ภาพที่เราเห็น คือภาพที่คนที่เรารักมากที่สุด นอนอยู่บนเตียงมีเครื่องวัดชีพจรอยู่ข้างๆ หายใจโดยใช้เครื่องช่วยหายใจทางปาก มีสายที่ให้อาหารอยู่ในปากเช่นกัน หน้าตาอมทุกข์ทั้งๆที่ตลอดเวลาที่นอนอยู่ที่นี่มีคนคอยเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อยู่ตลอด อยากได้อะไรถ้าไม่มีอันตรายก็ได้ทุกอย่าง ไม่ต้องทนนอนร้อนอย่างแต่ก่อน แต่หน้าไม่ได้มีความรู้สึกสบายอย่างภาพที่ได้เห็น เขานอนพลิกเองไม่ได้ต้องมีคนคอยตะแคงให้ทุก 2 ชั่วโมง แขน ขา รวมทั้งใบหน้าของเขาบางส่วนบวมเนื่องจากน้ำในร่างกายที่ไม่ได้ระบายออกและด้วยอาการของโรค เนื่องจากมีอาการไตวายเฉียบพลันต้องฟอกไตอาทิตย์ละครั้ง มีน้ำไหลออกมาตามเท้าและมือที่บวม ตามจุดของร่างกายที่นอนทับมากจะมีรอยเขียวช้ำ ตามแขนมีรอยเจาะเลือดจนเป็นจุดๆเต็มไปหมด แผลเจาะเลือดบางส่วนยังมีรอยแผลอยู่เนื่องจากเกร็ดเลือดต่ำทำให้เลือดหยุดไหลช้าและทำให้การสร้างเนื้อขึ้นมาทดแทนช้าไปด้วย ก่อนหน้าที่จะได้มาอยู่ห้องนี้แม่อยู่ห้องพักธรรมดาที่ค่อนข้างร้อนนอนรวมอยู่ด้วยกันราว 30 คน นอนได้ซัก 3 อาทิตย์แม่ก็เกิดมีอาการชักหลายครั้งจนทำให้หายใจเองไม่ได้จนได้ย้ายมาอยู่ห้องนี้ นอนอยู่ได้ 3 อาทิตย์ เขาบอกว่าอาการแม่ดูดีขึ้นจะให้หายใจเองโดยไม่ใช้เครื่อง ถ้าหายใจดีเขาจะเอาท่อออกจากปากและคงจะได้ขึ้นไปอยู่ข้างบนนั่นหมายถึงว่าอาการเขาดีขึ้น แต่รุ่งขึ้นความหวังก็มืดลงไปอีก จากไม่ชักมา 3 อาทิตย์ เขากลับมาชักอีกแล้ว วันที่ไปดูเขาเขาหลับตลอดเนื่องจากเขาให้ยากันชัก สงสารเขาจับใจแต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำใจ เฝ้ารอต่อไปว่ายังไงซักวันแม่ก็ต้องหาย เมื่อวานนี้ป้าไปเยี่ยมแม่เขาเขียนใส่บอร์ดว่าเขาไม่อยาก(มีชีวิต)อยู่แล้ว เราก็พูดติดตลกไปว่า ยังไม่ได้อยู่ดูลูกรับปริญญาจะรีบไปไหน ก่อนหน้านี้ 2 3 วันเขาก็ถามเราว่า เบื่อแม่ไหม ใครละจะเบื่อแม่คนนี้ได้ลง แม่คนที่เลี้ยงดูเรามาแต่เกิด แม่คนนี้ที่คอยป้อนข้าวป้อนน้ำเรา แม่ที่คอยดูแลเรายามเจ็บป่วย แต่ตอนนี้แม่คนนี้ไม่สบายลูกคนนี้แหละที่จะดูแลแม่เอง อย่าห่วงเลย
รักแม่ตลอดมาและจะรักตลอดไป
22/12/47
และแล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่เราไม่ได้คาดคิดมาก่อน ก่อนหน้านี้เมื่อวันอาทิตย์ แม่เพ้อหนักมากหาว่าคนนั้นคนนี้มาอยู่ในห้องมีไอออกมาเป็นเลือดอีกด้วย วันนี้ใจไม่ดีเลยแต่ก็เคยเห็นเขาเพ้อแบบนี้มาครั้งนึงแต่ไม่มากขนาดนี้แต่ก็คิดว่าคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง เขาโดนมัดด้วยทั้งที่แม่เป็นคนที่เชื่อหมอมากแต่คราวนี้แม่ดึงสายนู่นนี่ที่พันร่างกายออกแม่อยากกลับบ้าน แม่ให้เราช่วยแกะผ้ามัดแขนออกแต่ว่าเรากลัวเขาจะดึงออกเขาพูดว่า แค่นี้ทำให้แม่ไม่ได้เหรอ อึ้ง
.. ช็อกกับคำนี้ที่แม่พูดออกมา แต่ก็เข้าใจว่าแม่เพ้อจึงได้แต่ยืนมองและปลอบโยนแม่ พอดีป้าเข้ามาป้าเขาดุแม่ว่าอย่าดื้อเดี๋ยวไม่ได้กลับบ้านนะ อาการแม่ดูสงบลงแต่ก็ยังเห็นภาพหลอนโน่นนี่จนกระทั่งหมดเวลาเยี่ยม วันจันทร์มาเฝ้าแม่อีกครั้งวันนี้แม่หลับตลอด เราเรียกแม่แม่ตื่นมาและยิ้มให้เราหนึ่งทีและหลับไปเข้าใจ่ว่าด้วยฤทธ์ยากันชักที่หมอฉีดให้เพราะแม่ยังมีอาการชักอยู่บ้าง จนกระทั่งหมดเวลาก็บอกแม่ว่ากลับหละนะ เขาก็ยังคงไม่ตื่น วันอังคารเราไม่ได้ไปเนื่องด้วยมีเรียนจนเลยเวลาเยี่ยมแต่มีพี่อีกคนไปแทน พี่คนที่ไปเยี่ยมบอกอาการดีกว่าเมื่อวานและหมอนัดคุยด้วยพรุ่งนี้ ตามปกติเวลาหมอจะทำอะไรมักจะนัดคุยด้วยเสมอจึงเป็นเรื่องปรกติ วันพุธที่ 22 ธันวาคม 2547 เมื่อได้เจอกับหมอหมอมาคุยหน้าห้องว่า แม่ไม่ไหวแล้วนะ ร่างกายเขาไม่สู้แล้ว ข้างในตัวเขามันไม่มีอะไรดีแล้ว ปอดก็ติดเชื้อจนแทบไม่มีส่วนไหนของปอดที่ดีที่จะใช้ฟอกอากาศได้ ทำให้แม่หายใจหอบ แม่อาจจะอยู่ได้อีกไม่นานนะ ถ้าหากแม่อยู่ได้ถึงวันที่ 30 หมอจะเอาเครื่องช่วยหายใจทางปากออกเพราะแม่ใส่มานานแล้วปรกติเขาจะใส่กันไม่นาน หมอขอให้คุณเซ็นใบเจาะคอไว้ล่วงหน้าเลย และอีกอย่างหากแม่คุณเป็นอะไรไปคุณจะให้ทางเราปั๊มมั๊ย ฉันกับพี่คุยกันไว้ว่าอยากให้เขาไปอย่างสบายไม่ทรมานเลยบอกหมอว่าไม่ปั๊มและแม่เคยสั่งไว้ว่าถ้าเขาเป็นอะไรห้ามปั๊มหัวใจด้วย กำลังจะจรดปากกาเขียน ชีพจรแม่ตกเหลือ40 หมอเขาไปฉีดยากระตุ้นหัวใจและให้เราไปรออยู่นอกห้อง ในใจตอนนั้นมันกระวนกระวายไม่อยากให้แม่จากไป ทำไมมันเร็วนัก ยังไม่ได้คุยกับแม่เลยวันนี้ แม่ยังไม่ได้เห็นหน้าเราเลยตั้ง 2 วันแล้วนะ ขอร้องหละอย่าเพิ่งเอาแม่ไปตอนนี้เลยนะ ได้แต่คิดอยู่ในใจ จนพยาบาลมาตาม เขาบอกว่าแม่คงจะอยู่ได้สักพักนึงให้เข้าไปลาแม่ได้ พอเจอแม่ แม่หายใจหอบมาก หลับตาตลอด เรียกเท่าไหร่แม่ก็ไม่ได้ยินได้แต่ยืนมองแม่อยู่อย่างนั้น น้ำตามันกลั้นไว้ไม่อยู่แล้ว แม่จะจากเราไปจริงๆเหรอ แม่ไม่รออีกสักหน่อยเหรออีกปีเดียวเองลูกก็จะจบแล้ว ไหนแม่บอกจะตัดชุดใหม่ไปถ่ายรูปรับปริญญากับลูกไง แม่จะต้องสวยที่สุดในวันรับปริญญาลูก ทำไมแม่ทิ้งลูกไปก่อนอย่างนี้หละ ได้แต่คิดไม่กล้าพูดออกไปกลัวแม่จะเป็นห่วง แม่อยู่ได้อีกครึ่งชั่วโมงแม่ก็ไป แต่ก่อนแม่ไปแม่ไม่มีอากรหายใจหอบ หรือทรมานอีกเลย ก็ยังดีที่เขาไปในสภาพที่ดี
แม่คะไม่ต้องเป็นห่วงนะลูกจะเรียนให้จบอย่างที่แม่หวังไว้หวังว่าชาติหน้าฉันใดเราคงได้มาเป็นแม่ลูกกันอีกนะ
ใครที่มีแม่หรือญาติพี่น้องที่เป็นโรคเอสแอลอี กรุณาดูแลญาติพี่น้องของคุณให้ดีอย่าทำอะไรให้ร่างกายติดเชื้อ พยายามทำทุกอย่างที่หมอสั่ง แม่ของดิฉันเป็นเอสแอลอี แต่ว่ามันลงที่ไตทำให้แม่จากดิฉันจากไปไวด้วยอายุเพียง 47 ปี และแม่รู้ตัวว่าไม่สบายและนอนอยู่โรงพยาบาลเพียงแค่ 4 เดือนก็จากดิฉันไปอย่างสงบแต่ก่อนหน้านี้เป็นช่วงที่เขาทรมานมากทางที่ดีใครมีอากรต้องสงสัยเหล่านี้
จากคุณ :
ultrameaw
- [
8 ก.พ. 48 22:30:23
]