| ตาย (2 คน) |
| ไม่ตาย (2 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 4 คน |
เกิดเหตุคนร้ายใช้มีดจี้นางพยาบาลประจำโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นตัวประกัน หลังเข้าไปในห้องทำแผลของโรงพยาบาล จนท.ระบุคนร้ายอายุประมาณ 30 ปี ซึ่งทราบว่าอาจจะเป็นคนสติไม่ค่อยดี ซึ่งขณะนี้การเจรจายังไม่ได้ผล
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันนี้ (2 เม.ย.) เกิดเหตุคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30 ปีเศษ มีเป้สำภาระสะพายหลัง พร้อมถือมีดความยาว 3-4 นิ้ว ได้บุกเข้าในห้องทำแผล-ฉีดยาของโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งในขณะนั้นมีน.ส.จุไรรัตน์ เนื่องนำอายุ 31 ปี พยาบาลวิชาชีพ 7 อยู่ในห้องเพียงคนเดียว โดยได้ใช้อาวุธมีดจี้คอเจ้าหน้าที่พยาบาลคนดังกล่าวเป็นตัวประกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงแรกคนร้ายมีอาการอาการคุ้มคลั่งอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่นานอาการก็สงบลงแล้วกับมีสีหน้าเป็นปกติ จากนั้นคนร้ายได้ปิดประตูหน้าต่างทุกบ้านของห้องทำแผลฉีดยา ต่อมา ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายขอเข้าไปเจรจากับคนร้าย ใช้เวลาเพียงไม่นานก็กลับออกมา โดยในเบื้องต้นทราบว่าคนร้ายมีการต่อรองขออาวุธปืนและรถยนต์เพื่อใช้ในการหลบหนีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.40 น. คนร้ายได้เปิดหน้าต่างห้องทำแผลฉีดยาของโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์อีกครั้งเพียงระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่และประชาชนที่ออกันอยู่ภายนอกได้เห็นว่าคนร้ายได้กอดน.ส.จุไรรัตน์ที่ตกเป็นตัวประกันไว้ ซึ่งดูจากสีหน้าเป็นไปได้ว่าคนร้ายน่าจะมีอาการทางประสาทด้วย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยกับ “ผู้จัดการออนไลน์” ประจำศูนย์ข่าวหาดใหญ่ว่า ขณะเกิดเหตุมีคนร้าย 1 คน ทำทีไปติดต่อขอทำแผล ระหว่างที่พยาบาลกำลังทำประวัติคนไข้ คนร้ายได้ใช้อาวุธมีดจี้บังคับเจ้าหน้าที่พยาบาลไว้ และจับเข้าไปในห้องปฐมพยาบาล พร้อมปิดประตูห้องแน่นหนา
นายประชากล่าวว่า คนร้ายเป็นผู้ชายอายุประมาณ 30 ปีเศษ แต่คาดว่าไม่ใช่คนในพื้นที่หรือคนปักษ์ใต้ เนื่องจากใช้ภาษาภาคกลางในการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ แต่การเจรจาเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากมองไม่เห็นท่าทีคนร้ายอย่างชัดเจนนัก
ด้าน พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ ภัทรภานุ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส กล่าวเสริมว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการเจรจากับคนร้าย โดยได้กันประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป โดยได้ให้ไปอยู่ในที่ปลอดภัย และได้มีการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบที่ตรึงกำลังควบคุมสถานการณ์อยู่รอบๆ บริเวณแล้ว
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 13.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบได้นำอาหาร 1 กล่อง พร้อมด้วยน้ำดื่ม 1 ขวด ไปส่งให้กับคนร้ายบริเวณหน้าต่างของห้องทำแผล-ฉีดยาดังกล่าว โดยคนร้ายให้ผู้นำส่งต้องถอดเสื้อออกทั้งหมด เพราะเกรงว่าจะมีการนำอาวุธหรืออุปกรณ์ต่างๆ ติดตัวเข้าไปด้วย
และยังไม่มีรายงานเพิ่มเติมว่าคนร้ายได้ต่อรองหรือเรียกร้องอะไรจากทางราชการเพิ่มเติมอีกหรือไม่ หลังจากการเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจครั้งแรกหลังเกิดเหตุใหม่ๆ ได้เรียกร้องขออาวุธปืนและรถยนต์เพื่อใช้ในการหลบหนี แต่การเจรจายังไม่เป็นผลแต่อย่างใด เชื่อว่าหลังจากที่คนร้ายได้รับประทานอาหารและน้ำดื่มที่เจ้าหน้าที่นำไปให้แล้ว คาดว่าตำรวจจะสามารถควบคุมเหตุการณ์ทั้งหมดให้เข้าสู่สภาวะปกติได้
ขณะนี้เวลาผ่านมาเกือบ 5 ชั่วโมงแล้ว แต่การเจรจาต่อรองขอให้ปล่อยตัวประกันยังไม่เป็นผล ขณะเดียวกันเมื่อเวลาประมาณ 14.20 น.ที่ผ่านมา คนร้ายได้ยื่นข้อเสนอต่อทางเจ้าหน้าที่ราชการว่า หากทางราชการต้องการให้มีการเปลี่ยนตัวประกันจาก น.ส.จุไรรัตน์ เนื่องนำ พยาบาลวิชาชีพของโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นบุคคลอื่นๆ ก็จะยินยอมให้เปลี่ยนได้ โดยผู้จะมาเป็นตัวประกันคนใหม่ต้องถอดเสื้อเพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่มีอาวุธและอุปกรณ์อื่นๆ เข้ามา
อย่างไรก็ตาม นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และ พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ ภัทรภานุ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ซึ่งทั้งสองได้บัญชาการสถานการณ์อยู่ในพื้นที่ยังไม่มีการตัดสินใจให้มีการเปลี่ยนตัวประกัน ต้องหารือกันอย่างรอบคอบที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าตัวประกันจะไม่ได้รับอันตราย
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่าแม้ตำรวจจะพยายามเจรจาต่อรองกับคนร้ายอย่างไรก็ไม่เป็นผล โดยเวลาผ่านไปกว่า 7 ชั่วโมงแล้ว โดยตัวประกันยังคงปลอดภัย และคนร้ายไม่ยอมแลกเปลี่ยนตัวประกันตามที่ตำรวจยื่นข้อเสนอ
CREDIT http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9480000045490
แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 48 18:51:05
แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 48 18:50:42