ความคิดเห็นที่ 1 ซิ่ว เป็นเรื่องปกติ หนะ แต่ซิ่ว ปี 4 แล้วไปเข้าใหม่ปี 1 นี่ดิ..แปลกหน่อย จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า - [ 6 พ.ค. 48 11:12:26 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อืมมมม.........เจอกับน้องชายตัวเองเหมือนกันค่ะ  เพื่อนรุ่นเดียวกับเค้า  จบทำงาน หรือมาเป็นอาจารย์สอนเค้าแล้ว  แต่ตัวเค้ายังดูสนุกกับการใช้เงินแม่อยู่เลย  ดูๆไปแล้วก็น่าเบื่อค่ะ  เพราะคนที่แม่มาบ่นว่าเหนื่อยกับการส่งเสียเค้า ไม่ใช่ตัวเค้า แต่เป็นเรา   แต่ในที่สุด  เราก็ต้องให้โอกาสในสิ่งที่เค้าเลือกน่ะค่ะ  ถ้าเค้าคิดว่า  สิ่งที่เค้าเลือก มันดีสำหรับเค้า เราก็ต้องสนับสนุน   แต่ เลือกมาก และไม่หยุดเลือกซักที  ก็มีสิทธิ์ไม่ได้เลือกอะไรอีกเลยเหมือนกัน  ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับกติกาและข้อตกลงของคนส่งเรียนด้วยค่ะ จากคุณ : คุณนายตื่นสาย (แล้วพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร) - [ 6 พ.ค. 48 11:16:30 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คนเรามีสิทธิจะเลือกทางเดินของตัวเอง เมื่อเรียนไปแล้วรู้ว่าไม่ไหว หรือไม่ชอบ ก็มีสิทธิเปลี่ยนใจ เปลี่ยนทางเดินได้ อนาคตอีกยาวนาน ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจในวันนี้ หากฝืน ทน เพียงเพื่อให้จบ โดยที่ไม่ถนัด ไม่ชอบ ไม่มีความสุข ชีวิตวันข้างหน้า ก็จะต้องอดทน ต่อไป แล้วคิดว่าจะทำงาน จะอยู่กับสิ่งที่ตัวเองไม่รัก ไม่ถนัด อย่างมีความสุขได้หรือคะ จะทำงานอย่างมีคุณภาพได้หรือ แล้วสังคม คนรอบข้างจะไม่กระทบไปด้วยหรือ หากมีโอกาส ที่จะเลือกในสิ่งที่ตัวเองรัก และทำได้ดี ก็เลือกเถอะค่ะ... ขอแค่ เมื่อได้แล้วก็ตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด คงไม่ผิดอะไรหรอกค่ะ จากคุณ : แครอทเค้ก - [ 6 พ.ค. 48 11:44:40 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมก็ซิ่ว ตอนนี้ 26 แล้ว ยังเรียน ป.ตรีไม่จบเลย ไม่ได้ซิ่วเพราะเปลี่ยนที่เรียนหรอก เพียงแต่ สอบไม่ติดในครั้งแรก เลยหยุดอยู่บ้าน ไปสอบในครั้งต่อมา จากคุณ : nutxnut - [ 6 พ.ค. 48 12:29:06 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ห่ะ ห่ะ แทงใจดำว่ะกระทู้นี้ T__T ปี 1 มา 4 ปีแระ - -" จากคุณ : แมวเหมียวพุงกาง - [ 6 พ.ค. 48 12:48:02 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เราก็ซิ่วนะ น้องเราก็ซิ่ว เพื่อนเราก็ซิ่วหลายคน รุ่นน้องอีกคนก็ซิ่ว  ญาติอีกคนนึงก็ซิ่วอีกแล้ว รู้จักอยู่คนนึงจบม.6แล้วเจ๋อไปเรียน ปวช 1 ใหม่ อันนี้เรียกว่าซิ่วด้วยหรือเปล่า ตอนนี้ทุกคน จบมา มีงานทำ เป็นคนดี เป็นพี่เป็นน้อง เป็นญาติที่ดี ของเรา.. จากคุณ : norikaten - [ 6 พ.ค. 48 12:54:30 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ดีซะอีก  มีเพื่อนเป็นน้อง   งงมะ จากคุณ : sodius - [ 6 พ.ค. 48 13:00:30 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อืม #1 มันก็แปลก นะ แต่คุณเคยคิดจะฟังเห็ตุผลของเค้าบ้างไหม ละ น้องไม่ได้เถียงพี่ม้านะ                แต่!                   น้องเป็นคนหนึ่งเลยแหละ ที่เรียนจนจะปี 4 แล้ว ซิ่ว บางครั้งเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น เราก็ไม่ได้ต้องการให้มันเป็นอย่างนั้น ณ.วันที่ประกาศผลสอบ เอ็นน้องเป็ฯคนหนึ่งที่สอบติด เข้าเรียนคณะพยาบาล ศาสตร์ เป็นนักเรียนทุน พยาบาล ได้รับเงินเดือนตั้งแต่ ยังเรียนไม่จบ พ่อแม่น้อง ภูมิใจมากๆ แต่!(น้องไม่ใช่คนที่ชอบสร้างเงื่อนไขให้กับตัวเองนะ) น้องจำได้ ว่า คณะที่น้องเลือกใน 2 อันดับแรก คือคณะวิศวกรรมศาสตร์ อีกสองอันดับ น้องก็ยังยื่นยัน ว่า เป็นวิศวกรรมศาสตร์เช่น แต่(อีกแล้ว) พ่อ ไม่ยอมไม่ว่าจะพูดยังไงก็ไม่ยอม เพราะตอนนั้น พ่อกับแม่มีความคิดเดียวคือ เอ็นให้ติดเพื่อ งานและ อนาคตที่ดี และควรเป็นคณะที่มีงานรองรับ พ่อพูดเสมอๆ(ก่อนสมัครเข้า)ว่า "เป็นผู้หญิงเรียนวิศวะ มันจะไปทำอะไรได้ ผู้ชาย เค้าไม่ยอมรับหรอกนะ " พอถึงเวลาสมัครสอบจริงๆน้องจึงต้องตามใจพ่อแม่ส่วน หนึ่ง ตามใจตัวเอง ด้วย มันจึงเป็น อันดับ 1 คณะ วิศวกรรมศาสตร์ อันดับ 2 คณะเกษตรศาสตร์ อันดับ 3 คณะ พยาบาลศาสตร์ อันดับ 4 คณะ ศึกษาศาสตร์ สองอันดับสุดท้าย พ่อแม่เป็นคนเลือกให้เอง ยังจำได้ ว่า ขอร้องพ่อ จนวินาที สุด ท้ายว่าขอเลลือกตามใจฉันเถอะ ไม่ได้เหรอ ขอเท่าไหร่ท่านก็ไม่ยอม จนในที่สุด การประกาศผลเอ็น มันก็ออกมา น้องสอบติดค่ะติดในคณะที่เค้าอยากให้ได้ด้วย เพราะอย่างที่บอกตั้งแต่ต้นค่ะ คือเป็นนักเรียนทุนพยาบาล แล้วจบมามีงานทำเลย พ่อแม่ที่ไหน จะไม่อยากได้บ้าง...น้องก็เรียนตามใจค่ะ พยายามเรียน จน สุดท้าย การขึ้น วอร์ด ฝึกงานจริง นั่นหมายความว่า น้องได้เรียนพยาบาล มาแล้ว เป็นปีที่ 3 การขึ้นวอร์ดฝึกงาน มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเพราะที่เราเรียนมาทั้งหมดเรายังไม่เคย เจอของจริง และวันนั้น น้องรู้ทันที ว่า อาชีพพยาบาล ไม่เหมาะกับน้อง น้องไม่ได้ กระดะ เลยนะ แต่น้องทำไม่ได้จริงๆ น้องไม่เคยดูถูกอาชีพนี้เลย น้องชื่นชม อาชีพที่เค้าเสียสละเพื่อคนอื่นๆ แต่น้องยังไม่มีภาวะที่ทำได้ขนาดนั้น น้องจึงทำ การลาออกด้วยตัวเองทั้งๆที่อีกแค่ปีเดียวจะจบอยู่แล้ว นี้มั้งเหตุผลหนึ่งของคนที่ เรียนจนถึงปี 4 แล้ว ซิ่ว  มันตลกไหมละ มันสมเพชใช่ไหม ละ ก็ด่ากันเข้าไปนะ แต่รู้ไว้เถอะ ว่าที่มันซิ่วๆกัน มันไม่ได้อยากให้เป็นแบบนั้นทั้งหมด คงไม่มีใคร คิดแค่ว่าอยากจะเข้าไป แย่งที่คนอื่น ทำให้คนอื่นผิดหวัง แต่อย่างน้อย คุณน่าจะ รับฟังเค้าบ้าง ว่าเค้ามีเหตุผลอะไรเหตุการณ์ต่างๆมัน อาจจะบังคับก็ได้ เพราะ อีกอย่างหนึ่ง น้องเชื่อว่า คงไม่มีใคร อยากจบช้ากว่ากำหนด ไม่มีใครอยากไปงานรับปริญญารุ่นเราแต่มันไม่ใช่ของเรา คงไม่มีใครไม่อยากจะประสบความสำเร็จในชีวิต เพราะสิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นกับน้องจริงๆ!! แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 48 14:57:26 แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 48 14:48:15 แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 48 14:34:36 แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 48 14:27:44 แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 48 14:25:51 จากคุณ : เมืองแก้ว (แห้วหวาน) - [ 6 พ.ค. 48 13:13:41 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คนเรามีเหตุผลในการกระทำของตัวเองทุกคนแหละ.. ใครกันมันจะบ้าเรียนๆอยู่ดีๆจะออกไปหาที่ใหม่เรียน.. มันต้องมีเหตุผลอะไรมากกว่า แค่ความชอบหรือไม่ชอบอยู่แล้วอ่ะ.. ไม่มีใครอยากเสียเวลาปี 2ปี หรือ3-4ปีไปเฉยๆหรอกอ่ะ.. เพราะงั้นเลยไม่คิดจะว่าไรนะ.. -_-'' จากคุณ : แมลงสาบเทวีราชินีกะจั๊ว - [ 6 พ.ค. 48 13:53:45 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เป็นกำลังใจให้คับ ลัลล้า~* จากคุณ : * ค น พ เ น จ ร * - [ 6 พ.ค. 48 15:01:48 ]

ความคิดเห็นที่ 11 นะครับ จากคุณ : Mr.DogGie - [ 6 พ.ค. 48 15:19:46 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ซิล ไม่ได้เขียนแบบนี้เหรอ มาจาก ฟรอสซิล จากคุณ : Alucard - [ 6 พ.ค. 48 15:34:28 ]

ความคิดเห็นที่ 13 น้อง 2 คน ซิ่วทั้งคู่ แม่ของมันก็หาเงินให้เรียนงกๆๆ ถ้าเอ็นท์ติดแล้วไม่ชอบ ปีหน้าเอ็นท์ใหม่ได้สิ่งที่ชอบ ก็ควรซิ่ว คนเราต้องหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ชีวิตอยู่แล้ว เสียเวลา 1 ปี ดีกว่าต้องอยู่กับสิ่งที่ไม่ชอบไปตลอด ที่เอ็นท์ตอนแรกก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ แต่ครั้งต่อไปเอ็นท์ได้ในสิ่งที่ ใช่ มากกว่า(จริงๆเค้าใฝ่ฝันไว้ด้วยซ้ำ น้องพูดตั้งแต่เด็กๆว่าต้องเข้า ม.นี้ คณะนี้ให้ได้) เมื่อเค้าเจอตัวตนของเค้า ก็ควรให้เค้าเรียน (แต่คุณน้า --แม่เจ้าน้องทั้งสอง ขู่ฟอดๆไว้ว่า อย่าซิ่วอีกนะเฟ่ย แม่ไม่ได้พิมพ์แบงค์เอง ห้ามเรียนใช้เวลาเกินหลักสูตรด้วย ใครต้องจบ 4 ปีก็ต้อง4ปี ใคร 5 ปีก็ต้อง 5 ปี เกินกว่านี้หาเงินเรียนเอาเอง 5 5 5 5) จากคุณ : ลูกหมูยอ - [ 6 พ.ค. 48 15:50:55 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่ซิ่ว แต่เรียนมา 5 ปีแล้ว T T จากคุณ : Jumping Monkeyy - [ 6 พ.ค. 48 16:04:12 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ซิ่ว เหมือนกัน มันก็ไม่ใช่ว่าไม่ยอากจบอ่ะนะ แต่ที่เรียนอยู่มันไปไม่ไหว เรียนไปเกรดมันก็ไม่ดี  หรือเพราะผมแรก ๆยังไม่รู้เลยมั้งว่าตัวเองชอบอะไรด้านไหน ยังค้นหาตัวเองไม่เจอ ถึงตอนนี้เจอแล้ว แม้มันจะเสียเวลาไป แต่ก็จะพยายามทำอันใหม่ให้ดีที่สุด สัญญากะตัวเองว่าจะไม่ซิ่วอีกแล้ว T-T จากคุณ : -dEviL_Ki||e|2- - [ 6 พ.ค. 48 16:27:30 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เราก็ซิ่ว ก็เรียนตอนแรก(นึกว่า)มันใช่ แต่เรียนไปเรียนมา มันไม่ใช่ เรียนไม่ได้ ไม่ชอบ ไม่สนุก จะให้ทนเรียนไปอีก 3 ปี มันก็ไม่ไหวต่อจิตใจและร่างกาย ไม่คุ้ม ไม่มีความสุข ก็เลยออกไปเรียนที่ใหม่ ที่ที่หวังว่ามันจะชอบ จะสนุก แต่พอซิ่วมา แย่กว่าเดิมอีก - -" ซีดเลยทีนี้ ไปไหนไม่ได้และ แห้ววววววว เป็นกำลังใจให้คนที่เอนท์ไม่ติด เรียนที่ไหนก็ได้ ที่เราชอบและมีความสุข มันก็จะรุ่งเองอะแหละ จากคุณ : THE BEGINNING - [ 6 พ.ค. 48 16:41:40 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ปกติออก ++++++++++++++++++++++++ หากมีวาสนา สุดขอบฟ้าก็พานพบ หากไร้วาสนา แม้ไขว่คว้าก็คลาคลาด จากคุณ : Devil Cupid - [ 6 พ.ค. 48 16:50:39 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตอนอยู่ปี 2 โดนบังคับให้ซิ่ว ย้ายสถาบัน เพราะที่บ้านเห็นสถาบันที่เลือกไว้อันดับ 4 แล้วติด ปีต่อมาเลยให้ไปสอบใหม่ ไม่คัดค้าน ... แต่ไม่ไป รักสถาบันเดิม ซิ่วก็ม่ะเหงเปงไร  เรื่องธรรมดา เรียนสิ่งที่ไม่รักสิ ผิดธรรมดา เรียนในสถานที่ที่ไม่เหมาะกับตัวตนสิ  ผิดธรรมดา จากคุณ : ladydunce - [ 6 พ.ค. 48 17:09:00 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เราก็ซิ่ว ไม่ชอบก็เปลี่ยนมันเป็นเรื่องปกติอ่ะ พวกที่บอกว่าentไม่ติดแล้วมาด่าพวกที่ซิ่วดิแปลก ทำไมไม่ถามตัวเองก่อนว่า12ปีที่ผ่านมามัวไปทำไรอยู่ จากคุณ : สมาคมกินแห้ว - [ 6 พ.ค. 48 18:43:29 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คนเราควรมีสิทธิ์ที่จะเลือกครับ ไม่ชอบก็เปลี่ยน จะทนทุกข์เรียนไปทำไม ต่อให้จบมาแล้วไม่ได้ทำงานในสิ่งที่ตรงสายที่เรียน แต่อย่าลืมว่าองค์ความรู้ที่เรียนนั้นมันจะอยู่ติดตัวไปทั้งชีวิต ถ้าเลือกได้ให้มันเป็นองค์ความรู้ที่แลกมาด้วยความสุขดีกว่า เรื่องพ่อแม่ผู้ปกครองอยากให้จบไวก็เข้าใจ สังคมประเทศเรามีคติว่ารีบๆจบออกมาหาเงินหาทอง ทำไม เพราะรายได้โดยรวมมันไม่เป็นเหตุเป็นผลกับค่าครองชีพ ต่อไปคนรุ่นใหม่ๆในบางระดับชั้นจะยิ่งลำบากเพราะต้องเริ่มดำเนินชีวิตด้วยการแบ่งเบาภาระหนี้ที่ทบมาจากรุ่นก่อนหน้านี้ ดังนั้นรีบจบออกมาไวเท่าไหร่ยิ่งดี จะได้ลดวงจรการก่อหนี้ครับ จากคุณ : นายเบียร์ - [ 6 พ.ค. 48 21:11:53 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อ้าว น้องซิ่วไปไหนอ่ะพี่หนุ่ม จากคุณ : +*~ S O u LM a T e~*+ - [ 6 พ.ค. 48 21:15:25 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เอ่อ ผมคงกลับมาช้าไปหน่อย ถ้าผมจะบอกว่า มันควรมีทางอื่นมากกว่าการซิ่วล่ะครับ มันถูกมากๆเลยที่ใครก็ตามจะเลือกเรียนในสิ่งที่ตนเองชอบ แต่... ตอนที่เลือก เลือกสิ่งที่ไม่ชอบทำไมล่ะครับ อันนี้ก็ยังแยกได้อีก 2 กรณีคือ 1.เปลี่ยนใจที่หลัง หลังจากที่เรียนไปแล้วพบว่าไม่ชอบ ไม่ถูกกับตัวเอง อันนี้ ผมไม่ว่าอะไรครับ เข้าใจดี แต่มันก็น่าเสียดายอยู่ดีสำหรับที่นั่งที่เสียไป 2.ตอนเลือก ใช้วิธีเลือกโดยไม่ประเมินตัวเอง หรือว่าเลือกแบบตามค่านิยมในสถาบัน อันนี้เข้ากับน้องผมครับ คือเลือกแต่จุฬา กับธรรมศาสตร์ แต่ว่าคณะที่ตัวเองชอบอยู่อันดับแรก แล้วก็ไปติดอันดับอื่นที่ไม่ใช่สาขาที่ตัวเองชอบ แล้วก็เรียนฆ่าเวลาไปเพื่อเอ็นท์ใหม่ อันนี้ ผมว่าสมควรโดนเตะครับ เพราะแทนที่จะสละสิทธิ์คือไม่ไปสัมภาษณ์ เขาจะได้เรียกคนอื่นเข้าไป กลับเข้าไปเรียนเพื่อฆ่าเวลา มันเหมือนกับมองแต่มุมของตัวเองว่าที่ตรงนี้มันไม่มีค่า เลยทำไปงั้นๆ แต่หารู้ไม่ว่าถ้าตัวเองสละสิทธิ์ไปแล้วให้คนอื่นเข้ามาแทน มันก็เหมือนกับช่วยให้คนๆ นึง ได้รับโอกาสที่ดีขึ้น ทางการศึกษาเลยก็ได้ แบบนี้ผมว่าเข้าข่าย เห็นแก่ตัวโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ครับ .................. สำหรับทางอื่นที่นอกจากการซิ่ว ก็มี 1.เริ่มต้นตั้งแต่ตอนเลือก โดยเลือกตามคณะที่ตัวเองชอบจริงๆ ไม่ได้ขึ้นกับสถาบัน อันนี้บางคนก็คงบอกว่าไม่อยากจะเลือกไกลบ้าน หรือ ม.เอกชน แบบนี้ก็เลือกไม่ต้องครบ 4 อันดับก็ได้นี่ครับ เขาไม่ได้ยังคับ 2.ถ้าเลือกไปแล้ว สอบติดไปแล้วเกิดไม่ชอบ ก็ไม่ต้องไปสัมภาษณ์ ซึ่งทางม.ก็จะเรียกสำรองมาแทนเองครับ ผมก็คงขอออกความเห็นเพียงเท่านี้ ไม่ได้ตั้งใจว่าใคร เพราะก็รู้ว่าเป็นเรื่องปกติที่ใครก็ทำกัน เพียงแต่บังเอิญผมไปเอามันมาคิดมากแล้วคิดว่ามันน่าจะมีทางออกที่ดีกว่าเท่านั้นแหละครับ ปล.ขอเพิ่มเติมว่า เรียนแบบซิ่วนี่ ก็เหมือนเอาเงินภาษีมาผลาญด้วนะเนี่ย เพราะ ทุกคนที่เรียนม.รัฐได้ค่าหน่วยกิจถูกก็เพราะรัฐบาลสนับสนุนเงินส่วนนี้ด้วยนะครับ ฉะนั้นจบไปแล้วก็อย่าลืมคืนกลับให้สังคมด้วยล่ะ ง่ายๆก็อย่าคิดหลบภาษีก็พอ อิอิ จากคุณ : Redrum - [ 6 พ.ค. 48 22:17:29 ]

ความคิดเห็นที่ 23 กระทู้โหวต เรื่องเด็กซิ่วเนี่ยนะครับ.. เหตุผลร้อยแปดแท้ๆ เอ๊ะ หรือว่ามุก จากคุณ : สาดสุราลงคอ ดับพิษร้ายในดวงใจ - [ 6 พ.ค. 48 23:01:58 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ซิ่วก็ไม่เห็นเป็นไร เพราะเด็กซิ่วส่วนใหญ่ไม่ใช่เด็กเก่ง ถ้าไม่งั้นที่1 ของประเทศคงเป็นเด็กซิ่วทุกปี และที่1 ของประเทศ บ่งบอกได้ว่า คนที่จะเข้าไปเรียนต่อได้ เขาเก่งของเขาอยู่แล้ว อย่าเอาเด็กซิ่วมาเป็นข้ออ้างเลย โทษตัวเองดีกว่าว่าทำไมถึงเข้าไปเรียนไม่ได้ จากคุณ : panumas05 - [ 6 พ.ค. 48 23:06:27 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ไม่ได้มุกหรอกครับ ก็บอกแล้วว่าคิดมากไปเรื่อยอ่ะครับ อ่ะ panumas05 คุ้นๆ ว่าใช่เซียนจาก hardware หรือเปล่าเนี่ย อิอิ ผมงงกับเม้นคุณอ่ะครับ ผมอธิบายแบบนี้แล้วกัน ว่า น่าจะมีการทำสถิติของเด็กซิ่วว่าปีนึงมีเท่าไหร่ พี่คิดว่าเท่าไหร่ครับ ผมว่าราวๆ 5-10% ได้มังครับ แล้วขอถามความเห็นของคนที่เอ็นท์ไม่ติดว่าคิดยังไง โดยเฉพาะคนที่ขาดอีก 0.5-1% จะให้เขาโทษตัวเองเท่านั้นเหรอครับ โอเค... มันก็ดีถ้าทำให้เค้าขยันขึ้น แต่ จะดีกว่ามั้ย ถ้าไม่มีการซิ่ว เท่ากับว่าเป็นการขยายโอกาสทางการศึกษามากขึ้นได้อีก 5-10% (อุดมคติโดยคิดว่าไม่เกิดการซิ่วเลย) ไม่รู้สิ ผมว่ามันไม่ต่างกับไจแอ้นท์แย่งของเล่นโนบิตะ เพียงแต่มันเป็นกำลังทางสมอง ไม่ได้ใช้กำลังทางกายเท่านั้นเอง ปล.ผมไม่ได้ตั้งป้อมด่าพวกซิ่วทุกคนนะ ผมรู้ว่าหลายๆคนมีความจำเป็น เช่นการโดนบังคับ เพียงแต่ ที่ผมเคยเห็น เพื่อนบางคนของผม บางคนก็ซิ่วเพื่อไปเข้า ม.ชื่อดังในคณะเดิม(สุดท้ายมันเข้าไปแล้วก็ทำเลวจนเสียอนาคต) บางคนก็มองเป็นเรื่องเท่ไปก็มี ส่วนตัวเองก็ไม่เคยซิ่ว เพราะเลือกคณะเดียวกันตลอด แล้วเลือกใกล้บ้านมาก่อนด้วย(เพราะรู้ว่าตัวเองไม่ติดม.ชื่อดังชัวร์ เลยไม่รู้จะเลือกไปทำไม)แล้วคิดว่าจบที่ไหนก็เหมือนกันแหละ ทำงานเป็นก็พอแล้ว แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 48 01:14:21 จากคุณ : Redrum - [ 7 พ.ค. 48 00:53:18 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อย่าคิดมากเลยพี่หนุ่ม ให้น้องเค้าเรียนอย่างสบายใจจะดีกว่า ตามใจผู้เรียนเถอะ พ่อแม่ก็คงจะดีใจ ถ้าเห็นเค้าทำได้ดี มีความสุขในสิ่งที่เค้าเลือกนะ  .. จากคุณ : +*~ S O u LM a T e~*+ - [ 7 พ.ค. 48 01:25:15 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ผมก็เกือบซิ่วเหมือนกัน โชคดีรอดมาได้ จากคุณ : หอยโข่ง - [ 7 พ.ค. 48 03:06:08 A:203.113.32.9 X:203.151.140.112 TicketID:004620 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เข้ามาอ่าน ^_^ จากคุณ : ModUp2You - [ 8 พ.ค. 48 00:31:15 ]