เริ่มเลยแล้วกัน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ( เริ่มต้นก็เป็นนิทานเชียว ) มีชายหนุ่มคนนึงชื่อว่า " ไอ้เบื๊อก " เบื๊อกเป็นหนุ่มอุบลที่กระเสือกกระสนมาเรียนที่กรุงเทพ ด้วยความที่เป็นคนหัวดี ทำให้เบื๊อกเรียนอยู่ในระดับที่ดีมาโดยตลอด ด้วยความหวังว่าเรียนจบแล้วจะมีงานทำดีๆ และจะส่งเงินไปให้พ่อแม่ใช้
แต่ไม่เป็นอย่างที่คิดเมื่อชีวิตของเบื๊อกพลิกผัน พอจบออกมาหางานทำไม่ได้ แล้วตอนนี้ ยังมาโดนไล่ออกจากงานที่เคยรับทำเป็นพาร์ททามตอนที่เรียนอยู่อีกด้วย เงินที่อุตส่าส่ำสมก็ร่อยหรอ จะโทรไปขอเงินพ่อกะแม่ก็ละอายแก่ใจ เพราะตอนนี้พ่อกับแม่ก็แทบจะไม่มีอะไรมายาไส้อยู่แล้ว ด้วยความเซ็งทำให้เบื๊อกต้องเดินเตะฝุ่นอย่างเรื่อยเปื่อยไปวันๆ ตะลอนๆหางานทำ ก็ไม่มีใครเค้ารับ
" โอ๊ย !!!!! เบื่อโว้ย....ทำไมวะ จบก็ตั้งปริณญาตรี เกียริตนิยมอันดับ 3 แล้วทำไมไม่มีใครเค้ารับเข้าทำงานเลยซักที่วะเนี่ย " เบื๊อกตะโกนสุดเสียง ด้วยความเซ็ง
" เงินซื้อข้าวจะไม่มีอยู่แล้ว " ว่าแล้วเบื๊อกก็ควักเงินในกระเป๋าออกมา เหลือเงินเพียง 20 บาท " ทำไงดีวะเนี่ย ทำไมชีวิตของเราเป็นแบบนี้ เกิดมาไม่เคยอับจนขนาดนี้เลย ซวยทั้งปีเลยkru "
หลังจากที่เดินเตะฝุ่นไปพร้อมกับความเซ็ง เบื๊อกก็ได้เดินผ่านร้านหนังสือแห่งหนึ่ง สายตามองไปที่พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งที่เขียนว่า " แม่ค้าขายกล้วยหวีเหี่ยว ถูกฉกเงินไปกลางวันแสกๆ ร่วมแสน โจรยังลอยนวล " พออ่านได้เท่านั้นแหละ......ความคิดอันชั่วร้ายได้แว้บเข้ามาในหัวไอ้เบื๊อก...........
" เอาก็เอาวะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เกิดมาไม่เคยเป็นขโมยเลยซักที ชีวิตนี้ต้องขอลอง ทำไงได้ก็ไม่มีเงินแล้วนี่หว่า " ว่าแล้ว.....การเป็นนักฉกชิงวิ่งราวก็ได้เริ่มขึ้นทันทีที่ได้คิด และเป้าหมายของไอ้เบื๊อกรายแรกนี้ก็เป็นสาวน้อยวัน 19 ( กำลังเอ๊าะ ) ที่มาเดินดูของที่คลองถม สาวน้อยคนนี้เธอสะพายเป้และฟังซาวเบาท์ไปด้วย ไอ้เบื๊อกจริงคิดว่าฉกมาทั้งกระเป๋าดีกว่าจะได้เอาของมีค่าในนั้นไปจำนำ และเอาเงินมาใช้ เพราะดูท่าทางเด็กคนนี้คงเป็นลูกคนมีตังค์ เพราะดูหน้าตาผิวพัน สวยใสเป็นยองใย น่ารัก อวบอิ่ม
และไอ้เบื๊อกก็วิ่งไปฉกทันที " เฮ้ย...!!!! " เสีงของสาวน้อย ตกใจเมื่ออยู่ดีๆมีคนมากระชากเป้ไปจากเธอเหลือติดตัวแค่หูเซาเบาท์ " พี่เดี๋ยวๆๆ เอานี่ไปด้วย " หญิงสาววิ่งตามพร้อมกับยื่นหูซาวเบาท์ให้กับโจรเบื๊อก
ไอ้เบื๊อกงง แต่คิดว่าหูฝาดไป เลยวิ่งต่อไม่สนใจ แต่เสียงที่ตะโกนกับดังขึ้น พร้องกับบอกว่า " พี่ๆๆ เอาหูซาวเบาท์ ไปด้วย เอาแต่เครื่องไปจะฟังไงล่ะ " จากคำพูดนั้นทำให้ไอ้เบื๊อกต้องหยุดชะงัก พร้อมกับต้องหันหลังมาและถามว่า " น้อง...น้องเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า พี่อ่ะ เป็นโจรนะ แล้วพี่ก็กำลังขโมยของๆน้องแทนที่น้องจะร้องให้คนมาช่วย แต่น้องกลับวิ่งมาแล้วบอกว่าเอาหูซาวเบาท์ไปด้วย นี่น้องปกติดีรึเปล่าเนี่ย "
" พี่ได้ยินไม่ผิดหรอก หนูบอกว่าให้เอาหูซาวเบาท์ไปด้วยเผื่อพี่จะฟัง " ในขณะนั้นไทมุงเริ่มมุงกันใหญ่ต่างสงสัยกันว่าเกิดอะไรขึ้น " ก็.......ถ้าอยากได้ก็เอาไปสิ ยังงัยซะ พี่จะได้ฟังก่อนตายไง "
" เฮ้ย !!!!! น้อง อยู่ๆมาแช่ง แล้วทำไมพี่จะต้องตายตอนนี้ด้วยล่ะ บ้ารึเปล่า ตอนนี้แข็งแรงดีนะโว้ย "
" รู้.....ว่าแข็งแรง แต่ที่บอกว่าเดี๋ยวจะตายน่ะ คือ....ในกระเป๋าอ่ะ มันมีระเบิดอยู่ "
" เฮ้ยน้องอย่ามาซี้ซั้วพูดนะ " ว่าแล้วไอ้เบื๊อกก็ใจไม่ดี เลยเอาหูไปแนบกับกระเป๋าเพื่อจะฟังเสียงนาฬิการะเบิด แต่ไม่มีเสียงอะไร
" ไม่มีเสียงหรอกพี่ในกระเป๋าอ่ะมันเป็นระเบิดตั้งไว้เป็นนาที ไม่ใช่วิ เดี๋ยวครบนาทีมันก็ดังเตือนแหละ นี่มันก็เหลืออีก 10 นาที จะระเบิดแล้ว ถ้าไม่เชื่อ ก็เอาไปเลย ตายเมื่อไหร่อย่าลืมมาบอกหวยล่ะ
ไอ้เบื๊อกเริ่มกลัวแต่ก็ลังเลว่าจะโดนหลอก แล้วสาวน้อยจึงตะโกนขึ้มาดังๆว่า " เฮ้.....ทุกคน ในตัวผู้ชายคนนี้มีระเบิด หลบเร็ว " ตอนนี้ไอ้เบื๊อกไม่รีรอ โยนกระเป๋าทิ้งทันที แล้วรีบวิ่งจากที่นั่นอย่างสุดแรงม้า ท่ามกลางความชุลมุน หลังจากไอ้เบื๊อกทิ้งกระเป๋าไปแล้ว สาวน้อยคนนั้นเดินมาหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นมาพร้อมกับพูดว่า " โจรอะไรวะ โง่จริงๆเลย ระเบิดอะไรตั้งเป็นนาที หลอกแค่นี้ก็เชื่อ หูเบาจริงๆ หึหึหึ โง่.... " สาวน้อยเดินออกไปอย่างสบายใจเมื่อทำให้หัวขโมยเชื่อได้และยังไม่ต้องเสียของรักไปอีกต่างหาก
พอไอ้เบื๊อกวิ่งมาได้ซักพักก็เริ่มหมดแรง เพราะข้าวไม่ได้กินมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ในใจคิดว่าชีวิตนี้คงหมดหวัง ขนาดคิดจะมาเป็นโจรยังเกือบตาย สงสัยจะไปไม่รอด ขณะที่เดินอย่างเซ็งๆอยู่นั้น รถเมลล์คันหนึ่งก็ได้แล่นผ่านไป แล้วจู่ก็มีเสียงเรียกดังขึ้น " เฮ้ !!! พี่..." เสียงของสาวน้อยคนนั้น พร้อมกับชูเป้ แล้วแลบลิ้นให้ไอ้เบื๊อก ไอ้เบื๊อกเห็นอย่างนั้นเลยตกใจ แต่ก็เรียกความทรงจำทั้งหมดกลับมาได้ ตอนนี้ไอ้เบื๊อกกระจังงัง ไปเลย โดนเด็กหลอกแบบแทบไม่น่าเชื่อแต่ก็โนไปแล้ว เจ็บใจก็เจ็บใจ นึกในใจว่า " อย่าให้เจออีกนะ " แล้วไอ้เบื๊อกก็ต้องไปขอข้าวที่วัดกินไปพลางๆก่อนในวันนั้น
ก็เป็นเรื่องที่ยาวอยู่เหมือนกันนะ ถ้าใครต่อเรื่องนี้ต่อไปได้จนจบ ก็ต่อได้ตามสบายนะคะ เชิญทุกท่านเอาความสามารถของท่านมาลองดู
จากคุณ :
พูดมาก
- [
6 ม.ค. 48 10:03:40
]