CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    "อิ๋งอิ๋ง" มั่นใจบันทึกสีม่วง 2 ขายแหลก 2 แสนเล่ม พร้อมดันเป็นหนังไปคานส์

    เขียนหนังสือ “บันทึกสีม่วง” เปิดเผยชีวิตเคยมีแฟนเป็นเกย์เล่มเดียวก็ดังกระหึ่มไปทั่วบ้านทั่วเมือง โอกาสงามๆ อย่างนี้นักธุรกิจแบบ “อิ๋งอิ๋ง” สิทธิณี กิตติสิทโธ ไม่ปล่อยให้หลุดมือแน่ ว่าแล้วก็ส่ง บันทึกสีม่วงเล่ม 2 ออกวางตลาดต่อทันที
         
           ตามมาด้วยโปรเจ็กต์ยักษ์ ออกเทปบันทึกสีม่วง ผลิตหนังบันทึกสีม่วง แม้แต่เครื่องสำอาง SISSI ของตัวเองที่พึ่งจะเปิดตัวไปเนื้อครีมก็เป็นสีม่วง ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นอานิสงส์จากหนังสือบันทึกสีม่วง
         
           ดูจะถูกโฉลกกับสีม่วงเอาการ ตอนนี้หนังสือบันทึกสีม่วงถูกแปลเป็นภาษาต่างประเทศถึง 3 ภาษา หนังที่ยังไม่ผลิตก็มีต่างประเทศติดต่อซื้อลิขสิทธิ์เรียบร้อย
         
           “ฟีดแบ็กของหนังสือบันทึกสีม่วงเล่มแรกดีมาก ทางโรงพิมพ์ที่เป็นเอเย่นต์ขายหนังสือทั่วโลก เค้าติดต่อขอให้แปลเป็นภาษาต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ , จีน , ญี่ปุ่น และเร็วๆ นี้กำลังจะแปลเป็นภาษาเกาหลีอีกหนึ่ง อิ๋งอิ๋งรู้สึกภูมิใจมากที่หนังสือเราสามารถก้าวไปได้ไกลถึงขนาดนี้ เพื่อนที่สิงคโปร์ทึ่งอิ๋งอิ๋งมาก เค้าบอกว่าเราทำได้ไง เอาหนังสือไปขายในเซเว่น คิดได้ไงแผนการตลาดแบบนี้”
         
           “ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่อิ๋งอิ๋งภูมิใจมาก การที่จะเอาหนังสือพ็อกเก็ตบุคส์ไปวางในเซเว่นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และไม่เคยมีใครทำมาก่อน ทางซีพีค่อนข้างสกรีนคนมาก แต่เราสามารถทำได้แสดงว่าหนังสือเราต้องมีดี”
         
           “และก็ต้องยอมรับว่าที่หนังสือเราประสบความสำเร็จนอกจากจะเพราะเนื้อหาที่อิ๋งอิ๋งเป็นผู้หญิงคนแรกในเอเชียที่เขียนเรื่องมีแฟนเป็นเกย์ แล้วก็เป็นเพราะเรามีแผนการประชาสัมพันธ์ที่ดีที่สุด ถ้าอิ๋งอิ๋งเอาหนังสือไปวางตามร้าน หนังสือของเรามันจะไม่โดดเด่นเพราะหนังสือเค้ามีเยอะไปหมด แต่พอมาวางในเซเว่นปุ๊บทุกคนรู้จัก เด็กตั้งแต่ 10 ขวบไปจนถึง 60 ไม่มีใครไม่รู้จักอิ๋งอิ๋ง”
         
           “ตอนนี้ยอดหนังสือวิ่งไป 5 หมื่นเล่มแล้ว ซินแสของซีพีทำนายไว้ว่าจะพุ่งถึง 1 แสน ส่วนเล่ม 2 นี่ท่านบอกว่า 240,000 เล่มชัวร์ ถามว่าทำให้เรามั่นใจขึ้นหรือเปล่า จริงๆ เราก็มั่นใจอยู่แล้วนะ แต่พอระดับซินแสซีพีบอกว่าดีเราก็ต้องเชื่อว่าดี”
         
           และก็เพราะความโด่งดังของหนังสือบันทึกสีม่วงนี่แหละ ที่ทำให้อิ๋งอิ๋งต่อยอดธุรกิจไปทำเทป ทำหนัง และเปิดบริษัทขายเครื่องสำอาง
           “อิ๋งอิ๋งมีวิสัยทัศน์ไม่เหมือนชาวบ้าน บางคนก็หาว่าเว่อร์ ไฮโซ ทำรายการทำไมต้องแต่งตัวแบบชาติต่างๆ เค้าไม่รู้ว่าที่เราทำแบบนี้ก็เพราะเราเอาเทปไปขายต่างชาติได้ อิ๋งอิ๋งเป็นคนที่ค่อนข้างมองการณ์ไกลเรามองตรงนี้ขาด”
         
           “เทปกับหนังก็เหมือนกันเราจะทำออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน คิดว่าสองสามเดือนนี้คนจะได้ดูได้ฟังกัน ตรงนี้ถึงแม้ว่าเราจะไม่เคยทำเทปหรือผลิตหนัง แต่อิ๋งก็มั่นใจทีมงานบริษัท และมั่นใจว่าคนที่มาจอยกับเราน่าจะผลิตได้ดี”
         
           สำหรับภาพยนตร์บันทึกสีม่วงนั้น อิ๋งอิ๋งความหาผู้กำกับแทบจะทั่วไปเทศ แต่ก็ไปถูกใจ “หมู” ธำรงค์ วิจิตรสาร ผู้กำกับ “หลงไฟ” ละครที่ไอทีวีสั่งแบนโดยผู้บริหารไอทีวีให้เหตุผลว่าไม่มีคุณภาพ แต่ถึงจะมีภาพติดลบไปบ้าง อิ๋งอิ๋งกลับไม่หวั่น
         
           “คนที่มีประวัติการทำงานไม่ประสบความสำเร็จไม่ใช่ว่างานไม่ดี ต้องดูด้วยว่าเค้าไม่ได้ออนแอร์เพราะอะไร อิ๋งอิ๋งชอบคนมีไฟมีอะไรใหม่ๆ จากการคัดเลือกผู้กำกับมาหลายคน อิ๋งอิ๋งถูกใจพี่หมูมากที่สุด เพราะพี่หมูเป็นคนที่เข้าใจว่าอารมณ์สีม่วงมันเป็นยังไง อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ อิ๋งอิ๋งต้องการคนที่มีทัศนะคติที่ดีต่อคนสีม่วง เราต้องการถ่ายทอดให้รู้ว่าการเป็นคนสีม่วงมันเจ็บมันช้ำขนาดไหน”
         
           เมื่อทำหนังเกย์หลายๆ คนก็เลยคาดว่างานนี้จะต้องมีเลิฟซีนออกมาโชว์หวามแน่นอน
           “อิ๋งอิ๋งพยายามจะทำไม่ให้ทุเรศ ไม่อยากให้อุบาทว์ เราเป็นคนไทยอยู่ดีๆ เอาผู้ชายมาจูบปากมันไม่ดีผิดเพศ ผิดครรลองมนุษย์ ก็เพราะมนุษย์มันทำอะไรอุบาทว์ๆ นี่แหละ ต่อไปน้ำมันก็จะท่วมโลกตามคัมภีร์ไบเบิ้ลเพื่อล้างไอ้ความชั่วความอุบาทว์เหล่านี้ให้หมดไป”
         
           “ฉะนั้นอิ๋งอิ๋งจะไม่สร้างความอุบาทว์กับสังคม จะไม่มีบทผู้ชายจูบปากเพราะอิ๋งอิ๋งรับไม่ได้ แม้ว่าในหนังสือบันทึกสีม่วงเล่มหนึ่งจะบอกเค้าไปมีอะไรกันในตู้เสื้อผ้า คนรู้กันทั้งรุ่น แต่เราไม่เคยเห็นว่าไปมีอะไรกันจริงหรือเปล่า เราก็จะไม่เอาตรงนั้นออกมาทำหนัง”
         
           “หนังของอิ๋งอิ๋งไม่จำเป็นต้องหวือหวา อิ๋งอิ๋งไม่ได้ทำหนังโป๊ไม่ได้ทำหนังเซ็กซ์ แต่เราต้องการขายความเจ็บช้ำผิดหวังของชาวสีม่วง เพื่อให้สังคมได้รับรู้ จะได้ไม่ต้องไปบังคับให้เค้าเป็นผู้ชาย ไม่ต้องไปบังคับให้เค้าแต่งงานกับผู้หญิง จะได้ไม่ต้องมีคนเจ็บช้ำเหมือนอิ๋งอิ๋ง”
         
           เล่นผลิตเอง ขายเองแบบนี้ เห็นทีจะเหนื่อยหน่อย ดูอย่างหนัง “มนต์รักลูกทุ่ง” ก็ยังเดี้ยงสนิทจนต้องเผาฟิล์ม
           “ตอนนี้อิ๋งอิ๋งก็เข้าไปคุยเมเจอร์ ไม่เคยทำก็เข้าไปขายคุยไปเรื่อยๆ คุยทุกที่ หนังสือเราขายแรงขนาดนี้อิ๋งอิ๋งเชื่อว่าหนังเราจะต้องขายได้แน่นอน ซินแสเองก็บอกว่า ปีนี้ปีเป็นปีทองของเราทำไรขายได้ขายหมด ซึ่งตอนนี้หนังของอิ๋งอิ๋งขนาดบทยังเขียนไม่เสร็จ บริษัทหนังในฮอลลีวูดก็ติดของซื้อลิขสิทธิ์ไปขายแล้ว อิ๋งอิ๋งว่าเราสามารถทำได้ และอิ๋งอิ๋งก็ตั้งใจว่าเอาหนังเรื่องนี้ไปเมืองคานส์ให้ได้”
         
           “ทำตรงนี้ไม่ได้หวังเงิน แต่ถือว่าเราสามารถทำฝันของเราให้เป็นจริง เราสามารถเขียนหนังสือออกมาจนเป็นที่ยอมรับได้ กำลังจะได้ผลิตเป็นหนัง มีต่างประเทศมาติดต่อซื้อ และเรากำลังจะไปเมืองคานส์ แค่นี้อิ๋งอิ๋งก็มีความสุขแล้ว”
         
           ถ้าทำได้อย่างที่ฝันบอกได้คำเดียวว่า งานนี้รวยเละ
         
          http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9480000049158

    จากคุณ : Ba-Yan-Tree - [ 11 เม.ย. 48 18:09:48 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป