับเรา ... ฮันส์ แอกเซล ฟอน แฟร์ซอง!

    เราเคยคิดว่าเราเข้มแข็ง แต่ก็เปล่าเลย เราลุ่มหลงจนลืมตัว ยอมแม้กระทั่งแต่งตัวเป็นผู้หญิงสาวในชุดราตรีเพื่อเขาโดยเฉพาะ

    แต่ทว่า ... ขณะที่เราได้เต้นรำอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงของเขา เราอดคิดไม่ได้ว่า แฟร์ซองก็คงจะใคร่สนใจในตัวเราอยู่บ้าง แต่เปล่าเลย!  เขากลับจำเราไม่ได้แม้แต่น้อย

    หรือไม่งั้น เขาก็อาจจะนึกออกหลังจากนั้นพักใหญ่

    เรายังจำได้ว่าเขาพูดถึงเราในฐานะ เพื่อน.... ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองเข้มแข็ง ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองใจกล้าพอจึงได้ยอมทุ่มเททำแบบนั้นลงไป

    ออสการ์ผู้ขี้ขลาดคนนี้กลับวิ่งออกมาจากงานเลี้ยงโดยไม่ได้เหลียวกลับไปมองข้างหลังอีกเลย...

    ร่วมเดือนหลังจากนั้น เราคิดเอาเองว่าทุกสิ่งทุกอย่างคงถูกลืมเลือนไปกับกาลเวลาแล้ว  แต่เปล่าเลย! แฟร์ซองกลับมีแก่ใจที่จะมาเยี่ยมเยียนถึงคฤหาสน์จาร์เจ ทั้งยังพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นราวกับว่า มันเพิ่งจะผ่านมาเมื่อวานนี้

    เขาพูดว่าอะไรนะ...?

    "ถ้าฉันรู้ ว่าเธอเป็นผู้หญิงตั้งแต่แรกที่เราพบกันเมื่อสิบปีก่อน บางที...เราทั้งสองในวันนี้....อาจจะ..."

    โอ! นั่นมันช่างแสนจะน่าสมเพชสำหรับเราเหลือเกิน!

    ถ้าหากเธอรักฉันไม่ได้ เหตุใดเธอจะต้องพยายามที่จะปลอบโยนฉันด้วยคำพูดที่เปล่าประโยชน์แบบนั้นล่ะแฟร์ซอง?

    เราจึงจำต้องวิ่งหนีจากเขามาอีกเป็นครั้งที่สอง... แฟร์ซองเองก็พูดได้เพียงแค่นั้น เราร่ำลากันแล้วความเงียบก็กระจายแผ่ซ่านไปทั่ว... มิตรภาพที่มีให้กันมานานนับสิบปีจึงสิ้นสุดเพียงแค่นั้น


    แม้ว่าเราจะเคยสาบานตนที่จะอารักขาสมเด็จพระราชินี... แต่เราก็จำต้องกลับคำแล้วกล่าวอำลาพระนาง! จะให้เราทำเช่นไรกัน?  มันเป็นไปไม่ได้เสียแล้วที่เราจะอยู่ใกล้ๆเคียงข้างพระนางดังเช่นวันเก่าๆ

    เราไม่อาจเป็นหัวหน้ากองกำลังรักษาพระองค์อีกต่อไปแล้ว...แต่ทว่า เราจะเป็นยังไงต่อไปหนอ?

    และ อังเดร... อังเดรผู้ไม่อาจปิดบังความรักภายในใจที่มีต่อเราได้อีกต่อไป ... เขาเป็นคนรับใช้ในบ้านจาร์เจมากว่ายี่สิบปี เป็นลูกน้องของเรามาตลอด  เรารู้สึกอยากจะโกรธที่เขาล่วงเกินเราในคืนก่อนหน้านี้...

    ไม่สิ ไม่จริง...!

    อังเดรเป็นเพื่อนรักของเรา เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่ดีต่อเรา ถึงเขาจะอยู่ใต้บังคับบัญชาของเรา แต่...แต่เขาก็จะอยู่ตรงนั้นเพื่อปกป้องเรา คอยช่วยเหลือเรา คอยปลอบเราเสมอ เป็นคนที่สนิทสำหรับเรามากที่สุดที่เราสามารถพูดคุยด้วยได้ทุกเรื่อง


    แต่ว่า... เราไม่เคยล่วงรู้ถึงความในใจของเขาเลยแม้แต่น้อย! แม้กระทั่งคืนนั้น ...ถึงแม้ว่าอังเดรจะสารภาพออกมาให้เราได้รู้ในที่สุด แต่เราก็ไม่อาจจะลืมความบ้าคลั่งเพียงชั่ววูบของเขาได้

    "กุหลาบก็คือกุหลาบ ที่ไม่มีวันเป็นดอกไลแลคได้!"

    คำพูดนั้นแสนจะบาดใจ เขาจะรู้บ้างไหม? คำพูดที่ทิ่มแทงและฉีกหน้าเราที่คิดอยากจะใช้ชีวิตเฉกเช่นลูกผู้ชาย! ร้ายกาจนัก อังเดร!  เธอไม่เคยเชื่อในตัวฉันว่าฉันสามารถใช้ชีวิตอย่างผู้ชาย เหมือนดังที่คุณพ่อมาดหมายให้ฉันเป็น  

    เมื่อก่อนนี้เธอก็เคยตะโกนบอกฉัน .."หยุดเถอะออสการ์! ยังไม่สายเกินไปที่จะหวนกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเช่นผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง!"

    ไม่เข้าใจเลยจริงๆ!

    เธอขบขันกับการปฏิบัติตัวของฉันอย่างนั้นหรือ? แต่เธอก็อยู่เคียงข้างฉันเสมอมา ... คืนนั้นที่ฉันตบหน้าเธอ ฉันไม่เห็นอังเดรคนเดิมที่รับอารมณ์รุนแรงของฉัน

    แต่เป็นใครบางคนที่คว้าฉันเข้าไปกอดแล้วจูบฉันอย่างบ้าคลั่ง! ฉันตั้งตัวไม่ทันเสียด้วยซ้ำตอนที่เธอเหวี่ยงฉันลงบนเตียงแล้วคว้ามาฉีกเสื้อฉันจนช่วงอกของเสื้อขาดลุ่ยไปกับมือเธออย่างฉับพลัน!  

    จะเรียกมันว่ายังไงดีนะ ... ฉันทั้งงงงวย โกรธ แล้วก็ ...กลัว ฉันเดาไม่ถูกว่าเธอจะทำอะไรต่อไป

    ที่ฉันร้องไห้ออกมาเงียบๆ ... นั่นสินะ ใจหนึ่งฉันคงจะรับรู้ได้ถึงความพ่ายแพ้ของฉันกระมัง ... ความอัปยศที่ถูกเพื่อนรักหักหลัง เพื่อนรักที่ฉันเชื่อใจ!

    แต่ความน่าอึดอัดของเสี้ยววินาทีนั้น กลับจบลงด้วยคำพูดของเธอ...

    "ขอโทษ...ขอโทษนะออสการ์!  แต่ฉัน ...ฉันอยู่มายี่สิบปีโดยที่มีเธออยู่เคียงข้างมาตลอด  ฉันคิดถึงแต่เธอ และรักแต่เธอเท่านั้นออสการ์! รักมาตลอด!"

    คำพูดนั้นน่าพรั่นพรึงนักหนา... ฉันเองก็ไม่อาจกลั้นน้ำตาได้ในคืนนั้นหลังจากที่เธอหันหลังแล้วก้าวออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ .... นี่สินะ เหตุผลที่เธอไม่อาจจะยอมรับได้ว่าฉันสามารถใช้ชีวิตอยู่อย่างผู้ชาย!

    ฉันเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว

    ทั้งความรักที่มีต่อฉัน ความซื่อสัตย์และความคุ้มครองที่ได้รับจากเธอที่อยู่เคียงข้าง แม้ว่าเธอจะไม่เห็นด้วยกับความคิดที่คุณพ่อเลี้ยงฉันมาแบบผู้ชายและเห็นว่ามันเป็นความบ้าบอสิ้นดี!

    ฉันแน่ใจ... เธอจะไม่มีวันหลุดปากบอกใครเรื่องคืนนั้น เพราะเธอ เป็นสามัญชน และฉัน เป็นขุนนาง  เธอเองก็รู้ดีว่า เรื่องระหว่างเรานั้นมันไม่มีวันเป็นไปได้ และเธอเองก็รู้ดีว่า มันจะไม่มีทั้งพิธีแต่งงาน หรือเรื่องราวอะไรต่อจากนี้ระหว่างเราได้อีก

    และนอกเหนือไปจากนี้ ... อังเดร... เธอรู้มิใช่หรือ? ความรักที่ฉันมีให้แก่แฟร์ซอง ฉันมั่นใจ ว่าเธอรู้ดี! ฉันจงใจแต่งตัวเป็นสตรีก็เพื่อเขา และฉันก็เต็มใจจะกล้ำกลืนเจ็บร้าวเพื่อเขา และ... ลาออกจากกองกำลังทหารรักษาพระองค์ เพื่อเขา

    อังเดร เธอเคยเสี่ยงชีวิตของตัวเอง ยอมสูญเสียดวงตาข้างซ้ายของเธอไป เพื่อช่วยชีวิตฉัน ฉันเองก็เข้าใจดีถึงความทุกข์ทรมานของเธอ และนับวัน มันก็ยิ่งเพิ่มพูนด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากจะให้เธอมาคอยคุ้มครองฉันอีกต่อไป

    ฉันรู้ ... รู้ดีว่า การรักใครโดยที่ไม่หวังอะไรตอบแทนนั้น มันเป็นยังไง

    แต่ทว่า เธอ ช่างเก็บงำความรู้สึกได้ลึกล้ำนักหนา ...หรือไม่เช่นนั้น ฉันเองก็คงจะไม่เคยที่จะมองเห็นความรู้สึกของเธอเลย  ชีวิตคนเรานี่ มันก็แปลกดีเหลือเกิน! ฉันเองก็หวังที่จะให้แฟร์ซองรับรู้ถึงความรักของฉันที่มีต่อเขา เหมือนอย่างที่เธอหวังให้ฉันรับรู้ความรู้สึกของเธอ

    ฉัน ... คงต้องอำลาเธอ อังเดร
    ฉันไม่อาจจะมีเธออยู่ใต้บังคับบัญชาของฉันได้อีกแล้ว เพราะมันเป็นการเอาเปรียบต่อความรู้สึกของเธอมากจนเกินไป! ความรู้สึกนั้น ที่ฉันไม่อาจ จะตอบแทนกลับคืนไปให้ได้...  ฉันเองได้แต่หวัง ว่าเธอคงจะมีชีวิตที่แสนสุขกับผู้หญิงดีๆสักคน

    ใครที่จะเคารพและยอมรับความเป็น"ผู้ดี"ในจิตวิญญาณของเธอได้ มากกว่าฉัน...


    ส่วนเรา...

    เพื่อที่จะใช้ชีวิตอยู่เฉกเช่นบุรุษ ..ถึงแม้ว่ามันอาจจะล้มเหลวไม่เป็นท่า แต่จะเป็นไรไปเล่า? ในเมื่อเราเองก็ล้มเหลวที่จะใช้ชีวิตอย่างสตรีทั่วไปนี่นา เราไม่อาจเป็นสตรีในสายตาของแฟร์ซองได้! เขามองเห็นเพียงด้านบุรุษของเราเท่านั้น และคงได้แต่สงสัยว่า เหตุใดพระเจ้าจึงสร้างเราให้เป็นผู้หญิง?


    ไม่เคยมีใครที่รู้จักเราในฐานะสตรี

    ไม่มีใคร ....

    นอกจากเธอ ... ผู้ซึ่งฉันกล่าวอำลาแล้วอย่างสิ้นเชิง

    อังเดร!

     
     

    จากคุณ : เด็กที่รอคอย - [ 12 ธ.ค. 47 02:16:35 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป