ความคิดเห็นที่ 3
นั่งรถไปกับลูปินถือว่าสนุกมาก เขาขับรถอย่างระมัดระวังขณะออกจากบ้าน หยุดรถอย่างนิ่มนวลและตรวจสอบซ้ายขวาก่อนออกตัว แต่พอขับออกนอกตัวเมือง ไปตามถนนที่รถเริ่มน้อยลง เขาก็เพิ่มความเร็ว เข้าโค้ง เปลี่ยนเกียร์สูงต่ำราวกับว่ารถยนต์ไม่มีเบรกเลย "ลุงจันทร์เจ้าฮะ" แฮรี่พูดแข่งกับเสียงลม "ว่าไง" "เรียนขับรถจากไหนฮะ?" "อัลเบอร์ต้า" "ใครฮะ?" "ไม่ใช่ใครแฮรี่ ที่ไหนต่างหาก อัลเบอร์ต้าคือเมืองทางตะวันตกของแคนาดา" "ไปทำอะไรที่แคนาดาเหรอฮะ?" ลูปินเงียบ แฮรี่ไม่แน่ใจว่าเขากำลังคิดว่าจะตอบอย่างไร หรือกำลังดูว่า เขาขับรถเร็วพอแซงรถซีดานที่กำลังคลานเต่าอยู่ข้างหน้าก่อนเข้าโค้งได้ไหม "หลังจากพ่อกับแม่เธอตาย ฉันก็เดินทางไปต่างประเทศอยู่หลายปี ไปแคนาดา สหรัฐ หางานแปลกๆทำ พยายามลืมความเจ็บปวดซะ " "งานแบบไหนบ้างฮะ?" ลูปินยิ้ม พร้อมกับเช็คกระจกหลัง "ล้างจาน กุ๊ก บรรณารักษ์ แต่ส่วนใหญ่จะทำงานสืบหาพวกลักลอบเข้าเมืองน่ะ" แฮรี่ยิ้ม "บาวตี้ ฮันเตอร์น่ะเหรอฮะ? เจ๋งไปเลย" "ฉันชอบอะไรเรียบๆ นอกจากต้องจ่ายค่ายาวูฟส์เบนแล้ว ก็ไม่ต้องใช้เงินมากมายหรอก ตอนนี้ฉันยังมีทุกซิคเกิ้ลที่ได้จากตอนทำงานที่ฮอกวอตส์ ที่ผ่านๆมาฉันอยู่ด้วยเงินที่หาได้ ตอนที่ออกท่องเที่ยวนั่นล่ะ" สีหน้าลูปินดูพึงพอใจ ในสายตาของแฮรี่ "ดัมเบิ้ลดอร์รู้ว่าคุณทำงานแบบนี้มาก่อนไหมฮะ?" "รู้ แต่ฉันไม่ได้เขียนลงในประวัติการทำงานหรอกนะ" "แล้วช่วงเวลานั้น เขียนอะไรลงไปแทนล่ะฮะ?" "ทำวิจัย" แฮรี่หัวเราะ ผ่านไปสองสามวินาที ลูปินก็หัวเราะด้วย แม้จะไม่ค่อยตลกนัก แต่การหัวเราะก็เหมือนโรคติดต่อ
~+~
เฮอร์ไมโอนี่,
ฉันจะลองเขียนถึงแฮรี่ดู อย่าส่งจดหมายฉบับนั้นให้แฮรี่นะ อันนั้นให้เธออ่านเท่านั้น ไม่ใช่เขา
จินนี่
~+~
เฮอร์ไมโอนี่,
ฉันเพิ่งส่งจดหมายหารอน มีบางอย่างน่าตกใจ แต่เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทีหลัง ตอนนี้ฉันอยู่ที่ที่พวกเราอยู่เมื่อหยุดหน้าร้อนที่แล้ว วาว! มันเปลี่ยนไปมากเลยนะ ภาพหายไปแล้ว แผนผังตระกูลก็หายไป ครีเชอร์ด้วย ตอนนี้บ้านก็น่าอยู่พอได้ เธอคงดีใจที่รู้ว่าสิทธิของเอ้ลฟ์ประจำบ้านได้แพร่มาถึงลอนดอนแล้ว รู้ไหมว่าด๊อบบี้กับวิงกี้ทำงานที่นี่ แบบได้เงินเดือน เพราะว่าฮอกวอตส์กำลังปิดเทอม รีมัสไม่ได้บอกว่าสิ่งต่างๆเปลี่ยนแปลงขนาดนี้ได้ยังไง เขาได้แต่ยิ้มตอบพอฉันถามเขา เลยเดาเอาว่าคงจะมีเรื่องดีดีเกิดขึ้นที่นี่ วันนี้ฉันไม่อยู่บ้านทั้งวัน เพราะงั้น ถ้าเธอส่งจดหมายมา ฉันก็คงไม่ได้อ่าน จะกลับบ้านวันอาทิตย์ตอนบ่าย วันนี้อยู่กับลุงจันทร์เจ้าทั้งวัน ตอนแรกที่เรียกเขาแบบนี้ ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองอายุซักแปดขวบ แต่ตอนนี้เริ่มชอบแล้ว วันนี้เรานั่งรถกัน (จันทร์เจ้ามีรถ!) ไปซื้อของ ไปหาทนายความของซิริอัส และอื่นๆ จากความตั้งใจของซิริอัส ทุกอย่างที่เขาเป็นเจ้าของถูกแบ่งเป็นสองส่วน ระหว่างลูปินกับพอตเตอร์ ลุงจันทร์เจ้าได้รับสิทธิ์การเป็นเจ้าของชั่วชีวิตในบ้านหลังนี้ - ตราบเท่าที่เขายังมีชีวิต ฉันต้องเซ็นเอกสารปึ้งหนึ่งที่สำนักทนายความ เราอยู่ที่นั่นกันครู่ใหญ่เลยล่ะ อย่างหนึ่งที่เรารู้คือซิริอัสมีตู้จดหมาย ที่รับทั้งจากมักเกิ้ลและจากโลกเวมนตร์ เขารับจดหมายจากตู้นั้นอย่างไรเป็นเรื่องน่าสงสัย ไม่ว่าเขาจะใช้คนอื่นนอกบ้านที่เราไม่รู้จัก หรือใช้ครีเชอร์รับส่งจดหมายให้ พวกเราเคลียร์ของในนั้น จ่ายบิลค่าต่างๆ เก็บข้าวของที่ซิริอัสสั่งซื้อไว้ก่อนที่เขาจะเสีย เขาสั่งซื้อของขวัญวันเกิดที่ดีมากให้เธอด้วย เดี๋ยวฉันส่งต่อให้ ซิริอัสมีไม้กวาดแข่งขันที่สุดยอดมาก เพิ่งส่งมาถึงเมื่อราวสัปดาห์ก่อนนี่เอง ฉันเคยเห็นไม้กวาดแบบนี้อันเดียวเท่านั้น มันดูดีมาก ลุงจันทร์เจ้ามีไม้กวาดแล้ว ฉันก็ยังรักไฟร์โบลต์ของฉัน รอนก็คงไม่ต้องการมันเท่าไหร่ ฉันก็เลยคิดว่าน่าจะให้จินนี่ก่อนที่จะเริ่มแข่งควิดดิชปีหน้า สุดท้ายลุงจันทร์เจ้าก็ได้ห้องเก็บหนังสือทั้งหมดของเขาแล้ว ฉันว่าเธอคงอยากมาที่นี่ช่วงซัมเมอร์แน่ มาเลือกชมหนังสือในห้องสมุดเก่าแก่ของครอบครัวและห้องสมุดของลูปิน หนังสือบางเล่มแค่ชื่อก็น่ากลัวแล้ว ฉันว่าถ้าอยู่ฮอกวอตส์คงจะอยู่ที่โซนต้องห้าม (ห้องสมุดโรงเรียนต้องมีหนังสือเกี่ยวกับการวางยาพิษไหม?) แต่ฉันก็ยังมั่นใจว่าเธอต้องหาอะไรที่อยากอ่านได้แน่ๆ เธอคงดีใจที่ได้รู้ว่าฉันไม่ใช่พวกคนป่าฟิลิสทิน เพราะฉันไปฟังคอนเสิร์ตที่มหาวิทยาลัยดนตรีมา ก็อย่างที่รู้ มหาวิทยาลัยอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก เขาเปิดให้เข้าฟังฟรีนะ ฉันไปที่นั่นตอนเย็นกับท็องซ์และลูปิน อ่า ใช่แล้ว พวกเขาคบกันอยู่ ไม่ค่อยจะเปิดเผยเท่าไหร่หรอก แต่ฉันสังเกตได้หลายอย่างเวลาพวกเขาไม่รู้ว่าฉันดูอยู่ รวมทั้งเกมขาพัวพันใต้โต๊ะกินข้าว ที่ทำเอาจันทรเจ้าแทบสำลักไวน์ หลังกลับจากดูดนตรีพวกเราไปเดินเล่นกันต่อ แล้วค่อยกลับบ้าน นั่งคุยกันครู่หนึ่งฉันก็เข้านอน จากนั้นพอลงมาหากล่องผ่านหลังจากเขียนจดหมายรอนเสร็จ ฉันได้ยินเสียงเพลงดังมาจากห้องสมุด ฉันก็ควรจะรู้แล้วว่าพวกเขากำลังเต้นรำอยู่ จังหวะวอลซ์ คิดว่านะ พอเพลงจบลง พวกเขาก็ยืนนิ่ง โง่แท้ฉันน่ะ ไม่ได้นึกเลยว่าพวกเขากำลังจะจูบกัน เห็นได้ชัดว่าจันทร์เจ้าจูบเก่งกว่าฉัน ไม่ต้องแปลกใจเลย เพราะท็องซ์ไม่ร้องให้ ผมเธอแค่เปลี่ยนสีไปมา เดี๋ยวแดง เดี๋ยวฟ้า ฉันเลยเดาว่าจูบนั่นคงจะดีทีเดียว ฉันคิดว่าอิจฉานะ ไม่ได้แปลว่าฉันอยากจูบจันทร์เจ้าบ้างหรอกนะ ฉันพยายามออกจากห้องสมุดให้เงียบเข้าไว้ แต่จันทร์เจ้าก็เห็นฉันก่อนจะทันปิดประตู หน้าฉันแดง จันทร์เจ้าก็แดง ผมท็องซ์เปลี่ยนสีอีก ท็องซ์ส่งจดหมายถึงรอนให้ ฉันก็รีบหนีออกมาเลย พวกเขาดูเหมาะสมกันดี ดูมีความสุขดีด้วย จันทร์เจ้าไม่ยอมรับว่ามันจริงจัง แต่ฉันก็มีความคิดของฉันเอง ฉันว่าจะรอส่งจดหมายพรุ่งนี้เช้า ไม่อยากโผล่ไปเป็น กขค. อีก พวกเขาไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันนักหรอก เพราะงานมือปราบมารที่ต้องเข้ากะของท็องซ์ และของตัวลูปินเองที่ต้องทำงานให้ภาคี พรุ่งนี้พวกเราจะไปโบสถ์เซ้นต์ไซม่อน และลุงว่าพรุ่งนี้จะมีเซอร์ไพรซ์ตอนมื้อเที่ยง เดี๋ยวช่วงวันเกิด ฉันจะได้ไปที่บ้านโพรงกระต่ายนะ คงจะดีถ้าได้เจอเธอที่นั่น คิดถึงเธอนะ รู้ไหม ถึงตอนนี้ยังไม่มีใครซักคนพูดถึงความจำเป็นที่ฉันต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบ NEWT เลย เดี๋ยวจะเขียนมาอีก หลังจากกลับไปอยู่ที่อัซคาบันใต้เลขที่สี่แล้ว
เพื่อนของเธอ แฮรี่
~+~
แฮรี่กระพริบตาเมื่อเขาก้าวออกแดดยามเช้า "ผมไม่เคยได้ฟังใครเหมือนหลวงพ่อมาร์ตินมาก่อนเลยฮะ" แฮรี่ตั้งข้อสังเกต "ตอนเขาเทศน์ผมรู้สึกเหมือนเขากำลังพูดกับผม" "เหรอ?" รีมัสถาม "ฮะ ผมมีหลายเรื่องเลยเกี่ยวกับการให้อภัย เขาทำให้ผมได้คิดเยอะเลยวันนี้" รีมัสตามแฮรี่ออกมาสู่กลางแดด ใส่หมวกและแว่นกันแดด พวกเขาเดินจากโบสถ์กลับมาที่กริมมอลด์เพลส หลังจากคว้าหมวกแก๊บจากห้องนอนแล้ว แฮรี่ก็หอบหิ้วถุงใส่ของที่ซื้อเมื่อวานนี้ลงมาใส่รถของลุงจันทร์เจ้า แฮรี่เปิดประตูรถฝั่งผู้โดยสาร หันไปมองผู้ปกครองของเขา "เรากำลังจะไปไหนกันฮะ?" ลูปินยิ้ม "เราจะไปบ้านเกรนเจอร์" "เยี่ยมไปเลยฮะ ท็องซ์ไปด้วยไหม?" สีหน้าลูปินละห้อยลง "อาจจะไม่ เธอมีงานนั่งโต๊ะต้องทำวันนี้" "เฮอร์ไมโอนี่รู้ไหมฮะว่าเรากำลังจะไป?" "โมนิก้ากับอัลเบอร์ตรู้ แต่เป็นเซอร์ไพรซ์สำหรับเฮอร์ไมโอนี่ พวกเขาบอกเธอว่าจะมีแขกมากินมื้อเที่ยงด้วย แต่ไม่รู้ว่าใครมา"
~+~
นั่งรถไปยังบ้านเกรนเจอร์ก็น่าชื่นใจ เหมือนการขับรถในชนบทกลางแดดยามเช้าของวันอาทิตย์ควรจะเป็น ขณะนั่งไปด้วยกัน แฮรี่รู้สึกขำที่เห็นรถโฟล์คสวาเก้นสีฟ้าจาง ขับห่างๆอยู่ข้างหลังพวกเขา รถเต่าคันนั้นอยู่ห่างเกินกว่าจะมองเห็นป้ายทะเบียนได้ในกระจกมองหลัง แต่แฮรี่ค่อนข้างมั่นใจว่าคนขับต้องเป็นแม่มดตาเดียวแน่ จากนั้น พวกเขาก็เข้าสู่ย่านที่ครอบครัวเกรนเจอร์อยู่ ลูปินเข้าจอดหน้าบ้านที่เป็นบ้านอิฐสองชั้น สวนหน้าบ้านมีรั้วอิฐเตี้ยๆ หลังบ้านเป็นรั้วสูงๆ แฮรี่สังเกตเห็นลูปินทำจมูกบานสูดกลิ่นขณะลงจากรถ "มื้อเที่ยงกำลังถูกย่างในสวนหลังบ้าน" ลูปินพูดยิ้มๆ แฮรี่กระพริบตาขณะก้าวลงจากรถ แล้วหลับตาลงอีกครั้ง ขณะหลับตา แฮรี่เห็นว่ารอบๆบ้านมีโซนรักษาความปลอดภัยถูกติดตั้งไว้รอบบ้าน "ลุงจันทร์เจ้า?" "ว่าไงแฮรี่?" "มีโซนอยู่ฮะ คุณแน่ใจเหรอฮะว่าพวกเขารู้ว่าเรากำลังมา?" "เรื่องธรรมดา แฮรี่" ลูปินตอบ แฮรี่รู้สึกถึงคลื่นแห่งเวทย์ขณะเดินผ่านโซนแรกเข้าไปยังตัวบ้าน เขาเริ่มสั่งการไยแมงมุมและค้างคาวให้ทำหน้าที่ทันที เพื่อฝึกหัดมากกว่าเป็นการป้องกันภัยจริงๆ แฮรี่หลับตาลง เมื่อเห็นออร่าของมัมลอฉายขึ้นในใจของเขา
มีปัญหาเหรอแฮรี่? อยากให้ระวังน่ะ เรากำลังจะพบกับกลุ่มคน พวกเขาเป็นเพื่อนฉันทั้งหมด เพื่อนร่วมรังอีกเหรอ? เอ่อ ใช่ เพื่อนร่วมรัง เฮอร์ไมโอนี่ อยู่ที่นี่กับพ่อและแม่ เธอต้องแตะตัวพวกเขาแฮรี่ ฉันต้องอ่านพวกเขา ไม่น่าจะมีปัญหา มัมลอ ขอบใจ แฮรี่
แสงสีฟ้าสว่างจ้าขึ้นแล้วหายไปจากสำนึกของแฮรี่ เขาลืมตาขึ้นและเดินต่อ การสนทนาแบบนี้เริ่มคุ้นแล้ว ลูปินนำอยู่ถึงประตูหน้าแล้ว เขาใช้ปลายไม้กายสิทธ์ขีดเส้นที่ประตู ส่วนของไม้ที่เหลือซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของเขา แฮรี่ได้ยินเสียงคลิ้กเบาๆเมื่อลูปินหยุดขีด เขาเปิดประตู หันมาทางแฮรี่พร้อมกับรอยยิ้มเขินๆ "โมนิก้าบอกให้เข้าไปเลย ไม่ต้องเคาะ ฉันมาที่นี่บ่อยแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกแปลกๆที่เดินเข้าบ้านคนอื่นโดยไม่บอกก่อน" แฮรี่กำลังสงสัยว่าเพราะอะไรลูปินถึงมาที่นี่บ่อย บางทีอาจมาสอนเฮอร์ไมโอนี่ แฮรี่คิด รีมัสเดินไปหาโมนิก้า ที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ เธอยื่นแขนข้างหนึ่งมากอดเขาและหอมที่แก้ม "เธออยู่ในครัวจ้ะ" พร้อมกับชี้นิ้วโป้งบอกทาง แฮรี่เดินไปที่ครัว รู้สึกดีใจที่เขาเลือกใส่รองเท่าคู่ใหม่ เขาเดินเสียงเงียบกริบ
จากคุณ :
hs3puk
- [
26 ธ.ค. 47 02:02:14
]
|
|
|