CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ถึงคุณ joblovenuk คนเดียว คนอื่นไม่เกี่ยว...แต่อยากอ่านก็ตามสบาย

    สืบเนื่องมาจากกระทู้ A3296379 ของคุณอมิตา พัชราภา ผลดี ( ขออภัยทำลิ้งค์ไม่เป็นเพราะเราไม่เก่งคอมฯ)
    เราเลยไปก็อปปี้มาให้อ่านเล่นๆ

    บทวิจารณ์เรื่อง The Aviator แบบมืออาชีพ เอามาจากมติชนสุดสัปดาห์ที่เราบังเอิญคลิ๊กเจอเมื่อดูหนังไปได้หลายอาทิตย์แล้ว แต่คิดเห็นตรงกันกับอาจารย์ทุกอย่าง


    ภาพยนตร์

    นพมาส แววหงส์

    THE AVIATOR "ท้องฟ้าคือขอบเขต"

    กำกับการแสดง Martin Scorsese

    นำแสดง

    Leonardo Dicaprio

    Cate Blanchett

    Kate Beckinsale

    Alec Baldwin

    Alan Alda

    John C. Reilly



    หนังชีวประวัติบุคคลที่เรียกว่า biopic นั้น เกือบจะไม่มีเรื่องไหนความยาวต่ำกว่าสองชั่วโมงครึ่งนะคะ ปกติจะเหยียบสามชั่วโมงทั้งนั้น ถ้าทำไม่ได้ดีก็นั่งกันเมื่อยแล้วเมื่อยอีก แต่ด้วยความยาว 166 นาที The Aviator ตรึงเอาไว้อยู่หมัดจนไม่รู้สึกว่าเป็นหนังยาวเลย เพียงเมื่อเหลือบดูนาฬิกาเท่านั้น จึงได้รู้ว่าเป็นหนังยาวทีเดียว

    ก็ชีวิตคนทั้งคนจะเอามาเล่าย่นย่อให้หมดเรื่องหมดราวในชั่วโมงสองชั่วโมงได้ยังไง

    กระนั้น ในความยาวเกือบสามชั่วโมง The Aviator ก็ยังเลือกเน้นช่วงชีวิตประมาณ 20 ปีในช่วงที่ เฮาเวิร์ด ฮิวส์ บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกในขณะนั้น ก้าวขึ้นสู่จุดสุดยอดในชีวิตของเขา และระหว่างนั้นเขากำลังก้าวลงจุดต่ำสุดในด้านมืดของชีวิตที่น่าทึ่งนั้น

    ในชีวิตจริงนั้น ทายาทเศรษฐีน้ำมันจากเท็กซัส ผู้ผันตัวเองมาเป็นผู้กำกับหนัง ทุ่มทุนสร้างหนังสงครามที่ใช้ทุนสูงที่สุดที่เคยทำกัน ซื้อกิจการบินของที.ดับลิว.เอ. เพื่อสร้างเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีป้อนให้แก่กองทัพสหรัฐระหว่างสงครามโลก และเมื่อสงครามยุติ เขาก็หันมาฟาดฟันกับผู้มีอิทธิพลเพื่อก้าวเข้าสู่น่านฟ้าสากลซึ่งแพนแอมเคยผูกขาดอยู่บริษัทเดียว

    เขากลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก หนุ่มเจ้าสำราญที่ควงดาราชั้นแนวหน้าของฮอลลีวู้ดไม่ซ้ำหน้ากัน

    ขณะที่สายการบินของเขาแผ่ขยายข้ามน่านฟ้าสากล ซึ่งมีท้องฟ้าเท่านั้นที่กีดกั้นไว้

    แต่ในบั้นปลายชีวิตเขากลับขังตัวเองอยู่ในที่แคบๆ ไม่ยอมพบปะใครๆ ตลอดสองทศวรรษสุดท้าย

    จิตวิญญาณที่เคยท้าทายทะยานสู่ขอบฟ้าอันกว้างใหญ่กลับต้องเผชิญหน้ากับความกลัวที่อยู่ในใจจนจำกัดวงตัวเองเพียงในบริเวณแคบๆ

    ขณะนี้มีหนัง biopic เรื่องเด่นๆ อยู่สองเรื่อง คือ The Aviator และ Ray ซึ่งเป็นชีวประวัติของบุคคลผู้มีความสามารถที่ต้องเผชิญหน้ากับปิศาจในใจตัวเองเหมือนกัน



    หนังทั้งสองเรื่องมีความคล้ายคลึงกันอยู่ในเรื่องอิทธิพลในวัยเด็กที่ฝังใจและตามหลอกหลอนมาจนตลอดชีวิต หนังทั้งสองเรื่องต่างเริ่มต้นที่แม่ผู้เป็นอิทธิพลใหญ่หลวงในชีวิตของคนทั้งสอง

    คำแรกใน The Aviator คือ คำว่า quarantine (การจำกัดบริเวณเพื่อป้องกันโรคติดต่อ) ซึ่งแม่ของฮิวส์สอนให้ลูกสะกดคำ ฮิวส์โตขึ้นมากลายเป็นคนที่กลัวเชื้อโรคในขั้นที่ถือว่าเป็นโรคจิต เขาเอาแต่ล้างมือฟอกสบู่ ถูเสียจนเลือดซิบๆ และไม่กล้าแม้แต่จะจับลูกบิดประตูห้องน้ำ ต้องยืนรออยู่จนมีคนอื่นเปิดประตูเข้าห้องน้ำมา จึงได้ถือโอกาสอาศัยจังหวะที่ประตูเปิดนั้นก้าวออกไป

    ฮิวส์มีความฝันอันยิ่งใหญ่ และกล้าพอที่จะทำตามความฝันนั้นด้วยการทุ่มเทเงินทองทั้งหมดที่มี และเอาจริงเอาจังกับสิ่งที่ตัวเองทำเป็นที่สุด

    สิ่งที่หนังแสดงให้เห็นชัดเจนที่สุดคือคนรอบตัวของฮิวส์ต่างมีความภักดีในตัวเขาอย่างเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นลูกน้อง หรือผู้หญิง

    แคทารีน เฮปเบิร์น ที่เพิ่งล่วงลับไป เป็นหญิงหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในชีวิตของฮิวส์ เคต บลานเช็ตต์ สวมบทบาทของสาวมาดมั่นหนึ่งเดียวคนนี้ได้อย่างสะใจที่สุด แม้ว่าจะไม่มีความละม้ายทางหน้าตา แต่ในมือของนักแสดงเก่งๆ อย่างนี้ พอเล่นออกมาแล้ว ก็รู้สึกได้ว่าเธอเข้าถึงจิตวิญญาณของมิสเฮปเบิร์นจนอดยิ้มไม่ได้กับลักษณะท่าทางของเธอ

    ฉากที่ดีที่สุดฉากหนึ่งคือฉากที่แคทารีนพาเฮาเวิร์ดไปเยี่ยมบ้านที่มีพ่อแม่พี่น้องอุ่นหนาฝาคั่งของเธอ ทุกคนต่างเป็นตัวของตัวเองจนแทบไม่มีใครยอมฟังกัน เป็นฉากที่ต้องเรียกรอยยิ้มได้แน่นอน

    แต่แคทารีนก็อยู่กับเฮาเวิร์ดไม่ได้ตลอดรอดฝั่ง ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะทั้งสองคนนี้มีนิสัยเหมือนกันจนเกินไป และอีกส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเฮาเวิร์ดเริ่มมีนิสัยแปลกๆ เธอจากเขาไปพบรักยิ่งใหญ่ที่คนทั้งโลกต่างตระหนักดี คือ สเปนเซอร์ เทรซี่

    ขณะที่เฮาเวิร์ดยังคงคอยปกป้องชื่อเสียงของเธออยู่อย่างสุดความสามารถ ทั้งๆ ที่โกรธแสนโกรธที่เธอทิ้งเขาไป

    ทำให้เห็นความน่ารักของ เฮาเวิร์ด ฮิวส์ ที่คนรอบข้างต่างให้ความภักดีและปกป้องเขา แม้ในยามที่เขาตกต่ำ เอวา การ์ดเนอร์ (เคต เบกคินเซล) ก็เป็นดาราสาวสวยอีกคนที่มีความสำคัญในชีวิตของฮิวส์ เธอเองก็ยังคงหวังดีและช่วยเหลือเขาอยู่ตลอด แม้ยามเมื่อเลิกรากันไปแล้ว

    ฉากที่ดีที่สุดอีกฉากหนึ่งคือการต่อสู้ระหว่างฮิวส์กับวุฒิสมาชิกบรูสเตอร์ (อลัน อัลดา) บรูสเตอร์ซึ่งเป็นที่รู้ๆ กันว่าซี้ปึ้กอยู่กับ ฮวน ทริปป์ (อเล็ก บอลด์วิน) ผู้บริหารของแพนแอม หาเรื่องเรียกตัวฮิวส์มาสอบสวนในเรื่องการค้ากำไรเกินควรในการผลิตเครื่องบินให้กองทัพสหรัฐระหว่างสงคราม

    ทั้งๆ ที่เหตุผลที่แท้จริงที่หมกเม็ดไว้ท่ามกลางการประโคมของสื่อมวลชนก็เพราะเนื่องมาจากว่าฮิวส์คัดค้านการที่บรูสเตอร์ผลักดันออกกฎหมายให้แพนแอมเป็นสายการบินตัวแทนของประเทศเพียงบริษัทเดียวที่มีสิทธิผูกขาดการบินพาณิชย์ระหว่างประเทศ

    เราเห็นฮิวส์สู้ศึกสองด้านที่ใหญ่หลวงและหนักหนาสาหัส ด้านหนึ่งนั้นคือปิศาจในใจตัวเอง ส่วนอีกด้านหนึ่งคือผู้มีอิทธิพลที่กำลังกระหน่ำเล่นงานเขาอย่างไม่ยอมให้ตั้งตัว

    สกอร์เซซีรักษาสัดส่วนและจังหวะไว้อย่างลงตัวพอดิบพอดี ไม่มากไม่น้อย ฮิวส์สามารถฝ่าฟันเอาชนะศึกในใจออกมาต่อสู้ศึกภายนอกได้อย่างน่าชมเชย แต่ก็ต้องคอยลุ้นเอาใจช่วยกันน่าดู



    อย่างที่โลกรู้กันแล้วว่า ที.ดับลิว.เอ. กลายเป็นสายการบินอเมริกันที่ประสบความสำเร็จต่อมา...แม้จะไม่ยั่งยืน

    หลังจากจุดที่หนังจบลง ฮิวส์ยังคงต่อสู้กับปิศาจในใจของเขาต่อมาอีกนาน ซึ่งเป็นช่วงที่เขาหายหน้าไปจากการรับรู้ของสาธารณชน

    ชีวิตของเขาช่างแสนน่าทึ่งและชวนพิศวงสำหรับคนธรรมดาสามัญอย่างเราๆ

    ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหนังเรื่องนี้ต้องได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์แน่นอน และอาจจะได้เป็นหนังดีที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา


    หน้า 87

    จากคุณ : ASANO's lover - [ 16 ก.พ. 48 04:00:06 A:80.9.240.36 X: TicketID:059649 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป