CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ปวดหัวใจกับคำว่า "การพิสูจน์ศพที่ผ่านมาเป็นศูนย์"

    พิสูจน์ศพเหยื่อ "สึนามิ" ยังไม่จบ "นพดล" แฉกลางที่ประชุมกมธ.อ้างการทำงานของทีม "หมอพรทิพย์" ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ระบุการทำงานที่ผ่านมามีช่องโหว่จนทำให้ต่างประเทศขาดความเชื่อมั่น ทุบโต๊ะผลงานที่พังงา ของทีมเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม มีค่าเท่ากับศูนย์ ย้ำไม่ต้องการที่จะแย่งศพ แต่ต้องการให้งานมีความชัดเจน


    เปิดศึกพิสูจน์ศพ พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ แจง กมธ.ยุติธรรม-สิทธิมนุษยชน วุฒิสภา ติดตามปัญหาการชันสูตรศพ "สึนามิ" ระบุการตรวจสอบศพทำผิดตั้งแต่เริ่มต้น ไม่ยอมคืนศพผู้ตายปล่อยให้เน่าเปื่อยจนสูญเสียงบประมาณจำนวนมาก ทั้งยังเก็บข้อมูลในแบบฟอร์มไม่ได้มาตรฐานสากล จนเสียเวลาต้องเริ่มใหม่

    แม้ว่าการตรวจพิสูจน์ศพจากเหตุการณ์ภัยพิบัติคลื่นสึนามิถล่มอันดามัน จากเดิมที่อยู่ในความดูแลของคณะทำงาน พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รองผู้อำนวยการ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรมเปลี่ยนมาอยู่ในการดูแลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้วก็ตาม แต่การตั้งข้อสังเกตว่าการทำงานของกระทรวงยุติธรรมหละหลวมก็ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.30 น.วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พล.ต.อ.วิรุฬห์ พื้นแสน ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนและประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาการแก้ปัญหาการชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติสึนามิ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรพงศ์ ไผ่นวล รองประธานและ พล.ต.ท.ประเวศ คุ้มภัย อดีตนายแพทย์ใหญ่ กรมตำรวจและคณะได้เดินทางไปยังชั้น 2 ศูนย์ปฏิบัติการ บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถ.เจ้าฟ้าตะวันตก อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นศูนย์กลางของเจ้าหน้าที่หน่วยดีวีไอจากนานาประเทศ ที่มาปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับตำรวจสากลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติสึนามิ

    ทั้งนี้การมาของคณะดังกล่าว เพื่อติดตามหาข้อสรุป ข้อยุติ และศึกษาการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติดังกล่าว โดยมี พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และตำรวจสากล บรรยายสรุปปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่หลังเกิดภัยพิบัติ ซึ่งมีการชี้แจงและทำความเข้าใจถึงปัญหาว่าเพราะเหตุใด สตช.จึงต้องมารับงานต่อจาก พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รองผู้อำนวยการ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม พร้อมกับชี้แจงให้คณะกรรมาธิการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ได้เข้าใจถึงปัญหาและการดำเนินงานของศูนย์พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลและส่งกลับประเทศ หรือทีทีวีไอ โดยได้มีการสรุปยอดผู้เสียชีวิตและการรับศพกลับประเทศให้คณะกรรมาธิการได้รับทราบ

    พล.ต.อ.นพดล กล่าวต่อที่ประชุม ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่เกิดภัยพิบัติ ซึ่งสัปดาห์แรกสามารถมอบศพให้ญาติได้ เนื่องจากศพยังไม่เน่าและสามารถจำศพได้ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์จึงยังไม่สำคัญมากนัก ในสัปดาห์ที่ 2 ศพเริ่มเน่าเปื่อยและเริ่มมีปัญหาติดตามมา ตัวเลขที่ศพเริ่มจางหายไป ลายนิ้วมือศพเริ่มสูญเสียเป็นจำนวนมาก การเก็บรักษาเนื้อเยื่อของดีเอ็นเอเริ่มเน่า ทำให้ดีเอ็นเอไม่ตรงกับหมายเลขที่เขียนไว้ที่ศพและเป็นปัญหามาจนถึงขณะนี้

    ส่วนปัญหาในเรื่องดีเอ็นเอ ภายนอกอาจจะเข้าใจว่า การเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอในคดีอาชญากรรมกับคดีครอบครัวเป็นสิ่งเดียวกัน แต่สภาพความเป็นจริงแล้ว การทำงานไม่เหมือนกัน ส่งผลให้การทำงานเริ่มกระทบกระทั่งระหว่างหน่วยงานในเรื่องดีเอ็นเอ ขณะที่สภาพศพเริ่มเน่า ส่งผลให้สูญเสียข้อมูลสำคัญและมีค่าใช้จ่ายสูง ประกอบกับหลายประเทศเริ่มวิตกและขาดความเชื่อมั่น ในการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ซึ่ง สตช.ยึดหลักการตรวจดีเอ็นเอแบบสากลกว่า 90 รายการ มาโดยตลอดและขอยืนยันว่าการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลที่ผ่านๆ มา ตั้งแต่เริ่มแรกเป็นการทำงานที่ผิดพลาด

    "ไม่มีการใช้แบบฟอร์มข้อมูลผู้เสียชีวิตตามหลักสากล โดยเป็นเพียงแบบฟอร์มของ พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์เท่านั้น ข้อมูลสำคัญต่างๆ จึงมีการขาดหายไปและไม่สมบูรณ์ ทาง สตช.และทีทีวีไอ จึงต้องมีการเก็บข้อมูลใหม่ทั้งหมด เท่ากับว่าการพิสูจน์ศพที่ผ่านมาเป็นศูนย์" พล.ต.อ.นพดล ระบุ

    ด้าน พล.ต.อ.ประเวศ คุ้มภัย อดีตนายแพทย์ใหญ่ กรมตำรวจ ในอดีต ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งสถาบันนิติเวชวิทยาและเป็นคณะกรรมาธิการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน วุฒิสภา ได้สอบถาม พล.ต.อ.นพดล กรณีปัญหาและข้อพิพาทระหว่าง พล.ต.อ.นพดล กับ พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์เกิดขึ้นได้อย่างไร โดย พล.ต.อ.นพดล ได้ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการว่า มีความขัดแย้งในการทำงานตั้งแต่เริ่มแรกหลังภัยพิบัติเกิดขึ้น ยอมรับว่าได้มีการพูดคุย แต่ไม่สามารถสรุปข้อยุติในการทำงานได้ จึงต่างฝ่ายต่างทำ ซึ่งได้ประสานงานกับปลัดกระทรวงยุติธรรมหลังเกิดข้อพิพาทดังกล่าวขึ้น โดยจะยึดหลักกฎหมายตาม ป.วิอาญา มาตรา 150 และผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ออกคำสั่งให้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจที่มีอยู่ในฐานะพนักงานสอบสวน

    "เมื่อวันที่ 13 มกราคม เราเริ่มปล่อยศพได้เป็นศพแรก และ ณ วันนี้ เราสามารถส่งศพคืนให้แก่ญาติไปแล้วทั้งสิ้น 125 ศพ ซึ่งทุกศพผ่านการตรวจพิสูจน์จากหน่วยดีวีไอนานาประเทศและบอร์ดบริหารทีทีวีไอแล้ว ซึ่งการทำงานของ พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ ที่ผ่านมา ถือว่ายังไม่ละเอียดพอในการชันสูตรศพ โดยทางทีทีวีไอและดีวีไอได้รับข้อมูลจาก พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์เพียง 8-20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เช่น ความสูงของผู้เสียชีวิตไม่ละเอียด ไม่มีการวัดส่วนสูง ส่งผลให้ไม่ตรงกับคำยืนยันของญาติผู้เสียชีวิต การส่งมอบศพจึงหยุดชะงักและเกิดความล่าช้า ทั้งๆ ที่เป็นศพเดียวกัน ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้ออกมาตำหนิการทำงานของใคร แต่ต้องยอมรับด้วยว่าการทำงานของบางหน่วยงานในประเทศไทยแตกต่างกับการทำงานของหน่วยดีวีไอจากนานาประเทศ แม้ว่าจะมีการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลเหมือนกัน แต่แตกต่างกันที่วิธีการ"

    พล.ต.อ.นพดล กล่าวว่า ขณะที่ญาติได้หมายเลขศพแล้ว แต่ไม่รู้ว่าศพอยู่ที่ใด โดยดีเอ็นเอที่มีการเก็บไว้ก็ไม่ยอมส่งมอบให้ตำรวจ ซึ่งตามหลักสากลแล้ว เมื่อคณะแพทย์ทำการตรวจพิสูจน์เสร็จสิ้น หลักฐานทุกอย่างจะต้องส่งมอบให้ตำรวจทั้งหมด และนี่คือหลักการที่แท้จริง และที่ผ่านมาไม่ได้แย่งศพจากใคร แต่คือหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบและต้องการทำทุกอย่างให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและนำข้อมูลเข้าสู่ระบบ การพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลที่ จ.กระบี่ ภูเก็ต ระนอง ตรังและสตูล มีความรัดกุมและถูกต้องทั้งหมด ส่วนประเด็นสำคัญ คือ งานที่ จ.พังงา ล้มเหลว ตั้งแต่การเก็บศพแล้ว รายละเอียดของศพไม่มี ข้อมูลของศพที่วัดย่านยาวถือว่าเป็นศูนย์

    ด้าน พล.ต.ท.ประเวศ ได้กล่าวต่อที่ประชุมด้วยว่า การเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอผู้เสียชีวิต หลังภัยพิบัติทุกอย่างถือว่าเป็นศูนย์ เป็นการเข้าใจผิดๆของผู้ปฏิบัติงานตั้งแต่ต้น ที่ผ่านมาการตรวจพิสูจน์ศพไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ต้องมาตั้งต้นกันใหม่ ซึ่งสามารถสรุปการพิสูจน์ศพได้ว่า การทำงาน สตช.และหน่วยดีวีไอ เป็นไปตามมาตรฐานสากล ซึ่งตนเองในฐานะเป็นผู้หนึ่งที่เคยร่วมก่อตั้งสถาบันนิติเวชวิทยาของกรมตำรวจ ปัจจุบันเป็น สตช.แล้วนั้น ยืนยันว่าการเก็บข้อมูลจากศพต้องละเอียดและยึดหลักสากล

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมได้มีการสรุปปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อพิจารณาศึกษาการแก้ไขปัญหาการชันสูตรพลิกศพจากภัยพิบัติ เพื่อนำเสนอต่อประธานคณะกรรมาธิการ วุฒิสภาอีกครั้ง ซึ่งปัญหาต่างๆ จะเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกับกระทรวงยุติธรรมต่อไป

    ที่มา http://www.komchadluek.net/news/2005/02-08/p1--55151.html  ข่าวต้นชั่วโมงของช่อง 9 ก็มี
    =======================================

    โอย อะไรกันเนี่ย ชั้นยังอินกับเทปรายการคนค้นคน ถึงลูกถึงคน เจาะใจ และอีกสารพัดรายการที่ไปทำเรื่องงานพิสูจน์ศพที่วัดย่านยาว  ทำไมท่านให้สัมภาษณ์แบบนี้ มันทำลายน้ำใจ และความสามัคคีของคนในชาติมากเลย  เรื่องแบบฟอร์มที่ไม่เหมือนกัน ชั้นก็ยังไม่เข้าใจว่า ทำไมมันจะปรับเอาข้อมูลของหมอมาใส่ในแบบฟอร์มมาตรฐาน 90 รายการของท่านไม่ได้เลยเหรอ ถ้าเหตุการณ์มันจบแบบนี้ แบบที่ว่า ที่อาสาสมัครช่วยกันทำมาเป็นเดือนมีค่าเป็นศูนย์  ต่อไปถ้ามีเหตุอะไรเกิดอีก แล้วจะมีใครหน้าไหนจะมาช่วย เพราะทุกคนก็ต้องคิดว่าทำไปไม่ได้เกิดประโยชน์เลยสักนิด  ฮือ ฮือ ใครบอกชั้นทีสิว่า รายการถ่ายทำอาสาสมัครต่างๆที่ชั้นนั่งดูไปน้ำหูน้ำตาไหลไป มันแค่ละคร ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับชีวิตจริงเลย

    แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 48 13:27:00

    จากคุณ : คุณนายเหี่ยว - [ 9 ก.พ. 48 03:28:36 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป