สวัสดีปีใหม่ค่ะเพื่อนๆ ในที่สุดก็กลับมาใหม่ พร้อมกับเรื่องราวความลับของจินนี่ ภาค ลิขิตของดวงดาวที่เพิ่งจบไป(ชื่อเพิ่งคิดออกเมื่อกี้นี้เอง) กระทุ้นี้ก็จะรวบรวม 24 ตอนรวด เออ....ก็ไม่รู้มันจะไปรอดหรือเปล่านะ เพราะในword ที่พิมพ์ได้ร้อยหน้าพอดี
ตอนแรกก็กะให้จบแค่นี้ แต่เรื่องๆเหมือนๆค้างคาใจอยู่
ก็เลยคิดเขียนต่อ(ต้องขอบคุณเพื่อนๆหลายคนที่ยุให้เขียนต่อ) แต่จะลงตอนนี้ให้จบก่อน แล้วค่อยต่อตอนใหม่อีกครั้ง ..ก็รอละกัน..นะ
*************************************
เรื่องจินนี่ วิสลีย์ ภาค 1 ลิขิตแห่งดวงดาว
ตอนที่1 สัญญาณอันตราย
ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ฉันเฝ้าถามตัวเองว่าต้องการอะไร ความรู้สึกว่างเปล่ายามต้องอยู่คนเดียว หลังจากที่เกิดเรื่องในห้องแห่งความลับเมื่อสี่ปีที่แล้ว ทำให้ฉันนั้นตระหนักดีว่า จิตใจฉันนั้นอ่อนแอเพียงใด ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องราวต่างๆมากมาย
ทอม รีดเดอร์เข้ามาครอบงำจิตใจจนเกือบทำให้คนอื่นได้รับอันตราย ฉันเป็นคนเปิดห้องแห่งความลับมีเพียงแฮรี่ พอตเตอร์คนเดียวที่รู้ความลับนี้
เขาอาจรักษาความลับของฉันพอๆกับเห็นฉันเป็นเด็กไม่รู้จักโต....แล้วมันก็เท่านั้นในสายตาเขา
แน่นอนสำหรับฉันแล้วเป็นเพียงน้องสาวคนสุดท้องของบ้านที่มีพี่ชายคอยปกป้อง
เป็นเพียงเด็กหญิงที่อ่อนแอตลอดเวลา ฉันไม่กล้าคิดหรือทำถ้าพวกเขาไม่เห็นด้วย
นั่นมันอันตรายสำหรับเธอนะจินนี่
ซึ่งฉันมักจะได้ยินประจำ เหมือนกับว่าพวกเขาจะคอยคุ้มครองฉันแต่แท้จริงแล้วกลับไม่เคยมีใครเข้าใจฉันเลยว่าต้องการอะไร หรืออยากได้อะไรบ้าง บางครั้งก็รู้สึกไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าชอบที่พวกเขาดูแลแบบนี้หรือไม่ หรือต้องการเป็นตัวของตัวเอง แต่บางครั้งการทำให้ตัวเองเขลาก็รู้สึกได้ประโยชน์ ฉันมักนั่งดูพี่ๆเล่นควิดดิช หรือฝึกคาถายากๆตั้งแต่เด็กซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วใครจะมาใส่ใจว่าฉันขี่ไม้กวาดได้ตั้งแต่หกขวบ หรือเสกคาถาของปีสี่ปีห้าได้ตั้งแต่ยังไม่เข้าปีหนึ่งด้วยซ้ำ แล้วก็ไม่จำเป็นต้องบอกให้ใครรู้ คาถาเก่าๆตำราเก่าๆของพี่ๆมีประโยชน์กว่าที่ทุกคนรู้
พี่บิล กับพี่ชาลี ต่างเติบโตและมีหนทางของตัวเอง เฟร็ดกับจอร์จก็สมกับเป็นคู่แฝดที่แยกกันไม่ออก แต่เขามักมีอะไรแปลกๆมาให้พวกเราหัวเราะได้เสมอ รอนพี่ชายที่วัยไล่เลี่ยกัน เขาเหมือนเพื่อนมากกว่าพี่ชาย แต่ตั้งแต่เขาเข้าปีหนึ่งที่โรงเรียนฮอกวอตส์ชีวิตของเขาก็มีแต่ แฮรี่ กับ เฮอไมโอนี่ ฉันเด็กไปสำหรับกลุ่มเขา
ส่วนพี่เพอซี่ ตอนนี้ทุกคนในบ้านหลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยชื่อนี้ ชื่อเขาอ่อนไหวเกินไปสำหรับทุกคนที่บ้าน เขาเตลิดไปไกล ....ไปไกลเกินกว่าทุกคนจะเข้าใจ สำหรับครอบครัววีสลีย์ และภาคี เขาเป็นคนหลงทาง แต่สำหรับฉันเขากำลังเดินทางลัดต่างหาก มันอันตรายเกินกว่าที่ฉันจะพูดออกไป หรือจะห้ามไม่ให้ทำอะไร ฉันจะไม่พูดหรือเอ่ยชื่อพี่ชายคนนี้ให้ครอบครัวได้ยิน ไม่ใช่เพราะว่าฉันเกลียดพี่ชาย ...แต่เพราะฉันสัญญากับเขา....มันเป็นความลับของเรา...
ตอนนี้สำหรับฉันอะไรก็ไม่สำคัญอีก เมื่อก่อนฉันเคยคิดน้อยใจว่าทำไมต้องใช้ของมือเก่าของคนอื่น และอีกหลายๆเรื่อง รวมถึงเรื่องแฮรี่ด้วย ตอนนั้น หรือก่อนหน้านั้นฉันเคยได้ยินเรื่องของเด็กชายที่รอดพ้นจากความตาย ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แฮรี่ พอร์ตเตอร์
แล้วจนมาพบเธอฮีโร่สำหรับฉัน เด็กผู้ชายที่มีแผลเป็นรูปสายฟ้าที่หน้าผาก เธอมายืนต่อหน้าฉันแล้วกลายเป็นเพื่อนสนิทของรอน ฉันสนใจเธอ แต่นั่นเป็นเรื่องของเด็กๆที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์หรือแยกแยะอะไรได้ เมื่อเติบโตแล้วตาสว่างขึ้น ก็พบว่าคนอีกครึ่งโลกก็สนใจเธอ แล้วที่สำคัญคนที่เธอสนใจไม่ใช่ฉัน..แล้วทุกอย่างมันก็ไม่สำคัญ
แตอย่างน้อยตอนนี้ฉันสามารถเลือกได้ เลือกที่จะไม่ใช้ของมือสองของใคร
ไมเคิลคือทางเลือกของฉันเขาสนใจฉันและขอนัดฉัน อย่างน้อยที่สุดฉันก็ตั้งใจะคบเขาอย่างจริงจัง แต่มันลงเอยที่จบกัน แล้วฉันก็เติบโตขึ้นอีกก้าว
ดีน โทมัสก้าวเข้ามาพร้อมๆกับการจากไปของไมเคิล ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าดีนเขาชอบฉันมานานแล้ว เขาอาจเกรงใจรอน หรือ เห็นว่าฉันยังเด็กไปจึงไม่กล้าพูด ที่สำคัญดูรอนไม่พอใจมากเมื่อฉันลองพูดเล่นๆเมื่อช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา
เฟร็ดกับจอร์จมีท่าทีที่สนับสนุนมากกว่ารอน อาจเป็นเพราะดีนเข้ามาตีสนิทกับพี่ชายทั้งสองอยู่
เธอน่าจะโอเคกับเขานะ เพราะเขาก็นิสัยดี ฐานะทางบ้านก็ดี
เฟร็จพูดสนับสนุนเต็มที่มองนกฮูกที่กำลังบินออกไป ฉันถึงกับหน้าเบ้ตอบอย่างฉุนๆ
หนูไม่คิดจะคบกับใครเพราะว่ามีเงินหรอก
เรารู้หรอกน่าจินนี่ แค่ล้อเล่น..แต่เค้าก็นิสัยไม่เลวนะ
จอร์จพูดโอบไหล่เอาใจ พวกเราหันมองที่ประตู แฮรี่กับรอนเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น แฮรี่เพิ่งมาถึงบ้านโพรงกระต่ายเมื่อชั่วโมงที่ผ่านมา แม่ไปรับมาด้วยตัวเองโดยไม่ให้คนอื่นตามไปด้วยเพราะจากประสบการณ์ในปีที่ผ่านๆมา ทำให้เกิดปัญหามากมาย
รอนถามขึ้น ได้ยินว่าอะไร...ดีน..หรือ.
เฟร็ดหันมาตอบอย่างสบายใจ ใช่..เราคุยเรื่องดีนเพื่อนนายอยู่
ฉันหันไปมองตาขวางกับพี่ฝาแฝดแต่ไม่ได้ผล
แฮรี่มองอย่างงงๆแต่ไม่ได้พูดอะไร จอร์จบอกแทน
เราว่าให้จินนี่ควรคบกับดีน เขานิสัยดีร่าเริงออก
รอนร้องเสียงหลงมองฉันตาเขียว
ว่าไงนะเธอจะคบกับดีนหรือ...จะบ้าไปหรือเปล่าเธอเพิ่งเลิกกับไมเคิลได้ไม่นานนะ
ฉันอายแทบแทรกแผ่นดินหนี ไม่กล้ามองแฮรี่ที่ยืนเงียบอยู่ เขาเองก็ทำตัวไม่ถูกเช่นกัน
ฉันมองไปที่รอนพูดอย่างโมโหไม่ทันคิด
หนูโตแล้วนะ จะคบกับใครก็เรื่องของหนู
ว่าแล้วก็เดินออกจากห้องนั่งเล่นอย่างรวดเร็ว ฉันรู้ว่ามีสายตากำลังมองตาม หนึ่งในนั้นก็คือแฮรี่ เขาคงคิดว่าฉันเป็นเด็กไม่รู้จักโต
หลังจากนั้นก็มีจดหมายจากดีนมาส่งบ่อยขึ้น ฉันเองก็ตอบเขาเพราะว่าเขาคุยสนุก แต่ฉันยังไม่ได้ตอบตกลงอะไร แล้วก็ยังโกรธรอนไม่หายจึงไม่ยอมคุยด้วย จนแม่สงสัยจึงถามเรื่องราว
จินนี่ติดต่อกับดีน ทั้งๆที่เพิ่งเลิกกับไมเคิล รอนรีบฟ้องกลางโต๊ะอาหาร
พี่อย่ามายุ่งเรื่องนี้ ได้ไหม ฉันตอบอย่างโมโห แม่หันมาทางฉัน
เดี๋ยวก่อนนะจ๊ะ ลูกหมายถึงอะไร จินนี่คบใคร ฉันสบตากับรอนอ้ำอึ้ง
น้องคบกับเพื่อนรอนครับ ชื่อ ดีน โทมัสเป็นลูกชายเจ้าของบริษัทผลิตอุปกรณ์ควิดดิชที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้ครับ จอร์ชตอบแทน
แล้วก็เป็นคนเดียวกับที่ส่งจดหมายมาหาวันละสิบฉบับไงครับ เฟร็ดเสริมเรียบๆเหลือบมองมาทางฉัน แม่เงียบไปสักพักพูดไม่ออก เหลือบมองทางแฮรี่ กระแอมเบาๆ
ฉันแทบอยากใช้วิชาหายตัวไปเสียตอนนี้ ถ้าไม่กลัวใครรู้เสียก่อน แต่เรื่องก็จบลงเพราะพ่อกลับมา ทุกคนหันไปสนใจฟังข่าวในกระทรวง ฉันเหลือบมองดูแฮรี่ที่ตั้งใจฟังเรื่องของพ่อ ไม่มีท่าทีที่จะติดใจเรื่องของฉันเลย
ดูเหมือนเรื่องของฉันยังไม่หมดไปจากความคิดรอนง่ายๆ ฉันได้ยินเขาเถียงกับเฟร็ดอีกตอนออกจากห้องครัว
รอนนายทำไมถึงคิดอะไรมาก จินนี่เป็นสาวแล้ว ก้ต้องการคนคุ้มครอง
ฉันได้ยินเสียงหึจากรอน
จินนี่นะหรือต้องการให้ใครคุ้มครอง...พี่น่าจะได้เห็นน้องสาวที่อ่อนแอต่อสู้กันเมื่อครั้งที่แล้ว
ก็นั่นไงล่ะรอนแสดงว่านายก็ยอมรับว่า จินนี่โตแล้วแล้วเลิกโกรธเรื่องนี่ซะทีแล้วให้ จินนี่ตัดสินใจเอง เฟร็ดบอกก่อนเดินมานั่งข้างๆแฮรี่ จอร์ชเดินมาตบบ่าน้องชาย
หรือนายโกรธที่หมู่นี้นายแพ้หมากรุกบ่อย รอนกัดฟันแล้วเงียบไป
ฉันเดินออกมาที่ห้องนั่งเล่นเห็นเฟร็ด กับ จอร์ชกำลังสาธิตไม้กายสิทธิ์ที่เสกแต่ของแหวะๆออกมา ทั้งสี่หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน นกฮูกสองตัวบินมาส่งจดหมายตัวหนึ่งบินมาหาฉันอีกตัวหนึ่งบินไปหาพ่อที่นั่งคุยกับแม่อีกมุมหนึ่ง
รอนมองมาทางฉัน เมื่อไหร่เธอจะเลิกรับหนังสือทายปริศนาเสียที่
ฉันไม่เหลือบมองดูพี่ชาย แต่เมื่อเดินสวนกับพ่อที่มีท่าทางรับเร่งเมื่อได้รับจดหมาย
เกิดเรื่องที่คุกอัคคาซัล.... เสียงนี้ทำให้ทุกคนในบ้านหยุดนิ่งทันที หันมองพ่อเป็นตาเดียว เกิดอะไรขึ้น ครับ แฮรี่ถามอย่างเป็นกังวล แล้วหันไปสบตากับรอนอย่างไม่สบายใจ พ่อดูอ้ำอึ้ง ถอนหายใจ
ยังไม่รู้รายละเอียด แต่คงเป็นเรื่องใหญ่น่าดูทางกระทรวงเรียกไปด่วน...
พ่อมองทุกๆคนก่อนไปหยุดที่แฮรี่ เหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่พูด แฮรี่จึงถามขึ้นเอง
เออ..มีอะไรหรือครับ
ความจริง ชั้นไม่ควรถามนะ ....แต่...
ไม่เป็นไร ผมจะตอบทุกเรื่อง.. พ่อถอนหายใจพยักหน้า
คือ...ช่วงนี้หรือหมู่ นี้เธอเคยเจ็บแผลไหม...
ทั้งสองสบตากันนิ่ง ทุกคนในบ้านต่างเงียบกริบลืมหายใจไปชั่วครู่ ก่อนแฮรี่จะพยักหน้าช้าๆ....ทุกคนรู้ว่าการที่แฮรี่เจ็บแผลขึ้นมาเมื่อใดเหมือนเป็นการเตือนว่ากำลังมีความเคลื่อนไหวจากคนที่ไม่ควรเอ่ยนาม มันเป็นสัญญาณอันตรายกับแฮรี่และทุกๆคน
พ่อหันมาสวัสดีทุกคนอีกครั้งก่อนใช้ผงฝูหายไปกับเปลวไฟสีเขียว
แม่มองนาฬิกาที่บอกว่าใครอยู่ที่ไหน เข็มของพ่อชี้ไปที่ทำงาน แต่ฉันรู้ว่าแม่จะดูของทุกๆที่ไม่ได้อยู่ที่บ้านรวมทั้งของเพอซี่ด้วย สีหน้าจึงวิตกมาก ฉันกำมือแน่น ทุกคนจะไม่รู้หรอกว่า เข็มนาฬิกาของเพอซี่นะจะไม่เดินไปไหนนอกจากที่พักและที่ทำงาน
เพราะว่าฉันเสกคาถาโกหกเอาไว้แล้ว
..
*************************************************************
จากคุณ :
grinny2545
- [
3 ม.ค. 48 21:23:40
]