| ชอบมาก ห้ามพลาด (7 คน) |
| ชอบแต่ยังไม่ที่สุด (14 คน) |
| เฉยๆ (11 คน) |
| ไม่ค่อยชอบ รอดูแผ่นก็ได้ไม่ต้องไปโรง (5 คน) |
| ไม่ชอบ เสียดายตังค์ (11 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 48 คน |
....หนังตลกเป็นหนังที่ทำยากที่จะทำได้เข้าถึงคนส่วนใหญ่ บางคนชอบตลกแบบถั่วแระ บางคนชอบตลกแบบซูโม่สำอางค์ บางคนชอบตลกแบบSteve martin บางคนชอบตลกแบบหม่ำ ฯลฯ ดังนั้นหนังตลกคนหนึ่งบอกสนุกไม่ได้หมายความว่าจะสนุกตามนั้นเสมอไป ต่างจากหนังดราม่าหรือหนังแนวอื่นๆ ดังนั้นถ้าจะฟังว่าหนังตลกเรื่องนี้สนุกหรือไม่ คงต้องถามคนเล่าว่าเค้าชอบหนังตลกแบบไหน
...ถ้าเป็นหนังไทย ผมชอบหนังตลกไทยๆอย่างบุปผาราตรี/บอร์ดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม และ แก๊ง3ช่ามาดึกๆ
....ในทีมแก๊ง3ช่า หม่ำเป็นตลกที่มีพลังดาราในตัวสูงและพิสูจน์ตัวเองทั้งกำกับและแสดงมาแล้วจากบอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม(ในฐานะที่ผมชอบตลกแบบแก๊ง3ช่าผมก็ตลกและสนุกไปกับหนังเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าหนังจะมีช่วงอืดๆตอนท้าย แต่หม่ำก็เข้าใจในหนังที่ตัวเองทำและสร้างมันออกมาได้ดีในสไตล์ของตัวเอง) /โหน่ง เป็นเหมือนตัวชงชั้นดี เค้าอาจไม่ใช่ตัวเอกแต่เมื่อต้องเป็นพระเอก สายล่อฟ้า ก็พิสูจน์ว่าเค้าสามารถนำหนังเดินหน้าไปพร้อมกับเต๋าได้ / เท่ง เป็นหนึ่งในสามช่าที่ผมคิดว่าเค้ามีลีลาและมุขดีที่สุด ในแอบคนข้างบ้านเค้ายังไม่สามารถที่จะพิสูจน์ตัวเองได้เท่าเพื่อนร่วมทีม2คนที่เหลือ
......หนังเล่าถึงชุมชนหนึ่งที่ศรัทธาชาวบ้านอยู่ในมือของเจ้าพ่อร่างทรงที่หลอกลวงชาวบ้าน การเข้ามาของหลวงพี่เท่งเป็นเหมือนกับการกู้ศรัทธาและศาสนาที่ชาวบ้านลืมเลือนไป การยืนหยัดอยู่คนละฝ่ายระหว่างเจ้าพ่อ และ หลวงพี่ มีผู้สมัครอบต.คนหนึ่งที่เฝ้ารอฉวยโอกาสซื้อใจชาวบ้านด้วยวิธีสกปรก
......หนังตลกของโน้ต เรื่องนี้ในส่วนของความตลกถ้าวัดจากเสียงหัวเราะรอบที่ผมดูก็คงต้องถือว่าประสบความสำเร็จเพราะเรียกเสียงหัวเราะได้ทุก5-10นาที มุขยิงออกมาได้ผลบ้างแป้กบ้างสลับกันไป แต่มุขฮาสุดๆมีค่อนข้างน้อย เสียงฮาที่ได้คงต้องยกเครดิตให้กับ เท่ง เถิดเทิง เป็นส่วนใหญ่ เพราะแค่เค้าใส่ความเป็นตัวเองลงไปในบทก็เพียงพอแล้วที่จะเรียกเสียงหัวเราะออกมา
.....หนังตลกถ้ามุ่งเน้นเรื่องตลกพร้อมเล่าได้อย่างมีฝีมือ ก็ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงสาระหรือเหตุผลมากนัก เพราะคนดูก็จะสนุกและเข้าใจตัวหนัง(เช่น บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม) ตรงกันข้ามหากที่จะไม่เอาฮาอย่างเดียวแต่มีความทะเยอทะยานในตัวในด้านดีที่จะสอดแทรกสาระและความเป็นดราม่าลงไปด้วย จุดนี้มันเหมือนดาบสองคม คือถ้าทำได้ถึงอารมณ์หนังก็จะมีอะไรให้พูดถึงมากกว่าเป็นหนังขายความฮา(มือปืนโลกพระจัน) แต่ถ้าหนังทำไม่ได้มันก็จะเป็นตัวถ่วงของหนังแทนที่หนังจะฮาระเบิดอย่างต่อเนื่องไม่ต้องเสียเวลา และคนดูก็จะกลับมาสู่โลกของความเป็นจริงพร้อมมองหาเหตุผลตาม สำหรับเรื่องนี้ส่วนดราม่าของหนังและสาระที่สอดแทรกทำออกมาได้เกือบดี เห็นได้ถึงความพยายามเช่นฉากflashbackขาวดำของหลวงพี่เท่ง(ผมดูแล้วคิดถึงflashbackขาวดำของเทพในมือปืนโลกพระจันที่ผมอินกับมันมากกว่า/ฉากขับไล่ )แต่มันยังทำไม่ได้ให้ผมเกิดความรู้สึกร่วมกับหนังได้อย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ย่ำแย่จนรับไม่ได้
.....โดยรวมหนังทั้งเรื่องในความเป็นหนังผมคิดว่าหนังเริ่มต้นได้ดี การเล่าเรื่องยังมีส่วนจืดชืดและมุขส่วนเกินอยู่(มุขแบบที่คนดูทั้งโรงแสดงออกมาเป็นเสียงเดียวกันด้วยความเงียบว่าใส่มาทำไม) แต่หนังก็ยังไม่หลุดไม่สะดุด ประคองไปจนถึงตอนจบได้เรื่อยกับมุขที่เรียกเสียงฮาได้อยู่เป็นระยะ ก่อนจะจบลงแบบไม่มีอะไรติดใจประทับใจแต่ก็ไม่หงุดหงิดใจแต่อย่างใด
สิ่งที่ชอบ
1.เท่ง เถิดเทิง....แบกรับหนังเรื่องนี้ได้อย่างดี จนเรียกได้ว่าทำให้หนังดูดีและสนุกกว่าที่มันเป็นมากทีเดียว ลองนึกภาพหนังเรื่องนี้แล้วใส่ตัวละครอื่นลงไปเล่นแทนเท่งคงไม่สนุกได้ขนาดนี้
2.แขกรับเชิญ....มีอยู่1คน(คงต้องดูในโรงเอง)ที่ออกมาแค่ช็อตสั้นๆ แต่แหมยังอุตส่าห์ขโมยซีน(เหมือนเรื่องที่แล้วของเค้า)
สิ่งที่ไม่ชอบ
1.โน้ต เชิญยิ้ม....ในฐานะผู้กำกับผมคิดว่าเรื่องนี้ถ้าคนได้ดูน่าจะให้คะแนนในระดับสอบผ่าน แต่ในฐานะนักแสดงที่ต้องเดินเรื่องไปกับหลวงพ่อผมคิดว่าเค้าไม่เหมาะและทำได้ไม่ดีพอ เท่งอาจใส่ความเป็นเท่งในบทนี้แล้วเดินเรื่องไปได้ แต่โน้ตที่ไม่สลัดตัวตนออกไปแล้วเล่นเป็นตัวเอง กลับทำให้หนังไม่สามารถเดินหน้าไปได้ไกล ภาพของเค้าในหนังคือภาพของโน้ตเชิญยิ้ม ไม่ใช่ภาพของคนที่จะเป็นผู้ยืนหยัดและคอยช่วยเหลือหลวงพี่เท่ง ยิ่งฉากดราม่าตอนท้ายแค่กินเหล้าทำหน้าเศร้าแทบจะไม่ทำให้คนดูรู้สึกร่วมไปได้เลย
2.สมชาย(สมเล็ก) ศักดิกุล..... ช่วงนี้เล่นหนังหลายเรื่องเหลือเกิน เค้าเป็นดาราที่ขึ้นอยู่กับผู้กำกับ เป็นดาราที่ขึ้นกล้องมีฝีมือมากกว่าแค่การพูดคำหยาบ ถ้าอยู่ในมือผู้กำกับที่ดึงศักยภาพของเค้าออกมาในหนังได้เค้าก็ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม(เช่น มนต์รักทรานซิสเตอร์/สายล่อฟ้า/บุปผาราตรี) แต่กับบางเรื่องทั้งที่เล่นคล้ายกันกลับกลายเป็นดาราธรรมดาที่ไม่ขึ้นกล้องดังเช่นในเรื่องนี้ ที่ตัวเขาดูขาดๆเกินๆ
3.ตอนท้ายของเรื่อง....ดังที่ผมบอกไปแล้วว่า เมื่อไหร่ที่หนังตลกเริ่มใส่สาระหรือดราม่าเข้าไป เมื่อนั้นคนดูก็จะเริ่มมองหาเหตุผลของหนังมากขึ้น เพราะสัดส่วนของหนังจะขยับความเป็นดราม่าเข้าไป เช่น ในเรื่องนี้ตอนท้ายที่พยายามรวบรัดตัดความให้หนังจบ มันดูไม่น่าเชื่อถือและรีบจบเกินไป ทำให้ตอนท้ายส่วนที่จะตลกมันก็ไม่ตลกมาก ส่วนที่ดราม่าก็ไม่กินใจเท่าที่หนังหวังจะให้เป็น
สรุป....ผมไปดูเรื่องนี้เพราะSpanglishเบี้ยวไม่เข้าไปซะเฉยๆ ผมไปดูเพราะสัปดาห์นี้เป็นอีกสัปดาห์หนึ่งที่หนังน่าดูเข้าน้อยอย่างน่าใจหาย ผมไปดูเพราะผมชอบแก๊งสามช่ากับตัวอย่างที่ฮาได้ที่จากในทีวี และผมไปดูที่SF MBK รอบ19.30น. พร้อมกับเงิน120บาทที่เสียไป ก็รู้สึกว่าเรื่อยๆขำๆดี จบแล้วจบเลย ไม่ประทับใจแต่ก็ไม่ถึงขั้นเสียดายตังค์
ปล.......คุณฮาสุดๆกันฉากไหน สำหรับผมฉากที่ฮาและได้ใจมากที่สุดมีแค่ฉากเดียว ---> ฉากสุดท้ายของเท่งและธูป(แต่ก็นี่ละ มันก็ฮาเพราะเท่งจริงๆ)
....ติดตามเรื่องอื่นๆได้ที่เว็บบล็อคคลิกแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนกันบ้างเน้อที่...
http://aorta.bloggang.com
Sideways , รักนุ่มๆชุ่มไวน์ในวันเบาๆ
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3319606/A3319606.html
Million Dollar Baby , ความยอดเยี่ยมท่ามกลางศรัทธาและความอบอุ่น
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3315242/A3315242.html
แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 48 00:50:00
จากคุณ :
"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
- [
3 มี.ค. 48 23:20:34
]