| ชอบมาก ห้ามพลาด (2 คน) |
| ชอบ แต่ยังไม่ที่สุด (6 คน) |
| เฉยๆ (2 คน) |
| ไม่ค่อยชอบ รอแผ่นก็ได้ไม่ต้องไปโรง (1 คน) |
| ไม่ชอบ เสียดายตังค์ (2 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 13 คน |
.....ผมสงสารแทนนิโคล คิดแมนที่คนดูหนังเรื่องนี้ของเธอในโรงผมน้อยเหลือเกิน ที่โรงสกาล่ารอบ18.30น.ถึงแม้ว่าจะเป็นวันแรกที่ฉายแต่คนดูก็ค่อนข้างบางตา อาจเป็นเพราะมันไม่ใช่แนวหนังที่น่าจะได้รับความนิยมร่วมกับการโฆษณาตัวอย่างที่ทำให้คนดูก็ไม่แน่ใจว่าหนังเรื่องนี้มันจะออกมาในแนวไหนก็ทำให้เลือกดูเรื่องอื่นไปก่อน ผมเองก็อยู่ในกลุ่มนี้เหมือนกันคือไม่แน่ใจว่าจะดูดีหรือเปล่า เนื้อเรื่องก็ไม่ค่อยดึงดูดเท่าไหร่ สิ่งเดียวที่ผมรู้คือNicole Kidmanเข้าชิงลูกโลกทองคำจากหนังเรื่องนี้ และสิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจดูคือจากหนังตัวอย่างอันสุดท้ายที่ฉายออกมา ซึ่งผมรู้ว่ามันดูลึกลับ น่าค้นหา และน่าสนใจมาก
....หนังเล่าเรื่องของNicole Kidmanที่รับบทเป็นAnna ซึ่งสูญเสียสามีชื่อSeanไปเมื่อ10ปีก่อน ปัจจุบันเธอกำลังจะแต่งงานใหม่กับผู้ชายชื่อJoseph ผู้ซึ่งเป็นผู้ทำลายกรงที่Annaได้สร้างขังจิตใจตัวเองไว้เพราะไม่พร้อมจะเริ่มต้นใหม่กับใคร ในขณะที่ทุกอย่างกำลังจะไปได้ด้วยดี ก็มีเด็กวัย10ขวบที่ชื่อ Sean เข้ามาบอกว่าเค้าคือสามีของเธอที่จากไป และ ทุกคำพูดทุกการกระทำของเด็กคนนี้มันช่างเหมือนอดีตสามีของเธอ และเราก็จะได้พบว่าเธอเองยังไม่สามารถก้าวผ่านภาวะทำใจจากการสูญเสียอย่างแท้จริง(ซึ่งคนที่สูญเสียคนรักจะมีภารกิจอยู่4ระยะ(Mourning task) ถ้าผ่านไปได้ก็จะสามารถเดินหน้าชีวิตต่อไปได้ ถ้าเราได้ดูAnnaตอนแรกเราจะพบว่าเหมือนกับเธอผ่านมันไปได้แล้วแต่เมื่อSeanมาก็จะพบว่าจริงๆแล้วไม่ใช่เลย) และนั่นนำไปสู่ช่วงเวลาที่อีดอัด กดดัน ชวนค้นหาใน100นาทีของหนังที่เหลือ
.....จากเนื้อเรื่องที่เล่ามาสามารถเป็นพล็อตที่จะทำออกมาในแนวไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นcomedy / Mystery / Thriller (และพล็อตแบบนี้ถ้าบ้านเราก็คงไม่ใช่พล็อตที่แปลกใหม่ เราคงจะเคยได้เห็นมาแล้วถ้าเป็นเอเชียบ้านเรา หนังแนวเกิดกี่ทีก็ขอมีเธอแบบนี้ มีออกมาไม่รู้กี่แบบแล้วแม้แต่เกิดใหม่เป็นเพศเดียวกันก็มีมาแล้ว) แต่หนังเลือกที่จะทำออกมาเป็นดราม่าที่แฝงความลึกลับและกดดันอยู่ตลอดเวลา ตลอดเวลาที่เราดูจะไม่รู้สึกมีความสุขแม้แต่นาทีเดียวจะรู้สึกอึดอัดแต่อยากรู้ และรู้สึกเจ็บปวดไปกับทุกตัวละครที่ต้องมาเผชิญความจริงในท้ายที่สุด
.....หนังเล่าเรื่องได้อย่างเนิบนาบ และ นิ่ง ไม่โฉ่งฉ่างเหมือนหนังฮอลลีวูดทั่วไป และในความเนิบนั้นหลายคนอาจรู้สึกเบื่อได้ถ้าตัดสินใจเลิกที่จะติดตามหนังต่อ แต่ถ้าได้ตามต่อไปกลับจะพบว่าในความเนิบนาบนั้นมีความหนักแน่นในตัวหนังอยู่เต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการกำกับภาพที่เหมือนกับได้ดูละครเวทีดีๆเรื่องหนึ่ง (ฉากที่จับใบหน้าของนิโคลคิดแมน ตั้งแต่เข้าโรงละครถึงนั่งอยู่ในโรงละครนานเกือบ3-4นาทีเป็นตัวอย่างที่ดี) การแสดงของทีมนักแสดงที่จัดได้ว่าเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมทุกคนเด่นและเด่นในระดับข่มกันไม่ลง ยิ่งได้ดนตรีประกอบที่คอยเร่งเร้ากดดันอยู่ตลอด พร้อมกับการเล่าเรื่องที่มีการทิ้งปมบางปมไว้อย่างแนบเนียนเหมือนผู้กำกับวางไว้อย่างเงียบๆให้คนดูจะสนหรือไม่สนก็ได้และไม่ได้ทำท่าว่ามันมีอะไรสำคัญ(ผมชอบตรงวิธีการนี้มาก เช่นตอนเริ่มที่เห็นชายคนหนึ่งลงไปนอนแล้วเงียบไปต่อมาเป็นรูปเด็กเพิ่งเกิดร้องไห้ หนังไม่ได้พูดหรือเล่าหรือบรรยายอะไรทั้งนั้นแล้วตัดเรื่องไปที่10ปีต่อมาเลย หรือตอนที่คลาร่ามางานตอนแรก) ทำให้หนังเรื่องนี้มีดีเกินกว่าที่ผมคาดไว้มาก
สิ่งที่ชอบ
1.Nicole Kidman......ยอดเยี่ยมและยอดเยี่ยมจริงๆ เธอเป็นนักแสดงที่สวยมากไม่กี่คนที่สามารถทำให้คนดูเชื่อในสิ่งที่เธอกำลังแสดงได้ และเชื่อในบทที่เธอเล่น ไม่ใช่เชื่อว่าเธอเป็นNicole Kidman ยิ่งเรื่องนี้ไม่แปลกใจเลยว่าเพราะอะไรถึงได้เข้าชิงลูกโลกทองคำอีก ฉากที่ดีที่สุดคือฉากที่ฉายใบหน้าเธอตอนเข้าไปในโรงละครที่สามารถแสดงความรู้สึก งง สับสน ไม่คาดคิด และ แอบดีใจ ได้โดยไม่พูดอะไรแม้แต่ประโยคเดียว
2.Cameron Bright(เด็กที่เล่นบทSean) ....แม้บทของเด็กคนนี้อาจจะไม่ต้องแสดงสีหน้าอะไรมากมายนอกจากทำตัวให้ลึกลับ แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้คนดูเชื่อเหมือนอย่างที่นางเอกเชื่อว่าเค้าคือ Sean และเค้าก็ทำได้ แม้แต่ฉากที่แสดงสีหน้าเจ็บปวดกับสิ่งที่รับรู้ก็เล่นออกมาได้พอดิบพอดีอย่างเหลือเชื่อ
3.กลุ่มนักแสดง.....เป็นดรีมทีมที่เล่นกันได้ดีแบบหนักแน่นจริงๆ เหมือนได้ดูละครเวทีชั้นดีตรงที่นักแสดงถ่ายทอดพลังออกมาถึงคนดูผ่านจอ เรียกได้ว่าถ้าใครไม่ดีจริงคงถูกเบียดตกจอไปแน่นอน และทุกคนต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นDanny Huston/Lauren Bacall/Anne Heche/ Peter Stormare รวมทั้ง2คนข้างต้น(ผมว่าแม้แต่สาวใช้ที่ออกมาไม่กี่ฉากยังเด่นเลย) เรียกได้ว่าถ้ามีทีมการแสดงยอดเยี่ยม ทีมนี้ต้องได้เข้าชิงแน่นอน
4.Jonathan Glazer(ผู้กำกับ) .....ไม่มีอะไรต้องชื่นชมมากไปกว่าคนๆนี้อีกเพราะถ้าไม่มีเค้าเราคงไม่ได้ดูหนังที่กล้าทำออกมาแบบนี้ เพราะเรียกได้ว่าเป็นความกล้าที่จะเลือกตัดคนดูออกเป็นชอบกับไม่ชอบออกได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการกำกับนักแสดงทั้งทีมให้อยู่ในสมดุลของหนัง และยังสามารถเดินหน้าหนังที่ผมสงสัยเหลือเกินว่า "แล้วมันจะจบอย่างไรให้ดี" เพราะมันดูไม่สามารถมีทางออกที่ดีกับหนังได้เลยแต่เมื่อถึงจุดสุดท้ายหนังก็ได้บทสรุปที่ผมเรียกได้ว่า "ดีอย่างที่มันควรจะเป็น"
สิ่งที่ไม่ชอบ
1.ภาพเหลือง....ไม่รู้ว่าเป็นจากฟิล์มหรือโรงหนังหรือความตั้งใจแต่แรก แต่โรงที่ผมดูภาพมันดูเก่าขมุขมัวไม่คมชัดเลย น่าเสียดาย (ใครดูโรงอื่นเป็นแบบนี้หรือเปล่าครับ)
สรุป......สำหรับผมนี่เป็นหนังที่ผมชอบมากๆ และ คุ้มค่าเงินและดีกว่าคาดไว้มาก แต่คงต้องบอกว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบหนังเรื่องนี้ ไม่แปลกใจที่จะมีคนดูแล้วบอกว่ามันน่าเบื่อหรือหลับ บางคนอาจบอกว่ามันเหมือนจะมีอะไรแต่ไม่เห็นมีอะไรเลย ดังนั้นก่อนจะไปดูคุณอาจต้องลองตอบความคาดหวังตัวเองไว้ก่อนแล้วว่าคุณอยากดูหนังของNicole Kidmanเรื่องนี้ในฐานะอะไร เพราะถ้าอยากดูในฐานะหนังsuspense/mysteryคุณอาจจะผิดหวัง แต่ถ้าคุณอยากดูหนังเรื่องหนึ่งที่มีเนื้อหาที่ผมกล่าวมาในฐานะหนังเรื่องหนึ่ง นี่เป็นอีก1เรื่องที่อยากให้ทุกคนได้ลิ้มลอง (แต่จะชอบหรือไม่ชอบไม่ขอรับประกันนะครับ)
ปล....ผมอ่านๆที่ตัวเองเขียนไปเหมือนเป็นหน้าม้าชั้นดีของหนังเรื่องนี้เลยนะเนี่ย แต่ทำอย่างไรได้ในเมื่อใจมันรัก ไว้เรื่องหน้า The Forgottenมาเจอกันใหม่ครับ
ต่อไปนี้อาจเป็นSpoiler และ สำหรับผู้ที่ได้ดูแล้ว
++คนๆหนึ่งที่ไม่อาจจะลืมและเก็บอดีตแล้วเดินหน้าต่อไปได้++ .....Anna ถ้าคุณเป็นเธอ คุณจะเลือกทำอย่างไร
++คนๆหนึ่งที่รักอีกคน ที่เธอเองไม่สามารถจะลบใครอีกคนออกไปได้และเค้าก็ไม่สามารถเป็นตัวจริงของเธอ++ .....Joseph ถ้าคุณเป็นเขา คุณพร้อมหรือไม่ที่จะอยู่เคียงข้างAnnaต่อไป
++คนๆหนึ่งที่รักเธอ แต่ก็ไม่สามารถจะอยู่กับเธอได้เพราะพบความจริงว่าตัวเองไม่ใช่อย่างที่ตัวเองคิด++ ......Sean ถ้าคุณเป็นเขา คุณจะตัดใจไปจากAnnaหรือจะไปต่อกับเธอ
++คนๆหนึ่งที่รักอีกคน และยังไม่สามารถลืมใครบางคนที่จากไปและยังอยู่กับความริษยากับความจริงที่หลอกตัวเองไม่รู้จบ++ ......Clara ถ้าคุณเป็นเธอ คุณจะหยุดหรือจะทำในสิ่งที่อยากจะทำต่อไป
National Treasure , เมื่อBruckheimerมาสร้างDavinci's code
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3214186/A3214186.html
แจ๋ว, แจ๋วน้อยกว่าที่หวัง
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3198678/A3198678.html
The Polar Express, ตื่นตาแต่ไม่ตื่นใจ
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3197525/A3197525.html
จากคุณ :
"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
- [
7 ม.ค. 48 13:00:52
]